“ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา” ร่วมกับ “วีรณัฐ โรจนประภา” ประธานมูลนิธิบ้านอารีย์ เผยเคล็ดลับเลี้ยงลูกอย่างฉลาด.
คลิปนักเรียนตบตีทำร้ายร่างกายกัน ที่ถูกนำมาเผยแพร่ตามสื่ออินเตอร์เน็ต ถือเป็นปัญหาใหญ่ของเยาวชนไทยยุคปัจจุบัน สาเหตุสำคัญมาจากการเลี้ยงดูภายในครอบครัว ทำให้เด็กหาทางระบายออกอย่างผิดๆ ในงานเสวนาคิดใหม่ “มองมุมใหม่ ใสบริสุทธิ์” จัดโดยโครงการบานาน่าแฟมิลี่ ปาร์ก เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการพูดคุยแลก เปลี่ยนไอเดียเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกอย่างไรให้ฉลาดรู้ ฉลาดคิด มีคุณธรรม ในยุคดิจิตอล
นำการเสวนาอย่างสร้างสรรค์โดย “ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงชนิกา ตู้จินดา” ประธานโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้ชี้ถึงต้นเหตุของปัญหาเยาวชนไทยว่า ปัจจุบันลักษณะครอบครัวไทยเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น พ่อแม่ส่วนใหญ่มักเลี้ยงลูกด้วยวัตถุด้วยเงิน พ่อแม่บางรายก็ให้ความสำคัญกับการทำงานหาเงิน ไม่มีเวลาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทำให้ครอบครัวขาดความอบอุ่น และไม่มีคนให้คำปรึกษา ซึ่งผลที่ตามมาเป็นห่วงโซ่ ทำให้เด็กต้องออกไปหาสิ่งที่ขาดหายเพื่อเติมเต็ม
คุณหมอชี้แนะทางออกว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือครอบครัว เพราะถือเป็นโรงเรียนและต้นแบบสำคัญที่สุดให้นำไปปฏิบัติเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัย อายุ 10 ขวบ นับเป็นช่วงที่เหมาะกับการปูพื้นฐานให้ลูกมากที่สุด หากเราดูแลเอาใจใส่ให้ความรักความเข้าใจกับลูก
อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี ตลอดจนปลูกฝังเรื่องการใช้เหตุผล และการมีธรรมะในจิตใจ ในที่สุดลูกก็จะมีพัฒนาการที่ก้าวหน้า ที่สำคัญควรส่งเสริมให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบ และเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ เช่น การอ่านหนังสือ, เล่นดนตรี และกีฬา หากพ่อแม่มีเวลาน้อยจริงๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ควรให้เวลาทั้งหมดที่มีอยู่กับลูก ไม่ใช่เอางานกลับไปทำที่บ้าน และเพื่อสร้างความสนิทสนมกับลูก พ่อแม่ก็ควรรู้จักกับเพื่อนๆของลูกไว้บ้าง
สำหรับพฤติกรรมการเล่นของเล่นของเด็กปัจจุบันก็มีส่วนไม่น้อยในการกำหนดพฤติกรรมเด็ก โดยคุณหมอระบุว่า เด็กยุคใหม่มีของเล่นน้อยลง แต่มี
แนวโน้มจะซื้อของเล่นอุปกรณ์ไฮเทคมากขึ้นเช่น ไอแพด ไอโฟน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ผิด!! เพราะหากเด็กคลุกคลีกับอุปกรณ์เหล่านี้บ่อยๆ จะทำให้จินตนาการของเด็กลดน้อยลง
กลายเป็นเด็กไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และทำอะไรอยู่ในกรอบเดิมๆ อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่พบคือ ขาดการสื่อสารซึ่งกันและกัน ไม่มีการพูดคุยภายในครอบครัว ทุกคนจะเข้าไปในโลกของเทคโนโลยี
ภายในงานยังได้เชิญครอบครัวธรรมะที่เป็นแบบอย่างของครอบครัวอบอุ่นยุคใหม่ร่วมเสวนาด้วย โดย
“คุณใหม่-วีรณัฐ โรจนประภา” ประธานมูลนิธิบ้านอารีย์และเจ้าของหนังสือ
“มองมุมใหม่ ใสบริสุทธิ์” แสดงทรรศนะว่า
ผมยึดคำกล่าวของ “ไอสไตน์” ที่ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ จึงนำจินตนาการมาเป็นแนวคิดในการเลี้ยงลูก ให้อิสระลูกๆได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เต็มที่ ให้ลองคิดลองทำ ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ผมเชื่อว่าเด็กก็จะสนุกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ จนเกิดการพัฒนาได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ผมยังพยายามนำธรรมะมาสอนลูกๆผ่านกิจกรรมที่ทำร่วมกัน เพื่อให้ลูกๆเติบโตมาพร้อมกับจิตใจที่มีคุณธรรม สำหรับเด็กเล็กก่อนวัยเรียน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่พ่อแม่ควรมีเวลาใกล้ชิดกับลูกให้มากที่สุด หลายครอบครัวทำงานนอกบ้านทั้งพ่อและแม่ แล้วฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงหรือศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งไม่ได้ช่วยพัฒนาเรื่องปัญญาและสติอารมณ์ พ่อแม่ที่ดีจำต้องเข้ามาดูแลลูกด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด แล้วจะรู้ว่าความสุขแท้จริงในครอบครัวสร้างได้ด้วยมือเรา.
ที่มา นสพ ไทยรัฐ