|
ชีวิตเสรี - จุดมุ่งหมายที่ถูกต้องในการทำบุญ
จุดมุ่งหมายที่ถูกต้องในการทำบุญ การทำบุญให้ทาน เราต้องมีปัญญารู้ความพอดี เหมาะสมด้วย ให้ทำบุญตามกำลังความสามารถ แต่อย่าให้หลงมัวเมาในบุญมากนัก ไม่ใช่ทำจนตัวเองหมดเนื้อหมดตัวครอบครัวเดือดร้อน อย่าไปลุ่มหลงงมงายในคำโฆษณาชวนเชื่อให้มากนักว่า ถ้าทำบุญมากๆ แล้วจะได้รับผลตอบแทนมีโชคดีสารพัด จึงทำให้เกิดความโลภ อยากจะได้ไม่มีที่สิ้นสุด จิตใจจึงผิดปกติ ไม่สงบร่มเย็น จะเร่าร้อนอยากจะเห็นผลได้รับผลเร็วไว การทำบุญแบบนี้จึงหาความสุขไม่ได้ เพราะหวังผลประโยขน์ตอบแทนด้วยความอยากปรารถนาตามกิเลสความโลภที่เราอธิษฐานเอา ถ้ามันเป็ยจริงได้ตามที่เราขออธิฐาน ป่านฉะนี้ประชาชน พวกเราก็คงจะร่ำรวยโชคดีสุขสบาย กันทั้งประเทศทุกๆ คนหมดแล้ว การทำบุญที่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุด ได้มากที่สุดก็คือการเสียสละความยึดติดผูกพันในทรัพย์สินสิ่งของ จะทำให้ความอยากได้ความโลภของเราลดน้อยเบาบางลง จิตใจเราก้จะร่มเย็นเป็นสุขมีปิติใจ ที่เราได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ได้ช่วยให้สังคมมีความสามัคคีธรรมผาสุขใจ ได้ช่วยส่งเสริมให้ผู้ปฎิบัติดี ปฏิบัติชอบได้สืบทอดคำสอนธรรมะ แล้วนำมาแนะนำสั่งสอนให้เราได้พบแสงสว่างในชีวิต
Create Date : 05 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 5 กันยายน 2551 10:48:24 น. |
Counter : 392 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ชีวิตเสรี - อย่าทำสมาธิอย่างเดียว
อย่าทำสมาธิอย่างเดียว บางคนคิดว่าต้องทำสมาธิอย่างเดียวให้มันสงบมากๆ ลึกๆ แล้วมันจะหมดกิเลสสำเร็จโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องไปพิจารณานึกคิดอะไร จะคิดไม่ได้คิดแล้ววุ่นวาย จะต้องหลบเข้าสมาธิอย่างเดียวควาคิดแบบนี้ยังไม่ถูกต้อง สมาธิเป็นเพียงพื้นฐานของจิต เพื่อให้จิตมีฐานที่มั่นคง แข็งแรงมีรากฐานที่ดี เช่น การตอกเสาเข็มให้แน่นเพื่อก่อสร้างอะไร แล้วจะไม่ล้มจะแข็งแกร่งเพราะพื้นแน่น เราทำสมาธิเป็นครั้งคราวบางเวลาเท่านั้นเท่าที่เรามีเวลาว่างแต่ตามความจริงแล้ว ถ้าเรารู้จักการกำหนด ไม่ว่าทำงาน กิน ดื่ม คิด นึก เดิน นั่ง ทุกอิริยาบถ ให้มีสติกำหนดจดจ่ออยู่กับการกระทำนั้นๆ เราก็จะได้สมาธิตามธรรมชาติ เป็นการทำหน้าที่ของชีวิตได้ถูกต้อง จิตใจจะไม่วุ่นว่าย จะสงบได้ง่าย การทำสมาธิอย่างเดียว ยังไม่สามารถดับทุกข์ทางจิตได้ มันเป็นเพียงหลบปัญหาขณะหนึ่งเท่านั้นเอง พอออกจากสมาธิแล้วจะฟุ้งซ่านเหมือนเดิม จะต้องรู้จักใช้ปัญญาคิดเพื่อปล่อยวาง เราจะต้องมีปัญญาประกอบด้วย เมื่อจิตสงบแล้วต้องรู้จักนำเอาปัญหาชีวิต มาพิจารณาหาทางแก้ไข เราคิดอยู่ด้วยความสงบ จะไม่ทำให้จิตวุ่นเป็นทุกข์ เราคิดเพื่อที่จะปล่อยออกไป ผ่อนคลายออกไป คิดแล้วอย่าไปเก็บเอาไว้ในจิต ต้องรู้จักการเพ่งพินิจพิจารณาถึง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย กฏจองพระไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนไม่จีรังยั่งยืนของทุกสิ่งในชีวิต มันต้องเปลี่ยนแปลงเสมอให้รุ้เท่าทัน
Create Date : 05 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 5 กันยายน 2551 10:47:56 น. |
Counter : 407 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ชีวิตเสรี - มีความเห็น เป้าหมาย ให้ถูกต้อง
มีความเห็น เป้าหมาย ให้ถูกต้อง การปฏิบัติธรรม อย่าไปอยาก ได้ ดี มี เป็นอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องการ ชื่อเสียง ให้คนมารุ้จักศรัทธา กราบไหว้ ไม่เอาผลประโยชน์ด้วยเจตนาหลอกลวงไม่บริสุทธิ์ ไม่อยากเป็นใหญ่ มีลูกศิษย์มากๆ เพื่อวังลาภ สักการะ ทรัพย์สินเงินทอง สิ่งเหล่านี้เป็นของสกปรก โสโครก เน่าเหม็น นำความเสื่อมทรามต่ำช้ามาให้ นักปฏิบัติจะต้องเตือนสติตัวเองเสมอๆ ความเห็นที่ถูกต้อง เพื่อลดละ ทิฏฐิ มานะ ความเห็นแก่ตัวเกื้อกูลช่วยเหลือเห็นใจผู้อื่น ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเห็นว่าธรรมะเท่านั้นที่จะนำพาชีวิตเราให้เป็นสุขในปัจจุบันและอนาคตได้ มีเป้าหมาย เพื่อให้ความ โลภ โกรธ หลง ลดน้อยเบาบางลงไปเรื่อยๆ จนกระทั้งหมดไปจากจิตเรา เพื่อฝึกปฏิบัติเรียนรู้อาการพฤติกรรม ของจิตใจเรา จนสามารถรู้เท่าทันจิตทุกขณะ เพื่อฝึกให้เกิดปัญญา นำไปแก้ปัญหาชีวิต จนดับทุกข์ทางใจได้
Create Date : 04 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 4 กันยายน 2551 9:27:06 น. |
Counter : 383 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ชีวิตเสรี - ถ้ายึดมั่นในศีล จะเพิ่มอัตตา
ถ้ายึดมั่นในศีล จะเพิ่มอัตตา การเคร่งครัดในศีลจนเกินความพอดี จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าเราดีกว่าคนอื่น คนอื่นทำไม่ได้ จะยกตนข่มท่านจะอวดดี จะเห็นว่าคนอื่นสู้เราไม่ได้ ตัวเราจะฟู พองตัวมีทิฏฐิมานะมาก เรารักษาศีลเพื่อ เป็นกรอบ เกราะ ป้องกันไม่ให้เราทำอะไรไปในทางผิด ที่จะทำให้เราเดือนร้อน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น ถ้าศีลดี จะทำให้เราเข้าสู่ความสงบได้ง่าย เพราะรารักษากาย วาจา ให้เป็นปกติ เรียบร้อย จิตใจจึงเป็นสมาธิได้ง่าย
Create Date : 04 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 4 กันยายน 2551 9:16:53 น. |
Counter : 412 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ชีวิตเสรี - สิ่งที่ขัดขวาง กั้นทางสู่ธรรม
สิ่งที่ขัดขวาง กั้นทางสู่ธรรม การตั้งจุดมุ่งหมายผิด เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจ จึงหลงทางว่าต้องการให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก พระพรหม พระอินทร์ เทพ เทวดา เจ้าเข้าทรง ภูต ผี ปีศาจ ต้นไม้ จอมปลวก วิญญาณ ต่างๆ เป็นต้น มาช่วย เราทำการบนบานศาลกล่าว เซ่นไหว้ ทำพิธีขอให้มาคุ้มครองเรา ให้เราร่ำรวย มีความสุข สมความปรารถนาที่เราต้องการ ถูกหวยรวบเบอร์ลอดเตอรี่ เป็นต้น ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วที่พึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งภายนอกตัวเรา เขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเราเขาไม่มีอำนาจอะไรที่จะมาช่วยเหลือเราได้ เพราะเขาเองก็ตกอยู่ภาตใต้กฏเกณฑ์ของธรรมชาติ คือ มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวนเปลี่ยนแปลงแล้วก็ดับไป สิ้นไป ไม่มีอะไรยั่งยืนถาวร ในเมื่อทุกชีวิตทุกสิ่งในโลกนี้ อยู่ภายใต้กฎพระไตรลักษณ์เราจึงไม่สามารถที่จะไปพึ่งพาอาศัยในสิ่งเหล่านี้มาช่วยเหลือเราบางทีเขาเองก็ยังลำบากแย่กว่าเราอีก เรายังอยู่ในฐานะสุขสบายดีกว่าเขาซะอีก ที่พึ่งที่แท้จริงที่จะทำให้เรารอดพ้นจากภัยพิบัติ ความทุกข์ทั้งปวงได้ ก็คือ เราจะต้องอาศัยพึ่งพา สติ ปัญญา ที่มีอยู่แล้วในตัวเรานี่เอง ไม่ต้องไปวิ่งหาที่ไหน ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหามา เพียงแต่ต้องลงทุสด้วยแรงกายในการลงมือปฏิบัติฝึกหัดจิตใจ มีธรรมเป็นที่พึ่งเท่านั้น อย่าไปอธิฐาน เพื่อขอหวังจะได้ เพราะมันจะเป็นความอยากได้ ไม่รู้จักพอ สิ่งใดจะได้ให้มันไปตามเหตุปัจจัย อย่าไปคิดว่า เราไม่มีบารมีเพราะการปฏิบัติไม่ต้องอาศัยบารมี ถ้าเราตั้งเจตนาไว้ถูก มีความเห็นถูก ลงมือฝึก จิตใจให้สงบสุข รู้เท่าทันปัญหา ออกจากความทุกข์ใจได้ เท่ากับบารมีจะเกิดขึ้นทั้นทีทันใด
Create Date : 04 กันยายน 2551 | | |
Last Update : 4 กันยายน 2551 9:12:15 น. |
Counter : 376 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|