Group Blog
All Blog
|
089 :: พราก 1-2 by วรศิษฏ์ #พราก 1-2 by วรศิษฏ์ หนังสือทำมือ จำนวนหน้า 700 หน้า
คำโปรย...
ปาฏลีเปรียบตัวเองเป็นน้ำเปล่ารสชาติจืดชืด กรัณย์คืออะไรสักอย่าง อาจเป็นน้ำผึ้งในบางครั้ง เป็นยาขมในบางครา แต่เมื่อหยดลงมาก็ทำให้น้ำใสๆ ในแก้วมีรสชาติ
—————————— ปกเล่ม 1 -------------------------
ปาฏลีหอมแก้มนุ่มๆ เจือกลิ่นน้ำนมเมื่อลูกหลับสนิท ต้องการจดจำทุกสิ่งที่เกี่ยวกับลูก ไม่ว่าจะเป็นขนตางอน มือป้อมๆ หรือริมฝีปากจิ้มลิ้ม เหล่านี้จะอยู่ในใจตราบนานเท่านาน พอๆ กับความรู้สึกอบอุ่นจากอ้อมกอดสุดท้ายที่พ่อของลูกมอบให้ตลอดคืนที่ผ่านมา เตียงลูกอยู่เบื้องหลัง ส่วนด้านหน้าคือประตู...หล่อนกำลังลังเล
“อย่าหันหลังกลับมาถ้าคิดดีแล้วว่าจะไป ไม่อย่างนั้นผมไม่รับประกันว่ากวางจะได้ออกจากห้องนี้อีกหรือเปล่า”
หนึ่งปีครึ่งที่อยู่ด้วยกันมีความหมาย ยามพรากจึงเจ็บปวด จากทั้งที่ยังรักทุกลมหายใจ และวินาทีนี้กรัณย์คงรวดร้าวไม่ต่างกัน
“โชคดี”
“ค่ะ” หล่อนตอบเพียงสั้นๆ ทิ้งประโยคอาวรณ์เอาไว้ แม้อยากบอกเขามากแค่ไหนก็คงพูดได้แค่ในใจ ‘คุณโอมดูแลตัวเองด้วยนะคะ’
หลังสิ้นสุดคำนั้นปาฏลีออกจากห้อง ปิดประตูอย่างเบามือด้วยเกรงทำลูกตื่น อุณหภูมิรอบกายช่างหนาวเหลือแสนในความรู้สึก หล่อนไม่เคยห่างลูกและไม่คิดว่าต้องจากกันตลอดกาล แต่เพราะเลือกแล้วจึงไม่ควรคิดถึงหนทางหวนกลับ นับจากนี้กรัณย์จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้เด็กหญิงปราณชนก เขาทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ได้ดีแน่ๆ หล่อนมั่นใจ
เสียงลูกร้องไห้จ้าทั้งที่ไม่น่าจะตื่นในเวลานี้ทำเอาเท้าที่ก้าวห่างประตูได้เพียงไม่กี่ก้าวต้องชะงัก เข้าใจแล้วว่าการที่หัวใจถูกมีดคมๆ กรีดเถือเป็นริ้วแล้วทาเกลือซ้ำปวดแสบเช่นไร ปาฏลีกอดตัวเองแล้วร้องไห้จนตัวสั่น น้ำตาซึ่งกักเก็บตั้งแต่อยู่ต่อหน้ากรัณย์หยดลงบนท่อนแขน กัดริมฝีปากจนได้ลิ้มรสเลือด ก่อนกลั้นใจเดินจากมาในที่สุด
——————————ปกเล่ม 2 -------------------------
อาการแสบบนเปลือกปากจากการถูกบดจูบ ยังผลให้ปาฏลีดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดเขา จูบนั้นไม่ใช่จูบด้วยความเสน่หา เช่นเดียวกับอ้อมกอดที่ไม่อบอุ่นปลอดภัยอย่างเคย กรัณย์โกรธจัดและแสดงออกด้วยการกระทำ ทว่าสัมผัสได้ว่าการกระทำเหล่านั้นซุกซ่อนความผิดหวังกับความเสียใจมากล้นอยู่ด้วย เขาจูบลงโทษจนพอใจ ครู่ใหญ่กว่าจะผละออกเพื่อยืนเผชิญหน้า คุมเชิงด้วยแววตาแข็งกร้าว
“คุณโอมไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้”
“แล้วที่ปกปิดผมเรื่องลูก กวางมีสิทธิ์มากแค่ไหน”
“วันนี้เราคงคุยงานกันไม่รู้เรื่อง” ปาฏลีจุกประหนึ่งหมัดลุ่นๆ ชกท้อง กรัณย์ตั้งคำถามง่ายๆ แต่หล่อนกลั่นคำตอบได้ยาก ใช่ว่าเขาเจ็บคนเดียว หล่อนก็เจ็บด้วยยามเด็กหญิงปราณมาตาถามหาพ่อแท้ๆ “ไว้คุณโอมพร้อมค่อยให้เลขาติดต่อมานะคะ”
“จะไปจากผมเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อนอย่างนั้นสิ”
กรัณย์เอ่ยเสียงขรึม ปาฏลีแทบหยุดหายใจ น้ำตาอาจไหลรินหากอยู่ในนี้ต่ออีกสักหนึ่งหรือครึ่งนาที ราวเข็มนาฬิกาหมุนทวนกลับ เหตุการณ์ช่างคล้ายกับวันที่ตัดสินใจออกจากชีวิตเขากับลูกสาวคนโต วลีที่ว่า ‘ไปจากผม’ ได้ยินแล้วเจ็บปวดนัก คงง่ายกว่านี้หากเขาเกลียดกัน
“ไอ้โง่คนนี้เสียหัวใจไปสองดวง ไม่ใช่ดวงเดียวอย่างที่คิดมาตลอด ไอติมเป็นลูกผม ขืนกวางยังรั้นคงรู้ว่าถ้าผมใช้กฎหมายและความพร้อมในการเลี้ยงดูลูกเข้าสู้ กวางไม่มีวันชนะ ไม่มีสิทธิ์ได้กอดอะตอม หรือแม้แต่ดูแลไอติม”
“คุณโอม...”
************* หลังอ่าน *************
โอม กรัณย์ vs กวาง ปาฏลี
เรื่องนี้อ่านเพลินทีเดียวค่ะ มีรัก มีเศร้า มีเด็กๆ น่ารัก ๆ มาให้ชื่นใจ
มีเรื่องราวความรักต่างสถานะ ที่ฝ่ายชายฐานะดีกว่า เลยมีปัญหาแม่สามีไม่ปลื้ม แต่ทั้งหมดทั้งมวล เรายังยกให้ต้นเหตุคือความไม่พูดจากันให้เข้าใจ พระเอกเป็นคนไม่ค่อยพูด ค่อนข้างหัวเผด็จการ ถึงจะรักนางเอกมาก แต่ก็รู้สึกอยากปกป้องมากเกินไป ไม่ยอมบอกเล่าอะไรเลยแม้แต่ภูมิหลัง ครอบครัว หน้าที่การงานของตัวเอง ทำให้เกิดช่องว่างแห่งความไม่เชื่อใจกันขึ้นง่าย
ส่วนนางเอก เหมือนเป็นคนหัวอ่อน แต่ไม่อ่อนแอ อยู่กับพระเอกก็ขี้เกรงใจ เพราะมีจุดอ่อนคือรักเขามากและรู้สึกไม่มั่นคงกับสถานะภรรยาไร้ทะเบียนของตัวเอง จึงกลัวเขาทอดทิ้ง แต่เมื่อมีเหตุเข้ามาให้ต้องตัดสินใจ เธอก็ยอมเสียสละ เพื่อหวังให้เขาได้มีความสุข ... เสียดายก็แต่ เป็นการคิดเองไปคนเดียว ไม่ยอมถามพระเอกให้ดี สรุปเลยต้องเสียใจไปฟรี ๆ หลายปีดีดัก
ตอนแรกคิดว่าจะดราม่ามากๆ แต่พออ่านจริง ก็ไม่ได้ถึงกับหนักหน่วงมาก เราชอบบรรยากาศในเรื่อง ช่วงที่นางเอกไปอยู่ที่เพิร์ธ ได้มีเพื่อน มีคนที่หวังดีคอยช่วยดูแล ทำให้เธอได้เติบโตขึ้น รวมทั้งเด็กน้อยก็เติบโตขึ้นมาอย่างอบอุ่น จนอ่านไปก็คิดว่านี่ไม่ต้องกลับไปเจอพระเอกอีกก็ได้นะ 5555 แต่ไม่ได้ๆ พระเอกก็ไม่ได้ผิดอะไร ทุกอย่างต้องจบแฮปปี้สิเฮ้ย!
มีจุดที่คิดว่าควรปรับปรุง คือ ช่วงหลังๆ มีการสลับชื่อกันบ่อยค่ะ ชื่อเด็กๆ อะตอม ไอติม ปราณชนก ปราณมาตา มันก็น่าจะมีนๆ กันบ้างอะนะ
โดยรวมสนุกดีค่ะ
|
polyj
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?] 2019 Reading Challenge
Polyj has
read 2 books toward
her goal of
200 books.
2018 Reading Challenge
Polyj has
read 5 books toward
her goal of
200 books.
2017 Reading Challenge
Polyj has
read 4 books toward
her goal of
200 books.
2016 Reading Challenge
Polyj has
read 0 books toward her goal of 200 books.
Polyj's bookshelf: read
คุณตั้ม ธรณ vs รับขวัญ
ประทับใจคุณตั้มกับบิ๊กไบค์ของเขา เป็นพระเอกที่เท่จริงๆ
ส่วนนางเอก เห็นหงิมๆ ติ๋ม ๆ อยู่ในบ้าน
แต่กลางคืนนั้นเธอเริงร่าเป็นแม่สาวสวมหน้ากากผู้ลึกลับในผับบาร์นะจ๊ะ
สาวสวมหน้ากากนี้ จะถูกกระชากออกมาตอนไหนน้า มาลุ้...
ราล์ฟ รวินรุตน์ vs แพนด้า ภีรดา
ช่วงนี้เจอหนุ่มบิ๊กไบค์ติดๆ กันนิดนึงค่ะ
พระเอกเรื่องนี้เป็นไบค์เกอร์ตัวท็อป เป็นเจ้าของโชว์รูมขายบิ๊กไบค์รายใหญ่
เลยได้เจอกับน้องแพนด้า นางเอก ซึ่งเป็นพริตตี้สาวดาวยั่ว/รั่วได้ทุกงาน จริงๆ นางสวยนะ แถมย...
ฉู่ชิงหยาง vs มู่เซียงหนิง
ปกแซ่บมาก
เนื้อเรื่อง ช่วงแรกเหมือนจะดราม่า แต่จริงๆ แล้วไม่ 555
อ่านสบายๆ ค่ะ
พระเอกเป็นแม่ทัพที่หยิ่งทะนง ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ
พอโดนบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้ชอบก็เลยโกรธ
ส่วนนางเอกรักเขามาก แ...
ท่านแม่ทัพ เยียนชิงหลาง vs อวี้หมี่ เถ้าแก่เนี้ยร้านอาหารริมทาง
เรื่องนี้อ่านไปหิวไปค่ะ เนื่องจากนางเอกเปิดร้านอาหารริมทาง เลยได้โชว์ฝีมือทำอาหารอยู่มากมาย แล้วบรรยายซะละเอียด ถึงเครื่องปรุง วิธีการปรุง ความรู้สึกที่ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส โ...
อู๋หยา โผล่มาโดดเด่นในเล่มนี้
อาจารย์สวมหน้ากาก เขาคือใคร
หลินอีชวนของข้ากำลังจะกลายเป็นพวกหลงนางไปซะแล้ว
โชติระเส vs ตยาวดี
เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการขยายภาพจากเรื่องพักตร์อสูร
โดยเน้นที่ตัว พ่อกับแม่ คือโชติระเส กับตยาวดี
ดังนั้นควรอ่านพักตร์อสูรมาก่อนนะคะ
โชติระเส ในพักตร์อสูร ในสายตาเรา คือผู้ชายที่ไม่ค่อยได้เรื่องนัก ถ้าไม่มีลูกที่เก...
| |||||