ibaz.org
Group Blog
 
All Blogs
 
ปลูกแตงกวาในกระถาง

วิธีการปลูกพืชในกระถางกัน รับรองว่าไม่ยากแต่ได้กินแน่ๆ แถมถ้าคุณดูแลดีทุกวัน ผลผลิตจะยิ่งโตและน่ากินสุดๆไปเลย จะต้องทำอย่างไรนั้น ตามมาดูเลยค่ะ

ผักสวนครัวที่จะชวนปลูกวันนี้ ก็คือ “แตงกวา” ผักกินง่ายที่เหมาะกับการจิ้มน้ำพริกกินเป็นที่สุด ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย

วัสดุอุปกรณ์มีอะไร
1. กระถางพลาสติกขนาด14นิ้ว
2. เมล็ดพันธุ์แตงกวา
3. ปุ๋ยสูตรเสมอ
4. ดินผสม ได้แก่ ดินร่วน, ปุ๋ยคอก, ปุ๋ยหมัก, แกลบดิบ, ใบไม้ผุ

วิธีการปลูก
1. เพาะต้นกล้าขึ้นมาก่อน โดยเพาะกระถางละ 2-3 เมล็ด
2. เมื่อโตได้ที่แล้วจึงค่อยย้ายมาปลูกในกระถาง14 นิ้ว โดยลงกล้ากระถางละ 2 ต้น
3. รดน้ำ และใส่ปุ๋ยสูตรเสมอทุกสัปดาห์ ใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ก็จะได้ต้นแตงกวาที่พร้อมจะให้ผล ระหว่างนั้นเราก็ทำร้านให้เขาเกาะพยุงเถาไว้ โดยอาจจะใช้ไผ่ปักแล้วขึงลวด

เคล็ดลับการปลูกผักในกระถาง
1. การเตรียมดิน ดินที่ปลูกในกระถางต้องเป็นดินที่โปร่งระบายน้ำดี ดินที่เหมาะสำหรับปลูกไม้กระถางมีอัตราส่วนดังนี้ คือ ดินร่วน : ปุ๋ยคอก: ปุ๋ยหมัก: แกลบดิบ: ใบไม้ผุ ในอัตราส่วนละ 1 ส่วนเท่าๆกัน ผสมให้เข้ากัน และหากรดน้ำไปนานวันเข้าแล้วดินยุบ ก็ให้ใส่ดินผสมลงไปด้านบน
2. การใช้ปุ๋ย ปุ๋ยที่ใช้เป็นปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 16-16-16 ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ จากนั้นเจาะดินในกระถางปุ๋ย ใส่ปุ๋ยที่เตรียมไว้ลงไปในรูที่เจาะ กระถางละ 3 จุด ซึ่งควรเปลี่ยนทุกเดือน อย่าใส่ปุ๋ยโดยตรง เพราะจะทำให้ระบบรากของพืชเสียหาย และการเจริญเติบโตหยุดชะงัก
3. การรดน้ำผักในกระถาง อย่ารดน้ำจนล้นกระถาง แต่ควรรดทีละน้อยๆ แต่บ่อยๆ

เพียงเท่านี้ก็จะได้แตงกวาสดๆเอาไว้กินกันที่บ้านแล้ว และถ้าดูแลดีก็จะมีพืชผักที่เราปลูกไว้ให้กินได้ตลอดปี หรือถ้าใครอยากจะขายก็สามารถสร้างรายได้ได้ดีอีกทางหนึ่ง…ถ้ากระถางต้นไม้ที่บ้านยังว่างอยู่ หัวมาปลูปผักกินกันเถอะค่ะ


ที่มา - //www.thaijobsgov.com/jobs=49352


Create Date : 02 มกราคม 2560
Last Update : 2 มกราคม 2560 11:11:58 น. 0 comments
Counter : 1115 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

taurolar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add taurolar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.