==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
การเดินทางล่าฝันของจันทรา 7 เดือน 3 บริษัท 4 ตำแหน่ง ข้อเขียน 2 สัมภาษณ์ 6 จนมีวันนี้ที่ถึงฝัน

มีน้องคนหนึ่งใช้นามแฝงว่า "จันทรา" เขียนมาแบ่งปันเล่าประสบการณ์อันมีค่ามากๆ อยากให้พวกเราอ่านดูนะครับ ว่าเขาล้มแล้วเขาลุก แล้วล้มไปกี่ครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะไม่ลุก เขาลุกทุกครั้งที่เขาล้ม เขาไม่เคยโทษใครว่าทำไมเขาถึงล้ม แต่เขากลับมามองตัวเอง หาคำตอบจากตัวเองว่า ทำไมเขาถึงล้ม แล้ววันนี้เขายืนได้แล้ว ... มาครับ ตามไปรู้จักเรื่องราวของเขากันเลย

==============================

สวัสดีครับ ผมจันทรา ผมติดตามอ่านเว็บพี่นกมาได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่ก็นานพอที่จะได้ออกไปต่อสู้ในวงการ พอจะมีเรื่องมาเล่า มาแบ่งปันให้เพื่อนๆที่อยากเข้ามาทำงานในวงการนี้ได้เป็นข้อคิดกันครับ ที่อยากมาแบ่งปันประสบการณ์ ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณของเว็บนี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมได้งาน ทุกครั้งก่อนสัมภาษณ์งาน ผมก็จะมานั่งกรอง หาคำถามสัมภาษณ์งานในตำแหน่งเดียวกัน หรือไกล้เคียงกับที่ผมสมัคร อย่างน้อยก็พื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์

ก่อนที่ผมจะเข้ามาทำงานในวงการ Upstream ผมทำงานอยู่ในโรงกลั่นมาก่อนครับ อยู่ซ่อมบำรุง ทำมาประมาณ 3 ปี ก็เริ่มมองหางานใหม่ อยากเข้ามาทำงานในธุรกิจ Upstream บ้าง ก็เลยเริ่มหาสมัครงานในวงการนี้ดู นับจากวันที่ผมเริ่ม จนถึงวันที่ผมได้งานนี่ก็ประมาณ 6-7 เดือนครับ ผมสัมภาษณ์งานไป 3 บริษัท 4 ตำแหน่ง เข้าสัมภาษณ์ทั้งหมด 6 ครั้ง และก็สอบข้อเขียนอีก 2 ครั้งครับ จนสุดท้ายก็ได้งานที่บริษัท Chevron ในที่สุด สิ่งที่จะมาเล่าวันนี้ ไม่ได้มาบอกวิธีการหรือเคล็ดลับให้ได้งาน หรือมาเล่าว่าผมเก่งอะไร ยังไง แต่ผมอยากให้คนที่กำลังพยายามกับชีวิตของตัวเองอยู่ ณ ตอนนี้แล้วยังไม่ได้อย่างที่หวังมีเรื่องเล่าของผมเป็นข้อคิดว่า ถ้าพยามต่อไป ซักครั้งนึงของความพยายาม เราก็จะพบความสำเร็จครับ และ ในทุกความพยายาม เราได้อะไรจากมันเสมอ

ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นแบบผมบ้างนะ กลัวการสัมภาษณ์งาน คิดว่าตัวเองไม่เก่ง ทำไม่ได้ เค้าไม่รับเราหรอก ภาษาเราไม่ดี ความรู้เราไม่แน่น คือเป็นคนที่มีเหตุผลเยอะแยะในการที่จะไม่พยายามหางานใหม่ที่ดีกว่าเดิม แต่จนวันนึงครับ ผมต้องพยายามหางานใหม่อย่างไม่มีทางเลือก เพราะที่ทำงานปัจจุบันตอนนั้นประสบปัญหาบางอย่าง ที่อาจมีผลกระทบต่อชีวิตของผมในอนาคต

ตอนนั้นผมเริ่มต้นจากเตรียม Resume ภาษาอังกฤษก่อนเลยครับ ก็ทบทวนประวัติการทำงาน ประสบการณ์ที่ผ่านมาเพื่อสรุปลง Resume เขียนไปเขียนมา ก็ดูเข้าท่าดีครับ ทำมาหลายอย่าง ดูแล้ว Resume น่าสนใจดี ก็เริ่มยื่นสมัครงานครับ ผมสมัครไปหลายที่ มีทั้ง Company และบริษัท Service แต่ก็ยังกลัวๆอยู่ ว่าถ้าไปสัมภาษณ์จะทำไม่ได้ ผมเลยยื่นสมัครตำแหน่งที่เป็นวิศวกรผู้ช่วยไป คือไม่กล้าสมัครตำแหน่งวิศวกร กลัวสัมภาษณ์ไม่ผ่าน แต่สุดท้ายครับ HR ดูประวัติแล้วก็เรียกผมไปสัมภาษณ์ในตำแหน่ง Engineer ของบริษัท Chevron ครับ

ตอนนั้นเตรียมตัวเยอะมากกกกก เพราะไม่เคยสัมภาษณ์งานที่ใหนมานานมากแล้วตั้งแต่เรียนจบ ผมมีเวลาเตรียมตัว 5 วัน เพราะ Chevron นัดวันศุกร์บ่าย ผมรู้ตั้งแต่วันจันทร์ คือถ้าบอกไปอาจจะไม่เชื่อ ว่าผมกลัวการสัมภาษณ์ซะจนไม่สบาย ท้องเสีย เป็นไข้ จิตตกมาก เพราะกลัวว่าไปแล้วจะตอบไม่ได้ จะพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง จนถึงศุกร์ตอนเช้าผมป่วยหนักครับ ท้องเสียตลอดเวลา ปวดหัว อาเจียนตลอด แต่โชคดีมากครับ ไม่รู้อะไรไปดลใจคน Chevron ครับ HR โทรมาขอแจ้งเลื่อนนัด ให้ไปสัมภาษณ์สัปดาห์หน้า ไม่น่าเชื่อครับว่าพอผมวางโทรศัพท์เท่านั้นแหละ อาการทุกอาการที่ผมเล่าทั้งหมดหายเป็นปลิดทิ้ง ยิ้มได้หัวเราะได้ คือเป็นคนละคนกันเลย ผมเลยเข้าใจครับว่าอาการที่เป็นมันมาจากจิตใจเราที่กลัวมากเกินไปทั้งนั้น ทำให้ร่างกายปั่นป่วนไปหมด

พอร่างกายกลับมาปกติผมก็รีบเตรียมตัวต่อ อาการที่เป็นก่อนหน้านี้มันก็เริ่มกลับมาเป็นบ้างครับ แต่ก็ไม่หนักเหมือนตอนแรกๆ เหมือนมันผ่อนคลายมากขึ้น เพราะรู้ว่าได้ทดเวลาบาดเจ็บมานิดหน่อย ก็นิ่งขึ้น ผมก็วางแผนเตรียมตัวใหม่ และก็ทำได้ตามแผนครับ ไม่ว่าจะเป็นแนะนำตัวภาษาอังกฤษ Present Project บนกระดาน ผมมีกระดานส่วนตัวด้วย ซื้อมาทดสอบเขียนและอธิบายครับ จากนั้น HR ก็นัดสัมภาษณ์มาใหม่ พอไปสัมภาษณ์ก็ทำได้ค่อนข้างดี ก็ผ่านรอบแรกไปได้ครับ แต่รอผลนานมาก 2 เดือนได้ครับ ถึงจะเรียกรอบสอง

พอรู้ผลว่าได้เข้ารอบสอง อาการที่เคยเกิดขึ้นในรอบแรกก็เป็นขึ้นมาอีก ตอนนั้นจำไม่ค่อยได้ว่ามีเวลามากน้อยแค่ใหนในการเตรียมตัว แต่รู้สึกว่า ไม่อยากเตรียม อยากพัก ไม่อยากอ่านต่อ ไม่อยากทบทวน อยากให้มันจบๆ พอถึงวันสัมภาษณ์จริง ก็รับกรรมที่ทำไว้ครับ ทำได้ไม่ดี เพราะกังวลเกินไป และเตรียมตัวมาน้อยเกินไป และแน่นอนครับ สุดท้ายก็ไม่ได้งานจากการสัมภาษณ์งานครั้งแรก

หากนึกย้อนไป ความรู้สึกตอนนั้น รู้สึกว่า ไม่ได้ผิดหวังว่าไม่ได้ แต่รู้สึกแย่กับตัวเองมากกว่าครับ ว่าทำไม เราถึงทำได้ไม่ดี ทำไมตอบคำถามแบบนั้นแบบนี้ ทำไมตอนที่มีเวลาเตรียมแล้วไม่เตรียม มีแต่คำถามเยอะแยะไปหมด และก็เหนื่อย เพราะเตรียมตัวเยอะ แต่เหมือนไม่ได้อะไร งานปัจจุบันที่ทำอยู่ ก็มีปัญหาให้แก้ทุกวัน ต้องแบ่งเวลามาเตรียมสัมภาษณ์งานด้วย ก็เหนื่อยมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า

แต่ผมว่า ถึงจะไม่ได้งานจากการสัมภาษณ์ที่ Chevron แต่ผมก็ได้อะไรจากการสัมภาษณ์งานครั้งนี้เยอะมาก ผมรู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง เวลาไปสัมภาษณ์งาน เค้าจะถามอะไรเราบ้าง ในกรณีที่เรามีประสบการณ์มาแล้ว(ซึ่งคำถามจะไม่เหมือนตอนที่เราเรียนจบแล้วไปสัมภาษณ์) สิ่งที่ได้อย่างมากคือ การจัดการอารมณ์ จิตใจของตัวเอง เพราะผมอาการหนักมาก ตอนรู้ว่าต้องไปสัมภาษณ์ ผมเหมือนผ่านสิ่งที่หนักที่สุดไปแล้ว และผมก็เริ่มจัดการมันได้ และเชื่อว่าไม่มีอะไรหนักกว่านี้แล้ว นี่คือสิ่งที่ได้จากการสัมภาษณ์งานครั้งแรกครับ

หลังจากการสัมภาษณ์ครั้งแรก ก็โชคดีครับ มีบริษัทน้ำมันแห่งชาติด้าน Upstream อีกที่เปิดรับสมัครวิศวกรจำนวนมาก ไอ้ที่เค้าไป Walk-In Interview กันที่ระยองนั่นแหละครับ ผมก็ตามไปสอบถึงที่โน่น พอสอบเสร็จก็รอผลอยู่พักนึง แต่ก็ไม่มีเรียกไปสัมภาษณ์ ผมก็ใจไม่ดีแล้ว นึกว่าสอบไม่ผ่าน ก็เห็นเพื่อนๆเข้ามาโพสในเว็บกันว่ามีเรียกไปสัมภาษณ์แล้ว ก็หวังว่าเค้าจะโทรมาบ้าง ประมาณเดือนกว่าๆก็มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทโทรมาครับ แต่เรียกไปสอบข้อเขียนอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมไปสอบแล้วก็ผ่านไปได้ครับ ทางบริษัทก็แจ้งผลการสอบและนัดสัมภาษณ์รอบแรกในช่วงบ่ายวันนึงของเดือนกันยายนครับ และนี่คือการสัมภาษณ์งานครั้งที่ 3 กับบริษัทที่ 2 ของผม

จากที่ไปสัมภาษณ์บริษัทแรกมา ทำให้การสัมภาษณ์ครั้งนี้ ผมไม่เครียดเลยครับ รู้ว่าต้องเตรียมอะไร ก็วางแผนและก็เตรียมตามแผนไปอย่างดี และอาการไม่สบายทั้งหลายที่เคยเกิดกับผม ก็เบาบางลงมากครับ เกือบจะเป็นปกติเลยก็ว่าได้ ทำให้วันที่ไปสัมภาษณ์บริษัทที่ 2 ผมทำได้ค่อนข้างดี ไม่ประหม่า ไม่กลัว มั่นใจมากๆ ผมรู้สึกได้เลยว่า การสัมภาษณ์วันนั้นดีมาก จนประเมินได้เลยว่า น่าจะผ่าน และน่าจะมีเรียกรอบสองแน่ๆ

แต่มันมีปัญหาอย่างนึงครับ ว่าบริษัทที่ผมทำงานอยู่ตอนนั้น เป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบริษัทที่ผมไปสัมภาษณ์ ซึ่งมี Policy ว่าไม่สามารถย้ายงานไปในเครือเดียวกันได้ ผมก็ไม่คิดว่าสิ่งนี้จะทำให้ผมพลาดจากการได้งานในครั้งนี้

ผมรอผลสัมภาษณ์เป็นเดือนครับ อยากรู้ผลมากๆแต่ HR ก็ไม่โทรมาซะที เลยโทรถามผลเองเลย พอรู้ผลสัมภาษณ์แทบช๊อคครับ คือ HR บอกผ่านรอบแรกแต่ไม่สามารถเรียกเข้ารอบสองได้ เพราะติดว่าเป็นพนักงานบริษัทในเครือ ตอนนั้นผมคิดเยอะมาก ว่าจะทำยังไง จะลาออก แล้วมายื่นเพื่อเข้าสัมภาษณ์รอบสองดีมั้ย ซึ่งก็เสี่ยงมาก เพราะกว่าจะลาออกเรียบร้อย กว่าจะได้สัมภาษณ์ ใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน แถมไม่ได้การันตีว่าจะผ่านรอบสอง และได้งานนั้นอีก สุดท้ายจากการคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วผมก็ไม่ได้ลาออก ยังอยู่ที่เดิมและพลาดโอกาสครั้งนั้นไปอย่างน่าเสียดาย

แม้จะไม่ได้งานจากการสัมภาษณ์กับบริษัทที่ 2 แต่ก็มีอะไรที่ผมได้จากการพยายามครั้งนี้ครับ ผมได้ความมั่นใจ ว่าผมทำได้ เพราะบริษัทแห่งที่ 2 ก็เป็นบริษัทใหญ่ Profile ดี แต่ผมผ่านรอบแรกไปได้ ทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิมมากขึ้น ผมเริ่มคิดว่าการสัมภาษณ์มันก็ไม่ได้ยากอะไรครับ แค่เข้าไปคุยกัน 45-50 นาที ก็จบ หัวข้อเราก็พอรู้อยู่แล้ว ก็คุยเรื่องตัวเองทั้งนั้น เราสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าและทำให้เวลาสั้นๆที่เราสัมภาษณ์ออกมาดีได้ พอคิดได้แบบนี้ ผมก็ไม่กลัวการสัมภาษณ์อีกต่อไปครับ พอเตรียมสัมภาษณ์งานบ่อยเข้า ครั้งต่อๆไปก็สบายครับ เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ เพราะเตรียมไว้ครบหมดแล้ว เรื่องอารมณ์นี่ถือว่านิ่งขึ้นมากครับ เริ่มเจ็บและชินไปเอง 555+

มีสิ่งนึงที่ผมได้ทำก็คือ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ แต่ก็ก็กล้าอย่างนึงครับ คือกล้ายื่นใบสมัครสมัครไปก่อน เดี๋ยวถ้าเค้าเรียก ความกล้ามันจะตามมาเอง เหมือนเราบังคับตัวเองให้ถูกผลักเข้าไปอยู่ในภาวะที่ต้องทำ และเราก็จะพยายามทำมันให้ดีที่สุดครับ อันนี้สำคัญมากสำหรับคนที่กลัว ถ้าไม่เริ่มก็ไม่มีก้าวต่อไปครับ

ผมพลาดจากบริษัทที่ 2 มาไม่นาน Chevron ก็มีเปิดรับสมัครงานด้าน Reliability ครับ ผมไม่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง แต่ก็ลองยื่นสมัครไปครับ รอประมาณเดือนกว่าๆ Chevron ก็เรียกไปสัมภาษณ์ครับ

สิ่งที่ผมทำครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งนิดหน่อย เพราะงานไม่ตรงกับประสบการณ์ผมซะทีเดียว ผมก็เริ่มจากการ Review Job Description และประเมินว่าอะไรที่ผมเคยทำและอะไรที่ไม่เคยทำ สิ่งที่ผมเคยทำผมก็เตรียมแบบลงลึกในรายละเอียดไปเลย ส่วนอะไรที่ไม่รู้ ผมก็ดูคร่าวๆ ให้ตอบได้บ้าง ดูว่าพอรู้บ้าง ไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลยครับ

ผมสัมภาษณ์งานตำแหน่งนี้ 2 รอบครับ รวมๆแล้วผมสัมภาษณ์งานทั้งหมด 6 ครั้ง(มีบริษัท Engineering อีกที่ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงครับ) และสอบข้อเขียนอีก 2 ครั้ง ผมได้ข้อคิดเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งานหรือการพยายามทำอะไรให้สำเร็จดังนี้ครับ

“อย่าตัดสินว่าตัวเองทำไม่ได้ ให้พยายามทำแล้วให้คนอื่นตัดสินเรา ไม่งั้นเราจะไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ถ้ากลัว ต้องพยายามผลักตัวเองลงไปอยู่ในจุดที่เราต้องทำ แล้วเราจะมีโอกาสได้ต่อสู้กับความกลัวนั้น จนเราชนะความกลัวนั้นได้ในที่สุด”

“ความพยายามแต่ละครั้ง แม้จะไม่สำเร็จ แต่เราก็ได้อะไรบางอย่าง ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในครั้งถัดๆไปเสมอ”

“เริ่มแล้ว อย่าหยุด ให้ทำต่อเนื่อง ไม่งั้น เจ็บฟรี”


555+ อันนี้กลัวมากครับ นึกถึงอารมณ์คนแอบไปสัมภาษณ์งาน ที่ทำงานเก่าก็เริ่มเขม่น ว่าไอ้นี่ลาบ่อย อาจจะเริ่มประเมินผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สุดท้ายเราละความพยายาม สรุปว่าที่หายๆไปไม่ได้อะไร แถมโดนมองไม่ดีอีก แบบนี้แหละครับ เรียกว่าเจ็บฟรี

ตอนไปสัมภาษณ์งาน อย่าอายที่จะขายตัวเองครับ รอบแรกๆผมไม่กล้าบอก ว่าผมเก่งอะไร ทำอะไรได้ สุดท้ายแห้วครับ รอบหลังๆมีประสบการณ์มากขึ้น ขายตลอด แต่ต้องเป็นความจริงนะครับ

ตอนนี้ผมได้เข้ามาทำงานในวงการสมใจแล้ว แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายประสบการณ์ข้างหน้าที่หากมีโอกาสจะมาแบ่งปันกันในเว็บแห่งนี้อีกครับ ขอให้ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องราวนี้ เก็บสิ่งที่มีประโยชน์ไปใช้นะครับ หากไม่ถูกใจใครขออภัยด้วยนะครับ

ขอบคุณมากครับ

จันทรา ณ ออฟชอร์

=======================================

มีน้องอีกคนมาแบ่งปันประสการณ์คล้ายๆกัน ลองอ่านดูนะครับ สู้ๆทุกคน


เข้ามาอ่านบล็อกของพี่นก นานแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้คอมเม้นสักที
เป็นเด็กจบใหม่ค่ะ สัมภาษณ์งาน 3 บริษัท 6 ครั้งค่ะ จบ ธรณี เป็นความรู้สึกใกล้เคียงกับคุณพี่จันทรา สอบแล้วสอบอีกค่ะ 2 ครั้งแรกที่ Chevron เป็นการสอบสัมภาษณ์ มหาโหด ทั้งที่เตรียมตัวมาซะดิบดี อ่านหนังสือ แต่ก็แห้ว ไม่ได้ค่ะทั้งที่เป็นเด็กฝึกงานตั้ง 2ปีกับ บริษัทนี้ แบบว่าตั้งความหวังไว้มาก พอไม่ได้ ก็เป็นบ้าอยู่สักพักค่ะ 55
ต่อมา สอบกับ ปตท สผ. ทั้งข้อเขียนและก็สัมภาษณ์ ตำแหน่ง Geologist อีก 2 ครั้ง ตำแหน่ง Geophysicist อีก 1 ครั้ง รวมเป็น สามครั้ง ปรากฎว่า ไม่ได้เนื่องจากเหตุผลอันใด หนูก็ไม่ทราบ คราวนี้ เคร้งคว้างเลย ค่ะ เพราะทำ senior project กับ สผ ด้วย คำถามเกิดขึ้น ฉันจะไปทำงานอะไร ถ้าไม่ได้น้ำมัน เรียนมายากลำบาก ไปขายเฉาก๊วย ดีกว่ามั้ย ไม่เสียใจดี 5555

สุดท้ายก็เลยมาฮึดสู้ กับ Schlumberger ในตำแหน่ง Mud loggger สัมภาษณ์ 6 มีนาที่ผ่านมาค่ะ สอบสัมภาษณ์มีสามรอบค่ะ ผ่านเข้าไปจนรอบสุดท้าย ตอนนั้นคิดว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องเดินต่อไป ปรากฏว่า เช้าวันที่ 7 มีนา พี่ hr โทรมาบอกว่า ขอแสดงความยินดีด้วยน่ะค่ะ น้องได้เลือกให้ร่วมงานกับ slb ค่ะ โอ้ว หูฟาดป่ะเนี้ย ในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้วค่ะ ได้มีก้าวแรกในการเดินทางทำงานสายนี้ตามที่ฝัน อาจจะเหนือความคาดหมายด้วย เพราะต้องทำงานบนริก แต่ก็ไปอ่านหนังสือ เรื่องเล่าสาวแท่นมาบ้างแล้ว ยังไงก็สู้ค่ะ

อยากจะบอกให้ทุกคน พยายามและอย่ายอมแพ้น่ะค่ะ สู้สู้ค่ะ

ปล.ขอบคุณพี่นกมากค่ะที่มีบล็อกนี้ขึ้นมา พี่เป็นส่วนหนึ่งน่ะค่ะ ที่ทำให้หนูมีวันนี้ วันที่มีงานทำค่ะ

โดย : Bowba วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา: 15:26:37 น.




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 20 มีนาคม 2556 15:56:04 น. 37 comments
Counter : 7882 Pageviews.

 
แวะมาทักทายตอนเช้าค่ะ ^^
ประสบการณ์ของคุณจันทรา มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ หนูเองก็เป็นโรคกลัวการสัมภาษณ์เช่นกัน(นึกว่าจะมีเราที่เป็นอย่างนี้คนเดียวซะอีก) อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณจันทราและอานกด้วยนะค่ะ


โดย: หมวยเล็ก IP: 101.108.230.200 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:58:58 น.  

 
หมวยเล็ก - ผมเองก็เป็นนะ(เอามั่งๆ อิอิ อินเทรนด์ด้วยคน) แต่นานมากๆแล้วสมัยหางานใหม่ๆเมื่อยี่สิบกว่าปีนู้น :) ขาสั่นทีเดียวล่ะ

ผมอยากจะเน้นตรงที่คุณจันทราบอกว่า อย่าอายที่จะขายตัวเอง สัมภาษณ์มันก็เหมือนกับจีบสาวอยู่อย่างหนึ่งคือต้องนำเสนอข้อดีของเรา ภาษิตนักการตลาดมีอยู่อย่างหนึ่งว่า กลองดีถ้าไม่ตี จะดังได้ยังไง จริงไหมครับ นั่งทื่อๆ ใครจะไปรู้ว่าเราเก่งอะไร เชี่ยวชาญอะไร ทำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:36:58 น.  

 
มันสุดยอดมากครับ ^^


โดย: Papeao IP: 110.168.19.72 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:26:36 น.  

 
เป็นกำลังใจให้พี่จันทรานะคะ
เหมือนปลุกศัตรูให้ตื่น แล้วต่อยศัตรูจนสลบไปอีกครั้ง
พี่เจ๋งมาก


โดย: ตะวัน IP: 58.137.154.162 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:22:44 น.  

 
ชอบมากเลยครับอ่านแล้วซึ้งดีครับของคุณจันดารา เฮ้ย จันทรา
สุดยอดจริงๆ มันทำให้ผมคิดเหมือนกันครับ ผมคนหนึ่งที่เป็นลักษณะ
คล้ายๆกันกับคุณจันทรา แต่ทุกวันนี้ผมก็ได้งานตามความตั้งใจ
และต้องขอขอบคุณเจ้าของบล๊อคนี้มากๆเลยครับ ทุกวันนี้ยังกำความฝัน
ตัวเองไว้แน่นเสมอ ประสบความสำเร็จแล้วแต่มันเป็นเพียงก้าวแรก
และผมก็จะทำให้ดีที่สุดครับ ให้เหมือนกับที่ตัวเองฝัน อย่ายอมแพ้นะครับ
สู้ๆ


โดย: แจ็ค IP: 115.67.227.96 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:44:34 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะครับ เพื่อนผมหลายคนเป็นแบบที่พี่จันทราบอกเลยครับ ความสามารถมี แต่เรื่องความกล้าไม่มี น่าเสียดาย !


โดย: Nut IP: 27.55.165.240 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:23:56 น.  

 
ผมตอนนี้ สามบริษัท สัมภาษณ์ครั้งที่สาม รอผลอยู่ เหอะๆมาอ่านประสบการณ์จากคุณจันทราทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย


โดย: เฮ้อ IP: 171.5.105.61 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:32:28 น.  

 
เฮ้อ - สู้ต่อไป ไอ้มดแดง (เกี่ยวไหมเนี่ย)


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:51:42 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


โดย: solution IP: 180.183.49.219 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:41:23 น.  

 
พี่นกเน้นข้อความให้ผมเยอะเลย ขอบคุณมากครับ
นอกจากอ่านบล๊อคนี้จะได้ข้อคิดดีๆ ได้งานดีแล้ว
ยังได้มีโอกาสฝึกเป็นนักเขียน (ดีๆรึเปล่าไม่รู้) ด้วย

เพราะกว่าจะถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาได้ เครียดเลยครับ
จะเขียนให้มีสาระ+ฮาแบบพี่นกนี่ไม่ใช่ง่ายๆครับ

ตอนนี้ผมว่างงานซักพัก เตรียมย้ายไปทำที่ใหม่ โอกาสที่เคยพลาดไปกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติก็ได้กลับมาแล้วครับ

สู้ๆครับทุกคนที่กำลังพยายามอยู่ ฟ้าหลังฝนสวยงามมากๆ และถ้าเจอฝนตกครั้งหน้า เราจะผ่านมันไปได้โดยไม่เปียกแน่นอนครับ 555+


โดย: จันทรา IP: 115.67.166.234 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:41:06 น.  

 
จันทรา - ปล่อยให้น้องๆเพื่อนๆรอตั้งนาน กว่าจะเข้ามาเจิม comment อิอิ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:24:03 น.  

 
จริงๆ แวะมาดูทุกวันครับ แต่อายไใม่กล้าแสดงตัว ^_^


โดย: จันทรา IP: 115.67.166.234 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:33:28 น.  

 
จันทรา - งั้นนอกจากความกลัวสัมภาษณ์ที่คุณต้องเอาชนะแล้ว ยังมีความขี้อายอีกหนึ่งอย่าง อิอิ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:6:34:33 น.  

 
ไปสัมภาษณ์งานมาเหมือนกันค่ะ....งง มาก
เพราะเค้าเหมือนจะตอบรับเราแล้วและนัดวันมาทำงานรอให้เรียกเซ็นสัญญาภายใน 1 อาทิตย์ หลังจากที่โทรมาบอกเรียบร้อยแล้ว...เราก็รอค่ะจนเลยมาขึ้นวันจันทร์เราสงสัยว่าทำไมไม่เรียกซักที โทรไปถาม เค้าบอกว่าผู้บริหารยังไม่เซ็นลงมาต้องรอก่อน.....เว้นไปอีกอาทิตย์นึงคราวนี้พูดจาดีค่ะแต่แอบได้ยินเค้านินทาว่า"คนนี้โทรมาอีกแล้วเหรอยังไม่ได้ใบรับรองเงินเดือนเลย" แล้วก็หัวเราะกัน ถึงจะปิดกระบอกโทรศัพท์แต่เราได้ยินชัดเต็มๆหู เสียความรู้สึกมากๆ แล้วมีคนที่เป็นบุคคลคนเดิมที่เคยสัมภาษณ์เรามาตอบ พูดในทำนองว่า พี่บอกหรือยังว่านัดมาทำงานวันไหน เราบอกว่า บอกแล้วค่ะ แล้วพี่บอกหรือยังว่าตกลงเรื่องเงินเดือน เราก็บอกว่าก็ตกลงในวันนั้นแล้วไม่ใช้เหรอ คราวนี้บุคคลคนนั้นบอกกับเราว่า..ถ้ายังไม่ได้เรียกเซ็นสัญญาแล้ววันเริ่มทำงานกับตกลงเรื่องเงินเดือนก็ยังไม่ได้...เราก็งง ว่าอะไรเนียก็นัดวันทำงานแถมโทรไปก็บอกว่าสัญญายังไม่เซ็นลงมาโทรไปอีกให้อีกคำตอบนึง...นี่ตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่ เราเลยมั่นใจว่าต้องโดนเด็กเส้นยัดเข้าไปแทนเราแน่ๆ แต่ที่เราเสียความรู้สึกที่สุดทำไมต้องมานินทาลับหลัง....ไม่บอกเราตรงๆ หรือว่าบอกว่าได้คนมาทำงานเรียบร้อยแล้วแต่พูดจาเตะถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ ดีนะที่ครั้งแรกนัดเราเซ็นสัญญาเรายังไม่ได้ออกจากที่เก่าถ้าเป็นแบบนี้แล้วก็เท่ากับว่าเราต้องตกงานฟรีๆ...คราวนี้รู้ซึ้งเลยค่ะว่าบริษัทคนไทยถึงจะใหญ่โตแค่ไหนถ้าไม่มีเส้นหรือว่ามีความสามารถแค่ไหนถ้าเส้นใหญ่กว่าก็อดเหมือนกันค่ะ

ขอโทษนะค่ะแอบโมโหนิดหน่อยกับเรื่องส่วนตัว

แต่ได้อ่านของ จขกท.แล้วทำให้เราเริ่มที่จะหางานใหม่อีกครั้งเป็นกำลังใจดีค่ะ


โดย: nanablackstone วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:39:32 น.  

 
Nanablackstone - ผมว่าพวก hr หลายๆบ.เนี่ย น่าจะจับไปเข้าคอร์สอบรมวิธีการติดต่อสื่อสารกับผู้มาสมัครงาน มารยาทต่างๆ เธอๆ(เขาๆ) จะดูกร่าง และ ปฏิบัติกับผู้มาสมัครไม่ดีเลย ทั้งๆที่เป็นหน้าเป็นตาให้บ. หลายบ.ลงเงินไปมากมายทำ pr แต่มาตกม้าตายกับที่ hr ทำกับผู้มาติดต่อ

แต่ hr หลายๆที่ก็ดีนะครับ ผมไม่ได้เหมาไปหมด

เอาล่ะ ระบายเสร็จแล้วก็นะ สู้กันต่อไป เป็นกำลังใจให้นะครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:51:40 น.  

 
สมัคร ชลัมไปแล้ว รอเรียก อิอิ


โดย: ปลายฟ้า IP: 183.89.40.137 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:23:01:22 น.  

 
ปลายฟ้า - เอ น้องคนนี้ชื่อใหม่ ยินดีต้อนรับครับ ขอให้ได้เรียกเร็วๆนะ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:4:48:09 น.  

 
Nanablackstone - ผมเคยไปสัมภาษณ์โรงกลั่นใหญ่แห่งหนึ่ง ผมเล่าให้คณะกรรมการสัมภาษณ์ฟังว่าชีวิตตอนเด็กๆผมลำบาก ทำงานช่วยครอบครัว ไม่ได้เรียนหนังสือตามปกติเหมือนคนอื่น

คณะกรรมการสัมภาษณ์ท่านหนึ่ง ให้ผมแบมือ แล้วก็หัวเราะกัน แล้วก้อบอกว่า มือไม่เห็นเหมือนคนทำงานหนักเลย

เสียใจด้วยจริงๆครับ แต่เรามีแค่ทางเลือกเดียว คือสู้ต่อไปจนกว่าจะได้

ขอให้มีกำลังใจสู้ต่อนะครับ ถ้าเราเคยทำอะไรได้แล้ว ทำซ้ำอีกครั้ง ยังไงก็ทำได้ครับ


โดย: จันทรา IP: 61.91.6.4 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:59:40 น.  

 
จันทรา - ขอบคุณที่มาช่วยให้กำลังใจกันนะครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:03:59 น.  

 
อ่านเรื่องของพี่จันทราแล้ว มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย
ขอบคุณค่ะ


โดย: blcharm IP: 203.146.150.142 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:45:03 น.  

 
blcharm - ยินดีต้อนรับครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:16:25:02 น.  

 
เข้ามาอ่านบล็อกของพี่นก นานแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้คอมเม้นสักที
เป็นเด็กจบใหม่ค่ะ สัมภาษณ์งาน 3 บริษัท 6 ครั้งค่ะ จบ ธรณี เป็นความรู้สึกใกล้เคียงกับคุณพี่จันทรา สอบแล้วสอบอีกค่ะ 2 ครั้งแรกที่ Chevron เป็นการสอบสัมภาษณ์ มหาโหด ทั้งที่เตรียมตัวมาซะดิบดี อ่านหนังสือ แต่ก็แห้ว ไม่ได้ค่ะทั้งที่เป็นเด็กฝึกงานตั้ง 2ปีกับ บริษัทนี้ แบบว่าตั้งความหวังไว้มาก พอไม่ได้ ก็เป็นบ้าอยู่สักพักค่ะ 55
ต่อมา สอบกับ ปตท สผ. ทั้งข้อเขียนและก็สัมภาษณ์ ตำแหน่ง Geologist อีก 2 ครั้ง ตำแหน่ง Geophysicist อีก 1 ครั้ง รวมเป็น สามครั้ง ปรากฎว่า ไม่ได้เนื่องจากเหตุผลอันใด หนูก็ไม่ทราบ คราวนี้ เคร้งคว้างเลย ค่ะ เพราะทำ senior project กับ สผ ด้วย คำถามเกิดขึ้น ฉันจะไปทำงานอะไร ถ้าไม่ได้น้ำมัน เรียนมายากลำบาก ไปขายเฉาก๊วย ดีกว่ามั้ย ไม่เสียใจดี 5555

สุดท้ายก็เลยมาฮึดสู้ กับ Schlumberger ในตำแหน่ง Mud loggger สัมภาษณ์ 6 มีนาที่ผ่านมาค่ะ สอบสัมภาษณ์มีสามรอบค่ะ ผ่านเข้าไปจนรอบสุดท้าย ตอนนั้นคิดว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องเดินต่อไป ปรากฏว่า เช้าวันที่ 7 มีนา พี่ hr โทรมาบอกว่า ขอแสดงความยินดีด้วยน่ะค่ะ น้องได้เลือกให้ร่วมงานกับ slb ค่ะ โอ้ว หูฟาดป่ะเนี้ย ในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้วค่ะ ได้มีก้าวแรกในการเดินทางทำงานสายนี้ตามที่ฝัน อาจจะเหนือความคาดหมายด้วย เพราะต้องทำงานบนริก แต่ก็ไปอ่านหนังสือ เรื่องเล่าสาวแท่นมาบ้างแล้ว ยังไงก็สู้ค่ะ

อยากจะบอกให้ทุกคน พยายามและอย่ายอมแพ้น่ะค่ะ สู้สู้ค่ะ

ปล.ขอบคุณพี่นกมากค่ะที่มีบล็อกนี้ขึ้นมา พี่เป็นส่วนหนึ่งน่ะค่ะ ที่ทำให้หนูมีวันนี้ วันที่มีงานทำค่ะ



โดย: Bowba IP: 1.4.255.232 วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:15:26:37 น.  

 
Bowba - ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์อันมีค่ามากมาย เป็นกำลังใจให้คนล่าฝันอย่างเพื่อๆมากเลยครับ ขออนุญาติเอาไปไว้ข้างบนเลยนะครับ

Mug logger เป็นงานที่หนักและเหนื่อยมาก แต่เหมาะสำหรับก้าวแรกมากเช่นกันครับ gg หลายคนมากๆที่เป็นใหญ่เป็นโตในวันนี้ อดีตก็ร่อนเศษหิน ส่องเศษหิน มาก่อนทั้งนั้นครับ และ slb เป็นบ.ที่ดีมากๆ(แต่งานหนัก อิ๊บอ๊าย) คุณได้ก้าวแรกที่ดีมกๆแล้ว สู้ๆนะครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:15:53:58 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำดีดี น่ะค่ะ 55 =^^=


โดย: Bowba IP: 1.4.255.232 วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:17:23:18 น.  

 
เอาเรื่องดีๆมาฝากพี่นกครับ
พอดีได้มาอบรมกับบริษัท ตอนกินข้าวเจอน้องคนนึง เป็น Wireline เค้าบอกว่าเค้าพยายามหลายครั้งกว่าจะได้งานในวงการนี้ ที่ได้ก็เพราะอ่านจากเว็บพี่นก ทำให้เตรียมตัวถูก จนได้งานในที่สุด ผมก็บอกเค้าว่าเหมือนกันเลย ผมก็อ่านเตรียมสัมภาษณ์มาจากเว็บนั้นแหละ 555+



โดย: จันทรา IP: 115.67.131.129 วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:20:42:09 น.  

 
จันทรา - ขอบคุณครับสำหรับเรื่องดีๆ เรื่องของคุณจันทราก็เป็นแรงบันดาลใจให้สู้สำหรับหลายๆคนเช่นกันครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 28 มีนาคม 2556 เวลา:5:33:48 น.  

 
Kira - คุณโพสต์มาขอให้ผมสะกดคำว่ายุติธรรมให้ แต่ภาษาที่คุณใช้นั้นหยาบคายผิดกฏของบล๊อกผม ผมจึงจำเป็นต้องลบทิ้งครับ บ้านเมืองมีขื่อมีแป บล๊อกผมก็เช่นกัน แต่ว่าประเด็นที่คุณถามมานั้นมีค่าควรแก่การตอบและถกกัน เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ผมจึงจะตอบให้

คำว่ายุติธรรมสะกดอย่างนี้ครับ (ถ้าผมจำมาจากครูภาษาไทยไม่ผิดนะ)

ยุติธรรม

มาจากคำว่า ยุติ + ธรรม ผมคงไม่ต้องอธิบายต่อว่าสองคำนี้หมายความว่าอย่างไรนะครับ

ถ้าคุณอยากรู้ว่าผมสอนเรื่องความ "ยุติธรรม" กับลูกสาวผมอย่างไร ลองอ่านบล๊อกนี้ดูครับ ผมสอนเธอไว้เมื่อ 4 ปีมาแล้ว

บทเรียนที่ 13 ของน้องเฟิร์น ... ความไม่ยุติธรรม
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=16-04-2009&group=1&gblog=12


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:5:51:34 น.  

 
ผมอ่านบล็อกพี่นกมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ใด้ลองสมัครซักที
ยังไม่พร้อมในบางเรื่อง แต่ก้ออีกไม่นานหรอก
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ

ขอบคุณพี่นก....สำหรับสิ่งดีๆ


โดย: TNG IP: 110.171.177.79 วันที่: 7 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:29:07 น.  

 
TNG - ยินดีต้อนรับครับ เมื่อไรพร้อมก็มาเลยครับ ฝันให้ไกลแล้วพยายามเดินไปให้ถึง แม้อาจจะไม่ถึงแต่อย่างน้อยคุณมีคำตอบให้ตัวเองว่า ฉันทำดีที่สุดแล้ว


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:49:58 น.  

 
- อ่านเรื่องของ Bowba แล้ว สุดยอดเลย เจอมาแต่ละที่โหดๆทั้งนั้น แต่ก็ได้ทำงานตามที่ฝันในที่สุด ยินดีด้วยครับ

- แอบมาบอกพี่นกด้วยครับว่า ผมย้ายงานไปอยู่ PTTEP เรียบร้อยแล้วครับ ได้ตำแหน่งที่ตรงกับ Background มากกว่าที่เดิม พอเข้ามาอยู่ในวงการ E&P แล้ว อะไรๆก็ดูง่ายขึ้นครับ

- เจอเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันถามว่า นายคือจันทราใช่มั้ยด้วย ^_^


โดย: จันทรา IP: 58.8.225.62 วันที่: 6 สิงหาคม 2556 เวลา:14:22:42 น.  

 
จันทรา - ยินดีด้วยครับ ได้งานที่ใช่เสียทีเนอะ ความพยายามไม่สูญเปล่า keep fighting จริงๆ ใช่ครับเห็นด้วย การที่เราเข้ามาใน e&p แล้ว อะไรๆมันก็เห็นชัด ผมถึงแนะๆหลายๆคนว่า ยอมเสียเวลาเข้ามาก่อน อาจจะไม่ใช่งานที่ใช่เลย 100% แต่ทำให้เรามี network connection ต่อไปได้เรื่อยๆ แล้วอะไรๆมันก็ง่าย


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 สิงหาคม 2556 เวลา:4:37:35 น.  

 
สวัสดีคะ
หนูก็เป็นคนหนึ่งที่อ่านและติดตามบล็อคของพี่นกมาสักพักหนึ่ง (ชอบมากคะ) พอดีหนูเพิ่งจบโท ได้ไม่ถึงเดือนเลย หนูไม่เคยได้ไปสัมภาษณ์งานที่ไหนมาก่อนเลย ... คืนหนึ่งสมัครงานไป เช้ารุ่งขึ้น chevron เรียกสัมภาษณ์เลยคะ คือ วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม นี้ หนูตื่นเต้นและกลัวมาก...ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน กลัวจังเลยคะ
ยิ่งเวลาตื่นเต้น...กลัวจะน้ำตาไหลเวลาสอบสัมภาษณ์...!!!

ขอบคุณบล็อคพี่นกนะคะ
บางครั้งจิตใจว้าวุ่น เข้ามาบล็อคนี้เหมือนได้ระบายความรู้สึกออกมานิดนึง ^__^


โดย: JuB IP: 49.231.114.87 วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:20:58:07 น.  

 
Jub - ดีใจด้วยครับ ที่ได้รับการตอบรับเรียกไปสัมภาษณ์ด้วยความรวดเร็ว ตั้งสติให้ดีๆนะครับ ถ้าอ่านบล๊อกมาสักพักน่าจะได้เคล็ดลับในการเตรียมตัวพอสมควร ระยะเวลาสั้นๆแบบนี้ พี่นกให้คาถาไปสองคำล่ะกัน มีสติ กับ พกความมั่นใจไปเยอะๆ นะครับ สู้ๆ สัมภาษณ์มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

มีอะไรก็มาคุยมาระบายเอาไว้ที่นี่ได้นะครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:6:10:31 น.  

 
ขอบคุณมากคะพี่นก หนูจะสู้เต็มที่เลยคะ ^_^


โดย: JuB IP: 49.231.114.87 วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:10:28:33 น.  

 
หนูเป็นคนนึงที่กลัว ปละตื่นเต้นการไปสัมภาษณ์งานมากค่ะ เพราะรู้อย่างหนึ่งว่าเราเป็นคนไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง เพราะฉะนั้นจะต้องเตรียมตัวให้มากๆ ในวันที่ 22 ก.ย. ที่จะถึงนี้ หนูจะไป walk in ที่ระยอง สมัครงานกับ Chevron หนูตื่นเต้นมากค่ะ เพราะเป็นบริษัทใหญ่มาก และหนูมีความรู้เท่าหางอึ่ง ภาษาอังกฤษก็ด้อย แต่หนูคิดว่าหนูทำเพื่อพ่อกับแม่ มันคือแรงใจชั้นดีที่จะทำให้หนูกล้าเสี่ยง และสู้ ยิ่งวันนี้มาอ่านบล็อกของพี่จันทรา มันทำให้หนูนอนไม่หลับ อยากทำให้ทุกนาทีต่อจากนี้มีค่าที่สุด ขอบคุณมากนะคะ อย่างน้อยหนูก็คงกล้าที่จะไปสมัคร ใช่ไม๊คะพี่ 55


โดย: S.Rodsiri IP: 115.67.35.182 วันที่: 16 กันยายน 2556 เวลา:0:07:25 น.  

 
S rodsiri - สู้สุดใจ ทุ่มสุดตัวไปเลยครับ ชนอุปสรรคมันไปเลย ถ้าจะล้ม ให้ล้มไปข้างหน้า อย่างหงายหลัง เพราะ ล้มไปข้างหน้า อย่างน้อย หนูก็ได้ระยะคืบไปข้างหน้า ไม่ได้ชื่อว่าถอยหลัง จริงไหม ถ้าจะล้มจะเจ็บทั้งที หาประโยชน์จากการล้มการเจ็บให้ได้มากที่สุด

อย่าลืมมาเล่าประสบการณ์แบ่งปันเพื่อนๆกันนะครับ


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 16 กันยายน 2556 เวลา:4:31:57 น.  

 
S.Rodsiri - สู้ๆครับ ผมเคยได้ยินว่า นักร้อง นักแสดงที่เก่ง ประหม่าก่อนขึ้นเวทีกันทุกคน พวกเราก็เหมือนกันครับ สู้ทั้งๆที่กลัว ถึงจะสำเร็จครับ The show must go on - อันนี้คำขวัญประจำตัวของผม เวลาไปสัมภาษณ์งานครับ


โดย: จันทรา IP: 58.8.79.15 วันที่: 11 ธันวาคม 2556 เวลา:21:23:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.