นกละเมอ
Group Blog
 
All blogs
 

ชีวิตเสรี - อยู่กับความรู้สึกตัว ความทุกข์จะไม่เกิด

อยู่กับความรู้สึกตัว ความทุกข์จะไม่เกิด

เราจะต้องเจริญสติทุกอิริยาบถ ทุกเวลานาที สติ คือความรู้สึกตัวทั่วถึง ต้องมีในทุกขณะที่กำลังทำ พูด คิด ความหลง (โมหะ) ก็จะหายไป การหลงความคิดหรือหลงอารมณ์ซึ่งทำให้เกิดทุกข์ ก็เกิดขึ้นไม่ได้
การเห็นตัวเรา คือเห็นความรู้สึกตัวเคลื่อนไหว จะมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะรู้สึกอยู่กับตัวเราเอง ความคิดที่ทำให้เป็นทุกข์จะไม่เกิดขึ้น จึงเรียกว่า เห็นธรรมะ เมื่อท่านทำกิจการงาน พูดหรือคิดอะไรก็ให้มีความรู้สึกตัวเสมอ ให้รู้อยู่กับความคิดในเรื่องนั้นเพียงอย่างเดียวจิตใจจะไม่ไปคิดเรื่องอื่น
แต่ถ้าท่านไม่มีสติ ไม่มีความรุ้สึกตัว ความหลง (โมหะ) ก็จะเข้ามาแทนที่ มันจะหลงไปตามอารมณ์หลายหลาย เพราะฉะนั้น ท่านจงฝึกจิตให้มีความรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ความทุกข์ วุ่นวาย วิตกกังวลจะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะเราได้เห็นความคิดที่มันเกิดขึ้น แต่เราไม่เข้าไปอยู่ในความคิดนั้น ดูเห็นมันแล้ว ให้ปล่อยวางมัน มาอยู่กับความรู้สึกตัวความคิดที่จะทำให้เป็นทุกข์ก็ดับไป
ถ้าเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความคิดเราจะไม่เห้นความคิดเลย มันจะปรุงแต่งไปมากมายหลายเรื่องราว จนสับสนวุ่ยวายไปหมดทางออกดีที่สุด ควรเฝ้ามองดูความคิดเฉยๆ อย่าเข้าไปเล่นกับมัน เดี๋ยวความคิดนั้นก็จางหายไปเอง ไม่ต้องไปจ้องหรือเพ่งมันด้วยความเครียด เพียงแค่เฝ้าดูความคิดแบบสบายๆ เหมือนนั่งดูกระแสน้ำ ที่ไหลริน เย็นฉ่ำ แต่เราไม่กระโจนลงไปในน้ำนั้น เราก็ไม่เปียก ไม่เดือนดร้อน
เมื่อความคิดไร้สาระที่เราไม่ต้องการเกิดขึ้นมา จงปล่อยให้มันออกไปจากจิต ถ้าเราไม่ไปสนใจปรุงแต่งมัน ก็จะดับไปได้เอง แล้วจงหันมาอยู่กับความรู้สึกตัว เราจะเห็นความคิดที่ดี หรือไร้สาระอยู่ทุกขณะ โดยสามารถเลือกคัดสรรได้ว่า เราจะเอามาคิดต่อไปหรือไม่ ถ้าไม่แก็สลัดทิ้ง ละมันออำไปจากจิต




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2551    
Last Update : 28 สิงหาคม 2551 14:44:13 น.
Counter : 373 Pageviews.  

ชีวิตเสรี - การปฏิบัตธรรมทุกเวลา

การปฏิบัตธรรมทุกเวลา

คือ การทำงาน หน้าที่ และการใช้ชีวิตให้บริสุทธิ์ ยุติธรรมถูกต้องที่สุด ต้องมีทั้งสติ สมาธิ ปัญญา ควบคู่กันไปทุกเวลาที่เราหายใจ คือ ในขณะที่เรากำลังคิด พูดคุยหรือทำการงานทุกสิ่ง ให้มีสติระลึกรู้อยู่กับการกระทำนั้นๆ เรียกว่ามีสติ โดยมีจิตใจที่ตั้งมั้นเป็นอารมณ์เดียว เรียกว่ามีสมาธิ ขณะนั้นให้ดูรู้เห็นอารมณ์ ความคิดตัวเองว่า มันคิดอะไร ต้องรู้เท่าทันความคิดปรุงแต่งนั้น เรียกว่ามีปัญญาเราต้องฝึกจิตรวบรัดรวบยอดแบบนั้มันถึงจะรวดเร็ว ละอารมณ์ต่างๆ ได้ทันที
ต้องรักษาจิต เปิดใจให้กว้าง ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตว่า มันเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่ม่ใครมีอำนาจที่จะไปบังคับกำหนดมันได้ เพราทุกอย่างมันไม่เที่ยงแท้แน่นอนอะไร ทั้งเรื่องที่เราปรารถนาและไม่ต้องการ แท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่อยู่คู่โลกนี้มานานแล้ว ทุกคนจะต้องประสบพบเจอกับมัน ไม่ใช่เกิดมาจากอำนาจของเทวดาฟ้าดินหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเลย มันเป็นของธรรมดาที่เราต้องยอมรับสภาพความจริงว่ามันเป็นของมันอยู่อย่างนั้นเอง แล้วจิตใจเราจะไม่ไปยึดถือเอาจริงเอาจังกับเรื่องราวปัญหาต่างๆ โดยการทำหน้าที่การงานให้ดีที่สุด แล้วก็วางมัน ไม่เอาใจไปผูกพันหมายมั่นความทุกข์ใจจะไม่มี
ให้ท่านมีสติระลึกรู้อยู่กับปัจจุบันขณะ ถ้ารู้สึกเป็นทุจข์หงุดหงิดฟุ้งซ้านเมื่อไรให้ท่านสลัดอารณ์ดีหรือร้าย ได้เสีย ออกไปจากใจทันที ถ้าท่านสัดทิ้งให้หลุดไปจากใจได้เมื่อใด ท่านก็จะรู้แจ้งธรรมะเมื่อนั้นท่านจะหมดทุกข์ทันที และจะได้รับสิ่งดีที่สุดในนาทีที่อารมณ์ความทุกข์สลัดออกไปจากใจได้ จึงจำเป็นที่ท่านต้องฝึกจิตของท่านให้เป็นเช่นนี้ ต้องตั้งใตฝึกนะ




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2551    
Last Update : 28 สิงหาคม 2551 14:43:29 น.
Counter : 425 Pageviews.  

ชีวิตเสรี - การเดินจงกรม

การเดินจงกรม

เดินเพื่อให้มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมอยู่กับก้าวเดินนั้นอันเป็นปัจจุบัน ขณะที่สดใสงดงาม ไม่มีอดีต ไม่คิดถึงอนาคต คิดอยู่กับการเดินเท่านั้น จิตเราจะตั้งมั่นเป็นอารมณ์เดียว จึงนับว่าเราได้ทั้งสติและสมาธิไปพร้อมกัน อันจะเป็นทางนำมาซึ่งความสงบและสันติสุข
ถ้าท่านมีปัญหาอะไรที่ยังแก้ไขไม่ได้ ให้เดินจงกรมสักระยะหนึ่ง สัก ๑๐ หรือ ๒๐ นาทีก็ได้ พอจิตรวมตัวสงบดีแล้ว ก็จะเกิดการผ่อนคลาย เบาสบายขึ้น ให้นำปัญหาเรื่องนั้นออกมาคิดพิจารณาดูการเดินไปคิดไปจะขบคิดได้ดีมาก จะคิดออกได้อย่างง่ายดาย
ถ้าท่านมีเวลาขอให้เดินจงกรมให้มากๆ ออกก้าวเดินด้วยอาการผ่อนคลายและสงบสุข พร้อมกับยิ้มน้อยๆ ด้วยความปีติเบิกบานใจ ควรเดินเหมือนกับว่าเรามีเวลาว่างอย่างยิ่ง แบบไม่มีอะไรต้องทำเลย ปล่อยจิตใจให้อีสระเสรี ว่างเปล่า
ในขณะที่ก้าวเดิน จงสลัดทิ้งความกังวล ความเศร้า ออกไปจากตจิตใจ เพื่อให้จิตของเราอยู่อย่างสันติสุข สงบและว่างเปล่าที่สุด ควรก้าวเดินแต่ละก้าวด้วยอาการเบาสบายที่สุด เหมือนกับเราเดินอยู่คนเดียวในโลกนี้ ไม่ต้องคิดถุงใคร
การเดินจงกรม ให้ทำใจเหมือนการเดินเล่นแบบสบายๆ ไม่ต้องเกร็งหรือเคร่งเครียด ไม่มีกมรกำหนดเป้าหมายเวลาแน่นอนที่จะไปถุง ตงระลึกอยู่เสมอว่า แต่ละก้าวเดินคือวิถีขีวิตอันนำไปสู่สุขสงบสันคิภาพ จงเดินช้าๆ สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อนเร่งรีบ เพราะเวลานี้ชีวิตเราไม่ต้องไปผูกมัดกับอะไร ปล่อยจิตให้เบาสบาย อิสระที่สุด เดินโดยที่ไม่ต้องไปอยากปรารถนาเอาอะไร หรือเข้าถึงอะไรทั้งนั้น จงเดินจงกรมเพื่อจงกรมเท่านั้น ไม่เอาอะไร สลัดทิ้งให้หมด




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2551    
Last Update : 27 สิงหาคม 2551 15:37:02 น.
Counter : 362 Pageviews.  

ชีวิตเสรี - รู้เหตุแห่งทุกข์ จึงรู้วิธีดับทุกข์

รู้เหตุแห่งทุกข์ จึงรู้วิธีดับทุกข์

พระพุทธเจ้าสอนว่า ความรู้ใดเป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ รู้ในความทุกข์ รู้ความดับทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ซึ่งพวกเราจะต้องมีความเห็นให้ถูกต้อง ตาม ๔ ข้อนี้ แล้วต้องหาทางแก้ไขปัญหาขีวิตและความทุกข์ใจตามแนวทางนี้ ไม่ใข่มัววิ่งหาตัวบุคคล หรือสิ่งภายนอกอื่นๆ ไปอธิษฐาน อ้อนวอนขอให้ได้ตามใจเรา ตามความอยากได้ เมื่อไม่รู้สาเหตุของการเกิดทุกข์ จึงไปหลงเชื่อสิ่งอื่น หรือตัวบุคคล้าอนผิดๆ ให้เราลุ่มหลงมัวเมางมงาย ทำให้ต้องเสียเวลาถูกหลอกให้เสียเงิน ปัญหาความทุกข์ก็แก้ไขไม่ได้ จึงโง่ต้องตกเป็นเหยื่อให้เขาหลอก เพราะไม่รู้จักขีวิตตัวเองตามที่เป็นจริง
แม้มีความรู้ทางโลกมากมาย หรือเป็นใหญ่เป็นโต ก็ยังไม่รู้จักแนวทางพุทธธรรมดับทุกข์ที่ถูกต้อง การศึกษา ปฏิบัติธรรม ฝึกจิตใตทำเพื่อให้เราได้รู้จักชีวิตตัวเรานั่นเอง เป็นการเรียนรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วทั้งชีวิตมันไม่มีอะไรเป็นแก่นสารสาระมั่นคงยั่งยืนแลย ก่อนที่เราจะเกิดมาก็ไม่มีอะไร พอเกิดมาก็มาแต่ตัวเปล่าเปลือย ที่เรารู้สึกว่ามีอะไรมากมายในชีวิต ก็เพิ่งมาหาเอาใหม่ พึ่งมามีทีหลังนี่เอง (แต่เดิมมาก็ไม่มี)
เราต้องวิ่งวุ่นดิ้นรนแสวงหากันทั้งชีวิต ด้วยความเหน็ดเหนื่อยมื่อยล้า หาสิ่งของภายนอก แล้วเป็นทุกข์วุ่นวายไม่สิ้นสุด ความทุกข์มีมากกว่าความสุข ต้าท่านหาของภายในให้มาก คือ หาความสุขสงบทางใจ แล้วลดละความอยากได้ออกไปให้มากที่สุด รู้จักหยุด รู้จักพอ เมื่อนั้นจิตใจของท่านก็จะเกิดความสุขที่แท้จริง จิตจะเป็นอิสระไม่มีเรื่องราวต่างๆ มาทิ่มแทงใจ




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2551    
Last Update : 27 สิงหาคม 2551 15:36:31 น.
Counter : 545 Pageviews.  

ชีวิตเสรี - ทุกสิ่งเป็นมายาลวง ไม่ควรยึดถือ

ทุกสิ่งเป็นมายาลวง ไม่ควรยึดถือ

ตามธรรมดาจิตใจของคนเรา ชอบเอาเรื่องเก่าที่ผ่านไปแล้วมาคิด และชอบฟุ้งซ่านคิดเรื่องข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง ธรรมชาติจิตชอบคิดอยู่แบบนี้ แต่ผู้มีปัญญาจะไม่เข้าไปคิดปรุงแต่ง ไม่ไปยึดถือเอาจริงเอาจังกับความคิดนั้น จะรู้เท่าทันว่าธรรมชาติของจิตมันต้องคิดเราก็ฝึกจิตให้คิดอยู่ในปัจจุบัน มันจะได้ไม่ฟุ้งซ่านวุ่นวายให้ความคิดอยู่กับการกระทำ คำพูด ในขณะปัจจุบันนั้น จะได้สติ สมาธิ ตามธรรมชาติที่จิตมันอยู่กับสิ่งนั้น
ระวังรักษาจิต ไม่ให้ไปสร้างความอยากขึ้นมา ว่าอยากจะได้ดี มี เป็นแม้ชีวิตเราจะเกิดเรื่องเลวร้าย เช่าน มีคนนินทาว่าร้าย เกิดความสูญเสียพลัดพรากจากกัน หรือเกิดเรื่องที่เราไม่ต้องการ ไม่ปรารุนา เราจ้องทำใจยอมรับสภาพว่า มันเป็นธรรมดาของขีวิต ที่ใครๆ ต้องเจอแบบนี้กันทุกคน มันเป็นหน้าที่ของเราจะต้องฝึกจิตใจให้ปกติอยู่เสมอ มีสติเฝ้ามองดูเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยใจที่สงบ แล้วพิจารณาถุงกฎไตรลักษณ์ ซึ่งทุกชีวิตจะต้องพบเจอกับมัน ไม่อยากได้ก้ต้องได้ ไม่อยากเจอก็ต้องเจอ นั่นคือ ทุกคนต้องพบเจอกับสิ่งไม่แน่นอน ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรยั่งยืนมั่นคง ถ้าไปยึดถือเอามาเป็นของเราก็จะเกิดความทุกข์ขึ้นมาทันที แล้วในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา มันก็เสี่อมสลายหมดไป ไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ชีวิตร่างกายเรา ก้ต้องถูกเอาไปเผ่าหรือถูกฝังด้วย จึงเรียกว่าไม่มีตัวตนที่แท้จริง มีได้พียงสมมุติชั่วคราวเท่านั้น




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2551    
Last Update : 27 สิงหาคม 2551 15:35:57 น.
Counter : 366 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

นกละเมอหลงเวลา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add นกละเมอหลงเวลา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.