Group Blog
 
All blogs
 
อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ

มาอีกแล้วกับ Fwd Mail ดีๆ ที่ได้อ่านแล้วประทับใจค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบทความอันนี้เขียนขึ้นตอนไหน แต่หลายวันก่อนได้มีโอกาสดูสัมภาษณ์น้าเน๊ก แล้วเค้าพูดถึงคุณพ่อที่เพิ่งเสียไปเมื่อประมาณปลายปีก่อน เล่าถึงเรื่องเพลงๆ นึงที่เหมือนเป็นความฝังใจของน้าเน๊กเพราะเค้ารับปากจะเล่นกีต้าร์เพลงนี้ให้คุณพ่อฟัง แต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้.. เพราะคุณพ่อมาจากไปเสียก่อน ฟังแล้วเศร้านะคะ แล้วก็ทำให้เราได้ข้อคิดมากๆ ด้วย ยิ่งได้มาอ่านบทความอันนี้.. ยิ่งช่วยตอกย้ำให้เราตระหนักว่าชีวิตคนเรามันสั้นกว่าที่คิดจริงๆ อ่านแล้วอาจมีแอบขำ..แต่มันก็ทำให้เราได้คิดอะไรอีกเยอะเลยล่ะค่ะ ขออนุญาตนำบทความของน้าเน๊กที่ได้รับจาก fwd mail มาลงไว้ด้วยนะคะ ต้องขออภัยด้วยที่ไม่ทราบแหล่งที่มาจริงๆ ค่ะ


"อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ" ข้อคิดดีๆ จากน้าเน๊ก เกตุเสพย์สวัสดิ์

คนเราอายุ เฉลี่ย 60 ปี
1 ปี เท่า กับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมี เวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม.........

ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า........แสดงว่า
เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง

คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา
แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน
เพราะมันไม่ต่าง อะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...


เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย
และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ
แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข

ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม

สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามันน้อยเกินไปจริง ๆ และ
ที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ ถึง 60 ปี

แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!

อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง
สาม พันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!!

คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกา ขึ้นมาดู
กางปฏิทินออกกว้าง ๆ
เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้

นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว
นี่ไม่ใช่ปรัช­างี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน


เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคน อายุ 17 ปี
แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน
และผ่านคืนวัน เสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น......
คำนวณ เองบ้างซิว้อยย.....

เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา ( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่
ผลลัพธ์ที่ได้... เราจะทำยังไงกับมันดี .....

แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ
นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวัน ๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า ' เงินเดือน '
บางคนทนเรียน อะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า
รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็น แค่ว่าเพื่อนเรียน
เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่า กูจะเป็นอะไรดี

บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความ รู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน

บางคนกินทิฐิ เป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า

และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา '
ชีวิตมันว่างจัด
ขนาดต้องฆ่าเวลากัน เลย
บอกตรง ๆ
เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะ มี
อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ
ลองคิดแบบนี้บ้าง


ใช่แล้ว

.... เราจะเกิดความ เสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ

ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอม ตาย
แต่ให้รีบทำ ทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ...

ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอ รับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว


ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามความฝันของเราไป สุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว
เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง
รักให้หมดใจ
บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ...

เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ) ตายแล้ว
ใช้เวลา (ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็น กอดครั้งสุดท้ายของเรานุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำ ได้
เพราะอย่างน้อย ๆ
เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล


คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่ง งาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษา แม่เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้ายก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ
ช่อดอกไม้กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะบอกว่า
อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ


อ้าว....
รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก
รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน .... เสียดายแย่



โดย น้าเน๊ก ......
เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา









Realize - Colbie Caillat Music Code
















Create Date : 15 สิงหาคม 2551
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 23:41:09 น. 11 comments
Counter : 603 Pageviews.

 
อ่านแล้วชอบมากๆเหมือนกันค่ะพี่ฝน .. หนังสือน้าเน็ค กับพี่โน้ส อุดมนี่มักจะมีอีกมุมมองนึงให้เราได้คิดอยู่เสมอเลยนะคะ

ชอบน้าเน็คอ่ะ เหมือนแกจะเฮฮาไปวันๆ แต่จริงๆแล้วดูมีอะไรมากกว่าที่คิดค่ะ (นี่คือชมนะ 555+)


โดย: s.o.s วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:9:38:24 น.  

 
อืมนะ
ว่าแต่อยากฆ่าแฟนเก่าจริงๆ
ทำตอนนี้ยังทันป่ะ
อิอิ


โดย: หมอภัทร (patra_vet ) วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:10:52:55 น.  

 
ผมว่าอ่านแล้วไม่คิดอะไรก็ดูดีอะครับ
แต่คนเราแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ต่างจิตต่างใจ ต่างระดับกันก็เยอะ

ตอนเป็นเด็กเราจะมีความสุขกับทุกๆ วันที่เป็นอยู่ และมักนึกถึงอนาคตที่สวยงาม
พอโตเป็นผู้ใหญ่รู้สึกว่าในแต่ละวันมันต้องดิ้นรน เพื่อปากท้อง เพื่อคนรอบข้าง อนาคตข้างหน้ายังไม่รู้จะเป็นไง เอาแน่อะไรไม่ได้

ผมเชื่อว่าตอนนี้น้าเน็กอยากทำอะไรที่มีความสุข ที่ตัวเองต้องการ คงไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรคได้
แต่สำหรับคนในหลายๆ คน (อย่างผม) ที่ไม่มีโอกาสพร้อมสรรพไปหมดซะทุกอย่าง การจะมีชีวิตในเวลาอันสั้นๆ คงต้องรู้จักพอเพียงแล้วก็ปล่อยวาง ถึงจะมีความสุขล่ะครับ


โดย: ทายาทตระกูลหยี วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:11:28:36 น.  

 
อ่านแล้วเศร้าแต่เป็นมุมมองที่ดี ถ้าคนเราคิดได้อย่างนั้นคงจะไม่เสียเวลาทำอะไรงี่เง่าอย่างที่ทำอยู่ จะได้หยุดคิดว่าเวลาจริงมีน้อยรีบทำสิ่งที่อยากทำดีกว่ามั่วแต่ผลัดวันมันจะสายเกินไป

ปล. ฝนจังลองอ่านหนังสือยัง เค้าอ่านแล้วนะมันดีมากเลย แต่ไม่รู้เค้าจะทำได้เปล่า


โดย: Cottony วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:8:40:48 น.  

 
หืมมมมม พี่ฝน อ่านแล้ว ก้อ นะ แอบเศร้าไงไม่รู้

มีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่อยากทำ แต่เพราะ ความขี้เกียจ และอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ แรงบันดาลใจ มันมอดไปเรื่อยๆ โดยง่าย

มีหลายๆสิ่ง หลายๆความรู้สึกดีๆ อยากจะมอบให้คนอื่น แต่เพราะอะไรไม่รู้ ทำให้ ต้องเก็บไว้ เพียงเพราะกลัวว่าเค้า คงไม่ต้องการ ความกลัว ยิ่งใหญ่มาก สำหรับเล็ก

มีของขวัญหลายๆกล่อง ที่บรรจงเลือกสรร มาให้คนที่เราอยากจะให้
จัดแจงเลือกกระดาษห่อ ของขวัญ เลือกสีโบว์ ให้เข้ากับกระดาษ ในมือ ถือการ์ด ที่ข้างใน เต็มไปด้วย ข้อความ ในใจ ที่เราอยากบอกอะไรเค้ามาตลอด เพื่อหวังจะบอกให้เค้ารู้ ว่าเรารักเค้า หวังดีกับเขา ขนาดไหน



แต่สุดท้าย...........


"ก้อไม่ได้ให้"




โดย: LoveToBeLoved วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:0:00:29 น.  

 
น้องอ๊อบ -- พี่ไม่เคยอ่านหนังสือของน้าเน็กอ่ะ เลยไม่รู้ว่าเค้าเขียนแนวไหน แต่เท่าที่อ่านอันนี้พี่ก็ชอบนะ อ่านแล้วขำแต่ก็มีไรแฝงอยู่น่ะ

คุณหมอภัทร -- 555 เอางั้นเลยเหรอคะ หวังว่าตอนนี้คงหายแค้นลงบ้างแล้วนะคะ

คุณทายาทตระกูลหยี -- อ่านความเห็นแล้วชอบจังค่ะ เป็นอีกมุมมองนึงที่ฝนเองบางทีก็คิดเหมือนกันนะคะ เพราะอย่างฝนเองอยากเที่ยวอยากทำอะไรมากมาย แต่สุดท้ายก็จะติดที่ "ภาระ" ในชีวิตที่บางทีก็ยากที่จะทิ้งมันไป ฝนว่าคงต้องทำอะไรแบบสายกลางที่จะทำให้เราใช้ชีวิตไปได้แบบมีความสุขกับสิ่งที่เราอยากทำ ควบคู่ไปกับการรับผิดชอบกับชีวิตเราให้ดีที่สุดน่ะค่ะ

ฝ้ายจัง -- ฝนเพิ่งเริ่มอ่านไปได้ประมาณจบส่วนแรกเองล่ะ คงต้องขออ่านต่อไปอีกหน่อย แล้วไงคงได้ถกกันแน่ๆ เลยฝ้ายจัง


นุ้งเล็กกี้ -- ไม่แปลกเลยอ่ะที่ความขี้เกียจจะทำให้เราไม่ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง พี่เองนี่ก็กำลังเป็นอย่างหนักเลยอ่ะ แต่เรื่องที่ตะเองเขียนนี่อ่านแล้วก็เศร้านะ แต่พี่ว่าอย่างน้อยเค้าก็น่าจะได้รับรู้ความรู้สึกดีๆ ที่น้องเล็กมีให้กับเค้านะ แล้วอีกอย่าง..ถ้ายังมีโอกาสและความรู้สึกของตัวเองยังไม่เปลี่ยน ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะให้น้า...


โดย: แมวจอมกวน วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:23:19:24 น.  

 
อุแม่เจ้า 555 อ่านแล้วเหมือนโดนน้าเน๊กสวดใส่

บางคนกินทิฐิ เป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า

รุ้งเคยงอนกับเพื่อนนะ แบบไม่ง้อ ทิฐิสูง ไม่ได้คุยกับเธอ ก็ไม่เดือดร้อนอะไร นานๆไปก็รู้สึกว่ามันเป็น เรื่องเล็กน้อยเอง ลืมมันไปก็ได้ แต่ที่ทำไม่ได้ก็คือ เอาช่วงเวลาที่โกรธกันไม่พูดกันคืนมา เพราะมันผ่านไปแล้ว เสียดายเวลาจัง เฮ่ออ


โดย: :: Not Really :: วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:1:14:14 น.  

 
อ้าว เม้นท์ไปแล้ว แต่เค้าว่ามันติดคำไม่สุภาพ..

พี่ฝนรุ้งขอโตดดดดดด


โดย: :: Not Really :: วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:1:17:11 น.  

 
น้องรุ้ง สงสัยตรงส่วนที่โค้ดมาอ่ะ แต่พี่กู้มาให้แระ ไม่มีไรหรอกจ้า

อ่านแล้วพี่เองก็เป็นนะ แบบทิฐิสูงอ่ะ แต่ก็จริงอย่างที่น้องรุ้งบอกนะ บางทีพอมานั่งนึกๆ ก็เสียดายเวลาช่วงนั้นไปเหมือนกัน แถมยังทำให้ไม่มีความสุขอีกเนาะ


โดย: แมวจอมกวน วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:2:08:17 น.  

 
ขอบคุณนะจ๊ะ ที่นำบทความดีๆ มาฝากกัน ..
แต่ในความเป็นจริงนะจ๊ะ .. การพิจารณาความตาย
เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่พระพุทธองค์ทรงสอนให้ว่าอย่าประมาทความตาย ...
น้องฝนสบายดีนะจ๊ะ ..


โดย: ป้ากิโล (Geerorogunso ) วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:10:03:56 น.  

 
เขียนได้ดีจริงๆค่ะ แถมเพลงก็เพราะมากๆ ฟังแล้วน้ำตาคลอๆ


โดย: tuniez83 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:13:25:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวจอมกวน
Location :
กรุงเทพฯ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อดีตคนไกลบ้านคนนึง ที่เริ่มจากหลวมตัวมาเรียนที่อเมริกา ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายในชีวิต ได้รับประสบการณ์และแง่คิดมากมายจากดินแดนแห่งนี้ ตอนนี้หาทางกลับบ้านเจอแล้วค่า.. ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิต (อีกครั้ง) ที่เมืองไทยซะที ที่มาของชื่อก็เพราะว่าเป็นคนที่รักแมว จึงเป็นที่มาของชื่อ "แมวจอมกวน" ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนค่ะ


Link Blog ล่าสุด

คนโสดและไม่โสดหงายมือขวามาดูเดี๋ยวนี้ (เส้นสมรส ฟันธง!!!!)
มาทำความเข้าใจระบบเศรษฐกิจจากควายกันดูมั๊ยคะ ^^
คนค้นคน: มิสป่าตอง... หญิงที่ผูกติดกับภาพในอดีต
Cherubin Chocolate Cafe ร้านเค้กสำหรับคนรักช็อกโกแลต (และน้องหมี)
สำหรับแฟนบาร์บี้.. ชวนมาสะสมแสตมป์ไทยชุดบาร์บี้กันค่ะ
ตามรอยห้องก้นครัวไปชิม King Kong Buffet ซอยหลังสวนค่ะ
Lenka สาวสวยเสียงน่ารัก..เพลงยิ่งน่ารักน่าฟัง
หน้าร้อนแบบนี้.. มาสครับผิวกันดีกว่าค่ะ: รีวิวสครับที่กำลังปลื้ม
แอบงอน Coffee Bean เลยได้มาลอง Sugaroma ร้านเค้กน่ารักและน่ากินค่ะ
มาทำความเข้าใจกับวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์กันง่ายๆ ด้วยภาพกันค่ะ
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 4)
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 3)
Ho Kitchen กับอาหารเย็นมื้อใหญ่
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 5 Luzern & ไปลุยหิมะบนยอดเขาTitlis
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 4 Lausanne, Vevey, and Montreux
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 3 Berne & Mont Blanc
บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลี เมนูที่ทำเองได้ไม่ยากเลยค่ะ
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 2 Zurich & Geneva
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นการเดินทางและการเตรียมตัว
ผลจากโปรโมชั่นของ drugstore ทำให้ได้ไรมามั่ง มาเปิดถุงพร้อมรีวิวกันเลยค่ะ
รีวิว Bath & Body Works กลิ่นใหม่ต้อนรับสปริงค่ะ
If we hold on together >> Piano by คุณ tutu_pianist เพลงพิเศษสำหรับพี่หญิง ตัวเล็กอ้วนค่า
รีวิวผ้าเช็ดเครื่องสำอาง Pond's Cleansing Towelettes
Joanna Wang >> An Asian Version of Norah Jones
แม่ครัวสมัครเล่นกะเค้ก Tres Leches --> เค้กสามนม
รีวิว Skinceuticals C+ E Ferulic & Gamma Hydroxy & Kanebo กระปุกแดง
บล็อคสีชมพูกะเทศกาลดอกเชอรี่บาน Cherry Blossom @ DC
Review ครีมหอมๆ กลิ่นใหม่ๆ จาก Victoria's Secret และ Bath and Body Works ค่ะ
เปิดตัว MMU ตัวที่สามกับ Lumiere
เปิดตัว MMU ตัวที่สองกับน้องเหมียว Meow Cosmetics ค่ะ
รีวิว Everyday Minerals

เปิดตัว Mineral makeup ชิ้นแรกของเรา กับ Everyday Minerals ค่ะ
ประสบการณ์กรีดสิวที่คลินิคหมอเสริม-เพ็ญจันทร์

Magic Liquid Powder & Magic Illuminating Potion by Prescriptives
Aspirin Mask ของดีราคาถูกที่น่าลอง

บลัชลุงชู P Amber 87 VS elf Sun Kissed ความเหมือนที่แตกต่าง
Review Eyeshadow ของ Nars ค่ะ

รีวิวสีบลัช NARS ตามสัญญาค่ะ


   
11 March 2008
Friends' blogs
[Add แมวจอมกวน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.