แนะนำหนังสือน่าอ่านประจำสัปดาห์           สัปดาห์นี้ กระปุกดอทคอม มีหนังสือดี ๆ 4 เล่มจากสำนักพิมพ์ใยไหมมาฝากกัน เชื่อว่าใครที่ได้ลองอ่านหนังสือเหล่านี้แล้ว คงจะเข้าใจ และหาคำตอบในหลาย ๆ เรื่องให้ตัวเองได้นะคะ สุขอย่างไร...ให้ถึงใจ โดย ชุติปัญโญ           "สุขอย่างไร...ให้ถึงใจ" หนังสือที่รวบรวมและคัดสรรบทความจากผลงานที่ผ่านมาของ "ชุติปัญโญ" โดยเนื้อหาต่าง ๆ มีทั้งการปลอบโยน ให้กำลังใจในวันที่ทุกข์ท้อ รวมถึงการแนะแนวทางเพื่อข้ามผ่านอุปสรรคขวากหนามนานา โดยมีความงดงามของชีวิต เป็นเป้าหมายสูงสุด           หนังสือเล่มนี้อาจช่วยกระตุ้นให้คุณตั้งคำถามใหม่ ๆ จากเดิมที่เคยถามตัวเองว่า "ทำอย่างไร...เราจึงจะมีความสุข?" เปลี่ยนเป็น "แล้วเราจะสุขอย่างไร...ให้ถึงใจ" อันเป็นความสุขแท้...ของชีวิต           "เพียงลอกคราบปัญหาด้วยปัญญา เพื่อค้นพบสุขแท้แห่งชีวิต" ถ้ารักอย่างเข้าใจก็ไม่มีใครเจ็บ โดย ออนอุมาร์           จุดเด่น "ถ้ารักอย่างเข้าใจก็ไม่มีใครเจ็บ" ผลงานของ "ออนอุมาร์" ที่บอกเล่าเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในความสัมพันธ์ เช่น การชอบเอาชนะ เอาแต่ใจ ขี้หึง เรียกร้องต้องการ ซึ่งล้วนเป็นผลของการรักมากเกินไป การกระทำเหล่านี้มีแต่จะยิ่งทำให้ตัวเองเจ็บปวด และทำให้คนรักเบื่อหน่าย ลองปรับตัวเองเสียใหม่ ทะเลาะกันในเรื่องเดิม ๆ ให้น้อยลง เพราะความรักต้องอาศัยความพอดี และมีที่ว่างให้แก่กัน             "รักน้อยไป...ก็อาจล่ม รักมากไป...ก็อาจร่วง รักอย่างพอดี และมีพื้นที่ว่างให้กัน นั่น...อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด" คุยกับใจตัวเอง โดย ทาโร่           "คุยกับใจตัวเอง" ผลงานของ "ทาโร่" ที่ชวนผู้อ่านมาตั้งคำถามว่า ทุกครั้งที่เกิดปัญหา เราได้เคยหันหน้ามาคุยกับตัวเองอย่างจริงจังบ้างหรือเปล่า เมื่อชีวิตของเราต้องพบกับความเหนื่อยกาย จิตใจอ่อนแอ หดหู่ ลองหาเวลาคุยกับใจตัวเองให้ได้มากที่สุด เพื่อทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เข้ามากระทบใจนั้นเป็นเช่นไร และจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้อย่างไร เพราะทุกอย่างเริ่มต้นที่ใจ และจบลงที่ใจเช่นกัน โลกสวยงามขึ้นเมื่อเดินช้าลง โดย ปูปรุง           "โลกสวยงามขึ้นเมื่อเดินช้าลง" ผลงานของ "ปูปรุง" นำเสนอเรื่องราวชีวิตหลากหลายแง่มุมของผู้เขียน ซึ่งให้ข้อคิด และเติมพลังกาย พลังใจ พลังความคิดของผู้อ่านให้คมขึ้น ปูปรุงต้องการบอกว่าความสุขในชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็มีวิธีหาความสุขให้ตัวเองแตกต่างกันไป หนังสือเล่มนี้อาจเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้คุณค้นหาความสุขในชีวิต ผ่านเรื่องราวดี ๆ ของปูปรุง * kapook.com*   Create Date : 14 กรกฎาคม 2555     Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 19:40:50 น. Counter : 2183 Pageviews.   Share Tweet

13 เกาะสวยรูปร่างแปลกจากทั่วโลก เมื่อนึกถึงเกาะ ใคร ๆ ก็คงนึกถึงแผ่นดินที่ผุดอยู่กลางทะเล มีน้ำล้อมรอบ มีทราย มีชายหาด มีต้นไม้ และเกาะในอุดมคติของหลาย ๆ คนก็คงจะเป็นเกาะรูปกลม ๆ อย่างแน่นอน แต่คราวนี้ลองมาแปลกแหวกแนวสักนิดด้วยเกาะสวย ๆ รูปทรงประหลาด ปั้นแต่งโดยฝีมือธรรมชาติ (มีฝีมือมนุษย์เข้ามาปรุงแต่งบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ) ลองมาดูกันเลยว่าเกาะทั้ง 13 นั้น จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง   1. เกาะแห่งความรัก           เกาะรูปหัวใจเกาะนี้มีชื่อว่าเกาะกาเลสน์แจ็ค (Galešnjak) หรือเรียกกันว่าเกาะแห่งความรัก (Island of Love) อยู่ที่บริเวณช่องแคบพาสมัน ในทะเลเอเดรียติก ระหว่างเกาะพาสมัน และเมืองตูรันจ์ บนแผ่นดินใหญ่ของประเทศโครเอเชีย เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่เพียง 0.132 ตารางกิโลเมตร ชายหาดยาว 1.55 กิโลเมตร มีเนินสูงอยู่สองลูก โดยลูกที่สูงที่สุดนั้นสูงเพียง 36 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลเท่านั้น เก็บภาพมาได้เป็นครั้งแรกจากโปรแกรมกูเกิล เอิร์ธ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2009 (แหม เดือนแห่งความรักพอดีเลยแฮะ) 2. เกาะรูปสเปิร์ม           เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่า มันหน้าตาเหมือนเจ้าสเปิร์มยักษ์ที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเลสีครามยังไงยังงั้น แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเกาะนี้อยู่ที่ไหน และมีชื่อว่าอะไร ทราบจากที่มาของภาพแต่เพียงว่าถ่ายไว้ได้จากการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินจากทวีปยุโรปไปประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นเอง 3.เกาะต้นไม้           เกาะที่มีรูปร่างเหมือนกับต้นไม้นี้เป็นหนึ่งในบรรดาหมู่เกาะสกิลลี ที่อยู่ทางชายฝั่งของมณฑลคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ มันมีทั้งส่วนที่เป็นลำต้น กิ่งก้านที่แผ่ขยายมีใบอยู่เต็ม แม้กระทั่งส่วนที่เป็นดินและรากก็มีอยู่ครบถ้วนทีเดียวล่ะ   4. เกาะแครอท            เกาะเล็ก ๆ รูปทรงปลายรี ๆ หัวโต ๆ แถมยังได้สัดส่วนของแครอทพอดีเป๊ะเกาะนี้ ถูกแชะภาพเก็บไว้ได้โดยนายแบดรัดเดน ช่างภาพผู้อยูระหว่างการท่องเที่ยว ซึ่งเก็บภาพเกาะรูปร่างสะดุดตาระหว่างที่เครื่องบินที่เขาโดยสารกำลังเชิดหัวขึ้นจากสนามบินมาเล ประเทศมัลดีฟส์   5. เกาะหน้ากาก           เกาะนี้มีชื่อว่าเกาะฮาวาเฮนดู เป็นหนึ่งในบรรดาหมู่เกาะมัลดีฟส์ มองดูเหมือนกับส่วนตาของหน้ากากที่ประดับด้วยวัสดุต่างชนิดกัน ก็เลยดูเป็นหน้ากากในปาร์ตี้แฟนซีแบบนี้แหละ   6. เกาะรูปปอด           เกาะเล็ก ๆ ที่ฟลอริดา คีย์ส ของสหรัฐฯ เกาะนี้ มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับปอดจริง ๆ ทั้งรูปทรงของเกาะ และถนนสายที่ตรงมายังเกาะอันเปรียบเสมือนเป็นหลอดลม ปอดข้างหนึ่งประกอบด้วยถุงลมสีเขียวซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่น้อยที่ขึ้นบนเกาะ ส่วนอีกด้านก็โชว์การทำงานของปอดด้วยถนนสายย่อยที่เปรียบเหมือนหลอดย่อยและเส้นเลือดนั่นเอง   7. เกาะกระเบน           เกาะทรงสามเหลี่ยมนี้คือเกาะ Æbelø ของประเทศเดนมาร์ก มีจุดเด่นสำคัญตรงส่วนหางของเกาะที่เรียวแคบเล็กเป็นเส้น จนดูแล้วเหมือนกับหางของกระเบนเสียจริง ๆ นั่งเครื่องบินมองผ่านแวบเดียวอาจคิดว่าได้เห็นกระเบนตัวยักษ์กำลังว่ายชิดผิวน้ำก็ได้นะ :P   8. เกาะรูปหน้าการ์ตูน           รูปร่างเว้า ๆ แหว่ง ๆ ของเกาะเลสเซอร์ ซุนดา ประเทศอินโดนีเซีย ดูผ่าน ๆ ก็หน้าตาแบบเกาะธรรมด๊าธรรมดา แต่ลองมองดูตรงกลางของเกาะดี ๆ สิ คุณเห็นหัวโต ๆ ดวงตา และปากที่กำลังอ้าหวอไหม? ดูคล้ายหน้าตาของตัวการ์ตูนเลยล่ะ   9. เกาะรูปลูกตา           เกาะสีครามสวยนี้เป็นอีกหนึ่งเกาะเล็ก ๆ ในบรรดาหมู่เกาะมัลดีฟส์ที่โด่งดัง รูปทรงของมันกลมดิกเหมือนกับลูกตา ทั้งยังมีส่วนของน้ำทะเลตรงกลางที่ดูเหมือนรูม่านตา ส่วนสีขาวอ่อน ๆ อันคล้ายตาขาวที่อยู่รอบ ๆ ก็เกิดจากสีสันของแนวปะการัง ดูแล้วกลายเป็นดวงตาสีฟ้าสุกใสสวยงามอยู่กลางทะเล ผลงานของธรรมชาติช่างวิเศษจริง ๆ   10. เกาะม้าน้ำ           นี่คือเกาะอิสเบล เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาหมู่เกาะกาลาปากอส รูปร่างของมันเหมือนม้าน้ำจริง ๆ ตั้งแต่ส่วนของหัว ปาก และลำตัว ส่วนหางที่ออกจะดูใหญ่เกินความจริงนั้นก็พอจะให้จินตนาการได้ว่า เจ้าม้าน้ำตัวนี้กำลังใช้หางของมันม้วนเกี่ยวกับพืชน้ำเอาไว้ยังไงล่ะ ^^   11. เกาะบูมเมอแรง           หากอยากเห็นเกาะที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับบูมเมอแรงนี้แล้วล่ะก็ แนะนำให้คุณนั่งเครื่องบินในเที่ยวบินจากกรุงมะนิลาถึงกัวลาลัมเปอร์ดูนะ หลังจากเครื่องบินร่อนเหนืออากาศไปแล้วสัก 45 นาที อย่าลืมก้มลงกวาดตามองหาเกาะบูมเมอแรงแห่งนี้ดูด้วยล่ะ   12. เกาะรูปหน้ายิ้ม           เกาะหน้ายิ้มที่แสนน่ารักน่าชังนี้ เกิดจากเกาะเล็ก ๆ สามเกาะของประเทศมาเลเซีย คือ มานุคัน มามุติก และซาลัก เรียงตัวกันได้อย่างเป็นจังหวะ เกิดเป็นรูปใบหน้าที่กำลังฉีกยิ้มกว้างทักทายใครก็ตามที่สังเกตเห็นมัน ^_^   13. เกาะปลาโลมา           เกาะรูปทรงประหลาดที่ไปคล้ายกับปลาโลมาที่แสนน่ารักและร่าเริงนี้เข้าอย่างจัง เป็นเกาะที่เกิดจากแนวปะการัง ซึ่งมันตั้งอยู่ทางชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะฟลอเรส ประเทศอินโดนีเซีย และดูท่าทางว่าเจ้าปลาโลมาตัวนี้คงกำลังว่ายน้ำอย่างสนุกสนานอยู่เลยล่ะ           ธรรมชาตินั้นสรรสร้างอะไรได้มหัศจรรย์อย่างที่มนุษย์คาดไม่ถึงเสมอ ถึงได้เกิดเกาะแก่งรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ เหล่านี้ขึ้นมาไงล่ะ บางเกาะก็มองปราดเดียวดูออกว่ามันคล้ายอะไร แต่ก็มีบางส่วนต้องใช้จินตนาการช่วยด้วยเยอะเหมือนกัน (แต่มนุษย์ก็มีจินตนาการล้ำลึกที่สุดนี่นา) ว่าแต่คุณล่ะ ชอบเกาะหน้าตาแปลก ๆ เกาะไหนกันบ้างล่ะ ? * kapook.com *   Create Date : 14 กรกฎาคม 2555     Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 19:36:48 น. Counter : 2097 Pageviews.   Share Tweet

อาหารต้องห้ามขณะท้องเสีย อาหารต้องห้ามขณะท้องเสีย (Woman's Story)           เวลาท้องเสียมันแสนทรมานจริง ๆ จะทานนู่นก็ไม่ได้ ทานนี่ก็ไม่ได้ เพราะกลัวอาการจะยิ่งหนักขึ้น ถ้าเช่นนั้นมาจำกันไว้ดีกว่า ว่าถ้าท้องเสียขึ้นมา อะไรทานได้ อะไรทานไม่ได้บ้าง           สำหรับคนท้องเสียเรื้อรัง มักจะมีอาการปวดท้อง และถ่ายเหลว ซึ่งจะเป็น ๆ หาย ๆ บางคนเรียกว่า คนธาตุอ่อน อาหารต้องห้าม คือ อาหารจำพวกรสเผ็ด เปรี้ยว ของทอดของมัน เหล้า เบียร์ นมสด ชา กาแฟ น้ำส้ม สายชู และกะทิ เป็นต้น           ส่วนอาหารที่ควรกิน ก็คืออาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืชต่าง ๆ รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ มีจุลินทรีย์ชนิดแล็คโตบาซิลลัส หรือไบฟิโดแบคทีเรีย เป็นส่วนผสมอยู่ด้วยจะดีมาก นอกจากนั้นการกินอาหารในแต่ละครั้งก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ และควรเคี้ยวให้ละเอียดค่ะ           สำหรับอาการท้องเสียฉับพลัน เป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ มีลักษณะถ่ายเหลวเป็นน้ำ และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ไม่ควรทาน ผัก ผลไม้ และน้ำผลไม้            ส่วนอาหารที่ควรกิน ก็คือผงน้ำตาลเกลือแร่ ชงน้ำ เพราะเวลาที่เราท้องเสียร่างกายจะสูญเสีย เกลือแร่ ดังนั้นเราหมั่นดื่มเกลือแร่บ่อย ๆ แทนน้ำค่ะ นอกจากนั้นควรกินอาหารที่ย่อยง่ายอย่างเช่นโจ๊ก ข้าวต้ม เป็นต้น           เชื่อว่าการที่เราเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีในขณะที่ท้องเสียจะช่วยให้ลำไส้ไม่ต้องทำงานหนัก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก * kapook.com *   Create Date : 14 กรกฎาคม 2555     Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 19:35:08 น. Counter : 1683 Pageviews.   Share Tweet

หงส์ประกาศคว้าบอรินี่-พร้อมใส่เบอร์ 29 ข่าวฟุตบอล ฟาบิโอ บอรินี่ กลายสภาพเป็นนักเตะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลรายแรกของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อย่างเต็มตัวหลังเซ็นสัญญายาวรับเบอร์ 29 เปิดตัวอย่างเป็นทางการสมใจ "เดอะ ค็อป" ทั่วโลก ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.liverpoolfc.com "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ประกาศคว้าตัว ฟาบิโอ บอรินี่ กองหน้าดาวรุ่ง "หมาป่าเหลือง-แดง" อาแอส โรม่า มาเสริมอาวุธหนักในแดนหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยดาวยิงวัย 21 ปีกลายเป็นคนเตะคนแรกในการเสริมทัพภายใต้การคุมบังเหียนของ เบรนเดน ร็อดเจอร์ส ในช่วงซัมเมอร์นี้ ด้วยสัญญาระยะยาวและคาดว่าค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 7.8 ล้านปอนด์ (ราว 390 ล้านบาท) และอาจมีออฟชั่นเสริมไปถึงประมาณ 10 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท) ทั้งนี้แข้งป้ายแดงจะได้ส่วมเสื้อหมายเลข 29 จากการรายงานผ่านหน้าเว็บไซต์ของทางสโมสร "แฟนๆ จะต้องหลงรักเขาอย่างรวดเร็ว" เบรนดอน ร็อดเจอร์ส บอสใหญ่ถิ่น แอนฟิลด์ กล่าวกับเว็บไซต์ของลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการ "เขาคืออิตาเลียน ก็อต ทาเลนท์ของจริง บอรินีเพิ่งจะ 21 และอนาคตยังไกลได้อีกเยอะ เขาจะเป็นส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมของเราที่นี่" "ผมรู้จักเขามาตั้งแต่สมัยเขา 15-16 ขวบ ตอนนั้นเชลซีที่ผมเคยทำงานอยู่คว้าตัวเขามาจากโบโลญญ่า และสร้างความมหัศจรรย์ด้วยทักษะอันแพรวพราว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมผมถึงเลือกเขาอีกครั้งที่นี่" ขณะเดียวกัน เจ้าตัวเองก็แสดงความรู้สึกยินดีที่ได้รับการเซ็นสัญญาจากสโมสรชั้นนำและเป็นยอดทีมของอังกฤษอย่างลิเวอร์พูล "ผมรู้สึกดีมากเลยนะเพราะซักวันผมอยากจะกลับมาอังกฤษอยู่แล้ว ผมรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวได้กลับมาอีก" บอรินี่ ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์สโมสร "การได้กลับมาอยู่กับลิเวอร์พูลมันแหล่มกว่าเดิมอีกนะเพราะผมจะได้แสดงให้เห็นว่าทำอะไรได้บ้าง เรามียูโรป้าลีกและอีกหลายรายการให้เล่นด้วย" "ผมหวังว่าจะประสบความสำเร็จให้ได้มากที่สุดด้วยการถล่มประตูให้ทีม และพาทีมสู่แชมเปี้ยนส์ลีกและทุกสิ่งที่สโมสรรวมถึงนักเตะคนอื่นทุกคนต้องการ" "นี่เป็นสโมสรชั้ยอดที่คว้าแชมป์มามากมายมาในอดีตและก็จะมีอีกในอนาคตแน่ซึ่งเราก็หวังแบบนั้นเช่นกัน" ทั้งนี้อดีตกองหน้า "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เคยร่วมงานกับเบรนเดน ร็อดเจอร์ส มาก่อนในอดีต ทั้งสมัยที่ถูกยืมตัวมาเล่นกับ "หงส์ขาว" สวอนซี และตอนอยู่ในทีมระดับเยาวชนของเชลซี โดยฤดูกาลที่ผ่านมาบอรินี่ซัดไป 10 ประตูใน 26 นัด กับทีมโรม่า และได้เปิดตัวครั้งแรกในนามทีมชาติอิตาลีในนัดกระชับมิตรกับสหรัฐอเมริกา และเขายังเป้นส่วนหนึ่งของทีมชาติอิตาลีในศึกยูโร 2012 ด้วย * kapook.com *   Create Date : 14 กรกฎาคม 2555     Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 19:33:40 น. Counter : 1249 Pageviews.   Share Tweet

10 อันดับภาพยนตร์ที่คุณควรดูก่อนตาย อันดับ10 12 Angry Men (1957) มาเริ่มต้นกันจัดอันดับกับ toptenthailand กันเลยครับ ภาพยนตร์ที่เราจะไปดูพร้อมๆกันเรื่องแรกคือ "12 Angry Men" เป็นภาพยนตร์ดราม่าเกี่ยวกับการพิพากษา ของคณะลูกขุน 12 คน ที่ต้องพิจารณาคดีฆาตกรรม โดยมีเด็กหนุ่มตกเป็นจำเลยในข้อหา ฆาตกรรมพ่อตัวเอง หนังเรื่องนี้มีฉากเดียว คือฉาก ห้องพิจารณาคดีของลูกขุนทั้ง 12 คน ที่จะต้องถกเถียงกันในห้องนี้ก่อนที่จะตัดสินใจพิพากษาคดีฆาตกรรมนี้ มีทั้งการหาเหตุผล การคิดวิเคราะห์ แต่ประเด็นหลักของหนังเรื่องนี้กลับไปตกอยู่กับ การขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ของลูกขุนบางคน การปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล และไม่เคารพความเห็นของผู้อื่น ห้ามพลาดจริงๆครับผม อันดับ9 Mr. Nobody (2009) มาต่อกันที่ 9 ของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "Mr. Nobody" หนังแนวๆ สำหรับคอหนังแนวๆ กับ "หนุ่มหน้ามน คนหลายชะตา" ส่วนเนื้อเรื่องนั้นก็มีผสมปนเปกันไปทั้ง ไซไฟ ดราม่า โรแมนติค แฟนตาซี ตลกร้าย ที่แฝงแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ศาสนา ไอเดียล้ำๆ เข้ามาแบบจัดเต็ม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ดูเข้าใจยากขนาดนั้น จึงนับว่านี่เป็นหนังที่ทั้งโดนใจ น่าตื่นตาเรื่องนึงเลยทีเดียว สำหรับแฟนๆ toptenthailand ต้องขอบอกว่าห้ามพลาดครับ อันดับ8 A Clockwork Orange (1971) มาถึงอันดับที่ 8 ของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "A Clockwork Orange" เป็นภาพยนตร์ไซไฟ ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2514 กำกับโดย สแตนลีย์ คูบริก สร้างจากนิยายชื่อเดียวกันของ แอนโทนี เบอร์เกสส์ เป็นเรื่องของสังคมในโลกอนาคต ที่เต็มไปด้วยแก๊งอันธพาล โดยนำเสนอผ่านบทของ อเล็กซ์ เด็กหนุ่มเลือดร้อน หัวหน้าแก๊งอันธพาลที่สวมเสื้อสีขาว หมวกสีดำ เป็นเอกลักษณ์ นิยมความรุนแรง ชอบทำลายข้าวของชาวบ้าน เมื่อภาพยนตร์ออกฉายใหม่ๆ ถูกต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความรุนแรง เรื่องเพศ และการส่งเสริมความเลวร้ายต่อสังคม เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาโดยถูกจัดเรตของภาพยนตร์เป็น เรตเอ็กซ์ เนื่องจากความรุนแรง แต่ในเวลาต่อมา กลับได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ไซไฟ ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง ภาพยนตร์ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ 4 สาขา อย่างนี้แล้วจะพลาดกันได้อย่างไร อันดับ7 Se7en (1995) มาถึงอันดับที่ 7 ของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่เรื่อง "Se7en " สุดยอดหนัง Thriller ในดวงใจของใครหลายๆคน บางคนอาจจะมองว่าเป็นหนังฆาตกรต่อเนื่องทั่วๆไป แต่อย่าเผลอล่ะ เพราะคุณจะตะลึงในตอนท้ายเลยแหละ ยังไงอย่าเพิ่งตายถ้ายังไม่ได้ดู "Se7en" อันดับ6 The Shawshank Redemption (1994) มาถึงอันดับที่ 6 ของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "The Shawshank Redemption" สุดยอดหนังติดคุกที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค ทั้งดราม่า ทั้งแง่คิด ทั้งสะท้อนความเป็นไปของสังคมในคุก แต่เนื้อเรื่องที่หลายๆคนไม่ชอบคือการดำเนินเรื่องอาจจะช้า ไม่ทันใจ แต่ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ไม่ได้เสียเปล่า ได้คะแนนจาก imdb ไปถึง 9.2/10 ซึ่งเป็นคะแนนที่สุดยอดมาก (คอหนังรู้ดีว่า imdb โหดแค่ไหน) อันดับ5 Carlito's Way (1993) มาถึงครึ่งทางของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "Carlito's Way" โดยเนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของ อดีตมาเฟียออกจากคุก พร้อมกลับใจเลิกเป็นมาเฟีย พร้อมที่จะหนีชีวิตเดิมๆไปกับคู่ชีวิต นำแสดงโดน "อัล ปาชีโน" เจ้าเก่า ที่เล่นได้ถึงบทบาท เรียกได้ว่าเป็นหนังมาเฟียที่ยอดเยี่ยมของยุคเลยก็ว่าได้ ก่อนตายไปหามาดูกันนะครับ อันดับ4 Scarface (1983) มาถึงอันดับที่ 4 ของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "Scarface" ซึ่งตัวละครหลักก็คือ โทนี มอนตานา โดยเป็นราชาพ่อค้ายาเสพติดจากคิวบา หลังจากที่ออกจากคิวบา เข้าก็มาสร้างอาณาจักรของเขาเรื่อยๆจนกลายเป็นสุดยอด พ่อค้ายาเสพติดในไมอามี แสดงโดยสุดยอดดาราอย่างชาย "อัล ปาชีโน" (ไม่ดูไม่ได้แล้ว ) แค่มีชื่อ อัลปาชีโน ก็เรียกได้ว่าห้ามพลาดแล้ว อันดับ3 The Godfather: Part III (1974) มาถึงอันดับที่ 3 ของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "The Godfather: Part III" ในภาคนี้จะเป็นการนำเสนอของ ในชีวิตช่วงบั้นปลายของ ดอน ไมเคิล เขาต้องการทำธุรกิจของครอบครัวให้ถูกต้องตามกฎหมาย และอยากจะวางมือจากวงการมาเฟียเสียที แต่ไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิด ถึงเนื้อเรื่องจะดรอปจาก 1-2 ภาคแรก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวหนังคุณภาพดรอปลงไปมากนัก จึงไม่แปลกที่จะขึ้นมาติดอันดับที่ 3 ได้อย่างง่ายดาย อันดับ2 The Godfather: Part II (1974) มาถึงอันดับที่ 2 ของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "The Godfather: Part II" สืบเนื่องจากความสำเร็จของภาพยนตร์ภาคแรก ที่ได้รับรางวัลออสการ์ 3 รางวัล ก่อนเดอะก็อดฟาเธอร์ ภาค 2 จะเริ่มฉาย มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ภาพยนตร์ภาคต่อจากภาคแรกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง มักจะล้มเหลว ปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ภาคต่อเพียงไม่กี่เรื่อง ที่ได้รับคำชื่นชมว่า สามารถสร้างได้เทียบเท่า หรือดีกว่าภาคก่อนหน้า เดอะก็อดฟาเธอร์ ภาค 2 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้งสิ้น 11 รางวัล ได้รับรางวัล 6 รางวัล รวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยม (โรเบิร์ต เดอ นิโร) สุดยอดขนาดที่ ทีมงาน toptenthailand ว่าแค่ก่อนตายยังไม่พอ ถึงตายไปแล้วก็ควรจะไปหามาดูครับ (เย้ย) อันดับ1 The Godfather (1972) มาถึงสุดยอดภาพยนตร์ในตำนานของการจัดอันดับ toptenthailand ได้แก่ "The Godfather" หรือ เดอะก็อดฟาเธอร์ เป็นภาพยนตร์ ที่กำกับโดย ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ออกฉายเมื่อปี ค.ศ. 1972 เป็นสุดยอดตำนานภาพยนตร์ และยังได้รับการจัดอันดับจาก IMDB ให้เป็นอันดับที่ 1 จากภาพยนตร์กว่า 250 เรื่อง อีกด้วย เรียกได้ว่าระดับสุดยอดในตำนาน และก็ยังมีอีกหลายๆภาคขนออกมา ก่อนตายรีบไปหามาดูครับ แล้วจะหาว่า ทีมงาน toptenthailand ไม่เตือนนะครับ (สุดยอดไม่สุดยอดก็ติด 3 ภาคเลย) * sanook.com *   Create Date : 14 กรกฎาคม 2555     Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 19:31:28 น. Counter : 6689 Pageviews.   Share Tweet

• ข่าวล่ามาไว 07/2012
• ข่าวล่ามาไว 08/2012
• ข่าวล่ามาไว 09/2012
• ข่าวล่ามาไว 10/2012
• ข่าวล่ามาไว 11/2012
• ข่าวล่ามาไว 12/2012
• ข่าวล่ามาไว 01/2013
• ข่าวล่ามาไว 03/2013
• ข่าวล่ามาไว 04/2013
• ข่าวล่ามาไว 05/2013
• ข่าวล่ามาไว 06/2013
• ข่าวล่ามาไว 07/2013
• ข่าวล่ามาไว 08/2013
• ข่าวล่ามาไว 09/2013
• ข่าวล่ามาไว 11/2013

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com