bloggang.com mainmenu search


ผลวิจัยชิ้นใหม่ของศาสตราจารย์จากสหรัฐฯ ระบุว่าผู้ชายมักเป็นฝ่ายบอกรักผู้หญิงก่อน และตกหลุมรักอีกฝ่ายได้ภายในเวลาไม่นาน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ว่า จากผลการวิจัยล่าสุดของ ศาสตราจารย์มาริสซา ฮาร์ริสัน นักจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยรัฐเพนน์ซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ระบุว่า ผู้ชายตกหลุมรักเพศตรงข้ามเร็วกว่าผู้หญิง และมักจะเป็นฝ่ายบอกรักอีกฝ่ายก่อน มากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า แย้งผลการศึกษาเดิมที่ว่า ผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายแสดงความรักต่อผู้ชายในขณะคบกันมากกว่า

ในผลการศึกษาใหม่ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร 'Social Psychology' แสดงให้เห็นว่า โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ชายจะตกหลุมรักเพศตรงข้ามภายในสองถึงสามสัปดาห์ ขณะที่ผู้หญิงใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเกิดความรู้สึกรัก และผู้ชายยังมักจะเผยความรู้สึกว่าเขารักฝ่ายหญิงมากมาย ในช่วงแรกๆ ของการคบกัน

ผลการศึกษาดังกล่าวได้มาจากการสัมภาษณ์นักศึกษามหาวิทยาลัย 172 คน
ว่า พวกเขาเหล่านั้นเคยหลงรักใครหรือไม่ และใช้เวลานานเท่าไร กี่วัน, สัปดาห์ หรือกี่เดือน กว่าจะรู้ตัวว่า เราหลงเสน่ห์อีกฝ่ายเข้าแล้ว และยังถามอีกว่า หลังจากเริ่มคบไปได้นานเท่าใด ถึงจะเริ่มมีการเปิดเผยความรู้สึกออกมาด้วย

หลังจากผ่านการประมวลข้อมูลที่ได้รับมา ศ.ฮาร์ริสัน
สรุปว่า ผู้ชายมักเป็นฝ่ายที่หลงรักผู้หญิงก่อน และเป็นฝ่ายที่บอกรักอีกฝ่ายก่อน มากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า และแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงมีความระมัดระวังในเรื่องความรักมากกว่าผู้ชาย และไม่จำเป็นเสมอไปที่จะรีบแทใจให้อีกฝ่าย

ขณะที่ ดร.แกรี วูด นักจิตวิทยาด้านการอยู่ร่วมในสังคม
ระบุว่า ผู้ชายมักมีความแตกต่างในเรื่องของความสามารถ หรือพลังใจ ในการแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา แต่คนหนุ่มสมัยนี้ต่างจากคนรุ่นก่อนมาก จึงไม่อายในการบอกความรู้สึกของตัวเองออกไป.

credit :  //www.thairath.co.th/content/oversea/212883
ผลวิจัยชี้! ผู้ชายบอกรักก่อนมากกว่าผู้หญิง 3 เท่า
  • Comment
    *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก