จ้างรักจอมมาร ตอน ท้องหรือไม่ท้อง
ก็ผมเห็นพี่อิฐกับคุณนันท์ดูสนิทสนมกันมากจนดูเหมือนคนรักกันจริงๆ เลยนะครับ อัคคีพูดเบาๆ ตรงประโยคสุดท้าย ก็แค่การแสดงเท่านั้นล่ะ ไม่ใช่รักเริกอะไรหรอก เขาบอกอย่างไม่ยอมรับกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่าอีกฝ่ายเริ่มมีอิทธิพลกับหัวใจและอารมณ์ของตนเองเพิ่มขึ้นในช่วงระยะหลัง เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันในช่วงฮันนีมูนหนึ่งอาทิตย์ แล้วไม่คิดที่จะทำให้เป็นจริงเหรอครับจะว่าไปคุณพินท์เองก็ไม่ได้ดูแย่อะไรมากนี่ครับ ผมว่าพี่ดูเหมาะสมกันมากเลยล่ะ ได้ยินคำที่น้องชายบอกอิศเรศก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกในครอบครัวของหญิงสาวอย่างมาก ตอน 19 นายยังอยากจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวที่หลอกลวงคุณพ่อกับคุณแม่อีกเหรอ พี่ไม่มีวันยอมให้ครอบครัวที่เห็นแก่เงินแบบนี้มายุ่งเกี่ยวกับสมบัติของครอบครัวเราอย่างเด็ดขาด นายรู้ไหมว่านอกจากคุณอาปองภพกับคุณอาบุศราจะเอาปภานันท์มาย้อมแมวขาย แล้วก็ยังสอนให้ลูกสาวคนเล็กจับผู้ชายรวยๆ อีกน่ะ ตอนที่อยู่ในสนามบินพี่ได้ยินเข้าพอดี ถ้าเป็นนายยังอยากจะยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวนี้อีกไหมล่ะ เพียงได้ยินนัยน์ตาของอัคคีก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่ได้ยิน นี่คุณอาทั้งสองคนไม่ได้จริงใจกับคุณพ่อคุณแม่ของเราเลยเหรอครับ ก็ใช่น่ะสิ หวังแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว สีหน้าเข่นเขี้ยวของเขาแสดงความรู้สึกติดลบอย่างมาก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้อิศเรศลืมนึกถึงอยู่หลายคราเวลาอยู่กับปภาพินท์ แต่พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็ทำให้เขารู้สึกดีกับอีกฝ่ายไม่ได้อย่างเต็มที่ แล้วคุณพินท์ยอมทำตามที่คุณอาทั้งสองบอกรึเปล่าครับ เขาบอกว่าไม่มีวันทำตามที่พ่อกับแม่บอกแต่พี่ไม่เชื่อหรอกขนาดยอมเป็นนางบำเรอพี่เพื่อช่วยครอบครัวยังทำได้เลย ถ้าสิ้นทางจริงๆ ก็คงจะทำอย่างที่พ่อกับแม่บอกน่ะล่ะ ยังไงเขาก็ไม่เชื่อมั่นในคำพูดของอีกฝ่ายอยู่ดี และเช่นเคยเมื่อเขามองไปยังนาฬิกาบนผนังรับรู้ว่าห้าทุ่มแล้วไม่เห็นเธอกลับมาถึงบ้านจึงรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าใดนักเผลอบ่นออกมาให้น้องชายได้ยิน ทำไมยังไม่กลับมานะ พี่อิฐพูดถึงคุณพินท์เหรอครับ เขาจึงพยักหน้าตอบรับอย่างไม่ปิดบัง ใช่น่ะสิ ได้ยินดังนั้นน้องชายก็ยกนิ้วขึ้นมายังใบหน้าคมของตนเองและชี้ปลายนิ้วมายังวงหน้าหล่อของพี่ชายอย่างคาดเดา ไหนบอกว่าไม่สนใจมากไงครับแล้วทำไมดูพี่อิฐไม่พอใจเลยที่คุณพินท์ยังไม่กลับบ้านป่านนี้ พี่กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำไม่ได้อย่างที่พูดน่ะสิ นายรู้ไหมว่าปภาพินท์มีคนรักแล้วนะ อัคคีเอ่ยทวนประโยคของพี่ชายออกมาอีกครั้งหนึ่ง คุณพินท์มีคนรักแล้ว อย่างนั้นคนรักเขาไม่ว่าเหรอครับที่คุณพินท์ต้องมาแสดงตัวเป็นพี่สาวน่ะครับ คงไม่รู้มั้งเพราะถ้ารู้คงไม่มีใครยอมหรอก ก็จริงนะครับถ้าเป็นผมคนรักต้องมาอยู่กับผู้ชายอีกคนคงรู้สึกไม่ดีแน่นอน พี่ไม่สนใจหรอกนะว่าผู้ชายคนนั้นจะรู้สึกยังไงแต่ปภาพินท์มีสัญญากับพี่ไว้ว่าจะไปนอนกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้ตราบใดที่ยังไม่ครบหนึ่งปี เขายกสัญญาขึ้นมาบอกเล่าให้น้องชายรับรู้แต่ข้างในไม่ได้ไว้ใจต่อคำสัญญาที่เธอให้ไว้กับตนเองเลย คุณพินท์จะทำได้เหรอครับพี่อิฐ ในเมื่อเป็นคนรักกันมันก็ต้องมีพลั้งเผลอบ้าง ถ้าทำไม่ได้พี่ก็จะเอาเรื่องครอบครัวของปภาพินท์ให้ถึงที่สุด ได้ฟังที่น้องชายบอกสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหึงหวง รับไม่ได้ถ้าอีกฝ่ายจะไปนอนทอดกายให้ผู้ชายอีกคนชมเชยเหมือนตนเอง ใจมันรู้สึกรุมร้อนไปหมด เขาวางแก้วที่ถืออยู่ในมือลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาหลังจากนั้น อัคคีเห็นท่าทางของพี่ชายก็นึกอย่างคาดเดา อย่าบอกนะว่าพี่อิฐหึงคุณพินท์น่ะอะไรกันแค่ได้อยู่ด้วยกันเพียงไม่ถึงครึ่งเดือนทำให้เป็นไปได้มากถึงขนาดนี้เลยเหรอ คิดมาถึงตรงนี้ในภวังค์ของอัคคีก็พลันนึกถึงใบหน้านวลแจ่มกระจ่างที่เขาได้พบอีกฝ่ายแค่เพียงไม่ถึงชั่วโมงก็ทำให้เขาลืมเลือนไม่ลงเช่นกัน จนกลับมาตามหาอีกฝ่ายซ้ำที่โรงแรมเก่าซึ่งตนเองได้สะกดรอยตามคนรักของเพื่อนไปก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ซื่อสัตย์กับเพื่อนของตนเลย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เจอเธอเพราะเมื่อกลับไปนั้นก็รับรู้ว่าอีกฝ่ายเช็คอินออกไปแล้วน่ะเอง ขนาดผ่านมาสิบวันแล้วเขาก็ยังไม่ลืมเรียวปากนุ่มที่ตนเองได้จูบด้วยความเร่าร้อนอย่างไม่อาจที่จะรั้งความปรารถนาในตัวอีกฝ่ายไว้ได้ พลันนึกถึงผิวนุ่มละมุนที่เขาสัมผัสด้วยฝ่ามือใหญ่ที่โลมไล้ไปตามร่างนวลยามที่เขากักกายระหงไว้กับวงแขนแกร่งรับรู้ได้ถึงความอวบอิ่มจากทรวงสล้างเมื่อแผ่นอกกว้างของเขาบดเคล้ากับเรือนกายเพื่อปราบพยศหญิงสาวไม่ให้ดิ้นต่อสู้ตนเองเพื่อจะตะโกนร้องเรียกความช่วยเหลือซึ่งอาจจะทำให้ผู้หญิงอีกคนรับรู้ ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นมีคนทราบแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่รู้หรอกว่ายิ่งดิ้นรนต่อต้านมันทำให้เขารู้สึกรุมร้อนอย่างมากมายเมื่อความเนียนละไมเสียดสีกับกายกำยำไม่ได้หยุดจนเขาแทบไม่อยากจะละกายออกมาเลย แม้กระทั่งเวลาผ่านไปจนมาวันนี้เขาก็ยังไม่ลืมเลือนกลิ่นกายหอมกรุ่นจากแก้มนวลและปากหวานที่ได้ลิ้มรสอย่างติดพันจนอยากที่จะได้ชิมมันอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็คงจะไม่มีโอกาสแล้วเพราะเธอหายไปแล้วน่ะเอง ชายหนุ่มนึกอย่างครุ่นคิด จะมีโอกาสได้เจอกับเธออีกรึเปล่านะแม่ปากหวาน พร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาแตะไปยังริมฝีปากของตนเองโดยลิ้นร้อนก็โลมไล้มันด้วยกับรสชาติที่ยังติดตรึงอย่างไม่จางหาย วันนี้ปภาพินท์ยังไม่อยากกลับบ้านเธอทิ้งกายลงไปยังเตียงนุ่มซึ่งคงจะไม่ได้กลับมานอนเหมือนทุกวันเช่นแต่ก่อน เธอมองไปยังภาพถ่ายของพี่สาวและตนเองที่ฉายไปด้วยรอยยิ้ม พลางทำอาการถอนหายใจออกมา ทำไมพี่นันท์ถึงยอมทำตามที่คุณพ่อคุณแม่บอกในตอนแรกกัน ไม่อย่างนั้นพินท์ก็คงไม่ต้องมาเป็นอย่างนี้หรอก เธอโทษว่าความผิดทุกอย่างเป็นของพี่สาวที่สนิทกันมาก ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอก็พลันดังขึ้นมา เธอจึงหันไปยังโทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางอยู่ ครั้นเห็นเบอร์ของเขาที่โชว์ขึ้นมาก็เกิดอาการตกใจ เธอรีบกดรับสายทันที ค่ะ คุณอิฐ เธออยู่ที่ไหนปภาพินท์ น้ำเสียงแข็งกร้าวถามก่อนเป็นประโยคแรก ฉันอยู่ที่บ้านค่ะ เธอบอกให้เขาได้ทราบอย่างชัดเจน บ้านใคร พลางซักไซ้แบบไม่เลิกรา บ้านคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แน่นะว่าอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ของเธอน่ะ ดูเหมือนคอยระแวงตลอดว่าหญิงสาวจะผิดคำพูดกับตนเอง แน่ค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อจะโทรถามคุณพ่อคุณแม่ฉันก็ได้นะคะ แล้วทำไมเธอถึงไม่กลับบ้าน เธอลืมไปรึเปล่าปภาพินท์ว่าเธอมีหน้าที่อะไรน่ะ วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจน่ะค่ะ หญิงสาวไม่มีอารมณ์จะกลับไปปรนเปรอความสุขให้เขาในตอนนี้หรอก เป็นอะไรถึงไม่สบายใจ หรือว่าทะเลาะกับแฟน ก็ไม่รู้ว่าเขาจะอยากรู้ทำไมกัน เพราะว่าไม่ได้เกี่ยวกับตนเองเลยสักนิด เรื่องงานน่ะค่ะ ปภาพินท์ปดอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเบา แล้วเธอจะกลับบ้านเมื่อไรกัน พรุ่งนี้ค่ะฉันถึงจะกลับ หญิงสาวไม่กล้านอนที่นี่หลายวันหรอกกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจแล้วจะพาลมาถึงครอบครัวของตนเอง จะไม่กลับแล้วทำไมไม่โทรบอกกัน เขาตำหนิในการกระทำของอีกฝ่าย ซึ่งปภาพินท์ก็รู้ดีว่าตนเองทำไม่ถูกเช่นกันจึงบอกกลับไปอย่างไม่โต้แย้ง ฉันขอโทษค่ะที่ไม่ได้โทรบอกคุณ ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้โทรบอกด้วยเวลาจะไปไหนถ้าไม่กลับจะได้ไม่ต้องรอเอ่อ ไม่ต้องห่วง เอ๊ยไม่ใช่เวลาคุณแม่ถามฉันจะได้ตอบถูก อิศเรศแก้ตัววุ่นวายไปหมด ต่อไปฉันจะพยายามไม่ลืมค่ะ ปภาพินท์ไม่โต้เถียงแม้สักนิด คราวหลังอย่าลืมบ่อยเพราะฉันไม่ชอบมันทำให้ฉันคิดว่าเธออาจจะทำไม่ได้อย่างที่ให้สัญญาไว้เรื่องที่จะไม่ไปนอนกับผู้ชายคนอื่นในระหว่างที่เธอยังอยู่ในฐานะเมียตัวปลอมของฉัน ปกติชายหนุ่มมักจะพูดแค่ว่าเมียตัวปลอมแต่ครั้งนี้กลับพูดว่าเมียของฉันด้วยซึ่งประกาศสิทธิ์อย่างเต็มที่ โดยบอกอย่างไม่เชื่อถือในคำพูดของหญิงสาวเลย เรียวปากนุ่มเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะตอบด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงยิ่งนัก ฉันทำตามที่พูดได้แน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วง ก็ดีที่เธอจำได้ อิศเรศรู้สึกโล่งอกเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่บ้านของบิดากับมารดา ซึ่งหลังจากที่เขาวางสายแล้วน้องชายก็ถามด้วยความอยากรู้ เป็นยังไงครับ คุณพินท์อยู่ไหนครับพี่อิฐ อยู่ที่บ้านของพ่อกับแม่น่ะ อีกฝ่ายทำอาการเลิกคิ้วสูงพลางย้อนถามซ้ำ แล้วทำไมไม่กลับมาที่บ้านล่ะครับพี่อิฐแบบนี้คนอื่นไม่สงสัยเหรอครับว่าพี่อิฐกับคุณพินท์มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า ถ้าเห็นว่าอยู่คนละบ้านกันอย่างนี้ ได้ฟังที่น้องชายบอกเขาก็รู้สึกคิดตามไปด้วย จริงสิ แบบนี้พี่อิฐอย่าปล่อยให้คุณพินท์กลับไปบ้านบ่อยนะครับ อัคคีต้องการทดสอบความรู้สึกของพี่ชายว่าคิดอะไรกับอีกฝ่ายมากเพียงใด แต่พอเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ชายหนุ่มก็อดยิ้มอย่างขำขันไม่ได้ นั่นเพราะคนที่บอกว่าไม่เคยคิดไม่อยากเกี่ยวข้อง แต่แค่อีกฝ่ายไม่กลับมานอนที่บ้านพี่อิฐก็นั่งไม่ติด ซ้ำพอบอกว่ากลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดพี่อิฐก็ดูเดือดร้อนอย่างมากทีเดียว จะว่าพี่ชายไม่เคยผ่านผู้หญิงที่นอนกับผู้ชายคนอื่นมาก่อนมันก็ไม่น่าจะใช่ ก็เห็นยังรับได้ แต่พอเห็นเจ้าสาวตัวปลอมมีคนรักกลับไม่ยอมให้มีอะไรกับคนรักแทนเสียนั่น เขาจึงเฉลยให้ฟังว่าตนเองคิดเช่นไร พี่อิฐไม่ต้องกังวลหรอกครับผมก็ลืมไปว่าคุณพินท์กับคุณนันท์เป็นคนละคนกันถ้าใครเห็นคุณพินท์อยู่กับผู้ชายคนอื่น คุณพินท์ก็บอกว่าเป็นน้องสาวสิครับ แค่นี้คนอื่นก็เลิกเข้าใจผิดแล้ว ก็จริงนะ ชายหนุ่มเพิ่งนึกขึ้นมาได้เช่นกัน แต่สีหน้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปมากจากเมื่อครู่เลย โดยคืนนี้อิศเรศก็นอนคนเดียวอีกคราเหมือนเมื่อคืนก่อน ดูเขาจะไม่ชื่นชอบเลยนั่นเพราะว่าดูเหมือนว่าจะติดกับหมอนกอดเนื้อนุ่มที่ต้องนอนกอดและจูบทุกคืน ทางด้านของปภาพินท์หลังจากวางสายแล้วก็เตรียมที่จะหลับตาพักผ่อน แต่เมื่อมือดึงหมอนข้างขึ้นมากอดก็พลันคิดถึงร่างแกร่งที่เธอได้นอนกอดทุกคืนราวกับว่าเขาเป็นหมอนข้างคู่กายของตนเอง พลันนึกถึงความอบอุ่นและความสุขก่อนที่ตนเองจะได้นอนหลับซึ่งมักจะหลับไปในอ้อมแขนกำยำทุกวัน แม้จะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายแต่กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากความคุ้นชินไป นัยน์ตามองไปยังหมอนใบใหญ่ที่ปกติจะพบวงหน้าคมอยู่ไม่ไกลตลอดเวลาแต่เมื่อเห็นเพียงความว่างเปล่าก็ราวกับไม่คุ้นเคย ก่อนจะต่อว่าตนเองที่คิดอะไรไร้สาระตลอด บ้าน่ะ ไปนึกถึงเขาทำไมกัน ผู้ชายร้ายกาจที่ชอบดูถูกครอบครัวอย่างนี้น่ะ พยายามสลัดภาพใบหน้าหล่อที่ตื่นขึ้นมาพบเป็นสิ่งแรกให้ออกไป อิศเรศมีสีหน้าดีขึ้นหลังจากที่เมื่อคืนรู้สึกหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ทำในสิ่งที่คุ้นชิน นั่นคือหาความสุขกับร่างนุ่มแม้ไม่ได้มีอะไรกันก็เถอะ ครั้นเห็นเธอกลับมาเขาก็เดินเข้ามากอดร่างนุ่มยังหน้าโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งเธอจัดการอาบน้ำสวมเสื้อผ้าชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พลางจุมพิตกับแก้มนุ่มของปภาพินท์และบอกด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ โดยขบเม้มกับใบหูเล็กอย่างแผ่วเบาพาให้กายนุ่มเกิดอาการสะท้านทุกคราวที่เขาเข้าใกล้ตนเอง ซ้ำฝ่ามือใหญ่ยังฟอนเฟ้นไปตามร่างนวลอย่างปรารถนาด้วย กลับมาแล้วเหรอ น้ำเสียงแสดงความเร่าร้อนอย่างมาก ทำไมอยู่ใกล้เธอเหมือนอยู่ใกล้ไฟเสียจริง วันๆ ไม่คิดอยากที่จะทำอะไรกับร่างนวลนอกจากรักอีกฝ่ายเท่านั้น เธอใส่เสน่ห์ให้เขากินรึไงกันนะ ปกติผู้หญิงที่เขาเคยคบหามีแต่ผู้หญิงที่เต็มใจจะบริการความสุขให้ตนเองด้วยความยินดี แต่ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนเขากลับทำในสิ่งตรงกันข้ามทั้งหมด ปกติคนอย่างเขาไม่คิดบังคับใครไม่อยากมีความสัมพันธ์ก็ไม่ใส่ใจ แต่สำหรับแม่เมียกำมะลอของเขาช่างเป็นเหมือนยาเสพติดเสียจริง ถ้าไม่ได้เสพจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านอย่างมาก ซึ่งพอได้เสพยาแล้วเขาจะอารมณ์ดีขึ้นมาในทันใด โดยเชื่อได้เลยว่าคงอีกนานกว่าจะเลิกเสพยาชนิดนี้ เมื่อนัยน์ตาคู่คมมองเห็นว่าหญิงสาวอยู่ในชุดใหม่แล้วจึงย้อนถามอย่างพาลพาโลแบบไม่ชอบใจ ใครใช้ให้เธออาบน้ำก่อนฉันกันปภาพินท์ ฉันเห็นคุณหลับอยู่นี่คะก็เลยไม่อยากรอ เธอบอกไปตามความจริงเมื่อขับรถกลับมาที่บ้านในช่วงเช้า โดยบอกให้รับรู้ว่าเธอไปนอนที่บ้านของบิดากับมารดาให้คุณอาทั้งสองได้ทราบ คราวหลังจำไว้ว่าเธอต้องอาบน้ำพร้อมฉันตลอดรู้ไหม ค่ะ เธอพยักหน้าตอบกลับไปเบาๆ ดูเหมือนว่าท่าทางม้าพยศของปภาพินท์จะแทบไม่มีหลงเหลือเลยเมื่อเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว ซึ่งอิศเรศก็ดูจะพึงพอใจกับท่าทางเช่นนี้ของอีกฝ่ายมากกว่า อย่างนั้นเธอก็ช่วยถอดเสื้อผ้าให้ฉันหน่อยสิ มือเรียวของปภาพินท์กระตุกเชือกเสื้อคลุมที่เขาสวมอยู่บนร่างแกร่งเผยให้เห็นกายเปลือยเปล่า ซึ่งเธอเริ่มคุ้นชินกับมันมากขึ้น คุ้นกับความกำยำ และเรือนกายที่น่ามอง ยอมรับว่าเธอมีเจ้าบ่าวที่รูปร่างดีอย่างมาก คิดหวนกลับกันถ้าหากต้องแต่งงานแทนพี่สาวแล้วเจ้าบ่าวแก่และพุงพลุ้ย หัวล้าน เธอจะทำเช่นไรนะ จะยอมทำหน้าที่เป็นนางบำเรอให้อีกฝ่ายรึเปล่ากัน เหมือนเป็นความฝันที่แสนโชคดีเมื่อได้อยู่กับผู้ชายที่หล่อและเพอร์เฟคอย่างมาก วงหน้านวลแดงซ่านยังไงก็ยังคงมียางอายไม่เปลี่ยนเหมือนทุกคราว ใบหน้าหวานไม่กล้าก้มลงมองต่ำไปกว่าหน้าอกของเขาเลย รู้ไหมว่าเธอแตกต่างจากคนอื่นมากแค่ไหน นัยน์ตาที่ล้อมกรอบด้วยแพขนตางอนงามเงยขึ้นถามเขา แตกต่างยังไงเหรอคะ แล้วเธอจะไปอยากรู้เรื่องนี้ทำไมกัน จะแตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยคบแค่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย แต่เธอกลับต้องการอยากรู้มาก คนอื่นเขาไม่มายืนอายเวลาที่ผู้ชายแก้ผ้าตรงหน้าหรอก ปภาพินท์รีบตอบด้วยน้ำเสียงสะบัดเมื่อได้ยินอย่างชัดเจน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้นนี่คะ ถ้าคุณชอบผู้หญิงที่ไม่อายเวลาเห็นคุณแก้ผ้าคุณก็ไปหาผู้หญิงพวกนั้นสิคะ เธอพูดพร้อมกับสีหน้าที่แสดงความบึ้งตึงอย่างชัดเจน อิศเรศจึงยิ้มกับท่าทีแสนงอนของอีกฝ่าย ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นท่าทางดังกล่าวจากเธอมาก่อนเลย ดูเธอจะไม่พอใจนะที่ฉันพูดถึงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธอน่ะปภาพินท์ ใช่เธอไม่ชอบที่เขาเอ่ยถึงผู้หญิงคนอื่นจริงๆ ก่อนที่จะต่อว่าตนเองเหมือนทุกครา บ้าน่ะสิ เขาอยากจะพูดถึงผู้หญิงคนไหนก็พูดไปเลยเธอไม่รู้สึกอะไรหรอก แม้ปากจะบอกเช่นนั้นแต่สีหน้าขุ่นเคืองก็ไม่จางลงเลย ซ้ำยังบอกอย่างไม่ยอมรับความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นในกายของตนเองด้วยการโต้แย้งอย่างเสียงแข็ง ฉันจะไม่พอใจคุณอิฐเรื่องอะไรล่ะคะ คุณกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนี่คะ แม้จะพูดเช่นนั้นแต่แววตาของเธอกลับรู้สึกเจ็บปวด สำหรับอิศเรศก็รู้สึกไม่พอใจเมื่อตนเองไม่ได้มีความสำคัญสำหรับอีกฝ่าย จริงสินะเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากเกี่ยวข้องกันแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น หญิงสาวตอบกลับไปอย่างยอมรับราวกับถูกมีดทิ่มตำที่ใจด้วยความรุนแรง ใช่ค่ะ แล้วตกลงรอบเดือนเธอมารึยัง เขายังจำถึงสิ่งที่ต้องพิสูจน์ได้ ปภาพินท์จึงตอบให้เขารับรู้ ยังไม่มาเลยค่ะ สีหน้าของชายหนุ่มแสดงความตกใจ ยังไม่มา หมายความว่าเราพลาดกันอย่างนั้นเหรอ +++++++++++++++ เอาตอนต่อไปมาแปะให้อ่านต่อค่ะ ข้าวจะทยอยลบจ้างรักตอนแรกๆ ลงนะคะ พอดีว่านิยายวางแผงละค่ะ รวมทั้งบ่วงรักด้วยนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้จ้างรักกับปล้นใจด้วยนะคะ จุ๊บๆ คิดถึงคนอ่านค่ะ เพิ่งกลับมาค่ะต้องทำงานอีกแล้ว
Create Date : 21 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2557 10:00:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2657 Pageviews. |
|
|