เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน............................
เรื่องเล่าหน้าแรกๆ
ตาดู ( ภาพยนต์ )
SUNDAY morning
ย้ายบ้านแล้วน่ะครับ
สิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราทำ และ สิ่งที่มีความหมายจริงๆ
ระบบประกันสุขภาพ ทีเด็ดหาเสียง หรือ จุดจบสวัสดิการ
สะ-ระ-โสด
ปริญญา BY Mail
illness and disease
ร.พ.ช ...... ร.ด .
กรณ์ ผู้ชาย.... ผู้ไม่แพ้
Begin with the End in mind
ใครถูก "ตี" ยกมือขึ้น
ยาสีฟัน ที่ไม่มีใครแนะนำให้ใช้
ว่าด้วยเรื่องวันแห่งความรัก “ ดอกไม้ ตุ๊กตาหมี และ เสียงวี้ด วี้ววววว “
man on the moon
รอยยิ้ม แรงบันดาลใจ ที่ส่งมากับเหรียญที่มีสีทอง
จับได้ !!!!
1-2-3 darkside story
ทีลอซู ทีวีเพื่อคุณ
บทสนทนาใน 24 ชม ( secound edition )
นวัตกรรมเคลื่อนย้ายข้ามถิ่น
"ศิลปะ"
Wana Be (โตขึ้นฉันอยากเป็น ..... )
ภารกิจ ระห่ำ นอก หลักสูตร
"มุง"
" 3 B with playboy " --โขยกเขยก กับ สามบี วิท เพลย์บอย ---
ถ้าพ่อผมเป็นเจ้าของร้านโชว์ห่วย
ถึงเวลาที่เราต้อง "เลือก"
"หัก"
"กลุ่ม"
“ชัด”
สงสัยไม่สุด ว่าด้วยเรื่อง "king's college "
" ตัด "
" TAG " เป็น แทค
วอร์ดของผม กับไส้กรอกเยอรมันของเขา
บทสนทนาประกอบจังหวะการ พาย
สดับลมขับขาน แล้วเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง มูราคามิ
หากเปรียบความรัก เป็นดั่ง "มะเร็ง"
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ... สวัสดีครับ นราธิวาส
ผมไม่ชอบเสียง "กริ่ง" ในสามจังหวัดชายแดน
"นิโคลาส คอปโปล่า" ลูกไม้ ที่อยากหล่น ไกล ต้น
เมื่อเราได้เป็น "ตัวเอก" และ "ตัวประกอบ"
PINBALL, 1973 : Haruki murakami ในที่สุดผมก็อ่านจบ
------- "โดด" -------------
ถ้า "ล้ม" อย่าโทษ "พื้น"
Chindia - เมื่ออาบังกระโดดตบมืออาซิ้ม
เมื่อเราเป็นเด็กที่ชอบเปลี่ยนของเล่น
การผจญภัย ของ ผม หมา และ รพ.สัตว์
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตในสามจังหวัดภาคใต้
เมื่อถุงยางที่รักผมแตก
คุณลุงที่เมืองเว้
Chindia - เมื่ออาบังกระโดดตบมืออาซิ้ม
วันนี้ได้ดูรายการ"ชีพจรโลก" ของคุณสุทธิชัยหยุ่น ซึ่งอันที่จริงก่อนหน้ารายการนี้
ผมพึ่งดู " กลิ่นแก้วกลางใจ" จบ ขอบอกว่าเป็นละครที่ได้ใจมากๆๆๆๆ ( ไข้เลือดออกเลยระบาดเลย )
ผมชอบพี่สุทธิชัย หยุ่น มานานแล้ว รู้สึกว่าเป็นคนหัวโล้นที่เท่ห์ดี โตขึ้นถ้าหัวล้านก็อยากไว้ทรงอย่างนี้บ้าง เสียที่ผมหน้าตาจืดไปหน่อย พอไม่มีผมก็เหมือนเด็กวัดเส้าหลิน อย่างไรก็ตามผมก็ยังคิดอยู่ทุกวันว่า
ตอนแก่จะไว้ทรงอะไรดี
รายการวันนี้พูดถึงการรวมตัวของสองมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ จีน และ อินเดีย
ว่าถ้ารวมตัวกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น จีนถนัด Hardware ส่วนอิืนเดียถนัด Software ( มีซิลิคอนวัลเลย์ที่ บังการอ )
ตัวผมเองเมื่อนึกถึงชื่อทั้งสองประเทศนี้ จำได้ว่าตอนเด็กๆ
ผมรู้สึกว่าทั้งสองประเทศนั้น “กระจอก” กว่าเราทั้งสิ้น อินเดียดูสกปรก ส่วนจีนก็เป็นคอมมิวนิสต์
นึกถาพประชาชนทุกคนเป็นชาวนา แต่วันนี้เมืองเซี่ยงไห้กับนิวยอร์กก็เกือบเรียกได้ว่าพี่น้องกัน
แล้วทำไมไอ้การที่สองประเทศนี้เขาจะมาซี้กันคนทั้งโลกจึงต้องมาสนใจ
อาจเป็นเพราะ...... เป็นประเทศที่มีประชากรเป็นอันดับหนึ่ง กับ สอง ของโลก จีน 1,300 ล้าน- อินเดีย 1,000 ล้าน
เป็นประเทศที่มีอัตตราการขยายตัวทางเศรษกิจมากที่สุด จีน 10 % อินเดีย 8 %
( อเมริกาอย่างเก่ง 3 % )
มีข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น จุดเด่นของแต่ละประเทศ
จีน
- มีการพัฒนาระบบสารธนูปโภคพื้นฐานค่อนข้างดี ถนนหนทางมีการปรับปรุงกันชุดใหญ่และรวดเร็วส่วนของอินเดียนั้น ยังเป็นทางลูกลังอยู่ ทำให้ต้องเสียค่าขนส่งที่มากกว่า
- มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่เยอะกว่า
- ประชาชนอยู่ในภาคอุตสาหกรรมที่มากกว่า ต่างจากอินเดียทีคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาคชนบท
อินเดีย
- มีระบบการเมืองที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่า ใช้ระบบประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุด (เพราะมีคนมากที่สุด ) ส่วนจีนนั้นใช้พรรคคอมมิวนิสต์ พรรคเดียว
- ระบบการศึกษาที่ดีกว่า อีกทั้งคนอินเดียยังมีนิสัยกล้าถาม ชอบเรียนรู้ ทำให้มีหัวกระทิอยู่มาก
โดยเฉพาะด้านไอที ว่ากันว่ามีโปรแกรมเมอร์ระดับกะทิประมาณ 500,000 คน ส่วนของไทยเรา
ประมาณ 30,000 คน
- “ภาษา” แม้ว่าภาษาจีนจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันแต่ ภาษาอังกฤษก็ยังเป็นภาษากลางที่นิยม
ที่สุดอยู่ดี
- ประชากร เนื่องจากจีนมีนโยบายคุมกำเนิด ส่งเสริมการมีลูกน้อย แต่อินเดียยังปัมพ์กันสนั่นเมือง
ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรในวัยทำงานของอินเดียจะมีมากกว่า
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่ทั้งสองประเทศนี้มีเหมือนกันคือ ช่องว่างทางฐานะ มีการเหลื่อมล้ำทางสังคมอยู่สูงพอๆกัน
ในส่วนนี้อาจทำให้คนไทยร่วมแจมได้
พอดูรายการนี้จบปุ้บ ไอ้ภาพตอนเด็กที่คิดว่าเขา “ กระจอก” มันก็จุกอกพูดออกมาไม่ได้เสียแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งเสียว มองไปที่ใดใครๆก็แซงหน้าไปหมด เกาหลีใต้เมื่อก่อนที่เราเคยยิงประตูได้ และฉลองกันอย่างเมามันเดี๋ยวนี้พี่แกไปบอลโลกถึงไหนๆแล้ว
เวลานั่งคิดเรื่องนี้ทีไร ไม่อยากเลยที่จะดูถูกบ้านเรา รู้สึกว่าบ้านเราถูกดูถูกมาพอแล้ว แค่ในเรื่องของค่านิยม คำว่า
”ไทย” นั้นก็มีมูลค่าน้อยเหลือเกิน
ไม่รู้เหมือนกันว่าปัญหามันเริ่มมาจากไหน
เพื่อนผมเคยเล่าเรื่องที่ทำงานให้ฟังว่า ในที่ทำงานจะมีการอบรมเพิ่มทักษะ ซึ่งนักเรียนในห้องก็จะมีอยู่หลายชาติด้วยกัน ไทย แขก ฝรั่ง เพื่อนผมเล่าว่า ตอนเรียนนี่ฝรั่งนี่จะเป็นตัวถามเลย โวยวาย แสดงความคิดเห็นนู้นนี่ตลอด
ส่วนคนแขกจะชอบไปซักถามคำถามเน้นๆกับอาจารย์หลังเลิกเรียน
ผมก็ถาม “ แล้วคนไทยอย่างมึงละ ทำไรว่ะ “
เพื่อน “กูก็ค่อยไปลอกฝรั่ง หรือ แขก เอาตอนจบว่ะ “
ด้วยรักและเคารพ
:->m’26
ป.ล ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดอีกอันคือ อินเดียโวยว่าน่า จะเป็น ”Inna” มากว่า “Chindia”
Create Date : 17 กรกฎาคม 2550
Last Update : 17 กรกฎาคม 2550 13:19:26 น.
13 comments
Counter : 1028 Pageviews.
Share
Tweet
ยิ่งคิดยิ่งเสียว มองไปที่ใดใครๆก็แซงหน้าไปหมด เกาหลีใต้เมื่อก่อนที่เราเคยยิงประตูได้
ผมอ่านเเล้วนึกตามทันที เห็นว่าคุณหมอก็คงเสียวที่ยิงประตูได้นะคับ
เเต่ว่าไปยิงเมื่อไหร่คับ
โดย: CM_Guy IP: 61.7.146.73 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:16:11 น.
ผมว่าอีกไม่นานเราต้องวื่งตามเวียตนามต่อไปคับ ประเทศไทยคงเหนื่อยน่าดู...วิ่งตามเเต่ชาวบ้าน ไม่ได้วิ่งนำซะที ทั้งๆที่เรามีศักยภาพไม่ด้อยกว่าใคร เเต่ทำไมถึงเป็นยังงั้นล่ะ....
โดย: CM-Guy IP: 61.7.146.73 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:19:37 น.
ผมยังไม่เคยยิงประตูเกาหลีได้ ครับ
โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่แตะบอลตอนกลางวัน (
kanapo
) วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:22:44 น.
อืม... คนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ล่ะครับ ไม่กล้าพูดไม่กล้าถาม ส่วนใหญ่จะไปเก่งกันตอนลับหลังมากกว่า
ถ้าพี่เบิ้มสองชาติเขาจีบกันติดจริงๆ ล่ะก็ น่าจะเป็นประโยชน์เหมือนกัน จะได้คานอำนาจทางฝั่งตะวันตกไว้บ้าง
โดย:
คนทับแก้ว
วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:12:41 น.
ตารางชีวิตคุณคล้ายๆ ผมเลย
ดูละครเน่าแบบได้ใจไปก่อน
ค่อยๆ มาละเลียดวิถีโลกแบบร้อนๆ
เห็นด้วยทุกประการที่คุณคิดครับ
แต่อยากเพิ่มเติมอีกนิดนึงว่า
ตอนที่บอลไทยแข่งกับออสเตรเลีย
ผมชอบการเล่นของเขามากนะ
ทว่าหลังจากโดนยิงลูกที่สอง แล้วตามด้วยสามสี่
ผมเห็นการถอถอยของหัวใจนักกีฬา
เรื่องแบบนี้ มองกันดีๆ มันคงไม่ต่างจากการที่เราเริ่มถอดใจ เมื่อเห็นเวียดนามกำลังวิ่งแซงเราไปต่อหน้า
อยากให้กำลังใจคนไทย
อยากให้ฮึดสู้ต่อไปครับ
อ้อ เรื่องบางเรื่องไม่ต้องตามเขาก็ได้นะ
เพราะรู้ว่าตามอย่างไรก็ไม่ทัน
แต่อยากให้หันมามองรากเหง้าของเรา
แต่ยึดมันเป็นฐานที่มั่น
รากไม่แข็งแรง
ถึงต้นไม้จะโตได้
แต่ก็เสี่ยงที่จะล้มง่ายๆ มิใช่หรือ
โดย: แสง สีรุ้ง (
แสง สีรุ้ง
) วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:56:59 น.
คงต้องจับตาดูกันต่อไป
ว่าแต่ทำไมเจ้าของ blog ถึงเป็นเด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวันล่ะคะ
ไม่ค่อยเข้าใจนะเนี่ย อิอิ
โดย:
Im onair
วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:21:22 น.
อ่านแล้วแอบยิ้มค่ะ
นราธิวาสเป็นยังไงบ้างคะ
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
โดย:
แฟนEOD
วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:12:52 น.
ขำเพื่อนของคุณ kanapo จัง
ประโยคที่ว่า กูก็ค่อยไปลอกฝรั่ง หรือ แขก เอาตอนจบว่ะ
นี่ช่างสะท้อนความเป็นไทยจริงๆ ค่ะ
โดย:
gigAgain
วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:16:22 น.
ผมขอสนับสนุนการคุมกำเนิดครับ
โดย:
พลทหารไรอัน
วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:13:55 น.
"ผมพึ่งดู " กลิ่นแก้วกลางใจ" จบ ขอบอกว่าเป็นละครที่ได้ใจมากๆๆๆๆ "
โอ๊ะ ๆๆ พี่ดูละครด้วย
อ้อมเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังไม่ค่อยดูเลย
(เชยชิมัด)
อนาคตก็ไม่แน่นะคะ
สองประเทศนี้อาจจยิ่งใหญ่ขึ้นมาก็ได้
โดย:
verdancy
วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:42:37 น.
กลิ่นแก้วกลางใจนี่ ดูทีไรก็นึกว่าพระเอกตายังบอดอยู่ สามารถมั่ก เหมือนตาบอดตลอดเวลา
โดย:
อั๊งอังอา
วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:55:42 น.
ความรักทำให้คนเราตาบอดครับ
โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่แตะบอลตอนกลางวัน (
kanapo
) วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:06:11 น.
มี link รายการชีพจรโลก ที่กล่าวถึงมาให้ค่ะ น่าดูมากๆ ค่ะขอบอก
//hiptv.mcot.net/hipPlay.php?id=12263
โดย: ไอทีแก่ๆ IP: 61.7.150.143 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:14:25:41 น.
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
kanapo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน
@boydontkick
Johann sebastian Bach
พลทหารไรอัน
มิกิโกะ
คนทับแก้ว
แฟนEOD
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
merveillesxx
it ซียู
สาวไกด์ใจซื่อ
เป็นกำลังใจให้คุณ
pu_chiangdao
เข็มขัดสั้น
Paboo
verdancy
grappa
zardamon
แพนด้ามหาภัย
ahiruno007
Kurt Narris
mrs.postman
บลูยอชท์
skd_By_obf
pp_kool
ต่อตระกูล
พื้นที่สีเขียว
jake-Baggins
ยิปซีสีน้ำเงิน
cottonbook
doctorbird
A r t F u l l Y
tuengtueng
น้าหนวด_ชวดรัก
January Friend
P_Poy
coffeetalk
หมอหมู
คนขับช้า
นางสาวดุ่บดั่บ
Hernia
Flowery
foscarnet
หมอแมว
jonykeano
Mr.Chanpanakrit
spiralhead
wbj
jamon_nus
Mr.Messenger
steiny
hymn
Webmaster - BlogGang
[Add kanapo's blog to your web]
winbookclub
โอเพ่นออนไลน์
hotmail
thaiclinic
สำนักพิมพ์ไต้ฝุ่น
ปราย พันแสง
บันทึกไม่ประจำวัน ของเจ้าชายน้อย
บล็อคุณตุลย์
บล็อคคุณปราบดา
On each day
ชล บุนนาค
ปิ่น ปรเมศ
photobucket
i'm not sure
มานาประจำวัน
something's gotta note
บล็อคของพี่ Chakk
พี่แอนดรู บิกซ์
The Chris show
The never ending stories by Fonn24
อุดม แต้พานิช
นายหมูตุ้ย
ENDLESS STORIES
midniteheaven
aver blog
คุณหมูดี นักท่องโลก
Etat de droit
Church of JOY -- คริสตจักรแห่งความสุข
Bloggang.com
MY VIP Friend
ผมอ่านเเล้วนึกตามทันที เห็นว่าคุณหมอก็คงเสียวที่ยิงประตูได้นะคับ เเต่ว่าไปยิงเมื่อไหร่คับ