จ้างรักจอมมาร ตอน ความผิดพลาด
อิศเรศมองตามเรือนร่างระหงเบื้องหน้ามองเห็นว่าที่หัวเข่าทั้งสองด้านของเธอมีรอยบาดแผลอย่างชัดเจน ขณะที่มือใหญ่ก็ถอดเสื้อผ้าของตนเองในลักษณะเดียวกัน เขาถามเธออย่างห่วงใย เจ็บมากรึเปล่า ไม่มากค่ะ เธอโกหกเขา หลังจากที่ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าออกไปจนหมดแล้วเขาก็ช้อนร่างนวลขึ้นมาไว้ในวงแขนก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำหลังจากนั้น โดยมือก็เปิดให้น้ำในอ่างเต็มจนล้น เพียงบาดแผลโดนน้ำปภาพินท์ก็ส่งเสียงสูดปากออกมา อุ๊ย อิศเรศแกล้งถามอย่างหยอกยั่ว ไหนว่าไม่เจ็บไงล่ะแล้วร้องทำไมกัน เขาจำได้ว่าหญิงสาวบอกตนเองเช่นนี้ทุกคำ ไม่เจ็บค่ะแต่แสบมากกว่า เจ็บเท่ากับครั้งแรกของเธอที่เสียตัวให้กับฉันรึเปล่ากัน อย่างไหนเจ็บกว่ากันล่ะ เขาถามในสิ่งที่ทำเธอเขินอายอย่างมาก มันเจ็บคนละแบบกันค่ะ เจ็บแบบนั้นรู้สึกซ่านหวิว แต่เจ็บที่หกล้มมันแสบผิวไปหมด ตอนที่เธอล้างแผลใช้สบู่ล้างด้วยรึเปล่า ชายหนุ่มถามอย่างคาดเดาพร้อมกับตั้งใจฟัง เปล่าค่ะ เห็นว่าไม่เป็นอะไรมากก็เลยใช้แค่น้ำเปล่าล้างอย่างเดียวค่ะ เธอบอกให้เขาได้ทราบ อย่างนั้นต้องล้างด้วยสบู่จะได้ฆ่าเชื้อโรคไปด้วย เห็นสีหน้าที่ทำท่าแสบผิวแล้วชายหนุ่มจึงบอกอย่างปลอบขวัญ ทนแสบหน่อยละกัน ปภาพินท์ก็ตอบรับกลับไปเบาๆ ค่ะคุณอิฐ ชายหนุ่มจัดการเทครีมอาบน้ำใส่ยังมือใหญ่ก่อนจะไล้โลมไปยังร่างนุ่ม พาให้หญิงสาวรู้สึกซ่านหวามไปหมด เกิดมาไม่เคยนอนกับผู้ชายก็ต้องนอนกับเขา ไม่เคยอาบน้ำกับผู้ชายก็ต้องอาบกับเขาทุกวัน แล้วเวลาอาบน้ำก็ไม่เคยที่จะอาบอย่างเดียวหรอก มักมีอย่างอื่นตามมาด้วยตลอด อิศเรศใช้มือคลึงเคล้าไปตามร่างนวลในทุกส่วนที่หลอมรวมเป็นตัวเธอ ซึ่งชายหนุ่มก็จดจำมันได้เป็นอย่าง ทุกส่วนถูกประทับอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นวงหน้าอ่อนหวาน นัยน์ตากลมที่ทอประกายน่ามอง แต่ยามที่อยู่บนเตียงจะเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนและเซ็กซี่อย่างมาก ปลายนิ้วของเขาคลึงเคล้ากับยอดทรวงของเธออย่างชื่นชอบ ขณะที่หญิงสาวก็อาบน้ำให้กับเขาด้วยเช่นกัน มือเรียวก็ไล้โลมไปตามผิวแกร่งไม่ต่างกัน เมื่อทั้งสองผลัดกันอาบน้ำให้แก่กัน โดยปภาพินท์ทรุดกายอยู่บนตักแกร่ง ขาเพรียวเกี่ยวกระหวัดกับสะโพกกำยำบดเบียดความเร่าร้อนกับใจกลางเรือนกายของเธอ พาให้เธอรู้สึกซ่านหวิวไม่หยุดเลย ฝ่ามือใหญ่ลากไล้ฟองไปตามแผ่นท้องเนียนราบและต่ำลงไปมากกว่านั้นทั้งที่แผลของเธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นสักหน่อย ขาเพรียวขยับเข้าหากันเหมือนทุกคราว แต่ก็ไม่อาจที่จะกักกั้นความซุกซนของฝ่ามือใหญ่ไว้ได้ ปภาพินท์ก็โลมเล้าไปตามแผ่นอกกว้างเช่นกันและไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ แต่ก็หยุดตรงเพียงสะโพกแกร่งเหมือนทุกคราว พอมือเรียวจะขยับขึ้นมาก็ถูกเขากุมไว้และบอกให้หญิงสาวเขินอายยิ่งนัก ฉันยังทำความคุ้นเคยกับร่างกายของเธอหมดแล้วเลยปภาพินท์ ทำไมเธอไม่ทำความคุ้นเคยกับร่างกายของฉันบ้างกัน ก็สิ่งที่เขาให้คุ้นเคยเธอยังไม่อยากคุ้นกับมันนี่นา วงหน้านวลหันมองไปทางอื่นเขาจึงรับรู้ว่าหญิงสาวรู้สึกเช่นไร ยังไม่เลิกอายอีกเหรอปภาพินท์ เธอกับฉันไม่ได้นอนด้วยกันครั้งแรกแล้วนะ แต่ว่ารวมเกือบสิบครั้งแล้ว นั่นเพราะเขามักจะมีอะไรกับเธอไม่ต่ำกว่าสองเกมแล้วเวลาอาบน้ำก็อีกหนหนึ่งด้วยเช่นกัน เพียงนึกถึงตรงนี้นัยน์ตาของเธอก็เต็มไปด้วยความตกใจก่อนจะเรียกชื่อเขาออกมาเสียงดัง คุณอิฐคะ อยู่ใกล้ๆ แค่นี้จะตะโกนทำไมกัน อิศเรศย้อนถามเธอกลับไปอย่างไม่เข้าใจ คุณไม่ได้ใช้ไอ้นั่นกับฉันนี่คะเวลาที่อาบน้ำด้วยกัน เพียงได้ยินที่เธอบอกนัยน์ตาของอิศเรศก็เบิกกว้างขึ้นในทันที จริงด้วยสิ แล้วนี่จะเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับฉันรึเปล่ากันคะ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก คงไม่หรอกน่ะ ไม่น่าจะแจ๊กพ็อตขนาดนั้น เขานึกไปในแง่ดี ปภาพินท์กลับไม่คิดเช่นนั้น แล้วถ้ามันแจ็กพ็อตล่ะคะ ฉันจะทำยังไงกัน เพียงนึกถึงว่าตนเองมีอะไรกับอีกฝ่ายตั้งหลายครั้งในห้องน้ำ น้ำตาก็หยาดรินลงมายังแก้มนวลด้วย อิศเรศเห็นเช่นนั้นก็บอกด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ถ้าท้องฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเธอเอง ชายหนุ่มดึงร่างนุ่มเข้ามากอดอย่างแนบแน่น โดยวงหน้านวลแนบซบกับแผงอกกำยำของเขาด้วย นัยน์ตาของปภาพินท์เบิกกว้างด้วยความตกใจอย่างไม่คาดคิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากเขา คุณจะรับผิดชอบฉันอย่างนั้นเหรอคะ เขาก็พยักหน้าตอบรับกลับไป ฉันเป็นลูกผู้ชายพอนะในเมื่อถ้าเด็กเป็นลูกฉันฉันก็ต้องรับผิดชอบสิ นอกซะจากว่าเด็กไม่ใช่ลูกฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เขาเน้นประโยคสุดท้ายให้เธอได้ยินอย่างชัดเจน ปภาพินท์ก็เลยนึกได้ว่ามีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เธอรับรู้ว่าพลาดหรือไม่พลาด ฉันรอตรวจรอบเดือนก่อนละกันค่ะ รอบเดือนเธอจะมาวันไหนกัน เขาทำสีหน้าสงสัยอยากรู้ อาทิตย์หน้าค่ะ ถ้าประจำเดือนมาคุณก็จะได้โล่งใจ และฉันก็จะได้สบายใจที่ไม่มีปัญหาในภายหลัง ลองดูก็ได้ แต่คุณต้องงดที่จะนอนกับฉันนะคะในช่วงนี้ หญิงสาวบอกให้เขาได้ทราบอย่างชัดแจ้ง อิศเรศก็ยอมทำตามที่หญิงสาวบอกด้วยดี ได้ รอให้รู้แน่ชัดก่อนว่าเธอไม่ท้องจริงๆ อย่างนั้นอาบน้ำเถอะค่ะจะได้นอนพักผ่อน โดยปภาพินท์ก็อธิษฐานขออย่าให้ต้องพลาดเลย มือเรียวจัดการหยิบฝักบัวมารินรดไปยังร่างแกร่งให้เป็นอย่างดีเพื่อล้างฟองสบู่ออกไปจากกายกำยำ และอิศเรศก็ล้างฟองสบู่ให้เธอในลักษณะเดียวกัน หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วอิศเรศก็พลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ขณะที่หญิงสาวกำลังจะล้มตัวลงไปนอนบนเตียงนั้นเขาก็เรียกเธอไว้ เดี๋ยวสิปภาพินท์เธอยังนอนไม่ได้ จะให้ฉันทำอะไรเหรอคะคุณอิฐ เธอมองหน้าเขาพร้อมกับย้อนถามอย่างอยากรู้ พอดีฉันเห็นเธอหกล้มก็เลยให้พนักงานที่โรงแรมเอายาใส่แผลมาให้น่ะ ขอบคุณค่ะ มือเรียวเตรียมหยิบยาใส่แผลไปจากมือเขาแต่ชายหนุ่มกลับขันรับอาสาอย่างมีน้ำใจ เดี๋ยวฉันใส่แผลให้เธอเองดีกว่า หากหญิงสาวกลับปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่ายเหมือนทุกครั้ง ไม่เป็นไรค่ะคุณอิฐ ฉันใส่ยาเองก็ได้ค่ะ ฉันใส่ให้น่ะล่ะดีแล้ว ไหนดูหัวเข่าสิ เขาจำได้ว่าเธอบาดเจ็บในบริเวณดังกล่าวทั้งสองด้าน ซึ่งเธอที่เรียนรู้ถึงนิสัยสามีชั่วคราวมาบ้างแล้วว่าถ้าเขาอยากได้อะไรก็จะต้องทำให้ได้ จึงเลิกที่จะโต้เถียงและยินยอมให้อีกฝ่ายใส่แผลให้กับตนเอง อิศเรศก็หยิบสำลีมาจัดการเทยาลงไปและเช็ดไปยังหัวเข่าของปภาพินท์ หญิงสาวก็ทำสีหน้าเจ็บปวด อุ๊ย แสบมากเลยค่ะ แสบจริงๆ พอแล้วไม่เอาแล้ว ใช่เพียงเท่านั้นยังยกหัวเข่าหนีด้วย เล่นเอาคนที่ใส่ยาถึงกลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปภาพินท์ที่กำลังเจ็บเห็นเขาหัวเราะก็ทำท่าไม่พอใจ ขำอะไรคะคุณอิฐ ก็ขำเธอไงล่ะร้องซะลั่นเชียว ก็มันแสบมากนี่คะ ไม่เอาแล้วค่ะไม่ใส่ยาแล้ว หญิงสาวเตรียมลุกขึ้นหนีแต่เขากลับไม่ยอมคว้ามือเรียวไว้อย่างแนบแน่นพลางบอกเหมือนอาจารย์จอมเฮี้ยบอย่างมาก ยังใส่ยาไม่เสร็จเลยนะปภาพินท์ ไม่ใส่แล้วค่ะฉันจะไปนอนแล้วค่ะ เธอทำน้ำเสียงดื้อดึงแต่อิศเรศก็ไม่ยอมเหมือนเช่นเดิม ไม่ได้ต้องใส่ยาให้เสร็จก่อนแล้วค่อยนอน ถ้าไม่ใส่ยาก็ไม่ต้องนอนฉันจะให้เธอออกไปนอนข้างนอกเอาไหม เมื่อเจอคำขู่ปภาพินท์จึงต้องยอมให้เขาใส่แผลก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงประชด ใส่ก็ได้ค่ะ เหมือนเด็กนักเรียนที่ยอมทำตามคำสั่งของอาจารย์จอมดุ อย่างนั้นก็มานั่งที่เดิมเร็วๆ หญิงสาวเดินกลับมานั่งยังเตียงนอนและยกเข่าขึ้นมาให้เขาได้ทาแผลให้ ซึ่งเธอก็กัดฟันด้วยความเจ็บ ชายหนุ่มก็บอกอย่างปลอบใจ เดี๋ยวก็หายปภาพินท์ ทนหน่อยนะ พร้อมกับใช้มือที่ว่างจับไปยังแก้มนวลอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาของปภาพินท์มองไปยังวงหน้าคมรู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดปลอบโยนและสัมผัสบนวงหน้าเรียวจากฝ่ามือใหญ่ของเขาอย่างมาก ซึ่งหลังจากทาแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ไปล้างมือและเตรียมนอน โดยมือใหญ่ก็ดึงร่างนวลเข้ามากอดอย่างแนบแน่นราวกับว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของตนเองไปเสียแล้ว ปภาพินท์เองก็เช่นกันรู้สึกติดกับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขาอย่างมาก จนอดนึกไม่ได้ว่าถ้าต่อไปที่เลิกรากับเขาไปจะรู้สึกยังไงกันนะ จะเหมือนขาดอะไรไปหรือไม่กัน เมื่อทุกวันเคยต้องอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่ายตลอด ไม่ว่าจะเป็นยามหลับ ยามตื่น ยามกิน ยามอาบน้ำ แล้วเพียงครู่ปภาพินท์ก็สลัดความรู้สึกที่ว่าออกไปพลางต่อว่าตนเองที่คิดอะไรไร้สาระอย่างมาก เพ้อเจ้อไปแล้วยายพินท์ เขาก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเท่านั้นล่ะ พอเลิกรากันไปก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เธอมองไปยังวงหน้าคมที่นอนหลับสนิทไปแล้ว ก่อนที่จะพยายามข่มตาให้หลับ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าก่อนที่อิศเรศจะหลับไปนั้นก็คิดไม่ต่างกับเธอเลย เมื่อหญิงสาวเป็นผู้หญิงที่เขาใช้เวลาทั้งหมดอยู่ด้วยมากที่สุด ชายหนุ่มไม่เคยที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับผู้หญิงคนเดียวกันนี้เป็นเวลาหลายวัน ส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนหน้าไปมา ไม่เคยต้องทำอะไรร่วมกับผู้หญิงคนอื่นทุกวัน ทั้งตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว และอยู่ด้วยกันเป็นระยะเวลานาน ได้กอดและมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวทุกคืน จนอิศเรศเริ่มรู้สึกผูกพันกับอีกฝ่าย ถ้าหากว่าหลังจากนี้ไปหนึ่งปีทั้งคู่ต้องแยกกัน เขาจะเหมือนขาดอะไรไปรึเปล่านะ ขาดอะไรกัน บ้าไปแล้ว ก็เหมือนคู่ควงคนอื่นน่ะล่ะ เพียงแต่ว่าเขาต้องอยู่กับอีกฝ่ายมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง เดี๋ยวพอเลิกกันปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็จบลง เขาควรจะสบายใจมากกว่าสิ นัยน์ตาคู่คมทอดไปยังวงหน้านวลที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างกายก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับเพื่อจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่านเหมือนเมื่อครู่นี้ ช่วงสายปภาพินท์กับอิศเรศก็ได้เตรียมตัวไปชมสถานที่ต่างๆ ของประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นสถานที่เธออยากมาเที่ยวอย่างมากมาย โดยตั้งใจว่าปีหน้าจะต้องมาเที่ยวให้ได้ แต่กลับมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมาเสียก่อน และเธอก็ได้มาเที่ยวประเทศแห่งนี้อย่างไม่คาดฝันเพราะพี่นันท์ที่หนีออกไปจากงานแต่งงานเพื่อกลับไปหาคนรักหนุ่มที่ทิ้งตนเองไป ยามนี้เธอยืนอยู่หน้าหอไอเฟล (Eiffel) ลา ตูค์ อิฟเฟล (La Tour Eiffel) ในภาษาฝรั่งเศส หรือ หอไอเฟล ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ นั่นก็คือกุสตาฟ ไอเฟล ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างได้มีผู้เข้าชมสถานที่แห่งนี้กว่าสองร้อยล้านคน ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้ามาชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย ซึ่งไม่ต่างกันกับเวนิซที่อยู่ยังประเทศอิตาลี ที่นี่ก็เช่นกันถ้ามาประเทศฝรั่งเศสแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับหอไอเฟลก็เท่ากับว่ามาไม่ถึงประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส หอไอเฟลเป็นหอคอยที่สร้างด้วยโครงเหล็กสูงถึง 300 เมตร โดยท้องฟ้าในยามนั้นดูสดใสอย่างมาก ปภาพินท์สลัดความเศร้าหม่นหมองออกไปจากใจนั่นเพราะคิดว่าเศร้าไปทุกอย่างมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ครบหนึ่งปีน่ะล่ะ ปัญหาทุกอย่างก็คงจะจบสิ้นลงรวมถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วย สวยจังเลยนะคะอานิภา ปภาพินท์เอ่ยชมเชยสถานที่เบื้องหน้าซึ่งประดับด้วยลานน้ำพุขนาดใหญ่ด้วยความชื่นชอบ ซึ่งทั้งหมดก็ต่างพากันเก็บบรรยากาศที่สดใสและสวยงามไว้ด้วยเช่นกัน ถ้าหนูเห็นตอนกลางคืนน่ะหนูจะชอบมากกว่านี้อีกนะหนูนันท์ หญิงสูงวัยตอบให้เธอได้ทราบ ผู้เป็นสามีก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ใช่เลย ตอนกลางคืนจะเปิดไฟไปทั่ว บรรยากาศโรแมนติกมากๆ เหมาะกับคู่รักแบบเราทั้งหมดทีเดียว ตอนที่อาสองคนมาถึงที่นี่ก็มืดแล้วล่ะเลยได้เห็นหอไอเฟลตอนกลางคืน ถ้าเกิดว่าตาอิฐกับหนูนันท์มีโอกาสก็ลองกลับมาที่นี่อีกสิ จะได้เห็นหอไอเฟลตอนกลางคืนแบบอาทั้งสองคน ได้ยินคำว่าคู่รัก สามีและภรรยากำมะลอต่างมองหน้ากันและกัน นั่นเพราะรับรู้ว่าคำๆ นี้ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน ขนาดคู่รักยังเป็นไม่ได้ และการที่จะหวนกลับมาอีกรอบหนึ่งก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เดี๋ยวอาจะพาไปดูมุมที่คนชอบไปถ่ายรูปหอไอเฟล นั่นไงล่ะลานกว้างๆ ตรงนั้น ชาลีชี้ไปยังบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวไปยืนโพสท่าถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน
โดยเป็นจุดถ่ายรูปซึ่งดีที่สุด นั่นก็คือลานหน้าปราสาท Palais de Chaillot ใกล้ๆ กับสถานี Trocadéro เมื่ออิศเรศเก็บภาพทางเบื้องหลังก็พบว่ามองเห็นแต่หอไอเฟลแบบเต็มจอ และไม่มีต้นไม้หรือเสาไฟฟ้ามาบังให้ต้องเสียบรรยากาศเลย จริงด้วยครับเป็นมุมถ่ายรูปหอไอเฟลที่สวยมาก เมื่อนิภามองเห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นกระโดดพร้อมกันก็หันไปบอกกับสามี นี่ถ้าตอนเรายังหนุ่มยังสาวก็พอกระโดดไหวนะคะ แต่ว่าตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว สามีก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย นั่นสิ ตาอิฐกับตาหนูนันท์น่ะ ลองทำท่าตามเขาสิ เดี๋ยวให้อาชาลีถ่ายให้ มีภาพแปลกๆ บ้างก็ดีนะเดี๋ยวแก่ไปแล้วอยากทำก็ทำไม่ได้แบบอาทั้งสองคน พลางหันไปยังหนุ่มสาวที่มาในทริปเดียวกัน ก็ดีครับคุณอาผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรสนุกสนานอย่างนี้มานานแล้ว อย่างนั้นอานับหนึ่งสองสามแล้วกระโดดพร้อมกันเลยนะ โดยทั้งสองต่างตั้งท่าเตรียมกระโดด ซึ่งเมื่อตากล้องนับเลข หนึ่ง สอง สาม ทั้งคู่ก็กระโดดขึ้นมาพร้อมกัน ซึ่งชาลีก็ทำหน้าที่บันทึกภาพนั้นในทันที หลังจากที่กระโดดลงมายังเบื้องล่างทั้งสองต่างหัวเราะอย่างชอบใจด้วยความสนุกสนาน หลังจากนั้นทั้งหมดก็พากันไปชมพิพิธภัณฑ์ลูฟ (Louvre museum) ออกแบบโดย ไอ เอ็ม เป สถาปนิกชาวจีนและ อเมริกัน เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตร ภายในบรรจุด้วยงานศิลป์ อายุยาวนานกว่า 11 ศตวรรษ จำนวนประมาณ 380,000 ชิ้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนผลงานที่เยอะทีเดียว จะมีทั้งรูปปั้น ภาพวาด และทั้งหมดก็ได้พบกับรูปปั้นผลงานของ ไมเคิล แองเจโร ทุกคนก็ไปยืนโพสท่ากับรูปปั้นดังกล่าวและรูปปั้นอื่นๆ บรรยากาศภายในไม่อึดอัดนั่นเพราะมีคนไม่มากเท่าใดนัก กระทั่งเดินมาถึงบริเวณที่โชว์รูปปั้นวีนัส เทพธิดาแห่งความรัก โดยมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อะโฟรไดต์ ซึ่งอยู่ในตำนานของกรีก และมีตำนานเล่าว่า เป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของเทพวีนัส ได้กล่าวไว้ว่าน้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับอคอนิสคนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้น แล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบน่ะเอง รูปปั้นวีนัสในพิพิธภัณฑ์ลูฟ ได้ถูกขนานนามว่าเป็นรูปปั้นที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งรูปที่ผู้คนต่างพากันเบียดเสียดเข้าไปถ่ายรูปกันมากที่สุดก็คือภาพของโมนาลิซ่า ปภาพินท์กับอิศเรศก็เบียดคนเข้าไปด้านในเพื่อจะถ่ายภาพดังกล่าวเช่นกัน ภาพโมนาลิซ่านี้ถูกวาดโดย ดา วินซี ตั้งแต่ ปี 2046 ถึง พ.ศ. 2050 ใช้เวลาในการวาดนาน 4 ปี เป็นภาพที่ทั่วโลกรู้จักกันดี ในฐานะสุภาพสตรีที่มีรอยยิ้มอันเป็นปริศนา ที่ไม่รู้ว่าเธอจะยิ้ม หัวเราะ หรือว่าร้องไห้ นอกจากภายในจะมีรูปปั้นแล้วทางด้านนอกก็มีเช่นเดียวกัน ++++++++++++ พาเที่ยวต่อค่ะพร้อมลุ้นไปกับความรักกำมะลอว่าจะเป็นยังไงต่อไปค่ะ ตัวอย่างตอนต่อไปค่ะ
อย่าลืมทำหน้าที่ของเธอด้วยนะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันรู้หน้าที่ของฉันดีพอ ชายหนุ่มยิ้มด้วยความพึงพอใจพร้อมกับโอบร่างนุ่มยังเอวเล็กบอกด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอแทบอยากจะกระชากคำพูดเมื่อครู่นี้กลับมาเสียจริง ฉันก็ลืมไปว่าเธอเป็นคนรับผิดชอบในคำพูดอยู่แล้ว โดยเฉพาะหน้าที่บนเตียง แต่ถ้าจะให้เพอร์เฟคล่ะก็เธอต้องทำให้ฉันเร่าร้อนมากกว่านี้รู้ไหม ที่ทำหน้าที่อยู่น่ะมันยังไม่เท่าไรเลย นัยน์ตากลมที่ประดับด้วยขนตางอนงามมองจ้องเขาอย่างแวววาวและบอกให้ชายหนุ่มได้รับรู้ชัดเจน ฉันไม่ใช่โสเภณีมืออาชีพค่ะถ้าคุณอยากได้แบบเร่าร้อนกว่านั้นก็ไปเที่ยวซ่องแทนละกันค่ะ หลังจากนั้นปภาพินท์ก็เตรียมที่จะเดินเข้าบ้านหลังใหญ่ ได้ยินคำพูดที่เธอตอกกลับมาอิศเรศก็ก้าวตามไปและรั้งร่างระหงมาปะทะแผงอกแกร่ง ก่อนจะตอกให้เธอต้องรู้สึกแย่เหมือนทุกคราว ปากดีนักนะปภาพินท์แบบนี้ต้องจูบสั่งสอนสักหน่อยแล้ว หญิงสาวพยายามเบี่ยงวงหน้าหลบและบอกให้อีกฝ่ายรับฟังตนเอง คุณอย่ามาทำอะไรประเจิดประเจ้อนะคะคุณอิฐ จะทำแล้วถ้าเธอปากดียอกย้อนเก่งกับฉันอีกล่ะก็ฉันจะทำมากกว่าจูบ +++++++++++ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาแปะปล้นใจจอมมารให้อ่านต่อนะคะ
Create Date : 01 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2557 9:48:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2909 Pageviews. |
|
|