All Blog
พระบรมมหาราชวัง
พระบรมมหาราชวัง

ครั้งนั้น ในอดีตกาลครั้งที่เราคนไทยหนีภัยสงครามจากเมืองหลวงเก่าแก่ กรุงศรีอยุธยา รอนแรมมาตั้งรกรากใหม่ที่กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร 15 ปี แล้วมีการโยกย้ายราชธานีมายังอีกฟากฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่า ฝั่งบางกอก หรือเกาะรัตนโกสินทร์
ณ ที่แห่งนี้ได้วางศิลาฤกษ์อย่างถูกต้องตามแบบแผนโบราณราชประเพณี เพื่อหวังให้บ้านเมืองได้เจริญรุ่งเรือง แล้วทุกสิ่งเป็นไปตามที่คาดหวังทุกประการ
 
พ.ศ. 2325 ครั้งที่รัชกาลที่ 1 ปฐมบรมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี ได้มาสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ฝั่งบางกอก ทรงสร้างที่ประทับสำหรับพระมหากษัตริย์ ครั้งนั้นเรียกว่าพระราชวัง ครั้นต่อมารัชกาลที่ 4 ทรงให้เรียกว่า พระบรมมหาราชวัง เพื่อป้องกันความสับสนกับพระราชวังของวังหน้า
ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีพระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ วังหลวงหรือพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับของพระองค์ วังหน้าของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวให้เรียกพระบวรราชวัง
พระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับและว่าราชการของรัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 5
ถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป พระตำหนัก พระที่นั่งยังคงสง่างดงามและมิได้จางหายไป ถึงแม้จะไม่ได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์แล้ว แต่ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของบ้านเมือง
            เมื่อการท่องเที่ยวขยายตัว ทั้งคนไทยและต่างชาติต่างหวังใจกันว่า ขอให้ได้ชื่นชมเพื่อเป็นบุญตาสักครั้งหนึ่งเถิด
บางครั้งรอบตัวคราคร่ำเนืองแน่นไปด้วยคนจีน จนอาจคิดว่า นี่เราหลงเข้ามาในกรุงปักกิ่ง ดังนั้น วันสำคัญ เลี่ยงได้ให้เลี่ยงเถอะ
ต่างชาติมากันมากมายเช่นนี้ แล้วคนไทยอย่างเราจะไม่มาได้เยี่ยงไรกันนิ



Create Date : 24 กันยายน 2562
Last Update : 24 กันยายน 2562 5:54:24 น.
Counter : 416 Pageviews.

1 comment
620923 เที่ยววัดพระแก้ว
620923 เที่ยววัดพระแก้ว
            หลังจากพลาด อดชมจิ๋นซีฮ่องเต้ สองคนปู่ย่าพากันเดินตุรัดตุเหล ย่าบ่นเหมือนหมีกินผึ้งที่ไม่อาจทำในสิ่งที่ตั้งใจได้ ไม่เป็นไร เบนเข็ม เปลี่ยนทิศ ด้วยแถบนี้มีที่ให้เที่ยวมาก
            ตั้งใจไปวัดพระแก้วแทน แต่ผ่านวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษณ์ เรียกย่อว่า วัดมหาธาตุ น่าแปลกที่ไม่เคยเดินเข้าไปภายในวัดเลย เฉียดไปเฉียดมา วันนี้เข้าไปซะหน่อย ผิดหวังนิดหน่อย เข้าประตูที่ไม่มีอะไรให้ชม เดินต่อไป เห็นตึกสีอิฐ ตั้งใจอ่าน นี่คือศูนย์วิปัสสนา
            แต่เดิมตึกสีสวยสะดุดตานี้เป็นหอสมุดของรัชกาลที่ 5 และ 6 เดินไปเดินมา ไปทะลุถนนพระจันทร์ เลยเดินซะไกลกว่าจะถึงวัดพระแก้ว เป้าหมายที่ตั้งใจ
            กว่าจะได้เข้าประตูวัด เดินอ้อมไปอ้อมมา เพราะนักท่องเที่ยวต้องผ่านประตูสแกนสิ่งแปลก
ปลอมซะก่อน ฝนตกพรำ หลบฝนดูพิพิธภัณฑ์ผ้า สวยงามมาก
            คนไทยเข้าชมฟรี ต่างชาติคนละ 500 บาท แถวคนไทยมีเพียงเราสอง คนจีนทั้งนั้นที่มากับทัวร์ ฝรั่งตาน้ำข้าวมีประปราย ส่วนใหญ่มากับครอบครัว
            วันนี้นักท่องเที่ยวน้อยกว่าที่มาครั้งก่อน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร คนจีนเสียงดังพอควร ทั้งที่มีป้ายเขียนชัดเจนว่าไกด์ต้องคอยห้าม จะมีรุ่นเดอะที่เสียงดัง
            ที่วัดโพธิ์จะมีถุงพลาสติคให้ใส่รองเท้าเมื่อจะเข้าโบสถ์ ที่นี่ไม่มี คงไม่กลัวรองเท้าหาย
            วัดพระแก้วสวยงามอลังการจริง ๆ ทุกสิ่งล้วนประดิษฐ์ตกแต่งอย่างงดงาม ประณีต ละเอียดลออ สมควรมาเที่ยว
            ถึงจะมีต่างชาติมากกว่าคนไทย แต่ที่นี่เป็นถิ่นของคนไทย ที่คนไทยควรจะเที่ยวชมสักครั้ง

 



Create Date : 23 กันยายน 2562
Last Update : 23 กันยายน 2562 17:11:48 น.
Counter : 514 Pageviews.

1 comment
620923 วันจันทร์ฝนพรำ จิ๋นซีไม่ให้เข้าพบ
620923 วันจันทร์ฝนพรำ จิ๋นซีไม่ให้เข้าพบ
            เมื่อไม่มีโอกาสไปถึงเมืองซีอาน เพื่อชมสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ แล้วพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเปิดให้ชม ขนกันมาจากเมืองจีนเชียวนะ เป็นบุญตาบุญใจจริง ๆ แล้วทำไมจะไม่ไปล่ะ จริงไหม
            ฝนตกหนักแทบทุกวันที่รู้ข่าว หาฤกษ์ดี ๆ ไม่มีเลย วันนี้แหละ ลุยกันเลย เตรียมร่มคนละคัน  
            นั่งรถปรับอากาศสาย 80 ไปแวะกินมื้อกลางวันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กันก่อน รำลึกถึงความหลังครั้งที่คนที่บ้านเรียนปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์
อะไร ๆ มันเปลี่ยนไปเยอะ ได้ข่าวมาว่า ยักษ์ใหญ่จะมาเปิดตึก เปิดร้านอาหารหรู แต่โดนประท้วง ที่นี่ไม่ใช่ที่ของพวกศักดินานะ ไม่เหมือนตามโรงพยาบาลใหญ่ที่โดนยึดพื้นที่ไปหมดแล้ว
            ใครก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเจตนาเช่นไร หลายสิ่งได้สืบทอดต่อกันมาในสายเลือดของนักศึกษา รูปปั้น ประติมากรรมที่แสดงออกถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ต้องการเผด็จการ มีให้เห็นเพื่อเตือนใจ ถึงการต่อสู้ทางการเมือง บรรดาคุณหนูคงชอบเรียนที่อื่นมากกว่าที่นี่เป็นแน่
            ถึงเวลาไปหาจิ๋นซีฮ่องเต้กันแล้ว จะได้เขียนโม้อวดเพื่อน
            เอาล่ะซิ ป้ายด้านหน้าบอกว่า ปิดวันจันทร์ อังคารและวันนักขัตฤกษ์ หัวใจหล่นตุ๊บไปกองที่ตาตุ่มทันที เรียกว่า ไม่รู้จักถามอากู๋ก่อน ไม่ดูฤกษ์พานาที ไม่ถามหาดินฟ้าอากาศพยากรณ์กันเลย
            ขอบอกวันนี้ฤกษ์ไม่ดีเอามาก ๆ ครั้นจะนั่งเรือกลับ ปรากฏว่าเป็นวันซ้อมใหญ่ ปิดทางเดินเรือแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เป็นไร วันพระไม่ได้มีหนเดียว คงมีโอกาสได้พบจิ๋นซีฮ่องเต้บ้าง เพราะเปิดถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2562
อย่าลืมล่ะ ว่าอย่ามาวันจันทร์ อังคารและวันนักขัตฤกษ์ เพราะจิ๋นซีฮ่องเต้ต้องหยุดพักผ่อน

 



Create Date : 23 กันยายน 2562
Last Update : 23 กันยายน 2562 16:30:25 น.
Counter : 454 Pageviews.

0 comment
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ถ้ายังไม่หมดแรง ให้เดินต่อไปยังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่ที่ไม่ควรพลาด หรือไม่หาเวลาว่างมาเที่ยวในวันต่อไป
บริเวณแถบนี้น่าเดินเล่นมากมาย หลากหลายที่หลากอารมณ์
คนที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงได้ฟื้นความหลัง อาจต้องมากันหลายครั้งหน่อย จึงจะเดินเล่นได้ครบทุกแห่ง
จากวังหน้าในรัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 5 ได้แปรเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุ ในรัชกาลที่ 7 เพื่อให้รุ่นลูกหลานได้เรียนรู้อดีตอันรุ่งโรจน์แต่เก่าก่อน พลอยให้ได้รู้ว่า แต่กาลก่อน มีวังหน้า ผู้มีความสำคัญรองจากพระมหากษัตริย์
 
จากป้ายประวัติพิพิธภัณฑ์ของกรุงเทพมหานครได้แสดงว่า รัชกาลที่ 4 ทรงสร้างพิพิธภัณฑ
สถานส่วนพระองค์จัดเก็บศิลปะโบราณวัตถุและเครื่องราชบรรณาการ
พอมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ใช้ศาลาสหทัยสมาคม (หอคองคอเดีย) ในพระบรมมหาราชวัง จัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชน
ครั้นยกเลิกวังหน้า ในรัชกาลที่ 5 ตึกของกรมวังหน้าไม่ได้ใช้ประโยชน์และชำรุดทรุดโทรม จึงรื้อทิ้ง จะลงทุนบูรณะก็ไม่เป็นประโยชน์อันใด อีกทั้งตำแหน่งวังหน้าไม่มีอีกแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีสถานที่สำหรับตำแหน่งนี้อีกต่อไป
รัชกาลที่ 7 ได้ปรับปรุงตึกวังหน้าเดิมให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับพระนคร โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตำแหน่งนายกราชบัณฑิตยสภา เป็นแม่งาน
พิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนจึงตั้งอยู่ที่ตึกวังหน้าเดิม พระที่นั่งและหมู่พระวิมานในวังหน้าสามองค์ในพระราชวังบวรสถานมงคล จวบจนถึงปัจจุบัน
พระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน แสดงประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ด้านหลังแสดงประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี สมัยก่อนประวัติศาสตร์
อาคารมหาสุรสิงหนาทแสดงประติมากรรมสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงสมัยรัตนโกสินทร์
อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์แสดงก่อนสมัยพุทธศตวรรษที่ 18
อาคารหมู่พระวิมานแสดงประณีตศิลป์และชาติพันธุ์วิทยาจัดแสดงเครื่องดนตรี เครื่องถม เครื่องถ้วย เครื่องทอง เครื่องมุก เครื่องไม้จำหลัก เครื่องสูง ผ้าโบราณ หัวโขน หุ่นกระบอก ฯลฯ
อาคารโรงราชรถเก็บราชรถที่ใช้เคลื่อนย้ายพระบรมศพและเครื่องประกอบในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ชื่อของตึกกรมวังหน้า ได้แก่ พระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรค์ พระที่นั่งมังคลาภิเษก พระวิมาน พระตำหนักแดง ศาลาลงสรง
ที่นี่อาจต้องเสียค่าผ่านประตูบ้าง บางคนขอถ่ายรูปแค่ด้านนอกก็เพียงพอ



Create Date : 23 กันยายน 2562
Last Update : 23 กันยายน 2562 9:43:13 น.
Counter : 490 Pageviews.

1 comment
ภาพวาดเรื่องรามเกียรติ์ตามพระระเบียงวัดพระแก้ว
ภาพวาดเรื่องรามเกียรติ์ตามพระระเบียงวัดพระแก้ว
พระระเบียงเป็นเสมือนกำแพงวัดมีภาพเขียนเรื่องรามเกียรติ์จนจบเรื่อง รวม 178 ภาพ และคำบรรยายใต้ภาพเพื่อให้เข้าใจวรรณกรรมที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 1
ให้คนไทยได้อ่าน
 
แทรกรูป s6300182
ภาพวาดเรื่องรามเกียรติ์ตามพระระเบียง
 
เรื่องย่อรามเกียรติ์
รามเกียรติ์เป็นวรรณกรรมที่ทรงคุณค่า น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้อ่าน ยิ่งคนรุ่นใหม่ ถ้าไม่เป็นภาคบังคับ คงไม่ใส่จะเรียนรู้ ทั้งที่เป็นเรื่องที่สนุกสนานมาก
ถ้ารู้เรื่องย่อ คงทำให้การชมภาพรอบพระระเบียงเป็นไปอย่างน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ท้าวทศรถกษัตริย์กรุงอโยธยา มีพระมเหสี 3 องค์ คือ นางเกาสุริยา นางไกยเกษีและนางสมุทรเทวี วันหนึ่งท้าวทศรถไปรบกับยักษ์ปทูตทันต์ โดยนางไกยเกษีตามเสด็จไปด้วย  
ขณะรบกัน ยักษ์แผลงศรไปถูกเพลารถของท้าวทศรถหัก นางไกยเกษีรีบกระโดดลงจากรถ เอาแขนของนางสอดแทนเพลารถ เมื่อท้าวทศรถฆ่ายักษ์สำเร็จ จึงประทานพรว่า หากนางปรารถนาสิ่งใด พระองค์จะประทานให้
ท้าวทศรถครองราชสมบัติมานาน แต่ไม่มีโอรส จึงทำพิธีกวนข้าวทิพย์ กลิ่นข้าวทิพย์หอมไปถึงกรุงลงกา ทศกัณฐ์จึงให้นางยักษ์กากนาสูรแปลงร่างเป็นอีกา โฉบเอาข้าวทิพย์์ไปได้เพียงครึ่งก้อน   ทศกัณฐ์นำข้าวทิพย์ให้นางมณโฑมเหสี นางมณโฑตั้งครรภ์ประสูติพระธิดา
ขณะประสูติพระธิดาร้องว่าผลาญราพณ์สามครั้ง พิเภกและโหรอื่น ๆ ทำนายว่าเป็นกาลีบ้านกาลีเมือง ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำพระธิดาใส่ผอบ ลอยน้ำไป
พระฤาษีชนกเดิมเป็นราชาแห่งเมืองมิถิลาพบเข้า ได้เก็บผอบฝังดิน ฝากแม่พระธรณีไว้ 16 ปี จึงขุดผอบขึ้นมา เป็นสาวสวยให้ชื่อว่าสีดา แล้วกลับไปครองเมืองมิถิลาดังเดิม และจัดพิธียกศรหาคู่ครองให้นางสีดา  
พระรามยกศรได้ จึงอภิเษกกับนางสีดา และพานางกลับไปอยู่ที่กรุงอโยธยา
ครั้งที่ทศกัณฑ์ขโมยข้าวทิพย์ไปเพียงครึ่งนั้น ยังเหลืออีกครึ่งท้าวทศรถได้แบ่งให้มเหสี
ต่อมาทั้งสามตั้งครรภ์ และให้กำเนิดโอรส นางเกาสุริยาประสูติพระราม นางไกยเกษีประสูติ พระพรต นางสมุทรเทวีประสูติพระลักษณ์กับพระสัตรุด    
เมื่อท้าวทศรถคิดจะยกราชสมบัติให้พระรามปกครอง แต่นางไกยเกษีทูลขอเมืองอโยธยาให้ พระพรตโอรสของตน และขอให้พระรามออกเดินป่าเป็นเวลา 14 ปี
ท้าวทศรถเคยประทานพรไว้ จำต้องรักษาวาจาสัตย์ พระรามยินยอมออกจากเมืองโดยดี ซึ่งพระลักษณ์์กับนางสีดาขอตามเสด็จไปด้วย ส่วนท้าวทศรถตรอมพระทัยจนสิ้นพระชนม์
พระราม พระลักษมณ์ และนางสีดาไปตั้งอาศรมในป่า วันหนึ่งนางสำมนักขาน้องสาวของทศกัณฐ์ได้พบพระราม ผู้มีรูปโฉมงดงามก็หลงรัก เข้าไปเกี้ยวพาราสีพระราม และทำร้ายนางสีดา
พระลักษณ์โกรธมาก จับนางมาตัดหู จมูก มือ และเท้าแล้ว ปล่อยตัวไป นางไปฟ้องพี่ชายทั้งสาม คือ ทูษณ์ ขร ตรีเศียร ให้ไปรบกับพระราม แต่พ่ายแพ้โดนพระรามฆ่าตาย
นางสำมนักขาไปเล่าให้ทศกัณฐ์พี่ชายฟังว่า พบนางสีดาสวยงามมาก จนทศกัณฐ์อยากได้นางสีดาเป็นชายา จึงออกอุบายให้มารีศแปลงตัวเป็นกวางทองมาล่อ
นางสีดาหลงกล ขอให้พระรามไปจับมาให้ พอมารีศถูกศรพระราม กลับทำเสียงพระรามร้องให้ช่วย นางสีดาจึงขอให้พระลักษณ์ตามไป  
ทศกัณฐ์ได้โอกาสเข้ามาลักพานางสีดาไปกรุงลงกา พระราม พระลักษณ์เสด็จออกติดตามนางด้วยความห่วงใย จนได้พบกับหนุมานและสุครีพ   
สุครีพขอให้พระรามฆ่าพาลีผู้เป็นพี่ชายของตนเสียก่อน จึงจะช่วยทำสงครามกับทศกัณฐ์
ทำไมพี่น้องสุครีพคิดฆ่าพาลีผู้พี่ ด้วยมีเรื่องเข้าใจผิดกัน
ครั้งหนึ่งพระอินทร์มอบผอบใส่นางดารามาให้สุครีพ แต่พาลีริบไปเป็นของตน อีกครั้งเมื่อ
พาลีเข้าไปสู้รบกับควายทรพีในถ้ำ แล้วสั่งสุครีพให้คอยดูอยู่ปากถ้ำ ถ้าเลือดที่ไหลออกมาข้นเป็นเลือดควาย ถ้าเลือดใสเป็นเลือดของตน ให้สุครีพปิดปากถ้ำเสีย  
สุครีพเฝ้าดูอยู่ เห็นเลือดที่ไหลออกมาใส เพราะน้ำฝนชะ คิดว่าพาลีตาย จึงเอาหินปิดปากถ้ำไว้ พาลีเข้าใจว่าสุครีพคิดฆ่าตน จึงขับไล่สุครีพออกจากเมือง
พระรามได้แผลงศรไปฆ่าพาลีตาย สุครีพจึงเกณฑ์ไพร่พลลิงมาช่วยพระรามรบ
เมื่อทศกัณฐ์ได้นางสีดา เกิดฝันร้าย พิเภกทำนายว่าทศกัณฐ์จะมีเคราะห์ ให้ส่งนางสีดาคืนไปเสีย ทศกัณฐ์โกรธมากขับไล่พิเภกออกจากเมือง พิเภกจึงมาสวามิภักดิ์กับพระราม ช่วยให้คำแนะนำ
สงครามระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์นานหลายปี จนญาติพี่น้องของทศกัณฐ์ตายในสงคราม ทศกัณฐ์ต้องออกรบเอง พระรามแผลงศรถูกหลายครั้งแต่ทศกัณฐ์ไม่ตาย เพราะถอดดวงใจฝากพระฤาษีโคบุตรไว้   
หนุมานกับองคตทูลอาสาไปหลอกเอากล่องดวงใจมาจนได้ พอพระรามแผลงศรไปปักอกทศกัณฐ์ หนุมานขยี้กล่องดวงใจจนแหลกลาญ ทศกัณฐ์จึงสิ้นชีวิต   
พิเภกพานางสีดามาคืนให้พระราม และเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ นางสีดาจึงขอทำพิธีลุยไฟ พระรามตั้งให้พิเภกครองกรุงลงกา แล้วพระรามเสด็จกลับอโยธยาพร้อมด้วยนางสีดาและพระลักษณ์
นางอดูลปีศาจยักษ์ได้แปลงร่างเป็นสาวใช้นางสีดา ขอร้องให้นางสีดาวาดรูปทศกัณฐ์ พอดีพระรามเสด็จมา นางสีดาตกใจพยายามลบเท่าไรก็ลบไม่ออก จึงรีบซ่อนไว้ใต้บรรทม ทำให้พระรามบรรทมไม่หลับ เมื่อเห็นรูปทศกัณฐ์ พระรามกริ้วมากหาว่านางสีดามีใจรักทศกัณฐ์ สั่งให้พระลักษณ์นำนางไปประหาร แต่พระลักษมณ์ปล่อยนางไป นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤาษีตนหนี่ง จนประสูติโอรสองค์หนึ่ง คือ พระมงกุฎ
วันหนึ่ง นางสีดาไปอาบน้ำที่ลำธารเห็นลิงเอาลูกเกาะหน้าเกาะหลังพาไปไหนมาไหนด้วย    นางจึงกลับไปอุ้มโอรสที่ฝากพระฤาษีเลี้ยงไว้มาด้วยเมื่อพระฤาษีลืมตาขึ้นมาจากการบำเพ็ญตบะ ไม่เห็นพระมงกุฎ   จึงชุบกุมารขึ้นอีกองค์หนึ่งชื่อว่า พระลบ  
นางสีดาจึงมีโอรสสององค์พระฤาษีได้สั่งสอนศิลปวิทยาให้กุมารทั้งสองจนเก่งกล้า
 
  พระรามได้ทำพิธีปล่อยม้าอุปการ ม้าผ่านเข้าไปในป่า พระมงกุฎเห็นเข้าจับมาขี่เล่น พระพรตแผลงศรไปจับตัวพระมงกุฎได้ พระรามสั่งให้นำตัวไปประจานเจ็ดวัน แล้วให้ประหารเสียแต่ พระลบมาช่วย
พระรามออกรบด้วยตนเองแต่ไม่สามารถเอาชนะ จนกระทั่งรู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน   
พระรามไปอ้อนวอนนางสีดาให้กลับกรุงอโยธยา แต่นางสีดาไม่ยอม พระรามจึงทำอุบายว่าสิ้นพระชนม์   
นางสีดาตกใจรีบกลับมาเยี่ยมพระศพ พระรามจึงออกมาจากโกศจับนางสีดาไว้ นางสีดาจึงอธิษฐานแทรกแผ่นดินหนีไปอยู่เมืองบาดาล
พิเภกแนะนำพระราม ออกเดินป่าอีกครั้ง เพื่อสเดาะเคราะห์ พระรามเสด็จพร้อมพระลักษณ์ ได้ฆ่ายักษ์ตายอีกหลายตน ครั้งสุดท้าย พระรามชนะท้าวอุณาราช จึงเสด็จกลับกรุงอโยธยา
พระอิศวรสงสารพระราม จึงช่วยไกล่เกลี่ยให้นางสีดายอมคืนดีกับพระราม จากนั้นพระรามกับนางสีดาได้กลับมาครองกรุงอโยธยาอย่างมีความสุข

 



Create Date : 22 กันยายน 2562
Last Update : 22 กันยายน 2562 9:10:42 น.
Counter : 867 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments