หลังจากที่เราเดินทางกลับจากเมืองอาซาฮิกาว่า ทางตอนเหนือของเมืองซัปโปโร กลับลงมาพักที่โรงแรม Resol Trinity Sapporo เพื่อที่จะได้เที่ยวเมืองซัปโปโร และโอตารุ (จะนำมาให้ชมในบล๊อกต่อไป) ... ในบล๊อกนี้จะพาชมเมืองซัปโปโรเป็นบางส่วนครับ ที่ว่าบางส่วนนั้นเพราะว่าทริปมาฮอกไกโดของเรา 2 คนคราวนี้ขอเน้นเอสถานที่หลักๆก่อน เพื่อจะเอาเวลาที่เหลือชมเมืองรอบๆครับ ประติมากรรมน้ำแข็งที่ Ordori Park, Sapporo เช้าวันที่ 8 กพ. 2017 หลังจกที่เราเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรม Resol Trinity sapporo (คือโรงแรมเขามีเวลาเช็ค-อินประมาณ 14.00 น.) แล้ว เราก็ออกเที่ยวต่อเลย โดยจุดแรกคือสวน Odori Park สถานที่จัดงาน Snow Festival นั่นแหละครับ เพราะเจ้าสวนนีี้อยู่ที่หน้าโรงแรมที่พักแค่นั้นเอง .... บรรยากาศกลางวันๆก็แปลกไปอีกแบบ แต่ผู้คนจะน้อยกว่าตอนกลางคืน จะเห็นมีมากก็เด็กๆที่คุณครูพามาชมงาน พูดถึงเด็กๆญี่ปุ่นหน่อยละกัน เด็กๆเขาโดนสร้างให้มีระเบียบวินัยและรักการอ่านตั้งแต่เด็กๆเลย สังเกตุที่เขามาเที่ยวชมงานสิครับ เด็กๆแต่ละที่จะมีบอร์ดและกระดาษสำหรับจดทุกคนเลย แถมยังให้ใส่เสื้อกักแบบที่แค้ดดี้ถือถุงกอล์ฟในสนามเวลาแข่งด้วย เพื่อง่ายต่อการจำ แต่ถ้าเด็กเล็กๆลงไปอีก (เคยเห็นที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า) เขาจะให้ไปแบบบัดดี้เป็นคู่ๆเลยนะเผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกันได้....ข้อสำคัญของเด็กเขาคือเมื่อมีกติกาก็ทำตามจนกว่าจะจบหรือเสร็จสิ้นการเที่ยวชม ซึ่งนี่คือต้นแบบทางความคิดของเขา เวลาโตขึ้นคนญี่ปุ่นจึงเคารพกติกาตลอดเวลา ทำให้การพัฒนาต่างๆของพวกเขาเป็นไปอย่างมีระเบียบและสำเร็จได้ด้วยดี บางอย่างเอาของฝรั่งมาต่อยอดยังทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ เช่นระบบ QC เป็นต้น .... แต่เด็กบางประเทศขืนให้ทำแบบนี้นอกจากดื้อไม่ทำตามแล้วยังพาคนอื่นแหกกฏอีกด้วย ... นั่นคือความแตกต่างอย่างหนึ่งที่สังเกตุเห็นเวลามาญี่ปุ่น เด็กๆมาเที่ยวชมงาน จากโอโดริปาร์ค เราเดินไปทางสถานีรถไฟไม่ไกล ก็จะเห็นตึกแดงที่เคยเป็นศูนย์บริหารราชการของเกาะฮอกไกโดในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่แล้ว ประตูใหญ่ตึกแดง ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง) ... ดาวสีแดงที่ผนังอาคารภายนอกซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโด คือสัญลักษณ์ตัวแทนของทูตบุกเบิก เมื่อมองจากถนนคิตะ 3โจของซัปโปโรไปทางทิศตะวันตกก็จะเห็นศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่าตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่าเป็นอาคารที่ก่อสร้างจากอิฐจึงเป็นที่รู้จักดีด้วยชื่อเล่น ‘ทำเนียบอิฐแดง’ เป็นอาคารที่ถูกสร้างตามแบบนีโอ บาโรกของอเมริกาในปีค.ศ.1888 (ปีเมจิที่ 21) เป็นเวลากว่า 80 ปีที่ศาลาว่าการเมืองหลังเก่าทำหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ก่อนที่ศาลาว่าการหลังใหม่ที่ใช้ในปัจจุบันจะแล้วเสร็จ ในทุกๆ ที่สามารถสัมผัสกับความงามที่มีประโยชน์ใช้สอยได้ เช่น กระจกที่มีความบิดเบี้ยวที่ถูกผลิตขึ้นตั้งแต่ยุคเมจิและประตูสองชั้นที่มีไว้เพื่อป้องกันความหนาวเย็นที่ถูกยึดด้วยคิ้วบัว เป็นต้น ภายในอาคารเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และมีการจัดแสดงข้อมูลสิ่งของที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของฮอกไกโด หากมีเวลามากพออยากแนะนำให้รับฟังการบรรยายจากไกด์ท่องเที่ยวอาสาสมัครที่ประจำการอยู่ เพื่อสัมผัสถึงความลึกซึ้งของอาคารหลังนี้ เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 8.45-18.00 น. (ปิดทำการใชช่วงเทศกาลปีใหม่) ค่าเข้าชม : ฟรี สวนหน้าตึกแดงที่ท่วด้วยหิมะ เด็กน้อยกำลังสนุกกับบ้านหิมะ บริเวณทางเดินด้านหน้าตึกแดง วันนี้เขามีคนมาตั้งซุ้มแจกน้ำขิงร้อนๆให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมตึกแดงได้ดื่มแก้หนาวฟรี...เจอน้องด้านบนคุยภาษาอังกฤษได้เลยได้ภาพเธอมาฝาก ทางเดินริมถนนด้านหน้าตึกแดง..เรากำลังจะเดินทางไป JR Station. ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอเอาภาพหอนาฬิกาซัปโปโรมาฝากก่อนละกันครับ (ภาพหอนาฬิกาถ่ายเมื่อเย็นวันที่ 5 กพ. และ 8 กพ. ครับ) .... เจ้าหอนาฬิกา หรือ Sapporo Clock Tower นี้อยู่ไม่ไกลจาก Sapporo TV Tower เท่าไหร่ครับเดินมาทาง JR Station ซัก 100 กว่าเมตรก็เห็นครับ หอนาฬิกาซัปโปโร (sapporo Clock Tower) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากไม้ ตั้งอยู่ในเขตจูโอ เมืองซัปโปะโระ ออกแบบด้วยศิลปะแบบอเมริกัน เป็นอาคารทรงตะวันตกแห่งหนึ่ง ในจำนวนน้อยที่หลงเหลืออยู่ในเมืองนี้ เป็นที่รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ของเมือง และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศแทบทุกคน ซึ่งนาฬิกาบนหอยังคงเดินอย่างเที่ยงตรง และมีเสียงระฆังในทุกชั่วโมง ตามประวัติ ... หอนาฬิกาแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2421 เป็นส่วนหนึ่งของอาคารเรียน ภายในวิทยาลัยการเกษตรซัปโปะโระ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยฮอกไกโด) ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ เป็นอาคารกลุ่มแรกที่สร้างขึ้นในเมืองนี้ และเป็นหลังเดียวที่ยังคงตั้งอยู่จนถึงปัจจุบัน ส่วนนาฬิกาเป็นของบริษัท อี.โฮเวิร์ด แอนด์ โค กรุงบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้รับการติดตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2424 ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2511 หอนาฬิกาแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น และในปี พ.ศ. 2552 ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกทางวิศวกรรมเครื่องกลของญี่ปุ่นด้วย ในปัจจุบัน หอนาฬิกาแห่งนี้ เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติของเมือง และความเป็นมาของวิทยาลัยเกษตรซัปโปะโระ โดยเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี ยกเว้นวันอาทิตย์ และเทศกาลปีใหม่ สำหรับบัตรผ่านประตูของผู้ใหญ่ มีราคา 200 เยน ส่วนผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะ สามารถรับส่วนลดค่าเข้าชมได้ ค่าเข้าชม: 200 เยน เวลาเปิด-ปิด: 8:45-17:10 (เข้าชมก่อน 17:00) วันปิดทำการ: วันจันทร์สัปดาห์ที่ 4 ของทุกเดือน (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ จะปิดในวันอังคาร) วันที่ 29 ธันวาคม - 3 มกราคม จากหอนาฬิกาซัปโปโร เดินตรงลงมาก็จะเจอสถานีรถไฟ JR ที่เป็นทั้ง Shopping complex และ JR Tower, JR Hotel อยู่รวมด้วยกันตรงนั้นหมด .... เสียดายว่าเราจองไปพักที่นี่ไม่ได้ เพราะเต็มเนื่องจากช่วงเทศกาลหิมะ เอาเป็นว่าเราพาชมรอบๆพอสังเขปละกันครับ หน้า JR Station Sapporo สถานีซัปโปโร (Sapporo Station) เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองซัปโปโร ตั้งอยู่ใจกลางเมือง รอบๆเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง โดยเฉพาะทางทิศใต้ อาคารสถานีปัจจุบันได้รับการซ่อมแซมและเปิดให้บริการในปี 2003 โดยใช้รูปแบบโครงสร้างของอาคารเดิมในสมัยปลายปี 1800 สถานที่ท่องเที่ยวในย่านนี้ที่น่าสนใจที่สุด คือ จุดชมวิว T38 (T38 Observation Deck) ตั้งอยู่ชั้นบนของอาคาร JR Tower เหนือสถานีรถไฟ มีทั้งหมด 38 ชั้น สูง 160 เมตร ซึ่งสูงกว่าทีวีทาวเวอร์ในสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) พื้นที่บนจุดชมวิวออกแบบได้อย่างสวยงาม มีข้อมูลต่างๆจัดแสดง เพลงบรรเลง และห้องน้ำให้บริการ การเข้าชม ค่าใช้จ่าย: 720 เยน เวลาเปิด-ปิด: 10:00-23:00 (เข้าชมก่อน 22:30) วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน แหล่งช้อปปิ้ง: ร้านค้าเปิด 10:00-21:00 ร้านอาหารเปิด 11:00-21:30 หน้า JR Station Sapporo สวนหน้า JR Station อากาศเย็นๆแบบนี้คนญี่ปุ่นเขาเอาตัวรอดได้โดยการสร้างทางเดินใต้ดินหรือที่เรียกกันว่า "Pole Town" ไว้คอยเดินหลบลมหนาวโดยเชื่อมต่อกันไปไกลถึงย่านการค้า สวนโอโดริ และอื่นๆอีก คือยาวมากว่างั้นเถอะ (ดูเพิ่มเติม : https://www.welcome.city.sapporo.jp/find/shops/sapporo_underground_shopping_malls/?lang=en) หิมะตามซอกตึกสูงมากๆ เพราะอากาศช่วงนี้อยู่สูงสุดอย่างมาก 1-2 องศา แต่ส่วนมากจะต่ำกว่าศูนย์ หิมะที่นี่จึงขาวนุ่มตลอดเวลา เพราะตกลงมาใหม่ทุกวัน ถามว่าเราคนเมืองร้อนทนได้ไง ก็หลายชั้นหน่อยละครับ ส่วนคุณภรรยที่ไปด้วยกัน เธอใส่นอกจากหลายชั้นแล้ว เสื้อกันหนาวและถุงเท้า 2 ชั้นเลยล่ะ .... แต่ซัปโปโรก็ต้องมาเที่ยวหน้านี้แหละ จขบ.ว่าสวยแปลกตาสำหรับเราครับ ด้านหน้า JR Station .... ไกลออกไปคือสวนโอโดริ ที่จัดงาน Snow Festival ภายในสถานี หน้าห้างภายในสถานี 💗💗ช่วงบ่ายเรานั่งรถไฟไปเที่ยวโอตารุ (Otaru) เมืองท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด ที่อยู่ด้านตะวันตกของเมืองซัปโปโร ซึ่งนั่งรถประ 49 นาที บล๊อกหน้าจะนำภาพมาให้ชม สำหรับบล๊อกนี้ขอจบแค่นี้ก่อน .... ขอบคุณที่ตามอ่านมาตลอดนะครับ💗💗 บนชานชลา ลากันด้วยภาพนี้ครับ ___________________________ |
ชมภาพสวยๆเพลินเลยคร้า... ว่าแต่เที่ยวหนาวๆกับหิมะตกหนาขนาดนี้
สนุกมั๊ยคร้า ไม่ลำบากในการเดินทางรึคร้า... หรือหนาวพอทนได้ อิอิ
ขอบคุณคะ