เป็นหนังสือที่สมควรอย่างยิ่งในการจัดทำเป็นภาพยนตร์
สลับซับซ้อนด้วยเรื่องราวของชีวิต..ทางเดิน...ทางเลือกในการกระทำของผู้คนในสังคม
ทำให้เราย้อนมองกลับไป เมื่อครั้งที่เราต้องเลือกทำในบางสิ่ง...และบางอย่างที่เราทำไม่ได้เมื่อโอกาสมาเยือน...
ดั่งที่หญิงสาวต้นตระกูล โอดอนเนลล์ เมื่อ 99 ปีก่อน เชื่อและกล่าวตามนายจ้างผู้ที่มีชื่อเสียงยอมรับอยู่ในขณะนั้นของเธอ ทรรศนะของเธอต่อการเปลี่ยนจากกระโถนเป็นโถส้วมในสังคม ฟิลาเดลเฟีย
เราจะตัดสินใจเรื่องการติดโถส้วมหลังจากที่กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่ามันใช้การได้ดี
จนถึงรุ่นเหลนของเธอ เกือบ หนึ่งร้อยปี ที่ไม่โดดเดี่ยวของคนในตระกูล โอดอนเนลล์ กาลเวลาได้พิสูจน์บางอย่างแล้วว่ามันใช้การได้ดี
และก็เช่นเดียวกับแผ่นดินนี้เราจอง และเรื่องอื่นๆของผู้เขียนที่มีเนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม แต่สำหรับเรื่องนี้มันไม่ตลกเสียดสีมากเท่าเรื่องอื่นๆ ...มีก็แต่เพียงรอยยิ้มปนเศร้าบ้างในบางครั้ง บ้างก็ยิ้มเยาะให้บางหน...อย่างไรก็ดี ลูกผู้ชาย และลูกผู้หญิง จากชนชั้นล่างที่ก้าวขึ้นสู่สังคมชั้นบนใน ฟิลาเดลเฟีย ก็ได้สอนให้เห็นสัจจะธรรมหลายอย่างในการดำรงชีวิต...มีทางเลือกและเรื่องบังเอิญอยู่มากมาย โชคชะตา หรือ ตัวเราเองที่กำหนดปลายทางของเรา
แต่...ด้วยความที่มันจบสวย และสมบูรณ์แบบลงในยุคของลูกชายคนแรกของตระกูล ข้าพเจ้าจึงค่อนข้างจะหมั่นไส้ในความสำเร็จของ แอนโทนี่ จัดสัน ลอร์เรนซ์
แอนโทนี่ จัดสัน ลอร์เรนซ์ ผู้มีแม่ชื่อ แคเธอรีน จัดสัน หญิงสาวที่แบกความมุ่งมั่นของครอบครัว เพื่อเข้าสู่ชนชั้นสูงในสังคม เธอเลือกเป้าหมายของครอบครัวก่อนความรัก...และความสุขของเธอเอง จนบางครั้งมันดูเหมือนกับว่าเธอเป็นคนรักชื่อเสียงมากกว่าความจริงใจ...แต่ถ้าเราลองใส่รองเท้าของเธอเดิน (จากเรื่องสองดวงจันทร์) เราอาจพบความปวดร้าวที่เธอทนรับไว้เพียงผู้เดียว
คำพูดบางตอน
ระหว่างที่ แอนโทนี่ ขอคำแนะนำกับ แม่ของเขา เกี่ยวกับคดีที่มีความเสี่ยงต่ออนาคตของเขา
แอนโทนี่ แม่ให้คำแนะนำอะไรกับลูกไม่ได้...อย่างมากที่ทำได้ก็แค่เล่าอะไรบางอย่างให้ลูกฟัง เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่แม่เตรียมตัวจะไปอยู่กับคุณนายเดอวิตต์ ลอว์เรนซ์ ...คุณทวดของลูกพูดอะไรออกมาคำหนึ่งซึ่งแม่ไม่เคยลืม...อย่าสูญเสียความทระนงของตัวเอง แล้วพวกเขาก็จะต้องนับถือแกเอง
แอนโทนี่ จัดสัน ลอร์เรนซ์ ผู้มียายชื่อ แมรี่ โอดอนเนลล์ ลูกสาวคนใช้ชาวไอริช กับพ่อจากตระกูลสูงของฟิลาเดลเฟีย หญิงสาวผู้ที่ได้ฟังนิยายรักของแม่ และพยายามต่อเติมนิยายนั้นให้สวยงามด้วยการแต่งงานและมีลูกที่ถูกต้องกับคนมีหน้ามีตาในสังคม...ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม...แต่ไม่น่าเชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้ว...ลมหายใจสุดท้ายของเธอกลับทำให้เราลืมไอ้วิธีการเหล่านั้นไปทันที
แอนโทนี่ จัดสัน ลอร์เรนซ์ ผู้มีทวดชื่อ มาร์เกเร็ต โอดอนเนลล์ ผู้เดินทางมาแสนไกลเพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น ฟังดูก็คล้ายๆ กับหนุ่มสาวจากเมืองไทยที่มุ่งหน้าสู่อเมริกา ยุโรป หรือ สิงคโปร์ เธอฝากความหวัง ความฝันทั้งปวงไว้กับเหลนชายคนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตของเธอ และคนเดียวกับประโยคที่ว่า อย่าสูญเสียความทระนงของตัวเอง แล้วพวกเขาก็จะต้องนับถือแกเอง
แต่ชีวิตของ แอนโทนี่ จัดสัน ลอร์เรนซ์ ก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบถึงแม้จะโรยด้วยความตั้งใจของแม่ ยาย และทวด จนล้นทะลัก ก็เหมือนกับผู้คนมากมายดาษดื่นในโลกใบนี้ ที่มีความหวัง ความฝันของคนรุ่นก่อน ฟูมฟักอยู่ในตัว จนกลายมาเป็นความหวังและความฝัน รวมทั้งกลายเป็นวิถีชีวิตของเขา
ชีวิตของเขาตั้งแต่เด็กวัยเรียน วัยรุ่น นักศึกษามหาวิทยาลัย การเป็นทหาร เป็นทนาย มีช่วงชีวิตที่น่ารัก น่าเห็นใจ น่าติดตาม และลุ้นระทึกในบางตอน เกือบพลั้งพลาดก็หลายหน อะไรเป็นสิ่งที่เขายึดถือ และทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต ประสบการณ์ของแม่ ยาย และทวด จะเพียงพอหรือไม่
และอะไรเป็นสิ่งที่เขาต้องแลกไปบ้างในระหว่างทาง...ซึ่งถ้าเป็นเรา...เราจะเลือกทำเช่นเดียวกับเขาหรือไม่...
อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็ขอนับถือ แอนโทนี่ จัดสัน ลอร์เรนซ์ และผู้เขียนที่ชี้ให้เห็นว่า เราไม่ควรหยุดนิ่ง ระหว่างโอกาสยังมาไม่ถึง แต่ก็ไม่ควรทำสิ่งที่ผิดต่อคนอื่น(ที่สำคัญต่อเรา) รวมทั้งผู้แปลที่ทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้ราบลื่นไม่ติดขัด อ่านสนุกจบในสองครั้ง (เพราะไม่มีเวลาอ่านต่อเนื่องให้จบ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แต่จะยังไงก็เถอะ ข้าพเจ้าก็ออกจะหมั่นไส้ แอนโทนี่ จัดสัน ลอร์เรนซ์ ลูกชายคนแรกที่ประสบความสำเร็จ จากความไม่สำเร็จของลูกสาวสองรุ่น แน่ละซี้ ก็มันเป็นเรื่อง ลูกผู้ชาย นี่นา
หรือว่าช่วงนี้ชีวิตของข้าพเจ้ามักจบไม่ค่อยสวย....ด้วยเรื่องของลูกผู้ชายคนแรกในตระกูล
และความทุกข์ของคนเราไม่ใช่อยู่ที่ปลายทางเสมอไป ไอ้ระหว่างทาง ระหว่างการตัดสินใจเลือกนี่แหละ
การเลือกทำหรือไม่ทำ จากความหวังของคนอื่น แม้จะเป็นคนในครอบครัวมันก็ไม่ได้จบสวยเสมอไป หรือถ้ามันจบสวย แต่ก่อนจบมันอาจโชกด้วยเลือดและน้ำตา
และเหลือแค่เพียงซากไปรับรางวัลในบั้นปลาย
จากลูกสาวคนสุดท้าย ผู้ไม่มีความหวังจากใคร