|
รังที่ 7
รังไรลวงรัก รังที่ 7
รังที่ 7 รังไรรู้สึกเหมือนแขนขาช้าแปลก ๆ จึงขยับตัวเพราะจะเหยียดขาให้ตรงกลับเหมือนขาชนเข้ากับอะไรบางอย่าง เธอจึงลืมตาตื่นขึ้นมาและมองซ้ายขวา ลุกขึ้นนั่งชะโงกหน้ามองทะเลขาวด้านหน้า สายลมพัดแรงจนผมเผ้ากระเจิง พอหันไปทางด้านขวามือ
ไอ้บ้า คนแปลกหน้า ตื่นนะ แล้วนี่มันที่ไหนกัน เธอเขย่าตัวจุลจนสุดแรง
เฮ้ย ยายแม่มด เจ็บนะ หยุดได้แล้ว เขาจับข้อมือเธอไว้ทั้งสองข้าง
เฮ้ย ปล่อยนะจะทำอะไรฉัน สีหน้าเธอหวาดกลัวมาก เมื่อเขาเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ ๆ จนปลายจมูกของเขาจวนจะชนใบหน้าที่เอียงเพื่อหลบเลี่ยงเขา
คนไม่อาบน้ำ ไม่หอมแก้มให้เสียเวลาหรอก เขาปล่อยมือเธอลงและหัวเราะออกมา
รังไรได้แต่นั่งพิงตัวอยู่ข้างประตูรถ ตอนนี้เขาเปิดประทุนรถออกรับลมโชยอย่างเต็มที่มากกว่าเดิม
ดูซิ ผมกระเจิง สมกับเป็นแม่มดเลย หน้าตาก็มอมแมม ดูไม่ได้ แถมยังมีใครบางคนไม่รู้นอนร้องไห้กระซิก กระซิกทั้งคืน แถมยังดึงมือผมไปจับแนบแก้มไว้อีก เขาออกไปยืนบิดขี้เกียจนอกรถ
ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก แค่หลวมตัวมากับคุณชีวิตก็แย่พอตัวแล้ว ทำไมมีแต่เรื่องแย่ ๆ ไม่เข้าใจเลย ต้องเป็นเพราะนกบ้าตัวนั้นแน่ ๆ เธอนั่งคิ้วขมวดกอดอกไม่สบอารมณ์นัก
เขาเดินมาเท้าตัวกับขอบประตูรถ คุณแม่มดครับจะไปโทษนกตัวนั้นก็ไม่ถูก บอกแล้วไงบางทีมันก็เป็นตัวช่วยให้เราสองคนมาพบกันไง พรหมลิขิตน่ะ เคยได้ยินไหม
พรหมลิขิตใช้กับคนที่เป็นคนรักกัน แต่ฉันกับคุณไม่ใช่สักหน่อย
ลองไหมล่ะ เผื่อจะทำให้หัวใจเราสองคนแข็งแรงขึ้นนะ สายตาเขาส่งมาพร้อมกับคำพูด รังไรไม่ตอบคำถาม เธอแค่รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยไม่กล้าสบสายตาหวานซึ้งของเขาในตอนนี้ และอีกอย่างมันมีความสับสนที่กำลังแทรกซึมในหัวใจอยู่ทุกขณะ
กลับบ้านเถอะคุณจุล
ขอผมพักสักแป๊ปไม่ได้หรือไง แทนที่ผมจะเข้าไปหลับสบายในบ้านของผม แต่กลับต้องมานอนสละเลือดให้ยุงทะเลอยู่กับคุณ ธุระก็ไม่ใช่ เขายืนหาวหวอด
ขอบคุณนะ รังไรพูดออมเสียง เพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองที่เป็นคนนั่งหลับมากับเขาเอง
ว่าไงนะไม่ได้ยิน เขาแกล้งทำเป็นเอามือป้องหูและเอียงตัวมาถาม
ขอบคุณ ขอบคุณ เธอตะโกนใส่เขา
ออกมาจากรถเร็ว ไปเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เขาเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้เธอ
เธอลงจากรถพร้อมหอบผ้าห่มลงมาด้วย และเดินตามเขาเข้าบ้านริมทะเลอย่างว่าง่าย เขาปล่อยให้เธอใช้ห้องส่วนตัวอีกหนึ่งห้อง แต่เธอได้ยินเสียงเขาขับรถออกไปจากบ้าน พอเธอจัดการตัวเองเรียบร้อยก็ออกไปนั่งรอเขาอยู่หน้าบ้าน
อ้าวคุณผมไปซื้อเสื้อผ้ามาให้ คุณน่าจะใส่ได้นะ เขายื่นถุงให้กับเธอ
ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเลย
เปลี่ยนเถอะ เมื่อวานคุณโดนทั้งขี้นก โดนทั้งกาแฟหกใส่เสื้อ ผมก็เหมือนกัน เปลี่ยนเถอะจะได้สบายตัวนะ เขาเลยยัดถุงใส่มือเธอ
วันนี้รังไรรู้สึกไม่มีแรงต่อล้อต่อเถียงกับเขาเท่าไหร่นัก ก่อนเดินเข้าบ้านเธอขอยืมโทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อโทรศัพท์กลับบ้าน เสียงแม่ต่อว่ากลับมาเป็นกระบุงโกย แม่คงจะห่วงมากและบรรยากาศเงียบขนาดนี้ จุลได้ยินชัดบ้างไม่ชัดบ้างเขาเลยแอบยิ้มกับคำพูดที่แม่ต่อว่าเธอ
แม่คะ ใจเย็นน่า ก่อนเที่ยงถึงบ้านแน่ ๆ แม่ไม่ไว้ใจรังไรหรือไงคะ
ไว้ใจ แต่แม่เป็นห่วง
แค่นี้นะคะ เกรงใจเจ้าของโทรศัพท์ เธอวางสายไปและส่งคืนให้กับเขา
คุยต่อก็ได้นะ อ้าวแล้วจะโทรศัพท์บอกคนรักคุณไหม หรือว่ากลัว เขาแกล้งหยอกเธอ แล้วก็เดินนำเข้าบ้านไปก่อน
เมื่อไหร่จะเลิกเข้าใจผิดนะ เธอนั่งหน้ามุ่ยแล้วก็ตามเขาไป
ตกสายเขาขับรถพาเธอไปนั่งรับประทานอาหารเช้า ตอนที่เดินเล่นในตลาดมีคนหันมามองทั้งสองคนแล้วก็ยิ้ม จนตอนนี้รังไรเริ่มรู้สึกอายมากขึ้น
รีบเดินไปก่อนนะ รังไรหันมากระซิบกับเขา
แต่เขากลับดึงข้อมือเธอไว้ เอาน่ายายแม่มด ผมแค่เวลาแค่ช่วงเช้าของวันนี้ เราลองมาเป็นคนรักกันดูไหม ว่าจริง ๆ แล้วถ้าเราเจอใครสักคนที่ใช่ เราอยากทำอะไรกับเขาบ้าง เราอยากพูดคุยอะไรกับเขาบ้าง พอกลับกรุงเทพฯ ทุกอย่างก็จบ
เอางั้นเลย เพื่ออะไร รังไรถามเขา
จริง ๆ ผมพูดจริง ๆ เกิดมายังไม่เคยควงใครเลยสักคน อยากรู้ถ้ามีแฟนขึ้นมาจะทำอะไรเป็นไหมนะซิ เขาหัวเราะเขิน ๆ
รังไรเลยหน้าแดงขึ้นมาเฉย ๆ คือ คุณพูดแปลก ๆ นะ แล้วผู้หญิงที่คุณนัดเจอเมื่อวานก็เป็นคนรักคุณไม่ใช่เหรอ ไอ้ที่คุณทำเมื่อวาน การเอาใจใส่ใครสักคน หรือกับสิ่งที่คุณดูแลฉันตั้งแต่เมื่อคืน คงไม่ต่างอะไรมากนักหรอก ฉันคิดว่ามันน่าจะคล้าย ๆ กันนะ
พูดแบบนี้ไม่มีประสบการณ์เหมือนกันแหละ รู้หรอกน่า เอาไว้วันนี้เรามาเปิดใจกันไหมล่ะ จุลยิ้ม เขาเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้ เริ่มเป็นแฟนกันตอนนี้เลยนะ
คุณจุล เธอมองหน้าเขา แต่เหมือนเขาจะมีความสุขพิเศษจนดวงหน้า แววตาเขายิ้มตลอดเวลา วันนี้จุลและรังไรสวมเสื้อยืดเหมือนกันมีตัวการ์ตูนชายหญิงจูจู๊บ และเขียนว่าเรารักกัน คนทั้งตลาดต้องมองอยู่แล้ว จุลคอยเอาใจจูงมือไม่ห่าง เลือกซื้อของกินในตลาดที่มีมากมาย หยอกล้อเล่นกัน พูดคุยถึงเรื่องทั่ว ๆ ไป และซื้อดอกกุหลาบที่ห่อด้วยใบตองให้ อย่างนี้เหรอที่คนรักเขาปฎิบัติต่อกัน รังไรได้แต่แอบมองแววตาแห่งความจริงใจของเขา ทุกอย่างกำลังจะจบลง ตอนนี้เรากลับมานั่งในรถ เขาปิดประตูลงเรียบร้อยและยื่นหน้ามาใช้ปลายจมูกสัมผัสแก้มนวลของเธอเบา ๆ
ผมรักคุณนะ น้ำเสียงแสงอ่อนโยน
อืม รังไรได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก ตอนนี้มันร้อนผ่าวและเหมือนริมฝีปากมันเผยอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันมีตัวความสุขบางอย่างที่เหมือนจะระเบิดออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ ความรักที่ไม่ต้องร้องขอ มันมีความสุขแบบนี้นี่เอง
จะกลับกรุงเทพฯ แล้ว วันนี้มีนัดสัมภาษณ์งานตอนบ่าย
จริงหรือคะ ยินดีด้วยนะทำให้เต็มที่นะคะ รังไรยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ ตอนนี้ความสุขมันคงล้นปรี่ในหัวใจ จนเธอลืมไปแล้วว่านี่คือการแสดงบทบาทระหว่างกันเท่านั้นเอง
ยิ้มแบบนี้ค่อยเป็นนางฟ้าหน่อย เขาหันมายิ้มให้กับเธอ
คนแปลกหน้า เธอยิ้มเขินและเบี่ยงสายตาไปทางอื่น
หยิบน้ำเปล่าให้หน่อยซิ คอแห้งจัง เขาหันมาบอกกับเธอ
รังไรกุลีกุจรเอื้อมมือไปหยิบให้เขาและเปิดฝายื่นให้กับเขา เธอบริการเขาเต็มที่ ตอนนี้รังไรได้แต่นึกว่าถ้าคนขับรถเป็นปวินท์เธอคงอยากทำแบบนี้ และอยากจะนั่งมองหน้าเขาอยู่อย่างนี้ไปตลอดทาง
นี่จ้องอะไรรังไร
เปล่าค่ะ เธอกลับมานั่งนิ่งสงบเหมือนเดิม
เราสองคนมาเล่าเรื่องในหัวใจเพื่อแลกเปลี่ยนกันไหม เรื่องบางเรื่องที่เราบอกใครไม่ได้น่ะ จุลหันมายิ้ม
เช่นอะไร นิสัยเหรอ
ไม่อยากรู้หรอก นิสัยมันต้องศึกษากัน บอกมาก็สัมผัสไม่ได้ ผมแค่อยากรู้เรื่องของผู้ชายคนนั้นของคุณ แล้วผมจะเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นของผม จุลยิ้ม แววตาเขาจริงจัง เขาไม่ได้บอกว่ากำลังพูดเล่น หรืออยากรู้เรื่องส่วนตัวของใคร แต่น้ำเสียงเขากำลังแสดงความเป็นห่วงบางอย่างส่งผ่านมาให้เธอ
ตรงประเด็นดีนะ
เขาคือพี่ปวินท์ เป็น เพื่อนสนิทของพี่ชายฉันเอง
อ้อ ชอบคนอายุเยอะกว่า เขาตาเศร้า ๆ เสียงอ่อย
ผู้หญิงมักชอบคนอายุเยอะกว่า เพราะต้องการความอบอุ่น คนที่จะดูแลเราได้ ที่สำคัญจะได้อ้อนได้ด้วย เธอหัวเราะเสียงใสออกมา
เวลาพูดถึงเขา คุณไม่ต้องเล่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก็ได้นะ เขาค่อนขอดเธอ แต่ไม่ได้หันมองหน้าเธอเหมือนทุกคน ดูสีหน้าเขาเครียดเล็กน้อย
ตกลงอยากจะฟังหรือเปล่า รังไรถามเขา
เขาพยักหน้า แต่ไม่ยิ้ม ไม่สบตา
หึงเหรอ ที่รัก
อืม เขาตอบซีเรียสมาก
จริงจังไปแล้ว คนแปลกหน้า รังไรหัวเราะออกมา แต่เขาไม่ได้หันมายิ้มให้ คิ้วขมวดเล็กน้อย เธอเลยนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้เล่าเรื่องต่อ จนรถติดไฟแดง
เล่าต่อซิ นั่งเงียบทำไม เขาทำน้ำเสียงอารมณ์เสียใส่
ก็เห็นไม่พอใจ เธอกระเง้ากระงอด
เริ่มสักทีที่รัก เขาหัวเราะน้อย ๆ แต่ดูรู้ว่าฝืนสุด ๆ แล้ว
ฉันหลงรักพี่ปวินทร์ตั้งแต่รู้จักครั้งแรก ฉันอ่อนกว่าพี่เขาสี่ปี จริง ๆ แล้วฉันมีพี่ชายหนึ่งคนคือมี โสมนัส ไปไหนก็หอบหิ้วฉันไปด้วย เพราะพ่อกับแม่ทำงานเดินทางต่างประเทศบ่อยมาก ฉันต้องไปอยู่กับคุณอาและมีน้องชายอีกสองคนคือ ลูกตาล ต้นเตย ฉันเลยมีนิสัยคล้ายกับเด็กผู้ชาย ตอนพบพี่ปวินท์ครั้งแรก เขาบอกว่าเด็กผู้หญิงที่ดีควรจะต้องพูดจาหรือแต่งตัวยังไงบ้างแล้วจะดูน่ารัก เวลาไปเที่ยวพี่ปวินท์จะพาฉันไปซื้อเสื้อผ้าและสิ่งของต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้หญิงโดยที่พี่นัสกลับอายที่จะทำแบบนั้น เราสนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนที่ฉันอยู่มัธยมปีที่ 3 พี่ปวินท์ก็จบมัธยมปีที่ 6 พอดี พี่เขาไปเรียนต่อเมืองนอก วันนั้นฉันกับพี่นัสไปส่งพี่เขาด้วย ฉันรู้สึกไม่อยากจากพี่เขาไปเลย มันมีความกลัวหลาย ๆ อย่างในตอนนั้น วันนั้นฉันตัดสินใจจะบอกรักเขา
แล้วได้บอกไหม เขาถามด้วยความตื่นเต้น
รังไรพยักหน้าและยิ้มสวยออกมาอย่างไม่รู้ตัว
วันนั้นที่สนามบิน มันเป็นวินาทีสุดท้ายแล้ว ถ้าฉันไม่บอกออกไป ต้องเสียใจมาก ๆ เลย พี่ปวินท์เหมือนรู้คิว เขาพาฉันเดินแยกจากครอบครัวไปคุยกันสองคนที่ริมกระจกตรงเก้าอี้พักผู้โดยสาร บรรยากาศเสียงประกาศแสนวุ่นวาย เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำจนถึงขั้วหัวใจ ตอนนั้นสำหรับฉันทุกอย่างคือความเงียบสงบ และเหมือนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวของพี่ปวินท์ แววตาและน้ำเสียงแสนอ่อนโยนของเขา และมือที่กุมมือของฉันไว้แน่น ฉันจำได้ไม่เคยลืม ฉันบอกไปว่า รังไรชอบพี่ปวินท์ค่ะ รังไรยิ้มเหมือนเธอกำลังย้อนเวลากลับไปตอนนั้น
แล้วเขาตอบว่าไง
ตอนนี้รังไรดวงหน้าเจื่อนและก้มหน้าลง เหมือนสมัยเด็ก ๆ จนถึงตอนนี้ เวลาเธอเศร้าทำได้อย่างเดียวคือ การก้มหน้าให้มากที่สุด
เป็นอะไรไปรังไร เล่าต่อซิ เขาหันมาลูบศีรษะเธอ
พี่ปวินท์ไม่ตอบ เขายิ้มแล้วบอกว่า ขอบคุณนะ ระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ยาวนานราวเจ็ดปี ที่พี่ปวินท์อยู่ต่างประเทศยังไม่เคยละความพยายาม เราสองคนส่งต่อกำลังใจให้แก่กัน พี่ปวินท์บอกว่าให้รอเขา ฉันก็รอ เขาบอกว่าคิดถึงฉันตลอดเวลา มันก็รู้สึกอบอุ่นเสมอเมื่อได้ยินคำว่าคิดถึง แต่พอพี่เขากลับมาเมืองไทยตอนไหนฉันยังไม่รู้เลย รู้อีกทีพี่นัสก็มาบอกฉันทื่อ ๆ ว่า พี่ปวินท์จะแต่งงานแล้วนะ เธอนิ่งเงียบ
ทำไมจบเศร้าจัง ผมยังเห็นเขามาเกาะแกะคุณอยู่เลย เวลาเขามองคุณแทบจะกลืนกินคุณเข้าไปแล้ว เขาแกล้งพูดขำ ๆ แต่สาวข้าง ๆ ไม่ได้ขำด้วย
นั่นแหละคือปัญหา เขากลับมาเพื่อบอกรักฉัน และอยากให้เราสองคนกลับมาเริ่มต้นด้วยกัน แต่เดือนหน้าพี่เขาจะวิวาห์แล้ว ถ้าฉันตอบตกลงมันคงดีกับความรู้สึกของฉันที่รอคอยเขามานานหลายปี แต่คุณพลอยพิณไม่ได้รู้เห็นกับเรื่องนี้ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้มีปาฏิหาริ์ยงานแต่งล้มเลิกไปซะ ฉันกับพี่ปวินท์คงจะได้รักกันโดยที่ฉันไม่ต้องรู้สึกผิดอยู่อย่างนี้ รังไรถอนใจออกมา
ความคิดรุนแรงมาก คุณไม่คิดบ้างหรือว่า บางทีเขาอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่ของคุณก็เป็นได้ ทำใจซะเถอะ ถ้าคุณฝืนรักเขาต่อไปมีแต่เจ็บ แบบ หาจุดจบไม่เจอ ไม่อย่างนั้นคุณก็ต้องไปเป็นภรรยาน้อย ภรรยาเก็บของเขา เขาส่งเสียงห่วงใยกลับมาดูไม่ตรึงเครียดเหมือนตอนแรก
เรื่องที่ทำให้ฉันหลวมตัวมากับคุณก็เรื่องนี้แหละ เมื่อคืนความคิดรุนแรงแบบแม่มดอย่างฉัน มันฟุ้งซ่านไปหมดในหัวของฉัน คิดแต่หาวิธีจะกำจัดคุณพลอยพิณออกไป
แล้วตอนนี้ล่ะ
ไม่รู้ซิ รังไรดูเหนื่อยล้ามากทีเดียว จุลได้แต่มองภาพสาวน้อยที่นั่งมองออกไปนอกกระจก ทำไมตอนนี้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้นก็ไม่รู้ เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากของรังไร รู้แต่ว่าเธอยังไม่มีใคร แต่บาดแผลในหัวใจของเธอมันช่างเป็นแผลเรื้อรังเสียจริง จะมีทางไหนที่เขาจะช่วยเยียวยาเธอได้ก็ไม่รู้
นี่อย่ามัวมาฟังกันเพลิน ๆ ซิ เล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นของคุณมาเร็ว ๆ เลย รังไรแกล้งทวง
ไม่เล่าวันนี้หรอก นี่เข้ากรุงเทพฯ แล้วจะให้ส่งตรงไหนล่ะแม่มด เขาหันมายิ้ม
คุณไปแถวไหนฉันก็ลงตรงนั้นแหละ
ไม่เอา เอาส่งใกล้ ๆ บ้าน หรือจะให้ส่งที่บ้าน เขาจริงจัง
ถ้าไปส่งหน้าบ้าน แม่ได้ตีหัวฉันแน่เลย ว่าฉันไปค้างอ้างแรมกับผู้ชายน่ะ เธอหัวเราะเสียงใส
คุณจุลแล้วฉันจะรับรู้เรื่องของคุณเมื่อไหร่
เอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณมาซิ ผมจะได้โทรศัพท์ตาม เขายื่นมือให้เธอ
เธอตีมือเขากลับไป ไม่ให้หรอกไว้ฉันติดต่อคุณกลับไปเอง
ใจร้ายจริง ๆ ยายแม่มด เขาหัวเราะออกมา
คุณลงตรงนั้นปลอดภัยนะ เขาชี้ไปที่สถานีรถไฟฟ้า
เธอพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนเธอจะลง เขาโผล่ตัวเข้ามากอดเธอ ขอบคุณนะรังไร
ปล่อยเถอะค่ะ เธอผลักเขาออก แต่เขากลับยิ้มและหยิบกระเป๋าให้เธอ พร้อมกับลูบศีรษะของเธอเบา ๆ
รังไร คุณสัมผัสได้ใช่ไหมว่าการที่เราสองคนตกลงเป็นแฟนกันมันทำให้เรารู้สึกดีแค่ไหน เขายิ้มออกมา
รังไรพยักหน้าและยิ้ม
ตอนนี้เราเลิกกันนะ ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คุณจะติดต่อผมกลับมาอีก แต่ผมเชื่อว่าเราสองคนต้องได้พบกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของโลกใบนี้ ผมจะหาคุณจนเจอ เขาจับมือเธอไว้
ขอบคุณค่ะคุณจุล ชายแปลกหน้าของฉัน ไปนะคะ ขอให้โชคดีเรื่องงานนะคะ
เธอก้าวขาลงจากรถแล้วและต้องหันมาเคาะกระจกรถอีกครั้ง
คุณจุลคะ ตอนนี้เราสองคนเลิกกันแล้ว คราวหน้าถ้าพบกันอย่างมาลุ่มล่ามกับฉันอีกนะคะ ฉันไม่ชอบ เราสองคนไม่ใช่แฟนกันแล้ว เป็นไงคะ นอกจากจะรู้สึกถึงความรักแล้ว ตอนนี้คุณสัมผัสได้ถึงตอนอกหักด้วยหรือยัง เธอหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขและโบกมือลาเขา
จุลขับรถออกจากข้างทางพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ยิ้มอย่างมีความสุข แต่ตอนบอกเลิกกันนั้น มันก็แปลบ ๆ ที่หัวใจชอบกล
แสบนักนะยายแม่มดของผม
Create Date : 14 เมษายน 2555 |
Last Update : 14 เมษายน 2555 17:28:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 602 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
นลินโนเวล เป็นบล็อกที่รวบรวมผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย โดยมีนามปากกาว่า นลิน คือ รักหวาน - Sweet ฟุ้งรัก คือ รักสดใส - Pastel จุล คือ เรื่องสั้นและบทความ - A love aleart -Aom อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านผลงานของนลินแล้วรู้สึกว่ากำลังทำสปาอยู่เลยค่ะ เลยแยกผลงานไว้ให้เข้าใจและเลือกประเภทที่จะทำให้ทุกคนRelax ได้ตามอัธยาศัย และสักวันหนึ่งหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะได้พบกับผลงานของนลินตามแผงหนังสือนะคะ ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้นลินด้วยนะ ขอบคุณค่ะ
|
|
|
|
|
|
|