....OUR FAMILY'S JOURNEY....

++ แชงกรีล่า .... ตามมาจากนิยายดัง ++

 
 


 
อ่านตอนที่ 3 : มหัศจรรย์แห่งแยงซี ที่โค้งแรก & ช่องแคบเสือกระโจน
อ่านตอนที่ 5 : อลังการเขาหิมะมังกรหยก & อิมเพรสชั่นลี่เจียง


 
ล๊อกที่แล้วเราพาคุณๆไปเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติของลุ่มแม่น้ำแยงซีตอนบน คือที่โค้งแรกแม่น้ำแยงซี และหุบเขาเสือกระโจน ตามทางที่เราผ่านมา ... ซึ่งถ้าไม่มีโค้งนั้นที่แม่น้ำแยงซีกลับตัวขึ้นด้านเหนือ และไหลเข้าประเทศจีนกลายเป็นแม่น้ำสายยาวอันดับหนึ่งในเอเซียและอันดับสามของโลกแล้ว อารยะธรรมต่างๆในจีนอาจจะไม่เหมือนที่เราได้อ่านและได้เห็นกันในปัจจุบันก็เป็นได้นะครับ



 


สู่แชงกรีล่าในยามเย็น


 
ในบล๊อกนี้เราจะเริ่มเดินทางกันจากหุบเขาเสือกระโจน หรือ Tiger Leaping Gorge หรือ Hutiaoxia Gorge แต่ในแผนที่ที่ให้ไว้จะเป็น Hutiaoxia Tunnel แล้วเดินทางเข้าสู่ Hutiaoxia ก่อนเลี้ยวขวาตามทาง G214 ไปสู่แชงกรีล่า ซึ่งระยะทางก็ประมาณร้อยกว่า กม. แต่เป็นถนนที่วิ่งเลียบไหล่เขา สองเลนส์แบบวิ่งสวนกันไปมา ไหล่ถนนแคบ โดยถนนค่อยๆไต่สูงขึ้นเรื่อยๆจนถึงเขตจงเตี้ยนซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 3500 เมตร


 


แผนที่การเดินทางในบล๊อก


 
สองข้างทางด้านขวามือ (ขาไป) จะเป็นแม่น้ำลักษณะเป็นต้นกำเนิดน้ำ เหมือนๆแม่น้ำปิงแถวๆเลยเชียงใหม่ขึ้นไปทางเหนือ คือเป็นพื้นน้ำตื้นๆ บางช่วงมีน้ำตกไหลเข้ามาสมทบ จึงมีสัตว์เลี้ยงของชาวพื้นเมืองเช่น แกะ จามรี เลี้ยงอยู่เป็นระยะๆ

ส่วนทางซ้ายของถนนเป็นเขาสูงยอดเขาหัวโล้นเป็นหินแกรนิตเสียส่วนมาก มีบ้านชาวพื้นเมือง ส่วนมากสืบเชื้อสายจากชาวทิเบตอยู่เป็นระยะๆ ไกด์ชวนให้เราดูหลังคาบ้านที่เขามุงด้วยไม้ และทับด้วยก้อนหินโดยไม่ตอกตาปู ที่เป็นเช่นนั้นไกด์บอกว่าบริเวณนี้ของยูนนานมีฝนตกน้อยมาก เขาเลยไม่กลัวหลังคาพังหรือเลื่อนหลุด แค่หินทับไว้กันแดดกันหนาวก็พอแล้ว (อันนี้ลึกๆแล้วไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน?)



 


วัดซงจ้านหลิน จากลานจอดรถ


 
เราเข้ามาถึงเขตจงเตี้ยน หรือแชงกรีล่าประมาณ 19.00 น. แต่ตะวันยังลอยโด่งอยู่บนฟ้าเลยครับ ที่เป็นเช่นนี้เพราะประเทศจีนที่กว้างใหญ่ขนาดนั้น เขาใช้เวลาเดียวกันทั้งหมด ขณะที่หนึ่งทุ่มที่ปักกิ่งมืดแล้ว แต่ที่จงเตี้ยนยังสว่างอยู่ (เวลาที่ยูนนานนี่น่าจะใกล้เคียงหรือช้ากว่าเราไม่เกินครึ่งชั่วโมง) ... เอาเป็นว่าเรามีเวลาได้เที่ยววัดเป็นแห่งแรกในค่ำวันนี้เลย โดยจะไปชมวัดลามะที่เก่าแก่กว่า 300 ปี ชื่อ "วัดซงจ้านหลิน" กันเลยครับ


 


วัดลามะซงจ้านหลิน
(Songzanlin)



เป็นวัดใหญ่ที่สำคัญของเมืองแชงกรีล่า อยู่ห่างจากตัวเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร วัดนี้สร้างในสมัยทะไลลามะองค์ที่ 5 ในช่วงศตวรรษที่ 18 สมัยจักรพรรดิ์คังซี แห่งราชวงศ์ชิง สร้างจำลองแบบจากพระราชวังโปตาลา (Potala) ในกรุงลาซา (Lhasa) มาไว้ เป็นวัดนิกายลามะแบบธิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และในยามเทศกาล ชาวทิเบตที่นี่ยังคงรักษาประเพณีที่จะจัดขึ้นตามวัดสำคัญๆ เหล่านี้ ด้วยการเต้นระบำหน้ากากและเป่าแตรงอน
(ซ้าย ประตูทางขึ้นวัด)


เราไปถึงที่จอดรถซึ่งอยู่ด้านล่าง ต้องเข้าไปรอขึ้น Shuttle bus ของทางการก่อนที่เขาจะพาเราขับขึ้นเขาผ่านหมู่บ้าน แล้วไปส่งเราที่ลานจอดของวัด จากนั้นก็จะนั่งรถกอล์ฟขึ้นไปสู่วัดที่สร้างอยู่ยบนเนินเขาสูงขึ้นไปอีกที จากตรงที่สร้างวัดสามารถมองเห็นเมืองและภูเขาที่ปกลุมด้วยหิมะได้ชัดเจนครับ


 


หน้าวิหารใหญ่ที่เข้าไปไหว้พระ


 
เราเข้าไปไหว้พระในวิหารใหญ่ แต่เสียดายที่เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ .... ในนั้นจะมีพระพุทธรูปทรงทิเบตองค์ใหญ่ และรูปปั้นของลามะเจ้าอาวาสวัด 5 องค์ และพระพุทธรูปที่เกี่ยวกับเรื่องราวในพุทธประวัติคล้ายๆของหินยานเรา ตรงหน้าจะเป็นที่นั่งสวดของพระประมาณ 700 องค์โดยเขากั้นเชือกเป็นบริเวณไว้ ... เราเดินอ้อมไปทำบุญและรับลูปะคำมาเป็นศิริมงคลกัน โดยบริจาคเงินให้กับพระ ซึ่งก็แล้วแต่ศรัทธาครับ

ส่วนบริเวณอื่นๆเราไม่สามารถเข้าไปชมได้ เพราะเขาปิดเนื่องจากหมดเวลาชมแล้ว ด้านนอกมีกรงล้อธรรมะอยู่โดๆอันหนึ่ง ผู้เขียนเห็นชาวจีนเข้ามาหมุนอธิษฐานกัน เราก็เอามั่ง คาดว่ากงล้อ (หรือบางท่านเรียกระฆัง) คงจะเป็นที่เคารพบูชาของชาวพื้นเมืองมาก .... การได้หมุนกงล้อธรรมะ หรือกงล้อมนตรานี้ก็เหมือนได้สวดมนต์ไปในตัวครับ เพราะในนั้นเขาจะบรรจุบทสวดมนต์ไว้ด้วย



 


หน้าวิหาร



 


ประตูใหญ่ทางขึ้นวัด



 


ซ้าย: กรงล้อ (ระฆัง) ธรรมะที่ควรไปหมุน ขวา: ไกด์ชาวพื้นเมือง



 


วิวจากบริเวณวัดด้านบน


 
จงเตี้ยน (แชงกรีล่า)

ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน เขตปกครองพิเศษของชาวธิเบตตี๋ชิ้ง บนที่ราบในวงล้อมของขุนเขา ลักษณะภูมิประเทศของจงเตี้ยน เป็นที่ราบทุ่งหญ้า มีภูเขาล้อมรอบ คำว่า "จง" นั้นหมายถึงศูนย์กลาง หรือสิ่งที่กว้างใหญ่อันเป็นศูนย์กลาง ส่วน "เตี้ยน" นอกจากจะแปลว่าทุ่งหญ้าแล้ว ยังอาจแปลว่า อาณาจักร ได้ด้วย

ในปีพ.ศ. 2539 รัฐบาลจีนได้เปลี่ยนชื่อเมืองจงเตี้ยน (อีกครั้ง จากเดิมที่มีชื่อในภาษาธิเบตว่า เจี้ยนถัง) เป็น"แชงกริ-ล่า" ภาษาจีนออกเสียงว่า "เซียงเกอ หลี ลา xiang Ge Le La แปลว่า ที่ซึ่งสุริยันจันทราประทับในดวงจิต

เมืองจงเตี้ยน เป็นถิ่นฐานของชาวทิเบต ซึ่งตามชานเมืองยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านที่ก่อดินขึ้นเป็นตึกสี่เหลี่ยม แต่งด้วยไม้ซุงขนาดใหญ่ ผู้คนยังแต่งกายพื้นเมือง

การเดินทางไปสู่แชงกรีล่านั้นต้องเดินทางไต่ไหล่เขาไปเรื่อยๆ ใช้เวลานานพอสมควร ไม่ต่างอะไรกับดินแดนในฝัน โดยชื่อแชงกรีลานั้นมาจากภาษาธิเบต หมายถึง หนทางนำไปสู่ดวงตะวันและดวงจันทร์โดยดวงจิต และแปลอีกความหมายหนึ่งว่า ดินแดนอีกด้านหนึ่งของโลกหรือแดนสวรรค์บนโลก


 


ค่ำคืนที่แชงกรีล่า


 
อันนี้คัดลอกจากเวปของยูนนานมาให้อ่าน

" แชงกรีล่า ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดินแดนที่สันติภาพเบ่งบาน” อันเป็นความใฝ่ฝันของมนุษยชาติ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานเขียนนวนิยาย เรื่อง The Lost Horizon ที่เจมส์ ฮิลตัน เขียนไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1933 และข้อความในจินตนาการของแชงกรีล่าได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังในเวลาต่อมา เขาบรรยายเอาไว้ว่า ...ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้น เป็นทิวทัศน์บนภูเขาที่งดงามตระการตาที่สุดในโลกก็ว่าได้ ...ดินแดนแห่งนั้นคือ แชงกรีล่า

แชงกรีล่าเป็นดินแดนที่งดงามลี้ลับ ผู้คนมีชีวิตเรียบง่าย มียอดเขาหิมะ หุบเขา ทุ่งหญ้า สายน้ำและทะเลสาบ อันน่าตระการตา..

ทางการจีนได้มีการพยายามตามหาดินแดนแชงกรีล่าในจินตนาการของ เจมส์ ฮิลตัน ว่าดินแดนนั้นอยู่ที่ไหนของประเทศ .....ดินแดนที่มีเทือกเขาสูงเสียดฟ้า เบื่องบนปกคลุมด้วยหิมะ เบื่องล่างเป็นหุบเขาที่ปูลาดด้วยทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม ท้องน้ำอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ทองคำ เป็นที่อาศัยของคนในชุมชน

ราวปี 1996 คณะแชงกรีล่า ศึกษา ที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลท้องถิ่นยุนนาน ได้ทำการสำรวจและศึกษาเขตปกครองตนเองเต๋อชิง มีการค้นหาข้อมูลทั้งทางด้านวรรณกรรม ชาติพันธ์วิทยา ศาสนา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์และทิเบตศึกษาประกอบกับนวนิยายของเจมส์ ฮิลตัน ในที่สุดทางการจีนก็ได้ค้นพบภูมิประเทศในเมือง Deqing กับ Zhondion ระหว่างสองเมืองเป็นรอยต่อระหว่างจีนและทิเบตมีความสวยงามมากและมีความคล้ายคลึงกับที่บรรยายไว้ในหนังสือ ทางการจีนจึงประกาศให้บริเวณตรงนี้เป็น แชงกรีล่า อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2539 (ค.ศ.1997) แชงกรีล่า เดิมคือแคว้นกัมของทิเบต เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนที่มีทั้งชาวธิเบตกับชาวจีน เผ่าต่าง ๆ อยู่ด้วยกัน"


ที่มา : https://thai.ynta.gov.cn/Item/1105.aspx


 


โรงแรม Zhaxidele ที่พัก


 
หลังอาหารเช้าที่โรงแรมผู้เขียนเดินออกมาถ่ายภาพที่ถนนหน้าโรงแรม ซึ่งอากาศวันนั้นหนาวเย็นมาก มีอยู่ช่วงหนึ่งมีหิมะโปรยลงมาเบาๆ ทำให้หลายๆคนในทีมต้องเพิ่มเสื้อผ้าให้หนาเข้าไปอีก และโปรแกรมวันนี้ก็มีขึ้นกระเช้าไปชมความงามของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (The Valley of blue moon) ด้วย .... ประมาณซัก 08.30 น.เราก็เดินทางสู่สถานีกระเช้าเพื่อโดยสารขึ้นสู่หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินตามโปรแกรม



 


ยามเช้าที่ถนนหน้าโรงแรม


 
Tips
การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปสู่ที่สูงๆ เช่นเขาสูง ที่ราบสูงในทิเบต หรือที่จงเตี้ยน (แชงกรีล่า) นั้นต้องเตรียมปรับสภาพร่างกายให้พร้อมพอสมควร เพราะในที่ๆสูงกว่าระดับน้ำทะเลหลายพันเมตรนั้น อากาศจะเบาบาง คือยิ่งสูงความกดอากาศ (Pressure) ก็ยิ่งต่ำ หรือ อากาศยิ่งเบาบาง ปริมาณอ๊อกซิเยนก็จะมีน้อยตามไปด้วย เราควรเตรียมปรับตัวอย่างน้อย 24 ชั่วโมงครับ .... ในการไปทัวร์ทางแชงกรีล่า เขาจะมียาสมุนไพรมาขายให้นักท่องเที่ยวก่อนจะเข้าสู่เขตแชงกรีล่า และในวันที่จะขึ้นยอดเขาเขาจะมีกระป๋องอ๊อกซิเจนมาขายให้ แนะนำให้ซื้อติดตัวไปนะครับ ... อย่างไรก็ตามมีบทความหนึ่งที่เกี่ยวกับภัยจากการเที่ยวในที่สูงๆ มาฝากให้อ่าน เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมกันครับ

ป่วยความสูง : ภัยเงียบในการท่องเที่ยวบนที่ราบสูงๆ

ธารา ตริตระการ, พ.บ.
ภาควิชาวิสัญญี, คณะแพทยศาสตร์ศิริราช, มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพมหานคร ๑๐๗๐๐.
https://www.simedbull.com/content.php?content_id=2545

อีกบทความ : https://www.emedicinehealth.com/mountain_sickness/article_em.htm


เหตุการที่เกิดขึ้นที่จงเตี้ยน : https://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11896949/E11896949.html






เราปรับสภาพร่างกายตามที่ได้ศึกษามาตั้งแต่มาลงเครื่องที่คุนหมิงแล้ว และคิดว่าพร้อมเต็มที่สำหรับการขึ้นสู่หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินวันนี้ แต่เราก็ไม่ลืมพกอ๊อกซิเยนกระป๋องติดตัวไปด้วย เพราะยังไงถ้าใช้ไม่หมดวันนี้ วันต่อไปเราก็จะขึ้นสู่ยอดเขาหิมะมังกรหยกอีก อ๊อกซิเยน 60 หยวนไม่แพงสำหรับความปลอดภัยครับ

เส้นทางที่ไปผ่านทุ่งโล่ง ที่มีฝูงจามรีสีดำเดินกินหญ้าอยู่ในทุ่ง สีน้ำตาลออกเหลืองของใบหญ้าที่เพิ่งผ่านการละลายของหิมะมาไม่นานเป็นสิ่งเดียวที่เห็นในทุ่งกว้างในวันนั้น นานๆครั้งเราจะเห็นหมูวิ่งออกมาหาอาหารตามละแวกบ้านทรงทิเบตเตี้ยๆบ้าง ... ไม่นานนักเราก็มาถึงลานจอดรถของสถานีกระเช้า


 


หิมะกำลังตกที่สถานีกระเช้า



 


สองข้างทางเดินสู่สถานีจะมีกรงล้อแห่งมนตราเรียงเป็นทางทยาว


 
เรามาถึงสถานีกระเช้าเป็นกรุ๊ปแรกๆ ที่จอดรถยังว่างอยู่ จัดแจงเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วออกมารอกรุ๊ป ซักพักหิมะเริ่มโปรยลงมาและหนาขึ้นเรื่อยๆ แม้จะรู้สึกหนาวแต่หลายคนก็ดีใจที่ได้เห็นหิมะในเดือนเมษายน แม้จะหนาวแต่ก็ไม่ลืมเก็บภาพแห่งความทรงจำกัน กล้องช่วงนี้เลยทำงานหนักหน่อย...

เหลือบไปเห็นขนมที่นึ่งร้อนๆ ไอยังระอุอยู่ เราไปขออาศัยอังไอร้อนพอหายหนาวได้บ้าง แต่ถามชื่อขนมก็ไม่เข้าใจกัน ผู้เขียนเลยเดาเอาว่านี่คือซาลาเปาทิเบต น่าทานครับ แถมสีสวยเสียด้วย

สองข้างถนนที่เดินจากลานจอดรถไปที่สถานีกระเช้าจะมีกงล้อแห่งมนตรา หรือกงล้อธรรมะเรียงรายยาวตลอดแนว ชาวจีนเขาจะมาหมุนกงล้อหรือระฆังนี้จนครบ ซึ่งเปรียบเสมือนว่าได้สวดมนต์จบเป็นพันๆบทนั่นแหละ ส่วนเราเองก็ตั้งจิตรอธิษฐานขอให้เดินทางปลอดภัย ร่างกายแข็งแร็ง ประมาณนั้นครับ


 


ไม่รู้ขนมอะไร...แต่ผู้เขียนเรียกว่าซาลาเปาทิเบต



 


ธรรมดาของชาวเมืองร้อน เมื่อเจอหิมะตกก็ตื่นตา


 
เห็นเขาใส่่ชุดกันหนาวสีแดงๆเหมือนๆกันนั้น เขาเช่าเอานะครับ คือคนจีนเวลาไปเที่ยวไหน เขาไม่ชอบแบกระเป๋าใบใหญ่แบบเราเท่าไหร่ ของบางอย่างไปหาเช่าเอาในสถานที่ๆจะไปเที่ยว อย่างเช่นชุดกันหนาวสีแดงนี้เป็นต้น .... แต่สภาพต้องทนเอานิดหนึ่งครับ ผู้เขียนเห็นว่าแทบจะไม่ได้ซักเอาซะเลย ดีนะที่เป็นของที่ใช้กับอากาศหนาว ถ้าใช้ที่เมืองร้อนแบบบ้านเรา กลิ่นคงทำให้หลายคนเป็นลมเลยล่ะ ส่วนค่าเช่าเสื้อกันหนาวก็ตกชุดละ 50 หยวนครับ


 


นั่งกระเช้าแบบนี้ช่วงแรก 30 นาที


 
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน
(Blue moon valley)


ตั้งอยู่ห่างจากแชงกรีลาประมาณ 7 กม. เป็นหุบเขาสูงเกิน 4,000 เมตร มีหิมะปกคลุมเกือบทั้งปี เราสามารถเดินทางขึ้นยอดสูงสุดของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินโดยขึ้นกระเช้าไป 2 ช่วง โดยจุดเปลี่ยนกระเช้าจุดแรก จะมีศูนย์ท่องเที่ยวหุบเขาพระจันทร์สีำน้ำเงิน ไกลออกไปผ่านทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ และต้นกุหลาบพันปีเรียงราย จะมีหมู่บ้านชาวธิเบตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เมื่อเปลี่ยนกระเช้าแล้ว จะเดินทางถึงยอดเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน

หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน เป็นหุบเขาที่มีหิมะปกคลุมเกือบทั้งปี เชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าในลี่เจียง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นยอดสูงสุดของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินโดยขึ้นกระเช้าไป 2 ช่วง ช่วงแรกจากพื้นขึ้นมาใช้เวลประมาณครึ่งชั่วโมง และช่วงที่ 2จากศูนย์ท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดเขาอีก 15 นาที ... โดยจุดเปลี่ยนกระเช้าจุดแรกจะมีศูนย์ท่องเที่ยวหุบเขาพระจันทร์สีำน้ำเงิน เมื่อเปลี่ยนกระเช้าแล้วจะเดินทางถึงยอดเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์ทะเลหุบเขาล้อมรอบได้ถึง 360 องศา ... ในวันที่ไปเป็นช่วงเดือนเมษายน แต่หิมะยังปกคลุมพื้นดิน ตามป่าสนอยู่เลย

ยอดเขาสูงสุดของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินคือ "สือข่า" ซึ่งสูงถึง 4,449 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
 


ที่สถานีเปลี่ยนกระเช้า



 


อาคารสถานีกระเช้าด้านบน



 


ออกไปสู้อากาศหนาวเย็น ลมแรงกัน


 
อากาศวันนั้นหนาวเย็นมาก ลมแรงอีกต่างหาก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่เป็นชาวจีนสามารถออกไปเดินสู้ได้แบบสบาย ผู้เขียนพยามออกไปได้ไม่ไกลนัก ทนไม่ไหวต้องรีบกลับเข้ามาในอาคาร และพยามออกไปเก็บภาพอีก แต่ก็ได้ไม่มาก เพราะหนาวจริงๆ อุณหภูมิน่าจะต่ำกว่า 0 องศาแน่ๆ เสียดายไปตั้งไกล แต่เดินไม่หมด


 


มาถึงแล้วขอเก็บภาพไว้บ้าง



 




ทิวทัศน์บางส่วน



 


ลงมาถึงสถานีด้านล่าง...หิมะหายหมดแล้ว


 
ตอนเราลงมาถึงพื้นล่างกะว่าจะมาถ่ายภาพกับหิมะอีกซักหน่อย แต่เจ้าหิมะละลายไปหมดแล้ว อากาศเปิด เราจึงได้ภาพที่แตกต่างจากตอนที่มาถึงใหม่ๆ

สถานีกระเช้า ตามข้อมูลว่า มีความยาวทั้งสิ้น 4,190 เมตร และว่าเป็นเคเบิลคาร์ที่ยาวที่สุดในยูนนาน เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2006ครับ .... เราเดินทางกลับเข้าเมืองแชงกรีล่า เพื่อทานมื้อเที่ยงที่นั่น ก่อนเดินทางไปชมเจดีย์จ้วนจิง และเมืองโบราณแชงกรีล่า


 


เจดีย์จ้วนจิง (เจดีย์รูบทรงระฆัง) ที่วัดต้าฝอ


 




ประมาณ 14.00 น เรามาถึง "วัดต้าฝอ" เพื่อไหว้พระและชมเจดีย์ทรงระฆัง หรือทรงกรงล้อมนตรา ขนาดใหญ่ (บางเวบบอว่าใหญ่ที่สุดในโลก)

วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่คู่กับเมืองจงเตี้ยน หรือ แชงกรีล่า เป็นวัดแบบทิเบต ด้านบนมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพบูชาคือพระจงคาปา รูปทรงเหมืนพระพุทธรูปแบบทิเบต ..

เมื่อเราเข้าไปด้านในวิหาร แล้วบริจาคเงินช่วยทางวัดตามศัทธา พระทิเบตท่านจะให้ธูป 3 ดอกเพื่อจุดบูชาพระ ไหว้พระเสร็จก็นำธูปไปปักไว้ที่กระถางที่ทางวัดเตรียมไว้อีกมุม (เพื่อกันไฟไหม้) เสียดายที่เราไม่มีภาพมาฝากกัน เพราะป้ายหน้าวิหารเขียนบอกว่าห้ามถ่ายภาพครับ



 


ซ้าย: หน้าวิหารพระจงคาปา ขวา: เจดีย์จ้วนจิง



 


 
เสร็จจากไหว้พระก็เดินไปที่จุดไฮไลท์ของวัดนี้ นั่นคือเจดีย์ยักษ์รูประฆัง หรือกงล้อมนตราที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะความใหญ่โตนี่เอง ที่ฐานของเจดีย์จึงทำที่ดึงหมุนไว้รอบ เพื่อให้หลายๆคนช่วยกันหมุน และตั้งจิตรอธิษฐานไปด้วย จากบริเวณนั้นเราจะมองเห็นเมืองแชงกรีล่าในย่านเมืองเก่าได้กว้างไกลจนถึงลูกที่อยู่ตรงข้ามได้เลย


 


ต้องหมุนให้ได้ 1 รอบพร้อมคำอธิษฐาน



 


ด้านหลังคือย่านเมืองโบราณ



 


ส่วนมากกำลังบูรณะ



 


ย่านเมืองโบราณแชงกรีล่า


 
ย่านเมืองเก่าหรือเมืองโบราณแชงกรีล่านี้ จะเป็นบ้านทรงทิเบตที่ก่อเป็นบล๊อกมีใต้จั่วเป็นศิลปแบทิเบต หลังคาบ้านที่เห็นในปัจจุบันได้รับการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้างแล้ว เพราะถ้าเป็นหลังคาบ้านแบบทิเบตโดยแท้ เขาจะเอาไม้ประกอบกัน แล้ววางทับด้วยก้อนหิน แต่ก็ยังพอเห็นแบบนี้อยู่บ้าง ... แปลกใจอยู่อย่างคือเขาทำไม่เต็มทั้งหลังคา เหมือนที่เห็นตามเส้นทางที่ผ่านมา



 
 


 
เมืองโบราณแห่งนี้ก็เหมือนเมืองเก่าทั่วๆไป คือนักธุรกิจมักจะสร้างเป็นที่พักแบบเกสท์เฮาส์ หรือโรงแรมเล็กๆ แต่ยังคงสภาพให้กลมกลืนกับเมืองเก่า ซึ่งส่วนมากเป็นอาคารไม้ เพราะแชงกรีล่าเป็นเมืองที่อากาศหนาวตลอดทั้งปี การจุดเตาเพื่อทำความอบอุ่นในบ้านจึงค่อนข้างจำเป็น จึงเป็นสาเหตุแห่งการถูกไฟไหม้ได้ง่าย ดังเช่นปี 11 ม.ค. 2557 ไฟได้ไหม้เมืองโบราณอายุนับพันปีแห่งนี้ (อ่าน : https://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000003913)

เนื่องจากเมืองเก่าแห่งนี้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี 2557 ดังในข่าว ฉะนั้นในวันที่เราไปจึงเห็นบ้านทิเบตเก่าๆอยู่ไม่กี่หลัง


 


ซ้าย: เจดีย์แบบทิเบตกลางหมู่บ้าน



 


ถ่ายภาพ 20 หยวน


 
กลับออกมาที่จตุรัสหน้าวัดต้าฝอเจอชาวบ้านเอาจามรีสีขาวมาให้นักท่องเที่ยวขี่และถ่ายภาพ โดยเขาจะมีคนมาถ่ายให้เรา และปริ๊นภาพให้เราด้วยโดยคิดภาพจะ 20 หยวน (ประมาณภาพละ 100 บาท) ครับ ส่วนคนที่ไปขอยืนข้างๆกับคนขี่ไม่เสียตังค์ .... จามรีสีขาวแบบที่เห็นในภาพ ชาวทิเบตเขาจะไม่กินเนื้อกันนะครับ ถ้าจะกินก็สีอื่น เช่นสีดำ และที่เลี้ยงกันในทุ่งหญ้าก็เห็นมีแต่สีดำ เนื้อจามรีนั้นราคาแพงกว่าเนื้อวัวครับ ส่วนเขาจามรีเขานิยมนำมาทำหวีหวีผมกัน


 


จามรี



 


เขาจามรี



 


ชาวพื้นเมือง


 
บ่ายแล้วเราเดินทางออกจากแชงกรีล่า ป้ายต่อไปของเราคือโค้งแรกของแม่น้ำแยงซี (นำเสนอไปแล้วในบล๊อกก่อนหน้านี้) และเดินทางต่อไปที่ลี่เจียง ซึ่งเราจะพักที่นั่น 2 คืน

วันนี้พาชมแชงกรีล่าไปหลายที่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นสถานที่ยอดฮิตที่ทัวร์เขานิยมพามา .... แชงกรีล่าเป็นเมืองที่อยู่บนที่สูงอากาศเบาบาง ถ้าท่านจะไปเที่ยวก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม เพราะทุกๆคนมีโอกาสป่วยด้วยโรคความสูงทั้งนั้นครับ .... พื้นที่โดยรอบของเมืองนี้จะเป็นทุ่งหญ้า โล่ง เป็นหมื่นๆไร่ ตามทุ่งหญ้านั้นเราจะพบฝูงจามรีที่ชาวบ้าเลี้ยงไว้ ดูเผินๆนึกว่าฝูงวัวครับ

เรามาแชงกรีล่าได้บรรยากาศเหมือนไปทิเบต ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านช่อง ภาษาเขียนที่เห็นยังเป็นภาษาทิเบต และภาษาจีน บางร้านมีภาษาอังกฤษปนมาด้วย

ส่วนคำถามที่ว่าที่นี่เหมือนในนิยาย The Lost Horizon ไหม? อันนี้ก็ไม่แน่ใจ เพราะบรรยกาศของเมืองคงจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แล้วแต่ว่าเรามาเห็นหน้าไหน แต่จะใช่หรือไม่เมื่อถึงวันนี้แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญมากนักสำหรับการมาที่นี่ของเรา แต่สิ่งที่เราได้ ก็คือ ได้เห็นวัฒนธรรมของเขา เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างออกไปจากเราที่มาจากพื้นราบ-ลุ่ม และทั้งหมดนี้ก็เป็นประสพการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตอันยอดเยี่ยมบนที่ราบสูง 3500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลของเรา แม้เวลาจะไม่มากนักก็ตาม..
ลาก่อน แชงกรี-ล่า.



 
ขอบคุณที่ตามอ่านครับ




 


ลาบล๊อกกันด้วยภาพนี้ครับ





 
______________






 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2558
12 comments
Last Update : 28 มิถุนายน 2565 7:37:14 น.
Counter : 11143 Pageviews.

 

สุดยอดเลยครับ ภาพสวย.....เพียงเห็นภาพก็รู้แล้วว่า ห น า วๆๆๆๆ

แต่ยังไม่รู้ว่าอากาศจะเบาบางแค่ไหนครับ 55

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 18 พฤษภาคม 2558 14:39:52 น.  

 

ภาพคู่ทำให้อมยิ้มเลยค่ะ

wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 พฤษภาคม 2558 16:43:35 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
ดูยิ่งใหญ่ ดี นะคะ น่าไปเที่ยว ค่ะ

 

โดย: kwan_3023 18 พฤษภาคม 2558 17:54:13 น.  

 

สวย น่าประทับใจจังค่ะ

 

โดย: sawkitty 18 พฤษภาคม 2558 18:20:21 น.  

 

ภาพสวยจังค่ะ อยากไปจังค่ะที่นี่ ตั้งใจเยือนสักวัน รออยู่เหมือนกันค่ะ แชงกรีล่า

 

โดย: mariabamboo 19 พฤษภาคม 2558 12:22:44 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
Ariawah Auddy Photo Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
PZOBRIAN Book Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

ตามคุณวิคมาเที่ยวและโหวตให้คุณวิคค่ะ
เสมือนมาเห็นเองเลยค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 19 พฤษภาคม 2558 13:47:27 น.  

 

กราบสวัสดีค่ะคุณพี่ wicsir แวะมาเยี่ยมค่ะ
ภาพสวย เพลงประกอบก็เพราะ น่าไปเที่ยวมาก ๆ ค่ะแชงกรีล่า สักวันคงมีโอกาสได้ไปบ้าง อิอิ
สบายดีแม่นบ่ค่ะ (แต่เห็นไปเที่ยวได้แบบนี้แสดงว่ายังสบายดีอยู่แน่นอน)

 

โดย: thainurse@norway 19 พฤษภาคม 2558 19:17:38 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 22 พฤษภาคม 2558 3:27:20 น.  

 

ผมไปกับครอบครัวมาเมื่อปีที่แล้ว สวยมาก อีก 2 ปี ว่าจะไปอีก ประทับใจมาก อีกอย่างอยู่ใกล้เมืองไทยมากด้วย

 

โดย: หนุ่ม IP: 171.5.207.169 23 พฤษภาคม 2558 8:49:04 น.  

 

เห็นแล้วอยากไปมากเลยค่ะ

 

โดย: sawkitty 24 พฤษภาคม 2558 13:53:20 น.  

 

สวยงามสมกับเป็นดินแดนในฝันเลยค่ะ

 

โดย: AdrenalineRush 25 พฤษภาคม 2558 9:15:02 น.  

 

ฟ้าสีเข้ม สวยมาก

ถ้าได้ไปคงตื่นตาตื่นใจกับหิมะเหมือนกันค่ะ แต่ดูความสูงและอากาศแล้ว น่าจะไม่รอด คงเที่ยวกับคุณ wic นี่ล่ะค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 5 มิถุนายน 2558 17:16:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.