มัลลิกา โพสต์เฟซบุ๊กโต้ โอ๊ค ลั่น! กูไม่กลัวพ่อมึง จำไว้






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra, Mallika Boonmeetrakool

            เฟซบุ๊กส่วนตัว มัลลิกา บุญมีตระกูล มีข้อความโพสต์ ถึงพานทองแท้ ชินวัตร "กูไม่กลัวพ่อมึง จำไว้"

            หลังจากที่เฟซบุ๊กส่วนตัว นายพานทองแท้ ชินวัตร Oak Panthongtae Shinawatra บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความตอบโต้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กรณีออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรหยุดทำร้ายประเทศไทย โดยมีข้อความดังนี้



            "ผมเชื่อว่าคุณพ่อผมไม่เคยทำร้ายประเทศไทยนะครับ มีแต่พวกที่ชอบปล้นประชาธิปไตยรุมทำร้ายคุณพ่อผมมากกว่าครับ"

            "ตัวผมเองในฐานะตัวแทนของลูกหลานที่โดนข่มขู่ อยากจะปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยวลีอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ว่า "กูไม่กลัวมึง" นะครับ แต่คุณพ่อผมเบรกไว้ บอกว่าโอ๊คต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนพ่อ”

            "ไม่เป็นไรครับ...ขู่ได้ขู่ไป...อย่าให้พ่อกูกลับมาได้ก็แล้วกัน”

            ล่าสุด วันนี้ (10 กรกฎาคม) ที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของนางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล Mallika Boonmeetrakool รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความออกมาตอบโต้นายพานทองแท้ดังนี้



            ขอเรียนเป็นการส่วนตัวว่า ดิฉันคิดว่านายพานทองแท้และเทียมที่ทรงกันมา คงลุแก่อำนาจ เดินหลงอยู่บนเสียงเยินยอจนลืมความจริงไปหลายอย่าง ที่ว่าคุณทักษิณพ่อเขาไม่ได้ทำร้ายประเทศ ผิดล่ะค่ะโอ๊ค!! ฟังนะคะเด็กหน้าแก่ (หนังหน้าจะแก่กว่าวัยด้วยอะไรก็แล้วแต่อ่ะนะ) พ่อคุณโคตรทำลาย และทำร้ายประเทศไทยค่ะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อคุณ ซึ่งเป็นนักโทษคดีเด็ดขาด และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับของทางราชการ 5 คดี คือ

            1.หมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 หมายเลขแดงที่ อม.1/2550 (คดีที่ดินรัชดาภิเษก ที้งพ่อทั้งแม่คุณโกงที่ดินด้วยการใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ เขาขายกันอาจได้มากว่า 1,000 ล้านแต่แม่คุณประมูลได้ต่ำ ๆ คือ 700 ล้าน > ทำร้ายชาติ)

            2.หมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2551 (คดีหวยบนดิน พ่อคุณออกระเบียบรองรับการเล่นหวย 2-3 ตัว พลิกมันมาบนดินแต่จัดกฎหมาย > ทำร้ายชาติ)

            3.หมายจับศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 (คดีเอ็กซิมแบงก์)

            4.หมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม.9/2551 (คดีแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต)

            5.หมายจับคดีอาญาของศาลอาญา หมายจับเลขที่ 10862/2553 (คดีก่อการร้าย นี่ล่ะที่คนเห็นกันทั่วโลกที่พ่อคุณปลุกระดมคนออกมาตายแทนตัวเอง ปลุกระดมจนคนบ้าคลั่งมาเผาบ้านเผาเมือง เอาน้ำมันมาล้านขวดเผากรุงเทพเป็นทะเลเพลิง คุณปัญญาอ่อนรึจึงดูทีวีถ่ายทอดไม่รู้เรื่อง กลับไปดูเทปที่สถานีวอยซ์ของคุณดูสิ )

            ยังไม่นับคดี อัยการสั่งฟ้องกู้กรุงไทย 9,000 ล้านบาท ล่าสุดที่คุณรับเงินปากถุงไปไม่ใช่เหรอ 17 หรือ 21 ล้านบาทล่ะ ที่โอนเข้าบัญชี จนคตส.เขาจับได้นั่น

            คดีให้พม่ากู้ 3,000 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทยดอกเบี้ยต่ำแต่กรุงไทยไปเอาเงินออมสินของเด็กมาแล้วต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่า แล้วพ่อคุณใช่ไหมล่ะที่ให้พม่าเอาเงินนั้นมาซื้ออุปกรณ์บริษัทชินของคุณน่ะโอ๊ค ตอนนั้นยังเด็กเจอพ่อแม่รังแกฉันเข้าไปเป็นไงล่ะ

            คดีบ้านเอื้ออาทร คุณเห็นไหมเวลาไปเจอบ้านแบบรังนกสร้างบนที่ดินควายนอน ไม่มีสาธารณูปโภคทั่วประเทศ วันนี้ตั้งเด่เป็นอนุสาวรีย์โกงของพ่อคุณ ของอดีตรัฐมนตรียุคพ่อคุณ วัฒนา เมืองสุข และอริสมันต์ ที่มันเป็นนักร้องตอนนั้นแล้วเอาที่ดินควายนอนไปยัดให้การเคหะซื้อไปทำบ้านเอื้อ และมีคดีรับค่านายหน้าเป็นหลักฐานไง ไม่เคยรู้หรือพานทองแท้

            คดีซีทีเอ็กซ์ ที่โกงจนเจ้าหน้าที่ฝรั่งอเมริกันจับได้จากคนจ่ายใต้โต๊ะประเทศเขาแล้วเขียนระบุว่า “จ่ายนอกระบบให้รัฐมนตรีประเทศไทย” นั่นนะตอนพ่อคุณเป็นนายกฯไง

            คดีซุกหุ้นไว้ชื่อคนอื่นยึดคืนแผ่นดินมาได้  4.6 หมื่นล้านบาทตามที่คุณแฉพ่อตัวเองในเฟซบุ๊กหลายวันก่อนนั่นไง รวมแล้วทุกคดีประเทศไทยเสียหายเกือบ 2 แสนล้านบาท  ถ้าพ่อคุณไม่โกง คนไทยทั้งแผ่นดินจะเป็นหนี้ติดตัวตั้งแต่เกิดคนละเกือบ 4 หมื่นบาท เพราะอายิ่งลักษณ์ของคุณไปกู้มาหมาด ๆ ได้ไง

            ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างของการทำร้ายประเทศไทย และไม่ต้องรอพ่อมึงกลับมาหรอกนะคะ พานทองแท้ เพราะที่นี่ประเทศไทย "ไม่มีใครกลัวมึง" ขอยกคำกล่าวอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เช่นกัน ที่ว่า "กูไม่กลัวมึง" นะคะ พานทองแท้ แต่แถมให้ด้วยว่า ...

            "กูไม่กลัวพ่อมึง จำไว้" นะคะ

            อ่อ..ที่พ่อคุณอยากได้วีซ่าอเมริกาหนักหนาขนาดยอมเอาผลประโยชน์ชาติไปแลกจนเขาแถลงแฉเพราะจับได้คาเว็บไซต์นาซ่านั่นใช่หรือไม่ คุณช่างเป็นเด็กหน้าแก่ที่ไร้เดียงสาและไร้ปัญญาเสียจริง

            "นั่นเพราะพ่อคุณไม่คิดกลับมาแล้ว ยังฝันว่าพ่อจะกลับมาอีกหรือเด็กน้อย"

* เครดิตจาก kapook.com *





 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 15:01:17 น.
Counter : 2055 Pageviews.  

"อึนจอง"เผยเคยอับอายกับเพลง Bo Peep Bo Peep

เรียกได้ว่า Bo Peep Bo Peep เป็นเพลงฮิตติดหูที่ทำให้ "T-ara" โด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วเอเชีย แต่งานนี้ "อึนจอง" นักร้องสาวสมาชิกวงเผยเคยรู้สึกว่าเคยอายกับเพลงดังกล่าว
       
       เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา อึนจอง ได้เผยความรู้สึกผ่านทางรายการ Star Life Theater ทางสถานี KBS ระบุถึงเบื้องหลังการทำงานของ T-ara รวมถึงความยากลำบากของพวกเธอกว่าจะไต่ขึ้นมาอยู่ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ประดับแถวหน้าของวงการ
       
       โดยอึนจอง ระบุถึงเพลงเปิดตัวสร้างชื่อของพวกเธอว่า "เพลงดั้งเดิมที่เป็นที่รู้จักอย่าง Bo Peep Bo Peep ( โปปี๊บโปปี๊บ ) จริงๆแล้วมันคือ Bbee Bbo Bbee Bbo ( ปี๊ป่อปี๊ป่อ ) "
       
       "แต่พอเรายิ่งฟังเพลง เนื้อเพลง BbeeBboBbeeBboBbee ฟังเหมือน Bo Peep Bo Peep เพลงน่ารักๆขนาดนี้เลยถูกสร้างขึ้นมา"
       
       จากนั้นอึนจองยังระบุถึงความเห็นที่เธอมีต่อท่าเต้นและชุดที่เธอต้องใส่เต้นประกอบเพลงดังกล่าวด้วย "ตอนเริ่มแรกมันน่าอายมากกก" นักร้องสาวพูดพร้อมหัวเราะออกมา "เราต้องมีของมาใส่เป็นหู มีหาง มีมือ แล้วก็เต้นเขย่าก้น เราอายและเขินมากจริงๆ"
       
       "แต่แล้วเพลงนี้มันก็กลายมาเป็นเพลงที่สุดยอดไปเลย มันเคยขึ้นอันดับ 1 โอเรกอนที่ญี่ปุ่นด้วย เราได้ยินมาว่ามันยังดังมากที่ประเทศไทย พอตอนนี้นึกย้อนกลับไป ฉันรู้สึกดีและปลื้มกับเพลงนี้มากจริงๆค่ะ"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 14:54:19 น.
Counter : 1865 Pageviews.  

คำคมของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี(ว. วชิรเมธี)

อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน

ความสุข ขั้นที่สอง หาได้จาก ปัญญาสุข สุขจากการแสวงหา

ถ้าคุณเป็นคนดีแล้ว นั่นแหละคุณบรรลุวัตถุประสงค์ของการมีวัด วัดอยู่ในใจคุณแล้ว

ความจริงบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยตา เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ปัญญา ในการมอง

ถ้าเราข้ามรูปลักษณ์ภายนอก เจาะไปที่สาระก็ไม่มีปัญหาที่วู้ดดี้จะคุยกับพระไม่ได้

มีชื่อเสียงก็เหมือนอยู่ที่แจ้ง แดดส่องก็ได้ฝนสาดก็ได้ อย่าไปละลายแล้วกัน อยู่ในจุดที่เราเป็นให้ดีที่สุด

น่าเสียดาย ที่เรามีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ แต่เรากลับศรัทธาไสยศาสตร์หัวปักหัวปำ

น่าเสียดายที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่แสนดี แต่เรากลับมีคนโกงกินเต็มบ้านเต็มเมือง

น่าเสียดายที่เรามีวัดอยู่เกือบทุกหมู่บ้าน/ตำบล แต่เรากลับมากด้วยคนขาดจริยธรรมอยู่ทั่วไป

น่าเสียดาย ที่เราสถาปนาประชาธิปไตยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 แต่เรากลับมีปฏิวัติ/รัฐประหารมาแล้ว14 ครั้ง

น่าเสียดายที่เรามีมหาวิทยาลัยมากมายติดอันดับโลก แต่เรากลับโชคร้ายที่คนไทยชอบดูดวงบวงสรวงเทพยดา

น่าเสียดายที่เรามีป่าไม้-แม่น้ำ-ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ แต่เรากลับเทิดทูนการทำลายแทนการรักษา

น่าเสียดาย ที่เรามีศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเอง แต่เรากลับเก่ง "การลอกเลียนแบบ" เป็นที่สุด

น่าเสียดายที่เรามีสื่อมวลชนมากมายไร้พรมแดน แต่เจ็บปวดเหลือแสนเมื่อสื่อมวลชนมุ่งแต่การขายสินค้า

น่าเสียดาย ที่เรามีกฎหมาย แต่เรากลับปล่อยให้มีการใช้กฎหมู่จนเป็นเรื่องธรรมดา

น่าเสียดาย ที่เรามีหนังสือมากมายหลายพันเล่มในห้องสมุด แต่สถิติสูงสุดคือเราอ่านหนังสือกันปีละ8 บรรทัด

น่าเสียดายที่เรามีอินเทอร์เน็ตใช้ก่อนประเทศในโลกที่สาม แต่เรากลับเสื่อมทรามเพราะใช้ส่งภาพถ่ายคลิปโป๊

น่าเสียดายที่เรามีโทรทัศน์หลายสิบช่อง แต่เรากลับจ้องจะดูแต่ละครน้ำเน่า

น่าเสียดาย ที่เรามีพ่อแม่อยู่ในบ้าน แต่เรากลับปล่อยให้ท่านอยู่อย่างเปลี่ยวเหงา

ที่มา เอามาจาก //www.facebook.com/v.vajiramedhi?v=wall

* เครดิตจาก sapaan.net *




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 10:55:49 น.
Counter : 1961 Pageviews.  

ฟอสซิลในพม่าชี้บรรพบุรุษของคนและลิงอยู่ใน เอเชีย

       
  

แผนภาพแสดงตำแหน่งที่พบฟอสซิลของบรรพบุรุษทั้งคนและลิงในพม่าและแอฟริกา ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่หนักเพียง 100 กรัม (ไลฟ์ไซน์)

ฟอสซิลที่เพิ่งพบใหม่ในพม่าชี้ว่าบรรพบุรุษของทั้งมนุษย์ ลิง และลิงไม่มีหางนั้นมีกำเนิดในเอเชียไม่ใช่แอฟริกาอย่างที่เข้าใจ ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ถกเถียงกันมานานหลายทศวรรษถึงกำเนิดมนุษย์วานร โดยฟอสซิลที่ขุดพบในอียิปต์นั้นเป็นหลักฐานที่ยึดกันมานานว่าแอฟริกาเป็นแหล่งกำเนิดของแอนโทรพอยด์นี้ แต่กระดูกที่พบเมื่อ 15 ปีก่อนก็จุดประเด็นถึงความเป็นไปได้ว่าเอเชียอาจเป็นแหล่งกำเนิดของบรรพบุรุษของเราและลิง
 
  ไลฟ์ไซน์ระบุว่าทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ขุดพบฟอสซิลใหม่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ซึ่งอาจจะเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่า “แอนโทรพอยด์” (anthropoids) หรือมนุษย์วานรซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลลิงไพรเมทชั้นสูง (higher primates) นั้นอาจมีกำเนิดในดินแดนที่ปัจจุบันกลายเป็นทวีปเอเชียตะวันออก และเผยถึงก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของสัตว์ไพรเมทและมนุษย์
 
  ฟอสซิลดังกล่าวมีชื่อว่า “แอเฟรเชีย ชิจิเด” (Afrasia djijidae) โดย “แอเฟรเชีย” (Afrasia) นั้นแสดงถึงแอนโทรพอยด์ในยุคแรกที่ถูกพบในจุดที่อยู่ระหว่างแอฟริกาและเอเชีย ส่วน “ชิจิเด” (djijidae) นั้นเพื่อรำลึกถึงเด็กผู้หญิงจากหมู่บ้านหนึ่งในใจกลางพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่ขุดพบซากฟอสซิลดังกล่าว ซึ่งหลังจากทีมนักวิทยาศาสตร์ค้นหาซากฟอสซิลในตะกอนดินเป็นเวลา 6 ปีพวกเขาก็ได้พบฟันของแอเฟรเชียจำนวน 4 ซี่ ในพื้นที่ซึ่งเข้าถึงได้ด้วยเกวียนเท่านั้น และรถขับเคลื่อนสี่ล้อไม่สามารถเข้าไปได้
 
  ฟันของมนุษย์วานรแอเฟรเชียอายุ 37 ล้านปีนี้คล้ายคลึงกับฟันของแอนโทรพอยด์ในยุคแรกเริ่ม “แอโฟรทาร์เซียส ไลบิคัส” (Afrotarsius libycus) ซึ่งมีอายุราว 38 ล้านปี ที่เพิ่งขุดพบในทะเลทรายซาฮารา (Sahara Desert) ของลิเบียเมื่อเร็วๆ นี้ โดยแอนโทรพอยด์ในลิเบียนั้นแตกต่างจากที่พบในแอฟริกามากกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดไว้เยอะ ซึ่งชี้ว่ามนุษย์แอนโทรพอยด์นี้น่าจะมีกำเนิดจากที่อื่น และด้วยว่าคล้ายคลึงระหว่างแอเฟรเชียและแอโฟรทาร์เซียสนั้นชี้ว่าแอนโทรพอยด์ในยุคเริ่มแรกที่สร้างอาณานิคมในแอฟริกานั้นมาจากเอเชีย
 
  การอพยพจากเอเชียนี้ได้ตั้งระยะสำหรับวิวัฒนาการในยุคหลังของลิงเอป (ape) หรือลิงไม่มีหางและมนุษย์ในแอฟริกา โดย ฌอง-ฌาคส์ เจเกอร์ (Jean-Jacques Jaeger) นักวิจัยในทีมและนักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยปัวตีเย (University of Poitiers) ในฝรั่งเศสกล่าวกับไลฟ์ไซน์ว่า แอฟริกาเป็นสถานที่กำเนิดของมนุษย์ และเอเชียก็เป็นจุดเริ่มต้นของบรรพบุรุษของเรา

          

ตัวทาร์เซียร์ที่คาดว่ามีขนาดพอๆ กับแอนโทรพอยด์ที่พบในพม่า

ด้วยรูปร่างของแอเฟรเชียจากเอเชียและแอโฟรทาร์เซียสในแอฟริกาเหนือ ชี้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อาจกินแมลง และขนาดฟันของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ชี้ว่าเมื่อมีชีวิตอยู่บรรพบุรุษของเราหนักประมาณ 100 กรัม หรือมีขนาดประมาณตัวทาร์เซียร์ (tarsier) ในปัจจุบัน
 
  อย่าไงรก็ดี ยังคงมีคำถามปลายเปิดว่าแอนโทรพอดส์ในยุคแรกๆ นั้นอพยพจากเอเชียไปแอฟริกาได้อย่างไร ย้อนกลับไปในอดีตนั้นทั้งสองทวีปนี้แยกจากกันด้วยทะเลที่กว้างกว่าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea) ในปัจจุบันที่เรียกว่า “ทะเลเทธีส” (Tethys Sea) ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่าแอนโทรพอยด์ในยุคแรกนั้นว่ายข้ามทะเลจากเกาะสู่เกาะ และออกจากเอเชียมาถึงแอฟริกา หรืออาจจะล่องแพไปพร้อมซุงจากการพัดพาของธรรมชาติ ซึ่งเกาะวัตถุใดๆ ที่ถูกพัดลงทะเลโดยกระแสน้ำท่วมหรือพายุ ซึ่งพบว่าสัตว์กลุ่มอื่นๆ ก็อพยพจากเอเชียไปยังแอฟริกาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้
 
  หลังจากที่แอนโทรพอยด์ในยุคแรกเดินทางสู่แอฟริกา สัตว์ชนิดเดียวกันที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ตายเกลี้ยงอยู่ในเอเชีย ซึ่งเจเกอร์กล่าวว่า เมื่อราวๆ 34ล้านปีก่อนนั้นมีธารน้ำแข็งขนาดมหึมาที่ทำให้ภูมิอากาศโลกเย็นจัดและส่งผลกระทบต่อเอชียมากกว่าแอฟริกา และระหว่างวิกฤตดังกล่าว ทีมวิจัยของเขาสันนิษฐานว่า แอนโทรพอยด์ดั้งเดิมในเอเชียก็สูญสิ้นไปหมด ส่วนแอนโทรพอยด์ที่เราพบในเอเชียปัจจุบันนี้ อย่างชะนีหรืออุรังอุตังนั้นก็อพยพมาจากแอฟริกาเมื่อประมาณ 20 ล้านปีก่อน
 
  ทีมวิจัยยังเชื่ออีกว่าแอนโทรพอยด์ในยุคตั้งต้นนั้นเคยปรากฏในบริเวณระหว่างพม่าและลิเบีย อย่างไรก็ดี ฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตดังกล่าวยังไม่ได้รับการขุดค้น ส่วนหนึ่งเป็นเหตุผลในเรื่องความปลอดภัยของการเข้าถึงพื้นที่ อย่างเช่นในแอฟกานิสถาน เป็นต้น อย่างไรก็ดี สำหรับงานวิจัยนี้พวกเขาได้เผยแพร่รายละเอียดลงวารสารโพรซีดิงส์ออฟเดอะเนชันนัลอะคาเดมีออฟไซน์ส (Proceedings of the National Academy of Sciences) ในฉบับออนไลน์

แผนภาพแสดงตำแหน่งที่พบฟอสซิลของบรรพบุรุษทั้งคนและลิงในพม่าและแอฟริกา ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่หนักเพียง 100 กรัม (ไลฟ์ไซน์)
    




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 10:42:16 น.
Counter : 1806 Pageviews.  

คุณรู้หรือไม่ว่า คนที่นอนมากกว่า 8 ชั่วโมง เสี่ยงตายเร็ว!

นอน

…………..คุณรู้หรือไม่ว่า 
คนที่นอนมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อคืน 
มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตเร็วขึ้น 
และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
และโรคหัวใจอีกด้วย ทั้งนี้คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ศึกษาพฤติกรรมการนอนของ ชาวอเมริกันซึ่งมีอายุระหว่าง 30-102 ปี จำนวนกว่า 1 ล้านคน ภายในระยะเวลา 6 ปี พบว่า คนที่นอน 
8 ชั่วโมงต่อคืน มีแนวโน้มจะเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่ใช้เวลานอน 7 ชั่วโมงต่อคืน มากถึง 12% ส่วนคนที่นอนมากกว่า 
8 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า 4 ชั่วโมงครึ่งต่อคืน ก็มีแนวโน้มว่า
จะเสียชีวิตเร็วขึ้นมากถึง 15%

…………..สาวๆ คนใดที่ขี้เซาก็ควรรีบลืมตาตื่น ไม่ควรนอนมากจนเกินไป แต่สำหรับสาวคนใดที่นอนน้อยในแต่ละคืนก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะการอดนอนหรือนอนน้อยก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่นกัน ไม่ว่าจะเสี่ยงต่อการเกิด โรคมะเร็ง 
โรคเบาหวาน รวมถึง โรคอ้วน อีกด้วย เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสาวๆ 
ก็ควรนอนในเวลาที่พอเหมาะ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายใดๆ ด้วย

ที่มาจาก www.womanplusmagazine.com

* เครดิตจาก  women.mthai.com *                                                                                                        




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 10:20:30 น.
Counter : 1354 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.