จ้างรักจอมมาร ตอน วิวาห์ (แสน) ไม่หวาน
เรื่องนี้จะพยายามเขียนออกให้ทันในงานหนังสือนะคะ ตอนนี้กำลังเร่งปั่นตับแล่บเลยค่ะ
ภายในงานแต่งงานอันแสนหวานซึ่งใครๆ ต่างพากันชื่นชมว่าเป็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ดูเหมาะสมกันยิ่งนัก เมื่อนักธุรกิจชื่อดังในวงการอสังหาริมทรัพย์ นั่นก็คือหลานชายคนโตของตระกูล กฤตนัยวรภัทร ไฮโซหนุ่มซึ่งเป็นที่รู้จักของแวดวงผู้มีเงิน ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม KP หรือบ้านพัก KP หลายแห่งคือธุรกิจของตระกูล กฤตนัยวรภัทร ซึ่งคืนนี้สาวๆ หลายคนก็พากันอกเดาะเป็นแถว เมื่อทายาทรูปหล่อเตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับลูกสาวข้าราชการยศใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนเก่า นั่นก็คือครอบครัวรมณียากร โดยเจ้าสาวคือบุตรสาวคนโตของตระกูล รมณียากร ผู้ซึ่งมีใบหน้าสวยงามราวกับภาพวาดของวรรณคดีที่ดูเรียบร้อยอ่อนหวาน เหมาะสมและคู่ควรที่จะเป็นเจ้าสาวยืนเคียงข้างนักธุรกิจหนุ่มสุดหล่อที่มีอนาคตไกล โดยทั้งสองมีโครงการว่าหลังจากแต่งงานกันแล้วจะไปฮันนีมูนยังสามประเทศ นั่นก็คือ อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ และ ฝรั่งเศส ช่างเป็นแผนการที่สวยหรูเสียจริงจนน่าอิจฉายิ่งนัก โดยเจ้าบ่าวกำลังยืนยิ้มด้วยความยินดีภายในโรงแรมหรูกลางใจเมืองกรุงเทพฯ อิศเรศ กฤตนัยวรภัทร ชายหนุ่มวงหน้าหล่อคมสันอันมีเสน่ห์ ซึ่งเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ หลายคนเมื่อได้พบกับร่างสูงโปร่งที่ดูสง่าและเท่อย่างน่ามอง กับนัยน์ตาชวนฝันที่ทำเอาผู้หญิงต่างพากันละเมอเพ้อพกเก็บเอาไปคิดถึง เพียงได้สบกับนัยน์ตาที่คมราวเหยี่ยว ซึ่งขนานไปกับคิ้วเข้มทั้งสอง กับจอนที่ยาวข้างแก้มซึ่งสร้างความคมเข้มให้กับผู้เป็นเจ้าของอย่างมากมาย ยามนี้เขาอยู่ในชุดสูทสะอาดตาแบบทักสิโด้สีขาวมองดูแล้วช่างเหมือนเจ้าชายเสียจริง เขายืนอยู่ในงานที่ยังไม่เริ่มขึ้น และไม่ได้รู้สึกแย่เลยกับสิ่งที่ตนเองกระทำ นั่นก็คือการยอมให้ครอบครัวเป็นผู้สรรหาคู่ครองให้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนยอมหรอก แต่ทว่าแม้เขาจะไม่ได้เป็นผู้เลือกเจ้าสาวด้วยตนเองแต่จากที่ชายหนุ่มคบหา สนิทสนมและพูดคุยด้วย ปภานัน รมณียากรก็ไม่ได้ดูแย่อะไรมากเลย ผิดคาดกลับเป็นหญิงสาวที่สวยและมีชาติตระกูลที่ดีมากเช่นกัน เมื่อครอบครัวของเธอเป็นข้าราชการระดับสูง เพราะความที่รักครอบครัวมากจึงตามใจผู้ใหญ่ และไม่คัดค้านเมื่อครอบครัวบอกว่าจะขอเป็นคนเลือกภรรยาให้เขาเอง อิศเรศก็ยินดีด้วยความเต็มใจ เพียงได้เห็นใบหน้านวลก็สร้างความประทับใจให้กับเขาอย่างมาก โดยเฉพาะรอยยิ้มที่แสนอ่อนหวาน คล้ายว่าจะทำให้โลกเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นในทันใด ไม่อยากเชื่อว่าแค่เพียงเห็นใบหน้าจากรูปถ่ายก็ทำให้เขาชื่นชอบได้มากถึงเพียงนี้ คุณปู่กับคุณย่าของเขาเข้าใจเลือกผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาให้เขามากทีเดียว ถ้าให้ชายหนุ่มหาเองอาจจะไม่สวยมากเท่านี้ ซึ่งฝ่ายหญิงก็มีลักษณะเหมือนเขาคือไม่ปฏิเสธที่ครอบครัวจะให้แต่งงานด้วยกัน ยามนี้เขากำลังรอดูความสวยงามของเธอเมื่ออยู่ในชุดเจ้าสาวแสนสวย และกำลังแต่งตัวอยู่บนห้องชั้นบนเพื่อเตรียมลงมาเข้าพิธีวิวาห์กับอิศเรศ โดยทางด้านนอกยังห้องแต่งตัวชั้นบนของโรงแรมหรู คุณดวงทิวามารดาของเจ้าสาวก็เดินไปดูว่าบุตรสาวของตนเองแต่งตัวไปถึงไหนแล้ว มือเคาะบานประตูของทางโรงแรมเพื่อส่งเสียงให้คนด้านในรับรู้ ก๊อก... แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ออกมาเลย จึงทำสีหน้าประหลาดใจก่อนจะผลักบานประตูเข้าไปก็เห็นว่าภายในห้องไม่มีคนอยู่เลย ยายนันท์อยู่ในห้องนี้รึเปล่าน่ะ พลางกวาดตามองหาลูกสาวของตนเอง แต่ก็ไม่พบซึ่งในห้องน้ำก็ไม่มีเช่นกัน ยายนันท์ไปไหนนะ แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวออกไปนั้นก็พลันเห็นแผ่นกระดาษใบหนึ่งวางอยู่ทางหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงทิวาจึงหยิบขึ้นมาอ่าน นันท์ขอโทษด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่ นันท์คงแต่งงานกับคุณอิศเรศไม่ได้แล้วค่ะ เพราะว่านันท์จะกลับไปหาคนรักของนันท์ค่ะ ปภานันท์ ดวงทิวาตกใจอย่างมากหลังจากที่อ่านข้อความบนแผ่นกระดาษจบแล้ว ก็รีบก้าวออกมาจากห้องทันทีแล้วลงไปยังชั้นล่างซึ่งเตรียมที่จะจัดงานสำหรับค่ำคืนนี้ โดยสามีก็กำลังต้อนรับแขกที่ทยอยพากันเข้าไปในงาน เธอรีบเดินไปหาเขาโดยเร็ว พร้อมกับใช้มือจับไปยังแขนของอีกฝ่ายด้วย คุณคะเชิญทางนี้หน่อยค่ะ สามีจึงหันไปบอกกับแขกเหรื่อที่เข้ามาในงาน ขอตัวสักครู่นะครับ หลังจากนั้นจึงเดินไปหาภรรยา มีอะไรเหรอคุณดวง ปองภพถามภรรยาด้วยสีหน้าสงสัย เมื่ออยู่ไกลจากคนอื่นแล้วเธอจึงบอกให้สามีได้ทราบด้วยการกระซิบ ยายนันท์หายตัวไปค่ะคุณ เพียงได้ยินสามีก็ตะโกนออกมาอย่างลืมตัว อะไรนะยายนันท์หายตัวไปอย่างนั้นเหรอ เบาๆ สิคะคุณเดี๋ยวคนก็รู้พอดีหรอกค่ะ เธอปรามปองภพด้วยการยกนิ้วขึ้นมายังปากของตนเอง หาดีแล้วเหรอคุณ ยายนันท์คงจะเดินอยู่ในโรงแรมนี่ล่ะ ยังคงมองเหตุการณ์ในแง่ดี เป็นช่วงเดียวกับที่ปภาพินท์ หญิงสาววงหน้าเรียว นัยน์ตากลมโต ปล่อยเส้นผมยาวละลงมายังแผ่นหลังนวลเนียน โดยเธออยู่ในชุดราตรีสีฟ้าเกาะอกแบบสดใส พี่นันท์แต่งตัวเสร็จรึยังคะคุณแม่ นั่นเพราะเมื่อครู่มารดาบอกว่าจะไปดูพี่สาวยังห้องชั้นบนน่ะเอง เสร็จอะไรกันล่ะยายนันท์น่ะหายตัวไปแล้ว พี่นันท์หายไปแล้ว เธอทวนประโยคของมารดาซ้ำอีกคราวหนึ่งด้วยความตกใจ สงสัยคงจะกลับไปหาไอ้กระจอกนั่นล่ะมั้ง ดูข้อความที่มันเขียนไว้สิน้ำเน่ามากขนาดไหน จะกลับไปหาคนรัก ทั้งที่มันทิ้งไปแล้วก็ยังจะกลับไปหามันอีกน่ะ ดวงทิวาบอกด้วยน้ำเสียงเข่นเขี้ยว พร้อมกับส่งแผ่นกระดาษในมือให้สามี อีกฝ่ายอ่านตัวอักษรบนนั้นด้วยสีหน้าที่แสดงความโมโหอย่างมาก นังลูกไม่รักดี มือของนายปองภพขยำแผ่นกระดาษในมือแล้วปาลงพื้น ดวงทิวาก็ร้องออกมา ทิ้งตรงนี้ได้ยังไงกันคะคุณ เดี๋ยวก็มีคนมาเจอหรอกค่ะ ปภาพินท์หยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาอ่านก่อนจะย้อนถามบุพการีของตนเองหลังจากนั้น แล้วจะทำยังไงล่ะคะคุณพ่อคุณแม่ ก็คงต้องบอกให้ตาอิฐรู้ เราน่ะไปบอกตาอิฐให้หน่อยว่ายายนันท์หายไป ปองภพสั่งลูกสาวคนเล็กเธอจึงตอบรับกลับไปเบาๆ ค่ะคุณพ่อ เมื่ออิศเรศมองเห็นหญิงสาวซึ่งมีใบหน้าเหมือนเจ้าสาวตนเองอย่างมากก็ถามกลับไปด้วยความอยากรู้ พร้อมกับส่งรอยยิ้มมอบให้เธอด้วย คุณนันท์แต่งตัวใกล้เสร็จรึยังคุณพินท์ เรื่องนี้ล่ะค่ะที่ฉันต้องมาหาคุณ เชิญคุณอิฐทางนี้หน่อยได้ไหมคะ คิ้วเข้มขมวดเข้ามาชนกันด้วยความประหลาดใจยิ่งนัก มีอะไรเหรอคุณพินท์ สำหรับน้องสาวของคู่หมั้นตนเองเป็นผู้หญิงที่เหมือนว่าฝาแฝดคนน้องไม่อยากที่จะเหมือนพี่สาว จึงทำตัวให้แตกต่างแต่ต่างกันในทางที่แย่อย่างมาก ทั้งการศึกษาและหน้าที่การงาน ซึ่งเธอเรียนจบทางด้านคหกรรมเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผ้า เรียนจบมาแบบเกรดสองกว่าเท่านั้น ส่วนพี่สาวเรียนจบปริญญาโทมาจากต่างประเทศและยังได้เกียรตินิยมอีกด้วย แถมยังทำงานบริษัทใหญ่ที่มีความก้าวหน้ามากกว่า ซึ่งน้องสาวเป็นเพียงลูกจ้างร้านตัดเสื้อผ้าเท่านั้น เมื่อมีข้อเปรียบเทียบขนาดนี้คุณพ่อคุณแม่ของเขาจึงเลือกผู้เป็นพี่สาวที่ดูจะเพอร์เฟ็คมากกว่า เขาเดินตามเธอไปยังบริเวณที่ไม่มีคน ครั้นเห็นว่าคงไม่มีใครมาได้ยินในสิ่งที่ตนเองพูดเธอจึงบอกให้เขาได้รับรู้ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ พี่นันท์หายตัวไปค่ะ คุณนันท์หายไปอย่างนั้นเหรอ แล้วหายไปได้ยังไงกัน อิศเรศทำสีหน้าสงสัย วงหน้านวลส่ายไปมา พี่นันท์ทิ้งจดหมายไว้ค่ะ เธอส่งแผ่นกระดาษในมือที่ถูกบิดาขยำส่งไปให้กับอีกฝ่าย ชายหนุ่มก็หยิบไปอ่านโดยเร็ว นันท์ขอโทษด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่ นันท์คงแต่งงานกับคุณอิศเรศไม่ได้แล้วค่ะ เพราะว่านันท์จะกลับไปหาคนรักของนันท์ค่ะ ปภานันท์ ครั้นอ่านจบวงหน้าคมก็ขบกรามจนแก้มเกร็งไปหมดพร้อมกับที่แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวเมื่อได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานของตนเอง นี่พี่สาวของเธอมีคนรักแล้วอย่างนั้นเหรอแล้วมาตกลงแต่งงานกับฉันทำไมกัน เพียงรับรู้ว่าอีกฝ่ายหายไปไหนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโมโหอย่างมาก มือใหญ่กำหมัดแน่นเมื่อทราบว่าตนเองโดนหลอก ซึ่งสรรพนามที่เรียกอีกฝ่ายด้วยความสนิทสนมแบบเป็นกันเองก็เปลี่ยนไปทันที พี่นันท์เลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้วนะคะ เธอชี้แจงให้เขาได้ทราบอย่างเบาๆ นั่นเพราะว่าพี่สาวของเธอกลับมาเมื่อปีที่แล้วด้วยใบหน้าที่แย่อย่างมากและบอกว่าผู้ชายที่รักทิ้งตนเองไปแล้ว ประจวบกับที่บิดาพูดเรื่องแต่งงานขึ้นมาว่าครอบครัวของเพื่อนตนเองอยากให้ลูกชายแต่งงานกับปภานันท์ผู้เป็นลูกสาวคนโตแทนโดยไม่ต้องใช้หนี้ที่ยืมไปถือว่าเป็นค่าสินสอดในการแต่งงาน เพียงรับรู้เช่นนั้นบิดากับมารดาก็พึงพอใจอย่างมาก ซึ่งพี่นันท์ก็ยอมรับปากที่จะแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนบิดาด้วยดี แต่เธอแย้งทั้งสองคนว่าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้มาก หากทั้งสองก็ยังยืนยันที่จะให้พี่นันท์แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนที่ชื่ออิศเรศ และบอกว่าเจ้าชู้ก็ไม่เป็นไรขอให้รวยมากเป็นพอ โดยพี่สาวก็ทำตามที่บุพการีบอกอย่างไม่โต้แย้ง แต่อยู่ๆ กลับมาหายตัวไปในงานแต่งงานแทนเสียนั่น ขอถามหน่อยเถอะว่าผู้ชายที่เป็นคนรักของพี่สาวเธอน่ะเป็นแฟนหรือว่าเป็นผัวกัน เขาใช้วาจาหยาบคายอย่างไม่ออมคำ เป็นแฟนค่ะ แล้วคุณจะทำยังไงต่อคะในเมื่อพี่นันท์หายไปจากงานแต่งงานอย่างนี้แล้ว คงต้องยกเลิกงานแต่งแล้วล่ะค่ะ เธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าพี่สาวฝาแฝดจะทิ้งงานไปเช่นนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเป็นแฟน นี่ครอบครัวเธอเอาพี่สาวมาย้อมแมวให้ฉันสินะ น่ารังเกียจที่สุด แต่ฉันก็ไม่มีวันยอมให้งานแต่งงานวันนี้ล่มอย่างเด็ดขาด แล้วคุณจะทำยังไงคะ ในเมื่อไม่มีเจ้าสาวในงานแต่งแล้ว ปภาพินท์ก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกับเขาถ้าหากได้รู้ความจริงนี้ว่าพี่สาวเธอเลิกกับคนรักแล้วก็มาแต่งงานกับตนเองเพื่อประชด แต่แล้วก็กลับไปหาคนรักเก่าอีก อิศเรศทำท่าครุ่นคิดด้วยสีหน้าเครียด แล้วพลันก็นึกออกว่าจะทำเช่นไรเมื่อนัยน์ตาคู่คมมองไปยังวงหน้านวลที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะบอกอย่างตัดสินใจออกไป เธอไงล่ะจะต้องเป็นเจ้าสาวแทนพี่สาว นัยน์ตากลมโตของปภาพินท์เบิกกว้างก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเสียงดัง อะไรนะคะคุณจะให้ฉันเป็นเจ้าสาวแทนพี่นันท์อย่างนั้นเหรอคะ เบาๆ หน่อยได้ไหม อยากจะฉีกหน้าฉันกับครอบครัวมากเลยรึไงกัน เขาทำเสียงดุใส่ด้วยแววตากร้าว ซึ่งหญิงสาวไม่เห็นด้วยกับความคิดเขา ฉันว่าคุณใช้วิธีอื่นดีกว่าค่ะ วิธีนี้ฉันไม่เอาด้วยหรอก เธอส่ายหน้าปฏิเสธในทันที อิศเรศบีบไปยังข้อมือเล็กโดยแรงและบอกอย่างนัยน์ตาข่มขู่ ฉันก็ไม่ยอมอับอายเพราะพี่สาวเธออย่างเด็ดขาดเหมือนกันที่แล่นไปหาผู้ชายในวันแต่งงาน พ่อแม่เธอจับพี่สาวเธอมาใส่ตะกร้าล้างน้ำให้ฉันรึไงกัน มั่วจนท้องรึเปล่าเลยมายัดเยียดให้ผู้ชายหน้าโง่อย่างฉันน่ะ แต่อาจจะคิดถึงผัวเก่าขึ้นมาก็เลยหนีงานแต่งแล้วทิ้งความอับอายไว้ให้คนอื่นแทน ชายหนุ่มพูดจาดูถูกผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของตนเองอย่างไม่ให้เกียรติ ได้ยินดังนั้นปภาพินท์ก็ยกมือตบไปยังวงหน้าคมโดยแรง เพียะ! ด้วยความโมโห คุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกครอบครัวของฉันนะ นัยน์ตาที่เขียนไว้อย่างดีมองจ้องเขาอย่างไม่ชื่นชอบ ชายหนุ่มจึงหัวเราะหยันใส่ก่อนจะจ้องไปยังร่างนวลที่อยู่เบื้องหน้าแบบประเมินการณ์ไม่ต่างกัน ทำไมฉันจะดูถูกไม่ได้ก็เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็บอกอยู่แล้วว่าครอบครัวของเธอมันเป็นยังไง ถ้าไม่อยากให้ฉันประจานครอบครัวเธอให้อับอายว่าขายลูกสาวกินเพราะท้องโย้หาพ่อไม่ได้แล้วก็เพื่อเป็นการใช้หนี้แทนล่ะก็ เธอทำตามที่ฉันบอกดีกว่าปภาพินท์ ชายหนุ่มเรียกชื่อของหญิงสาวอย่างชัดเจน โดยมือก็ยังไม่ปล่อยแขนเล็ก เล่นเอาข้อมือของเธอจะหักให้ได้ทีเดียว นัยน์ตาของเขาสบกับดวงตาที่สวยซึ้ง เธอยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดมันถูกต้อง ปองภพซึ่งเป็นบิดาของตนเองได้ยืมเงินไปจากครอบครัวของเขาโดยคุณพงศ์พันธ์และคุณบุษรายื่นข้อเสนอว่าอยากจะได้พี่นันท์เป็นเจ้าสาวของลูกชายคนโต ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่โต้แย้งอะไรกลับยินดีเสียด้วยที่ไม่ต้องหาเงินมาชดใช้หนี้ และเขาก็ถูกใจพี่สาวของตนเองยอมที่จะทำตามคำขอของครอบครัวด้วยการแต่งงานกับปภานันท์พี่สาวของเธอ อิศเรศย้อนถามหญิงสาวกลับมาอีกคราวหนึ่ง มีใครรู้เรื่องนี้รึเปล่า มีฉันแล้วก็คุณพ่อคุณแม่ที่รู้ค่ะ เธอบอกให้เขาได้ทราบหลังจากนั้น พ่อแม่เธออยู่ไหนพาฉันไปหาเดี๋ยวนี้เลย ปภาพินท์พาเขาขึ้นไปยังห้องแต่งตัวชั้นบนของโรงแรมโดยลิฟท์ โดยภายในลิฟท์เต็มไปด้วยความเงียบนั่นเพราะว่าไม่มีใครพูดอะไรเลย เธอมองไปยังข้อมือที่ถูกเขาบีบเมื่อครู่นี้ ซึ่งเป็นรอยแดงอย่างเด่นชัด สีหน้าของอิศเรศเต็มไปด้วยความโกรธอย่างมาก ไม่คิดเลยว่างานแต่งงานของตนเองมันจะเจอปัญหาบ้าๆ อย่างนี้ ครั้นบานประตูของโรงแรมซึ่งเป็นห้องแต่งตัวเปิดออก โดยภายในนั้นคุณปองภพกับคุณดวงทิวาก็ยืนอยู่ด้านใน เมื่อเห็นลูกสาวเดินกลับมาก็ถามด้วยความอยากรู้อย่างน้ำเสียงที่เร่งร้อน เป็นยังไงบ้างยายพินท์คุณอิศเรศจะทำยังไงต่อไป ทุกอย่างจะยังคงเป็นเหมือนเดิม และปภาพินท์จะต้องเป็นเจ้าสาวในคืนนี้แทน อิศเรศบอกถึงความต้องการของตนเองออกไป ครั้นได้ยินผู้เป็นพ่อก็พลันนึกออกไม่ต่างกัน จริงสินะยายพินท์ก็หน้าตาเหมือนยายนันท์คงไม่มีใครรู้หรอกว่าเป็นคนเดียวกัน ช่วยพ่อกับแม่หน่อยนะลูก ทั้งสองท่านขอร้องลูกสาวคนเล็ก เพราะมีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ถ้าเธอไม่ช่วยฉันจะทวงเงินจากพ่อแม่เธอให้หมดรวมทั้งค่าเสียหายที่ครอบครัวของฉันต้องขายหน้าเพราะพี่สาวที่ไร้ยางอายของเธอด้วยว่ายังไงล่ะเธอจะยอมทำตามรึเปล่า อิศเรศเอ่ยอย่างคาดคั้นหญิงสาวเบื้องหน้า ยายพินท์ทำตามที่คุณอิฐบอกเถอะนะ ถ้าใครรู้เรื่องนี้ล่ะก็พ่อกับแม่ก็คงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ใช่ลูกยายนันท์น่ะเป็นลูกที่ไม่รักดี แต่ลูกช่วยพ่อกับแม่ได้ ครั้นได้ยินประโยคดังกล่าวจากบุพการีทำให้ปภาพินท์จำต้องทำตามที่เขาบอก เธอไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู ตกลงค่ะพินท์จะยอมทำตามที่คุณอิฐบอก ก็แค่นั้นทำมากเรื่องไปได้ +++++++++++++ โอ้คุณอิฐปากร้ายแล้วก็ใจร้ายกะครอบครัวนางเอกมากเลย แล้วอย่างนี้หลังจากแต่งงานไปแล้วจะเป็นยังไงนะ มาเตรียมลุ้นกันต่อไปค่ะ
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2557 11:47:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1336 Pageviews. |
|
|