แตะบอลตอนไหน บอกด้วย จะได้ไปเชียร์


แวะมาทักทาย ฝากโหวตด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ

//mtu.ch7.com/contestant-profile.aspx?PostId=2440

เมื่อเช้าก็เพิ่งตรวจ GP เช้าไป กว่าจะเสร็จก็บ่ายพอดี
บางทีก็รู้สึกว่าคนไข้กินยาเหมือนเป็นขนมเลย
แถมยังขอเพิ่มอีกเรื่อยๆ
เคยอธิบายข้อดีข้อเสีย หลักการรักษาต่างๆนานา
ให้เวลามากกว่าคนอื่น แต่คนไข้ก็ยังต้องการยามากๆอยู่ดี
ใบสั่งยาบางทีแผ่นเดียวไม่พอ

พี่ว่า ถ้าคนไทยมีการส่งเสริมสุขภาพที่ดี
ป้องกันตัวเองก่อนจะป่วย และเลือกการรักษาที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาบ้า
คุณภาพชีวิตของคนไข้และคุณหมอน่าจะดีกว่านี้หลายเท่า ว่ามั้ย

*แก้คำผิด : การรักษาที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาบ้าง

โห ทำผมสะดุ้งเลย พี่จุ๋ม

55

สวัสดีครับ

ผมชอบคำนี้ครับ "ความโรแมนติกของชุมชน"

จุดที่ทำให้ผมตัดสินใจลาออกคือ ค่ำคืนหนึ่งที่ผมอยู่เวรอีอาร์แล้วมันโคตรยุ่ง ขณะที่กำลังดูคนไข้นอนพะงาบๆอยู่ ก็มีอีป้าคนนึงโผล่เข้ามาในโวยวายอีอาร์

"หมอ ยังไม่ได้ตรวจอีกหรอ เด็กมันหิวง่วงแล้วนะ "

ผมด่ากลับไป ( แต่จำไม่ได้แล้วว่าด่าว่ายังไง แต่"ด่า"แน่นอน ไม่ใช่แค่พูดเฉยๆ )

ในใจก็คิดว่า กรู....จะ....ลา.....ออก ..............ไม่อยู่แม่มแล้วเว้ยโรงบาลชุมชน

อย่างที่เพื่อนคุณหมอตั้มบอก

"ผมมีศักดิ์ศรี ผมไม่ใช่ของฟรี "

และเสริมอีกหน่อย

"และผมหยิ่งด้วย ผมไม่ง้อหรือสงสารใคร "

คุณสามีทำงานสถานีอนามัยด้วยความทุ่มเท
ชาวบ้านมีเบอร์โทรศัพท์เขาเกือบทุกคน
พอมีปัญหาเกี่ยวกับยาหรือสุขภาพก็โทรมาถาม
เขาก็จะอธิบายอย่างละเอียดด้วยความเต็มใจทุกครั้งไป
ชาวบ้านที่นี่ไม่ค่อยไปร.พ.เท่าไหร่เพราะเขารู้สึกเป็นกันเองกับหมออนามัยและได้รับการดูแลอย่างดี
มีมิตรจิตมิตรใจต่อกันเสมอ
นี่คือสิ่งที่ทำให้เราภูมิใจในตัวสามี
"ความโรแมนติคของชุมชน"จึงมีให้เห็นเสมอค่ะ

เป็นกำลังใจให้บุคลากรที่ทำงานด้านสุขภาพและสาธารณสุขทุกคนค่ะ
เพราะสุขภาพที่ดีของประชาชนนำมาซึ่งการพัฒนาที่ดีในด้านอื่นๆด้วยเช่นกัน

@ jonykeano - ผมเองก็หวังว่าในวันอันใกล้ ความโรแมนติกมันจะกลับมาน่ะครับ ผมรู้สึกได้จริงๆว่าถ้าเราช่วยกันอีกนิด
เขยิบกันคนละหน่อยมันน่าจะดีขึ้น ไม่รู้วันไหน แต่ผมยังหวังอยู่

@: mrs.postman ผมคิดว่า สถานีอนามัยและ พี่หมออนามัย
เป็นสุดยอดของนวัตกรรมที่เยี่ยมยอดของ ประเทศไทยเลยครับ ผมคิดเสมอเลยว่า บางทีความโรแมนติกที่ผมใฝ่หา ถ้าได้ไปอยู่ในอนามัยก็ดีน่ะ ดีไม่ดีถ้าโครงการหาเสียง รพสต ทำสำเร็จผมอาจได้กลับไปอยู่อีกครั้งก็เป็นได้ ^_^

ผมคิดว่า สถานีอนามัย คือกระดูกสันหลังของระบบสุขภาพประเทศเราครับ

"ใกล้บ้าน ใกล้ใจ " ผมชอบคำนี้ครับ

ด้วยรักและเคารพ

:->m'26

เอิ่ม...ไม่รู้จะคุยอะไรยังไงดี

เอาเป็นว่า..ขอให้"ขึ้น"ไวๆละกัน..ครับ

หวัดดีครับท่านผอ.

ผมก็หวังว่าความโรแมนติคแบบนั้นจะกลับมานะครับ
แต่จะให้เราพยายามฝ่ายเดียวมันก็ใช่ที่ ถ้าอีกหลายๆฝ่ายไม่ตระหนักและไม่ช่วยกันด้วย

ผมมาให้การบ้านผ่านบล็อกนะครับ ว่างๆช่วยรับไปทำหน่อย อิ อิ

สวัสดีค่ะหมอ
หนูอ่านแล้ว งง นะหมอ
ว่าหมอ จะหมายความว่าอย่างไร
.........................................................................
วันนึง หนูเป็นตาแดง
หนูอยากใช้สิทธิ เบิกค่ารักษาพยาบาล
กับโรงพยาบาลรัฐในอำเภอหนูที่หนูเกลียดมัน
หนูแค่อยากใช้สิทธิ ค่ารักษาพยาบาลของหนู
ที่รัฐหักค่ารักษาพยาบาล พ่อ แม่ หนูออก
หนูเป็นแค่ครูเอกชน ที่อายุยังน้อย ไม่ค่อยเป็นอะไร
เป็นครูมา 4 ปี หนูยังไม่เคยป่วย
เมื่อก่อน ที่จะท้องเจ้าภูมิ ตอนนั้น รัฐให้ค่ารักษาพยาบาล
พ่อแม่ ครูเอกชนด้วย แต่ตอนนั้น พ่อ กะแม่ ก็ยังแข็งแรงอยู่
ต่อมารัฐบาลมีโครงการ 30 บาท
รัฐบอกว่า ไม่มีเงินรักษาพยาบาล พ่อ แม่ ครูเอกชน
รัฐมี 30 บาทรักษาทุกโรคแล้ว
หนูเป็นครู มา 4 ปี ไม่เคยเบิกค่ารักษาพยาบาลเลย
พ่อหนูผ่าซีส ก็ไปผ่า โรงพยาบาลเอกชน พ่อเสียเงินเอง
ก็ลูกมันเงินเดือนน้อย โชคดีพ่อมีรายได้ มีเงินเก็บของพ่อ
......................................
หนูเป็นตาแดง หนูตัดสินใจระหว่าง คลีนิค กับ โรงพยาบาลของรัฐ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หนูไปถึงโรงบาล 7 โมง
กะว่า รีบไป ได้ตรวจเร็ว แปะตา ไปสอนต่อ
หนูรับบัตรคิว เพื่อ นั่งรอ หนูได้คิวที 99 แม่เจ้า 99
หนูเห็นคนคิวแรก ๆ จำไม่ได้ หนูนั่งคุยกะเค้า เค้าว่า เค้ามาเอาบัตรคิวให้ป้าตั้งกะตี 5 แล้วใกล้จะ 8 โมง ป้าค่อยมา ป้าอายุเยอะแล้ว มารออยู่โรงบาลไม่ไหว
คนแรก จะถูกเรียก สักประวัติ ตอน 8 โมง
หนูคิว ที่ 99 หนูตัดสินใจ นำคิวไปคืน แล้วเดินกลับ
หนูเริ่มรู้สึก ขยะแขยงโรงพยาบาลรัฐ
คนไข้มาแล้ว นางพยาบาลมาแล้ว ทำไม
ไม่เรียกสักประวัติคนไข้ไปเรื่อยๆ
ไม่ง้อก็ได้วะ กะสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล
ตอนหนูกำลังจะเดินออก
หนูหันหลังไปมองเลยคิว มีคนนำคิว 108 มาแทน แล้วหยิบ คิวที่ 99 ไป

แว็บนึง หนูรู้สึกว่า เค้าคงดีใจ
และหนูเอง ก็เกิดก็ดีใจ
หนูมีทางเลือก
หนูเลือกซื้อเวลา และความรวดเร็ว หนูจ่ายค่าเวลา และความสะดวกไป 308 บาท แถม ยาหยอดตา 1 ขวด และยาอีก 2 ซอง ที่ต้องกินให้หมด ใน 5 วัน และใบรับรองแพทย์ให้หนูหยุดงาน อีก 1 สัปดาห์ หนูไปโรงเรียน พร้อมยื่นใบรับรองแพทย์ให้โรงเรียน ซิสเตอร์ให้หนูหยุด หนูหยุดอยู่บ้าน 7 วัน สิ้นเดือนหนูได้เงินเดือนครบ
308 บาท ที่ตอนแรกเสียดาย เริ่มรุ้สึกคุ้ม

ที่หนู รู้สึกดีใจ เพราะอย่างน้อย เราก็ไม่ไปกันที่
คนที่เค้า ไม่มีทางเลือก เค้ายังคงต้องใช้สิทธิ 30 บาท
ที่หนูรู้สึกว่า เค้าไม่ได้รับการบริการ และการรักษาที่ดีพอ
หนูรู้สึกว่า หมอ ก็คงรักษา แค่ให้คุ้มกับ 30 บาท

ถ้าหลานของป้าคนนั้น มีทางเลือก หมอว่า เค้าจะรอใหม
ถ้า คิวที่เท่าไร ก็ได้ตรวจเร็ว หมอว่า คนที่ได้คิว 108 จะมาเปลี่ยนเป็น 99 ใหม

สำหรับคนไม่มีทางเลือก ไม่ว่า 30 บาท จะได้รับการรักษาแบบไหน หมอว่า เค้าก็ต้องเลือกใหม

หรือยังไง

หนูก็ไม่รู้จะเล่าให้หมอฟังทำไม แต่พิมพ์มาแล้วนี่เนอะ

หนูมีหลังไมค์นะคะหมอ

ตอนผมเขีียนบทความนี้ จริงๆก็ไม่ได้งงมากหรอกครับ
ผมเองเต็มใจเลือกมาทำงานโรงพยาบาลของรัฐเพราะคิดเองว่า
ถ้าหมอทุกคนไปทำเอกชนหมด แล้วคนไข้ที่เขาไม่มีเงินจะอยู่อย่างไร

ผมเห็นด้วยกับการที่รัฐมีนโยบายประกันสุขภาพทั่วหน้า
เพราะการเข้าถึงการรักษาเป้นปัจจัยสำคัญลำดับต้นๆของความจำเป็นชีวิตเรา

เพียงแต่ผมคิดว่าด้วยระบบที่ทำอยู่นะปัจจุบันนี้ มันออกแบบยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ จากแนวคิดที่ว่า

" ทุกคนจ่ายภาษี เพื่อเวลาเราเจ็บป่วย เราจะได้มีรัฐช่วยดูแลรักษา ไม่เหมือนอเมริกาที่เราสามารถล้มละลายได้จากปัญหาสุขภาพ "

แต่ปัจจุบัน มันถูกมองเหมือนของฟรีมากกว่า
"ใครเอาได้ก็มาเอา ชั้นได้สิทธิแล้วต้องใช้ให้คุ้ม
กลายเป็นบุฟเฟ่รุมกินโต๊ะมากกว่า แต่อาหารมีเตรียมเท่าเดิม"

ผมอ่านแล้วชอบเรื่องราวของคุณครูครับ มันจริงซะยิ่งกว่าจริง คนไข้ที่มารอคิวตอน 8 โมง ได้กลับบ้านตอนบ่าย 4
มันคือความจริงครับ ( ถ้าท่านเคยมาใช้บริการ )

แต่ผมขอแอบต่อเรื่องของคุณครูนิดนึงน่ะครับ

คุณหมอก็มาตอน 8 โมงเหมือนกัน
หมอถามพยาบาลว่ามีคนไข้เท่าไหร่แล้วครับ
พยาบาลบอกว่า 99 คนแล้วค่ะหมอ

หมอคิดในใจว่า อูย 99 คนมีหมอวันนี้แค่สองคนเอง
ไอ้หมออีกคนที่พึ่งมาอยู่มันก็ออกไปอยู่เอกชนซะแล้ว
ถ้าตรวจคนละ 50 คน มีเวลา 4 ชั่วโมงตอนเช้า
ก็ต้องตรวจให้ได้คนละ 5 นาที โดยไม่ลุกไปเข้าห้องน้ำ หรือห้ามหยุดตรวจเลย
หมอคิดในใจว่า แล้วจะได้กินข้าวเที่ยงไหมเนี่ย..............

บางทีหมอก็แอบคิดว่า ถ้าไปอยู่เอกชนจะดีกว่านี้ไหมน้า
เงินเดือนดีกว่า ตรวจคนไข้ได้นานกว่า คนไข้คงจะชอบเรามากกว่าก็ได้มั้ง ............

ผมคิดว่าประโยคที่
"หนูรู้สึกว่า หมอ ก็คงรักษา แค่ให้คุ้มกับ 30 บาท"
มันจี๊ดดีครับ

จริงๆแล้วความจริงคือ ตอนนี้รัฐไ้ด้ยกเลิก 30 บาทไปแล้ว
ในใจคนไข้อาจเปลี่ยนความคิดเป็น
"หมอ ก็คงรักษาได้เท่านั้นนิ ของฟรีนี่นา "

หมอเอกชน น่าจะเก่งกว่า หมอรัฐบาล
มีใครคิดแบบนี้บ้างครับ ( ไม่นับอาจารย์หมอน่ะครับ เพราะทุกท่านส่วนใหญ่ก็อยู่เอกชนอยู่แล้ว )

ผมว่าถ้าความคิดแบบนี้แทรกซึมไปได้เรื่อยๆเมื่อไหร่
วันนั้นผมว่า ระบบบัตรทองทำพิษเสียแล้วครับ


รู้สึกจะเล่าซะยาวเชียวววว

แต่ถึงอย่างไรผมคิดว่านี่คงเป้นจุดเริ่มต้นครับ
ทุกอย่างคงต้องใช้เวลาถึงจะเข้ารูปเข้ารอย ทุกครั้งที่ผมได้ไปร่วมประชุมกับทีมสุขภาพหลายๆทีม ผมก็รู้สึกว่าทางสาธารณสุขเรายังมีคนดีอีกหลายคนมากๆที่ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาในทางที่ดีขึ้น

อีกไม่นานครับอีกไม่นาน

เลือกผมเป็นนายกน่ะครับ

ด้วยรักและเคารพ

:->M'26

เข้าใจ ทั้งหมอ และ คนไข้ครับ

เพราะ ผม ต้องเจอหมอหลังคนไข้.......

555

เออ จริง ครับ ^_^

ผมอยากเลือกพี่หมอเป็นนายกจริงๆเลยอ่ะ นะ นะ นะ..




ปล. อากาศร้อนโคตรๆๆ อยากกรี๊ดมากๆ

สวัสดีปีใหม่ไทยครับคุณลุงหมอ

เอิ่ม..พี่หมอน่าจะสบายดีนะฮะ..หายต๋อมเลย - -''

ผีหลอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก



ไม่ใช่สิ..เวลคัมแบ๊ก คร้าบบบ...แต่กทม.ไม่ค่อยจะน่าอยู่เท่าไรนะตอนนี้..ว่านะ

อืม ,, โนคอมเมนต์เลยคะ
แต่ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอนักเขียนนะ ^^
สู้สู้!!
ลงเลือกตั้งเมื่อไหร จะแชร์เต็มที่เลย

ปล ได้ข่าวมาว่าพัทลุงแล้งจัด มีอีกหนึ่งปัญหาแล้วคะคุณว่าที่นายก ^^

เย้ย!! เชียร์ ไม่ใช่ แชร์ คะ (ไม่รู้ตอนเขียนนึกอะไรอยู่ สงสัยจะนึกถึงบอลโลก คุณหมอเชียร์ทีมไหนคะ ^^ )

ร้อนได้อีกนะพี่หมอ...เห้ออออ

คุณหมอ หายยยยยยยยยยยยยย


คิดว่าคงสบายดีนะครับพี่หมอ..ฮิฮิ

อ้อมก็เคยได้ยินคุณหมอหลายท่านบ่นเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ
ในฐานะคนๆ นึง ที่ไม่ได้ร่ำรวย และเห็นหลายคนที่ลำบากกว่าอ้อม
คนจนๆ หลายคนไม่กล้าไปหาหมอ(เมื่อก่อน)
เพราะกลัวค่ารักษา ถ้าการจ่ายค่ายาต้องเป็นภาระเค้ายอมอด ยอมทนเพื่อคนอื่นได้
พอมีค่ารักษาฟรี ก็ทำให้เค้ากล้าที่จะมาหาหมอกันมากขึ้น

แต่ในทางกลับกัน รพ. และทางรัฐต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากขึ้น

เฮ้อ..ปัญหาระดับชาติ

พี่ตั้มครับ ยังอยู่พัทลุงรึเปล่า
อยากไปฝึกงานแถวใต้ครับพี่ แฮะๆ ว่าแต่พี่อยู่โรงพยาบาลอะไรครับ

ปีฟ่าๆ แล้วค่ะพี่หมอตั๋ม

โอ้ ปีกว่าๆแล้วไม่น่าเชื่อ

ตอนนี้ไปแอบเป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือ volume ครับ
ชื่อ Bangkok express

ไม่ได้อยู่พัทลุงแล้วครับ กลับมาเรียนต่อ ที่ กทม ครับ
ภาคใต้ม่วนทุกจังหวัดครับ

ผมว่าเรามีสิทธิ์เลือกนะครับว่าจะทำงานชุมชนแบบไหน ตอนนี้ผมอยู่ รพช.10 เตียงนะ ตั้งใจเลือกมาเพราะคิดว่าคนไข้ไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนไข้ชนบท ได้เวลาตรวจนานขึ้น ได้คุยกับคนไข้เยอะขึ้น แต่มันก็ไม่มีอะไร 100% เหมือนที่เราต้องการ บางทีก็ต้องปรับกันไป

แต่ลึกๆ ผมว่าคนไข้ยังต้องการหมอนะ แต่หมออาจจะต้องมีภูมิคุ้มกันหลายๆ อย่างที่มากขึ้นกว่าสมัยก่อนครับ

Knock Knock, Is anybody here??