ผ่อนคลายกับนิยายของ กัณธิชา - รัตมา - มธุกร ค่ะ
<<
เมษายน 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 เมษายน 2557
 
 

จ้างรักจอมมาร ตอน วุ่นวายหัวใจ




เพียงครู่เขาก็เงยหน้าขึ้นมาจากวงหน้านวล รู้สึกติดใจเรียวปากนุ่มเมื่อครู่นี้ยิ่งนัก ไม่อยากเชื่อว่ายายผู้หญิงจอมโวยวายจะปากหวานถึงเพียงนี้ซึ่งเมื่อครู่นี้อัคคีไม่ได้สังเกตเลยว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าที่สวยคมอย่างมากนั่นเพราะว่าเขามัวแต่คิดหาทางแก้ปัญหาว่าจะหนีพ้นผู้หญิงทางด้านนอกยังไงดี และอีกฝ่ายก็ไม่สนใจรับฟังเหตุผลของตนเองเลยสักนิด จนเขาต้องหาทางทำให้เธอสงบปากสงบคำ

แต่ตอนนี้เขามีเวลาที่จะพินิจพิจารณาอีกฝ่ายมากขึ้นเมื่อหญิงสาวอยู่ใต้ร่างของตนและเขาได้ลิ้มรสเรียวปากนุ่มอย่างติดใจ มองเห็นวงหน้าเรียวของผิวนวลกระจ่างเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยความเขินอายระคนโมโหและหวาดหวั่น โดยทรวงนุ่มก็สะท้อนลมหายใจขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ พาให้ชายหนุ่มรู้สึกรุมร้อนอย่างมาก เขาไม่เคยเกิดความรู้สึกต้องการผู้หญิงคนไหนมากเท่านี้มาก่อนแล้ว

และที่ทำให้เขาไม่อาจละไปจากกายนุ่มได้ก็คือ ทรวงนุ่มซึ่งมองเห็นบราลูกไม้จากการที่กระดุมเสื้อเชิ้ตของหญิงสาวหลุดไปหนึ่งเม็ด คงเป็นเพราะตอนที่ดิ้นรนต่อสู้เขาน่ะเอง และชายหนุ่มก็จับแขนเรียวไว้อาจจะทำให้เสื้อรั้งมากจนพลอยทำให้กระดุมที่ติดไว้แยกออกจากกัน จนเขาอยากที่จะถอดผ้าของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเสียจริง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเธอได้แต่นอนมองหน้าเขาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมายังแก้มนวล นั่นจึงทำให้อัคคีรู้สึกแย่อย่างมาก เขาไม่เคยเจอว่าการจูบของตนเองจะทำให้ผู้หญิงร้องไห้ จึงบอกอย่างรู้สึกไม่ดีในการกระทำของตนเอง

“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจน่ะ” เธอมองหน้าเขาด้วยความโมโหและเกลียดชังก่อนจะใช้มือเรียวตบไปยังวงหน้าคมโดยแรง เพียะ! และออกปากไล่เขาอย่างไม่ไว้หน้า

“แกออกไปจากห้องฉันเลยนะ ไอ้ชั่ว” อัคคีไม่เคยเจอใครด่าตนเองเช่นนี้ถ้าเป็นยามปกติลองใครมาด่าเขาสิ ได้เจอด่ากลับไปแล้ว แต่พอคิดถึงการกระทำของตนเอง ชายหนุ่มก็ก้าวลงไปจากเตียงด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด และไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองเธอเลย อัคคีบอกให้ได้รับรู้ถึงเหตุผลที่เข้ามาหลบอยู่ในห้องของหญิงสาว

“ผมเสียใจที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ พอดีว่าผมเจอคนรักของเพื่อนผมมากับผู้ชายอีกคน ผมก็เลยตามมาดู แต่ว่าผู้หญิงหันมาพอดีแล้วเห็นคนแอบมองก็เลยเดินตามมา ผมเดินเลี้ยวผิดทางก็เลยมาเจอทางตันตรงห้องของคุณพอดี โชคดีที่คุณเปิดประตูออกมาผมก็เลยต้องหลบเข้ามาในห้องคุณ ผมขอโทษจริงๆ”

“คุณรีบออกไปจากห้องฉันเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรแจ้งความ” นั่นจึงทำให้เขารีบเดินออกไปทันทีหลังจากนั้น ก่อนจะจัดการปิดบานประตูลง ในใจของเขานึกพร้อมกับวงหน้าคมประดับด้วยรอยยิ้ม

“ตอนนี้ผมจะยอมออกไปจากห้องคุณ แต่ผมจะไม่ออกไปห่างคุณเด็ดขาด”

พลันคิดถึงวงหน้านวลและจูบที่แสนหวานซึ่งตนเองได้รับเมื่อครู่นี้อย่างไม่ตั้งใจ และได้กอดร่างนุ่มด้วยความบังเอิญทำให้เขาแทบไม่อยากจะปล่อยร่างของเธอเลย ใครจะไปเชื่อว่าตนเองจะได้มาเจออีกฝ่ายแบบไม่ตั้งตัวเช่นนี้ วงหน้าคมเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ

วันนี้อากาศแจ่มใสอย่างมากเมื่อเป็นการนำเที่ยวประเทศสวิสเซอร์แลนด์ต่อจากเมื่อวานนี้ โดยสถานที่ปภาพินท์และอิศเรศกำลังยืนอยู่นั้นก็คือ ลูเซิร์น (Luzern) เป็นเมืองอันสวยงามเมืองหนึ่งของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ มีความเจริญทางด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ซึ่งได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

ยามนี้ปภาพินท์และอิศเรศกับผู้ใหญ่อีกสองท่านก็ได้เดินชมเมืองเก่า ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำรอยส์ (Reuss river) เต็มไปด้วยอาคารโบราณ และเศษกำแพงเมืองเก่า ที่เริ่มเสื่อมสภาพไปตามระยะเวลาอันยาวนาน โดยทุกคนก็ได้ชื่นชมสะพานไม้ ชาเปล เป็นสะพานที่มีอายุมากว่า 600  ปีแล้ว ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ทั้งหมดก็เดินชมภาพต่างๆ ประดับด้วยภาพเขียนที่บอกเล่าถึงประวัติเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งสองก็ทำหน้าที่ถ่ายรูปให้กับคุณอาทั้งสองและโพสท่ากันอย่างสนุกสนาน

แต่อากาศที่แจ่มใสช่างเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอารมณ์ของปภาพินท์ในยามนี้อย่างมาก หัวใจของเธอรู้สึกหม่นเศร้าสิ้นดี แต่กลับต้องเคลือบอารมณ์ที่ว่าด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข นั่นคือสิ่งที่ปภาพินท์ใช้ทำเพื่อปกปิดความรู้สึกภายในที่แสนหม่นหมอง ตามคำสั่งของชายหนุ่มผู้เป็นสามีกำมะลอของตนเอง ที่บอกว่าให้เธอเก็บงำความรู้สึกทุกอย่างไว้ข้างใน นั่นเพราะไม่ต้องการให้คนรับรู้ว่าทั้งสองคนมีปัญหาต่อกัน ต้องสวมหน้ากากแห่งความยิ้มแย้มแจ่มใสไว้ภายนอกแต่ข้างในรู้สึกขื่นขมอกตรมอย่างมาก ถ้าหากว่าใครได้เจอเหตุการณ์เช่นเธอก็คงจะยิ้มไม่ออกเช่นกัน

โดยหลังจากที่เดินชมย่านเมืองเก่าแล้วก็ได้ไปชมประติมากรรม อนุสาวรีย์รูปสิงโตหินแกะสลัก (Lion Monoment) อนุสาวรีย์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และเสียสละ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารสวิสที่เสียชีวิตจากการปกป้องพระราชวังตุยเลอลีสในประเทศฝรั่งเศส

ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมาปภาพินท์ต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าสาวนางบำเรอให้กับอิศเรศ แม้จะได้รับความสุขอย่างเต็มอิ่มทุกค่ำคืน แต่ผู้หญิงที่ไม่พร้อมจะเป็นนางบำเรอใครก็ไม่ได้รู้สึกดีใจเลยที่อีกฝ่ายหลงใหลในตนเอง ปภาพินท์เฝ้าครุ่นคิดว่าถ้าหากปัญหาเรื่องนี้จบลงเธอจะกล้าบอกกับคนที่เข้ามาในชีวิตหรือไม่กัน ยิ่งถ้าหากว่าเป็นคนที่เธอรักหญิงสาวควรจะบอกให้เขารู้หรือไม่ว่าตัวเองไม่ได้บริสุทธิ์อีกแล้ว

แม้ว่าสมัยนี้ผู้ชายจะไม่คิดถึงเรื่องที่ว่าแล้วก็ตาม แต่ปภาพินท์ก็ไม่อยากที่จะปิดบังอีกฝ่ายเลย และเพราะมัวแต่ใจลอยจึงทำให้เธอเดินหลงเข้าไปยังบริเวณอื่น เมื่อรู้สึกตัวก็ไม่เห็นร่างของอิศเรศกับคุณอานิภาและคุณอาชาลีแล้ว เธอกวาดตามองหาไปทั่วบริเวณพบว่าตนเองยืนอยู่เพียงลำพัง จึงพยายามที่จะหาทางกลับไปยังบริเวณเมื่อครู่นี้ แต่ก็เหมือนโชคไม่ช่วยเมื่อเดินไปสู่บริเวณอื่นที่แปลกตาและไม่คุ้นเคย

หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงด้วยความหวาดกลัวอย่างมาก พร้อมกับนึกอย่างคาดเดาไปด้วย เมื่อหันมองไปทางใดก็ไม่มีผู้คนเลย

“นี่เราหลงทางเหรอ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน”

ปภาพินท์มองเห็นผู้ชายสองคนยืนอยู่ไม่ไกลจึงยิ้มด้วยสีหน้ายินดีนั่นเพราะคิดว่าทั้งสองน่าจะบอกเส้นทางให้กับตนเองออกไปจากบริเวณดังกล่าวได้ จึงรีบเดินเข้าไปสอบถามหาทางออกอย่างไม่รอช้า

“ขอโทษนะคะคุณเป็นคนที่นี่รึเปล่าคะ”

ทั้งสองเห็นเธอก็มองอย่างไม่วางตาและสำรวจไปทั่วกายนุ่มด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพและกระเป๋าที่เธอสะพายอยู่ยังบ่า ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาและจับไปยังมือเรียวราวกับมีเป้าหมาย ปภาพินท์รู้สึกว่าดูท่าจะไม่ดี เธอจึงตัดสินใจไม่ถามทางแล้วและรีบวิ่งหนีไปยังทางอื่นด้วยความหวาดกลัว หัวใจระทึกไปหมดโดยนึกถึงชายหนุ่มอีกคนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสามีชั่วคราว

“คุณอิฐ คุณอยู่ไหนช่วยฉันด้วย” เหมือนเด็กที่ขวัญเสียไปหมดในยามนี้

และเพราะความรีบร้อนมากด้วยกลัวว่าผู้ชายสองคนจะวิ่งตามตนเองมา จึงทำให้เธอลื่นล้มลงไปบนทางเบื้องหน้าจนหัวเข่าและข้อศอกกระแทกกับพื้น เมื่อหันไปยังทางเบื้องหลังก็เห็นผู้ชายสองคนวิ่งตามตนเองมา ปภาพินท์จึงรีบลุกขึ้นวิ่งต่ออย่างไม่สนใจที่จะยืนดูแผลเลยว่าตนเองบาดเจ็บมากแค่ไหน ขอเพียงแค่หนีออกไปจากบริเวณนี้ได้เป็นพอ

ทางด้านของอิศเรศเมื่อหันร่างกลับไปไม่เห็นแม่เมียตัวปลอมคิ้วเข้มก็ขมวดมุ่นเข้ามาชนกัน นัยน์ตาคู่คมกวาดมองหาไปจนทั่วบริเวณ แม้เขาจะบอกกับหญิงสาวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงข้อตกลงเท่านั้น แต่เวลาที่อีกฝ่ายไม่สบายไป หรือมีสีหน้าที่ดูไม่ดี เขาจะรู้สึกกังวลและเป็นห่วงเธออย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นเลยที่เขาจะต้องห่วงใยในตัวของอีกฝ่าย แต่ทุกคราวที่เห็นปภาพินท์ไม่เป็นดังปกติ อิเศเรศก็มักจะไม่สบายใจไปด้วย

กายสูงเดินตามหาไปทั่วซึ่งเมื่อคุณอาทั้งสองเดินมาและไม่เห็นหญิงสาวก็ทำสีหน้าสงสัยพลางสอบถามชายหนุ่มเบื้องหน้า

“หนูนันท์ไปไหนล่ะตาอิฐ”

“เมื่อกี้ยังเห็นยืนอยู่แถวนี้เลยครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ไปไหนครับ นี่ผมก็เดินตามหามาสองรอบแล้วก็ไม่เจอ” เขาบอกให้ผู้ใหญ่ทั้งสองได้ทราบ

“หรือว่าจะหลงทางกันในนี้ก็กว้างเสียด้วย”

“แยกย้ายกันตามหาดีไหมตาอิฐ เดี๋ยวอาสองคนจะไปตามหาทางโน้น” ชาลีเสนอความเห็นออกมา อิศเรศก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ก็ได้ครับคุณอา ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมเดินไปดูทางนี้เองละกันครับ” เขาใช้มือชี้ไปยังฟากซ้ายมือ หลังจากนั้นทั้งหมดก็ออกเดินตามหาปภาพินท์

ผู้ใหญ่ทั้งสองตะโกนเรียกหาหญิงสาวด้วยความห่วงใยเพื่อหวังว่าให้อีกฝ่ายได้ยินจะได้เดินกลับมาหาได้ถูก

“หนูนันท์อยู่แถวนี้รึเปล่าจ๊ะ”

“ถ้าอยู่ก็ส่งเสียงบอกด้วยนะหนูนันท์” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลย จึงเดินไปหายังบริเวณอื่นต่อ

อิศเรศก็ทำไม่ต่างกันเลยเขายกมือตะโกนเรียกปภาพินท์พร้อมกับบ่นอย่างเข่นเขี้ยวไปด้วย ดุราวกับว่าหญิงสาวเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ประสาอย่างไรอย่างนั้น

“ลืมไปรึไงว่านี่มันต่างประเทศน่ะ คิดจะเดินไปไหนก็ไม่ยอมบอกใคร มันน่าซัดจริงๆ”

 ถ้าเป็นคนอื่นพูดคงเข้าใจว่าใช้ไม้เรียวหรือไม่ก็มือตีเพื่อทำให้จดจำจะได้ไม่ทำอีก แต่สำหรับอิศเรศคำว่าซัดของเขามันไม่น่าจะใช้ไม้เรียวเลยน่าจะเป็นการซัดด้วยปากกับมือและสิ่งอื่นมากกว่าอย่างแน่นอน

ซึ่งหญิงสาวที่ทุกคนกำลังตามหานั้นยืนหลบอยู่ข้างต้นไม้ด้วยอาการที่เหนื่อยหอบ นัยน์ตามองไปจนทั่วก็พบว่าไม่มีร่างของชายสองคนที่วิ่งตามตนเองมาแล้ว โดยนึกอย่างทอดถอนลมหายใจ

“จะมีใครออกมาตามหาเธอรึเปล่ากัน คงมีแค่คุณอานิภากับคุณอาชาลีเท่านั้นล่ะ ส่วนคุณอิฐคงไม่ออกมาตามเราหรอก เพราะเขาเองก็ไม่ได้ห่วงใยเธอมากอยู่แล้วทุกสิ่งที่ทำก็เป็นเพียงแค่ละครที่แสดงให้คนอื่นเห็นเท่านั้นล่ะ” นัยน์ตารื้นไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากนัยน์ตาคู่สวย

อิศเรศเดินเข้ามายังบริเวณซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้เดินตามหาหญิงสาวอยู่เกือบชั่วโมงก็ยังไม่พบ หากเขาก็ไม่ละความพยายามยังคงป้องปากตะโกนเรียกชื่อเธอเสียงดัง แต่ยามนี้หัวใจเขาดูเต้นแรงระรัวด้วยความห่วงใยในตัวของหญิงสาวมากขึ้นกว่าเดิม

“ปภาพินท์เธออย่าเป็นอะไรไปนะ” แม้เขาจะบอกว่าไม่ใยดีอีกฝ่าย แต่พอเธอหายตัวไปนานเช่นนี้มันทำให้อิศเรศรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เขาตะโกนเรียกชื่อเธอโดยไม่กลัวว่าเสียงจะแหบแห้งเลย ขอเพียงให้อีกฝ่ายได้ยินเสียงของตนเองเป็นพอ “ปภาพินท์เธออยู่แถวนี้รึเปล่า ถ้าอยู่ก็ช่วยส่งเสียงบอกด้วย” หญิงสาวจำเสียงของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีจากที่ไกลๆ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดี

“คุณอิฐ คุณออกมาตามหาฉัน” อดรู้สึกดีใจไม่ได้ หญิงสาวรีบวิ่งออกไปจากบริเวณที่ยืนอยู่ทันทีและขานตอบกลับไปให้เขารับรู้ “คุณอิฐคะ ฉันอยู่นี่ค่ะ”

“ปภาพินท์เธออยู่ไหน” หญิงสาวก็รีบส่งเสียงบอกให้เขาได้รู้อีกคราหนึ่ง

“ฉันอยู่นี่ค่ะคุณอิฐ”

พร้อมกับที่นัยน์ตากลมก็กวาดมองไปทั่วบริเวณเพื่อตามหาเขาเช่นกัน กระทั่งรับรู้ว่ากายนุ่มกระแทกกับอะไรบางอย่างซึ่งแข็งกระด้างพร้อมกับที่ถูกรัดไว้ด้วยวงแขนแกร่ง เธอนึกว่าผู้ชายที่หญิงสาวหนีจะเจอตนเองจึงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับยกมือทุบอีกฝ่ายไม่ยั้งด้วยความรุนแรง และตะโกนเสียงดังไม่หยุด

“ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ” ซึ่งเสียงตอบรับกลับมาก็แสดงความไม่พอใจใส่อย่างมากเมื่อถูกหญิงสาวทุบตี

“ปภาพินท์เธอทำบ้าอะไรเนี่ย” เพียงรับรู้ว่าคนที่เธอทุบตีเป็นใครวงหน้านวลก็แสดงความตกใจพร้อมกับอาการยินดีด้วย

“คุณอิฐ คุณเองเหรอคะ” แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นโมโหอย่างมาก

“ก็ฉันเองน่ะสิ แล้วเป็นบ้าอะไรถึงได้เดินหายตัวไปจนคนอื่นเขาเป็นห่วงไปหมดน่ะ รู้ไหมว่าคุณอานิภากับคุณอาชาลีน่ะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนกันที่อยู่ๆ ก็หายตัวไป ถ้าไม่ติดว่าคุณอานิภาให้ออกมาตามหาล่ะก็ ฉันไม่ออกมาเด็ดขาด อยากจะหายไปก็ตามสบายเลย ดีซะอีกฉันจะได้ไม่ต้องเล่นละครหลอกคนอื่น” เขาต่อว่าเธอเป็นชุดอย่างไม่รักษาน้ำใจ

“ฉันขอโทษค่ะพอดีฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อยค่ะ”

“คราวหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะรู้ไหม” อิศเรศทำน้ำเสียงดุใส่ หญิงสาวก็พยักหน้าตอบรับ

“ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ” ปภาพินท์รู้สึกเจ็บที่หัวเข่าจึงก้มลงดูพบว่ากางเกงเลกกิ้งที่เนื้อไม่หนาได้ฉีกขาด ชายหนุ่มมองเห็นเช่นนั้นจึงถามด้วยความอยากรู้

“ไปโดนอะไรมาน่ะปภาพินท์” เธอจึงบอกเขาให้ได้ทราบ

“หกล้มนิดหน่อยน่ะค่ะ แต่ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ” หญิงสาวไม่อยากให้เขาว่าตนเองอ่อนแอ นัยน์ตาของอิศเรศมองเห็นบาดแผลยังข้อศอก เนื่องจากว่าหญิงสาวรู้สึกร้อนจึงได้ถอดเสื้อคลุมมาผูกกับเอวแทน และนั่นจึงทำให้ข้อศอกไถลไปกับที่ขรุขระ

“ข้อศอกเธอก็มีแผลเหมือนกันนี่”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวก็หายค่ะ” เธอบอกอย่างไม่ใส่ใจทั้งที่ความจริงแล้วเจ็บอยู่เหมือนกัน ตอนที่หกล้มนั้นเจ็บจนน้ำตาร่วงเลยล่ะ อิศเรศมองเห็นป้ายห้องน้ำไม่ไกลระหว่างที่เดินกลับไปหาผู้ใหญ่ทั้งสองจึงบอกกับหญิงสาว

“เธอจะเข้าไปล้างแผลที่เข่ากับข้อศอกรึเปล่า”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวไปล้างที่โรงแรมก็ได้ค่ะ” เธอปฏิเสธความหวังดีจากอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าอิศเรศจะไม่ฟังเขาฉุดกายนุ่มให้เข้าไปยังห้องน้ำที่ว่าทันที ซึ่งบรรดาผู้หญิงก็ต่างยืนอยู่อย่างมากมายพลอยหันมามองเป็นทางเดียวกันหมด เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าในมือส่งให้กับหญิงสาวและบอก

“เอาผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดด้วย”

“ขอบคุณค่ะคุณอิฐ”

มือเรียวรับไปจากอีกฝ่ายก่อนจะยอมทำตามที่เขาบอกด้วยดี ปภาพินท์เปิดน้ำจากอ่างล้างหน้าและเตรียมใช้ผ้าเช็ดหน้าของเขาจุ่มน้ำเพื่อที่จะได้เช็ดไปยังข้อศอกตนเอง แต่พอเห็นความสะอาดของเนื้อผ้านุ่มที่ถืออยู่ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาในพลัน นัยน์ตาของปภาพินท์มองเห็นตู้หยอดกระดาษทิชชู่ เธอจึงจัดการเก็บผ้าเช็ดหน้าของเขาใส่ไว้ในกระเป๋าของตนเองแทน และหยิบกระดาษทิชชู่มาใช้แทน

โดยอิศเรศก็ยืนรออยู่ทางด้านนอก เพียงครู่ปภาพินท์ก็ก้าวออกมาเธอหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาคืนให้กับเขา ชายหนุ่มก็รับคืนไปก่อนจะเห็นว่ามันยังคงสะอาดดังเดิมจึงย้อนถามกลับไป

“เธอไม่ได้ใช้ผ้าเช็ดหน้าเหรอปภาพินท์” หญิงสาวส่ายหน้าไปมา

“เปล่าค่ะฉันเสียดายกลัวมันเลอะน่ะค่ะก็เลยใช้กระดาษทิชชู่แทน” อิศเรศจึงเก็บผ้าเช็ดหน้าของตนเองใส่ในกระเป๋าเสื้อหนังดังเดิม

เมื่อนิภากับชาลีมองเห็นปภาพินท์เดินกลับมาพร้อมกับอิศเรศก็เดินเข้ามาหาถามไถ่ด้วยความห่วงใยอย่างมากมาย

“เจอหนูนันท์แล้วเหรอตาอิฐ”

“ไปเจอที่ไหนล่ะ” ทั้งสองถามไม่หยุด

“ตรงฝั่งที่มีต้นไม้เยอะๆ น่ะครับ” เขาชี้ไปยังบริเวณที่ได้เจอกับเธอเมื่อครู่นี้

“พอดีนันท์หลงทางน่ะค่ะคุณอานิภา คุณอาชาลี”

“หลงที่เมืองไทยน่ะไม่เป็นไรหรอกยังหาทางกลับได้ แต่หลงที่ต่างประเทศมันอันตรายนะ อาว่าถ้าหนูจะไปไหนบอกตาอิฐดีกว่า ตาอิฐจะได้พาไป” หญิงสาวผงกศีรษะตอบรับกลับไป

“ค่ะคุณอานิภา”

เมื่อกลับมายังโรงแรมหลังจากที่วันนี้เที่ยวไปจนทั่วหลายแห่งพร้อมกับคิดอย่างหวาดกลัวว่าถ้าไม่เจอเขาเธอจะทำยังไงกันดี อาจจะไม่ได้กลับไปประเทศไทยอีก ไม่เคยได้พบกับเหตุการณ์ที่หวาดหวั่นขวัญแขวนแบบนี้มาก่อนเลย ปกติทุกครั้งที่กลับมาถึงโรงแรมทั้งสองจะต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำด้วยกันซึ่งเธอก็คิดว่ามันก็คงจะเป็นอย่างเช่นทุกวัน

อิศเรศทิ้งกายลงไปยังเตียงกว้างโดยปภาพินท์คาดเดาว่าได้เวลาที่เธอจะต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าสาวนางบำเรอแล้วสินะ นั่นเพราะทุกครั้งที่เขาเอนกายลงไปยังเตียงกว้างเธอก็จะต้องทำหน้าที่ของตนเองเหมือนทุกคราว และก็เป็นเช่นที่ว่าเสียด้วยเมื่อเขาออกคำสั่งหลังจากนั้น

“ถอดเสื้อผ้าออกสิ”

     “ค่ะ”

ปภาพินท์ทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่ายด้วยการถอดชุดที่สวมอยู่ออกไปจากกายจนยามนี้เหลือเพียงร่างเปล่าเปลือยเท่านั้น ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายไปแล้วและเริ่มชินกับการไม่สวมเสื้อผ้าต่อหน้าเขาแล้ว

++++++++++++++++++++

บอกเขาว่าไม่ห่วง แต่พอเขาหายไปก็ออกตามหา มันแปลว่าอะไรนะพี่อิฐ ปากแข็งแต่ใจอ่อนใช่ไหม เอ่ย

เอาตอนต่อไปมาแปะให้อ่านต่อค่ะ ว่าเรื่องนี้หวานละนะ ปล้นใจจอมมารหวานกว่าอีก หวานจนมดขึ้นคอมเลยอะไรจะขนาดนี้

เหมือนตอนที่เขียนกลรักบุษบันมดก็ขึ้น เพราะหวานจัดมากกก

พิมพ์ไปก็ต้องไล่มดไปตลอด 555 ตอนนี้ก็ทะยอยแปะให้อ่านเรื่อยๆ ค่ะ แต่ว่าข้าวมีปัญหาตรงบทสวีท บทเลิฟนี่ล่ะค่ะ

เวลาถึงฉากนี้ทีไรจะแบบ ขี้เกียจเขียน ไว้ก่อนละกัน เขายังอยากบู๊ กำลังมันกะการตามหาฆาตกร ยังไม่มีอารมณ์ม้านซ์

สุดท้ายต้องเขียนตอนนิยายปั่นจบแล้ว แบบว่า ถึงไม่มีอารมณ์ก็ต้องเขียนนะยะ ไม่งั้นอดตายนะยะขอบอก

เพราะไม่อยากกินแกลบก็เลยต้องปั่นค่ะ เพราะเลี่ยงมาตั้งแต่ตอนเขียนแล้ว คงเลี่ยงไม่ได้อีก เพราะงั้นที่ข้าวแปะอืดๆ ไม่ใช่อะไรคะ

ยังไม่มีรมณ์เขียนฉากมานซ์ค่ะ ก๊าก แล้วมันก็ติดนิสัยเป็นทุกเรื่องเลยค่ะ บางทีเน็ตก็เดี้ยงเลยพลอยทำอารมณ์ม้านซ์เป็นอยากตบคนเฟ้ย อาการโดนดึงเน็ตนี้อยู่ไหนก็โดนค่ะ เพราะเจ้าของหอป้องกันไม่ได้ เป็นทุกที่ ก็ได้แต่ทำใจค่ะ

แล้วเจอกันพรุ่งนี้กับบ่วงรักจอมมาเฟียค่ะ กำลังมันส์ เป็นฉากที่ข้าวชอบมากได้ทรมานตัวละคะ ยายคนเขียนซาดิสต์สินะ เอิ๊ก

ตัวอย่างตอนต่อไปค่ะ


“อุ๊ย” อิศเรศแกล้งถามอย่างหยอกยั่ว

“ไหนว่าไม่เจ็บไงล่ะแล้วร้องทำไมกัน” เขาจำได้ว่าหญิงสาวบอกตนเองเช่นนี้ทุกคำ

“ไม่เจ็บค่ะแต่แสบมากกว่า”

“เจ็บเท่ากับครั้งแรกของเธอที่เสียตัวให้กับฉันรึเปล่ากัน อย่างไหนเจ็บกว่ากันล่ะ” เขาถามในสิ่งที่ทำเธอเขินอายอย่างมาก

“มันเจ็บคนละแบบกันค่ะ” เจ็บแบบนั้นรู้สึกซ่านหวิว แต่เจ็บที่หกล้มมันแสบผิวไปหมด

“ตอนที่เธอล้างแผลใช้สบู่ล้างด้วยรึเปล่า” ชายหนุ่มถามอย่างคาดเดาพร้อมกับตั้งใจฟัง

“เปล่าค่ะ เห็นว่าไม่เป็นอะไรมากก็เลยใช้แค่น้ำเปล่าล้างอย่างเดียวค่ะ” เธอบอกให้เขาได้ทราบ

“อย่างนั้นต้องล้างด้วยสบู่จะได้ฆ่าเชื้อโรคไปด้วย” เห็นสีหน้าที่ทำท่าแสบผิวแล้วชายหนุ่มจึงบอกอย่างปลอบขวัญ “ทนแสบหน่อยละกัน” 




 

Create Date : 29 เมษายน 2557
0 comments
Last Update : 29 เมษายน 2557 11:27:26 น.
Counter : 1621 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

tonkho-w
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]





โปรโมชั่นพิเศษ
ซีรีย์ กับดักรักมาเฟีย
4 เล่ม เหลือ 900 บาท จาก 1189
ฟรีค่าส่ง




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่
หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด
เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี

สนพ. รัตมาบุ๊คส์
สั่งซื้อหนังสือของต้นข้าวได้นะคะ





users online

มุมผ่อนคลาย
หนัง ฟังเพลง
ฟังเพลงเกาหลี ฟังเพลงละคร ดูหนังซีรีย์
นิตยสาร
ขวัญเรือน แพรว สุดสัปดาห์



)

ช่วยกด Like & Love ให้สนพ. ข้าวหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจปั่นนิยายมาแปะให้ เพื่อนๆ พี่น้องได้อ่านมากๆ ค่ะ



Ebook ทั้งหมดของรัตมา

เจ้าสาวพรางสิทธิ์รัก
รัตมา
www.mebmarket.com
เจ้าสาวพ่ายเล่ห์รัก
รัตมา
www.mebmarket.com
เจ้าสาวจองจำรัก
รัตมา
www.mebmarket.com
ทัณฑ์ร้ายเล่ห์ลวง
รัตมา
www.mebmarket.com
ทัณฑ์ร้ายเชลยรัก
รัตมา
www.mebmarket.com
< /td>
รักร้ายกามเทพ
รัตมา
www.mebmarket.com
มารปรารถนา
รัตมา
www.mebmarket.com
เพลย์บอยล่ารัก
รัตมา
www.mebmarket.com
ภรรยารักสายลับ
รัตมา
www.mebmarket.com
ซีรีย์ หวานตาวายร้าย 1 ภรรยารักสายลับ2 ยอดยาใจสายลับ3 ร้อยกลยอดวายร้าย4 มนต์รักคาสโนว่าภาคต่อ ซีรีย์ กับดักรักมาเฟีย1 อ้อมกอดจอมมาเฟีย2 ร่ายรักจอมมาเฟีย3 ดวงใจจอมมาเฟีย4 บ่วงรักจอมมาเฟีย
SET กับดักรักมาเฟีย ( อ้อมกอดจอมมาเฟีย + ร่ายรักจอมมาเฟีย + ดวงใจจอมมาเฟีย + บ่วงรักจอมมาเฟีย )
รัตมา
www.mebmarket.com
1 อ้อมกอดจอมมาเฟีย2 ร่ายรักจอมมาเฟีย3 ดวงใจจอมมาเฟีย4 บ่วงรักจอมมาเฟีย
SET Love affection ( สิเน่หาพยศรัก + บ่วงรักปรายใจ + สิเน่หาไฟรัก )
รัตมา
www.mebmarket.com
1 สิเน่หาพยศรัก2 บ่วงรักปรายใจ3 สิเน่หาไฟรัก
SET Touch love ( จ้างรักจอมมาร + ปล้นใจจอมมาร )
รัตมา
www.mebmarket.com
1 จ้างรักจอมมาร 2 ปล้นใจจอมมาร
ปล้นใจจอมมาร
รัตมา
www.mebmarket.com
จ้างรักจอมมาร
รัตมา
www.mebmarket.com
สิเน่หาไฟรัก
รัตมา
www.mebmarket.com
/td>


บ่วงรักปรายใจ
รัตมา
www.mebmarket.com

สิเน่หาพยศรัก
รัตมา
www.mebmarket.com

ดวงใจจอมมาเฟีย
รัตมา
www.mebmarket.com
บ่วงรักจอมมาเฟีย
รัตมา
www.mebmarket.com
Flag Counter

stats for every website
Visits Calculator
New Comments
[Add tonkho-w's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com