จ้างรักจอมมาร ตอน แกล้งจำไม่ได้
ในคราแรกเธอยังไม่สนิทใจและเลิกอายยามที่เปลือยกายต่อหน้าเขานั่นเพราะเป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่คุ้นเคยที่จะทำมาก่อน แต่ในระยะหลังก็เริ่มชินมากขึ้นและเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ใช่ผู้หญิงมั่วอย่างที่เขาเข้าใจจึงทำให้หญิงสาวต้องทำตามที่เขาสั่ง เหมือนผู้หญิงที่ไม่มีความคิด เขาสั่งอะไรก็ต้องทำ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องอยากให้เขามองในแง่ดี รับรู้ว่าตัวเธอไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเข้าใจ โดยจะว่าไปมันก็ไม่ได้สำคัญกับหญิงสาวเลยสักนิด เขาอยากจะมองยังไงก็ควรที่จะปล่อยไปสิ คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สำส่อนมั่วไม่เลิกก็ช่างประไร แต่ปภาพินท์กลับเลือกที่จะบอกความจริงให้เขาฟังแทน ทำไมเธอถึงเลือกที่จะทำอย่างนี้กัน ยามนี้กายนุ่มเหลือเพียงบราลูกไม้กับกระโปรงยีน แม้อากาศรอบตัวจะเย็นจัดมากเพียงใดแต่สิ่งที่เธอสะท้านและหนาวเยือกกลับไม่ใช่แอร์ที่กำลังทำงานอยู่เลย หากทว่ากลับเป็นนัยน์ตาคู่คมที่มองมายังร่างของตัวเธอด้วยประกายแพรวพราว ซึ่งทุกครั้งที่เธอเห็นแววตาของเขาเป็นเช่นนี้ทีไรมันทำให้รับรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะนอนกับตนเองทุกครั้ง และเขาก็มีความสัมพันธ์กับเธอหลายคราว แต่หน้าแปลกแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้เกิดความรักในงานแต่งงาน ไม่มีความสนิทสนมกันมากมาย แต่ยามที่ทั้งคู่มีอะไรด้วยกันปภาพินท์กลับรู้สึกดีอย่างมากยิ่งนัก ทำไมถึงเป็นอย่างนี้กันนะ ทั้งที่เธอควรจะไม่รู้สึกชื่นชอบ ไม่ยินดี และควรที่จะรังเกียจเขา แต่ทำไมเธอกลับไม่มีความรู้สึกที่ว่าเลย กลับรู้สึกชอบที่ได้อ้อมกอดอันอบอุ่นจากเขา ยินดีที่จะได้รับความสุขจากเขาและมือเรียวก็กอดร่างกำยำอย่างแนบแน่น พลางบดเบียดกายระหงกับร่างแข็งแกร่งเพื่อเรียกร้องความอบอุ่นจากแผ่นอกกว้าง เธอถามเขาด้วยความอยากรู้เมื่อถอดเสื้อลูกไม้ตัวเล็กออกไปจากร่างเนียน พอใจรึยังคะ อิศเรศส่ายหน้าไปมา ยังไม่พอ นัยน์ตาของเธอเปลี่ยนเป็นไม่ชอบใจ นี่คุณยังคิดว่าฉันโกหกคุณอยู่อีกอย่างนั้นเหรอคะ ฉันยังเห็นไม่หมดทั้งตัวเธอนี่ เรียวปากนุ่มเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะระงับความโมโหไว้ข้างในและจัดการปลดตะขอทางเบื้องหลังออกไปซึ่งเผยให้เห็นทรวงอวบอิ่มที่กลมกลึง วงหน้านวลแดงซ่านพร้อมกับนึกทำไมเธอจะต้องมาทำอะไรอย่างนี้ด้วยนะ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอายเสียจริง เพียงเห็นทรวงนุ่มเคลื่อนไหวขึ้นลงลมหายใจของอิศเรศก็ขยับถอนหายใจเข้าออกโดนแรงไม่ต่างกัน เธอย้อนถามเขากลับไปอีกคราหนึ่ง พอรึยังคะคุณอิฐ ฉันจะได้ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานซะที ฉันมองเห็นไม่ชัดน่ะเธอเดินเข้ามาให้ฉันมองใกล้ๆ หน่อยสิ ราวกับแกล้งปภาพินท์ยิ่งนัก เธอได้แต่มองหน้าเขาอย่างไม่ขยับเข้าไป อิศเรศก็เรียกเธอเข้ามาใกล้ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ดังมากขึ้นกว่าเดิม บอกว่าให้ขยับเข้ามาใกล้ๆ ไงล่ะปภาพินท์ไม่ได้ยินเหรอ เท้าเรียวจึงก้าวเข้ามาหาเขาเพียงสองก้าว ชายหนุ่มก็สั่งออกมาต่อราวกับยังไม่พอใจต่อความห่างของระยะทางที่เธอยืนอยู่ หญิงสาวก็ก้าวเข้ามาอีกหนึ่งก้าว พร้อมกับย้อนถามเขาเหมือนเมื่อครู่ พอรึยังคะ ยังเห็นไม่ชัดเลย ฉันสายตาสั้นน่ะ เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย อย่างเขาเนี่ยนะสายตาสั้น ถ้าเชื่อก็บ้าแล้วล่ะ แต่เธอก็ขยับกายเข้าไปหาเขาอีกนิดหนึ่งแต่ก็ดูจะไม่เพียงพอสำหรับเขาอีกเช่นเดิม อิศเรศจึงรั้งกายระหงเข้ามาจนชิดกับใบหน้าคมกระทั่งทรวงนุ่มอยู่เบื้องหน้าดวงตาอันร้ายกาจของเขา บอกให้เข้ามาใกล้ๆ ไงล่ะปภาพินท์ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ โดยทรวงนุ่มก็เชิดชันท้าทายสายตาของอิศเรศแบบยั่วยวน ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปยังทรวงสล้างพาให้เกิดความหวิวหวามไปทั่วกายของหญิงสาวอย่างมาก นี่รอยอะไรน่ะปภาพินท์แล้วยังบอกว่าไม่ได้ไปนอนกับผู้ชายคนอื่นอีกเหรอ เขามองเห็นรอยสีแดงที่อยู่บนเนื้อตัวระหงหลายแห่ง ทรวงนุ่มสะท้อนขึ้นลงตามแรงทอดถอนลมหายใจก่อนจะบอกให้อีกฝ่ายได้ทราบ โดยภาพของเขาที่จุมพิตและดูดดึงไปตามผิวนวลละไมด้วยริมฝีปากร้อนและฟันซึ่งขบเม้มยังเรือนกายระหงเบาบางแรงบ้างตามลำดับแห่งความเร่าร้อนที่เขาสรรสร้างให้กับเธอ นั่นเป็นรอยที่คุณทำต่างหากล่ะคะ เพียงได้ยินเขาก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งต้องยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่รอยยิ้มมีเสน่ห์อย่างมาก และดวงตาที่เป็นประกายของเขาก็ราวกับมีมนต์สะกดทำให้ปภาพินท์แทบไม่อาจที่จะละสายตาไปได้ หลงเคลิบเคลิ้มไปกับวงหน้าหล่อคมอย่างลืมเลือนสิ้นทุกสิ่งอย่าง ว่าเขาเป็นเพียงสามีกำมะลอ ผู้ชายแปลกหน้า แต่เป็นผู้ชายคนแรกที่เธอได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ซึ่งทำลายความมุ่งมั่นของเธอที่เคยบอกว่าจะขอมอบเรือนกายให้กับผู้ชายที่รักเท่านั้น จริงสินะรอยนี้ฉันเป็นคนทำให้กับเธอนี่นะ ในเมื่อคุณเชื่อแล้วว่าฉันไม่เคยมีอะไรกับคนอื่น คุณก็ควรจะปล่อยฉันได้แล้วค่ะคุณอิฐ มือเรียวปลดมือของเขาที่เกาะกุมกับเอวระหงของตนเองออกไป แต่เหมือนดึงมือที่ติดกาวเมื่อเขาไม่ยอมละมือออกมาจากร่างนวลอย่างง่ายดายเลย ก็ความนุ่มเนียนมันทำให้เขาห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้นี่นา ทั้งที่เป็นเวลาที่ตนเองจะต้องเตรียมตัวไปทำงานแล้วแต่กลับรู้สึกว่าไม่อยากไปเลยสักนิด อยากอยู่หาความสุขกับร่างนวลเนียนเบื้องหน้าแทนมากกว่า เขารั้งกายนุ่มให้ทรุดลงบนตักแกร่งโดยเขานั่งอยู่บนเตียงกว้างซึ่งขาเพรียวเรียวยาวของเธอพาดอยู่กับขากำยำทั้งซ้ายและขวาของเขาในกางเกงสแล็คสีเข้ม มือเรียวก็จับไปยังบ่ากว้างและบอกให้เขาได้รับรู้ คุณนอนกับฉันไม่ได้นะคะเพราะฉันต้องพิสูจน์ก่อนว่าฉันจะท้องหรือเปล่า ฉันก็ไม่ได้อยากนอนกับเธอสักหน่อยแต่แค่อยากได้ยินเสียงเธอก่อนไปทำงานเท่านั้นเอง ปภาพินท์ย้อนถามเขากลับไปด้วยความงุนงง อยากได้ยินเสียงของฉันอย่างนั้นเหรอคะ คุณก็ได้ยินเสียงของฉันแล้วนี่คะ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอิศเรศพลางกระซิบกับใบหูเล็กด้วยคำพูดที่เร่าร้อน ฉันอยากได้ยินเสียงเธอเวลาที่หอบกระเส่าไงล่ะ ฉันชอบฟังเสียงเวลาเธอกรีดร้องเรียกชื่อฉันมากๆ ได้ยินแค่นั้นเธอก็รับรู้แล้วว่าเขาหมายถึงสิ่งใด ซึ่งเพียงหลังจากที่เขาพูดจบประโยคที่ว่าปากร้อนก็รุกเร้าทรวงละมุนของเธอเพื่อทำตามความปรารถนาของตนเอง ซึ่งปภาพินท์ก็รู้สึกซ่านหวิวไปทั่วร่างกับปฏิบัติการที่เขามอบให้กับตนเองอย่างเร่าร้อน เรียวลิ้นร้อนกระหวัดไปทั่วยอดอกของหญิงสาว โดยมือเรียวก็กอดร่างแกร่งอย่างแนบแน่น อืม คุณอิฐคะ บอกสิว่าเธอชอบให้ฉันทำแบบนี้ หากทว่าปภาพินท์กลับส่ายหน้าไปมา ไม่ค่ะ ฉันไม่ชอบ เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงแบบเอาแต่ใจอย่างมาก แต่เธอต้องชอบ เขาจับกายนุ่มให้นั่งในท่าคลุกเข่าบนตักของตนเองโดยทรวงสล้างที่งดงามก็อยู่พอดีกับใบหน้าคมและเขาก็ทำให้เธอเปลี่ยนคำพูดให้ได้ ด้วยการปั่นป่วนให้ระรัวเร็วมากขึ้นกว่าเดิมขณะที่มือก็ตะกองกอดกายระหงยังเอวเล็กและสะโพกเต็มตึง ซึ่งปภาพินท์ก็ใช้มือทั้งสองกอดคอเขาไว้อย่างแนบแน่นด้วยความกลัวตกราวกับลูกชะนีติดแม่เลยก็ว่าได้ วงหน้านวลเงยขึ้นสูงและกรีดร้องเรียกชื่อเขา อืม คุณอิฐคะ เรียกชื่อฉันดังๆ หน่อยสิปภาพินท์ ดูเขาจะสนุกในการแกล้งเธอเสียจริงเชียว พร้อมกับปากร้อนดูดดึงยอดทรวงด้วยความรุนแรงราวกับหมั่นเขี้ยว ปภาพินท์จึงโอดครวญกับเขา คุณอิฐ ฉันเจ็บนะคะ บอกให้ส่งเสียงเรียกชื่อฉันดังๆ ไงล่ะ ออกคำสั่งแบบจอมเผด็จการเสียจริง คุณอิฐคะ หญิงสาวจึงยอมทำตามที่เขาบอกด้วยการเรียกชื่อเขาออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าอิศเรศจะไม่ชื่นชอบในน้ำเสียงของเธอเลย กลับบอกให้รับรู้ในลักษณะกวนประสาทปภาพินท์ไม่เลิก ไม่เอาเสียงแบบนี้ฉันไม่ชอบได้ยินแล้วจะทำให้ฉันหงุดหงิดมาก ต้องเรียกแบบนี้ โอ คุณอิฐที่รัก หญิงสาวเงียบงันไปไม่ยอมทำตามที่บอกอิศเรศก็บอกอย่างข่มขู่ ถ้าเธอไม่พูดก็ไม่ต้องไปทำงานหรอกอยู่มันบนห้องนี่ล่ะ ถ้าขืนเป็นแบบนั้นเธอก็แย่น่ะสิ นั่นเพราะว่าปภาพินท์รับปากกับพี่วดีไว้ว่าจะดูแลบริษัทให้ในช่วงนี้ ถ้าไม่ยอมพูดตามที่เขาบอกเดี๋ยวจะไม่ได้ไปทำงานดังนั้นเธอจึงเอ่ยตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง แต่น้ำเสียงที่เรียกเขานั้นกลับเป็นอารมณ์ที่เกิดความวาบหวิวไปทั่วร่างเมื่อเขาครอบงำทรวงนุ่มทั้งสองด้านสลับกันไปมา ด้วยน้ำเสียงหอบแรงอย่างที่ไม่อาจต้านทานมันไว้ได้ โอ คุณอิฐที่รัก นั่นล่ะที่ฉันอยากได้ยินยาหยี เขาดึงร่างนวลให้ลงมานั่งยังตักแกร่งดังเดิมก่อนจะแนบสัมผัสไปยังเรียวปากนุ่มด้วยความเร่าร้อน ปากเธอช่างอ่อนนุ่มและหวานล้ำยิ่งนัก อิศเรศจูบเธออย่างดุดันและหนักหน่วงด้วยความชื่นชอบ ตัวของเธอก็อุ่นอย่างมากเช่นเดียวกันภายใต้ฝ่ามือใหญ่ ซึ่งดูแล้วน่าจะอุ่นกว่าคนปกติทั่วไป ลมหายใจอุ่นของชายหนุ่มระอุไปทั่ววงหน้านวล แต่กลับให้ความรู้สึกหวามหวิวอย่างมาก แต่เพียงครู่ความดุดันและความหนักหน่วงก็เปลี่ยนแปลเป็นปัดผ่านอย่างแผ่วเบา ราวกับขนนกที่ไร้ซึ่งน้ำหนักปลิวพลิ้วผ่านขณะที่ทรวงละมุนก็เสียดสีกับแผ่นอกกว้างในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ อิศเรศจูบเธออย่างอ้อยอิ่งจนไม่อยากที่จะไปทำงานเลย แต่ให้ตายเถอะตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะนอนกับอีกฝ่าย เพราะอยู่ในระยะที่ยังไม่ปลอดภัย ต่อให้อยากมากเพียงใดก็ต้องละความต้องการไว้ก่อน ไม่นานเขาก็ละวงหน้าคมออกมาจากใบหน้าหวานซึ้ง ซึ่งปากนุ่มบวมช้ำอย่างเห็นได้ชัดจากริมฝีปากร้อนของเขา ที่พาให้หลงเคลิบเคลิ้มไปกับตนเองทุกคราว จากที่ต่อต้านก็อ่อนระทวยราวกับของเหลวที่ควบคุมตนเองไม่ได้เลย นึกได้แต่ร่างแกร่งที่อยู่ในวงแขนเรียวทั้งสองเพียงเท่านั้น อิศเรศก็รู้สึกยินดีเมื่อเธอกอดร่างเขาอย่างแนบแน่น เขาไม่ชื่นชอบที่หญิงสาวโต้เถียงตนเองชอบที่จะให้อีกฝ่ายเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานอย่างแหบพร่ามากกว่า รู้สึกว่ามันดูเซ็กซี่ยิ่งนัก เพียงครู่ปภาพินท์ก็ผละออกมาจากร่างแกร่งพลางถามเขา พอใจคุณรึยังคะ พอใจมาก เขาบอกอย่างยอมรับ อย่างนั้นคุณให้ฉันไปทำงานได้แล้วใช่ไหมคะ ยัง เขาตอบปฏิเสธกลับมานัยน์ตาของเธอเบิกกว้างและย้อนถามอย่างไม่ชอบใจ คุณอิฐคะในเมื่อฉันยอมทำตามที่คุณบอกแล้วนี่คะ ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยให้ฉันไปทำงาน ฉันมีข้อตกลงที่จะให้เธอทำตามปภาพินท์ นอกจากข้อตกลงเป็นนางบำเรอชั่วคราวแล้วยังจะมีข้อตกลงอะไรอีกกัน ดวงตาของหญิงสาวแสดงความฉงนด้วยอาการเลิกคิ้วสูงพลางเอ่ยอย่างสงสัย พร้อมกับเงยหน้าเพื่อมองใบหน้าคมสันด้วย ข้อตกลงอะไรคะ ขนตาที่งอนงามทาบกับแก้มนวลซึ่งเป็นสีระเรื่อโดยเกิดจากฝีมือของชายหนุ่มที่กอดร่างเธอไว้น่ะเอง ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่นรวมถึงผู้หญิงด้วย อาจจะมองดูเห็นแก่ตัวแต่ของบางอย่างมันก็แบ่งใช้กับใครไม่ได้จริงๆ ถ้าหากว่าสิ่งนี้คือของใหม่ที่เขาได้แกะกล่องเองกับมือ ย่อมต้องรอวันเบื่อหน่ายก่อนเขาถึงจะปล่อยมันให้กับคนอื่นอย่างไม่แยแส ซึ่งก็เป็นเหมือนผู้หญิงที่เคยคบหาน่ะเอง แรกๆ ก็ติดใจหลังๆ เมื่อเก่าแล้วก็โละทิ้งและเตรียมหาของใหม่มาใช้ต่อ ช่างทำตัวเหมือนการเปลี่ยนถุงเท้าเสียจริงพอเก่าก็เลิกใส่โยนทิ้ง หมายความว่าคุณจะไม่ให้ฉันนอนกับใครเลยนอกจากคุณสินะ เธอแปลความหมายที่เขาเอ่ยอย่างคาดเดา ใช่ ฉันไม่อนุญาตให้เธอมีอะไรกับคนรักต่อให้ครั้งคราวก็ไม่ได้ อิศเรศบอกให้เธอได้รับรู้อย่างชัดเจน มันจะไม่เป็นการเอาเปรียบกันไปหน่อยเหรอคะคุณอิฐ ทีตัวเองนอนกับผู้หญิงคนอื่นไปทั่วได้ แต่พอเป็นเธอกลับห้ามปราม ฉันจะเป็นคนให้เงินเธอเองสำหรับค่าเช่าตัวเธอในช่วงเวลาหนึ่งปี จากสถานะนางบำเรอกลับแปลเปลี่ยนเป็นเมียเช่าไปเสียแล้ว นี่เขาดูถูกเธอด้วยการเอาเงินมาฟาดหัวใช่ไหม มือเรียวยกขึ้นตบไปยังใบหน้าคมโดยแรง เพียะ! และบอกด้วยความเจ็บร้าวในอก ฉันไม่ใช่ขอทานนะที่คุณจะเอาเงินมาฟาดหัวฉันทุกอย่าง ฉันเป็นคน ฉันมีศักดิ์ศรี และฉันมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ เพียงได้ยินคำพูดของเธอจึงทำให้อิศเรศรู้สึกไม่ดีในการกระทำของตนเอง เขาจึงรีบชี้แจงให้หญิงสาวทราบว่าทำไมจึงเอ่ยถึงข้อตกลงนี้ขึ้นมา ฉันไม่ได้มองเธอว่าเป็นขอทานแต่ฉันไม่ใช่สภาสงเคราะห์ที่จะแบ่งปันของตัวเองกับคนอื่น ถ้าอยากจะใช้ไว้รอให้ครบหนึ่งปีก่อนสิแล้วเธอจะไปขึ้นเตียงกับผู้ชายกี่คนฉันก็ไม่สนใจหรอก แต่ตอนนี้ฉันอยากให้เธอคอยปรนเปรอความสุขให้ฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น ฉันไม่อยากใช้ของร่วมกันกับใครถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนรักของเธอมาก่อนก็ตาม อิศเรศบอกด้วยความหวงแหนเมียกำมะลอของตนเองกับผู้ชายคนอื่น ได้ค่ะ ฉันจะปรนเปรอความสุขให้คุณคนเดียวจนครบหนึ่งปีแต่หลังจากนั้นแล้วฉันจะไปปรนเปรอความสุขให้คนรักของฉัน ปภาพินท์ไม่มีคนรักอย่างที่เขาเข้าใจแต่เธอก็ไม่คิดที่จะแก้ไขความเข้าใจให้เขารับรู้ นั่นเพราะคิดว่าตนเองอยู่กับเขาแค่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น แล้วระหว่างเธอกับเขาก็จะกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้าต่อกัน ดังนั้นเขาอยากจะมองเธอเช่นไรก็ไม่คิดที่จะแคร์ หากแม้จะนึกเช่นนั้นแต่กลับแสดงความบริสุทธิ์ใจเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อถือในคำพูดของตนเองว่าเธอไม่ได้คิดที่จะไปมั่วกับใครนอกจากเขาอีก การกระทำช่างดูสวนทางกันเสียจริง ถ้าเธอทำได้อย่างนั้นก็ดีฉันจะได้ไม่ต้องระแวงว่าโดนสวมเขาข้างหลัง ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะฉันทำตามที่บอกคุณได้แน่นอนคราวนี้ฉันอาบน้ำไปทำงานได้หรือยังคะ ได้สิ เพียงเขาอนุญาตหญิงสาวก็ก้าวลงมาจากร่างกำยำก่อนจะหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่เข้าไปยังห้องน้ำด้วย ปภาพินท์ขับรถมายังบริษัทตัดเสื้อผ้าอรวดี คลอธ์ ดีไซน์ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับตัดชุดฟอร์มและออกแบบเสื้อผ้าให้กับบริษัท โรงแรม รวมไปถึงโรงงานซึ่งมีพนักงานอย่างมากมาย เมื่อจุ๋มซึ่งเป็นพนักงานในบริษัทโดยเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าเห็นเธอก็เอ่ยทักทาย พี่พินท์ไปทำธุระกลับมาแล้วเหรอคะ จ้ะ จุ๋ม งานยุ่งมากไหมช่วงนี้ ก็ไม่ค่อยยุ่งหรอกค่ะ วันนี้ต้องออกไปวัดตัวพนักงานที่โรงแรมเดอะเมจิกเชี่ยนค่ะ แต่ว่าวันนี้คนขับรถไม่ได้มาทำงานค่ะพี่พินท์ อีกฝ่ายบอกให้เธอได้รับรู้ อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ขับรถพาไปเองจ้ะ หญิงสาวขันรับอาสาด้วยรอยยิ้ม +++++++++++++ เอาตอนต่อไปมาแปะให้อ่านค่ะ ช่วยเม้นท์เป็นกำลังใจให้ข้าวหน่อยนะคะ คนเขียนจะได้มีกำลังใจเอานิยายมาแปะให้อ่านต่อค่ะ แปะปล้นใจจอมมารแล้วนะคะ เป็นภาคต่อเรื่องนี้ค่ะ วางแผงเดือนหน้านะคะ
ตัวอย่างตอนต่อไป
ไปฮันนีมูนกลับมาเป็นยังไงบ้างน่ะยายพินท์ นั่นเพราะว่าเมื่อวานนี้หญิงสาวไม่ได้คุยเรื่องนี้กับทั้งสอง ไม่ดีเลยค่ะ มันไม่ใช่การไปฮันนีมูนจริงๆ นี่คะคุณพ่อ ก็แค่ทำให้คุณอาพงศ์พันธ์กับคุณอาบุษราเข้าใจว่าหนูเป็นพี่นันท์เท่านั้นเองค่ะ เธอบอกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นยามเมื่อได้อยู่กับชายหนุ่มซึ่งมีสถานะเป็นสามีกำมะลอ เพียงได้ยินดังนั้นบิดาก็แสดงสีหน้าเหมือนหงุดหงิดกับคำตอบที่ได้ยิน ก็แล้วทำไมแกไม่ทำให้เป็นฮันนีมูนจริงๆ เลยล่ะ นัยน์ตาของเธอเบิกกว้างไม่คิดว่าทั้งสองยังคงยืนยันที่จะให้เธอทำตามความต้องการของทั้งคู่ดังเดิม พินท์กับคุณอิฐไม่ได้รักกันนะคะคุณพ่อคุณแม่ สมัยนี้ความรักน่ะมันช่วยอะไรได้กันล่ะความรวยต่างหากที่ช่วยได้ แกอย่าโง่เหมือนยายนันท์หน่อยเลยที่เห็นไอ้กระจอกนั่นดีกว่า ผู้เป็นพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข่นเขี้ยว ใช่ยายพินท์แกรู้ไหมว่าโอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เลยนะ ถ้าแกท้องนะแกจะสบายมากกว่านี้อีกเพราะตาอิฐเป็นลูกชายคนโต ยังไงก็ต้องได้มรดกมากที่สุด มารดาก็มีความเห็นไม่ต่างกับบิดาเลย แต่มองกาลไกลไปมากกว่าเดิมเสียอีกซึ่งปองภพก็ตอบรับอย่างเห็นด้วย
มีความสุขกับนิยายนะคะทุกคน บ้ายบายค่ะ ตอนนี้เร่งปั่นต้นฉบับให้เสร็จค่ะ เพราะเหลืออีกสามเรื่องที่ต้องปั่นให้จบ งานเยอะมากค่ะ
Create Date : 12 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2557 9:08:32 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1729 Pageviews. |
|
|