นาน นาน ที บล๊อก - ยินดีที่ผ่านมาพบนะ ปล.ช่วงนี้ หนี้เยอะ งดเที่ยว พักหนังสือ มารับจ้างทำงานก่อนนนนน
space
space
space
space

TheMaster&Margaritaต้นฉบับไม่มีวันมอดไหม้(มิคาอิลบูลกาคอฟ):ประชาชนมอสโก,ซาตาน,ไพเลตผู้สั่งตรึงกางเขน

แปลโดย นพดล เวชสวัสดิ์,พิมพ์ครั้งแรกโดย สำนักพิมพ์ เอิร์นเนส พับลิชิ่ง,จำหน่ายโดย อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด

มากมายไปด้วยเรื่องราวของสังคมนิยมที่มอสโก วงการวรรณกรรมที่รุ่งเรื่องและขมขื่น
ซาตานเลวร้ายที่มาลงโทษผู้คนต่ำช้าและผิดบาป ลูกสมุนซาตานที่น่ารัก สุภาพ และโหดร้าย
มากมายไปด้วยเรื่องลึกลับจากอดีต ศาสนา และพระเยซู ความสำนึกในบาปจากชนชั้นปกครอง
และมากมายไปด้วยความรัก และความมุ่งมั่น กล้าหาญที่เกิดขึ้นจากความรัก
ทั้งหมดนี้...(และอีกมากมาย)..ที่ทำให้
“ต้นฉบับไม่มีวันมอดไหม้”...
และล่อแหลมต่อความพยายามจากบางกลุ่มคนในการถูกทำมอดไหม้


บางส่วนจากสำนักพิมพ์
มาสเตอร์กับมาร์การิตา เป็นวรรณกรรมต้องห้ามของรัสเซีย ถูกนักวิจารณ์วรรณกรรมถล่มเละในข้อหาหยามหมิ่นและวิพากษ์วิจารณ์รัฐ
มาสเตอร์กับมาร์การิตา
ถูกเขียนขึ้นมาถึงสามครั้งสามครา หลังจากต้นฉบับถูกเผามอดไหม้ไปในกองไฟ


บางส่วนจากคำนำผู้แปล
มิคาอิล บูลกาคอฟ
เกิดในปี
1891 ประเทศรัสเซีย
1913 สมัครเป็นเสนารักษ์ องค์การกาชาดสากล ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1
1916
จบการศึกษา แพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเคียฟ
1929 เขียนเรื่อง มาสเตอร์กับมาร์การิตา (ภรรยาคนที่ 3 ที่มาของตัวละคร มาร์การิตา) แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ตีพิมพ์
1966 รัฐบาลโซเวียตรัสเซีย อนุมัติให้ตีพิมพ์ ได้
ไทม์แห่งลอนดอน ลงมติว่าเป็นหนึ่งในมาสเตอร์พีซแห่งศตวรรษที่
20


“บูลกาคอฟ เขียนมาสเตอร์กับมาร์การิตาให้เป็นนิยายสามโลก
โลกที่หนึ่ง เขียนถึงทำนองชีวิตในมอสโก สังคมที่อุดมด้วยคณะกรรมการ คณะกรรมการ คณะกรรมการ....โลกสังคมนิยม ที่ได้พบกับเรื่องราวของเวทมนตร์ และเรื่องพิลึกพิลั่นจากศาสตราจารย์โวแลนด์
-
ภูตบดี แมวอ้วนสี่ดำเดินสองขา (ตัวนี้ข้าฯชอบมาก) ...
สาบผู้คนให้ไปโผล่ที่หัวเมืองไกล
โลกที่สอง พอนติอุส ไพเลต ข้าหลวงใหญ่โรมันผู้สั่งตรึงกางเขนพระเยซู....
โลกที่สาม มาร์การิตาผู้ตามหามาสเตอร์ ทาแป้งปิศาจทำให้ล่องหนหายตัวได้ ...ยินยอมทำงานให้ภูตบดี เพียงเพื่อขอต้นฉบับของมาสเตอร์ที่โยนเข้าเตาไฟไปแล้วกลับคืนมา....
”


เป็นหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ข้าฯ อึ่งทึ่ง และพิศวง ความหนา 472 หน้า
แต่ด้วยการเดินเรื่องที่กระชับ ฉับไว และน่าติดตาม ทำให้ความหนาไม่เป็นอุปสรรคในการไล่ตามเนื้อหา
สำหรับข้าฯแล้ว มันมีความซับซ้อนของเรื่องราว ที่คล้ายคลึงกับ
100 ปีแห่งความโดดเดี่ยวจากโคลัมเบีย แต่ ความซับซ้อนนั้น ไม่ได้เกิดและเป็นไปจากครอบครัวเดียวเกี่ยวพันกันและกัน แสดงถึงครอบครัวอื่น ร่วมกับช่วงเวลาที่วนเวียน ประหนึ่งหยุดนิ่ง และไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์อันเห็นได้ชัดเจน นมนุษย์แบบต่าง ๆ  อย่างเช่นโลกแห่ง จินตนาการไม่รู้จบ ส่วน เดอะมาสเตอร์เล่มนี้ ความซับซ้อนเกิดขึ้นบน วงการวรรณกรรม กับ สังคมในมอสโก ในช่วงเวลาเดียวกันที่มีโลกคู่ขนาน คือ โลกแห่งมนต์ดำและซาตาน (อันนี้เหมือนวรรณกรรมเยาวชนที่กำลังฮิตในศตวรรษนี้) ที่เข้ามาจัดการกับ มนุษย์ชาวมอสโก ซึ่งผู้เขียนใช้คำว่า “ประชาชน” กับ โลกในอดีต ในยุคโรมัน อันมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและเยรูซาเล็ม  ร่วมกับการชี้ให้เห็นเหมือนการไม่จงใจชี้ให้เห็นถึงการดำรงชีวิต ความเป็นไปของประชาชนในมอสโก ที่มีรักโลภโกรธหลง ดีชั่ว อยู่ในตัวตน และแอบวิพากษ์วิจารณ์วงการวรรณกรรมที่แสนจะวุ่นวาย และถูกครอบงำ


โดยรวมคือ อย่างที่ผู้แปลได้กล่าวไว้ว่า “ทั้งสามโลกเกลื่อนกลืนกันเป็นเนื้อเดียว”


บางตอนจากหนังสือ


หนังสือแบ่งเป็น 2 เล่ม (รวมกันเป็นเล่มเดียว หรือคือ 2 ภาค)
เล่มหนึ่ง 1-18 บท เล่มที่สอง 19-32
บท1 อย่าคุยกับคนแปลกหน้า บท2 พอนติอุส ไพเลต บท3หลักฐานชิ้นที่เจ็ด


ทั้งสาม 3 เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน เป็นเหตุผลและมีส่วนเชื่อมโยงกัน อย่างไม่น่าเชื่อ และจบลงด้วยการที่ หัวของชายคนหนึ่ง หลุดกระเด็นจากศีรษะ ตามคำทำนายของชายแปลกหน้า ที่มาเยือนมอสโก


“ชื่อ อันนา ปลุกคำว่า น้ำมันทานตะวัน และ พอนติอุส ไพเลต...นำคำว่าอันนา มาเชื่อมโยงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่นานนัก เรื่องราวต่อกันเป็นห่วงโซ โยงไปหาศาสตราจารย์เสียสติ แน่อยู่แล้ว มันบอกว่าการประชุมคืนนี้ไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะอันนาทำน้ำมันหกราดพื้น พระเจ้าเป็นพยานเถอะ ไม่มีการประชุมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มันบอกว่าหัวของเบอร์ลิออซ จะหลุดจากบ่าโดยฝีมือของสตรี!! ใช่แล้ว, คนขับรถรางเป็นผู้หญิง!!!...มันเป็นใครกันนะ


บท7 แฟลตผีสิง
บทสนทนาการพบกันของ ภูตบดี ศาสตราจารย์โวแลนด์ แมวดำและล่ามผอมสูง กับ สเตปา  ผู้จัดการโรงละครวาไรตี้ ก่อนที่สเตปาจะถูก.....ทำให้หายไป
“...แต่เลวร้ายที่สุด จะเป็นผู้บุกรุกตัวที่สาม แมวดำขนาดมหึมาเหมือนฮิปโป นอนเอกเขนกบนตั่งพาดเท้า อุ้งมือข้างหนึ่งถือแก้วว็อดกา อีกข้างถือส้อมที่เพิ่งเสียบปักเห็ดดอง” ( แมวดำเป็นสมุน ทหารรับใช้ของศาสตราจารย์หรือซาตานนั่นเอง)
“ใช่,พวกมัน กิริยามารยาทอุจาด ดื่มเมามายไม่ได้สติ ไล่ตะครุบโนมเนื้อสตรี อวดเบ่งใช้อำนาจในตำแหน่งโดยไม่ยอมทำงานแม้สักนิด...ถึงพวกมันจะพยายามมากแค่ไหน ก็ทำงานไม่ได้ เนื่องเพราะไร้ฝีมือความสามารถ วัน ๆ เอาแต่หลอกลวงเจ้านาย นั่นละที่พวกมันทำ”
“ฉุยไปฉายมาในรถประจำตำแหน่ง แมวดำเคี้ยวเห็ดดอง ร่วมใส่ร้าย
“จะอนุญาตหรือไม่,นายท่าน หากข้าจะเตะมันให้ลอยโด่งพ้นมอสโกเสียเลย


บท28 การผจญภัยครั้งสุดท้ายของโคโรวิเยฟกับเบฮีมอธ
(ล่ามกับแมวดำ สมุนของซาตาน)
“....อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่าในอีกนาทีถัดมา  โคโรวิเยฟกับเบฮีมอธ ปรากฏตัวในเห็นบนทางเท้านอกกริโบเยดอฟเฮาส์ (อาคารโรงละคร) ...ดูซี, สโมสรนักเขียน ...อาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง, ...สวยงามสะคราญใจเหลือเกินที่ได้รูว่าใต้หลังคาอาคารหลังนั้นเก็บกักพรสวรรค์ประจุไว้แทบล้นทะลัก”
“เหมือนสับปะรดในห้องอบ” เบฮีมอธ  (แมวดำ) สนองรับ ปืนต่อม่อคอนกรีต...เพื่อมองอาคารสีเหลืองให้ชัดถนัดตา
ทั้งสองเดินเข้าไปในอาคาร และสนทนากับ สตรีหน้ายาก หน้าอาคาร
“บัตรสมาชิกเธอส่งเสียงถาม
“คำขออภัยนับพัน,มาดาม บัตรสมาชิก’ไร” โคโรวิเยฟถามด้วยความอัศจรรย์ใจ
“เป็นนักเขียนหรือเปล่า”
“อย่างไม่ต้องสงสัย”
“บัตรสมาชิกอยู่ที่ไหน”
“....................แต่ลองคิดดูนะ หากท่านต้องการจะสอบทานให้แน่ใจว่า ดอสโดเยฟสกีเป็นนักเขียนหรือไม่ ท่านจะบอกเขางัดบัตรสมาชิกออกมาหรือ? ทำไม ก็แค่เปิดอ่านผลงานของเขาสักห้าหน้า ท่านก็แน่ใจได้แล้วว่าเขาเป็นนักเขียน วะฮะเฮ้ย, ข้าไม่คิดว่าเขาจะมีบัตรสมาชิก แกคิดว่าไง? โคโรวิเยฟหันไปถามเบฮีมอธ
“พนันได้เลยว่าเขาไม่มีบัตรสมาชิก” แมวอ้วนวางตะเกียงน้ำมันลงบนโต๊ะ ยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก
“แกไม่ใช่ดอสโตเยฟสกี” สตรีนางนั้นแนบจะตวาดโคโรวิเยฟ
“รู้ได้ไง”
“ดอสโตเยฟสกีตายไปแล้ว” หญิงผู้นั้นสวนกลับ
“ข้อขอประท้วง เบฮีมอธอุทานออกมาเต็มเสียง “ดอสโตเยฟสกีไม่มีวันตาย”
“บัตรสมาชิก,ได้โปรด” หญิงผู้นั้นเปลี่ยนไปใช้เสียงวิงวอน
“เรื่องนี้ตลกพิลึกสุดแสนจะจี้เส้น”
“นักเขียนเป็นนักเขียนได้ ใช่เพราะเขาทำบัตรสมาชิกสโมสรวรรณกรรม เขาเป็นนักเขียนเพราะเขาเขียนหนังสือ ท่านรู้ได้ไงว่าความคิดบรรเจิดพลุ่งพล่านฟู่ฟ่าในหัวของข้าในขณะนี้หรือไม่? หรือว่าหัวของเขาโคโรวิเยฟชี้ไปที่หัวกลมมนของเบฮีมอธ แมวดำถอดหมวกแก๊ป ยื่นหัวไปให้สตรีนางนั้นได้ดูใกล้ ๆ


ติดตามตอนจบของเส้นทางชีวิต "มาสเตอร์" นักเขียนที่ผิดหวังจาก คำวิจารย์ของคณะกรรมการวรรณกรรม และต้องไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ได้พบกับผู้คนมากมายที่เข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลบ้า อันเนื่องมาจากได้พบกับซาตานและสมุนของเขา สุดท้ายแล้ว มาร์การิตาจะนำจิตวิญญาณของเขากลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงและนำ "ต้นฉบับ" ต้องห้ามกลับสู่มอสโกอีกครั้งได้อย่างไร แล้วต้นเรื่องในหนังสือ "ต้นฉบับ" นั้น "พอนติอุสไพเลต " ผู้ตกอยู่ในห้วงทุกข์จากความผิดบาปจะมีวิธีหลุดพ้นในคืนวันจันทร์เต็มดวงได้อย่างไร แล้วซาตานกับแม่ดำ นั้นมีแต่ความชั่วร้าย อย่างที่ได้ทำกับประชาชนมอสโก...เพียงอย่างเดียวจริงหรือ....







Free TextEditor

ฝากชื่อ ทักทายกันคะ







Free TextEditor



Free TextEditor




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2554   
Last Update : 27 ธันวาคม 2554 11:19:27 น.   
Counter : 1425 Pageviews.  
space
space
จินตนาการไม่รู้จบ(มิฆาเอล เอ็นเด้):ปรัชญาและการค้นหาตัวตนแห่งเรา

จินตนาการไม่รู้จบ โดยมิฆาเอล เอ็นเด้ The neverending story


ตีพิมพ์ครั้งแรกในเยอรมัน เมื่อปี 1979 ในฐานะหนังสือสำหรับเด็กแล้วก็กลายเป็นหนังสือขายดีสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ จนได้กลายเป็นคู่มือสำหรับขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพและสิ่งแวดล้อมในเยอรมัน ซึ่งมีบทบาทครอบคลุมทั่วโลก


มีบางคน กล่าวว่าหนังสือเล่มนี้มีความยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับ อลิส ในแดนมหัศจรรย์ (1862) สำหรับข้าพเจ้า มันก็อาจกล่าวได้เช่นนั้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ สิ่งมีชีวิต ที่มีตัวตนอยู่ในดินแดน “จินตนาการไม่รู้จบ” ภูติเรืองแสง ปิศาจราตรี  จิ๋วหลิว หรือ เทือกเขาเนยแข็งเนื้อแหว่ง ทั้งนี้เราไม่อาจลืม จักรพรรดิผู้หลงลืม มือที่มองเห็น ทะเสสาบเงิน(silver)


มีบางคนกล่าวว่า  เป็นการผสมผสานกันของ ปรัชญาตะวันออก ทั้ง พุทธ ฮินดู เต๋า หรือแม้แต่ อเมริกันอินเดียน หรือเทพปกรณัมกรีก ดังที่เราจะพบได้ในการแสวงหาความปรารถนา การเป็นไปของธรรมชาติ การเป็นเหตุและผลของเหตุการณ์ต่าง ๆ ความว่างเปล่า และอีกมากมาย ในระหว่างการเดินทางของ อัทเทรอู จากดินแดนแห่งแดนจินตนาการและ บาสเตียนจากเยอรมัน


สำหรับข้าพเจ้าบางส่วนของหนังสือเล่มนี้ มีความคล้ายคลึงกับ เรื่องราวการอ่านออกเสียง และการเข้าไปสู่ดินแดนของหนังสือ จากเรื่อง หัวใจน้ำหมึก(เยอรมัน) แต่เต็มไปด้วยจินตนาการ และความหลากหลาย ที่แฝงความนัยมากกว่า ซึ่งอาจทำให้บางคนที่อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นการเดินทางที่ล่าช้าก็เป็นได้


อีกทั้งยังมีบางส่วนที่คล้ายกับ หนังสือในดวงใจอีกเรื่อง คือ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะริงส์ (1954) ในส่วนที่เป็นการเดินทาง เพื่อเป้าหมายบางสิ่ง เป็นการเดินทางที่มีทั้งการเดินทางเป็นกลุ่ม การเดินทางอย่างโดดเดี่ยว  ความล้ำลึกอยู่ที่ระหว่างทาง มิตรภาพ และเล่ห์กลย่อมอยู่คู่กันเสมอ แต่การเล่าเรื่องผ่านสายตาของฝั่งเยอรมันอาจไม่ตราตรึงและสวยงาม เท่ากับไตรภาพแห่งแหวน เป็นแนวของเยอรมันที่ค่อนข้างเงียบขรึม แต่หนักแน่น เฉกเช่นเดียวกับ ทีมฟุตบอลเยอรมัน ที่ฆ่ายังไงก็ไม่มีวันตาย (มันค่อนข้างจะเกี่ยวกันหรือเปล่า...)แต่ความหมายที่แฝงอยู่ในหมู่บ้านน้อยใหญ่ การหลงใหลในอำนาจแห่งพลังบางอย่าง ซึ่งแตกต่างจากท่านโฟร์โดร์ที่ยอมพ่ายแพ้ ณ ปากปล่องภูเขาไป ส่วน บาสเตียน มนุษย์น้อย อ่อนแอ ขี้ขลาด กำพร้าแม่ มี่พ่อซึ่งตกอยู่ในความเย็นชา ค่อย ๆ มอบกายใจให้กับอำนาจบางอย่างนั้น เส้นทางที่เขาเดิน อาจไม่ถูกต้องเสมอไป ท้ายที่สุด จะต้องมีบางสิ่งอย่างที่ช่วยนำพา บาสเตียน ที่กำลังหลงลืมไปในกาลเวลา และโลกแห่งจินตนาการ โลกแห่งความเป็นจริงไกลออกไปทุกขณะ ความทรงจำที่ลบเลือน เด็กชายไร้ชื่อ จะกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร ถ้าหัวใจของเขายังอยากที่จะเป็นผู้ทรงอำนาจ และผู้ช่วยให้รอดของชาวจินตนาการต่อไป...


เป็นหนังสือเด็กที่มีจำนวน 458 หน้า สำหรับเด็ก มันจะเป็นเรื่องราวอันแสนมหัศจรรย์ ในดินแดนแห่งจินตนาการ ผู้คน บ้านเรือน ที่แตกต่าง และน่าประทับใจ ร่วมเดินทางไปพร้อมกับ บาสเตียน เด็กน้อยในโลกปัจจุบัน อ้วน เตี้ย ถูกรังแก และ เศร้าซึม หลังจากได้หนังสือแปลกประหลาดมาเล่มหนึ่ง จากการหยิบมาโดยไม่ได้บอกก่อน ความระทึกใจที่เกิดขึ้นประหนึ่งว่า เรากำลังนั่งดูบาสเตียน นั่งคลุมโปง ในห้องใต้หลังคา ที่มีเพียงแสงรำไรของเชิงเทียนเก่า ๆ ใช้ในการอ่านหนังสือเล่มหนา ทีมีชื่อเรื่องเดียวกับเรื่องที่เรากำลังอ่าน “จินตนาการไม่รู้จบ”


ขณะที่เรา (ที่มีหัวใจเป็นเด็ก) กำลังอ่านหนังสือเล่มนี้ บาสเตียนก็กำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่เช่นกัน บาสเตียนเอาใจช่วย เด็กหนุ่มนายพรานคนหนึ่ง ที่มีผิวสีเขียว ผู้ดำรุงอยู่ด้วยการล่าควายม่วง ในท้องทุ่งทะเลหญ้า  เด็กหนุ่มอายุราว 10 ขวบ ผู้ได้รับ สัญลักษณ์แห่งยุวจักรพรรดินี ในการเดินทางไปค้นหา หนทางที่จะช่วยให้โลกแห่งจินตนาการรอดจากภัยของความว่างเปล่าสีดำที่กลืนกินทุกสิ่งที่มันพาดผ่าน ในช่วงนี้จะเป็นการเดินทางเพื่อแสดงหาบางอย่างของ อัทเทรอู กับมังกรนำโชค ที่ต้องฟันฟ่าอันตรายหลายหลาก เช่น  อิกรามุล สัตว์แห่งความมืด ที่มีใยแมงมุมกับดักขึงไว้ระหว่างหน้าผา กระจกสามชั้น ก่อนเข้าถึง เจ้าแห่งเสียง


แต่ในส่วนที่นั่งอ่านหนังสือเล่มนี้ผ่านการเดินทางแสวงหาบางสิ่งที่ล้ำค้าของบาสเตียน หลังจากที่บาสเตียน ได้สบตากับยุวจักรพรรดินีในครั้งแรกผ่านหน้ากระดาษหนังสือ หลังจากนั้นความเป็นผู้ใหญ่ของเราจะถูกท้าทาย


ทุกเมืองที่บาสเตียนเดินทางไป ผ่านความตายหลากสี  เผ่าพันธ์อคาลิสผู้มีน้ำตาเป็นแร่เงิน ผ่านเมืองมือที่มองเห็น (อันนี้เริ่มมีความใกล้เคียงกับการเมืองของไทย) หรือท่านผู้เป็นอาจารย์แห่งอารามดาว และอีกมากมาย เมืองเหล่านี้มันตั้งอยู่และเป็นไปตามเหตุและผลบางอย่างของมัน เมื่อบาสเตียนได้เปลี่ยนบางสิ่ง ทำให้บางอย่างเปลี่ยนไปในภายหลัง นี่คือเหตุผลบางส่วนที่ข้าพเจ้าพบในด้านที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และ ตรรกะวิทยา หรือ พุทธศาสนา หรือ เต๋า ปรัชญามากมาย ถูกซุกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนผ่านการเดินทางที่ท้าทาย


จิตใจของเด็กอย่างบาสเตียน ค่อยๆ เปลี่ยนไป ผู้อ่านเองรับทราบได้ในทุกช่วงเวลา ผู้อ่านมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์บาสเตียน ขณะเดียวกันก็มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์ตัวเองไปพร้อม ๆ กันด้วย...เพราะว่า...ความปรารถนาของบาสเตียน มันอาจจะเป็นความปรารถนาของเราด้วยเช่นกัน....


ความปรารถนาบางอย่าง ประกอบกับอำนาจศักดิ์สิทธ์ในมือเด็กน้อยผู้มีจิตใจอ่อนไหว นำพาความปรารถนาไป จากความปรารถนาหนึ่งสู่ความปรารถนาหนึ่ง ทุกครั้งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากความปรารถนาจะต้องแลกด้วยบางอย่างจากโลกแห่งความเป็นจริง...แล้วบาสเตียนจะทำอย่างไร เมื่อไม่อาจค้นหาความปรารถนาที่แท้จริงได้ และเมื่อไม่มีสิ่งใดในโลกความจริงของเขาให้แลกอีกต่อไป...เมื่อความปรารถนาสุดท้ายมาถึง...


หมายเหตุ : เมืองหลายเมือง กลุ่มเผ่าพันธุ์หลายเผ่า ที่มีชื่อและวิถีชีวิต บางอย่างที่ทำให้เราย้อนคิดไปในอดีตที่เราเก็บงำไว้ หรือไม่ก็ตีแผ่ความเป็นจริงในปัจจุบันของเรา ซึ่งอย่างที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ตอนต้นเกี่ยวกับอิสรภาพในการแปลความของผู้อ่านนั้นขึ้นอยู่กับผู้อ่านเอง ตัวหนังสือที่ผ่านตาเรา มันจะมีความหมายต่างกัน สำหรับผู้อ่านแต่ละคน ซึ่งในส่วนนี้ข้าพเจ้าชอบมากที่สุด เพราะการอ่านหนังสือแต่ละเล่ม จินตนาการของใคร ก็เป็นของคนนั้น เช่นเดียวกับ หนทางของใคร เส้นทางบินของใครก็เป็นของคนนั้น (จาก โจนาทาน ลิฟวิงสตัน)  เป็นต้น...


ดั่งเช่นคำที่เราจะพบได้บ่อยในหนังสือที่ทรงคุณค่าเล่มนี้ว่า


“นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราจะค่อยพูดถึงในโอกาสต่อไป”




  • เมืองแห่งอดีตจักรพรรดิ ซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่อดีตจักรพรรดิ ผู้ครั้งหนึ่งเคยได้รับอำนาจศักดิ์สิทธ์ และใช้อำนาจไปจนหมดโดยไม่เหลือความทรงจำอีกต่อไป เป็นเมืองที่น่าเศร้าและควรนำมาเล่าเตือนใจผู้นำการเมืองไทย ไม่น้อย



  • มือที่มองเห็น คือ เมืองที่สร้างเป็นรูปมือ 5 นิ้วมีดวงตา อยู่ทุกนิ้ว เป็นที่มาของคำว่า มือ ที่มองเห็น (จริง ๆ)ต่างจาก มือที่มองเห็น บนหน้าปกมติชน (ค่อนข้างมาก) และอาจมีความใกล้เคียงกับ หอคอยที่ดวงตาเพียงหนึ่ง ณ ดินแดน มัชฉิมโลก



  • เผ่าพันธุ์ที่เกิดมาแก่ และตายลงเมื่อเป็นทารก เผ่าพันธุ์นี้อาจมีผู้นึกไปถึง ทารกน้อยที่ตายในอ้อมแหนของภรรยาที่แก่เฒ่า บางคนบอกว่าเห็นรอยยิ้มจากปากจิ้มลิ้มของทารกน้อย จากฉากสุดประทับใจในภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง(อิอิ จำชื่อไม่ได้)



  • สุภาพสตรีเอโยลา ที่มีปรากฏในช่วงท้ายเรื่องเป็นความปรารถนาที่ล้ำลึกของบาสเตียน ซึ่งเผอิญเป็นความปรารถนาของข้าพเจ้าด้วย ในการที่จะมีหญิงใจดี ทำอาหาร ปลอบโยน และพูดคุยกับข้าพเจ้าดั่งเช่นในอดีต ซึ่งแน่นอนว่า ในดินแดนแห่งความจริง มันไม่อาจเกิดขึ้น...ได้อีกต่อไปแล้ว



ฯลฯ
มีอีกหลายเมืองที่รอให้มนุษย์ผู้อยู่ในโลกข้างเคียงของโลกจินตนาการไม่รู้จบได้ค้นหา และแสวงหาความจริงในจิตใจของคุณเอง



Free TextEditor

ฝากชื่อ ทักทายกันคะ







Free TextEditor



Free TextEditor




 

Create Date : 11 เมษายน 2554   
Last Update : 27 ธันวาคม 2554 11:19:46 น.   
Counter : 2665 Pageviews.  
space
space
1  2  

normalization
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




"ขอทุกท่านจง ปกติสุข ในทุกวัน"
วันแรกสร้าง : 25 กุมภา.54

เป็นเพียงการบอกกล่าว เล่าเรื่อง ตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจ
หากว่ามีประโยชน์บ้างแม้เพียงเล็กน้อย ข้าพเจ้าก็ยินดียิ่ง
หากว่าส่วนใดผิดพลาด ฝากข้อความไว้ได้เสมอ
@comeback 18/1/18

free counters สำหรับธงขอขอบคุณ blog paradijs
space
space
space
space
[Add normalization's blog to your web]
space
space
space
space
space