|
~MY GREEN FRIEND~
เพื่อนรักของผมคนนี้ ยอมเสียสละร่างกายของเค้าให้ผม และไม่ใช่ครั้งเดียวด้วยนะ เสียให้บ่อยซะด้วยสิ ผมพบกับเค้าครั้งแรกที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ตอนนั้นผมยังเด็กมากอยู่เลย จำได้ว่าเค้าดูเหมือนไม่สบายอยู่ เพราะตัวของเค้าจะออกสีเขียวๆ ผมเองก็รู้สึกกลัวๆ กล้าๆ ที่จะทำความรู้จักกับเค้า ทุกวันนี้เค้าก็ยังดูตัวเขียวๆ แบบนั้นไม่เปลี่ยนแปลง จนผมเข้าใจแล้วล่ะว่านั่นคือธรรมชาติของเค้า
แต่ก็แปลกนะครับ มันเหมือนกับที่เค้าเรียกกันว่า "love at first sight" บอกไม่ถูกว่าทำไม แต่แค่เจอครั้งเดียว ผมก็ติดใจเค้าจนไม่อาจเปลี่ยนใจได้ ในหมู่คนที่ผมรู้จัก มีหลายคนมากที่ไม่ชอบเค้าเลย และเค้าเหล่านั้นก็มักจะถามผมว่าผมชอบเพื่อนคนนี้ได้ยังไง ไม่เห็นจะมีดีตรงไหนเลย แต่ก็มีอีกหลายคนที่ชอบเค้า และก็ยังมีอีกหลายคนที่ผมแนะนำให้รู้จักกับเค้าแล้วก็รู้สึกดีกับเค้าขึ้นมา ต่างคนต่างจิตต่างใจ ผมรู้ว่าผมคงไปบังคับความรู้สึกใครไม่ได้ แต่สำหรับผมแล้ว ผมรักเค้าเลยครับ รักจนกล้าพูดว่า ผมคงจะแย่แน่ๆ ถ้าชีวิตนี้ต้องขาดเค้าไป ...
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าผมจะไปเรียนที่ประเทศไหน เขาก็จะตามผมไปเสมอ ส่วนใหญ่เค้าจะชอบไปทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นสาขาต่างๆ และผมก็จะแวะไปหาเค้าอยู่เรื่อยๆ เมื่อมีเวลา ถ้าพูดกันตรงๆ ก็ต้องบอกว่า เพื่อนของผมคนนี้เค้าเป็นคนที่เรื่องมากพอสมควร แต่ไหนแต่ไรมา เค้าจำเป็นต้องอยู่ในที่เย็นๆ ตลอดเวลา อยู่ในที่ร้อนๆ ได้ไม่นานก็จะมีอาการอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรงลุกไม่ขึ้น เหมือนเป็นโรคประจำตัวของเค้าเลยก็ว่าได้ เค้าเป็นคนไม่พูดไม่จา แต่ทุกครั้งที่ผมมีปัญหา ทุกครั้งที่ผมเครียด เค้ารู้ดีว่าจะต้องทำยังไง ... เค้าจะยอมเป็นของผมโดยไม่มีอาการขัดขืนใดๆ ทั้งสิ้น เค้ามีวิธีที่จะทำให้ผมเย็นลง และผมก็จะรู้สึกเครียดน้อยลง บางทีผมถึงกับต้องเอาเค้ามาเก็บตัวอยู่ที่บ้านของผมเองในช่วงที่ผมเครียดมากๆ เวลาผมเอาเค้ามาอยู่ที่บ้าน เราก็จะได้เจอกันวันละหลายครั้งหน่อย แต่ถ้าผมไม่พาเค้ามาที่บ้าน บางทีผมก็ไม่ได้เจอเค้าเป็นอาทิตย์เลย แต่ทุกครั้งที่เจอเค้า ผมก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที เพราะเค้าทำให้ผมอารมณ์ดีได้เสมอเลยครับ แต่ถ้าจะบอกว่าเพื่อนคนนี้มีแต่ข้อดีก็คงเป็นการโกหก ผมต้องยอมรับครับว่า มีบางครั้งที่เค้าทำให้ผมแอบผิดหวังเล็กน้อยเหมือนกัน เพราะบางครั้งที่ผมไปเจอเค้าในสถานที่ต่างๆ กัน ผมก็เคยรู้สึกว่าเค้าเปลี่ยนไป บางทีเค้าออกแนวหวานเกินไป บางทีเค้าก็ออกแนวจืดเกินไป แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบที่สุดเกี่ยวกับตัวเค้าก็คือ พบกับเค้าทีไร เค้าจะต้องมาทำให้ผมอ้วนขึ้นทุกที! นอกจากนี้ เค้ายังเป็นคนหลายใจมากด้วยครับ ผมเคยเห็นเค้าอยู่กับคนโน้นคนนี้ หน้าไม่ซ้ำกันเลย ทั้งคนไทย คนญี่ปุ่น คนฝรั่ง ฯลฯ จริงๆ นะ แต่ถามว่าผมโกรธมั้ย ไม่เลยครับ ... ก็คนมันรักไปแล้วนี่ จะให้ทำยังไงได้
ทุกวันนี้ ผมต้องทำงานหนักมากจนแทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย แต่ก็มีพี่ๆ น้องๆ แฟนคลับหลายคนรู้ว่าผมรักเพื่อนคนนี้มาก เลยพาเค้ามาให้ผมเจอบ่อยๆ เกือบทุกครั้งที่ผมไปเล่นคอนเสิร์ตตามที่ต่างๆ เค้าจะนั่งรอผมอยู่เงียบๆ หลังเวที บอกตรงๆ ว่า จากวันแรกที่เจอกันจนถึงวันนี้ ความประทับใจที่ผมมีต่อเพื่อนคนนี้ยังไม่เคยลดน้อยลงเลย และผมไม่เคยเบื่อเค้าเลยด้วย ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยพบเห็นเพื่อนของผมคนนี้ผ่านสายตามาบ้าง เพราะเค้าค่อนข้างจะป๊อปปูล่าร์ในหมู่คนเอเชีย แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยเข้าไปทักเค้า แต่ถ้าอยากรู้จักกับเค้าจริงๆ คงจะต้องยอมเสียตังค์ให้เค้าหน่อยนะครับ เพราะเค้าไม่ค่อยยอมเป็นของใครฟรีๆ หรอก
คำแนะนำ: เมื่อได้เค้ามาแล้วลอง ชิม เค้าดูนะครับ แล้วคุณจะติดใจ
เพื่อนรักของผมคนนี้ คือ ไอติมชาเขียว ครับ ...ว่าแล้วก็ขอแวะไปหาเค้าก่อนนะครับ!
ณัฐ ศักดาทร
เมื่อวันที่ 2008-05-16 ********** เขียนไว้ที่นี่ //www.virginradiothailand.com/soft/event/soft_diary/view.php?id=77

วันนี้นำหนุ่มหล่อ หน้าใส นิสัยดี มาเข้าห้องครัวด้วย คือ..ติดตามและเชียร์พี่นัท ณัฐ ศักดาทรมาตลอดเลยค่ะ ตั้งแต่ตอนอยู่ในบ้าน AF รุ่น4 จนพี่นัท(เรียก พี่นัท ตามน้องๆในบ้านเอเอฟ) ได้เป็นthe winner ในที่สุด และเมื่อเร็วๆนี้ พี่นัทได้เขียนบทความนี้ที่เวบดังกล่าว

(ขอบคุณเจ้าของภาพพี่นัท ที่นำมาประกอบด้วยนะคะ)
****** อ่านแล้ว อยากมีเพื่อนตัวเขียวบ้างจัง เลยเป็นที่มาของ ไอศกรีมรสชาเขียว ที่ทำโดยได้แรงบันดาลใจจากบทความของ ณัฐ ศักดาทรคนนี้ ปกติถ้าดื่มชา ชอบชาจีนมากกว่าชาใดๆ โดยเฉพาะ ชาอู่หล่ง ชาเขียวดื่มได้แต่ไม่โปรด ไอศกรีมชาเขียวก็กินได้ ตั้งแต่ดูเออฟแล้ว เห็นพี่นัทและน้องๆกินแล้ว ก็บึ่งรถไปซื้อมาลองกิน ก็ไม่เลวนะคะ
แต่..คราวนี้ลองทำดูเองเลย ได้รสชาเขียวเข้ม และไม่หวานมากอย่างที่ชอบ เพราะถ้าซื้อแล้ว บางครั้งรสหวานไปนิดนึง

ส่วนผสม.. ไข่แดง 2 ฟอง น้ำตาล 80 กรัม นมสด 250 ซีซี. วิปปิ้งครีม 150 ซีซี. ผงชาเขียว 2 ชต. แป้งข้าวโพด 1 ชช.
ลงแต่รูปผงชาเขียวก็แล้วกัน เค้าแบ่งขาย 2 ขีดเป็นอย่างต่ำ สีเข้มดี..สมเป็นชาเขียว เรียกเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย 5555

วิธีทำ( ถ้ายัง งงๆกลับไปดูในบลอก รสวานิลลานะคะ)
ไม่ลงรูปขั้นตอน เพราะไม่ได้ถ่ายทำไว้ -เริ่มแรกก็เอานม ไปอุ่นก่อน (scalding) พักไว้ให้เย็น -ไข่แดง ใส่ชามผสม ตีไข่แดง สลับกับใส่น้ำตาลจนหมด น้ำตาล เนี่ยถ้าใครชอบหวานนิดก็ใส่ได้ ถึง 100 กรัม เพราะที่ทำ 80 กรัมนี่ให้คนที่บ้านกินคำแรก บอกจืดไปหน่อย แต่คนทำชอบ ไม่เลี่ยนดี -ใส่แป้ง ข้าวโพด ตีให้เข้ากัน -ใส่ผงชาเขียว ค่อยๆตะล่อมตีให้เข้ากัน อย่าใส่คราวละเยอะ ๆนะคะ อาจฟุ้งกระจายได้ -พอส่วนผสมได้ที่ ก็รินนมใส่ลงไป ทีละ หนึ่งส่วนสาม ค่อยๆคนให้เข้ากัน จนหมด ได้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียว สีสม่ำเสมอ -จากนั้นก็ เอาไปตุ๋น คนตลอด จนส่วนผสมเป็นฟิล์มบางๆติดทัพพี ประมาณ 10 นาที -พักไว้ให้เย็น จากนั้นก็เอาไปบ่ม ในช่อง chill..ใต้ช่องฟรีซ 4-6 ชม. -เอาออกมา เทวิปปิ้งเข้าไปผสม คนให้เข้ากัน -เข้าเครื่องปั่น ถ้าไม่มีก็ขูด ข่วน ตามที่อธิบายใน บลอกวานิลลา
หน้าตา เมื่อปั่นเสร็จ

สีเข้ม รสชาติ ชาก็เข้ม ไม่หวานมาก

อร่อยดี กินคนเดียว เพราะสมาชิกเด็กๆยังไม่คอยโปรดรสนี้..ชื่นใจ

Create Date : 07 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2551 14:08:20 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2241 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Pastel pied วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:18:28:01 น. |
|
|
|
โดย: narellan วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:19:09:26 น. |
|
|
|
โดย: wee_nong วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:9:02:01 น. |
|
|
|
| |
|
|
ขออนุญาติ Add Blog ด้วยนะคะ