BlogGang.com : : รุ้งพลบ : ตอนที่ 18 สีสันสำคัญไฉน

ตอนที่ 18 สีสันสำคัญไฉน

ถ้าถามท่านผู้อ่านว่า
สีสันสินค้ามีส่วนสำคัญในการดึงดูดเงินในกระเป๋าออกมามั๊ย
ทุกคนโดยเฉพาะคุณผู้หญิงต้องตอบเป็นเอกฉันท์ว่า สำคัญซิ
เพราะสีสันทำให้ชีวิตดูสดใส ยิ่งถ้าเป็นสินค้าแฟชั่นสวยๆงามๆแล้วล่ะก้อ
สีสันเป็นตัวเตะกระตุ้นสายตาแต่ไกลเชียวล่ะ

งั้นขอถามใหม่ครับ ถ้าเป็นสินค้าประเภทสบู่ ผงซักฟอก
แชมพู หรือยาสีฟันล่ะ จำเป็นต้องมีสีสันหรือไม่หรือแค่สีขาวก็พอ
ถึงตรงนี้ระบบคิดสมองคงพลิกกลับ
บางคนเริ่มมองไม่เห็นความจำเป็นของสีสัน
สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทใช้ส่วนตัวนี้เลย
ยิ่งใส่สีมากเท่าไหร่ อาจยิ่งไม่แน่ใจว่าปลอดภัยถูกสุขลักษณะหรือเปล่า

สีสันของผลิตภัณฑ์จึงเป็นเรื่องถกเถียงกันไม่เคยหาข้อยุติได้
เวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวหนึ่งออกมา
ขณะที่ฝ่ายเทคนิคของโรงงาน
อาจจะมองไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องใส่สารสีลงไป
เป็นการเพิ่มต้นทุนเปล่าๆ
แต่นักการตลาดกลับมองต่างออกไปว่า
บางครั้งการใส่สีอีกสักนิด ก็ส่งผลทางจิตวิทยาได้โข
หากสีที่ใส่เข้าไปแล้วเพิ่มคุณค่าบางอย่างให้น่าเชื่อ

ตัวอย่างง่ายๆครับ แต่ก่อนแต่ไรผงซักฟอกทั่วไปก็เป็นแค่ผงขาวๆ
วันดีคืนดีค่ายผงซักฟอกรายหนึ่งออกผงซักฟอกที่มีส่วนของเม็ดสีฟ้า
แล้วตั้งชื่อเก๋ไก๋ให้กับเจ้าเม็ดเก่งกาจตัวนี้
สร้างเรื่องราวว่าเป็นฮีโร่ที่ขจัดคราบความสกปรกทั้งหลายในเนื้อผ้าออกไป
ผลปรากฏก็คือ ผงซักฟอกรายอื่นๆเอาอย่างบ้างใส่เม็ดสีอื่นๆเข้าไป
จะเป็นสีเขียว หรือสองสี ชมพูและน้ำเงินบางรายใส่สารพัดเม็ดสีเหมือนลูกกวาด
อย่างไรก็ตามความเป็นผงสีขาวเดิมยังคงอยู่
ยังไม่มีค่ายไหนกล้าฉีกผงซักฟอกเป็นสีฟ้าหรือเขียวโดยสิ้นเชิง

ย้อนยุทธ์คราวนี้ กูรูขอบสนามขอสะกิดเกาประสบการณ์สีสันกับตัวเอง
ครั้งหนึ่ง ดอดไปมีส่วนร่วมเล็กๆน้อยๆ
ในการเตรียมแผนงานการตลาดให้ยาสีฟันแบรนด์อินเตอร์
ซึ่งยังไม่เคยวางจำหน่ายในเมืองไทย หรือในแถบอาเซียน
นี่จะเป็นก้าวแรกของการบุกผลิตภัณฑ์สุขอนามัยในตลาดย่านนี้
หลังจากได้สร้างชื่อจากตัวแปรงสีฟันด้ามติดสปริงมาระยะหนึ่ง

งานนี้..ระดับน้องๆงานช้างเลยล่ะครับ
เพราะเจ้าของแบรนด์กะจะวางตลาดในระดับภูมิภาค (Regional Launch)
แต่ละประเทศจะต้องทำวิจัยผู้บริโภคท้องถิ่น
แล้วประมวลผลสำรวจนำไปรายงานในการประชุมภูมิภาค
เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันพัฒนายาสีฟันตัวใหม่

มาพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์บ้างครับ
ถ้าเป็นยาสีฟันเนื้อครีมขาวธรรมดา ก็คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
และคงเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนยักษ์ใหญ่ค่ายคลองเตยเป็นแน่แท้
เผอิญยาสีฟันตัวนี้มีคุณลักษณ์ที่แตกต่างเด่นชัด
ด้วยริ้วสีสันเรียงกันเป็นแถบสวยงามถึง 3 สี
(ขณะนั้นยาสีฟันที่มีขายอยู่ มีแค่ 2 ริ้วสี)
คือ ขาว น้ำเงิน แดง ว้าว...เหมือนสีธงชาติเลยครับ
พวกเราเลยแอบเรียกโปรเจ็คท์นี้ว่า ยาสีฟันรักชาติ
( สโลแกนเล่นๆ รักชาติ..จนซาบซ่านถึงในปาก)

ภาระกิจที่ทีมงานต้องรับผิดชอบก็คือ
สำรวจกลุ่มวิจัยจำนวน 15 กลุ่ม
เพื่อศึกษาถึงทัศนะคติและการยอมรับในตัวผลิตภัณฑ์ (Usage & Attitude Test)
มีการทดลองไปใช้จริง (Product Test)
โดยให้กลุ่มตัวอย่างนำยาสีฟัน 3 ริ้วสีไปแปรงที่บ้านเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แล้วกลับมาแจ้งผลภายหลัง

กลุ่มตัวอย่างแปลกตาและตื่นเต้นกับสีสันริ้วธงชาติ
อยากทราบที่มาของแต่ละริ้วมีสารพิเศษอะไรแฝง
ซึ่งตรงนี้เองครับคือไฮไลต์สำคัญที่ทางทีมงานต้องการรู้ลึกๆว่า
ผู้บริโภคจะอ้างอิงริ้วสีนี้กับคุณสมบัติใดบ้างของยาสีฟัน
เพราะต่อให้เจ้าของสินค้าใคร่ครวญสรรหาคำอธิบายดีเลิศอย่างไร
ก็คงไม่สามารถเอ่ยได้เต็มปากเต็มคำเท่ากับจากปากผู้บริโภคเอง

ผลสรุปจากกลุ่มวิจัยทั้ง 15 กลุ่ม
ปรากฏการตีความ(น่าจะเป็น)ของริ้วสีออกมาดังนี้

ริ้วสีขาวน่าจะมีสารฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ
( ยาสีฟันครีมขาวทั่วไป มีคุณสมบัติพื้นฐานคือป้องกันฟันผุ)

ริ้วสีน้ำเงินน่ามีสารให้ความสดชื่น
( สีเหมือนเมนทอล ให้ความเย็นสดชื่น )

และริ้วสีแดงน่าจะมีสารของการขจัดพลั๊คคราบฟัน
( เหมือนกับน้ำยาบ้วนปากสีแดงตามโรงพยาบาลและสถานทันตกรรม)

สาบานครับ ให้ฟ้าผ่าเปรี้ยงกูรูสลบเหมือนคาสนามก็ได้
ทั้งหมดคือคำพูดออกจากปากผู้บริโภค
เพื่อพยายามทำความเข้าใจอย่างง่ายๆ
ต่อสีสันที่มีอยู่ในยาสีฟันแบรนด์นี้

หลังจากได้แสดงสปิริตรักชาติใช้ยาสีฟันไปหนึ่งอาทิตย์
กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดก็กลับมาจับกรุ๊ปคุยกันใหม่
ส่วนใหญ่ค่อนข้างพอใจคุณลักษณ์ที่ครบถ้วน (Total Complete)
และเชื่อในประสิทธิภาพของแต่ละริ้วสีว่า
สามารถเอื้อประโยชน์ได้ตามที่คิดว่าจริงๆ

มีที่ติบ้างก็คือเรื่องของสีสัน ที่บ้วนออกมาแล้วดูชวนสยองนิดๆ
โดยเฉพาะสีแดง แฮ่..แฮ่ ประมาณแดร๊กคูล่าแปรงฟันหลังดูดเลือดเหยื่อเสร็จ ขณะที่สีน้ำเงินดูจะไม่ใช่สีที่น่าเอาเข้าปากได้ ดูสูงศักดิ์เกินไป
ฉะนั้นถ้าจะปรับปรุงเรื่องสี คงอยากให้เปลี่ยนเป็นสีที่อ่อนลง
เช่น สีฟ้าและ เขียว แทนที่สีน้ำเงินและแดง

หันไปดูกลุ่มตัวอย่างประเทศอื่นบ้าง
ผู้บริโภคในหลายประเทศกลับพอใจที่จะมีริ้วสีแดงอยู่ในเนื้อยาสีฟัน
เพราะแสดงถึงพลังที่เคลื่อนไหว (Active Ingredient )
แปรงไปก็รู้สึกกระฉับกระเฉง
ขณะที่ริ้วน้ำเงินจะคงอยู่หรือเปลี่ยนไปเป็นสีอื่นก็ได้ ไม่มีนัยสำคัญ

เมื่อหลายชาติ หลายภาษามีรสนิยมต่างกัน
ก็ต้องให้ทีมงาน Regional ตัดสินเองแหละครับว่า
แต่ละประเทศจะนิยมริ้วสีแบบไหน เพราะมีทั้ง ขาว แดง น้ำเงิน ต้นตำรับ/
ขาว ฟ้า เขียว / ขาว แดง เขียว / ขาว เขียว น้ำเงิน

ไม่ว่าผลการสลับริ้วสีจะออกมาอย่างไร
สีขาวต้องยืนพื้น เพราะนั่นคือ สีของยาสีฟันที่ผู้บริโภคทุกคนคุ้นเคย
และเชื่อมั่นพอที่จะเอาเข้าปากแปรง

จากการย้อนยุทธ์ยาสีฟันรักชาตินี้
คงทำให้ผู้อ่านเห็นประเด็นชัดขึ้นว่า
สีสันสร้างมิติใหม่ให้แตกต่าง แม้ในสินค้าที่ดูแสนดาษดื่นธรรมดา
ขอเพียงแต่สามารถเชื่อมโยงแต่ละสีกับคุณสมบัติที่คาดหวังได้อย่างสอดคล้อง
( พูดง่ายๆ ห้ามมั่วนิ่มครับ )

น่าเสียดายที่ยาสีฟันรักชาติถูกพับโครงการไปทั้งภูมิภาค
เนื่องจากเกิดภาวะวิกฤตทางการเงิน
โดยเริ่มจากต้มยำกุ้งเอ็ฟเฟ็คในประเทศไทยเรานี่เอง
(เอ.....หรือเป็นลางให้พวกทีมงานรักชาติก่อนจะเกิดเหตุเพทภัยในอนาคต)
ลามไปถึงเพื่อนบ้านอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย
ต่อมาบริษัทแม่ก็ถูกควบรวมกิจการกับอีกบริษัทหนึ่งสัญชาติเดียวกัน
และเปลี่ยนนโยบายหันไปทุ่มความสนใจให้กับผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์เป็นหลัก

ถึงวันนี้ กูรูขอบสนามก็ยังจดจำสีสันสดใสของยาสีฟันรักชาติตัวนี้
ไม่มีวันลืมครับ

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2551

Last Update : 26 มีนาคม 2551 21:24:56 น.

6 comments

Counter : 1444 Pageviews.

เรื่องยาสีฟันหลายสี ผมเคยอึ้งเหมือนกันครับว่า
เขาทำได้อย่างไหร ให้หลายสีผสมกันแล้วบีบออกมาแล้ว
เป็นเส้นๆสีๆ ได้โดยที่ไม่ผสมกันก่อน ตั้งแต่ในหลอด

อึ้งมาเลยครับ จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร แต่ไม่ใช่ที่พี่พูดถึงแน่ๆ
กันนั้นแค่สองสีก็อึ้งแล้วนะครับ ของพี่มีตั้งสามสีสุดยอดครับ

เคยจะผ่าออกมาดูน่าใจด้วยนะครับ แต่เมื่อนึกถึงหน้าแม่แล้วก็ไม่กล้าครับ

โดย: copywriter IP: 58.9.156.150 วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:9:25:01 น.

ยาสีฟันแถบสี ถ้าผลิตดีๆ
แถบสีจะสวยตั้งแต่เปิดหลอดจนถึงก้น
ถ้าไม่ดี สีแถวๆก้นเละแน่ๆครับ
นี่คือบททดสอบว่าใครจะเก่งจริง

สวยจากปากถึงก้น(หลอดนะครับ) อิอิ

โดย: กูรูขอบสนาม

วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:11:17:51 น.

ตอนนี้ ยาสีฟันที่ใช้ นอกจากจะเห็นสี จะมีกลิ่นแล้ว ลิ้นยังโดนเม็ดอีกด้วยครับ

แปรงทีไร เจอเม็ดเล็กๆนี้แล้วชอบครับ... ใกล้ชิดนะครับ

โดย: yyswim

วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:13:48:17 น.

ขยันเขียนดีครับ จากตอนแรก ถึงตอนนี้ ...ก้อ 18 ตอนแล้ว ภายใน 10 วันเอง

อุอุอุ ขอมอบสายสะพายขยันเขียนให้

โดย: yyswim

วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:13:52:18 น.

ทั้งหมดเคยเขียนลงในเวปไปหมดแล้วครับ
(ยกเว้น 2-3 ตอนหลัง)
กระจัดกระจายไปหมด
เลยเอามารวบรวมกันเป็นกลุ่มก้อน
จะได้อ่านง่ายๆ

โดย: กูรูขอบสนาม

วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:21:20:58 น.

ขอบคุณ ท่านมหากูรู มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

โดย: moonfleet

วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:21:29:00 น.