Group Blog
 
All Blogs
 
สงครามและสันติภาพ (War and Peace)



สงครามและสันติภาพ (War and Peace)
โดย ลีโอ ตอลสตอย
แปลเป็นไทยโดย วิภาดา กิตติโกวิท
สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น, 1745 หน้า


Tolstoy is a magnificent writer. he is never dull, never stupid, never tired, never pedantic, never theatrical! - James Joyce

There remains the greatest of all novelists - for what else can we call the author of War and Peace - Virginia Woolf

สำหรับคนรักวรรณกรรมย่อมไม่มีใครไม่รู้จัก ‘สงครามและสันติภาพ’ ของตอลสตอย งานเขียนชิ้นเอกเล่มนี้เคยได้รับการถ่ายทอดเป็นภาษาไทยเมื่อนานมาแล้วโดยพลตรีหลวงยอดอาวุธ แต่ฉบับแปลชิ้นนั้นได้ตัดทอนเนื้อหาไปค่อนข้างมาก อีกทั้งภาษาที่ใช้ก็เป็นภาษาเก่าในยุคสมัยนั้น ซึ่งอ่านค่อนข้างยากสำหรับนักอ่านในปัจจุบัน จนเมื่อปีที่แล้ว (2550) วงการหนังสือของเมืองไทยได้มีโอกาสต้อนรับ ‘สงครามและสันติภาพ’ สำนวนแปลใหม่โดยคุณวิภาดา กิตติโกวิท

เนื้อเรื่องใน ‘สงครามและสันติภาพ’ เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1805-1812 ซึ่งเป็นช่วงที่นโปเลียนเดินทัพรุกคืบไปทั่วยุโรป ตอลสตอยพาผู้อ่านไปยังฉากการรบที่ออสเตอร์ลิตซ์ในปี 1805, การรบที่โบโรดิโนในปี 1812, การบุกยึดกรุงมอสโคว์ และการถอยทัพแตกพ่ายของนโปเลียน เขาบรรยายฉากการรบในสมรภูมิต่างๆได้อย่างวิเศษสมจริง อ่านแล้วเหมือนตัวเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ (เฮมิงเวย์เคยบอกว่า ฉากสงครามในหนังสือของ Stephen Crane ดูเหมือนเป็นบทบรรยายของคนที่ไม่เคยไปสงครามจริง เมื่อเปรียบกับหนังสือของตอลสตอย)

ตัวละครหลักใน ‘สงครามและสันติภาพ’ ทั้งปิแยร์, อองเดร, นาตาชา, นิโคลัย, มาเรีย มีพัฒนาการทางความคิด มีการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจในแต่ละช่วงของชีวิต แต่ละคนค้นหาความหมายของชีวิตท่ามกลางเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามา

‘ปิแยร์ เบซูฮอฟ’ เป็นชายร่างอ้วนใส่แว่น จากตอนต้นเรื่องที่นับถือชมชอบนโปเลียน กลายเป็นคนที่เกลียดชังและต้องการสังหารนโปเลียน เขาเคยเป็นปัญญาชนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า แต่จากการชักชวนของกลุ่มฟรีมาซอนทำให้เปลี่ยนเป็นผู้ศรัทธาพระเจ้า เขาพยายามเสาะหาความหมายของชีวิต และท้ายที่สุดได้ค้นพบว่า “ชีวิตคือทุกสิ่งทุกอย่าง ชีวิตคือพระเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและเคลื่อนไหวกลับไปกลับมา และการเคลื่อนไหวนั้นก็คือพระเจ้า การรักชีวิตก็คือการรักพระเจ้า..” (หน้า 1522)

สำหรับ ‘อองเดร บอลกอนสกี’ เป็นหนุ่มรูปงามผู้สูงส่ง เขาต้องการรบเพื่อประเทศชาติ อองเดรก็เช่นเดียวกับปิแยร์ เขามีชั่วขณะของการค้นพบทางจิตวิญญาณ ในการรบที่ออสเตอร์ลิตซ์ อองเดรได้รับบาดเจ็บนอนล้มลงในสนามรบ ในห้วงเวลาแห่งความเป็นความตายนั้น เมื่อเขามองไปยังท้องฟ้าเบื้องบนอันกว้างใหญ่ไพศาล จึงได้รับรู้ถึงความสุข ความสงบแห่งอนันตภาพ “..ทำไมเราไม่เคยเห็นท้องฟ้านั่นมาก่อนเลยเล่า? เราช่างมีความสุขที่เราได้เห็นมันแล้วในที่สุด! จริงสิ นอกจากฟากฟ้าอันไร้พรมแดนนี้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนว่างเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นมายาทั้งสิ้น นอกจากมันแล้วก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลย แม้แต่ท้องฟ้าก็ไม่มีอยู่ ไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากความสงบ ความเงียบงัน ขอบคุณพระเจ้า!” (หน้า 408)

นางเอกของเรื่อง ‘นาตาชา รอสตอฟ’ เป็นตัวละครที่น่ารักมีชีวิตชีวา ในวัยเยาว์เธอชอบบอริส แต่ไม่สมหวัง เนื่องจากฝ่ายชายต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต่อมาเธอมีความรักกับอองเดร แต่เมื่อเขาไม่อยู่ เธอเริ่มมีใจให้กับอนาโตล คูรากิน จนเมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงช่วงท้าย เธอจึงได้ลงเอยอย่างมีความสุขกับปิแยร์

ตอนท้ายของหนังสือเป็นส่วนที่น่าประทับใจมาก หลังจากเหตุการณ์ในปี 1812 ผ่านไป 7 ปี ตอลสตอยเขียนถึงตัวละครหลักต่างๆที่ยังมีชีวิตอยู่ นิโคลัยทำงานในฟาร์มชนบท ปิแยร์ไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อหารือเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง ชีวิตมนุษย์ในกระแสธารประวัติศาสตร์ยังดำเนินต่อไป แม้หนังสือจบลง ทว่าจินตนาการของเรายังคงคิดถึงเรื่องราวของตัวละครต่างๆที่จะเกิดขึ้นตามมา

ตอลสตอยใช้ภาษาฝรั่งเศสหลายแห่งในหนังสือเล่มนี้ เขาต้องการ ‘แฝงนัย’ ด้วยการใช้คำ ภาษาฝรั่งเศสใน ‘สงครามและสันติภาพ’ สะท้อนถึงความไม่จริงใจ ไม่ซื่อตรง ในขณะที่ภาษารัสเซียเป็นตัวแทนของความเรียบง่ายตรงไปตรงมา ตอนที่ปิแยร์บอกกับเอแลนว่า “ผมรักคุณ” ตอลสตอยให้ปิแยร์พูดเป็นภาษาฝรั่งเศส เพราะต้องการสะท้อนถึงตัวปิแยร์ที่ไม่ได้มีเอแลนอยู่ในหัวใจ ในฉบับแปลภาษาไทยของคุณวิภาดา ได้แปลคำศัพท์ฝรั่งเศสเป็นไทยโดยเน้นตัวอักษรเป็นตัวเอน

เพชรน้ำเอกแห่งวรรณกรรมโลกชิ้นนี้มีครบทุกอย่าง มีสงครามและสันติภาพ มีภาพเมืองและชนบท มีงานเต้นรำและงานศพ มีการเกิดและการตาย มีการหลอกลวงและความซื่อตรง มีความสุขสมหวังและการจากพราก ทุกอย่างที่มนุษย์พบพานมีในหนังสือเล่มนี้



Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2551 16:11:17 น. 6 comments
Counter : 4290 Pageviews.

 
หนึ่งในหนังสือดีที่ยังไม่ได้อ่านค่ะ

กองดองหมดเมื่อไหร่ก็คงได้หามาอ่านเสียที แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:52:47 น.  

 
ขอก็อปสาวไกด์มาตอบด้วยคน


โดย: grappa วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:20:30 น.  

 
ตั้งใจไว้แล้วค่ะว่า ต้องอ่านให้ได้
งานหนังสือเมษายนนี้ ต้องเอามาเก็บไว้ในครอบครองให้จงได้ อิอิ

ปล.อิจฉาคนอ่านจบแล้วจัง


โดย: เสือจ้ะ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:30:50 น.  

 
ซื้อมาดองนานแล้วค่ะ

คงได้อ่านจริงๆจังๆตอนปิดเทอมนี้ล่ะ


โดย: BoOKend วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:30:55 น.  

 
น่าอ่านครับ


โดย: กวินทรากร วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:15:55:44 น.  

 
ah 555 ก็อยากอ่านเหมือนกันอะ
สนใจ สนใจ อยากไปหาดูอยู่ Prince Book เผื่อมีบ้าง


โดย: saxophone IP: 223.206.128.10 วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:12:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlueWhiteRed
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add BlueWhiteRed's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.