ความเดิมตอนที่แล้ว
วันที่ 28 เมษายน2558 เรามีนัดกับผศ.พญ.รัมภา หลินปิยวรรณ์ ซึ่งคุณหมอรัมภาเป็นแพทย์ประจำและเป็นผู้บริหารรัมภาดาคลินิก นอกจากนี้คุณหมอยังเป็นแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งทางด้าน Botox เลเซอร์ Filler เป็นอาจารย์ผู้สอนนักศึกษาแพทย์ทางด้าน Botox Allergan USA. ทำให้เรามั่นใจในการมาเสริมความงามที่นีมาก
หลังจากที่เคยนัดไว้ก่อนสงกรานต์แล้วคุณหมอคิวเต็ม ต้องเลื่อนนัดออกมา ซึ่งการพบคุณหมอในครั้งนี้มาจากความต้องการส่วนตัวเพราะอาชีพของเราที่ต้องใช้ความสวยมั่นใจในการทำงานดังนั้นหลังจากที่ทำงานมานานพอควรอายุเริ่มมากขึ้นเมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็ควรจะอัพเลเวลความงามพร้อมลดอายุกันบ้าง
โดยเบ้าหน้าแต่เดิมในส่วนของจมูกเราพอใจอยู่แล้วในเรื่องของสวยด้วยมือแพทย์ตัวเราเองยังไม่กล้าทำอะไรที่เยอะๆและถาวรขนาดที่ต้องผ่า เสริมทุบเบ้าหน้าใหม่เราแค่อยากจะปรับรูปหน้าที่ออกแนวสาวน้อยแก้มป่องหน้าแบบโคตรธรรมชาติให้หน้าเรียวขึ้นสักเล็กน้อยให้ถ่ายรูปสวยขึ้นแบบที่ยังสามารถเรียกหน้าเดิมกลับมาได้เมื่อต้องการ
รูปตัวอย่าง หลังจากฉีดโบท๊อกซ์ลิฟท์และลดกรอบหน้า + ฉีดฟิลเลอร์คาง
และในครั้งนี้เราต้องการ สวยด่วน สวยทันที แบบไม่ต้องมีการพักฟื้น
วันที่30เมษายนเราต้องทำงาน หน้าจะสวยพร้อมออกงานหรือไม่วันนี้เรามารีวิวย้อนหลังให้ดูกัน
ขั้นตอนการใช้บริการและความรู้สึกที่สัมผัส เมื่อมาถึงคลินิกก็แจ้งชื่อที่นัดไว้กับประชาสัมพันธ์หน้าคลินิกทำประวัติคนไข้ มีการเช็คว่าแพ้ยาไหมเสร็จแล้วนั่งรอ ขอรหัส Wifi ได้บรรยากาศคลินิกดูสวยตกแต่งหรูหรา เก้าอี้นั่งสบายคลินิกกว้างขวาง ห้องน้ำสะอาดเมื่อถึงคิวพยาบาลก็นำทางขึ้นไปชั้นบนด้วยลิฟท์ไปชั้นบน
เข้าห้องTreatmentRoom ลบหน้า แต่บริการลบเครื่องสำอางค์ที่นี่สุดยอดมากเหมือนมานอนสบายๆนวดหน้ามากกว่าใช้ครีมลบเครื่อสำอางค์นวดจนเกือบหลังแล้วเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำเย็นเรากะว่าจะไปธุระต่อเลยขอให้คุณพยาบาลลบแป้งหมดทั้งหน้าได้เลย เหลืออายไลน์เนอร์ไว้
ลบหน้าเสร็จก็มาที่เคาท์เตอร์ตรวจผิวหน้า ถ่ายภาพใบหน้าด้วยเครื่องถ่ายสองแบบ แบบแรกคือหน้านิ่งแบบที่สองคือหน้ายิ้ม ทุกแบบถ่ายสามมุม ขณะถ่ายเราต้องหลับตาหันหน้าตรงๆ หันหน้าข้างซ้ายหันหน้าข้างขวาเข้ากล้องเสร็จแล้วไปชั่งน้ำหนักแล้วรอเรียกไปพบคุณหมอที่ห้องตรวจชั้นบน ระหว่างรอมีน้ำแร่ไว้บริการให้ดื่มได้เต็มที่เลย
รอหน้าห้องตรวจ มีคนไข้ทั้งไทย และ ชาวต่างชาติรอพบคุณหมออยู่หน้าห้อง บรรยากาศหน้าห้องรอมีโซนรอที่จัดเหมือนห้องนั่งเล่น มีทีวีจอใหญ่พร้อมเก้าอี้ไฟฟ้าตัวใหญ่ๆที่ปรับเอนนอนได้นุ่มๆสบายๆ 2ตัวไว้ให้นอนรอคิว อีกโซนใกล้ประตูห้องตรวจมีเก้าอี้หรูเป็นชุดรับแขกให้นั่งอ่านนิตยสารรอชิลๆ
ได้พบคุณหมอแล้ว คุณหมอยิ้มแย้มดูอบอุ่นใจดี คุณหมอแนะนำตัวเอง ซักประวัติดูโครงหน้าเราจากภาพถ่ายที่ถ่ายก่อนพบคุณหมอแล้วปริ้นออกมาแล้ว แต่คุณหมอยังแอบดูการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าเราแบบตัวเป็นๆด้วย มารู้ตอนคุณหมออธิบายแล้วชี้แต่ละจุดที่มีปัญหาของเรานั่นแหละ สังเกตุทุกสีหน้าเลยก็ว่าได้เราไม่ทันรู้ตัวเลย ยกตัวอย่างเช่น - เราเป็นคนยิ้มและหัวเราะเห็นเหงือก (GummySmile) - เราเป็นคนชอบขมวดคิ้วหมอให้ลองขมวดคิ้วชนกันดูร่องแนวตั้งยาวมาก - มีรอยย่นที่เริ่มเยอะแล้วบริเวณใต้ตาทั้งส่วนหางตาและโซนข้างสันจมูกหากอายุมากขึ้นร่องพวกนี้จะลึกขึ้นจนเห็นได้ชัด - แก้มส่วนล่างของเราหย่อน (เราเรียกว่าแก้มตก) คุณหมอบอกว่าเป็นรูปแบบหน้าตามกรรมพันธ์ต่อให้ผอมแค่ไหนตรงแก้มส่วนล่างนี้ก็จะห้อยๆอยู่ข้างปากอยู่ดี ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการฉีดBotox
นอกจากคุณหมอจะสังเกตุกันทุกอิริยาบถของสีหน้าเราแล้ว คุณหมอก็วาดเส้นบนรูปหน้าเราที่พยาบาลปริ้นมาให้คุณหมอบอกว่าเป็นการคำนวณหาอัตราส่วนสมดุลของใบหน้าหรือที่เรียกว่า Facial Proportions โดยสัดส่วนของใบหน้าที่สวยงามจะแบ่งเป็นสามส่วนที่เท่าๆกันโดยรูปหน้าของเราใบหน้าส่วนล่างสั้นกว่าส่วนอื่นดังนั้นกรณีเราการฉีดฟิลเลอร์คางเป็นสิ่งที่คุณหมอแนะนำให้เราทำเพื่อความสวยงามคุณหมอบอกต่อว่าในแง่โหงวเฮ้งการมีรูปคางที่สวยงามทำให้ชีวิตดีแม่ผัวรักใคร่ (เราคิดในใจว่าควรหาสามีด่วนตั้งแต่คืนนี้เลย 555)
ภาพบน : คุณหมออธิบายเกี่ยวกับการวัดเพื่อหา Facial Proportion ภาพล่าง : คุณหมอใช้มือถือถ่ายภาพให้ยิ้มเต็มที่เห็นริ้วรอยไว้อีกรอบ
จากการซักถามคุณหมอกล่าวว่า รัมภาดาจะปรับรูปหน้าให้หน้าคนไข้สวยขึ้น ดูสวยธรรมชาติ ไม่ดูเป็นคนหน้าแปลกๆ
คุณหมอรัมภาอธิบายละเอียดทุกสิ่งที่ถามและไม่ได้ถามไม่ว่าจะเป็น ผลข้างเคียง, อธิบายว่า Botox คือสารอะไรออกฤทธิ์ยังไง, Filler คืออะไรมีสารประกอบอะไรมียี่ห้อไหนให้เลือกบ้าง ฉีดฟิลเลอร์ต่างจากฉีด Collagen ที่สกัดมาจากสัตว์ที่อาจทำให้เกิดการแพ้ ข้อดีข้อเสีย อธิบายเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย
จะสวยคงทนแค่ไหน? คุณหมออธิบายละเอียดเลยสรุปได้ดังนี้ - Botox โดยทั่วไปสำหรับครึ่งหน้าส่วนบนมักคงอยู่ประมาณ 3-6 เดือน ส่วนการรักษาให้หน้าเรียว แก้ไขโครงหน้าสี่เหลี่ยมให้เป็นรูปไข่นั้น เมื่อฉีด Botox ซ้ำหลายๆครั้ง ผลจะคงอยู่นานขึ้นเรื่อยๆ 6-12-18 เดือน - Filler คางฉีด 1 ครั้งจะสวยอยู่ได้ยาวนานถึง 18 เดือน (หากต้องการให้สวยยาวนานขึ้นถึง 3 ปีทำได้โดยฉีดครั้งแรก 1 CC. แล้วเมื่อครบหกเดือนมาฉีดเติมอีก 1 CC. จะอยู่ได้ยาวนานถึง 3 ปีเลย) คุณหมอได้แจ้งให้ทราบว่าอาจจะเกิดรอยช้ำขึ้นบ้างเล็กน้อยหากโดนเส้นเลือดอธิบายว่าขั้นตอนต่อไปคนไข้จะเจออะไรบ้าง และ ข้อปฏิบัติหลังการฉีด
มีอีกหนึ่งคำถามที่เราถามคุณหมอ คือ เห็นน้องๆใน Facebook ที่เป็นพริิตตี้ น้องเขาไปฉีดฟิลเลอร์ที่คางมาจากคลินิกอื่นๆแห่งหนึ่ง แล้วมันไหลลงไปที่คอ ต้องไปขูดฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้ออก...แล้วอย่างงี้ถ้าเราฉีดฟิลเลอร์ที่คางจะมีโอกาสไหลลงคอแบบที่น้องพริตตี้คนนั้นไหม คุณหมอรัมภาบอกว่าไม่ไหลแน่นอน ส่วนหนึ่งอยู่ที่ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด อีกส่วนหนึ่งอยู่ที่คนฉีด พอได้ฟังแบบนี้ก็โอเค วันนี้เราจะฉีดฟิลเลอร์เพิ่มความยาวคางด้วย
สรุปสิ่งที่คุณหมอจะปรับเปลี่ยนให้ใบเราหน้าสวยขึ้นมีดังนี้ - ฉีด Boxtox เน้นลบริ้วรอยในส่วนใบหน้าส่วนบน - ฉีด Botox สร้างขอบหน้าด้วยเทคนิค NF Lift (Nefertiti Lift, เนเฟอติติลิฟท์) เทคนิคนี้จะทำให้หน้าเรียวขึ้น มีกรอบหน้าชัดเจน ยกกระชับแก้มที่ห้อย ช่วยยกมุมปาก ใบหน้าดูสดใสอ่อนเยาว์ - ฉีด Filler คาง (Chin Filler) เสริมคางให้ดูยาวขึ้น โดยเลือกใช้ Botox (Botulinum Toxin Type A) ของ Allergan 100 Unit และเลือกใช้ Filler ยี่ห้อ Restylane Perlane
แปะยาชา คุณหมอให้มาแปะยาชาแล้วนอนรอให้ยาชาออกฤทธิ์ 45 นาที ที่แปะยาชาเพราะวันนี้เราจะฉีดกันหลายจุดมากๆๆๆ แต่ในกรณีฉีดแค่นิดหน่อยไม่กี่จุดใช้การประคบเย็นได้เลย คุณพยาบาลทายาแก้แพ้ให้ก่อนลงยาชา แล้วค่อยลงยาชาเป็นลำดับต่อไป ลำดับสุดท้ายคือแปะพลาสติกใสกันยาไหล แล้วให้เรานอนหงายรอระหว่างรอห้องเป็นห้องเดี่ยวนอนหลับสบายมาก นอนกรนไปเต็มๆไม่มีแอบ พอครบเวลาคุณพยาบาลก็มาเช็ดยาชาออก
ถึงเวลาฉีด Botox & Filler ตื่นเต้นตื่นเต้น มีเพื่อนไปเป็นกำลังใจและถ่ายรูปให้เพื่อนเห็นเข็มเพื่อนสาวจะเป็นลม555 เก้าอี้ที่ใช้ฉีดเป็นเก้าอี้ที่คุณหมอสามารถเดินวนดูใบหน้าเราได้จากทุกทิศทาง คุณหมอเอาตัวยาที่จะฉีดมาให้ดูว่าเป็นของแท้แน่นอนแล้วก็เตรียมยาให้ดูกันชัดๆคุณพยาบาลเอาน้ำแข็งมาประคบให้ก่อนคุณหมอจะลงเข็มฉีดBotox คุณหมอเอา Barcode ของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฉีด แปะลงในประวัติคนไข้ คุณหมอบอกมันจะสามารถตามหรือยืนยันได้เวลามีปัญหา
มีลูกบอลเอาไว้ให้บีบระบายอารมณ์เผื่อเจ็บด้วย 555 (แต่ไม่ต้องบีบเลยอ่ะ)
ถึงเวลาลงเข็ม - Botox ไม่เจ็บเลยสักจุดที่ฉีดตอนประคบเย็นเจ็บกว่าอีก555 - Filler ก่อนฉีดฟิลเลอร์คุณหมอจะวาดเส้นวัดจุดสมมาตร และ วัดระยะที่เหมาะสมในการฉีดให้คางสวยได้รูปแบบไม่แหลมไม่เวอร์ ดูคางจะออกมามนๆ มีช่วงที่นูนเด่นออกมาสวยๆ จังหวะลงเข็มและฉีดไม่เจ็บพอถึงช่วงสุดท้ายของแต่ละจุดจะรู้สึกแน่นๆ ณ จุดที่ฉีด เหมือนมีอะไรดันในผิวรู้สึกตึงๆนิดเดียวคุณหมอบีบบริเวณที่ฉีดค้างไว้จนถอนเข็มออกคุณหมอก็จะนวดๆ ปั้นๆให้เข้าที่
กำลังฉีด Botox V Face Lift ลดกรอบหน้า
ตอนฉีด Filler คางคุณหมอบอกให้เราอ้าปากค้างไว้
คางยาวขึ้น โค้งมน คางไม่แหลมเกินไป
ความรู้สึกหลังจากฉีดเสร็จ ความรู้สึกเวลาสัมผัสใบหน้าบริเวณคางที่ถูกฉีดฟิลเลอร์ ไม่เจ็บแค่ตึงๆอยู่เฉยๆไม่เจ็บ ส่วนบริเวณที่ฉีด Botox สบายดี ไม่เจ็บเลยไม่ว่าจะจับหรือไม่จับจุดที่ฉีด ผลที่เห็นได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์คือ มีคางขึ้นทันทีแต่ระหว่างนี้ต้องระวังการสัมผัสเพราะฟิลเลอร์จะเซทตัวหลังจากฉีดไปแล้ว 24 ชั่วโมง คุณพยาบาลบอกว่าผลของโบท๊อกซ์แต่ละจุดจะเห็นผลช้าเร็วต่างกันเช่น ตีนกาเห็นผลได้ระหว่าง 24-48 ชั่วโมง, โบท๊อกซ์ลดกรามทำหน้าเรียว สำหรับคนฉีดครั้งแรก 3-4 สัปดาห์จึงเห็นผลชัดเจนสำหรับคนที่เคยฉีดแล้วมาฉีดย้ำ(ซ้ำ)จะเห็นผลไวกว่าเพียงแค่ 2 สัปดาห์ก็เห็นชัดแล้ว พยาบาลหน้าห้องคุณหมอก็ย้ำในเรื่องของการปฏิบัติหลังการฉีดดังนี้ หลังจากนี้ห้ามนวดห้ามคลึง ห้ามเท้าคางห้ามโดนอะไรร้อนๆบนใบหน้ายาวไปอีก 2 สัปดาห์ค่ะ แล้วก็ให้เอกสารที่เขียนคำแนะนำอย่างละเอียดอีก 1 ใบไว้กันคนไข้ลืม ก่อนจากกันก็ย้ำว่าอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆนะคะเพราะฟิลเลอร์ชอบน้ำ
รูปล่าง : ฟิลเลอร์คางเสร็จแล้วเห็นผลชัดมากๆ ทันทีที่ฉีดเสร็จ คางดูยาวขึ้น ใต้ปากคางนูน สวย ดูดีขึ้นทันที บริเวณแนวกรามเห็นรอยจุดสีอ่อนที่เกิดขึ้นชั่วคราวหลังฉีด Botox ซึ่งจะหายไปภายใน 2 ชั่วโมงจ้า
การนัดหมายหลังฉีด คุณพยาบาลหน้าห้องได้แนะนำว่าสามารถโทรมาปรึกษาได้ตลอดหากคิดว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นให้มาพบคุณหมอหลังจากฉีดไปแล้ว2สัปดาห์เป็นอย่างน้อยเพื่อที่จะสามารถดูผลที่ออกฤทธิ์เต็มที่ของBotoxที่ฉีดไป หากไม่มีปัญหาอะไรก็มาตามนัด Follow Up (ตรวจดูผลสำเร็จหลังฉีด) คือ1เดือนค่ะ แล้วพยาบาลอีกท่านก็พาเราลงมาส่งชั้นล่างเพื่อเลือกวัน-เวลานัด Follow Up และ รับบัตรนัดจากเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์
วันรุ่งขึ้นหลังฉีดไปแล้ว1คืน เวลา11โมงเช้าเจ้าหน้าที่จากรัมภาดาคลินิกโทรมาสอบถามอาการสอบถามว่ามีความผิดปกติหรืออะไรอย่างอื่นที่คนไข้รู้สึกไม่พึงพอใจไหม กรณีเราเรารู้สึกว่าไม่เจ็บ หน้าปกติดี ไม่มีรอยช้ำใดๆ - ยิ้มไม่มีรอยจีบๆย่นๆใต้หางตาล่างแล้วร่องถุงใต้ตาล่างตื้นขึ้น - แก้มส่วนล่างที่ห้อยๆดูยกขึ้น - หน้าดูเรียวขึ้น - บริเวณคางฝั่งซ้ายและ หางตาฝั่งขวามือมีรอยม่วงๆจากเส้นเลือดที่ผิวแตกรอยเล็กนิดเดียวและจางมากเมคอัพกลบได้
วันที่สามหลังฉีด - ตาดูกลมโตขึ้น - คิ้วยกสูงขึ้น
วันที่ 7 หลังฉีด - รอยย่นสามเส้นบนหน้าผากเวลายักคิ้วหายไปหมดแล้ว - ร่องลึกเวลาขมวดคิ้วหายไป - ยักคิ้วได้ทุกท่าทำคิ้วชนกันได้แต่ขมวดคิ้วให้เป็นเส้นแนวตั้งบริเวณหน้าผากไม่ได้ - แสดงสีหน้าท่าอื่นๆได้ตามคลิป
ใบที่คุณพยาบาลให้มาก่อนกลับบ้านคือใบ คำแนะนำหลังฉีด Botox โดยมีข้อมูลดังนี้ - ห้ามนวดกดจุด, นวดหน้า, นวดศรีษะ และ ห้ามสระผม 1 วัน - อย่านอนราบ หรือ ก้มหน้าฟุบหลับเป็นเวลา 2 ชั่วโมงหลังฉีด - รอยนูนคล้ายตุ่มยุงกัดจากการฉีดจะหายไปเองภายใน 2 ชั่วโมง - งดการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ งดโยคะร้อน 1 วัน - ล้างหน้า และ ทาเครื่องสำอางค์อย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกด ขัด สครับ หรือถูไถบริเวณที่ฉีด - หลีกเลี้ยงการอยู่ในที่ร้อนจัด เช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อนๆ 4 ชั่วโมง - จะเริ่มเห็นผลการรักษาภายใน 7 วัน และเห็นผลดีที่สุดภายใน 2-4 สัปดาห์ - กรุณาติดต่อ หรือ มาพบแพทย์หากมีข้อสงสัย หรือ มีสิ่งผิดปกติใดๆ - รัมภาดาคลินิก โทร 02-744-1191, 089-489-5896
การเดินทาง เราเดินทางด้วย รถไฟฟ้า ลงที่สถานีอุดมสุขแล้วต่อรถแท๊กซี่มาอีก55 บาท หากใครเดินทางด้วย รถสาธารณะ แนะนำให้ดูสายรถที่มาเซ็นทรัลบางนาเพราะคลินิกอยูถัดจากเซ็นทรัล และ บิ๊กซีบางนา หากขับรถไปพอผ่านหน้าบิ๊กซีแล้วให้รีบชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าซอยบางนา-ตราด 25 ไม่งั้นจะขับเลยซอยจ้า เข้าไปจนใกล้สุดซอยตามพิกัดบนแผนที่จะเห็นอาคารสีเขียวจากระยะไกลเขียนชื่อ Rampada รัมภาดา คลินิก ชัดมากหาไม่ยากเลย เพื่อนสามารถเข้าไปดูข้อมูลต่างๆได้ที่ https://www.rampada.com ค่ะ
ถ้าครบ1เดือนแล้วเราเอา Before VS After มาเปรียบเทียบให้ดูตามสัญญาจ้า หน้าเล็กลง ดูเด็กลง คิ้วยก ตากลมโต ชีวิตดี๊ดี
|