แฟน ๆ เฮ Finding Nemo เตรียมสร้างภาค 2

Finding Nemo



ตัวอย่างหนัง  Finding Nemo 3D

Finding Nemo

Finding Nemo


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ทางการภาพยนตร์ Finding Nemo

          หลังจากที่แอนิเมชั่นภาคต่อของ Disney ประสบความสำเร็จไปแล้วหลายเรื่อง แฟน ๆ ของเจ้าปลาการ์ตูนยอดฮิต Nemo ก็รอกันมานานแล้วว่าเมื่อไหร่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีภาค 2 กับเขาบ้างซะที
เพราะ Finding Nemo ถือเป็นหนึ่งในแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ Disney เลยทีเดียว ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวแว่วออกมาแล้วว่า Disney เตรียมจะสร้างภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาเอาใจแฟน ๆ กันแล้ว


Finding Nemo

Finding Nemo


           โดย แอนดรูว์ สแตนตัน (Andrew Stanton) ผู้กำกับเดิมจากภาคที่แล้วจะกลับมากำกับภาค 2 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักแสดงนั้นยังไม่มีการยืนยันว่าเราจะได้นักแสดงจากภาคเก่ากลับมาพากย์ให้เราได้ดูกันอีกครั้งหรือไม่ รวมไปถึง เอลเลน ดีเจเนเรส (Ellen DeGeneres) พิธีกรชื่อดังเจ้าของเสียงปลาสุดฮาอย่าง "โดรี่" ที่ยังไม่ได้มีการยืนยันให้แฟน ๆ แน่ใจด้วย


Finding Nemo

Finding Nemo


           อย่างไรก็ตาม ถึง Finding Nemo 2 จะยังไม่ได้ยืนยันวันกำหนดฉายที่แน่นอน แต่ทางทีมงานก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าภาพยนตร์น่าจะออกฉายในปี 2016 ซึ่งถ้าใครอดใจรอไม่ไหว Disney ก็ได้เตรียมเอาใจแฟน ๆ ทั่วโลกที่รอคอยภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยการนำ Finding Nemo ภาคแรกในเวอร์ชั่น 3D มาจ่อคิวเข้าฉายในเดือนกันยายนนี้แล้ว

           นอกจากนี้ ถ้ายังไม่จุใจล่ะก็ Disney ยังมีภาพยนตร์สุดคลาสสิกอีกเรื่องมาเอาใจแฟน ๆ ด้วยการหยิบเอา Beauty and the beast มาปัดฝุ่นรีเมคเป็นเวอร์ชั่น 3D ให้เราได้ดูกันในเดือนมกราคมปีหน้าอีกด้วย

           ใครที่รู้ตัวว่าเป็นแฟนแอนิเมชั่นสุดคลาสสิกของ Disney ก็ติดตามข่าวกันให้ดี และเตรียมตัวให้พร้อมรอชมแอนิเมชั่นเรื่องโปรดของคุณได้เลยจ้า

* kapook.com *




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 19:44:04 น.
Counter : 2707 Pageviews.  

แมวเปอร์เซีย




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


           แมวเปอร์เซีย ถือเป็นราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลางที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะเป็นแมวขนยาว หน้าตาน่าเอ็นดู หัวกลมสวย ตากลมโต มีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงหน้าตาก็มีหลายแบบ มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจง และมีไหวพริบ ซึ่งแมวพันธุ์นี้นับเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นพันธุ์แรกด้วย

           แมวเปอร์เซียมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1684 ได้มีการบันทึกลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับที่มาของ แมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน (Persian Cats) ว่า พ่อค้าทะเลทราย (หรือที่เรียกว่ากองคาราวาน) ทางแถบๆ ตะวันตกของตุรกีและอิหร่าน มักบรรทุกสินค้ามากมาย อาทิเครื่องเทศน์ อัญมณี และสินค้ามีค่าอื่นๆ ซึ่งบางครั้งก็มีแมวขนยาวติดมาด้วย แมวขนยาวนั้นถูกซื้อโดยกะลาสีและได้นำแมวติดไปกับเรือสินค้าเดินทางเข้าทวีป ยุโรป ซึ่งหลายปีต่อมาแมวพันธุ์นั้นถูกรู้จักในชื่อ เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)

           ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษเริ่มผสมพันธุ์แมวเตอร์กิส แองโกร่า กับแมวสายพันธุ์อื่น และพัฒนาจนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม กระทั่งในที่สุดแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับและจดทะเบียนขึ้นที่ประเทศอังกฤษในชื่อว่า Longhair ซึ่งชื่อของมันก็ถูกตั้งขึ้นตามประเทศต้นกำเนิดนั่นเอง

           นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว แมวเปอร์เซียยังถูกนำไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ทั้งยุโรปและอเมริกามานานหลายร้อยปี ซึ่งอเมริกาจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า Persian

ลักษณะสายพันธุ์

           แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา

           สำหรับแมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ ควรจะมีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นและตรง ไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู มีท่วงท่าการเดินดูสง่างาม ทั้งนี้ แมวเปอร์เซียในสมัยแรกๆ มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างจากแมวเปอร์เซียในปัจจุบันมากทีเดียว ปัจจุบันมันถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น ขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น

           อย่างไรก็ตาม แมวเปอร์เซียถูกแบ่งออกเป็น 7 ชนิด โดยแบ่งตามสี และลักษณะเป็นหลัก ดังนี้

           1.Solid colour  ขนจะเป็นสีเดียวตลอดตัว ไม่ควรมีสีอื่นแซมเลย สีจะต้องเสมอกันตลอด เช่น white ขนสีขาวบริสุทธิ์, blue ขนสีเทาเข้ม, black สีขนดำสนิท, red ขนสีแดงเข้มและสดใส, cream ขนสีครีมเข้ม, chocolate ขนสีน้ำตาสช็อกโกแลต, lilac ขนสีลาเวนเดอร์

           2.Sliver&Golden ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้ำเงินเท่านั้น

            3.Shade&Smoke จะมีสีขน 3 แบบ คือแบบ Shell จะมีสีที่ปลายขนเพียงเล็กน้อย แบบ Shade จะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่า และแบบ Smoke จะมีสีมากกว่าแบบ Shade

            4.Tabby จะมีลวดลายที่เป็นที่ยอมรับอยู่ 2 แบบ คือ Classic และ Mackerel

           5.Parti-colour จะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น อันสืบเนื่องมาจากการสืบทอดทางโครโมโซม

           6.Calico & Bi-Color สีทั่วไปตาจะเป็นสีทองแดง ถ้าเป็นตาสองสีตาข้างหนึ่งจะเป็นสีฟ้า อีกข้างเป็นสีทองแดง ความเข้มของสีตาทั้งสองข้างเท่าๆ กัน

           7.Himalayan เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวไทยวิเชียรมาสกับแมวเปอร์เซีย จะมีลักษณะแต้มสีตำแหน่งเดียวกับแมววิเชียรมาส คือหูทั้งสองข้าง ที่หน้าครอบเหมือนหน้ากาก ขาทั้งสี่ ตาสีฟ้าสดใส

อาหารและการเลี้ยงดู

           อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า แมวเปอร์เซียเป็นแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ ค่าเลี้ยงดูและค่าตัวอาจแพงสักหน่อย ทั้งนี้ ราคาของแมวเปอร์เซีย มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน ขึ้นกับเกรดของสายพันธุ์ สามารถแบ่งได้เป็น

           เกรดเพ็ด(PET Quality) ส่วนมากเป็นแมวที่เลี้ยงตามบ้านทั่วไป ราคาประมาณ 5,000-15,000 บาท จมูกยาว หน้าไม่บี้ หรือเรียกว่าหน้าตุ๊กตา

           เกรดทำพันธุ์และโชว์(Breed and Show Quality) ส่วนมากเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เลี้ยงไว้เพื่อประกวด หรือโชว์ มีลักษณะของแมวเปอร์เซียที่ดีครบ โดยหน้าจะบี้ คือ จมูกและตาเกือบเสมอกัน

           นอกจากนี้ ระดับของราคายังแบ่งเป็นสายพันธุ์ในประเทศอยู่ที่ 25,000-35,000 บาท สายพันธุ์นำเข้า 35,000-100,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับสุขภาพของแมว และลักษณะเด่นตามสายพันธุ์

           เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว จงพึงระลึกไว้เสมอว่า การดูแลขนของแมวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทำความสะอาดถึงการแปลงและสางขนแมวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการเกิดขนพันกัน เพราะการที่ขนพันกันเป็นกระจุกนั้นจะเป็นแหล่งเพาะเชื่อโรครวมทั้งพยาธิต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบและเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย

           ในเรื่องของอาหารการกินนั้น ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารของแมวไม่อุดตัน เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียทำความสะอาดขน อันเป็นสาเหตุในการกินหรือกลืนเส้นขนเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากเส้นขนจะไปรวมตัวกันในช่องท้องจะทำให้แมวเปอร์เซียสำรอกหรือเกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้

โรคและวิธีการป้องกัน

           โรคที่พบบ่อยในแมวเปอร์เซียนั้นส่วนใหญ่จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นและถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคหายใจขัด หอบ หรือ ท่อน้ำตาอุดตัน เป็นต้น นอกจากนี้ แมวเปอร์เซียที่มีสีขาวรวมถึงแมวเปอร์เซียที่มีตาสีฟ้าหรือตาข้างละสีมักมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด คือ หูหนวก อีกด้วย

           อย่างไรก็ตาม โรคท่อน้ำตาอุดตัน และปัญหาคราบน้ำตา เป็นปัญหาที่พบบ่อยและถูกถามถึงมากที่สุด อาการที่พบ คือ มีน้ำตา ไหลในตาข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ไม่มีอาการหรี่ตา น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นน้ำตาใสๆ ร่วมกับมีคราบติดบริเวณร่องจมูก ซึ่งโรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในท่อน้ำตา เนื่องจากท่อน้ำตาและโพรงจมูกของแมวเปอร์เซียคดไปคดมา

           เมื่อเจ้าเหมียวของคุณประสบปัญหานี้เข้า การแก้ปัญหาเบื้องต้น ผู้เลี้ยงอาจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเคอยเช็ดคราบน้ำตาเป็นประจำ เพราะหากปล่อยไว้จนแห้ง อาจเช็ดไม่ออก หมดสวยหมดหล่อไม่รู้ด้วยนะคะ

           แต่ถ้าหากมีคราบน้ำตามเยอะและข้นกว่าปกติ อาจต้องใช้ยาป้ายตาร่วมกับการเช็ดคราบน้ำตา หรืออาจพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อล้างท่อน้ำตา และทำการรักษาต่อไป

* kapook.com *




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 19:42:26 น.
Counter : 3373 Pageviews.  

เมื่อสิวขึ้นตามร่างกาย จะจัดการอย่างไรดี

รักษาสิว



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ไม่เคยมีใครปรารถนาให้สิวมาปรากฏอยู่ที่ใบหน้า และในขณะเดียวกันก็ไม่มีใครอยากให้สิวมาปรากฏอยู่ตามพื้นผิวต่าง ๆ ของร่างกายเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกและแผ่นหลัง ซึ่งนี่คงเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนกำลังประสบอยู่ ยิ่งอากาศร้อน ๆ ชื้น ๆ แบบนี้ยิ่งกระตุ้นให้สิวขึ้นดีนักเชียว แล้วถ้าเจ้าสิวที่เราไม่ต้องการผุดขึ้นมาตามร่างกายแล้วล่ะก็ควรจะทำอย่างไรดี กระปุกดอทคอมมีคำแนะนำมาฝากค่ะ

    เลือกใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของสารแอนตี้แบคทีเรีย ยิ่งผสมกรดซาลิไซลิกเข้าไปด้วยก็ยิ่งดี มันจะช่วยยับยั้งการก่อตัวของแบคทีเรีย รวมทั้งลอกผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน ลดการอุดตันของรูขุมขนได้ นอกจากนี้ยังควรเลือกแบบที่ไม่ผสมน้ำหอมด้วยนะคะ

    ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติซึ่งระบายอากาศได้ดี อันจะช่วยลดการเกิดเหงื่อ เหงื่อที่ออกมาแล้วก็แห้งไว ไม่เกิดการอับชื้นหมักหมม

    อาบน้ำชำระล้างร่างกายทันทีหลังการออกกำลังกาย เพราะเหงื่อที่ออกมากเกินไปเป็นสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้

    ใช้ครีมเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) หรือสเปรย์ที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าวฉีดพ่นบาง ๆ ในบริเวณที่เป็นสิวเป็นประจำทุกวัน

    จัดการสิวด้วยยาสูตรโฮมเมด โดยใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกดาวเรือง (calendula oil) และน้ำมันเมล็ดอัลมอนด์อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ทีทรีออยล์ 2 หยด และน้ำมันดอกคาโมมายล์อีก 1 หยด ผสมเข้าด้วยกัน ใช้ทาบาง ๆ ในบริเวณที่เป็นสิวเป็นประจำทุกวัน

    สครับผิวอย่างอ่อนโยนทุกวัน เพื่อกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้ค่อย ๆ หลุดลอกออกไป ไม่ให้อุดตันรูขุมขน ทั้งนี้คุณจำเป็นต้องเลือกสครับที่มีความอ่อนโยนมาก ๆ และอย่าลืมบำรุงผิวเติมความชุ่มชื้นกลับเข้าไปหลังการสครับทุกครั้ง

    รับประทานอาหารอย่างสมดุล โดยเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์และกรดโอเมก้า 3 รวมทั้งดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วย


          ไม่ว่าจะเป็นสิวที่ไหนเราก็มีวิธีจัดการได้ทั้งนั้น ใครที่เป็นสิวตามแผ่นหลัง หน้าอก หรือบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายลองนำไปใช้กันดูนะคะ


* kapook.com *




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 19:40:21 น.
Counter : 1333 Pageviews.  

บูชา ‘เทพ’ เสริมดวงให้เกิดสุข

ระยะหลังมานี้ ผู้คนเต็มไปด้วยปัญหาชีวิตรุมเร้า ทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว ปัญหาทางสังคม ทำให้หลายคนขาดที่พึ่งทางใจ ‘ธรรมะของพระพุทธองค์' ซึ่งเป็นนามธรรมจึงถูกมองข้ามและหันไปยึดถือสิ่งที่เป็นวัตถุนิยมเสียมากกว่า

"ต้องบูชาอะไรจึงจะเกื้อหนุนและส่งผลดีต่อดวงชะตา?" คืออีกหนึ่งคำถามที่ดิฉันต้องตอบเป็นประจำ แท้ที่จริงแล้วการไหว้พระบูชาวัตถุมงคล หรือแม้แต่การบูชาเทพ ต่างก็เป็นอุบาย ซึ่งสร้างให้เห็นเป็นรูปธรรมนำมายึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อการประกอบกรรมดีทั้งสิ้น ทั้งยังป็นหนทางในการศึกษาธรรมะผ่านทางวัตถุที่เรานับถือ

ดังนั้นความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เราศึกษาธรรมะโดยตรงจากพระไตรปิฏกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และสำคัญที่ว่าเราปฏิบัตินอย่างไรแล้วทำให้ใจเราและคนรอบข้างเป็นสุข โดยนำสิ่งรอบตัวมาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมากกว่า อีกทั้งยังเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้เราพ้นทุกข์ได้ แม้จะไม่ใช่หนทางแห่งการพ้นทุกข์โดยตรงก็ตาม แต่ก็เป็นอุบายแห่งการเริ่มต้นประกอบกรรมดี เพื่อเป็นทางนำไปสู่นิพพานในอนาคต

ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาล (เช่น เทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน...)หลายคนต่างเตรียมตระเวนกราบไหว้ขอพรพระ-บูชาเทพ อันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดิฉันได้กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้นดิฉันจึงขออนุญาตหยิบยกเรื่องการบูชาเทพมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งก็มีความใกล้เคียงกับการไหว้พระ แต่การบูชาเทพนั้นน้อยคนจะเข้าใจว่าบูชาไปเพื่ออะไร แต่ละองค์มีความหมายอย่างไร ใครว่าดีก็เห่อและแห่ตามเขาไป ผิดบ้าง ถูกบ้าง โดยไม่ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน

 

บูชาเทพ

 

ว่าไปแล้วตำนานการสร้างเทพเจ้าในพุทธศาสนาได้มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล โดยทั่วไปจะเป็นคติความเชื่อแบบพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งจะมีการสร้างรูปเทพเจ้าในรูปแบบของพระโพธิสัตว์ เช่น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ยังมีอิทธิพลที่เน้นเรื่องราวของทวยเทพต่างๆ ตามคติความเชื่อและความกลัว แล้วจินตนาการในลัษณะขององค์เทพ เช่น องค์เทพแห่งดินคือพระแม่ธรณี

ส่วนการสร้างในวัดของพุทธศาสนา โดยเฉพาะวัดในเมืองไทยนั้น จะมีความเชื่อของพราหมณ์-ฮินดูเข้ามาผสมผสาน ซึ่งไทยเราได้รับอิทธิพลนี้จากขอมตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทวยเทพใน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เข้ามาผูกติดกับระบบความเชื่อทางพุทธศาสนา แม้ว่าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจะถือว่าพระพุทธเจ้าก็คือเทพองค์หนึ่งซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระนารายณ์ที่เรียกว่า ‘ปางพุทธาวตาร' แต่เมื่อมาเกี่ยวข้องกับ 2 พุทธศาสนาได้มีการยกฐานะของพระพุทธเจ้าเหนือกว่าเทพทุกองค์ เช่น ในตอนประสูติจะปรากฏภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังตามสถานต่างๆ ของเทพที่มาชุมนุมอวยพรสรรเสริญกันอย่างมาก

นอกเหนือจากนี้ ทางพุทธศาสนายังมีการเพิ่มเรื่องราวของเทพเจ้านอกเหนือจากพราหมณ์-ฮินดู เช่น พระอินทร์ ซึ่งอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท้าวจคุโลกบาลที่ปกครองสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา ผู้คอยคุ้มครองโลกทั้ง 4 ทิศ และทวยเทพอื่นๆ เช่น พระแม่ธรณี พระแม่โพสพ พระคงคา นอกจากนี้ยังมีเทพอีกประเภท ซึ่งปรากฏในวรรณคดีชั้นสูง เช่น รามเกียรติ์ ซึ่งจะเล่าถึงเรื่องราวของเทพต่างๆ วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน มีการสร้างเครื่องรางของขลัง และนำคุณวิเศษของเทพแต่ละองค์มากล่าวอ้างอิง เช่น การสักหนุมาน เชื่อว่าจะทำให้มีฤทธิ์เดชคงกระพันชาตรี

เนื่องจากวัดถือเป็นศูนย์กลางทางสังคมไทยในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นจิตกรรม ฝาผนัง งานจารึก งานเขียนคัมภีร์ใบลาน ก็ปรากฏเรื่องราวเกี่ยวกับเทพองค์ต่างๆ ต่อมาจึงได้สร้างเป็นรูปเคารพดังมีให้เห็นในปัจจุบัน

สถานที่ที่มีองค์เทพศักดิ์สิทธิ์นับว่ามีด้วยกันหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นวัดวิษณุ เขตยานนาวา วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) เทวสถาน (โบสถ์พราหมณ์) แต่ที่อยากแนะนำก็คือ บริเวณแยกราชประสงค์ เพราะไปที่เดียวได้สักการะเทพถึง 6 องค์ นับเป็นย่านการค้าและการท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยเป็นทั้งของโรมแรมใหญ่ ศูนย์การค้าชั้นนำ ซึ่งในแต่ละวันจะมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสถานประกอบการต่างๆ จึงได้มีการตั้งศาลเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปจำลององค์เทพศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลและปกป้องคุ้มครองรวมทั้งเป็นที่สักการะของผู้ที่สัญจรไปมาในย่านนี้ ประกอบด้วย



- พระอินทร์ ท้าวองค์อมรินทราธิราช

ซึ่งนับได้ว่าเป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษยโลก ประดิษฐานที่หน้าตึกอัมรินทร์พลาซ่า มีพระวรกายสีเขียวหยก มีพระเนตรพันดวงทรงเป็นที่เคารพในฐานะพระผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษยโลก ดอกไม้ที่ใช้สักการะ คือดอกบัวขาว ดอกบัวแดง กุหลาบขาว

- ท้าวมหาพรหม

มีอำนาจในการประสาทพรแก่ผู้สักการะ ประดิษฐานบริเวณแยกราชประสงค์ มีชื่อเสียงในการประทานโชคลาภ ความสำเร็จ มั่นคงในธุรกิจการงาน ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาเนื่องจากพระองค์มีอารมณ์เย็น เชื่อว่าทรงรับฟังคำขอและสวดภาวนาของทุกคน และทำให้สมความปรารถนา ควรสักการะด้วยดอกบัวขาว ดอกไม้สีขาวต่างๆ ของโมกขาว ดอกมะลิขาว ดอกแก้วขาว สำหรับธูปให้ใช้ 12 ดอก เพื่อปักกระถาง 4 ด้าน ตามพระพักตร์ของพระพรหม

- พระตรีมูรติ

ได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งความรัก บูชาเพื่อขอให้สมหวังในรัก ประดิษฐานที่หน้าอิเซตัน เซ็นทรัลเวิลด์ ควรสักการะด้วยดอกไม้สีแดง 9 ดอก ธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง 1 คู่ ต้องถือเคล็ดว่าให้ประกบติดกัน ซึ่งจะหมายถึงมีชีวิตรักที่แนบแน่น หรือมีความหมายว่าไม่โดดเดี่ยว นิยมไหว้ในวันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น. โดยเชื่อกันว่าเป็นเวลาที่เทพจะลงมาประทับ


บูชาเทพ


- พระพิฆเนศ

ถือป็นเทพแห่งปราชญ์สติปัญญาและความสำเร็จ ประดิษฐานอยู่หน้าอิเซตัน เซ็นทรัลเวิลด์ ทุกตำราได้ให้ความสัญกับเทพองค์นี้มาก โดยกล่าวว่ามีฤทธิ์มาก มีความเฉลียวฉลาด มีคุณธรรม คอยชวยเหลือปกป้องปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ทำให้เกิดโชคและมีทรัพย์ ควรสักการะด้วยขนมต้มแดงต้มขาว นมสด นมเปรี้ยว ดอกบัวแดง ดอกดาวเรือง กล้วย อ้อย มะม่วงสุก เมล็ดงา มะขวิด ทับทิม หญ้าแพรก ดอกมะลิ ใบมะตูม ใบมะเขือพวง ใบพุทรา ใบรำเพย

- พระลักษมี

เทวีผู้ประทานความร่ำรวย บูชาเพื่อขอความร่ำรวย มั่งัคั่งอุดมสมบูรณ์และโชคดีมีลาภ ประดิษฐาน ณ บริเวณดาดาฟ้า ชั้น 4 เกษรพลาซ่า นิยมสักการะด้วย ดอกบัวหลวงสีขาว ดอกบัวหลวงสีชมพู ดอกบานไม่รู้โรย กุหลาบสีชมพู การสักการะควรมีอ่างใบใหญ่ใส่น้ำสะอาดเต็มขอบอ่าง วางไว้หน้ารูปเคารพ เวลาจะถวายดอกไม้ต้องคลี่ให้บานก่อนแล้วนำลอยน้ำ (เนื่องจากพระลักษมีจุติจากฟองน้ำ)

- พระนารายณ์ทรงสุบรรณ

พระผู้คุ้มครองรักษา ประดิษฐานอยู่หน้าตึกโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ได้รับสมญาว่าเป็นเทพที่ปกป้องรักษาให้เจริญรุ่งเรือง เปรียบประดุจเทพแห่งความเมตตา สามารถขจัดปัดเป่าความชั่วร้ายและสิ่งไม่ดี ควรสักการะด้วยกระทงใบตองใส่ข้าวตอก อาหารคาว 2 - 3 อย่าง ขนมหวาน 5 อย่าง ผลไม้ 3 อย่าง (กล้วย มะพร้าวอ่อน อ้อย) นมสด เนย ใบกระเพรา เมล็ดข้าว เมล็ดถั่วเขียวถั่วแดง เครื่องหอม ดอกบัวขาว ดาวเรือง กล้วยไม้ขาว มะลิขาว

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นการไหว้พระบูชาเทพ ล้วนเป็นอุบายอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เรามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอันนำไปสู่การประพฤติดีประพฤติชอบ แต่ควรนับถือหรือบูชาโดยใช้สติและปัญญา มิใช่งมงาย เมื่อจิตแน่วแน่ ปัญญาจะบังเกิด สุดท้ายจิตจะเป็นสุข อันนำไปสู่นิพพาน


* sanook.com *




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 19:38:17 น.
Counter : 2601 Pageviews.  

คุณ! พุงโตเกินไปหรือไม่?

โรคอ้วนลงพุง ไม่ใช่แค่ความอ้วนธรรมดา แต่เป็นภาวะอ้วนที่มีไขมันสะสมบริเวณช่วงเอว หรือช่องท้องปริมาณมาก ๆ และก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายหลายระบบ ในทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่า Metabolic syndrome ถือเป็นกลุ่มความผิดปกติที่ เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ด้วย ดังนั้นภาวะอ้วนลงพุง จึงนับว่าเป็นโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้

 

ไขมันที่พุงอันตรายกว่าไขมันส่วนอื่นของร่างกายอย่างนั้นหรือ?

 

โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นไขมันตรงส่วนใด หากมีมากเกินไปก็ถือว่าไม่ดีทั้งนั้น แต่ไขมันที่สะสมในช่องท้องหรือบริเวณพุงจะสลายตัวเป็นกรดไขมันอิสระ ส่งผลให้ในกระแสเลือดมีกรดไขมันอิสระเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย  โดยกรดไขมันชนิดนี้จะไปยับยั้งกระบวนการเผาผลาญของกลูโคสที่กล้ามเนื้อ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ความดันโลหิตสูง และอาจส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็งตีบและอุดตันได้

 

พบว่าในคนอ้วนลงพุงจะมีระดับฮอร์โมน Adiponectin  ในกระแสเลือดลดลง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่พบในเซลล์ไขมันเท่านั้น ระดับ Adiponectin ในเลือดที่ต่ำจะสัมพันธ์กับภาวะดื้อต่ออินซูลิน และเป็นตัวทำนายการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย นอกจากนี้ เชื่อว่าความอ้วนและภาวะดื้อต่ออินซูลิน ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการสะสมไขมันในเนื้อตับ เพราะกรดไขมันอิสระที่ออกมาจากไขมันบริเวณพุงจะเข้าสู่ตับโดยตรงได้มากกว่าไขมันบริเวณสะโพก ซึ่งกรดไขมันที่สะสมภายในตับ หากเกิดในช่วงที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระมากจนเกินที่สารต้านอนุมูลอิสระสามารถรับมือไหว จะส่งผลให้เกิดการอักเสบของตับตามมาอีกด้วย ดังนั้น คนที่อ้วนลงพุงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคตับมากกว่าคนที่มีไขมันสะสมที่สะโพก

 

คุณ! พุงโตเกินไปหรือไม่?

 

รอบเอวเป็นตัวบ่งชี้ภาวะอ้วนที่ง่ายและชัดเจน โดยไม่ต้องใช้การคำนวณสำหรับคนเอเชีย ในปัจจุบันการวินิจฉัยว่าใครจัดอยู่ในกลุ่มโรคอ้วนลงพุงบ้างจะใช้เกณฑ์ดังนี้

 

เส้นรอบเอวของผู้ชายตั้งแต่ 36 นิ้วขึ้นไป และสำหรับผู้หญิงตั้งแต่ 32 นิ้วขึ้นไป

มีระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดมากกว่า 150 มก./ดล.
มีระดับ HDL คอเลสเตอรอล น้อยกว่า 40 มก./ดล. ในผู้ชาย หรือน้อยกว่า 50 มก./ดล. ในผู้หญิง
ความดันโลหิตมากกว่า 85/130 มม.ปรอท หรือรับประทานยาลดความดันโลหิตอยู่
ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารมากกว่า 100 มก./ดล.

 * ประชาชาติธุรกิจ *

 

 




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 9:37:04 น.
Counter : 1164 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.