ยูฟ่าเปิดโผ 32 แข้งเข้าชิงผู้เล่นยอดเยี่ยมของยุโรป


ข่าวฟุตบอล ยูฟ่ากางรายชื่อ 32 ผู้เล่นที่มีลุ้นคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของทวีป โรนัลโด้ และ เมสซี ติดตามคาด โดยมี ชินจิ คากาวะ แข้งซามูไรใหม่ถอดด้ามของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดโผด้วย

จากรายชื่อทั้งหมด มีนักเตะจากเรอัล มาดริด แชมป์ลา ลีกา อยู่มากที่สุด ถึง 7 ราย รองลงมาคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ส่งเข้าประกวด 6 ราย

นอกจากนั้นยังมีสองยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี และ บาร์เซโลน่า ที่มีเข้ามาฝั่งละ 4 คน และยังมีผู้เล่นที่โดดเด่นอีกหลายคนจากหลายทีมทั่วยุโรป หนึ่งในนั้นคือ ชินจิ คากาวะ ผู้เล่นเอเซียเพียงหนึ่งเดียวในลิสต์ จากผลงานสุดอลังการกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ขณะที่ผู้เล่นทีมชาติสเปนชุดแชมป์ยูโร 2012 มีติดอยู่ในโผแคนดิเดตของรางวัลนี้ถึง 8 ราย ไล่ตั้งแต่ อันเดรส อิเนียสต้า, เชส ฟาเบรกาส, ชาบี เอร์นานเดซ, ชาบี อลอนโซ่, อีเกร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, ดาบิด ซิลบา และ เฟร์นานโด ตอร์เรส

ส่วนนักเตะที่น่าเซอร์ไพรซ์ที่สุด ใน 32 คนสุดท้ายได้แก่ เลสลี่ เดวิส นักเตะกึ่งอาชีพชาวเวลส์ ของทีม บันกอ ซิตี้ ผ่านเข้ามาแบบพลิกโผ

ทั้งนี้ สำหรับการตัดสินรางวัลนี้จะมีขึ้นในวันที่ 30 ส.ค. นี้ ที่โมนาโก โดยใช้หลักเกณฑ์การโหวตลงคะแนนจากผู้สื่อข่าวจำนวน 53 ประเทศ ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ ยูฟ่า ซึ่ง 1 คนสามารถเลือกได้ 5 คน โดยอันดับ 1 จะได้ 5 คะแนน และอันดับ 2 ได้ 4 คะแนน จากนั้นลดหลั่นกันลงไป ก่อนเลือกเอานักเตะ 3 รายที่คะแนนสูงที่สุดมาประกาศผู้ชนะเลิศ

รายชื่อผู้เข้ารอบ 32 คนสุดท้าย

รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า

- ลีโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า) - บาร์เซโลน่า
- อันเดรส อิเนียสต้า (สเปน) - บาร์เซโลน่า
- เชส ฟาเบรกาส (สเปน) - บาร์เซโลน่า
- ชาบี เอร์นานเดซ (สเปน) - บาร์เซโลน่า
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส) - เรอัล มาดริด
- ชาบี อลอนโซ่ (สเปน) - เรอัล มาดริด
- อีเกร์ กาซิยาส (สเปน) - เรอัล มาดริด
- เซร์คิโอ รามอส (สเปน) - เรอัล มาดริด
- ฟาบิโอ โคเอนเตรา (โปรตุเกส) - เรอัล มาดริด
- เปเป้ (โปรตุเกส) - เรอัล มาดริด
- เมซุต โอซิล (เยอรมัน) - เรอัล มาดริด
- ราดาเมล ฟัลเกา (โคลอมเบีย) - แอต.มาดริด
- เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" (อาร์เจนติน่า) - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- มาริโอ บาโลเตลลี่ (อิตาลี) - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- ยาย่า ตูเร่ (ไอวอรี่ โคสต์) -  แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- โจ ฮาร์ท (อังกฤษ) - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- แว็งซ็องต์ กอมปานี (เบลเยี่ยม) - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- ดาบิด ซิลบา (สเปน) - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- เวย์น รูนี่ย์ (อังกฤษ) - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- ปีเตอร์ เช็ก (สาธารณรัฐเช็ก) - เชลซี
- แฟร็งค์ แลมพาร์ด (อังกฤษ) - เชลซี
- ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (ไอวอรี่ โคสต์) - เชลซี (เวลานี้ย้ายไปเล่นให้เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว)
- เฟร์นานโด ตอร์เรส (สเปน) - เชลซี
- โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ฮอลแลนด์) - อาร์เซน่อล
- ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย) - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- ยาคุบ บลาสซิซคอฟสกี้ (โปแลนด์) - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
- ชินจิ คางาวะ (ญี่ปุ่น) - ดอร์ทมุนด์ (เวลานี้ย้ายไปเล่นให้กับแมนฯยูไนเต็ด)
- ราอูล กอนซาเลซ (สเปน) - ชาลเก้04 (เวลานี้ย้ายไปเล่นให้กับ อัล-ซ้าดด์) 
- อันเดรีย ปีร์โล่ (อิตาลี) - ยูเวนตุส
- จานลุยจิ บุฟฟ่อน (อิตาลี) - ยูเวนตุส
- ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (สวีเดน) - เอซี มิลาน
- เลสลี่ เดวิส (เวลส์) - บังกอร์ ซิตี้

 


* kapook.com *




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 12:13:41 น.
Counter : 1348 Pageviews.  

ว้าว! เจ้าบูกลายเป็นทูตสายการบินเวอร์จิ้น












เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Virgin America

ถ้าหากจะพูดถึงสุนัขที่น่ารักที่สุดในโลก แน่นอนว่าหลาย ๆ คนคงจะนึกถึงเจ้าบู ปอมเมอร์เรเนียนตัวนี้แหง ๆ แหม ก็มันโด่งดังชนิดที่ว่ามีแฟนเพจในเฟซบุ๊กมากถึง 4 ล้านคนเลยทีเดียวเชียวล่ะ แต่ใครจะไปเชื่อว่า ณ วันนี้ ความน่ารักน่าชังของมันจะทำให้มันกลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ไปแล้ว ว้าว ๆ เมื่อล่าสุด สายการบินเวอร์จิ้น ได้ขอฉกตัวมันไปเป็นแอมบาสเดอร์ของสายการบินเป็นที่เรียบร้อย

          เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษรายงานว่า เจ้าบู สุนัขพันธุ์ปอมเมอร์เรเนียนวัย 6 ขวบ ได้กลายเป็นแอมบาสเดอร์ของสายการบินเวอร์จิ้น เพื่อสื่อถึงภาพลักษณ์ทางด้านการเป็นสายการบินที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง

          โดยงานนี้ ทางทีมสายการบินเวอร์จิ้น อเมริกา ได้จับเจ้าบูมาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเสื้อสีแดง ตามแบบฉบับของสายการบินเวอร์จิ้น จากนั้นก็จับไปนั่งตรงนู้นตรงนี้บนเครื่องบิน ร่วมงานกับทีมงานในสายการบินอย่างน่ารักน่าชัง เอ้า ว่าแล้วก็ลองไปดูภาพของเจ้าบู อิน เวอร์จิ้น กันเลยดีกว่า ว่าจะน่ารักยังไงบ้างน้าาา




















* kapook.com *




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 12:10:24 น.
Counter : 1748 Pageviews.  

ถมดินอย่างไรให้เหมาะสม

ถมดินอย่างไรให้เหมาะสม


ระดับดินที่เหมาะสม

ก่อนที่จะทำการสร้างบ้าน หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ เจ้าของที่ทุกรายจะต้องเกิดคำถามว่า ระดับดินของบ้านหรือโครงการนั้นจะเอาสูงแค่ไหน การที่จะตอบปัญหาข้อนี้ควรจะดูปัจจัยต่างๆอย่างเช่น


  1. บริเวณพื้นที่นั้น มีน้ำท่วมหรือเปล่า ท่วมสูงแค่ไหน อาจจะต้องสอบถามจากผู้คนแถวๆนั้น หรือถ้าสามารถดูร่องรอยน้ำท่วมที่อยู่ตามสิ่งก่อสร้างต่างๆได้ก็ยิ่งดีครับ
  2. ระดับท่อระบายน้ำและบ่อพักสูงแต่ไหน ระดับน้ำในระบบท่อระบายน้ำในพื้นที่นั้นอยู่ที่ระดับไหน สามารถสอบถามได้จากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบอยู่ หากระดับที่คุณต้องการถมอยู่ค่อนข้างสูงก็ไม่เป็นไรจะไม่มีปัญหาเรื่องการระบายน้ำ แต่ถ้าระดับของคุณค่อนข้างต่ำกว่าพื้นที่ข้างเคียง(ไม่ควร แต่จะด้วยเหตุจำเป็นใดๆก็ตาม) ควรจะเช็คตัวนี้ด้วยครับเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำในบ้านเราสามารถระบายออกสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะได้
  3. ระดับถนนหน้าบ้าน และระดับดินพื้นที่ข้างเคียง ปัจจุบันมีการถมยกระดับถนนกันมาก แข่งกันถมทั้งถนน ทั้งเพื่อนบ้าน ถ้าสามารถให้ระดับดินของเราใกล้เคียงกับพื้นที่รอบๆก็น่าจะดีครับ ทั้งในแง่ความปลอดภัยของโครงสร้างรั้ว การระบายน้ำ ฯลฯ

การกำหนดระดับดินถมควรดูปัจจัยรอบๆด้าน ถมสูงหน่อยได้เปรียบ แต่ค่าถมและค่ากำแพงกันดินจะแพงขึ้นตามระดับครับ



ทำไมต้องใช้ลูกรัง


ดินลูกรังสามารถบดอัดได้ดี เมื่อบดอัดแล้วจะแน่นแข็ง เหมาะแก่การถมเพื่อทำผิวถนนคอนกรีต แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ทำสวน ในการถมที่ปลูกบ้านอาจจะแบ่งโซนเป็นดินลูกรังเฉพาะส่วนถนนก็ได้ครับ


ถมดินก่อนสร้างบ้าน หรือ ถมทีหลังดี


การถมดินก่อนสร้างบ้านเครื่องจักรจะทำงานได้ง่าย อีกทั้งดินที่ถมทิ้งไว้จะยุบตัวไปบางส่วนขณะทำการก่อสร้าง เมื่อท่านสร้างบ้านเสร็จแล้วค่อยปรับระดับหน้าดิน และบดอัดดินทำถนนอีกครั้ง ดินจะยุบตัวอีกหลังจากนั้นไม่มากแล้วครับ

ถมดินอย่างไรไม่ทรุด (สำหรับดินบริเวณทั่วไป หรือ จัดสวน)

เรื่องการทรุดตัวของดินเกิดจากหลายสาเหตุคือ


  1. ดินที่นำมาถมเมื่อถูกขุดและขนย้ายแล้วนำมาถม เนื้อดินจะไม่แน่นมีโพรงอยู่ข้างใน เมื่อถมทิ้งไว้สักหลายๆเดือนดินจะค่อยๆยุบตัวโดยที่โพรงอากาศข้างในจะถูกน้ำหนักดินกดเอาเนื้อดินเข้ามาแทนที่ ทางแก้ ใช้รถแบ็คโฮ รถบรรทุกดินหรือรถแทรกเตอร์ วิ่งบดไปบดมาเป็นชั้นๆละ 30-50 เซนติเมตร จะทำให้โพรงเหล่านี้ยุบลงไปได้มาก กรณีของถนนต้องใช้เสปกสำหรับทำถนนซึ่งยุ่งยากทีเดียว
  2. ดินเดิมเมื่อถูกน้ำหนักดินถมกดลงมาก็จะยุบตัว ยุบมากยุบน้อยขึ้นอยู่กับสภาพดินเดิมว่ามีความแน่นเพียงใด เช่นดินเดิมที่เคยใช้เป็นลานจอดรถมานานและมีรถเข้าออกจอดอยู่เสมอก็จะทรุดน้อย ดินเดิมที่เป็นท้องนาหรือที่ต่ำขังน้ำดินอุ้มน้ำไว้มากจะทรุดตัวมาก ไม่มีทางแก้ครับ ดินจะทรุดไปตามธรรมชาติ แต่ไม่นานอาการนี้จะหยุดไปเอง
  3. ดินทรุดจากการสูบน้ำบาดาลในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อันนี้ก็ไม่มีทางแก้เช่นกัน ต้องทรุดลงไปเรื่อยๆอยู่แล้ว อาการนี้ไม่หยุด (ยกเว้นจะหยุดสูบน้ำบาดาลอาการก็จะค่อยๆช้าลง)
  4. อินทรีย์วัตถุผิวดิน เช่นบริเวณน้ำขังจะมีขี้เลนซึ่งเป็นอินทรีย์วัตถุจากการเน่าเปื่อยของพืชน้ำ รวมทั้งซากต้นไม้ต่างๆด้วย เมื่อถมดินกลบไปแล้วจะค่อยๆย่อยสลายยุบตัวแล้วดินถมที่อยู่ข้างบนก็จะยุบตัวตามลงมา ทางแก้ กรณีเป็นที่น้ำขัง ถ้ามีขี้เลนเหลวๆ รวมทั้งพืชน้ำต่างๆ ให้ลอกออกก่อน ถ้าเป็นที่แห้งให้ถางพืชต่างๆรวมทั้งขุดตอไม้ใหญ่ออกด้วย หรืออาจใช้วิธีจุดไฟเผาก็ได้ถ้าสามารถควบคุมการลุกลามของไฟได้ ดินถมบริเวณใดไม่ได้มีการลอกเลน หรือบริเวณที่มีอินทรีย์วัตถุออกอยู่มากเอาออกไม่หมด ก็จะยุบเป็นหลุมๆ

หากมีการคุมงานที่ดี ตามวิธีในข้อ 1 และข้อ 4 แล้วดินที่ถมจะไม่ยุบมาก ไม่ต้องมาปรับระดับที่หลังอีกที (หรือปรับไม่มาก) ครับ

ในการพิจารณาว่าต้องมีการบดอัด หรือมาตรการป้องกันดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าเราต้องใช้พื้นที่บริเวณนั้นอย่างไร เช่นถ้าใช้เป็นถนนคอนกรีตจะต้องมีการบดอัด และกำจัดเศษวัชพืชอย่างดี เนื่องจากการทรุดตัวของดินต่างกันเล็กน้อยก็อาจทำให้ผิวถนนแตกร้าวได้ แต่ถ้าใช้เป็นพื้นที่จัดสวนนั้นเราสามารถปรับระดับดินภายหลังจากที่ทิ้งให้ดินยุบตัวไปสักปีสองปีแล้ว แต่ก็ควรจะบดอัดบ้างเหมือนกันถ้าเราต้องการสวนที่สวยเรียบในปีแรกๆครับ


ระวังรั้วเอียงด้วยนะจ๊ะ

ธรรมชาติดินนั้นมันไม่ใช่เพียงอยู่นิ่งๆเท่านั้น แต่มันจะมีแรงดันทางด้านข้างด้วย ดินที่ระดับเท่ากันต่างคนต่างดันกันเองกับเพื่อนๆรอบตัวมัน ก็ไม่เป็นไร แต่ดินต่างระดับความสูงที่ถูกกั้นไว้ด้วยกำแพงรั้วนั้น ดินที่สูงกว่าจะมีแรงดันมากกว่าผลักออกไปทางดินที่ต่ำกว่า แรงนี้เองที่กำแพงรั้วจะต้องรับไว้ คุณจึงเอากำแพงรั้วแบบธรรมดามาใช้เป็นกันดินที่ต่างระดับมากๆไม่ได้ครับ โครงสร้างกำแพงรั้วต้องออกแบบให้รับแรงดันดินได้โดยไม่เอียง

ถมดินอย่างไรไม่โดนโก่งราคา

ในการถมดินสำหรับเจ้าของงานนั้นไม่แนะนำให้จ้างรถดินขน และจ้างรถบดเข้ามาเองครับ เนื่องจากถ้าไม่คุ้นเคยกับงานแล้วอาจจะโดนโกงได้ง่าย ควรจะจ้างผู้รับเหมาถมดินให้จัดการให้เสร็จ แล้วทีนี้การติดต่อกับผู้รับเหมาถมดิน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาควรจะเป็นเท่าไหร่ ตกลงกันตรงไหน

  1. เริ่มที่การคิดปริมาณดิน ก็คือ กว้างคูณยาวคูณสูง หรือพื้นที่คูณความสูงนั่นเอง ในกรณีที่พื้นที่เดิมไม่สม่ำเสมออาจจะต้องเฉลี่ยระดับ กรณีพื้นที่กว้างๆ มูลค่างานมาก ควรจะจ้างช่างสำรวจหาระดับดินในตำแหน่งต่างๆ แล้วคำนวณปริมาณดินออกมา
  2. ราคาต่อหน่วย เมื่อทราบปริมาณดินที่ต้องการแล้วคูณด้วยราคาต่อหน่วยก็จะเป็นราคารวม ราคาต่อหน่วยนี้ต้องสูงกว่าราคาดินจากรถขนดิน เนื่องจากเวลานำดินมาบดอัดแล้วปริมาตรจะยุบตัวลงไป และผู้รับเหมาต้องบวกค่าดำเนินการ กำไรต่างๆด้วย ให้ลองเช็คราคาดูกับผู้รับเหมาหลายๆราย ก็จะทำให้เราทราบราคาตลาดครับ
  3. ข้อกำหนดในการทำงาน เช่นต้องลอกเลนหรือไม่(น่าจะลอกนะครับ) บดอัดทุก 30 ซม หรือ 50 ซม. ซึ่งจะคุมเข้มแค่ไหนขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานพื้นที่ เช่นพื้นที่ถมทิ้งไว้เฉยๆ หรือใช้จัดสวน ก็ควรมีการบดอัดบ้าง แต่ถ้าเป็นถนนต้องมีการบดอัดและควบคุมคุณภาพอย่างดีไม่งั้นถนนจะแตกร้าวได้ครับ
  4. ตอนทำงานควรไปดูบ่อยๆด้วยครับ ผู้รับเหมาจะได้ทำตามที่ได้ตกลงกัน
  5. ก่อนเริ่มทำการถม ควรมีการทำระดับอ้างอิงไว้เพื่อตรวจสอบ เช่นการพ่นสี ตอกตะปูกำหนดระดับไว้ตามเสาไฟฟ้า หรือสิ่งก่อสร้างข้างเคียงที่มีลักษณะถาวร ไม่เคลื่อนย้าย เมื่อผู้รับเหมาจะส่งมอบงานจะได้ทำการตรวจสอบได้ครับ

ที่มา : //se-net/stonebase




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 12:03:37 น.
Counter : 1904 Pageviews.  

อยากไปอยู่ที่นี่มั้ย? เปิดโผสถานที่ร้อนที่สุดในโลก

คิดว่าเดือนเมษายนของไทยอากาศร้อนสุดทนแล้วใช่มั้ย แต่ถ้าเทียบกับพื้นที่อื่นของโลกหน้าร้อนของบ้านเราแค่เบาะๆ เท่านั้น


 ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า  ช่วงเดือนกรกฎาคมในกรุงคูเวตซิตี้อุญหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 46.67 องศาเซลเซียส ขณะที่เมืองทิมบักทูในมาลี มีอุณภูมิเฉลี่ยที่ 42.22 องศาเซลเซียส และเคยทำสถิติสูงถึง  54.44 องศาเซลเซียส ติดอันดับ 5 ในทำเนียบอากาศร้อนสูงสุดตลอดกาล


 อุณภูมิสูงสุดบนดาวเคราะห์ดวงนี้ที่เคยบันทึกไว้คือที่เมืองอัล อาซิเซีย ในลิเบียเมื่อปี 2465 ที่ 57.78 องศาเซลเซียส แต่บางคนแย้งว่าอุญภูมิดังกล่าวไม่ได้ถูกวัดอย่างมีมาตรฐาน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงอันดับหนึ่งก็จะตกเป็นของเดธ วัลลีย์ในแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2456 ที่ 56.67 องศาเซลเซียส


 แต่จากการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมอนทานา สถานที่ที่ร้อนที่สุดบนโลกอาจไม่ใช่ชื่อที่กล่าวมาแล้ว เพราะบริเวณที่อุณภูมิสูงสุดอาจไม่มีสถานีตรวจสอบภูมิอากาศ


 เดวิด ไมลด์เร็กซ์เลอร์ หนึ่งในทีมวิจัยซึ่งใช้ดาวเทียมของนาซ่าตรวจหาบริเวณพื้นผิวโลกที่มีอุณหภูมิร้อนที่สุดกล่าวว่า "ทะเลทรายขนาดใหญ่ของโลกอย่าง ซาฮาร่า, โกบี, โซโนรัน และรัท มีความรุนแรงด้านภูมิอากาศและห่างไกลมากจนยากจะมีการวัดอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอหรือมีการบำรุงรักษาสถานีอุตุนิยมวิทยาให้แม่นยำตลอดเวลา"


 ดาวเทียมตรวจจับรังสีอินฟราเรดที่ถูกปล่อยจากพื้นผิวโลกเป็นเวลา 7 ปีระหว่าง 2546-2552 พบว่า ทะเลทรายลัทในอิหร่านเป็นที่ที่ร้อนสุดในโลก


 ทะเลทรายลัทมีอุณภูมิที่พื้นผิวสูงทำสถิติ 5 ปีในระยะ 7 ปีที่ตรวจวัด โดยสูงสุดที่ 70.56 องศาเซลเซียสในปี 2548 ส่วนที่อื่นซึ่งร้อนใกล้เคียงกันคือควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย 68.89 องศาเซลเซียส ในปี 2546 และลุ่มน้ำถู่พัน ในจีนเมื่อปี 2551 ที่ 66.67 องศาเซลเซียส


 ทั้งนี้ โดยธรรมชาติแล้ว อุณหภูมิที่พื้นผิวจะสูงกว่าอุณหภูมิอากาศที่วัดโดยสถานีอุตุนิยมวิทยา การวัดอุณหภูมิของอากาศที่ถูกต้องต้องวางเทอร์โมมิเตอร์ให้ห่างจากพื้นดินและป้องกันไม่ให้โดนแสงอาทิตย์

สถานที่ที่อุณหภูมิอากาศสูงสุด 10 อันดับแรกของโลกได้แก่


1.อัล อซิเซีย, ลิเบีย (57.78  องศาเซลเซียส)
2.เดธ วัลลีย์, แคลิฟอร์เนีย (56.67 องศาเซลเซียส)
3.กาเดมส์ ลิเบีย (55 องศาเซลเซียส)
3.คีบิลิ, ตูนิเซีย (55 องศาเซลเซียส)


5. อราวานซ์, มาลี (54.45 องศาเซลเซียส)
5.ทิมบักทู, มาลี (54.45 องศาเซลเซียส)
7.ทิราซ ซวิ, อิสราเอล (53.89 องศาเซลเซียส)


8.อาห์วาซ, อิหร่าน (53.33 องศาเซลเซียส)
8.อากา จารี, อิหร่าน (53.33 องศาเซลเซียส)
10.วาดิ ฮัลฟา, ซูดาน (52.78 องศาเซลเซียส)


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  *




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 11:54:58 น.
Counter : 1637 Pageviews.  

ปตท.ลั่นปรับแผนรับรวยอันดับ95 ติดฟอร์จูนเร็วกว่าเป้า3ปี-ลุยขยายทรัพย์สินบริษัท

กลุ่ม ปตท.ลั่นปรับแผนธุรกิจและการลงทุนใหม่ หลังติดอันดับฟอร์จูน 95 เร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ปีྲྀ โกยรายได้ทะลุ 2.3 ล้านล้านบาท "ไพรินทร์ ชูโชติถาวร" ยันเรื่องแรกที่ต้องให้น้ำหนักเต็มที่ "ทรัพย์สินบริษัท" และเป็นปลื้มกับโปรเจ็กต์ทรายน้ำมัน "ออยล์แซนด์ส" แคนาดา ปีแรกผลิตได้ 2 หมื่นบาร์เรล/วัน

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลจากกลุ่ม ปตท.ทำโครงสร้างรายได้และผลกำไรได้ถึงก่อนเป้าหมายล่วงหน้าถึง 3 ปี ในการทำผลงานขนาดธุรกิจให้นิตยสารฟอร์จูนจัดอันดับ 1 ใน 100 บริษัทแรกของโลก เดิมตั้งเป้าจะได้ปี 2558 แต่เมื่อ 11 กรกฎาคม 2555 ทำสถิติเหนือความคาดหมาย สามารถทำรายได้ติดอันดับ 95 ไปเรียบร้อยแล้ว สูงสุด 79,689.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% ทำกำไร 3,455.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.9%

วางแผนก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะเรียกประชุมซีอีโอและผู้บริหารในกลุ่ม ปตท.ทั้งหมด เพื่อปรับยุทธศาสตร์ใหม่ขยายผลรายได้ โดยให้ความสำคัญมากที่สุดกับมูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมด เนื่องจากผลการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูนที่ประกาศต่อทั่วโลกครั้งนี้ 1 ใน 500 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทในเอเชียที่ชนะสหภาพยุโรป ภูมิภาคอาเซียนมีเพียง 2 บริษัทเท่านั้น คือ ปตท.กับปิโตรนาส มาเลเซีย และ 1 ใน 10 (ดูตารางประกอบ) ก็มี กลุ่มไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม ของจีนร่วมอยู่ด้วย แต่กลับไม่มีสิงคโปร์ซึ่งเดิมเคยติดอันดับมาตลอด สะท้อนถึงวิกฤตเศรษฐกิจสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกามีส่วนให้เกิดขนาดโครงสร้างธุรกิจและรายได้ของยักษ์ใหญ่ของโลกถูกปรับลดลงจนหลุดอันดับ 1 ใน 10 ไป



"ระหว่าง 11-20 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) กลุ่ม ปตท.นำทีมผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องเดินทางไปดูความสำเร็จโครงการ ลงทุนในแหล่งทรายน้ำมัน หรือ Oil Sands ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ใช้เงินลงทุนกว่า 68,400 ล้านบาท พร้อมลงนามสัญญากับ บริษัท Statoil Canada Ltd. และ Tatiol Canada Holding Corp. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Statoil ASA เพื่อลงทุน 40% ของการผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งทรายน้ำมัน Oil Sands Kai Kos Dehseh : KKD ซึ่งตั้งอยู่เมือง Athabasca รัฐอัลเบอร์ตา ฝั่งตะวันตกแคนาดา นับเป็นข่าวดีอีกเรื่อง เพราะการผลิตตอนนี้ได้ผลดีมากถึงวันละ 20,000 บาร์เรล ทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"

สำหรับทิศทางกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท.ปี 2555 ตั้งเป้ารายได้จะต้องเกินกว่า 2 ล้านล้านบาท พร้อมทั้งประกาศความเป็นเลิศด้านพลังงานไทยข้ามชาติชั้นนำ 3 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องแรก ติดอันดับฟอร์จูน 100 ภายในปี 2563 เรื่องที่ 2 มีผลประกอบการอยู่ในระดับชั้นนำของโลก : Top Quartile Performance เรื่องที่ 3 ติดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ภายในปี 2556 แต่สามารถทำได้แล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

ภายใต้เป้าหมายแผนปฏิบัติการที่จะต้องบรรลุเป้าหมายนับจากปีนี้ถึงปี 2563 ครอบคลุม 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 กลุ่มธุรกิจเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสำรวจและผลิต ตั้งเป้า 9 แสนบาร์เรล/วัน ด้านถ่านหิน 70 ล้านตัน ด้านปาล์มน้ำมัน เป็นผู้นำต้นน้ำเชื้อเพลิงชีวภาพ 500 kHA กลุ่ม 2 ธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่มให้ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นผู้นำเอเชีย ทั้งด้านก๊าซธรรมชาติอันดับ 1 ใน 3 และผู้นำไฟฟ้าเอเชีย และผู้นำเอเชีย-แปซิฟิก ด้านปิโตรเคมี สร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มากที่สุด ด้านการกลั่น ต้องมีวงจรขนาดใหญ่ที่สุด ด้านค้าปลีก สร้างแบรนด์ระดับโลกคู่ขนานกับขยายธุรกิจสู่อินโดจีน

กลุ่ม 3 ธุรกิจบริหารผลผลิตและความเสี่ยง ต้องยืนอยู่แถวหน้าในการประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลุ่ม 4 ธุรกิจพลังงานสีเขียว ต้องเป็นผู้นำแบบครบวงจรทุกหมวด

ทั้งนี้ธุรกิจในกลุ่ม ปตท.ได้จัดทำแผน 5 ปี ระหว่าง 2555-2559 จะใช้เงินลงทุนรวมกว่า 9 แสนล้านบาท เพื่อเป็นเสาหลักสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศ และ เป็นองค์กรผลักดันประเทศเข้าสู่สนามแข่งขันในเวทีโลก ไปพร้อมกับเป็นศูนย์กลางพลังงานอาเซียน


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  *




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 11:53:43 น.
Counter : 2151 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.