Group Blog
 
All blogs
 

มาทำความเข้าใจกับวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์กันง่ายๆ ด้วยภาพกันค่ะ

Subprime Mortgage Crisis หรือ วิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์ที่คนไทยคุ้นเคยกัน (แต่ฝนเข้าใจว่าฝรั่งนี่เค้าไม่ได้เข้าใจและเรียกวิกฤติการณ์นี้ว่าแฮมเบอร์เกอร์เหมือนคนไทยนะคะ) เป็นปัญหาทางด้านการเงินที่ทำให้หลายๆ ประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจกันถ้วนหน้าในขณะนี้ วันนี้มีคนส่งลิงค์ของ You Tube มาให้ดูแล้วชอบมากๆ เพราะเป็นการอธิบายถึงที่มาของวิกฤติในครั้งนี้ให้เข้าใจได้ง่ายแหละเห็นภาพได้ชัดเจนดีค่ะ เลยเอามาแชร์ไว้ในบล็อคเผื่อมีใครสนใจนะคะ


The Crisis of Credit Visualized - Part 1



https://www.youtube.com/watch?v=Q0zEXdDO5JU&NR=1


The Crisis of Credit Visualized - Part 2



https://www.youtube.com/watch?v=iYhDkZjKBEw&NR=1


Credit: Jonathan Jarvis, Crisisofcredit.com








 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2552 1:03:04 น.
Counter : 511 Pageviews.  

ความหมายของดอกไม้วันวาเลนไทน์

อีกสัปดาห์เดียวก็จะถึงวันแห่งรักแล้วนะคะ พอนึกถึงวันแห่งความรัก..สิ่งนึงที่จะต้องนึกถึงก็คือ "ดอกไม้" ใช่รึเปล่าคะ วันนี้ก็เลยเลือกที่จะเอาความหมายของดอกไม้วันวาเลนไทน์มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ เผื่อว่าคนไหนกำลังเลือกดอกไม้ให้กับคนที่ตัวเองรักจะได้เลือกดอกไม้ที่สื่อความหมายได้ตรงกับความรู้สึก หรือคนไหนที่ได้รับดอกไม้มาจะได้มาดูกันว่าดอกไม้ที่ได้รับมาเนี่ยมันซ่อนความหมายอะไรไว้น้า...




กุหลาบแดง (red rose) : ส่วนใหญ่จะใช้ในความหมายแทนประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ" การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความหมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน




กุหลาบขาว (white rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์ กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ใจไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้




กุหลาบชมพู (pink rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรักที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้




กุหลาบเหลือง (yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส กุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความสนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง




ดอกทิวลิบสีแดง (red tulib) ชาวตะวันตกใช้มันแทนการประกาศความรักอย่างเปิดเผย คล้าย ๆ กับดอกกุหลาบแดง




Credit ภาพจาก //farm3.static.flickr.com/2156/2277212732_edb50e38be.jpg?v=0

ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู(pink carnation) ใช้สื่อความหมายว่า "ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ"




Credit ภาพจาก //www.gordonanderson.ca/Chronicle/4/images/P7130891%20White%20Lilly%20.jpg

ดอกลิลลี่สีขาว (white lilly) แสดงความรักแบบบริสุทธ์ เช่นเดียวกันกับดอกกุหลาบขาว นอกจากนั้นลิลลี่สีขาวยังแสดงถึงความรักแบบอ่อนหวานจริงใจ และเทอดทูน และมักถูกใช้แทนประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้ได้รู้จัก และอยู่ใกล้คุณ "




Credit ภาพจาก //i21.photobucket.com/albums/b274/arthyy/comicparty/flora-forgetmenot.jpg

ดอก forget-me-not มีความหมายตรงตัวคือได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน




Credit ภาพจาก //ads.dailynews.co.th/news/images/2007/environment/11/29/147432_64216.jpg

ดอกทานตะวัน (sunflower) มีความหมายถึงความรักแบบคลั่งไคล้ ความรักแบบบูชา แต่สำหรับชาวตะวันตก ดอกทานตะวันจะหมายถึงความเข้มแข็งอดทน จึงสามารถใช้แทนความรักที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะได้ความรักมา



ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก Forward Mail ค่า ต้องขอโทษที่ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจนกว่านี้นะคะ




ขอมอบเพลงหวานๆ เพลงนี้ให้เพื่อนๆ ฟังแล้วกันนะคะ Say You Love Me ของ Julia Duncan ค่ะ















 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 23:39:53 น.
Counter : 6752 Pageviews.  

อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ

มาอีกแล้วกับ Fwd Mail ดีๆ ที่ได้อ่านแล้วประทับใจค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบทความอันนี้เขียนขึ้นตอนไหน แต่หลายวันก่อนได้มีโอกาสดูสัมภาษณ์น้าเน๊ก แล้วเค้าพูดถึงคุณพ่อที่เพิ่งเสียไปเมื่อประมาณปลายปีก่อน เล่าถึงเรื่องเพลงๆ นึงที่เหมือนเป็นความฝังใจของน้าเน๊กเพราะเค้ารับปากจะเล่นกีต้าร์เพลงนี้ให้คุณพ่อฟัง แต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้.. เพราะคุณพ่อมาจากไปเสียก่อน ฟังแล้วเศร้านะคะ แล้วก็ทำให้เราได้ข้อคิดมากๆ ด้วย ยิ่งได้มาอ่านบทความอันนี้.. ยิ่งช่วยตอกย้ำให้เราตระหนักว่าชีวิตคนเรามันสั้นกว่าที่คิดจริงๆ อ่านแล้วอาจมีแอบขำ..แต่มันก็ทำให้เราได้คิดอะไรอีกเยอะเลยล่ะค่ะ ขออนุญาตนำบทความของน้าเน๊กที่ได้รับจาก fwd mail มาลงไว้ด้วยนะคะ ต้องขออภัยด้วยที่ไม่ทราบแหล่งที่มาจริงๆ ค่ะ


"อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ" ข้อคิดดีๆ จากน้าเน๊ก เกตุเสพย์สวัสดิ์

คนเราอายุ เฉลี่ย 60 ปี
1 ปี เท่า กับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมี เวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม.........

ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า........แสดงว่า
เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง

คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา
แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน
เพราะมันไม่ต่าง อะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...


เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย
และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ
แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข

ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม

สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามันน้อยเกินไปจริง ๆ และ
ที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ ถึง 60 ปี

แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!

อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง
สาม พันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!!

คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกา ขึ้นมาดู
กางปฏิทินออกกว้าง ๆ
เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้

นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว
นี่ไม่ใช่ปรัช­างี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน


เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคน อายุ 17 ปี
แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน
และผ่านคืนวัน เสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น......
คำนวณ เองบ้างซิว้อยย.....

เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา ( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่
ผลลัพธ์ที่ได้... เราจะทำยังไงกับมันดี .....

แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ
นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวัน ๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า ' เงินเดือน '
บางคนทนเรียน อะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า
รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็น แค่ว่าเพื่อนเรียน
เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่า กูจะเป็นอะไรดี

บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความ รู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน

บางคนกินทิฐิ เป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า

และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา '
ชีวิตมันว่างจัด
ขนาดต้องฆ่าเวลากัน เลย
บอกตรง ๆ
เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะ มี
อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ
ลองคิดแบบนี้บ้าง


ใช่แล้ว

.... เราจะเกิดความ เสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ

ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอม ตาย
แต่ให้รีบทำ ทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ...

ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอ รับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว


ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามความฝันของเราไป สุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว
เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง
รักให้หมดใจ
บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ...

เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ) ตายแล้ว
ใช้เวลา (ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็น กอดครั้งสุดท้ายของเรานุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำ ได้
เพราะอย่างน้อย ๆ
เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล


คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่ง งาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษา แม่เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้ายก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ
ช่อดอกไม้กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะบอกว่า
อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ


อ้าว....
รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก
รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน .... เสียดายแย่



โดย น้าเน๊ก ......
เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา









Realize - Colbie Caillat Music Code
















 

Create Date : 15 สิงหาคม 2551    
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 23:41:09 น.
Counter : 603 Pageviews.  

ของฝากจากฝ้ายจัง Cottony ค่ะ

หวัดดีค่ะ วันนี้ฝนขออนุญาตเอาเรื่องราวดีๆ ที่ได้รับจากเพื่อนชาวห้องแป้งมาอัพบล็อคนะคะ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฝนได้มีโอกาสนัดเจอกับฝ้ายจัง Cottony สาวน้อยน่ารักจากห้องแป้งมาค่ะ เรื่องราวของฝ้ายกับฝนเริ่มมาจากการที่ได้พูดคุยผ่านทางบล็อคนี่แหละค่ะ จำได้ว่าแต่ก่อนฝนน่ะนึกว่าฝ้ายเป็นพี่ด้วยซ้ำ ก็เรียกว่า "พี่ฝ้าย" มาโดยตลอดเลยค่ะ จนเอาไปเอามาวันนึงถึงได้มารู้ว่าที่แท้ฝนเองต่างหากที่เป็นพี่ แต่เราก็ตกลงกันว่ามะต้องเรียกว่าพี่ดีกว่า ห่างกันแค่ปีเดียวเอง

และแล้วหลังจากที่ฝนได้อัพบล็อคก่อนหน้านี้ที่ฝนได้รับหนังสือดีๆ จากป้ากิโล เป็นหนังสือเกี่ยวกับความรักของคุณดังตฤณ แล้วฝนก็ได้เปรยๆ เอาไว้ว่าฝนกำลังเล็งๆ ว่าจะไปหาซื้อหนังสืออีกเล่มที่ป้ากี้ได้แนะนำเอาไว้ที่ชื่อ "รักแท้มีจริง" น่ะค่ะ ยังไม่ทันที่ฝนจะได้ไปสอยมาเลย ก็ได้คุยกับฝ้ายจังแล้วฝ้ายจังก็บอกฝนว่าไม่ต้องไปซื้อมานะ เพราะฝ้ายจัดการซื้อมาให้เรียบร้อยแล้ว ฟังแล้วใจละลายเลยค่ะ รู้สึกประทับใจฝ้ายมากๆ เพราะไม่คิดว่าฝ้ายจะให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ของฝนได้ขนาดนี้ และแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเราก็ได้เจอกันค่ะ

เรานัดกันที่เอ็มโพเรี่ยมเพราะสะดวกกันทั้งคู่ ตอนแรกว่าจะไปหาอาหารญี่ปุ่นอาหารโปรดของเราสองคนทานกันค่ะ แต่วันนั้นก็เปลี่ยนใจว่าไปทานสุกี้ฮ่องกงกันดีกว่า ฝนเองก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าเป็นยังไง ฝ้ายบอกว่าเป็นสุกี้ที่มีสองน้ำซุป ถึงได้พอจะนึกออก ร้านที่ไปทานอยู่ด้านนอกห้างไปนิดนึงค่ะ เสียดายที่ฝนดันจำชื่อไม่ได้ซะงั้น แต่อยากจะบอกว่าอร่อยถูกใจมากค่ะ ฝนแอบติดใจน้ำซุปแบบต้มยำของเค้ามั่กๆ เล่นเอาน้ำซุปแบบเห็ดหอมที่ฝนเลือกมาอีกอันโดนลืมไปเลย รับรองว่าคราวหน้าฝนต้องหาโอกาสมาอีกให้ได้ค่ะ เพราะอยากจะลองน้ำซุปแบบเย็นตาโฟบ้าง ร้านนี้คุณหมึกแดงเค้าการันตีความอร่อยค่ะ เสียดายที่ไม่ได้เอากล้องไปก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน ขอบคุณฝ้ายจังมั่กๆ เลยที่ทำให้ฝนได้ร้านอาหารในดวงใจมาอีกร้านเลยจ๊ะ

หลังจากเม้าท์ยาวในร้านสุกี้จนพนักงานแอบเหล่ว่าเมื่อไหร่จะยอมจ่ายตังค์ เราก็ย้ายทำเลไปนั่งเม้าท์กันต่อที่ร้าน Mango Tango บนเอ็มโพเรี่ยมกันค่ะ สั่งสารพัดเมนูมะม่วงมาทานกันจนหวานเชี้ยบเลย แล้วก็เม้าท์ยาวววววววววววววววววววววววจนเริ่มเกรงใจพนักงาน ถึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขอีกวันนึงเลยค่ะ เพราะฝ้ายจังเป็นคนที่น่ารักมากกกกกกกกกกกกก ฝนรู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรที่คล้ายกันเยอะมั่กๆ จนทำให้เรามีเรื่องมาคุยกันได้มากมายไปหมด ต้องขอบคุณฝ้ายมากๆ เลยสำหรับมิตรภาพดีๆ ที่มีให้กัน ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่มีให้ฝนนะฝ้าย ขอบคุณสำหรับของฝากทั้งหนังสือ "รักแท้มีจริง" และที่ห้อยมือถือนุ้งหมีสุดน่ารัก ที่ตอนนี้มาอยู่บนมือถือของฝนเรียบร้อยแล้วจ้า ดีใจมากๆ เลยที่เรามีโอกาสได้เจอกันนะจ๊ะ








Hope - Jack Johnson Music Code














 

Create Date : 13 สิงหาคม 2551    
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 23:42:00 น.
Counter : 508 Pageviews.  

AF The Musical 2008 ตอน โจโจ้ซัง




หวัดดีค่ะ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฝนได้มีโอกาสได้ไปดูละครเวที AF The Musical 2008 ตอน โจโจ้ซัง รอบพิเศษที่ทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาจัดมาค่ะ คราวนี้เป็นอภินันทนาการจากคุณเพื่อนเลิฟค่ะ เพราะคุณแฟนเค้าทำงานที่กรุงศรีฯ แต่เค้าไม่อยากดู ก็เลยได้สวมโอกาสควงเพื่อนเลิฟไปดูกันสองคนหนุกหนานเชียวค่ะ จะบอกว่าแอบลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นรอบที่ใครเล่น พอได้ตั๋วมาถึงได้รู้ว่าเป็นรอบตุ้ยกะลูกโป่งค่ะ ดีใจมากมายเพราะชอบตุ้ยมั่กๆ เหตุผลก็ไม่มีไรมากค่ะ ปีที่ตุ้ยแข่งเป็นปีที่ฝนกลับมาเมืองไทยช่วงนั้นพอดีไงคะ ก็เลยได้เชียร์ตุ้ยจนได้ตำแหน่งเลย

เอาล่ะ เพื่อนๆ ที่ไม่รู้จักว่าอะไรคือ AF The Musical 2008 ตอน โจโจ้ซัง ก็ขอสรุปคร่าวๆ แล้วกันนะคะว่าเป็นละครเวทีที่รวม AF รุ่นต่างๆ มารวมตัวกันร่วมกับนักแสดงอีกส่วนหนึ่งมาเล่นละครเพลงเรื่องนี้ค่ะ เค้าจะแบ่งกลุ่มคนแสดงเป็นสองชุด ตัวละครเอกชุดนึงคือตุ้ยกะลูกโป่ง ส่วนอีกชุดเป็นว่านกะมิ้นท์ ใครสนใจรายละเอียดก็คลิ๊กไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ //club.truelife.com/club/club_contentdetails.php?club_id=1463&contentfolder_id=310471&content_id=1821607

เรื่องราวโดยย่อขออนุญาตเอามาจากเวปของทรูที่ลิงค์ไว้ด้านบนเลยแล้วกันนะคะ บทละครโจโจ้ซัง ดัดแปลงมาจากอุปรากรญี่ปุ่นเรื่อง Madame Butterfly ประพันธ์โดยคีตกวีชื่อดังชาวอิตาเลียน Giocomo Puccini เรื่องราวจะย้อนไปสู่เมือง นางาซากิ ในปีค.ศ.1914 ที่ซึ่งความรักระหว่างโจโจ้ซัง เกอิชาที่งดงามจนได้รับขนานนามว่า ผีเสื้อแห่งนางาซากิกับนายทหารเรืออเมริกันยังคงประทับอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืม.....

เรื่องย่อ

โจโจ้ซัง เกอิชาสาวน้อยแห่งเมืองนางาซากิ เธอเป็นที่หมายปองของบุรุษมากมาย แม้แต่เจ้าชายยามาโดริก็ยังหลงรักเธอ แต่เธอเลือกทำตามสิ่งที่ใจปรารถนาด้วยการแต่งงานกับ พิงเคอร์ตัน นายทหารเรืออเมริกัน โดยไม่หวั่นคำประณามจากคนรอบข้าง ทั้งคู่อยู่กันอย่างมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อโจโจ้ซังตั้งครรภ์ พิงเคอร์ตันต้องเดินทางกลับ ไปอเมริกา

สามปีผ่านไป โจโจ้ซังรอคอยอย่างเศร้าสร้อย พิงเคอร์ตันก็กลับมาพร้อมภรรยาชาวอเมริกัน เรื่องราวของโจโจ้ซังจะดำเนินต่อไปอย่างไร ความรักและความซื่อสัตย์ ที่โจโจ้ซังเดิมพันด้วยหัวใจกำลังจะนำพาเธอไปสู่จุดท้ายสุดของชีวิต...






รูปด้านบนเป็นสูจิบัตรกับบัตรชมละครค่ะ สำหรับรอบที่ฝนไปดูนอกจากตัวแสดงหลักคือตุ้ยที่แสดงเป็นผู้การพิงเคอร์ตัน และลูกโป่งแสดงเป็นโจโจ้ซังแล้ว ยังมีซาร่าแสดงเป็น ซาซากิ เพื่อนสนิทของโจโจ้ซัง นัทแสดงเป็นเจ้าชายยามาโดริ พัดชาแสดงเป็นเคท ภรรยาใหม่ของผู้การพิงเคอร์ตัน ท็อป ดารณีนุช แสดงเป็น ฮิโตมิ มาม่าซัง แล้วก็อีกหลายคนเลยค่ะ

ฝนขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียดของการแสดงนะคะ เพราะเพิ่งเริ่มการแสดงวันเสาร์นี้เอง ฝนยอมรับว่าก่อนไปไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แต่พอดูจบแล้วต้องขอบอกว่าประทับใจกับการแสดงของทุกๆ คนเลยค่ะ โดยเฉพาะลูกโป่งต้องยอมรับว่าเสียงดีมากกกกกกกกและการแสดงก็ดีมากจริงๆ เราว่าเสียงของลูกโป่งสามารถตรึงคนดูให้อินไปกับความเป็นโจโจ้ซังได้เลยค่ะ โดยส่วนตัวจะชอบฉากเกือบหลังสุด ระหว่างลูกโป่งกับซ่าร่ามากที่สุดเลยเพราะมันบีบคั้นอารมณ์จริงๆ นะ เอ..จะถือว่าเป็นการสปอยรึเปล่าเนี่ย.. ถ้าใครไม่อยากทราบเรื่องก่อนก็อย่าอ่านช่วงนี้แล้วกันนะคะ คือฉากที่โจโจ้ซังตัดสินใจที่จะมอบลูกชายให้ไปอยู่กับผู้การและภรรยาใหม่ แล้วตัวเองก็เลือกที่จะจบชีวิตลงด้วยดาบ ไม่อยากจะบอกเลยว่าเล่นเอาฝนน้ำตาร่วงเลยล่ะค่ะ ลูกโป่งกะซ่าร่าเล่นส่งกันดีมากๆ น้องผู้ชายที่เล่นเป็นลูกของโจโจ้ซังก็ช่างน่ารักน่าชัง จนแทบจะเรียกได้ว่าเอาใจคนดูไปได้แทบทั้งโรงเลยล่ะค่ะ

สำหรับตัวละครอื่นๆ ที่ฝนชอบก็มีอิม อชิตะที่เล่นเป็นมิโยโกะ เกอิชาคู่อริของนางเอกที่เล่นได้ฮาได้ใจจริงๆ คือร้ายแบบฮาๆ ดีน่ะค่ะ อ๊อฟที่เล่นเป็นโกโร่ก็เล่นได้ดีนะ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่เชื่อมเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบได้ดีเลยล่ะค่ะ ต้าเล่นเป็นองครักษ์โช ผู้คอยดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าชายยามาโดริก็เล่นบทนี้ได้เท่ห์จริงๆ นะนั่น โดยเฉพาะฉากที่ต้องสู้ด้วยดาบกับตี๋ที่เล่นเป็นเรียวตะ นินจาที่มาลอบฆ่าเจ้าชายอ่ะค่ะ เท่กันทั้งคู่เลยล่ะ ส่วนพัดชาฝนว่าบทเค้าน้อยไปนิดนึงมังคะเลยทำให้เค้าได้โชว์เสียงเพราะๆ แค่ไม่กี่ฉากตอนหลังเอง แต่ฉากที่ต้องร้องรับส่งกับลูกโป่งนี่ยอมรับเลยค่ะว่าคุณภาพจริงๆ เลยล่ะ ส่วนตุ้ยนี่..อาจจะขัดๆ กะบทผู้การพิงเคอร์ตันที่เป็นนายทหารอเมริกันไปซักหน่อย แต่ตุ้ยร้องเพลงดีจริงๆ ค่ะ การแสดงก็ไม่เสียชื่อกับการผ่านงานแสดงมาหลายเรื่องของเค้า เพียงแต่อาจจะเทียบกับลูกโป่งที่บทจะเด่นมากกว่าไม่ได้จริงๆ น่ะค่ะ อีกอย่าง..แฮะๆ ไม่อยากจะบอกเลยว่าแอบเคืองเพราะอินที่ว่าทำไมไปแต่งงานใหม่เนี่ย สงสารโจโจ้ซังอ่ะ (ท่าทางจะยังอินไปหน่อย )

การแสดงแอบยาวกว่าที่คิดเพราะเริ่มน่าจะประมาณทุ่มกว่าๆ มีเบรค 15 นาทีตอนประมาณสามทุ่ม กว่าจะจบก็สี่ทุ่มกว่าแล้วอ่ะค่ะ บางช่วงก็เลยเล่นเอาแอบเบื่อและง่วงนอนเล็กน้อย ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนที่แสดงจริงที่ไม่ใช่รอบพิเศษจะเป็นแบบนี้รึเปล่านะคะ แต่ขอบอกว่าเค้าทำตอนจบได้หักมุมดีค่ะ แล้วตอนรวมนักแสดงทุกคนหลังละครจบต้องขอบอกว่าน้องที่เล่นเป็นลูกชายโจโจ้ซังแย่งซีนทุกคนไปหมดเลยล่ะค่ะ ก็เด็กอะไรก็ไม่รู้..น่ารักได้ขนาดนี้ คนดูจะไม่หลงรักได้ยังไงละคะ

ก่อนจบคงต้องขอสรุปว่า.. ฝนแอบเชียร์ให้ไปดูกันนะคะ โดยเฉพาะแฟนคลับ AF ไม่ควรพลาดเลยล่ะ เพราะว่าทุกคนดูตั้งใจกับการแสดงคราวนี้มากจริงๆ เลยค่ะ ใครได้มีโอกาสไปดูมาแล้วก็มาแชร์กันได้นะคะ อยากรู้เหมือนกันว่ารอบของมิ้นท์กับว่านจะเป็นยังไงน้า...




โจโจ้ซัง - Mint & LookPong















 

Create Date : 10 สิงหาคม 2551    
Last Update : 10 สิงหาคม 2551 1:10:30 น.
Counter : 1932 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

แมวจอมกวน
Location :
กรุงเทพฯ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อดีตคนไกลบ้านคนนึง ที่เริ่มจากหลวมตัวมาเรียนที่อเมริกา ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายในชีวิต ได้รับประสบการณ์และแง่คิดมากมายจากดินแดนแห่งนี้ ตอนนี้หาทางกลับบ้านเจอแล้วค่า.. ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิต (อีกครั้ง) ที่เมืองไทยซะที ที่มาของชื่อก็เพราะว่าเป็นคนที่รักแมว จึงเป็นที่มาของชื่อ "แมวจอมกวน" ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนค่ะ


Link Blog ล่าสุด

คนโสดและไม่โสดหงายมือขวามาดูเดี๋ยวนี้ (เส้นสมรส ฟันธง!!!!)
มาทำความเข้าใจระบบเศรษฐกิจจากควายกันดูมั๊ยคะ ^^
คนค้นคน: มิสป่าตอง... หญิงที่ผูกติดกับภาพในอดีต
Cherubin Chocolate Cafe ร้านเค้กสำหรับคนรักช็อกโกแลต (และน้องหมี)
สำหรับแฟนบาร์บี้.. ชวนมาสะสมแสตมป์ไทยชุดบาร์บี้กันค่ะ
ตามรอยห้องก้นครัวไปชิม King Kong Buffet ซอยหลังสวนค่ะ
Lenka สาวสวยเสียงน่ารัก..เพลงยิ่งน่ารักน่าฟัง
หน้าร้อนแบบนี้.. มาสครับผิวกันดีกว่าค่ะ: รีวิวสครับที่กำลังปลื้ม
แอบงอน Coffee Bean เลยได้มาลอง Sugaroma ร้านเค้กน่ารักและน่ากินค่ะ
มาทำความเข้าใจกับวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์กันง่ายๆ ด้วยภาพกันค่ะ
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 4)
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 3)
Ho Kitchen กับอาหารเย็นมื้อใหญ่
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 5 Luzern & ไปลุยหิมะบนยอดเขาTitlis
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 4 Lausanne, Vevey, and Montreux
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 3 Berne & Mont Blanc
บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลี เมนูที่ทำเองได้ไม่ยากเลยค่ะ
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 2 Zurich & Geneva
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นการเดินทางและการเตรียมตัว
ผลจากโปรโมชั่นของ drugstore ทำให้ได้ไรมามั่ง มาเปิดถุงพร้อมรีวิวกันเลยค่ะ
รีวิว Bath & Body Works กลิ่นใหม่ต้อนรับสปริงค่ะ
If we hold on together >> Piano by คุณ tutu_pianist เพลงพิเศษสำหรับพี่หญิง ตัวเล็กอ้วนค่า
รีวิวผ้าเช็ดเครื่องสำอาง Pond's Cleansing Towelettes
Joanna Wang >> An Asian Version of Norah Jones
แม่ครัวสมัครเล่นกะเค้ก Tres Leches --> เค้กสามนม
รีวิว Skinceuticals C+ E Ferulic & Gamma Hydroxy & Kanebo กระปุกแดง
บล็อคสีชมพูกะเทศกาลดอกเชอรี่บาน Cherry Blossom @ DC
Review ครีมหอมๆ กลิ่นใหม่ๆ จาก Victoria's Secret และ Bath and Body Works ค่ะ
เปิดตัว MMU ตัวที่สามกับ Lumiere
เปิดตัว MMU ตัวที่สองกับน้องเหมียว Meow Cosmetics ค่ะ
รีวิว Everyday Minerals

เปิดตัว Mineral makeup ชิ้นแรกของเรา กับ Everyday Minerals ค่ะ
ประสบการณ์กรีดสิวที่คลินิคหมอเสริม-เพ็ญจันทร์

Magic Liquid Powder & Magic Illuminating Potion by Prescriptives
Aspirin Mask ของดีราคาถูกที่น่าลอง

บลัชลุงชู P Amber 87 VS elf Sun Kissed ความเหมือนที่แตกต่าง
Review Eyeshadow ของ Nars ค่ะ

รีวิวสีบลัช NARS ตามสัญญาค่ะ


   
11 March 2008
Friends' blogs
[Add แมวจอมกวน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.