|
ไอศกรีมโฮมเมด[1]..วานิลลา
หน้าร้อนเหมาะกับการกินไอศกรีมที่สุด โพสต์ไว้ที่นี้ มาทำ..ไอศกรีม..รับหน้าร้อนกันเถอะ..[1]
 ไม่ใช่เรื่องยากที่ทำไอศกรีมเองเลย เครื่องมือ ถ้ามีเครื่องมือทำขนมก็เอามาใช้ได้หมด ส่วนผสมก็ส่วนผสมคล้ายขนมอบแหละ แค่มีตู้เย็น พร้อมช่องfreeze..อันนี้สำคัญ หุหุ -ทำไอศกรีมกินเองไม่ค่อยเสียหาย จนต้องแอบทิ้งเหมือนทำเค้ก อย่างเลวร้ายสุดก็กลายเป็นหวานเย็น ไม่มีหน้ายุบ ตรูดเป็นไต ...555 -เริ่มทำแบบพื้นฐานเลย ไม่ต้องใช้เครื่องทำไอศกรีมช่วย( ice cream maker) . ใช้แค่มือและแขน เป็นการออกกำลัง สร้างกล้ามด้วย อิอิ
 -การทำไอศกรีม มีสองวิธีหลักๆคือ -แบบ.ใช้ไข่แดงทำเป็นคัสตาร์ดก่อน custard style -และแบบไม่ใช้ไข่แดง non-custard style การใช้ไข่แดงในการทำไอศกรีมเป็นวิธีการทำแบบเบื้องต้น ดั้งเดิม ซึ่งหลายๆสูตรก็เริ่มต้นแบบนี้ วันนี้จะทำ... ไอศกรีมวานิลลา แบบใช้คัสตาร์ด ส่วนผสมหลักคือ -ครีม.. whipping cream เป็นส่วนผสมที่ทำให้ไอศกรีมมีเนื้อนุ่มเนียน เป็มครีม -นม .. ควรจะเลือก นมสดแบบ whole milk มากกว่า low fat milk หรือนมพร่องมันเนย ถ้าต้องการให้ไอศกรีมเข้มข้น -ไข่...... ส่วนใหญ่จะใช้ไข่แดงมากกว่าไข่ทั้งใบ ไข่จะทำให้ไขมันและน้ำผสมกลมกลืนกันได้ดีขึ้น( เรียกว่าเป็นตัวemulsifier คือลดผิวสัมผัสระหว่างน้ำและไขมันนั่นเอง) ผลก็คือไอศกรีมจะเกิดความเข้มข้น เกิดรสสัมผัส ที่นุ่มลิ้นตอนไอศกรีมละลายยามกลืนกิน -น้ำตาล...ก็ให้ความหวาน ตรงไปตรงมาพร้อมกับเนื้อไอศกรีม -สารแต่งกลิ่นและรส...ในที่นี้ก็คือ vanilla
 มาดูว่าอะไรใช้เท่าไหร่ก่อนนะคะ นมสดจืด 2 ถ้วยตวง ไข่แดง 3 ฟอง น้ำตาลทราย 90 กรัม วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง วานิลลา 2 ชช. ไอศกรีมที่จะทำเป็นรสวานิลลา พอดีมีวานิลลาแบบฝักเลยถือโอกาสเอามาใช้ เพื่อนซื้อฝาก อยู่ในหลอดน่าใช้เชียว
 -กรีดฝักวานิลลา ตามยาว เอาปลายมีด รูดเม็ดวานิลลาออกมา เอาไปใส่ในนมที่ใส่หม้อเตรียมไว้ พี่ใส่ไปทั้งเม็ด ทั้งฝักเลย
 ขั้นตอนแรกต้องเอานมไปอุ่นก่อน (scalding milk) แค่พอขอบๆเริ่มมีฟองก็ยกลง พักไว้ให้เย็น การอุ่นนมจะช่วยลดการเกิดเกล็ดน้ำแข็ง ทำให้เนื้อไอศกรีมเนียน วานิลลาแบบนี้หอมมากเลย
 -ระหว่างที่รอให้นมเย็น เอาไข่แดงออกมาตี ไข่แดงในไอศกรีมทำให้ไขมันกับน้ำรวมตัวกันดีขึ้น ทำให้ไอศกรีมเข้มข้น มีรสสัมผัสละมุนลิ้น ยามมันละลาย
 ค่อยๆใส่น้ำตาลลงไป ตีจนขึ้นฟู
 -พอได้ที่ก็เทนมที่อุ่นไว้ ลงไป คนให้เข้ากัน
 ยกขึ้นตั้งไฟใช้แบบหม้อตุ๋น เหมือนตุ๋นช็อกโกเลต คนไว้ตลอดเวลา ใช้เวลานิดนะคะรวมประมาณ 15นาที
 ต้องให้อุณหภูมิได้ประมาณ 83 องศา C เพราะต้องการฆ่าเชื้อที่อาจจะติดมาในไข่ คือเชื้อ Salmonella ชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ปวดท้องและท้องเสีย แล้วอุณหภูมิก็ต้องไม่เกิน 83 เพราะไข่แดงจะเริ่มแข็งเป็น curd ความจริงเจ้าเชื้อนี้ประมาณ160องศาF.(71.11 องศาC)ก็ตายแล้ว แต่เผื่อๆความร้อนไปอีกนิดหน่อยให้ชัวร์ๆ
 พอดีมีเทอร์โมมิเตอร์เก่าของลูกสมัยเรียนชั้นประถม เอามาดัดแปลง ใช้ เอาตะเกียบที่ให้มาเวลาซื้อ MK ที่มีรอยบากอยู่ด้านบน มัดด้วยลวดเส้นเล็ก ให้ปลายเทอร์โมมิเตอร์อยู่สูงกว่าตะเกียบ เพื่อไม่ให้กระเปาะโดนก้นหม้อ เวลาแช่ไว้ในอาหาร แค่นี้ก็มีเทอร์มิเตอร์ที่ใช้วัดในการปรุงอาหารได้แล้ว
 -แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไรถ้าต้มคัสตาร์ดในขั้นตอนนี้ 15นาที จะได้อุณหภูมิ 82 กว่าๆแน่นอน ดูให้ส่วนผสมเป็นฟิล์มบางๆติดกับทัพพี ก็โอเคค่ะ
 จากนั้นก็ยกลง กรองผ่านตะแกรง กรองบางส่วนที่เป็นลิ่ม และฝักวานิลลาด้วย
 ขั้นตอนต่อไปก็เอาคัสตาร์ดนี้ไป "บ่ม" (age) วีธีก็คือทำให้เย็น โดยเอาไปใส่ตู้เย็น ถ้าได้ช่อง chillก็จะดีมาก จุดประสงค์ก็พื่อปรับอุณหภูมิให้พร้อมสำหรับขั้นตอน เย็นจนแข็งตัว(freezing) ต่อไป -เราจะไม่เอาส่วนผสมร้อนๆเข้าตู้เย็นทันที ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นไม่ทันใจ เอาชามผสมแช่ในอ่างน้ำแข็งก็ได้ พี่ใช้ไอซ์แพคที่เป็นเจลสองอัน ประคบชามไว้ให้มันเย็นเร็วขึ้น
 ออกไปช็อปปิ้ง รดน้ำต้นไม้ ทำโน่นนี่ บ่มคัสตาร์ดไว้สัก4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ลืมมันไปเลยก็ได้ค่ะ เค้าบอกว่าค้างคืนได้ยิ่งดี ลืมบอกไปเอาพลาสติก wrap ไว้ด้วยนะคะ ดังนั้นเราทำส่วนนี้ตอนเช้า เย็นกลับจากทำงานมาทำต่อก็ได้ ...... พอส่วนที่บ่มไว้จะได้ที่แล้วก็เอาชามมาอีกใบ ใส่วิปปิ้งครีมเย็นๆลงไป
 ตอนนี้ก็ได้ออกแรงอีกแล้ว ตีวิปปิ้งครีมตามแบบที่เคยทำขนม เอาชามใส่น้ำแข็งรองไว้ พี่ใช้ไอซ์แพคเหมือนเคย แต่แช่ชามและไม้ตีไว้ก่อนแล้ว ตีให้ฟูประมาณนี้ 7-8 นาทีก็ได้แล้ว
 เอาคัสตาร์ดที่บ่มได้ที่แล้ว เทผสมลงไป
 คนให้ผสมกัน จะเห็นว่าตอนนี้ส่วนผสมจะเป็นสีขาวขึ้นกว่าเดิม
 วิปปิ้งครีมเนี่ยจะทำให้ไอศกรีมเนื้อดูดี เนียน และมีปริมาตรมากขึ้น(texture ดีขึ้น) -จากนั้นเอาไปใส่ในช่องฟรีซ 1-2 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการขั้นทำให้แข็งต่อไป (freezing)
 ตอนนี้มาเริ่มขั้นตอนทำให้แข็งตัว การที่ไอศกรีมจะมีเนื้อที่นุ่มเนียน ส่วนผสมต้องไม่เป็นเกล็ดน้ำแข็ง(crystal) จะให้รสสัมผัสที่นุ่มลิ้น โดยที่เราต้องเอาส่วนผสมมาทำให้เกิดฟองอากาศเข้าไปแทรก พอสัก 1-2 ชั่วโมง เอาส่วนผสมออกมาจากช่องฟรีซ ใช้ส้อมตะกุยๆข่วนๆเพื่อให้เกิดฟองอากาศ
 ส่วนผสมตอนเอาออกมาข่วนช่วงแรกนี้ยังนุ่มนะคะ เพราะเพิ่งเข้าไปแช่แข็งไม่นาน ถ้าใช้ส้อมไม่ถนัด ก็ใช้ที่ตีไข่ก็ได้
 -จากนั้นก็เอากลับเข้าไปแช่แข็งใหม่ ทำซ้ำแบบนี้ 3-4 รอบ พี่ทำ 4 ครั้ง ช่วงเวลาแต่ละครั้งก็ ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง ครั้งหลังๆจะข่วนยากขึ้นหน่อย เพราะส่วนผสมจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ ครั้งสุดท้ายได้ประมาณนี้ ถ้าอยากใส่ส่วนผสมเพื่อให้เกิดรสอื่นๆก็ทำในขั้นตอนนี้ ต้องเป็นของแข็งนะคะ ไม่ใช่ของเหลว เช่นจะทำเป็นช็อกชิพไอศกรีม ก็หั่นช็อกโกเลตแท่ง จะเป็น dark หรือ milk ช็อกก็ได้ ลงไป ตอนนี้เราไม่ตะกุยหรือข่วนมันแล้วนะคะ เดี๋ยวของที่ใส่ไปจะแตก บิโอริโอใส่ลงไปก็ได้.. ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน เอาเข้าไปแช่แข็ง
 ตักส่วนผสมเปลี่ยนมาใส่ในกล่องที่มีฝาปิดแน่นๆ เอากลับไปแช่ช่องฟรีซ 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อไอศกรีมแข็งแน่นขึ้น(hard)
 ในที่สุดก็เสร็จแล้ว มีกล้ามเพิ่มขึ้นเล็กน้อย..อิอิ แต่ห่วงยางรอบพุงเพิ่มมากกว่า 5555 พร้อมเสิร์ฟ
 กินได้เลย เย็นนุ่ม

Create Date : 14 มีนาคม 2550 |
Last Update : 22 ตุลาคม 2553 20:27:13 น. |
|
10 comments
|
Counter : 23941 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: moopu (moopu ) วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:22:42:14 น. |
|
|
|
โดย: fairy_tells วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:8:14:54 น. |
|
|
|
โดย: angielicious (angielicious ) วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:16:43:28 น. |
|
|
|
โดย: x^o (jumpoon_t ) วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:13:55:49 น. |
|
|
|
โดย: uter วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:04:27 น. |
|
|
|
โดย: หิว หิว IP: 117.47.94.177 วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:21:32:46 น. |
|
|
|
โดย: add IP: 125.24.13.72 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:12:47:18 น. |
|
|
|
โดย: topten IP: 202.12.97.117 วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:13:08:41 น. |
|
|
|
โดย: เจเจ IP: 192.55.18.36 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:16:34:44 น. |
|
|
|
โดย: share IP: 124.122.163.115 วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:20:41:09 น. |
|
|
|
| |
|
|