ผ่อนคลายกับนิยายของ กัณธิชา - รัตมา - มธุกร ค่ะ
<<
เมษายน 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
7 เมษายน 2557
 
 

จ้างรักจอมมาร ตอน ฮันนีมูนหวานหรือขมกันนะ








แล้วทั้งสองก็มาถึงประเทศอิตาลี หรือสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic) ซึ่งอยู่บริเวณยุโรปใต้ โดยมีกรุงโรมเป็นเมืองหลวง  โดยสถานที่แรกเมื่อทั้งคู่ไปถึงก็คือเมืองเวนิส เป็นเมืองที่สวยที่สุดในอิตาลี คือเมืองที่มีความเจริญทางด้านประวัติศาสตร์และศิลปะ ซึ่งได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก (Queen of the Adriatic) เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และ เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light)

โดยเมืองเวนิส หรือเวนิเชียนั้นเป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต (Veneto) 1 ใน 20 แคว้นที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี และยังเป็นแคว้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศ เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกัน เป็นเมืองที่มีการใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด ทั้งยังเป็นแคว้นที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ระหว่างที่เดินไปนั้นปภาพินท์ก็ถามเขาเบาๆ

“นี่ฉันต้องหวานกับคุณตลอดเวลาที่มาเที่ยวเลยรึไงกันคะ”

“คงไม่ต้องหรอกเดี๋ยวเราก็เดินแยกไปทางอื่น ตรงที่คุณอาทั้งสองอยู่เราก็ไม่ไป เธอจะได้ไม่ต้องมาแสดงบทหวานกับฉันตลอด” ได้ยินดังนั้นปภาพินท์ก็ยิ้มด้วยสีหน้ายินดี

“ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ” อิศเรศคิดอยู่ในใจไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่จะอิดเอื้อนในการโปรยเสน่ห์ให้กับตนเอง ส่วนใหญ่มีแต่พยายามออดอ้อนออเซาะเพื่อให้เขาสนใจมากทั้งนั้น

ปภาพินท์มองไปทั่วบริเวณโดยรอบก่อนจะมองเห็นเรือกอนโดร่า มีคนเคยบอกว่าถ้ามาที่เวนิสจะต้องนั่งเรือลำดังกล่าว ถ้าไม่ได้นั่งก็แปลว่ามาไม่ถึงเวนิส ประเทศอิตาลีเป็นประเทศที่เธอเองก็อยากมาเที่ยวเช่นกัน เธอหันไปบอกเขาให้ได้รับรู้

“ฉันอยากนั่งเรือกอนโดร่าค่ะ” โดยเรือส่วนใหญ่จะได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม

“เอาสิ” เขาพยักหน้าอย่างไม่โต้แย้ง ก่อนที่จะเดินไปติดต่อตกลงราคากับเจ้าของเรือด้วยราคา 80 ยูโร โดย 1 ยูโรเท่ากับ 45 บาทไทย ตกเป็นเงิน เกือบสี่พันบาท คนขับเรือก็พูดเป็นภาษาอังกฤษ

“เหมาะกับคู่รักอย่างคุณทั้งสองมากเลยครับ โรแมนติกมากเลยครับ” ได้ยินแล้วปภาพินท์ก็เกิดอารมณ์ไม่อยากที่จะนั่งแล้วเพราะเธอไม่ใช่คู่รักของอีกฝ่าย

“เอ่อ ฉันว่าฉันไม่นั่งแล้วดีกว่า”

“ทำไมที่ไม่นั่งน่ะก็เพราะเจ้าของเรือเขาบอกว่าเธอเป็นคู่รักฉันรึไงกัน” เขาบอกอย่างรู้เท่าทัน ซึ่งเธอก็ยอมรับกลับไปตรงๆ อย่างไม่รักษาหน้าอีกฝ่ายเลย

“ใช่ค่ะ ฉันไม่อยากเป็นคู่รักคุณ”

“ฉันก็ไม่อยากเป็นคู่รักเธอเหมือนกันน่ะล่ะ” ได้ยินดังนั้นอิศเรศก็บอกไม่ต่างกับหญิงสาวเช่นกัน คนขับเรือกอนโดร่าจึงหันมาบอกกับทั้งคู่

“เชิญขึ้นเรือเลยครับ” ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะเตรียมตอบออกไปเหมือนกัน

“ไม่...” แต่อิศเรศกับปภาพินท์ยังพูดไม่ทันจบประโยคเสียงหนึ่งก็พลันดังขึ้นมาเรียกทั้งสองไว้

“อ้าวตาอิฐกับหนูนันท์ก็มานั่งเรือกอนโดร่าเหมือนกันเหรอ” นิภาที่เดินมากับสามีพอเห็นอิศเรศกับปภาพินท์ก็เอ่ยถาม ชายหนุ่มกับหญิงสาวพยักหน้าตอบรับกลับไปอย่างจำใจทั้งที่เมื่อครู่กำลังถกเถียงกันและตัดสินใจว่าจะไม่ยอมนั่งเรือกอนโดร่าอย่างเด็ดขาด แต่ตอนนี้ต้องกลับคำพูดเสียแล้ว

“ครับอานิภา / ค่ะ”

“อาอยากจะมารำลึกความหลังสมัยสาวๆ สักหน่อยว่าตอนที่เจอกันแรกๆ เป็นคู่กัดกันมากเลย แล้วก็โดนเข้าใจผิดว่าเป็นคู่รักแต่เพราะขึ้นมาบนเรือกอนโดร่าแล้วก็เลยลงไปไม่ได้ พอแก่แล้วก็เลยอยากลองมานั่งอีกรอบเพื่อระลึกถึงความหลังน่ะว่าความรักของเราเกิดขึ้นเพราะความไม่ชอบหน้ากัน ตาอิฐกับหนูนันท์นั่งตอนนี้ไม่แน่นะพอแก่ไปเหมือนอาก็อาจจะอยากกลับมารำลึกความหลังแบบอาทั้งสองคนก็ได้”

ได้ยินคำพูดนี้ทั้งอิศเรศกับปภาพินท์ก็ต่างมองหน้ากัน รู้สึกสะดุดตรงประโยคที่เอ่ยว่าความรักเกิดขึ้นจากความไม่ชอบหน้า โดยคนขับเรือก็หันมาถามทั้งสองคนซ้ำเมื่อดูเหมือนไม่มีวี่แววว่าทั้งคู่จะขึ้นเรือของตนเอง

“ตกลงคุณสองคนจะนั่งเรือกอนโดร่าไหมครับ”

“นั่งครับ/ นั่งค่ะ” เธอและเขาตอบรับพร้อมกันก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนเรือหลังจากนั้น ซึ่งคุณนิภากับคุณชาลีก็นั่งทางเบื้องหลังของทั้งคู่ โดยเรือลำหนึ่งจะขึ้นได้ 6 คน ทำให้อิศเรศกับปภาพินท์จำต้องเล่นบทคู่สามีภรรยาที่รักกันมากอีกคราหนึ่ง

ครั้นลูกค้าขึ้นไปนั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเรือกอนโดร่าก็เริ่มลอยออกไปกลางลำน้ำ ซึ่งท่าเรือที่ทั้งสองเดินมาอยู่ตรงข้ามกับโรงแรม Hotel Cavalletto มีต้นไม้สีแดงประดับอยู่บนขอบหน้าต่างทุกบาน ปภาพินท์ที่เป็นคนชอบต้นไม้และวิวสวยๆ ก็อดที่จะยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศงามๆ ไว้ไม่ได้ ขณะที่เรือก็ลอยไปยังตรอกแคบๆ ซึ่งคนขับเรือก็ใช้ไม้พายวางไปบนไม้ Foncola เพื่อเอาไว้บังคับทิศทาง

และลอดผ่านสะพานเล็กสะพานน้อย ซึ่งเรือหลายลำก็พายสวนกันไปมาโดยที่ไม่ชนกัน มี อาคาร ร้าน บ้านเรือน และวิวทิวทัศน์โดยรอบสองฝั่งคลอง ที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปทั่วเมือง เต็มไปด้วยตึกสีสันละลานตาเต็มไปหมด ทั้งสีเหลือง สีชมพู สีขาว และสีน้ำตาล นับเป็นเมืองที่มีคลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก ปภาพินท์ถ่ายรูปไปมาไม่หยุดด้วยความเพลิดเพลิน อิศเรศก็ขยับกายเข้ามาใกล้และบอกอย่างกระซิบ

“นี่เธอลืมอะไรไปรึเปล่าเรามาฮันนีมูนกันนะ” เขาย้ำให้หญิงสาวรับรู้อย่างชัดเจน

“ฉันจำได้ค่ะ” เธอย้ำแบบยืนยันใครจะลืมกันล่ะว่าตนเองจะต้องเสียตัวให้เขาด้วยน่ะ

“จำได้แต่เธอเล่นถ่ายรูปเมืองรอบด้านอย่างเดียวเนี่ยนะ แล้วจะเอารูปที่ไหนไปหลอกคุณพ่อคุณแม่ของฉันกันล่ะ” เพียงได้ยินที่เขาบอกปภาพินท์ก็พลันนึกขึ้นมาได้ทันที

“จริงสิคะฉันลืมไปเลย” แต่ระหว่างนั้นนิภาก็เรียกทั้งสอง

“ตาอิฐ หนูนันท์จ๊ะ” ทั้งคู่จึงหันกลับไปทางเบื้องหลังก็พบว่าหญิงสูงวัยกำลังใช้กล้องบันทึกภาพของทั้งสอง

“ครับคุณอานิภา/คะคณอานิภา”

“แชะ!” อีกฝ่ายก็บอกให้ได้ทราบ

“ถ่ายรูปทั้งสองคนด้วยจะได้รู้ว่ามาทริปเดียวกัน”

“อย่างนั้นผมถ่ายรูปคุณอาทั้งสองด้วยครับ คุณพ่อกับคุณแม่จะได้รู้ว่าผมมาทริปเดียวกับคุณอา” ผู้ใหญ่อุตส่าห์ถ่ายรูปให้แล้วจะไม่ถ่ายทั้งสองเลยก็ดูไม่ดีเท่าใดนัก

“ขอบใจจ้ะตาอิฐ / ขอบใจนะตาอิฐ เอาอย่างนี้ดีไหมพวกเราผลัดกันถ่ายรูปให้กัน อาสองคนก็ถ่ายให้ตาอิฐกับหนูนันท์ ส่วนตาอิฐกับหนูนันท์ก็ถ่ายรูปให้อาทั้งสอง จะได้มีรูปคู่กันเยอะๆ ไง” ทั้งสองต่างมองตากันด้วยใบหน้าแบบไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนักแต่ก็จำต้องทำตามที่อีกฝ่ายบอก ขืนไม่มีรูปคู่กลับไปเลยคงโดนบิดามารดาสงสัยเป็นแน่

“ดีค่ะ/ดีครับ” พร้อมกับทำอาการถอนหายใจโดยแรงอย่างเบื่อหน่ายเป็นที่สุด

ซึ่งระหว่างที่นั่งเรือออกไปยัง Grand Canel  อันเป็นไฮไลท์ของการนั่งเรือกอนโดร่า หลังจากที่เรือล่องออกมาจากตรอกเล็กๆ เมื่อครู่นี้ แม้บางตึกจะดูเก่าแต่การออกแบบดูมีดีไซน์หลากหลายอย่างมาก โดยทุกๆ ตึกจะมีท่าเรืออยู่ด้านหน้า ซึ่งท้องฟ้าวันนี้ก็อากาศสดใสอย่างมาก มองเห็นสะพาน Realto อยู่ไกลๆ ซึ่งทั้งคู่ก็ต้องโพสท่าอย่างใกล้ชิดกันเพื่อให้คุณอานิภากับคุณอาชาลีเก็บภาพหวานให้ อิศเรศกับปภาพินท์หันไปยิ้มให้กับกล้องของทั้งสอง ด้วยใบหน้าสดใสเสมือนคู่รักที่มาฮันนีมูนด้วยกันจริงๆ



หลังจากนั่งเรือกันเสร็จโดยเรือกอนโดร่าจะมีเวลานั่งนาน 40 นาที ทั้งสองก็พากันไปชมสถานที่แห่งที่สองนั่นก็คือ มหาวิหารแพนธีออน (Pantheon) มาจากภาษากรีก แปลว่าวิหารบูชาแด่เทพเจ้าทั้งหมด ลักษณะเด่นของตัววิหาร หลังคามีลักษณะทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลม อยู่บนเสาแกรนิตขนาดใหญ่ วิหารมีความสูง 43.3  เมตร เป็นวิหารที่ยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 7  เป็นต้นมา

ภายในวิหารแพนธิออนมีสิ่งหนึ่งที่เป็นปริศนาอยู่ภายในนั้น นั่นก็คือรูขนาดใหญ่บนหลังคาโดมมีขนาด 30 ฟุต หรือประมาณ 9 เมตร เป็นปริศนาที่มีมายาวนาน ซึ่งตอนนี้นักประวัติศาสตร์ต่างทราบแล้วว่ารูดังกล่าวมีไว้เพื่ออะไร ซึ่งรูนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นไฟสปอร์ตไลท์ธรรมชาติ เพื่อสาดส่องมายังองค์จักรพรรดิ ให้เกิดความประทับใจและความน่าตื่นตาตื่นใจในการปรากฏกายขององค์จักรพรรคดิ์ เมื่อเสด็จมายังวิหารในโอกาสพิเศษ

แม้ว่ารูนี้จะทำให้น้ำรั่วเข้ามาเมื่อฝนตกแต่สถาปนิกเมื่อสองพันปีที่แล้ว ก็ได้สร้างทางแก้ไว้ด้วยการสร้างรูเล็กที่พื้น โดยใช้เป็นทางระบายน้ำยังพื้น ปภาพินท์กับอิศเรศเพลิดเพลินกับการเดินชมสถานที่เบื้องหน้า ซึ่งคุณอาทั้งสองก็เดินตามทั้งคู่มาด้วยนั่นยิ่งทำให้อิศเรศกับปภาพินท์ต้องเล่นบทหวานใส่กันตลอด และเธอก็ถูกบังคับให้ทำหวานกับเขาด้วยเหมือนทุกครา

“ถ่ายรูปตรงมุมนั้นดีกว่าที่รัก”

อิศเรศเรียกเธอด้วยสรรพนามที่เล่นละครหลอกบุพการีเพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองรักกันมากจริงๆ โดยมุมที่เขาเลือกก็คือหน้าวิหารที่เรียกว่า Piazza della Rotonda ซึ่งมีเสาหินอิยิปต์โบราณบริเวณน้ำพุ โดยบริเวณดังกล่าวคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย เมื่อเขาสั่งเธอก็เดินไปยังบริเวณที่อีกฝ่ายชี้และตอบรับ

“ได้ค่ะคุณ...” แต่ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเขาทำเสียงข่มใส่ “เรียกฉันว่าที่รักสิให้เหมือนตอนเราอยู่ที่บ้านน่ะ” เธอก็จำต้องแสดงตามนั้นพร้อมกับพยักหน้าบอกกลับไป

“ได้ค่ะที่รัก” ปภาพินท์เน้นประโยคสุดท้ายอย่างอดเหน็บแนมไม่ได้

“เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้นะ โพสท่าสวยๆ ล่ะที่รัก” ถ้าเป็นผู้ชายที่เธอรักเรียกตนเองแบบนี้หญิงสาวจะรักมากเลย แต่พอเห็นใบหน้าคม รอยยิ้มเมื่อครู่ก็เจื่อนลงในทันที เมื่อคำพูดที่เขาตอกใส่หน้าดังขึ้นให้ได้ยินชัดเจน

‘แล้วฉันจะคอยดูว่าเธอจะทำได้อย่างที่ปากพูดรึเปล่า’ ปภาพินท์ทำหน้าสะบัดใส่ไปอีกด้านหนึ่งและตอบคล้ายเป็นความตั้งใจ

“ฉันจะทำให้ได้อย่างที่พูด ไม่เชื่อคอยดู”

“ที่รักผมจะถ่ายรูปแล้วนะยิ้มสวยๆ หน่อย”

อิศเรศบอกกับหญิงสาว ปภาพินท์ก็มอบรอยยิ้มให้กับเขา ภาพในเลนส์กล้องทำให้ชายหนุ่มยืนมองอย่างชื่นชอบ ยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีรอยยิ้มน่ามองอย่างมาก เวลาที่เห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายแทบทำให้เขาลืมทุกอย่างรอบตัวไปเลย แล้วพลันอิศเรศก็นึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายขึ้นมา

‘ว่าแต่คุณเถอะค่ะอย่าเผลอมาหลงเสน่ห์ฉันก็แล้วกันค่ะ เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่เลือกคุณเหมือนกัน’ ใบหน้าคมเปลี่ยนเป็นมุ่ยแทน

“ฉันไม่มีวันหลงเสน่ห์เธอหรอกปภาพินท์” เขานึกและบันทึกภาพของเธอที่มีรอยยิ้มแจ่มใส หากทว่าแม้จะพูดเช่นนั้นแต่ก็ไม่อาจละจากใบหน้านวลที่อ่อนหวานได้เลยพลางเอ่ยชมเชยออกมาอย่างลืมตัว

“สวยมากเลยที่รัก” หญิงสาวก็นึกอย่างเหน็บแนม

“เป็นคำพูดที่เอาไว้หลอกคนสินะ อย่างเธอไม่มีทางสวยในสายตาเขาหรอก” แต่บางรูปปภาพินท์ก็ทำหน้าบึ้งตึงใส่คล้ายหงุดหงิดที่เธอต้องมาเล่นเป็นตัวคนอื่นทั้งที่ไม่เต็มใจเท่าใดนัก จนอิศเรศที่เห็นภาพในกล้องอดที่จะยิ้มขำกับภาพบื้องหน้าไม่ได้

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เธอจึงตะโกนถามกลับมาแบบประชดประชันโดยเน้นคำว่าที่รักอย่างชัดเจนแต่ไม่ใช่ลักษณะอ่อนหวานเลย

“หัวเราะอะไรคะที่รัก” เขาจึงบอกให้หญิงสาวได้รับรู้อย่างชัดเจน

“ก็หัวเราะเธอไงล่ะทำหน้าเหมือนลิงดี ยิ่งเวลาที่ทำจมูกย่นๆ แล้วเม้มปาก เหมือนมาก” ได้ยินที่เขาพูดเช่นนั้นปภาพินท์ก็ลุกขึ้นมาทันที เธอเดินตรงไปหาอีกฝ่ายและหยิบกล้องของตนเองขึ้นมาก่อนจะสั่งเขาอย่างไม่ชอบใจ

“ไม่ถ่ายละตาคุณไปถ่ายบ้างละกัน ฉันจะเป็นคนถ่ายรูปให้เอง”

“อ้าวทำไมล่ะ” อิศเรศพลางย้อนถามกลับไป เธอจึงบอกให้ได้ทราบ

“หมดอารมณ์”

สิ้นคำพูดที่ว่าชายหนุ่มก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับนัยน์ตาจับจ้องไปยังร่างนวลเบื้องหน้าซึ่งตนเองได้ลิ้มลองแล้วว่ามันยอดเยี่ยมมากเพียงใด โดยเฉพาะทรวงนุ่มกับสะโพกเต็มตึง ซึ่งเขาต้องกักกั้นความปรารถนาไว้เพื่อให้ถึงคืนฮันนีมูนแสนหวานระหว่างตนเองกับเธอ

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะปลุกให้เธอมีอารมณ์เอง”

แทบอยากกัดปากตัวเองเลยทีเดียวเมื่อได้ยินคำพูดที่เขาบอก ปภาพินท์อดคิดอย่างเข่นเขี้ยว เธอไม่น่าพูดคำเมื่อกี้ออกไปเลยให้ตายเถอะ อิศเรศมีทางที่จะเอาคืนอีกฝ่ายแล้ว แม่จอมพยศ ดื้อรั้นแทบกลายเป็นแม่เสือที่ไร้พิษสงไปเลย ยังจำได้ถึงคืนที่เข้าห้องหอพร้อมกับอีกฝ่าย ปากนี้แทบจะทำให้เขาไปหยิบสบู่มาถูลิ้นนัก ผู้หญิงอะไรช่างยอกย้อนเก่งจริงๆ แต่ตอนนี้เขาเก่งกว่าเพราะมีวิธียอกย้อนทำให้อีกฝ่ายเลิกอวดเก่งกับตนเองได้ ซึ่งมันเป็นวิธีที่ทำให้เขาเพลิดเพลินอย่างมาก

“คุณไปนั่งสิคะฉันจะถ่ายรูปให้” เลิกปากดีกับอีกฝ่ายไปเลยทีเดียว อิศเรศจึงเดินไปยืนยังมุมที่เธอยืนโพสท่าเมื่อครู่นี้

“ตาอิฐอาถ่ายให้เอาไหมผลัดกัน” ชาลีเสนอตัวอย่างมีน้ำใจเหมือนทุกคราว ซึ่งดูเหมือนทั้งคู่มักจะลืมตลอดว่าต้องมีภาพหวานของทั้งสองกลับไปให้ครอบครัวดู พอได้ยินคำถามก็พลันนึกออกคราวหนึ่ง

“ขอบคุณครับคุณอาชาลี” อิศเรศส่งกล้องให้กับอีกฝ่าย โดยเขาเดินไปนั่งเคียงข้างกับปภาพินท์ ทั้งยังยกมือขึ้นโอบบ่าเล็กอย่างชิดใกล้พร้อมกับยิ้มให้กับกล้องโดยปภาพินท์ก็ยิ้มหวานให้เช่นกัน แชะ! ชาลีสั่งออกมาต่อ

“อีกรูปหนึ่งนะตาอิฐ หนูนันท์ หนึ่ง สอง สาม” แชะ! คราวนี้อิศเรศเปลี่ยนเป็นกอดร่างนวลทางเบื้องหลังแทนซึ่งกายระหงของปภาพินท์ก็พิงกับแผ่นอกกว้างอย่างแนบชิดเกิดความรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ กับหญิงสาวยิ่งนัก ซึ่งอิศเรศก็มีความรู้สึกอยากกอดร่างนุ่มไม่ปล่อยเลย เขายกมือกอดร่างนวลอย่างแนบแน่นจนเธอส่งเสียงโอดออกมา

“ไม่ต้องกอดฉันแน่นมากก็ได้ค่ะคุณอิฐ ฉันหายใจไม่ออก”

“ฉันบอกให้เรียกว่าที่รักไงล่ะ ทำไมไม่ทำตาม แล้วจะบอกอะไรให้นะว่าตอนนี้เธอทำเป็นไม่อยากให้ฉันกอด แต่เชื่อสิว่าคืนนี้เธอจะต้องเป็นฝ่ายกอดฉันแน่นกว่าที่ฉันกอดเธออีกตอนที่เราอยู่บนเตียงเดียวกันน่ะ”

เจอคำพูดยอกย้อนได้วาบหวิวยิ่งนัก ทำให้ปภาพินท์หุบปากสนิทไม่พูดอีกเลย พูดทีไรเข้าเรื่องอย่างว่าตลอดเลย วงหน้านวลเปลี่ยนเป็นแดงซ่านเมื่อนึกถึงว่าคืนนี้เธอกับเขาจะต้องทำอะไรบ้าง ภาพที่เขาได้ทำความรู้จักร่างกายของเธอก็หวนกลับมาให้นึกถึง เมื่อปากร้อนจุมพิตไปยังเรียวปากนุ่ม และซบไซ้ลงมายังลำคอระหง ทรวงอก ซึ่งเขาใช้ริมฝีปากรุกเร้ายอดอกของตนเอง และใช้ปลายนิ้วรุกเร้าส่วนอื่นของเธอยังสะโพกเต็มตึงอีก

‘นั่นแค่เซิร์ฟๆ นะ มีเด็ดกว่านั้นอีก’ นัยน์ตากลมทำท่าหลับปี๋อย่างลืมตัวเมื่อความซ่านหวิวแผ่กำจายไปตามร่างทั้งหมด ชาลีจึงยกนิ้วขึ้นมาและบอกให้เธอได้รับรู้

“หนูนันท์หลับตาทำไมกัน ขอถ่ายใหม่อีกรูปนะ”

“รูปนี้ขอหวานๆ เลยนะครับคุณอาชาลี” อิศเรศต้องการแกล้งอีกฝ่ายเล่น เมื่อตากล้องจำเป็นนับเลข หนึ่ง สอง สาม เพียงสิ้นคำพูดว่าสาม ใบหน้าหล่อก็ขยับเข้าไปชิดใบหน้าเนียนก่อนที่ริมฝีปากร้อนและจมูกที่คมสันจะจุมพิตไปยังแก้มนุ่มของปภาพินท์ดังฟอดใหญ่

“แชะ เป็นภาพที่น่ารักมากเลยตาอิฐ” นิภาเอ่ยชมเชยอย่างชื่นชอบ หญิงสาวมองเขาอย่างเขม่นเข่นเขี้ยว ชายหนุ่มก็บอกให้ทราบ

“คุณพ่อ คุณแม่จะได้เชื่อไงล่ะว่าเราสองคนมาฮันนีมูนกันจริงๆ” มือเรียวกำแน่นด้วยความโมโหในความยียวนกวนอารมณ์ของเขา

“ผมถ่ายรูปให้คุณอาชาลีกับคุณอานิภาด้วยครับ” อิศเรศรับกล้องมาจากอีกฝ่าย หญิงสูงวัยก็เรียกปภาพินท์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“หนูนันท์มาถ่ายรูปกับอาเร็ว”

“ค่ะอานิภา” เธอเดินไปยืนเคียงข้างทั้งสองคนโดยให้อิศเรศเป็นคนถ่าย และครั้นมีนักท่องเที่ยวคนอื่นที่มาในกรุ๊ปเดียวกันก็วานให้ช่วยเก็บภาพของทั้งสี่คนด้วย ราวกับเป็นครอบครัวใหญ่มาท่องเที่ยว
++++++++
ตามไปเที่ยวกับคุณอิฐแล้วก็หนูพินท์กันนะคะ เหนื่อยมากค่ะเมื่อวานไปงานหนังสือมา หอบนิยายกลับมาอีก มันส์ๆ โหดๆ ทั้งนั้น เขียนนิยายรักแต่ยายคนเขียนอ่าน ฆาตกรรม สืบสวน บู๊ คนละแนวกันเลย เวลาอ่านไปก็จินตนาการว่าไปเที่ยวด้วยกันนะคะ เพราะทุกที่ ๆ พระเอกนางเอกไปฮันนีมูนสวยมากค่ะ




 

Create Date : 07 เมษายน 2557
0 comments
Last Update : 7 เมษายน 2557 10:08:26 น.
Counter : 1267 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

tonkho-w
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]





โปรโมชั่นพิเศษ
ซีรีย์ กับดักรักมาเฟีย
4 เล่ม เหลือ 900 บาท จาก 1189
ฟรีค่าส่ง




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่
หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด
เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี

สนพ. รัตมาบุ๊คส์
สั่งซื้อหนังสือของต้นข้าวได้นะคะ





users online

มุมผ่อนคลาย
หนัง ฟังเพลง
ฟังเพลงเกาหลี ฟังเพลงละคร ดูหนังซีรีย์
นิตยสาร
ขวัญเรือน แพรว สุดสัปดาห์



)

ช่วยกด Like & Love ให้สนพ. ข้าวหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจปั่นนิยายมาแปะให้ เพื่อนๆ พี่น้องได้อ่านมากๆ ค่ะ



Ebook ทั้งหมดของรัตมา

เจ้าสาวพรางสิทธิ์รัก
รัตมา
www.mebmarket.com
เจ้าสาวพ่ายเล่ห์รัก
รัตมา
www.mebmarket.com
เจ้าสาวจองจำรัก
รัตมา
www.mebmarket.com
ทัณฑ์ร้ายเล่ห์ลวง
รัตมา
www.mebmarket.com
ทัณฑ์ร้ายเชลยรัก
รัตมา
www.mebmarket.com
< /td>
รักร้ายกามเทพ
รัตมา
www.mebmarket.com
มารปรารถนา
รัตมา
www.mebmarket.com
เพลย์บอยล่ารัก
รัตมา
www.mebmarket.com
ภรรยารักสายลับ
รัตมา
www.mebmarket.com
ซีรีย์ หวานตาวายร้าย 1 ภรรยารักสายลับ2 ยอดยาใจสายลับ3 ร้อยกลยอดวายร้าย4 มนต์รักคาสโนว่าภาคต่อ ซีรีย์ กับดักรักมาเฟีย1 อ้อมกอดจอมมาเฟีย2 ร่ายรักจอมมาเฟีย3 ดวงใจจอมมาเฟีย4 บ่วงรักจอมมาเฟีย
SET กับดักรักมาเฟีย ( อ้อมกอดจอมมาเฟีย + ร่ายรักจอมมาเฟีย + ดวงใจจอมมาเฟีย + บ่วงรักจอมมาเฟีย )
รัตมา
www.mebmarket.com
1 อ้อมกอดจอมมาเฟีย2 ร่ายรักจอมมาเฟีย3 ดวงใจจอมมาเฟีย4 บ่วงรักจอมมาเฟีย
SET Love affection ( สิเน่หาพยศรัก + บ่วงรักปรายใจ + สิเน่หาไฟรัก )
รัตมา
www.mebmarket.com
1 สิเน่หาพยศรัก2 บ่วงรักปรายใจ3 สิเน่หาไฟรัก
SET Touch love ( จ้างรักจอมมาร + ปล้นใจจอมมาร )
รัตมา
www.mebmarket.com
1 จ้างรักจอมมาร 2 ปล้นใจจอมมาร
ปล้นใจจอมมาร
รัตมา
www.mebmarket.com
จ้างรักจอมมาร
รัตมา
www.mebmarket.com
สิเน่หาไฟรัก
รัตมา
www.mebmarket.com
/td>


บ่วงรักปรายใจ
รัตมา
www.mebmarket.com

สิเน่หาพยศรัก
รัตมา
www.mebmarket.com

ดวงใจจอมมาเฟีย
รัตมา
www.mebmarket.com
บ่วงรักจอมมาเฟีย
รัตมา
www.mebmarket.com
Flag Counter

stats for every website
Visits Calculator
New Comments
[Add tonkho-w's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com