All Blog
ประตูวัดพระศรีรัตนศาสดารามกับยักษ์ทั้ง 12 ตน
ประตูวัดพระศรีรัตนศาสดารามกับยักษ์ทั้ง 12 ตน
เมื่อตำนานเกี่ยวกับยักษ์นั้นถือเป็นจริงเป็นจัง จนกระทั่งคติความเชื่อ ควรสร้างยักษ์ไว้พิทักษ์ปกป้องในวัด ยักษ์จึงเด่นเป็นสง่าตามประตูที่สำคัญ
ที่นี่มียักษ์ตัวใหญ่มาก ๆ อยู่ถึง 12 ตน เราจะเรียกยักษ์ว่าตนนะ ขอให้รับทราบด้วย ตนกับคนต่างกัน แล้วจะยืนกันเป็นคู่ ๆ ได้ 6 คู่ ที่ฐานจะสลักชื่อของยักษ์ไว้ ให้รู้ว่ายักษ์แต่ละตนเป็นใครกันบ้าง แฟนรามเกียรติ์จะได้สนุกกับการยืนชม เพราะได้รู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนจากวรรณกรรม
ทำไมต้องยืนเป็นคู่ สงสัยไหม อาจยืนเป็นเพื่อนกัน กลัวเหงากระมัง
ถ้ายืนตนเดียวสิแปลก จะให้ยืนฝั่งไหนของประตูล่ะ
ครั้นเมื่อพระแก้วมรกตมาประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จึงให้สร้างรูปยักษ์ ยืนเรียงราย หันหน้าเข้าหาอุโบสถ ยักษ์ทั้งหมด มี 6 คู่ด้วยกัน
ยักษ์ตนที่ 1 ทศกัณฐ์ กายสีเขียว มีหน้า 10 หน้า เจ้ากรุงลงกา ตัวเอกของเรื่องรามเกียรติ์เลยทีเดียว ยิ่งใหญ่ที่สุด ยืนคู่กับยักษ์ตนที่ 2 สหัสเดชะ กายสีเขียว ครองเมืองปางตาล กายสีเขียวเหมือนกัน แต่เครื่องทรงย่อมต่างกันแน่นอน ไม่เช่นนั้น จะจำแนกไม่ได้
ยักษ์ตนที่ 3 ไมยราพณ์ กายสีม่วงอ่อน เป็นพญาครองเมืองบาดาล ยืนคู่กับยักษ์ตนที่ 4 วิรุฬจำบัง กายสีเขียวเจือดำ เป็นบุตรพญาทูษณ์ ครองเมืองจารึก
ยักษ์ตนที่ 5 สุริยาภพ กายสีแดง เป็นโอรสของสหายทศกัณฐ์ เฝ้าด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร ยืนคู่กับยักษ์ตนที่ 6 อินทรชิต มีกายสีเขียว เป็นบุตรทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เฝ้าด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร
ยักษ์ตนที่ 7 มังกรกัณฐ์ กายสีเขียวอ่อน เป็นบุตรพญาขร ครองเมืองโรมคัล อยู่ทางด้านหน้าพระอุโบสถ ยืนคู่กับยักษ์ตนที่ 8 วิรุฬหก กายสีขาบหรือน้ำเงินเข้ม ครองเมืองมหาอันธการนคร อยู่ทางด้านหน้าพระอุโบสถ
ยักษ์ตนที่ 9 ทศคีรีธร กายสีน้ำตาล ยืนคู่กับ ยักษ์ตนที่ 10 ทศคีรีวัน กายสีเขียวแก่ สีของกายต่างกัน แต่เป็นยักษ์ฝาแฝด ลูกของทศกัณฐ์กับนางช้าง ยักษ์ 2 ตนนี้จึงมีปลายจมูกเป็นงวงช้างเล็ก ๆ แปลกไหมล่ะ ยักษ์กับช้างสมสู่กันได้ แถมมีทายาทให้ปรากฏ ไม่ต้องคิดมาก มันเป็นแค่จินตนาการน่ะ
ยักษ์ตนที่ 11 จักรวรรดิ กายสีขาว เป็นเพื่อนสนิทกับทศกัณฐ์ ครองกรุงมลิวันอยู่ด้านหน้าทางเข้า คู่กับยักษ์ตนที่ 12 อัศกรรณมารา กายสีม่วงเข้ม ครองเมืองดุรัม
ยักษ์ 6 คู่นี้ ยืนหันหน้าเข้าหาพระอุโบสถ แล้วยักษ์ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ยักษ์ธรรมดา แต่เป็นถึงเจ้านายใหญ่โต จึงมีเครื่องทรงที่งดงาม ทำให้ศิลปินประดิษฐ์ประดอยตกแต่งให้งดงามได้สุด ๆ ไปเลย
ทำไมต้องปั้นรูปยักษ์ไว้เฝ้าดูแล ตามคติความเชื่อในพระพุทธศาสนา หรือวรรณกรรมในสมัยก่อน  ผู้คนเชื่อกันว่ามียักษ์อยู่จริงอย่างแน่นอน  แล้วศิลปินจิตรกรทั้งหลายจินตนาการถึงยักษ์ ด้วยการเติมความงดงามทางสถาปัตยกรรมทำให้เกิดเป็นยักษ์ที่มีเสน่ห์มากกว่าน่ากลัว
เขาว่ากันว่า ยักษ์มีไว้เพื่อพิทักษ์ปกป้อง ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาทำร้ายหรือทำลายภายในวัดพระแก้วได้ หรืออีกนัยหนึ่ง ยักษ์เหล่านี้ใฝ่ใจในพระพุทธศาสนาต้องประสงค์คอยฟังธรรม แต่ไม่อาจเข้าไปในพระอุโบสถได้ จึงได้แต่ยืนอยู่ด้านนอก

 



Create Date : 12 กันยายน 2562
Last Update : 12 กันยายน 2562 5:05:40 น.
Counter : 1709 Pageviews.

1 comment
620825 เยาวราชในยุคที่มีรถไฟฟ้าใต้ดิน
620825 เยาวราชในยุคที่มีรถไฟฟ้าใต้ดิน
China town in the era of the subway MRT by DrPK
          ทหารอาสาจากแผ่นดินจีนนับเรือนแสนมาเป็นกองกำลังรบทัพจับศึกกับพม่า เพื่อประกาศเป็นประเทศเอกราช ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี และอีกมากหลายเล็งเห็นว่า แผ่นดินสยามเหมาะแก่การยังชีพและเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เข้ามายังกรุงสยาม
ครั้นถึงสมัยสร้างเมืองใหม่ เกาะรัตนโกสินทร์เป็นศูนย์กลางการปกครอง ชาวจีนได้รับพระราชทานที่ดินแถบเยาวราช ให้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัย
ความเป็นจีนย่อมสืบทอดวัฒนธรรมจารีตประเพณี ถึงแม้จะอยู่ในดินแดนที่ห่างไกล และความเป็นพ่อค้าในสายเลือดทำให้ถิ่นอาศัยกลายเป็นถิ่นการค้าที่เจริญรุ่งเรืองในทุกแห่งทั่วโลก
ผ่านมานับสองร้อยปี ที่ดินแถบเยาวราชที่บอกกันว่าคือมังกร กลับคับแคบแออัดด้วยถนนหนทางที่ไม่เอื้อต่อการเดินทาง ทำให้ความนิยมในการมาหาซื้อข้าวของลดน้อยลง
เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินมาโผล่ใกล้วัดมังกรกมลาวาส และเปิดทดลองให้ใช้บริการฟรี เยาวราชกลับคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ทั้งที่เมื่อเริ่มมีแผนนั้น หลายกลุ่มก้อนประท้วงกัน
ผลดีจากรถไฟฟ้าใต้ดินให้ผลเกินคาด ลุงป้าน้าอา อาแป๊ะอาซิ้มอากงอาม่า มิตรสหายวัยห้าหกสิบสะดวกสบายมากขึ้น ลูกหลานจูงมือให้มาระลึกถึงความหลังกัน เสียงดังเซ็งแซ่จากการพูดคุย และความวุ่นวายจากการถ่ายรูป แช๊ะกันให้มันมือจากกล้องดิจิทัล ไม่เสียค่าฟิล์ม
สถานีวัดมังกรกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเยาวราชมีผู้คนมาเที่ยวซื้อหาข้าวของแบบจีน ๆ มากขึ้น
 

 



Create Date : 26 สิงหาคม 2562
Last Update : 26 สิงหาคม 2562 15:16:06 น.
Counter : 728 Pageviews.

1 comment
620804 ตลาดน้ำอัมพวา

620804 ตลาดน้ำอัมพวา

การเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกนานพอควร พบว่า มีการพัฒนาตลาดไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น ผู้คนเยอะแยะเต็มไปหมด ลักษณะคล้ายกับที่เกาะเกร็ด

ร้านอาหาร เครื่องดื่มตั้งอยู่ในร้านค้าเยอะ แต่มีคนนั่งเต็ม โอเคเลยกับธุรกิจ ยังสงสัยว่าวันธรรมดาจะมีคนเยอะไหม แม่ค้าบอก เยอะพอควรแต่ไม่เท่าเสาร์อาทิตย์

...

พอเริ่มเข้าไป พบว่าที่จอดรถในวัดในโรงเรียนคิดค่าจอด 30 บาท

เสียดายไม่ได้เข้าในอุทยาน ร.2 เสียค่าใช้จ่ายด้วย น่าจะคนละ 50 บาท

ที่นี่มีส้มโอ ปลาทู ข้าวเกรียบปลาทู เสื้อผ้า ของกระจุกกระจิกที่ระลึก หลายร้านอยู่ คนมาเดินน่าจะซื้อของติดมือกลับบ้านกันบ้างหรอกน่า ทำให้เงินเดินสะพัด ไม่รู้ว่า ดีกว่าเดินเที่ยวในห้างหรือเปล่า มีฝนโปรยปรายตลอด กางร่มไม่ได้ ไม่มีหมวก เลยโดนฝนพรำใส่หัวกะบาล น่ากลัวคนแก่อย่างเราอาจเป็นหวัด

แม่ค้ามีส่วนหนึ่งที่เป็นคนแถวนั้น ค้าขายตามมีตามเกิด แม่ค้าขายทับทิมกรอบสลิ่มค่อย ๆ ตัก 30 บาท ใช้เวลานานสักนิด ถามแม่ค้าทำไมไม่เตรียมเป็นแพ็คสำเร็จรูป แม่ค้าบอก ไม่มีเวลาทำเลย คนเยอะตลอดตั้งแต่เมื่อวาน ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ คงต้องจัดรูปแบบธุรกิจ หาคนมาช่วย แพ็คของให้พร้อมขายจะได้เงินมากขึ้น ชาวบ้านอาจคิดว่าไม่คุ้มที่ต้องจ่ายค่าแรงคนช่วยแพงเกิน กำไรอาจหดลง นี่คือสิ่งที่แตกต่างทางความคิดของคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่

ภาพรวมแล้วการไปเที่ยวตลาดน้ำแบบนี้น่าสนใจมากในหลายเรื่อง ทั้งสินค้าที่เป็นของท้องถิ่น การได้อุดหนุนชาวบ้านมากกว่าอาเสี่ยมหาเศรษฐี ถ้ามีการจัดการแบบทันสมัยน่าจะเติบโตและขยายตัวได้มากขึ้น

#ปู่กะย่าพากันเที่ยว




Create Date : 05 สิงหาคม 2562
Last Update : 5 สิงหาคม 2562 9:57:55 น.
Counter : 546 Pageviews.

0 comment
620729 นั่งรถไฟใต้ดินสถานีเปิดใหม่
620729 นั่งรถไฟใต้ดินสถานีเปิดใหม่
               29 กรกฎาคม 62 BEM เปิดให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าฟรี 5 สถานี จากท่าพระถึงเยาวราช
               ปู่กะย่าว่างงาน และอยากทำตัวเป็นคนหัวสมัยสักหน่อย คิดแน่แล้วว่า คนคิดเช่นเราต้องมีมากแน่ ๆ
เริ่มด้วยนั่งรถสาย 40 ไปเยาวราช เหมือนที่เคยไปทุกครั้ง ต้องแวะกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ้าอร่อยเสีย
หน่อย ผู้คนมากหน้าหลายตาจริง ๆ เลยนั่งกับตาแป๊ะคนหนึ่งที่แสนจะทันสมัย คุยเรื่องรถไฟฟ้า อธิบายหลายยก
               เดินต่อไปที่สถานีวัดมังกรกมลาวาส  จากผู้คนมากหน้าหลายตากลายเป็นผู้คนล้นหลาม เปิดฟรีวันแรก ใคร ๆ คงอยากเปิดซิง เอาไปอวดเพื่อน ๆ เหมือนเรา
               มีเสียงบ่นใกล้หูว่า มาทำไมกันเยอะแยะ คงเป็นคนแถวนั้น เรามันคนปากไว เลยตอบว่า อยู่บ้านไม่เจอใครเลย อยากมาเจอคนเยอะ ๆ แบบนี้แหละ โชคดีไป ไม่โดนฟาดปาก ที่ดันไปกวน เขาหัวเราะกับคำตอบ
               ปกตินั่งแต่รถเมล์ ไม่เคยนั่งรถไฟฟ้าเหมือนเพื่อน ๆ เพราะครั้งหนึ่งหยอดเหรียญแล้วออกไม่ทัน วุ่นไปทั้งแถว คนหลังช่วยเรา เขาออกไม่ทัน เลยไม่ค่อยอยากและไม่กล้า คราวนี้รู้สึกดีขึ้นกับชีวิตแบบคนสมัยใหม่
               สถานีที่เขาให้นั่งฟรี สวยงามสมดังคำร่ำลือ สถานีเยาวราชมีภาพวาดอาหมวยอาซิ้มให้แชะภาพ
การเดินทางไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก ถามคนในเครื่องแบบว่าต้องไปไหนทำอย่างไรตลอด ตอนหลังชักคล่อง
               สถานีต่อไปสามยอด มีภาพถ่ายเก่า ๆ ติดอยู่กับเสา ไม่ได้ออกนอกสถานี ทั้งที่เขาให้เหรียญฟรีเข้าออก โถ มันถิ่นเก่า เดินจนปรุ สำเพ็ง พาหุรัด
               อีกสถานีที่สนามชัย โฆษณาทางทีวีว่าเลียนแบบท้องพระโรง สวยงามตามท้องเรื่อง
คราวนี้เดินออกมาทางไปมิวเซียมสยาม ลืมไปตามประสาคนแก่ว่า วันจันทร์หยุด และวันนี้หยุดชดเลย เลยอดเข้า คนแก่เกิน 60 เข้าฟรี รถไฟฟ้าก็ฟรี อะไร ๆ ฟรีไปหมด ดีแบบนี้นี่เองเป็นคนแก่สมัยนี้
นั่งต่อมาที่สถานีอิสรภาพ และไปท่าพระ สิ้นสุดการเดินทางฟรี ต่อรถสาย 42 ถึงบ้าน
รวมเวลาออกจากบ้าน 10.30 น. ถึงบ้านบ่ายสองครึ่ง แต่หมดแรงได้เหมือนกัน สังขารนี่ไม่เอื้อเลย
 



Create Date : 29 กรกฎาคม 2562
Last Update : 29 กรกฎาคม 2562 17:37:34 น.
Counter : 670 Pageviews.

2 comment
620727 กินบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันที่โรงแรม
620727 กินบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันที่โรงแรม
               อาหารเป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการยังชีพ แต่ไม่ใช่ในสมัยนี้ การกินแสดงถึงความเป็นอยู่ฐานะ รสนิยม การเป็นคนทันสมัย และอะไรต่อมิอะไร การลงรูปภาพอาหาร การสรรหาที่กินอร่อย ๆ เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ไปซะแล้ว
               คนรุ่นเรากินแค่ยังชีพ จะได้กินหรูหน่อย คงโต๊ะจีนในวันแต่งงานของเพื่อนสนิทมิตรสหาย นาน ๆ สักครั้งจึงจะยกขบวนเอาอาหารใส่ปิ่นโต ไปนั่งกินตามชายหาดให้เจริญอาหาร และลูกหลานเล่นน้ำทะเล
               ลูกหลานมักชวนพ่อแม่ปู่ย่าตายายไปนั่งเสพอาหารตาอาหารใจยังร้านอาหารหรู ๆ ที่อร่อย แต่ราคาห้ามบอกญาติที่มีอายุ เดี๋ยวจะพาลกินไม่ลง หรือไม่มัวแต่เสียดายเงิน
               การกินบุฟเฟ่ต์วันนี้ที่โรงแรมแมริออท สุขุมวิท นับว่าอร่อยคุ้มค่า ละลานตาแต่กินได้ไม่กี่อย่างหรอก คนแก่และเด็กกินบุฟเฟ่ต์ไม่คุ้ม ต้องให้หนุ่มสาวเท่านั้น เพราะคละ ๆ กันไป โรงแรมจึงอยู่รอด
               ปูต้มมาจากชลบุรี หอยมาจากระยอง ซูชิแบบญี่ปุ่น เป็นจานแรก ตามด้วยข้าวขาหมู ส้มตำ ปลาแลมอนของคนที่บ้าน ขนมแบบฝรั่ง ๆ เยอะ มีเต้าฮวยให้ขมปากด้วยน้ำขิงรสเข้ม ไอศกรีมอร่อยของหลาน ขนมจีบ ซาละเปา ลูกฟิกส์ ลูกพรุน ขนมปัง บรรยายไม่ถูก
               ถ้าอยากทำตัวเป็นคนสมัยใหม่ และไม่รู้สึกเสียดายเงิน น่าจะลองเปลี่ยนที่กิน อิ่มตาอิ่มใจ เพราะปกติกินข้าวราดแกงข้างถนนก็สุดหรูแล้ว พอแก่ตัว กินยากหน่อย ทำกินเองเสียส่วนใหญ่ จะได้ไม่เจอผลชูรส น้ำมันล้นจาน หวานเลี่ยนคอ และไม่ค่อยสะอาดอีกต่างหาก พอไปกินแบบนี้ก็สบายใจไปอีกแบบ
 



Create Date : 27 กรกฎาคม 2562
Last Update : 27 กรกฎาคม 2562 18:44:43 น.
Counter : 538 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments