จ้างรักจอมมาร ตอน หวงและหึง
มือใหญ่สอดแทรกไปยังเส้นผมนุ่มยังบริเวณท้ายทอยซึ่งปล่อยเส้นผมนุ่มลงมาเคลียคลอยังแผ่นหลังนวลเนียน โดยในตอนแรกเธอก็ดิ้นและต่อนต้าน แต่เพียงครู่ปภาพินท์ก็โอนอ่อนผ่อนตามไปกับเขาทุกอย่าง ช่างน่าอายสิ้นดีทำไมจะต้องแพ้ทางจูบเขาตลอดกันนะ พลางนึกด้วยความโมโหขุ่นเคืองตนเองยิ่งนัก มือเรียวที่ผลักไสก็เปลี่ยนเป็นจิกไปยังบ่ากว้างทั้งยังเงยหน้ายอมรับจูบที่เขามอบให้แต่โดยดี รื่นซึ่งเห็นอิศเรศกับปภาพินท์เดินเข้ามาก็เตรียมที่จะไปช่วยยกของ แต่ก็พลันตกตะลึงกับภาพเบื้องหน้าเผลออุทานออกมาที่ตนเองดันมาไม่ถูกจังหวะ อุ๊ย อิศเรศผละร่างแกร่งออกมาจากวงหน้านวลและบอกอย่างยั่วเย้าเธอเล่นทั้งที่ใบหน้านวลไม่ได้รู้สึกอารมณ์ดีไปกับเขาด้วยเลย อย่าขยันยั่วให้ผมจูบบ่อยนักสินันท์จ๋า ประเดี๋ยวรื่นจะกลายเป็นตากุ้งยิงทุกวัน คุณอิฐกับคุณนันท์เนี่ยหวานกันไม่เลิกเลยนะคะ ขนาดว่าไปฮันนีมูนกันมาเป็นอาทิตย์ก็ยังหวานกันอยู่เลย รื่นเอ่ยอย่างชมชอบเจ้านายกับภรรยาของอีกฝ่าย ก็คุณนันท์เขาน่ารักนี่รื่นเอาใจฉันแทบไม่หยุดเลย จะไม่ให้ฉันหลงเสน่ห์มากได้ยังไงกันล่ะ ทุกคำพูดที่เขาเอ่ยออกมานั้นโกหกสิ้นดี เดี๋ยวรื่นช่วยยกของเข้าไปในบ้านด้วยนะ แล้วเขาก็อุ้มร่างนุ่มขึ้นมาไว้ในวงแขนโดยที่ปภาพินท์ไม่ทันตั้งตัวเธอหันไปทำสีหน้าไม่ชอบใจใส่สามีกำมะลอของตนเอง คุณอิฐคุณจะทำอะไรคะ ฉันไม่ชอบมีเมียเป็นตุ๊กตาไขลานถ้าเธอไม่พูดหวานกับฉันก็ไม่ต้องลงหรอก อีกอย่างหนึ่งตอนที่อยู่ต่างประเทศน่ะมีฉันคนเดียวที่เป็นฝ่ายหวานกับเธอ แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ที่บ้านเธอจะต้องทำเป็นหวานกับฉันแทนไม่อย่างนั้นถ้าฉันทำอะไรมากกว่าจูบต่อหน้าคนอื่นฉันก็ไม่รับรู้ด้วยหรอกนะ คนกำลังอารมณ์เครียดจะให้มาทำหน้าระรื่นใส่เขาเนี่ยนะ อิศเรศเกิดอาการเข่นเขี้ยวภรรยาปลอมของตนเอง เมื่อเธออยู่ต่อหน้าคุณอานิภากับคุณอาชาลีก็ได้แต่ยิ้มเพียงอย่างเดียว ส่วนบทสวีทนั้นมีแต่เขาคนเดียวที่ต้องเล่น แต่เมื่อกลับมาที่บ้านเขาจะต้องให้อีกฝ่ายเล่นบทนี้บ้าง คุณอิฐคะ อย่าเล่นสิคะ ฉันอายนะคะ เธอต่อว่าเขากลายๆ พร้อมกับใบหน้าที่แดงซ่านเมื่อเขาเล่นทำอะไรประเจิดประเจ้อหลายครา ก็ใครใช้ให้คุณพูดจายั่วโมโหผมล่ะ ฉันยอมหอมแก้มคุณก็ได้ค่ะ เธอบอกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกของตนเองความจริงอยากจะกัดหูเขามากกว่าเสียอีก อย่างนั้นก็หอมสิ หญิงสาวยอมหอมแก้มเขาก็เฉพาะวันงานแต่งงานคืนนั้นและเวลาที่อยู่บนเตียงด้วยกันเท่านั้นตามลำพัง เธอจึงขยับใบหน้านวลเข้าไปใกล้วงหน้าหล่อและจุมพิตเรียวปากนุ่มไปยังแก้มของอิศเรศ เขาก็หันแก้มให้เธออีกด้านหนึ่ง ข้างนี้ด้วย ปภาพินท์ก็หอมแก้มเขา จมูกด้วย เธอก็ยอมทำตามที่เขาบอกด้วยดี หน้าผากด้วยสิ ปากเล็กก็สัมผัสตามความต้องการของเขาหลังจากนั้น สงสัยว่าแม่คงจะสมหวังเรื่องหลานเร็วๆ นี้อย่างแน่นอนเลย ก็ดูสิตาอิฐกับหนูนันท์หวานกันมากอย่างนี้ อาจจะมีหลานให้แม่หลายคนเป็นแน่เลย ได้ยินคำพูดนั้นทั้งสองก็มองหน้ากันเพราะต่างมีความรู้สึกที่เหมือนกัน นั่นคือไม่มีวันที่จะเป็นอย่างนั้นเด็ดขาด อิศเรศวางร่างนวลลงยืนเมื่อก้าวเข้าไปในบ้านแล้ว บุษราก็ถามความเห็นของทั้งสองอย่างคาดเดา ไม่ต้องเดาแม่ก็รู้ว่าทั้งสองคนจะต้องมีความสุขกับการไปฮันนีมูนมากเลยใช่ไหม คุณแม่เดาถูกมากเลยครับผมมีความสุขมากทีเดียวแทบไม่อยากจะออกไปเที่ยวเลยครับอยากจะนอนอยู่ที่ห้องอย่างเดียว พงศ์พันธ์ก็ยิ้มและบอกอย่างสนับสนุนความเห็นของลูกชาย เหมือนพ่อเลยตอนไปฮันนีมูนกับแม่เราน่ะก็ไม่อยากไปเที่ยวแต่ก็ต้องไปเพราะว่าแม่เราอยากไปเที่ยวพ่อก็เลยต้องตามใจ ผมเจอคุณอานิภากับคุณอาชาลีด้วยนะครับคุณพ่อคุณแม่ อ้าวสองคนนั้นไปเที่ยวทริปเดียวกับลูกด้วยเหรอไม่ยักรู้ บุษราแสดงความประหลาดใจอย่างมาก ครับ คุณอาทั้งสองไปฮันนีมูนย้อนหลังน่ะครับเห็นว่าจะไปรำลึกถึงความหลังสมัยจีบกันใหม่ๆ ครับ ได้ยินดังนั้นมารดาของชายหนุ่มก็หันไปถามสามีทันที เราเองก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันนานแล้วนะคะไว้เราไปเที่ยวรำลึกถึงสมัยที่จีบกันใหม่ๆ บ้างดีกว่าคุณว่าดีไหมคะ อีกฝ่ายก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเช่นกัน เอาสิ เวลาที่คนอื่นพูดถึงคำว่าฮันนีมูนส่วนใหญ่มักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและน้ำเสียงที่น่ายินดีอย่างมากมาย แต่สำหรับปภาพินท์แล้วคำว่าฮันนีมูนมันเป็นเพียงหน้าที่ซึ่งเธอต้องทำเพื่อครอบครัวและคนที่รักอย่างมาก จนแม้กระทั่งต้องยอมเอาตัวปรนเปรอความสุขให้กับอีกฝ่ายด้วย แต่นั่นเขาทำเพราะความเต็มใจและยังมีใจผูกพันกับผู้ชายที่ตนเองต้องนอนด้วยส่วนตัวเธอไม่ได้เต็มใจทำเลยและไม่ได้มีใจผูกพันกับผู้เป็นสามีปลอมๆ ด้วย เพียงนึกถึงคำว่าผูกพันภาพที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดเขาก็ผุดขึ้นมาให้ได้เห็นไม่ว่าจะเป็นยามที่อยู่บนเตียง ในอ่างอาบน้ำ เคาน์เตอร์แบบหินอ่อน ใต้ฝักบัว จนไปถึงผนังของโรงแรมซึ่งเขามีอะไรกับตนเองทุกวันในช่วงที่ไปเที่ยวด้วยกัน เรียกได้ว่าคืนหนึ่งไม่เคยต่ำกว่าหนึ่งรอบเลย มือเรียวกอดร่างแกร่งอย่างแนบแน่นพร้อมกับวงหน้านวลเงยขึ้นเพื่อรับจูบอันเร่าร้อนจากเขา ขณะที่กายนุ่มก็เบียดชิดกับร่างกำยำเพื่อเรียกร้องความอบอุ่นจากอ้อมแขนแข็งแกร่ง ที่ช่วยห่มคลุมความเหน็บหนาวให้กับเธอได้เป็นอย่างดี ทั้งยังกรีดเสียงเรียกชื่อเขาไม่หยุดอีกด้วยยามที่อีกฝ่ายรุกเร้าร่างนุ่มไปตลอดทั้งเรือนกายเล่นเอาเธอใจสั่นสะท้านไม่หยุดเลย พร้อมกับตอบรับจูบของเขากลับไปตามที่อีกฝ่ายเรียกร้องด้วย ยอมรับว่ายามที่ได้อยู่ในวงแขนแกร่งทำให้เธอรู้สึกดีอย่างเหลือเกิน จนแทบไม่อยากที่จะให้เขาปล่อยมือออกจากร่างของตนเองด้วยซ้ำไป อยากให้กอดตัวเธออย่างนี้ตลอดไป แม้ในตอนแรกเธอจะต่อต้านและหวาดกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อต้องเสียตัวให้กับเขา ถึงจะเจ็บเมื่อยามที่เขาครอบครองตัวเธอ แต่ผ่านไปหลังจากนั้นแล้วปภาพินท์กลับไม่รู้สึกเจ็บอย่างที่หวาดกลัวมากเท่าแล้ว ผิดคาดกลับรู้สึกดีอย่างมากมาย เรียกได้ว่ามีความสุขเลยล่ะ เมื่อยามที่เขาฝังความเร่าร้อนมายังร่างของตนเอง ใบหน้านวลแนบซบกับแผงอกกว้าง รับรู้ได้ถึงกลิ่นแห่งความเป็นบุรุษที่เร่าร้อน ปลายเล็บกรีดเร้าไปยังแผ่นหลังและบ่ากำยำจนเป็นริ้วรอยหลายทาง เขาเป็นคนแรกที่ได้ใกล้ชิดตนเองอย่างมากมาย เป็นผู้ที่สอนบทรักเรื่องดังกล่าวให้กับหญิงสาว เกิดความหวามไหวไปทั่วร่างนวลอย่างไม่หยุด ก่อนที่เธอจะสลัดความรู้สึกที่ว่าออกไป บ้าแล้ว อย่าบอกนะว่าเธอติดใจบทรักของเขาน่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งนึกถึงฉากที่ผ่านมาอย่างชัดเจนทุกช็อตเช่นนี้หรอก วงหน้านวลสลัดไปทางอื่น นั่นเพราะรับรู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำมันไม่มีทางที่จะเรียกว่ารักได้ คงเป็นแค่สิ่งแปลกใหม่สำหรับชีวิตมากกว่าเพราะเธอไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายอย่างมากมายเช่นนี้ก็เลยรู้สึกหวั่นไหว พลันภาพที่เขาใช้มือประคองไปยังวงหน้าเรียวอย่างแผ่วเบาด้วยความทนุถนอมจนสัมผัสรับรู้อย่างชัดเจนราวกำลังว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังลูบไล้อยู่เช่นเดียวกัน ทั้งที่ความจริงเป็นเพียงแค่เธอยืนคิดถึงอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบกับใบหูเล็ก โดยลมหายใจอุ่นร้อนก็ละไปตามร่างนวลเป่ารินรดไปทั่วกายระหงเล่นเอาเธอรู้สึกสะท้านและหวิวหวามไปหมดแทบจะลืมเลือนทุกสิ่งไปจนหมดสิ้น เธอหวานมากเลยปภาพินท์ ยามที่เขาเรียกชื่อตนเองปกติจะแฝงไปด้วยความประชดประชันตลอดเวลา แต่ในยามที่เธออยู่ใต้ร่างแกร่งภายในวงแขนกำยำ เสียงที่ได้ยินกลับฟังดูหวานหูยิ่งนัก อยากได้ยินเขาเรียกตนเองอีกหลายครา สุดยอดมากยาหยี และเพราะกำลังนั่งนึกอะไรบางอย่างเรื่อยเปื่อยนั้นจึงทำให้เธอไม่ได้ยินว่ามารดาของสามีกำมะลอถามตนเองว่าเช่นไร อิศเรศจับไปยังแขนเรียวและเรียกชื่อเธอ นันท์จ๋า นันท์ นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตัวก่อนจะมองหน้าเขาและย้อนถามกลับไป มีอะไรเหรอคะคุณอิฐ คุณแม่ผมถามเรื่องงานของคุณน่ะ ชายหนุ่มบอกให้เธอได้ทราบอย่างชัดเจน งานเหรอคะ เธอทำนัยน์ตาเบิกกว้างพร้อมกับอาการเลิกคิ้วขึ้นสูง ใช่ คุณแม่ผมอยากให้คุณไปช่วยงานที่บริษัทน่ะ ถึงเขาจะเอ่ยเช่นนั้นแต่เธอก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่อยากให้เธอไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวเขานักหรอก มารดาของอิศเรศก็แสดงความคิดเห็นหลังจากนั้น แม่ว่าหนูนันท์น่าจะมาทำงานที่บริษัทนะจะได้อยู่ใกล้กับตาอิฐด้วย นันท์ยังสนุกกับงานอยู่เลยค่ะคุณแม่ ไว้สักพักนะคะนันท์จะมาช่วยคุณอิฐกับคุณแม่ทำงานที่บริษัทค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่โกหกอยู่แล้ว เนื่องจากว่าหญิงสาวอยู่กับเขาแค่ปีเดียวเท่านั้น ให้นันท์เขาสนุกกับงานที่ทำไปก่อนก็ได้ครับคุณแม่ ผมไม่เร่งรัดนันท์หรอกครับ นั่นไงละเขาไม่ได้อยากให้เธอไปวุ่นวายกับครอบครัวเขาจริงๆ ด้วย เมื่ออยู่กันตามลำพังอิศเรศก็หันมายังหญิงสาวที่เดินเข้ามาในห้องด้วยกันโดยพูดถึงเรื่องเมื่อครู่นี้ซึ่งเธอได้ปฏิเสธไปแล้ว ดีนะที่เธอยังรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ถึงคุณจะมองว่าครอบครัวฉันเลวร้ายยังไงแต่ฉันก็ไม่เหมือนคุณพ่อคุณแม่ของฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับครอบครัวของคุณด้วยซ้ำไป ต่อให้พี่นันท์แต่งงานกับคุณก็เถอะฉันก็จะไม่เข้าไปวุ่นวายมากอย่างเด็ดขาด ตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในตนเองอย่างมาก แล้วถ้าพ่อกับแม่ของเธอสั่งล่ะแน่ใจเหรอว่าเธอจะไม่ยอมทำตามที่บอก ขนาดบังคับให้เธอยอมทำหน้าที่เมียแทนพี่สาวเห็นเธอก็ยังทำได้เลยนี่ ฉันไม่เชื่อน้ำหน้าอย่างพวกครอบครัวเธอหรอก นัยน์ตาของเขาแสดงความดูถูกอย่างมาก งั้นคุณก็คอยดูไปก็แล้วกันค่ะว่าฉันจะทำได้อย่างที่พูดรึเปล่า ปภาพินท์บอกอย่างท้าทายเขา ได้ฉันจะคอยดู แต่ตอนนี้เธอมาดูแลฉันก่อนดีกว่า เพียงบอกเสร็จเขาก็ล้มลงไปยังเตียงกว้างพร้อมกับร่างนวล ซึ่งเธอก็รับรู้ว่าตนเองต้องทำสิ่งใด เมื่ออิศเรศพลิกร่างของเธอให้ขึ้นมายังด้านบน พร้อมกับที่มือก็วุ่นวายกับร่างนุ่มไม่หยุด แม้ปากจะบอกว่าไม่อยากให้อีกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายกับครอบครัวของตนเอง หากทว่าเขากลับวุ่นวายกับกายละมุนอยู่ตลอดเวลาจนลืมไปว่าตนเองต้องงดนอนกับเธอเพื่อให้แน่ใจเรื่องท้องหรือไม่ท้องก่อน แบบนี้เขาเรียกว่าพวกเกลียดตัวกินไข่ใช่ไหมนะ ซึ่งมือที่ราวกับปลาหมึกก็สอดแทรกเข้าไปกอบกุมกับความนุ่มละมุนภายใน นับวันทำไมเขาถึงรู้สึกหื่นกับกายนวลเนียนมากเช่นนี้กัน ปภาพินท์ก็บิดกายเร่าจนลืมเรื่องที่ตนเองบอกเขาไว้ในลักษณะเดียวกันว่าต้องงดมีเพศสัมพันธ์กับเขานั่นเพราะความหวิวหวามมันแผ่ซ่านไปทั่วร่างระหงจนทั่ว ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็พลันดังขึ้นมาขณะที่ใบหน้าคมซอนซบกับลาดลำคอระหงของปภาพินท์ โดยมือก็ฟอนเฟ้นไปทั่วความอวบอิ่มภายใน ซึ่งเธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธเขาได้เลยสักครา มือเรียววางอยู่ยังบ่ากว้างของเขาและยินยอมให้อีกฝ่ายรุกเร้ากายนุ่มโดยวงหน้านวลเปลี่ยนเป็นแดงซ่านกับความหวิววามที่เขาสรรสร้างมอบให้กับตนเองทุกคราว แต่พอได้ยินเสียงโทรศัพท์อิศเรศก็หยุดชะงักราวรู้สึกขัดใจเมื่อถูกขัดจังหวะในช่วงที่เขากำลังหาความอิ่มเอมจากร่างนวลเนียน ปภาพินท์จำเสียงโทรศัพท์ของตนเองได้จึงเอ่ยกับเขาในทันที ฉันขอตัวรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ เชิญ อิศเรศกล่าวอนุญาต หญิงสาวจึงดึงชายเสื้อสายเดี่ยวตัวเล็กสีขาวซึ่งถลกขึ้นมาบนหน้าท้องนวลเนียน พร้อมกับใช้มือดึงกระโปรงที่เลิกขึ้นมาสูงลงไปปิดสะโพกเต็มตึงดังเดิมด้วย เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวก็รีบลุกไปกดรับโดยเร็ว พอเห็นเป็นเบอร์ของพี่ชายที่ตนเองสนิทสนมมากก็ทักทายเขา หวัดดีค่ะพี่พี พินท์ตอนนี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลนะ ครั้นได้ยินหญิงสาวก็ทำนัยน์ตาสงสัยใคร่รู้ พี่พีไปทำอะไรที่โรงพยาบาลคะ ได้ยินคำว่าพี่พีอิศเรศก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความอยากทราบนักว่าอีกฝ่ายเป็นใครกัน นัยน์ตาของเขาจ้องไปยังร่างนวลที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์โดยขยับออกไปยืนห่างจากที่เขานั่งอยู่ ทำให้อิศเรศไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก เมื่อเธอถามคนในสาย พีรวิทย์ก็บอกให้เธอได้ทราบ พี่วดีผ่าตัดน่ะพินท์ เป็นเนื้องอกที่หน้าอก พี่ก็เลยโทรมาบอกให้พินท์รู้ ตอนนี้พี่วดีผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลไหนคะ เดี๋ยวพินท์จะขับรถไปหาละกันค่ะ ครั้นทราบว่าพี่สาวซึ่งตนเองสนิทและรักมากเป็นอะไรเธอก็รู้สึกอยากไปเยี่ยมโดยเร็ว พินท์กลับมาแล้วเหรอ พีรวิทย์ถามเธออย่างคาดเดานั่นเพราะว่าพี่สาวบอกว่าหญิงสาวไปทำธุระกับครอบครัวที่ต่างจังหวัด กลับมาแล้วค่ะ พี่วดีผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลไหนคะพี่พี เธอรีบเปลี่ยนประเด็นเป็นอย่างอื่นไป อยู่ที่โรงพยาบาลรามาน่ะ พินท์จะไปเยี่ยมพี่วดีค่ะ เมื่อทราบว่าอีกฝ่ายพักอยู่ที่ห้องไหนเธอก็กดวางสายหลังจากนั้น อิศเรศจึงถามเธออย่างคาดเดาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก คนรักโทรมารึไงกันถึงรีบวิ่งไปรับสายเชียว ปภาพินท์ก็พยักหน้าตอบรับให้เขาได้ทราบ ใช่ค่ะ คนรักของฉันโทรมา ในเมื่ออีกฝ่ายเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นหญิงสาวก็ไม่คิดที่จะแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น โทรมาทำไมล่ะ อย่าบอกนะว่าจะให้เธอไปหาน่ะ ฉันขอสั่งไม่ให้เธอไปเด็ดขาด เขาออกคำสั่งเสียงกร้าวราวกับเจ้านายผู้เผด็จการ ปภาพินท์จึงบอกให้เขาได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายโทรมาหาเพราะอะไรกัน พี่พีโทรมาบอกว่าเจ้านายของฉันเข้าโรงพยาบาลค่ะต้องผ่าตัดเนื้องอกที่ทรวงอก ฉันอยากจะไปเยี่ยมเจ้านายของฉันค่ะคุณคงจะอนุญาตนะคะ อิศเรศเกิดความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่อีกฝ่ายโทรมาหาเธอ แล้วทำไมคนรักเธอถึงรู้เรื่องเจ้านายของเธอกันปภาพินท์ พี่พีเป็นน้องชายของเจ้านายฉันค่ะ เพียงได้ยินถึงเหตุผลนักธุรกิจหนุ่มก็ทำสีหน้าเยาะเย้ยใส่คล้ายรู้เท่าทันความคิดของเธอ ฉลาดดีนี่ เข้าทางน้องชายเพื่อจะได้เลื่อนตำแหน่งจากลูกน้องไปเป็นน้องสะใภ้แทน ฉันไม่เคยคิดทำอย่างที่คุณบอกเลยนะคะคุณอิฐ เธอรีบปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกใส่ความอย่างไม่ชอบใจ การกระทำของเธอมันเห็นอยู่ชัดๆ ยังจะเถียงอีกเหรอ คุณจะเข้าใจยังไงก็แล้วแต่คุณเถอะค่ะ ยังไงฉันก็จะไปเยี่ยมพี่วดีค่ะ
+++++++++++++++ เอาตอนต่อไปมาแปะต่อค่ะ ตอนนี้นิยายกำลังดราม่าค่ะ ต้องใช้พลังงานเยอะ คนเขียนเลยกินเก่ง เกี่ยวมะเนี่ย 555 ตัวอย่างตอนต่อไปค่ะ
ต้องกลับมาปรนเปรอความสุขให้ฉันสามรอบ ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องไป เหมือนเขากดเธอให้ดูต่ำอย่างมาก แค่เธอยอมทำครั้งเดียวก็รู้สึกแย่มากพอแล้วแต่เขากลับให้เธอทำสามรอบ ทำราวกับว่าหญิงสาวเป็นโสเภณีอย่างไรอย่างนั้นต้องปรนนิบัติพัดวีเขาทุกอย่าง มือเรียวทั้งสองกำแน่นจนปลายเล็บจิกเข้าไปยังผิวเนื้อพร้อมกับที่เรียวปากนุ่มเม้มเข้าหากันแน่น อิศเรศเห็นท่าทีของเธอก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะทำในสิ่งที่ตนเองบอกไม่ได้อย่างแน่นอน และเธอก็จะไปหาคนรักไม่ได้ด้วย ดูเขาจะจะสนุกกับการป่วนอารมณ์ของอีกฝ่ายยิ่งนัก ว่ายังไงล่ะถ้าเธอทำไม่ได้ก็ไม่ต้องไป ปภาพินท์รู้ว่าเขาจงใจที่จะทำให้เธอไปโรงพยาบาลไม่ได้ หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะบอกอย่างตัดสินใจ ตกลงค่ะฉันจะยอมทำตามที่คุณบอก ได้ยินดังนั้นอิศเรศก็ย้อนถามเธอกลับไปราวไม่เชื่อหู เธอแน่ใจเหรอว่าจะทำได้อย่างที่พูดน่ะ เธอจึงยืนยันซ้ำ
หลงรักเขาแล้วใช่ไหมล่ะตัวเองบอกมาตรงๆ ไม่ต้องทำเป็นปากแข็ง 555 เอาตอนต่อไปมาแปะให้อ่านต่อค่ะ ช่วยเม้นท์เป็นกำลังใจให้ข้าวหน่อยนะคะทุกคน จุ๊บๆ
Create Date : 05 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2557 10:07:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2118 Pageviews. |
|
|