==== ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่อยากจะเป็นสามี และ เป็นพ่อให้ได้ดีกว่าที่เคยเป็นเมื่อวาน ====
Group Blog
 
All Blogs
 
สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการทำงานสนามในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม

สองสามวันก่อนสงกรานต์ ผมได้มีโอกาส 2 - 3 หนในการไปสอนเรื่องการขุดเจาะให้กับน้องๆใหม่ในบ. ก็เลยมีการอารัมภบทกันนิดๆหน่อยๆก่อนเข้าเรื่อง เป็นการส่งผ่านประสบการณ์การทำงานจากรุ่นสู่รุ่น ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาวิชาการทำงานเท่าไร แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า soft skill เสียมากกว่า ก็เลยถือโอกาสนี้เอามาแบ่งปันต่อในบล๊อกด้วย (ตามเคย หากินกันง่ายๆแบบนี้แหละ อิอิ)

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า บริบทการทำงานสมัยผม (25 ปีก่อน) กับสมัยนี้ต่างกันพอสมควรนะครับ บางเรื่องที่สมัยผมเห็นว่าเป็นทักษะเป็น soft skill ที่สำคัญ สมัยนี้อาจจะเห็นว่าไม่สำคัญก็ได้ มาดูเป็นเรื่องๆกันดีกว่าว่าอะไรที่สมัยผมแตกต่างไปจากสมัยนี้อย่างมีนัยสำคัญ(ในสายตาผม)



คน

- อย่างแรกเลย สำคัญมาก อุตสหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรฯเมื่อราวๆ 60-70 ปีก่อนที่ไม่ใช่อุตฯที่หรูและคนแยกกันเข้า เป็นงานสนามที่ไม่ต่างกับงานเหมืองแร่ งานป่าไม้ ที่เต็มไปด้วยอันตราย ห่างไกล ลำบากลำบน ดังนั้น ช่างฝีมือ วิศวกร ที่หลงหรือจำใจเข้าไปทำงานสนามประเภทนี้จึงเป็นประเภทที่ ไม่มีที่จะไป หรือ แม้กระทั่งเป็นพวกที่ไม่ใช่วิศวกร ไม่ใช่ช่างอะไรเลย ไปกวาดๆเอามาจากข้างๆถนนในเทกซัสในโอกลาโฮมา แล้วเอามาเป็นกุลี(roustabout) แล้วก็อยู่รอดพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนเป็น company man เป็น supt เป็นโน้นเป็นนี่ ประสบการณ์โดยแท้ ซึ่งก็คือพวกที่มาเป็นบิ๊กๆในสนามสมัย 25 ปีก่อน (ที่ผมเข้าววงการนี่เอง) ลักษณะคนพวกนี้จะมั่นใจในตัวเองสูงมากๆ ประสบการณ์ช่ำชอง ในสภาพแวดล้อมที่เคยชิน เช่น แท่นเดิมๆ เครื่องยนต์ และ วิธีการเจาะเดิมๆในถิ่นเดิมๆ แต่พอให้ไปเจาะที่อื่น แท่นตัวอื่น เครื่องรุ่นอื่น ในที่อื่น ก็จะเดี้ยง เพราะไม่มีพื้นฐานวิชาการวิศวกรรม หรือ พื้นฐานช่าง

ในสมัยนี้คนที่เป็นรุ่น supt เป็น company man แบบที่ผมเคยเจอ หมดรุ่นหมดอายุขัยไปแล้ว รุ่นที่มาเป็น supt เป็น company man ก็จะเริ่มมีการศึกษามีวุฒิมีปริญญากันเยอะพอสมควร

การสื่อสาร

- อย่างที่สองนี่สำคัญเช่นกัน สมัยผมมีฮ.ลงไปที่แท่นอาทิตย์ล่ะ 1 ลำ ขนคนไป ขนคนกลับ ส่งจม.เป็น air mail (เขียนใส่กระดาษบางๆที่พับแล้วเป็นซองในตัว ลองกูเกิลดู เผื่อจะมีให้เห็นบ้าง เด็กๆสมัยใหม่คงไม่เคยเห็น) ถึงบ้านได้เดือนล่ะ 4 ฉบับ (7วันถึง)รับจากบ้าน ถ้าไม่พลาดเที่ยวฮ.ก็ได้แค่เดือนล่ะ 4 ฉบับเหมือนกัน ในฮ.มีหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับ วีดีโอโป๊ 7 ม้วน กับหนังฝรั่ง 7 ม้วน เก็บไว้ห้อง ompany man มีโค้วต้าเบิกให้ดูวันล่ะเรื่องที่ห้องสันทนาการรวม และ อะไหล่ที่จำเป็นขนาดเบาๆเช่นแผนวงจรรวมนิดๆหน่อยๆ ทุกวันจะต้องเข้าคิวคุยสื่อสารรายงานทางวิทยุกับคนของบ. รายงานความคืบหน้าของงาน ขอความช่วยเหลือที่ต้องการ(มักไม่ได้ ฮ่าๆ) หมดเวลาสื่อสารแล้วก็ ตัวคนเดียวไป solo รับผิดชอบงานตัวเองไปกับลูกน้อง 4-5 คน (สมัยนั้นผมเป็นวิศวกรสนามให้กับบ.serviceขาใหญ่รายหนึ่ง)

แค่นี้แหละครับที่แตกต่างอย่างมีนัยะสำคัญในสายตาผม แต่ก็เป็นบ่อเกิดของสิ่งที่ผมเรียนรู้และมีค่าต่อการทำงานของผมตลอดมา



กล้าตัดสินใจ - เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆอันเนื่องมาจาก 2 ปัจจัยข้างต้น คือ คนที่ผมทำงานด้วยนั้นทั้งลูกค้า (company man, mud eng, นักธรณี, ฯลฯ) และลูกน้องตัวเอง แก่คราวพ่อคราวลุง ประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึง ผมเป็นแค่เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ถือปริญญาเข้ามาทำงาน โดนอัดโดนลองของสารพัด จากเด็กไทยกระจอกๆความมั่นใจระดับกลางๆ ต้องพัฒนาระดับความมั่นใจแบบเร่งด่วนแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานทางวิศวกรรมที่ร่ำเรียนมา(ทั้งจากสถาบันฯและจาก training school ของบ.)ที่ต้องแน่นปั๊ก เข้าต่อกรกับรุ่นลายครามพวกนั้น

อันเป็นที่มาของความเชื่อส่วนตัวของผมในการทำงานภาคสนามที่ว่า "ราคาของการไม่กล้าตัดสินใจ หรือ ตัดสินใจช้า จะแพงกว่าราคาของการตัดสินใจที่ผิด" ใครจะไม่เห็นด้วยกับผม ก็ไม่ว่า แต่ถ้าโตมาและทำงานมาในสภาพแวดล้อม 2 อย่าง อย่างที่ผมเจอมา ไม่มีตัวช่วยใดๆทั้งสิ้น ต้องตัดสินในณ.เวลานั้น และ ต้องเด็ดขาด ไม่ใช่ เออๆ เอ๋อๆ ให้ลูกค้าและลูกน้องเห็นว่า เฮ้ย มันไม่ชัวร์นี่หว่า (ถึงจริงๆลึกๆจะอย่างนั้นก็ตาม ต้องเก็บอาการครับ)

ทำให้เห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยนี้ที่การสื่อสารดีมาก มีปัญหานิดๆหน่อยๆวิศวกรรุ่นหลังๆ วิ่งเข้าหาคอมฯ ต่ออีเมล์ โทรฯมือถือ(ถ้าอยู่แท่นบก) desk top remote control ต่อสายตรง Houston หรือ ต่อ expert network ของบ.ตัวเองได้อย่างทันที ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ ตัดสินใจช้า แต่เดี๋ยวก่อน ไม่โทษเด็กนะครับ โทษระบบครับ ถ้าผมเป็นเด็กสมัยนี้ ผมก็ทำแบบนั้น เพราะถ้าไม่ติดต่อตัวช่วย อาจหาญตัดสินใจอะไรไป ถ้าถูกก็โดนว่ากร่างบ้าง over confidence บ้าง ถ้าตัดสินใจผิด ไม่ต้องพูดถึง เละเป็นโจ๊กกกกก

หลายๆครั้งที่ผมรู้สึกว่า ไม่ต้องใช้วิศวกรก็ได้นี่นา เพราะการสื่อสารมันดีขนาดที่คนที่ Houston สามารถเห็นหน้าจอเดียวกัน remote สั่งงานได้ เห็นสภาพแวดล้อมจากกล้องความละเอียดสูง ก็หาเด็กเกรด 12 (ม.6) ที่ใช้เครื่องเคราพวกนี้เป็น พูดฟังภาษาอังกฤษได้ก็ลงมาทำงานได้ มีปัญหาอะไร จะอธิบายอะไรให้กับลูกค้า ก็ให้วีดีโอคอนฯ(VDO conference)กับ supt ในเมืองเอา ลูกค้า นักธรณี ฯลฯ ก็จบตรีจบโทฯทั้งนั้น ไม่ต้องไปลุยไปคุยกับโคแนนยอดคนเถื่อนที่ไหน

นี่คือปัญหาหนึ่งในวงการเราที่เด็กเดี๋ยวนี้โตช้า(ไม่ว่าฝั่งบ.น้ำมันหรือบ.service รากของปัญหาไม่ต่างกันเลย) แต่กลับกัน บ.ต่างๆจะไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ จะให้มาลูกทุ่งๆคาวบอยแบบผมสมัย 25 ปีก่อนก็ไม่ได้ เพราะต้นทุนความเสียหายถ้าตัดสินใจผิดมันสูง จะให้มา solo บินเดียวข้ามาคนเดียว ก็คงจะเสี่ยงไป ผมกำลังจะบอกว่า เหรียญมีสองด้านเสมอครับ ถ้าจะเอาอีกด้าน ก็ต้องรับผลอีกด้านให้ได้

ถ้าไม่เชื่อนะ ลองถามหรือให้วิศวกรเด็กๆเดี๋ยวนี้ให้ทำอะไรที่แตกต่างหรือขัดแย้งนิดๆหน่อยๆจากที่เคยๆทำอยู่อย่างไม่มีสาระสำคัญอะไรเท่าไร คำตอบที่ได้รับ มักจะเป็นทำนองว่า "เดี๋ยวขอโทรฯหรือถามที่ฝั่งก่อน"

กล้าที่จะขอโทษและรับผิด - อันนี้เป็นผลพวงจากข้อแรกที่ต้องเด็ดขาดในการตัดสินใจ เป็นความงดงามของวัฒนธรรมในงานสนามสมัยผม คล้ายๆ sportmanship spirit (น้ำใจนักกีฬา) จะเรียกว่า Oil man spirit ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไร เป็นลักษณะที่พูดตรงๆว่า ผมหาได้ยากได้ตัวคนไทยในอาชีพของพวกผม ผมทำงานมา 25+ ปี ได้ยินคนไทยพูดว่า "I am sorry. I was wrong" ไม่กี่คน ไม่ใช่แปลว่าคนไทยเก่ง ไม่เคยทำผิด แต่ผิดแล้วเราแถ อ้างโน้นอ้างนี่ ครับ ส่วนทำไมพวกเราถึงเป็นแบบนี้กันผมไม่ขอวิจารณ์ครับ เรื่องมันยาว เท้าความไปหลายยุคหลายสมัย (ฮ่าๆ)

ผมล่ะคนหนึ่งที่ไม่กลัวและไม่อายที่จะพูดต่อหน้าที่ประชุมว่า "I was wrong" ถ้าผมตัดสินใจในเรื่องงานผิดไปจริงๆ เพราะ ...

1. ถ้าผมผิดจริง การรับผิดไม่ได้ทำให้ผมมีความเชื่อถือน้อยลง ลองคิดดีๆนะครับ ระหว่างคนที่ผิดแล้วรับผิด กับ คนที่ผิดแล้วแถ คนส่วนใหญ่ก็พอทราบเลาๆแต่อาจจะไม่ชัดลงไป ผมก็จะเป็นคนสีเทาๆในเรื่องนั้นไป แล้วคุณว่าในระยะยาว ผมยังจะได้รับความเชื่อถือในเรื่องนั้นและเรื่องอื่นๆอีกไหม

2. ถ้ามีคนคอยจ้องจะโซ้ยหรือซักผมให้จนมุม เขาก็ไม่ต้องมาถามโน้นนี่ลงละเอียดให้มันเรื่องยาวปานปลาย ผมก็ไม่ต้องมาตอบอะไรที่ผมไม่อยากจะตอบ

3. ถ้ามีคนกระหน่ำยำผมกลางที่ประชุม คุณคิดว่าใครที่ได้บทพระเอก ใครรับบทผู้ร้าย ... จริงไหมครับ ... ก็ผมรับไปแล้วว่าผมตัดสินใจผิด แล้วจะแก้ไข ใครมายำผมต่อ คนนั้นก็ได้บทผู้ร้ายไป คนในที่ประชุมเขาก็โตๆกัน ดูออกว่าใครเป็นลูกผู้ชาย ใครไม่เป็นลูกผู้ชาย

เล่ามายืดยาวเพียงเพื่อจะบอกแค่นี้แหละว่านี่เป็นบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้อย่างสำคัญมากๆในชีวิตวิศวกรสนามนอกชายฝั่ง และจะบอกให้ด้วยว่าผมจ่ายค่าบทเรียน 2 บทของผมด้วยราคาแพงมากๆ แต่ผมเอามาบอกพวกคุณฟรีๆเลยนะครับ

ย้ำอีกที ...

1. "ราคาของการไม่กล้าตัดสินใจ หรือ ตัดสินใจช้า จะแพงกว่าราคาของการตัดสินใจที่ผิด"
2. เมื่อตัดสินใจผิดไปแล้ว อย่ากลัวที่จะพูดว่า "I was wrong" ให้พูดออกมาอย่างหนักแน่นและจริงใจเสมอ

พี่นก ...





Create Date : 15 เมษายน 2556
Last Update : 15 เมษายน 2556 22:06:56 น. 31 comments
Counter : 3301 Pageviews.

 
ขอบคุณครับพี่นก พี่มีเรื่องที่ให้ข้อคิดดีๆมาให้อ่านเสมอ

แต่เป็นไปได้มั้ยครับว่าถ้าเราอยู่ตำแหน่งต่ำแล้วเราwas wrong
เราอาจจะ "เละ" เพราะ nobody give a fxxx about "sportmanship spirit"
เพราะบางครั้งเค้าต้องการใครซักคนที่จะ blame

มุมมองของผมอาจจะdark ไปหน่อยต้องขออภัยด้วยครับ


โดย: Bottom of the food chain IP: 113.53.37.93 วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:22:16:49 น.  

 
Bottom of the food chain - ขอบคุณสำหรับข้อคิดนะครับ ไม่ว่ากันครับ ความเห็นแตกต่าง ดีใจต่างหากที่มาออกความเห็นกัน เพราะผมเองไม่ใช่ hr ไม่ใช่ นักจิตวิทยา เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ พูดง่าๆคือ ที่ผมเขียนมาถ่ายถอดมาข้างบนนี่อาจจะผิดหมดเลย 555

รอให้เพื่อนๆมาช่วยกันออกความเห็นประเด็นที่คุณยกมาก็ดีนะว่า เพื่อนเห็นอย่างไร

แต่สำหรับผมนะ ผมไม่ได้มองว่าผมอยู่ตรงไหนของ food chain ประเด็นของเรื่องคือ ผมตัดสินใจผิดจริงไหม ถ้าผมผิดจริง ผมก็ไม่ใช่คนที่ถูก blame (กล่าวหา) จริงไหม อิอิ ก็ผิดจริงๆนี่หว่า เละก็เละไป ทำผิดก็ต้องรับผิด แต่ถ้าผมไม่ผิดแต่ดันไปอยู่ต่ำสุดใน food chain แล้วถูกกล่าวหายัดเยียด สถานการณ์ที่ว่านี่ก็ไม่อยู่ในบริบทนี้แล้ว และ ผมก็จะไม่รับว่าผมผิด(ก็ไม่ได้ผิดนี่หว่า)

เรื่องนี้เกี่ยวพันกับคนที่เลี้ยงผมมาให้เป็นแบบนี้ด้วย มีเรื่องราวที่เกี่ยวกับเรื่องการรับผิดในตอนที่ผมอยู่ม.3 ว่างๆก็แวะไปเยี่ยมเยียนประสบการณ์วัยเด็กของผมได้นะ ยินดีต้อนรับสู่วัยขาสั้นของผม (อิอิ)

ผมถามพ่อว่า พ่อไม่กลัวหรือ พ่อตอบว่า "ถ้าพ่อไม่ทำแล้วใครจะทำ"
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=30-10-2011&group=2&gblog=25


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:7:57:43 น.  

 
ผมเห้นด้วยกับ ทั้งคู่ ทั้ง Bottom of the food chain กะ พี่นกเลย

เพราะส่วนตัวเคยอยู่ในวงกร (downstream มากๆ) วิศวะ กะ การตลาดจ๊า มาก และปัจจุบันก็ เรียนโท ผมว่ามันขึ้นกะ สถานะการณ์ ต้องปรับใช้ล่ะครับ
แต่ส่วนตัวผมใช้ "I was wrong, I'll not repeat these mistakes again" มากกว่า เพราะ ถ้ากัวจะผิดมันทำให้ตัวผมเองไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้รู้ผลลัพท์ในการตัดสินใจผิด เลยทำให้ไม่จำสาเหตุที่ทำไมมันถึงผิดไป

ปล. หลังๆ พอเชี่ยว ก้จัดมันคืน 5555+ (ไม่ดีๆ) O^O


โดย: Papeao IP: 124.122.35.72 วันที่: 17 เมษายน 2556 เวลา:16:11:45 น.  

 
Papeao - ขอบคูณครับที่มาแจม

ปล. วิศวะเราโซ้ยไปมั่วแหละ การตลาด การขาย hr บัญชี การเงิน 555


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 17 เมษายน 2556 เวลา:16:37:02 น.  

 
= = มันมาอีกแล้ว พี่นก


โดย: Papeao IP: 124.122.35.72 วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:3:10:53 น.  

 
มันมาเป็นพักๆ


โดย: LJ IP: 110.77.148.113 วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:3:53:45 น.  

 
Papeao LJ - ขอบคุณครับ มาได้ผมก็ลบได้ ความคิดสร้างสรรค์ดี ประดิษฐ์ที่หลบระบบ ban คำหยาบคายได้พริ้วไปเรื่อยๆ ความอดทนในการกัดไม่ปล่อยก็ดี อึดทน ถ้าเอาความสามารถไปใช้ในทางสร้างสรรค์ ท่าจะรุ่ง


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:5:13:04 น.  

 
"ถ้าเอาความสามารถไปใช้ในทางสร้างสรรค์ ท่าจะรุ่ง"

ฮ่าๆ เจ็บดีนะพี่นก


โดย: yo IP: 101.109.247.163 วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:21:27:52 น.  

 
Yo - ถ้าคุณมาเห็นเบื้องหลังทุกช๊อตของพยายาม ความคิดสร้างสรรค์ และความแน่วแน่ของน้องคนนี้แล้วคุณจะคิดเหมือนผมครับ ที่คุณเห็นน่ะจิ๊ดเดียว ผมพยายามกัน เขาพยายามหลบ ผมพยายามลบ เขาพยายามโพส์ แก้เกมส์กันตลอด ทั้ง wording IP loggin name

ลึกๆก็นับถือความพยายามและความแน่วแน่ของน้องเขาเหมือนกัน ได้แต่ภาวนาว่าให้เขาสำนึกโดยเร็วและใช้ความสามารถเหล่านี้ไปในทางที่ดีกว่านี้

(ส่วนหนึ่งที่บล๊อกผมได้สามแสน view ก็น้องเขานี่แหละ ได้มาหลายพัน view ทีเดียว 555)


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:5:02:22 น.  

 
พี่นกครับ ช่วงที่รอผลสัมภาษณ์ถ้าทาง Hr เงียบหายไปเเสดงว่าไม่ได้ใช่หรือเปล่าครับ คือว่าถ้าผมโทรถามบ่อยๆๆ Hr จะรำคานหรือเปล่า เห็นมีพี่บอกว่า ถ้าโทรไปบ่อยๆๆ Hr จะรำคานทำให้เราไม่มีโอกาสได้งานเลยนะครับ =_= ช่วงที่รอทรมานมากเบอร์ 02 โทรมานึกว่าใช่เเล้ว เป็นเบอร์ดูดวงซะงั้น =_="


โดย: เฮ้อ IP: 223.207.176.86 วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:13:11:15 น.  

 
เฮ้อ - แล้วแต่ทัศนคติของ HR แต่ล่ะที่ครับ พูดยาก HR บางที่ทำตัวเหมือนเทวดา ไม่เคยคิดว่าครั้งหนึ่งตัวเองก็เคยหางานเหมือนกัน หรือ ไม่ก็เป็น HR ที่เส้นสายเข้ามาง่ายๆไม่ได้ผ่านระบบคัดเลือก จึงไม่เคยรู้สึกอกเขาอกเรา HR พวกนี้มักจะรุ่ง

ตรงข้าง HR บางที่ก็ดี๊ดี ดีใจหาย อำนวยความสะดวกทุกอย่าง ให้ข้อมูลทุกช๊อต แปลกแต่จริงที่ HR พวกนี้มักจะไม่รุ่ง 555

ผมจึงไม่สามารถตอบคำถามคุณได้แบบฟันธงจริงๆครับ เอาว่า ถ้าหลังสัมภาษณ์สัก 1 เดือน ไม่โทรฯมาแล้วเราโทรไปแล้วยังไม่ได้คำตอบ หรือ ได้คำตอบแบบบ่ายเบี่ยง ก็ทำใจเลยครับ ไปลุ้นที่อื่นดีกว่า


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:14:19:05 น.  

 
อยากสอบถามหน่อยครับ สมมุติอยุ่ที่แท่น onshore ตน mechanic , toolspusher ทำงาน วันบะ12 ชมหนอครับพี่ แร้วในเวลา12ชมที่ทำคือ ต้องอยุ่หน้างานตลอดมั้ยครับ หรือ พักบ้า แบบหิวน้ำ เดินไปห้องน้ำได้มั้ย. อยากสูบบุหรี่ เดินไปสูบได้มั้ยครับ หรือ ทำงานกลางแจ้งทั้ง 12 ชมเรยครับ
แล้วเนื้องานจนิงๆที่ว่านี่ หนักมั้ยครับ และ on กับ off อันไหนหนักกว่าครับหรือคล้ายๆกัน ขอบคุณมากนะครับพี่นกที่สงสัยเยอะไปหน่อย


โดย: วรัญญู IP: 115.67.6.107 วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:15:20:44 น.  

 
วรัญญู - ช่วงทำ 12 ชม. มีพักครับ คร่าวๆก็มี 0000 0300 0600 0900 1200 1500 1800 2100 ครับ สี่มื้อหลัก สี่มื้อย่อย โทษที อ้วนเลยครับ ถ้าแท่นดีๆนะ ดียิ่งกว่าภัตรคารในหาดใหญ่อีก แต่ถ้าแท่นบกจีนนะ ก็ 555 ว่ากานปายยยยย ผอมซะ ลดนน.ไปในตัว อิอิ

ตัวเนื้องานนะ ควายพอๆกันครับ ไม่ต่างกันไม่ว่าบกหรือทะเล แต่ถ้าคุณเมาคลื่นง่ายแล้วต้องลงไปแท่นที่ลอยผิวน้ำที่เรียกว่า tender ก็ลำบากหน่อย เหมือนเมาเบียร์เมาเหล้า จะอ้วก 24 ชม. ฮ่าๆ สักเดือนก็ชิน นึกถึงเงินเข้าไว้ 5555

ไม่เป็นไรครับ เข้าใจ คนไม่เคย ถามมาได้ครับเรื่องง่ายๆเห็นชัดของคนเคยเห็นเคยทำ มันก็ยากมัน ก็นึกไม่ออกสำหรับคนไม่เคย เข้าใจครับ ไม่ว่ากัน


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:18:15:49 น.  

 
ขอบคุณมากครับพี่นก ที่ไขข้อสงสัย แต่ยังไงผมจะไปอยู่ในสายนี้ให้ได้ ครับพี่


โดย: วรัญญู IP: 110.49.234.79 วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:22:27:16 น.  

 
กนึสำ ป๊า งมึ ดิ


โดย: Kira IP: 171.99.2.133 วันที่: 21 เมษายน 2556 เวลา:7:10:42 น.  

 
Kira - ผมจงใจไม่ลบ comment นี้ของคุณนะครับ (ไม่ได้แกล้งลืมลบ หรือ แกล้งมองไม่เห็น) แต่อยากจะให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆเห็นความคิดสร้างสรรค์(ในการหลบคำ ban) และความพยายามของคุณ(ไม่รู้ครั้งที่เท่าไรแล้ว) และพวกเราจะได้รู้จักคุณดีขึ้น

จริงๆ comment คุณก็ไม่ได้หยาบคายอะไร แค่ความเห็นไม่ตรงกันกับผมเท่านั้น


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 21 เมษายน 2556 เวลา:7:36:00 น.  

 
ฮ่าๆๆ


โดย: yo IP: 113.53.75.172 วันที่: 24 เมษายน 2556 เวลา:21:13:31 น.  

 
เจอมากับตัวเลยครับ DSM บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นไร พอกลับไปฝั่งมีสาย (DSM ที่สนิทกัน) บอกว่าไอ้เรื่องที่คุยกันว่าจะไม่ลง Report แม่งเล่นลงซักหมด ผมก็โดนหัวหน้าแดกซะเรียบร้อย


โดย: Eng on TD-15 (Finish PNL prepare for OH log) IP: 61.90.201.123 วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:13:31:04 น.  

 
พี่ครับ ไม่ทราบว่า DD กับ wireline eng ของSLB โอกาสความก้าวหน้าของทั้งสองอันไหนดีกว่ากันครับ ถ้าเทียบเรื่องเงิน รายได้อันไหนสูงกว่ากันครับ ขอบคุณครับ


โดย: ชิน IP: 115.67.101.4 วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:13:44:19 น.  

 
ชิน -

ก้าวหน้า - เท่ากัน

เงิน - Wireline มากกว่าตอนต้นๆ แต่พอเชี่ยวชาญมากๆแล้ว (5-7ปี) DD จะออกไปเป็นมือปืนรับจ้าง(ที่เรียกกันว่า consult)ได้ เงินจะดีกว่าครับ notebook เครื่องเดียวก็ทำงานได้ ในขณะที่ wireline มีโอกาสเป็นมือปืนรับจ้างน้อย เพราะต้องมีเครื่องๆไม้เครื่องมือเยอะ แพง และ มี wireline eng เยอะ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:16:39:40 น.  

 
Eng on TD-15 (Finish PNL prepare for OH log) - ถึงบอกว่าอย่าไปเชื่ออะไรใคร

honest is the best policy


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:16:42:41 น.  

 
Kira / gag - ผมจำเป็นต้องลบ 8-9 โพสต์หลังๆของคุณนะครับ ถ้อยคำไม่ถึงกับหยาบคาย ก้ำกึ่งๆ แต่คุณไปว่า ดูถูก คนภาคหนึ่ง คนเชื้อชาติหนึ่ง และ พระเจ้าของศาสนาหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ อย่างแรงมากๆ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตคุณเองนะครับ อย่าโพสต์อะไรลามปากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาสนา พระเจ้า ชนชาติ และ เชื้อชาติ อีกเลยครับ

ผมทราบมาว่าพวกเขา(พวกที่คุณว่าเขานั่นแหละ) รู้ชื่อจริง ที่อยู่จริง ที่ทำงานจริง รูปร่างหน้าตา และสถาบัน ของคุณหมดแล้วนะครับ และทราบมาด้วยว่าพวกเขากำลังจะทวงคืนสิ่งที่คุณทำ ทั้งทางกฏหมายและกฏหมู่ หลังไมค์ผมพยายามห้ามพวกเขาไม่ให้วู่วาม ให้ขันติ อดทน และ ให้อภัย

แต่ถ้าคุณดูหมิ่น ว่ากล่าว ลามปามไปถึง เชื้อชาติ ชนชาติ พระเจ้า ศาสนา และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของพวกเขาแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าผมจะขอความขันติจากพวกเขาได้นานแค่ไหนนะครับ

ผมยังอยากให้คุณอยู่ร่วมโลกใบนี้กับผมไปอีกนานๆนะครับ(ถึงโลกใบนี้มันไม่น่าอยู่ เพราะความไม่ยุติธรรมอย่างที่คุณกล่าวหาก็เถอะครับ)

ถึงคุณจะไม่ใช่กระบี่มือหนึ่ง(ผมเองก็ไม่ใช่) แต่ผมก็เชื่อว่าคุณคือกระบี่มือดีคนหนึ่งในยุทธจักร(วิศวกรรมของบ้านเรา) เรามาช่วยกันสร้างประเทศเราด้วยความสามารถที่เรามีจะดีกว่าไหมครับ

ผมอยากให้คุณเลิกราเถอะ เอางี้ไหม ถ้าคุณไม่รังเกียจ ให้เกียรติผมเลี้ยงคุณ 1 เมาเลย ว่ามา เย็นไหน วันไหน คืนไหน ที่ไหน (ในกทม.นะ) เรามาเมากันถึงเช้าเลย แล้วจบเรื่องกันไป

พี่นก


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 27 เมษายน 2556 เวลา:7:44:17 น.  

 
พูดถึงความยุติธรรมแล้ว ผมนึกถึงรูปนี้เลยครับ อธิบายได้ชัดมากเลย



(เครดิตที่มาครับ จาก //www.naewna.com/politic/columnist/4922)


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 27 เมษายน 2556 เวลา:22:12:37 น.  

 
มีงานมาฝากครับพี่นก ผมก็ยังว่างงานอยู่เหมือนเดิม อิอิอิอิ
AMARIT AND ASSOIATES CO.,LTD.
ช่างเทคนิคปิโตรเลียม
เพศ:ชาย
อายุ :อายุไม่เกิน 28 ปี
ประสบการณ์:ไม่จำกัด
การศึกษา:
ปวส.
คุณสมบัติอื่นๆ:
จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5หรือนักศึกษาเทอมสุดท้าย (เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.7) ในสาขาต่อไปนี้
- เครื่องยนต์ - อิเล็กทรอนิคส์
- ไฟฟ้ากำลัง - เครื่องกลอุตสาหกรรม
- อุปกรณ์วัดคุม - สาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษดu (เที่ยบเท่าคะแนน TOEIC 300)
อายุไม่เกิน 28 ปี สุขภาพแข็งแรง และตาไม่บอดสี (มีการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย เมื่อผ่านการสอบข้อเขียน)
หากเป็นชายต้องผ่านการเกณฑ์ทหารหรือได้รับการยกเว้น
หมายเหตุ เกณฑ์การคัดเลือกคุณสมบัติของผู้สมัครเพื่อสอบข้อเขียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการคัดเลือก

ติดต่อ:
AMARIT AND ASSOIATES CO.,LTD.
ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์
เลขที่ 1 ซอยปรีดีพนมยงค์ 28 (ธานีพัฒนา) ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ : 10110
โทรศัพท์ : 02-381-1020 ต่อ207
แฟกซ์ : 02-381-1209
nissornc@amarit.co.th


โดย: เฮ้อ IP: 223.207.182.94 วันที่: 29 เมษายน 2556 เวลา:16:12:35 น.  

 
เฮ้อ - ขอบคุณครับ จัดไป ขึ้นบล๊อกใหม่ให้แล้วครับ

ขอให้ได้งานที่ใช่ที่ชอบไวๆนะครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 29 เมษายน 2556 เวลา:16:31:32 น.  

 
พี่นกครับ ช่วยกรุณาอธิบาย เทคนิคการเจาะแบบ Batch Drill ให้หน่อยครับ ผมอยากทราบว่าเมื่อเจาะแต่ละหลุมแล้วในระหว่างรอการเจาะ section ต่อไปเราต้องทำการปิดหลุมเจาะชั่วคราว (ด้วยWell head) เพื่อรอการเจาะ section อื่นต่อไปไหมครับ?? (ต้องมี well head หลายๆอันมั้ยครับ)


โดย: Learn IP: 163.184.165.12 วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:18:48 น.  

 
Learn - ทำได้หลายอย่างครับ สมมติว่า section แรกเป็น ขนาด 12 1/4" ก็เอา 13 3/8" casing ลง มันก็จะทำหน้าที่เป็น conductor pipe หรือ จะเรียกว่า surface casing ก็ได้ มันก็จะถูกยึดด้วย cement และ ทดสอบ casing ด้วยแรงดันหนึ่ง เป็นอันได้ machanical barrier 1 barrier (แปลว่าความดันนอกหลุมไม่มีทางเข้ามาในหลุม) เสร็จแล้ว มีของเหลวในหลุมที่น้ำหนักเกินกว่าความดันก้นหลุม และสามารถสัดปริมาตรของเหลวนั้นได้ตลอดเวลา (เพราะแท่นยังไม่ย้ายไปไหน เสมือนมีคนจ้องปากบ่ออยู่) ก็นับเป็นอีก 1 barrier เพราะถ้า barrier แรกรั่ว น้ำหนักของเหลวที่ว่าก็ควรจะเอาอยู่คือกดมันเอาไว้ไม่ให้มาโผล่ที่ปากหลุมได้

ก็ได้ 2 barrier แล้ว

คราวนี้ก็จะปิดปากบ่อชั่วคราวด้วย suspension cap แล้ว test ด้วยความดันที่คาดว่าจะมาถึงปากบ่อ ถ้า cement รั่ว ก็ได้แล้วครับ ปกติ wellhead ไม่ได้ทำหน้าที่ปิดปากบ่อนะครับ wellhead เป็นที่แขวน casing และเป็นตัวเชื่อมต่อ casing กับ x-tree ซึ่ง บรรดาวาวล์ใน x-tree นั่นแหละ เป็นตัวปิดบ่อ แต่ x-tree เอามาใช้ตอนจบเสร็จหลุมครับ ไม่ใข่ช่วง batch drill

ตอบสั้นๆคือ ขั้นตอนนี้ต้องมี wellhead หลายๆอันครับ แต่ไม่ได้มีเอาไว้เพื่อปิดหลุม มีเอาไว้แขวน casing เฉยๆครับ


โดย: Nong frrn daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:13:37 น.  

 
ขอบคุณมากครับพี่นก


โดย: Learn IP: 110.49.233.138 วันที่: 6 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:35:50 น.  

 
เพื่อนๆน้องๆไม่ต้องงงนะครับ คนใน(ผมกับคุณ learn)คุยกันน่ะ อ่านข้ามๆไปก็ได้ครับ


โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:29:40 น.  

 
สุขภาพจิตเสีย จะให้ทำอย่างไร เบื่อ


โดย: Kira IP: 171.99.2.125 วันที่: 8 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:52:02 น.  

 
Kira - ผมเข้าใจว่าคุณมาบ่นมาระบายมากกว่าที่จะต้องการคำตอบ ผมยินดีรับฟังนะครับ ผมเองก็สุขภาพจิตพร่องๆเหมือนกันพักนี้ ทั้งงานราษฎ์งานหลวง ม่ายล่ายหลั่งจาย


โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2556 เวลา:5:11:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nong Fern Daddy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [?]




... Blog นี้ ...
แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร
เธอ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้ม
เธอ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล
... และ ...
เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม

---------------------------------------------

หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?

หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?

แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย

แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...

แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ

Friends' blogs
[Add Nong Fern Daddy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.