<<
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
4 กรกฏาคม 2551

ตอนที่ 18 ควานหาช้าง มองหามด

เรื่องราวของหม่าม้า ที่ร้างราตำราเรียนร่วม 30 ปี แล้วตัดสินใจกลับสู่ห้องเรียนใหม่ในวัย ฮ นกฮูก



ตอนที่ 18 ควานหาช้าง มองหามด


“เอา เชิญดู พี่น้องผองเพื่อน รายชื่อบริษัทที่ผ่านการผ่าตัดรื้อโครงสร้างครั้งวิกฤต”

โบรคเกอร์หนุ่มประจำกลุ่มไปงัดแงะแคะคุ้ยปูมหลังของบริษัทยักษ์ใหญ่บ้านเราที่หวุดหวิดจนเกือบล่มสลาย แล้วฟื้นกลับมาได้จำนวนหนึ่ง

“ โอ้โฮ นับสิบบริษัทเลย แล้วจะเลือกอย่างไรล่ะ”

นุ่มตรวจดูรายชื่อบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งผ่านคัดเลือกมาบางส่วนเพื่อมาเป็นรูปแบบศึกษา บริษัท ช ช้างเต้นระบำของกลุ่มเรา

“ถ้าจะเทียบกับยักษ์สีฟ้า IBM ต้องเทียบด้วยกฏเกณฑ์แบบเดียวกัน คือ เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมนั้นๆ ช้างล้มทีก็กระเทือนทั่วหย่อมหญ้า”

พงษ์เปรียบเทียบบริษัทต่างๆที่กวินเลือกสรรมา มีทั้งอยู่ในแวดวงค้าวัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน ค้าปลีก อาหาร สื่อสาร พลังงาน

“อย่างแบงก์.......พอไหวมั๊ย รู้สึกจะเป็นที่แรกที่ทำการปรับรื้อโครงสร้างก่อนเกิดวิกฤต” นุ่มหมายถึงแบงก์แนวหน้าแห่งหนึ่ง ที่ผู้บริหารเห็นการณ์ไกลดำเนินการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริการที่เรียกว่า Reengineering ก่อนคู่แข่ง

“พอดีมันเป็นส่วนภาคบริการน่ะ เห็นผลไม่ชัด”

พงษ์ขัดขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ตามประสาวิศวกรที่ต้องการเห็นผลสำเร็จทุกอย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้

“ผู้บริหารเค้าเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมากนัก มีช้างรูปปั้นวางอยู่หน้าตึกตั้ง 2 เชือก สมควรเป็นบริษัท “ช้าง” จริงๆ” กวินพูดติดตลก

“ เค้าพยายามเสนอรูปแบบบริการใหม่ๆนะ อย่างอีเกิร์ล น่ะ” ยายเสนอบ้าง

“อี้ย...” นุ่มชักสีหน้าแสดงอาการขัดใจทันใด “ไม่ชอบเลย ทำไมต้องนำเสนอผู้หญิงในรูปแบบนั้นด้วย”

เธอหมายถึงโปรแกรมแคมเปญส่งเสริมการขายของธนาคารแห่งนี้ ที่นำผู้หญิงสาวที่ชนะการประกวดมาแนะนำบริการต่างๆด้วยท่วงทำนองที่สร้างความฮือฮาไปทั้งเมือง

“จริงเหรอ พี่นุ่ม” ยายทำหน้าเก้อๆ “ยายก็ไปสมัครนะคะ แต่ไม่ได้”

“เซ็กซี่ไม่พอน่ะซิ ต้องทำท่าแบบนี้..” กวินแกล้งอวดท่าทางเย้ายวนต่างๆ “ ต้องอย่างนี้ ปากยื่นๆหน่อย แอ่นอกเข้าไว้ เนี่ย...จะดูเป็น อีเกิรล์ขึ้นมาทันที จริงมั้ย เฮียพงษ์ ”

ประโยคสุดท้ายหันมาถามหนุ่มอีกคนในกลุ่ม คนถูกถามทำหน้าเก้อ นุ่มทำหน้าตาย ไม่ขำเอาเสียเลย

“ดีที่ตอนหลังทำแคมเปญ “ช่วยช้าง ช่วยหนูด้วย” เลยลดเสียงตำหนิอื้ออึงไปได้บ้าง ”

เธอหมายถึงแคมเปญส่งเสริมสังคมด้วยการ รณรงค์บริจาคเงินเข้ากองทุนเพื่อช่วยช้างและเด็กด้อยโอกาสในภาคส่วนต่างๆ โดยชักชวนให้ประชาชนทั่วไปบริจาคให้ครบถึง 50 ล้านบาท แล้วทางธนาคารจะสมทบอีก 50 ล้านบาท แคมเปญนี้ระดมเงินได้สมบูรณ์บรรลุเป้าภายใน 1 สัปดาห์

“ดูอีกแบงก์ก็ได้ เห็นการเปลี่ยนแปลงเยอะเหมือนกัน”

เรามาดูข้อมูลของธนาคารขนาดกลางที่มีชื่อเหมือนเมืองหลวงเก่าแห่งหนึ่ง ระยะหลังได้พลิกบทบาทจากอนุรักษ์นิยมมา รุกหนักเข้าหาลูกค้ามากขึ้น

“ ถ้าจะพูดถึงการเฉือนแขน ขาเพื่อรักษาหัวใจล่ะก้อ ใช่เลย “

หนุ่มโบรคเกอร์ทำการบ้านล่วงหน้ามาแจกแจง พร้อมกางผังที่ขีดเขียนมาเป็นรูปธรรม เข้าใจง่าย

“ ยอมเฉือนธุรกิจที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งวัสดุก่อสร้าง สื่อโทรทัศน์ ธุรกิจอื่นๆที่ไม่ใช่หัวใจ เพื่อผดุงสถานะของแบงก์ไม่ให้ล่ม” เขาจาระไนธุรกิจในเครือทั้งหมดอย่างชัดเจน

“ ติดอยู่ข้อหนึ่ง...ผู้บริหารสูงสุดเขาเก็บตัวเงียบมากน่ะ .แทบจะไม่เคยให้สัมภาษณ์เลย กลัวจะหาข้อมูลยาก”

“ เอา งั้นตัดออกไปอีกเชือก” พงษ์สรุป ในกลุ่มใช้เวลาพิจารณาบริษัทที่เหลือ ซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างกันมากมาย ผู้รู้ดีที่สุดจะให้ความกระจ่าง

“ บริษัทอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ข้อมูลไม่เปิดเผย”

“ รวมกับฝรั่งไปแล้ว เป็นช้างพันธุ์ทาง ไม่ใช่ช้างไทยแล้ว”

“ กำลังจะถอนออกจากตลาด ติดตามผลไม่ได้”




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2551
3 comments
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 19:09:05 น.
Counter : 1489 Pageviews.

 

ในที่สุดก็มาถึงบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีผลิตภัณฑ์เป็นสัตว์ประเภทต่างๆออกจำหน่าย ทุกคนเห็นพ้องที่จะเลือกมาเป็นตัวอย่างในการศึกษา ทั้งในแง่ของความขนาด ผลกระทบของมูลค่าธุรกิจก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลง

“ ข้อมูลหาไม่ยาก ผู้บริหารเปิดเผย ผลประกอบการ ชัดเจน ตรงใจมั้ย เฮียพงษ์..”

พงษ์พยักหน้า ข้อมูลบางส่วนเขาสามารถค้นต่อเพิ่มเติมได้ อาศัยสายสัมพันธ์จากธุรกิจที่บ้านต่างจังหวัดซึ่งดำเนินค้าขายวัสดุ ก่อ สร้างหลายประเภท หลังจากตัดสินใจเลือกตัวอย่างบริษัทแล้ว นุ่มก็ไล่หัวข้อที่ควรจะเรียงลำดับเนื้อหาเป็นขั้นตอน

“ กวิน เธอไปเอาข้อมูลมาให้ได้เยอะที่สุด ยายไปช่วยกวินด้วย หม่าม้ามาช่วยนุ่มเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างของ ไอบีเอ็มกับบริษัทช้างอันนี้ดีกว่าค่ะ”

ทุกถ้อยคำของนุ่มเปล่งออกมาอย่างคล่องแคล่วสมเป็นมืออาชีพ ถ้าเจ้าตัวจะเอาดีรับจ้างทำรายงานก็คงจะไปได้รุ่งทีเดียว

“ แหม เจ๊ จะว่องไวอะไรปานนั้น ขอเวลาหายใจหายคอก่อน เผื่อมีบริษัทอื่นที่ดีกว่า สนุกกว่ามาเปรียบเทียบ”

“ ไม่แล้วล่ะ เดี๋ยวเวลาไม่ทัน ยังมีรายงานวิชาอื่นอีกนะยะ หรืออยากจะมาทำคืนสุดท้ายก่อนวันเสนอ”

กวินหันไปหัวเราะแห่ะ แห่ะกับยาย เป็นเรื่องที่รู้กันสำหรับนักเรียนที่นี่ งานจะไม่เสร็จจนกว่าจะถึงวันส่ง คล้ายกับเครื่องยังไม่ร้อนเต็มที่ หากเริ่มทำแต่เนิ่นๆ แล้วจะมีอะไรสนุก ตื่นเต้น เร้าใจเหลืออีกเล่า

“ ที่วินพูดก็น่าสนใจ” พงษ์เสริมขึ้นหลังจากนิ่งฟังการถกเถียงของเพื่อนๆมาครู่หนึ่ง คิ้วขมวดแสดงอาการครุ่นคิด

“ ผมมองเลยไปกว่านั้นอีก เรามีบริษัทช้างแล้ว น่าจะมีบริษัทแบบมดงานน่ะ”

“ เฮียจะเปรียบเทียบกันทั้ง 2 บริษัทเหรอ”

“ จะไหวเหรอ พงษ์ แค่บริษัทเดียวก็หนักพอแล้ว “ นุ่มท้วง นานๆทีจะเห็นไม่ค่อยตรงกับพงษ์

“ คืออย่างนี้...”พงษ์อธิบาย “ บริษัทช้างน่ะ อย่างไรเสียก็มีระบบที่ยั่งยืน มีข้อได้เปรียบในตลาด อีกทั้งบุญเก่าเยอะ ก็เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน มีขั้นตอน แต่บริษัทเล็กๆแบบมดงานที่โตมาจากศูนย์น่ะ เมื่อเจอวิกฤตจะต้องบริหารอย่างไร อันนี้น่าสนใจไม่น้อยกว่ากัน จริงมั๊ยครับ หม่าม้า”

นี่แหละคือ พงษ์ คนไม่พูดมาก แต่ชัดเจน และรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรเพื่อจุดมุ่งหมายอะไร ถ้าฉันเป็นหัวหน้างานเขาคงสบายใจที่ได้ลูกน้องรับผิดชอบแบบนี้ ลูกน้องที่จะไม่จบงานแค่คำสั่งที่กำหนดเท่านั้น หากยังทำต่อเพิ่มอีกนิดเพื่อประโยชน์สานต่อไป

“หม่าม้าเห็นด้วยนะ เหมือนคนที่โตและถูกฟูมฟักมาอย่างดี ต่อให้ล้มลุกคลุกคลานแค่ไหนแต่ฐานที่มั่นก็ยังช่วยให้เขาไม่คลอนแคลน กับคนที่ไม่มีฐานเลย ดิ้นรนด้วยตัวเองตลอด โอเค อาจจะเห็นผลช้าหรือไม่เห็นผลเลยก็ได้ แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้ก็ คือประสบการณ์ตรงกลางต่างหาก”

“อีกอย่าง เราอยู่ในหลักสูตรผู้ประกอบการ ก็ควรจะหาตัวอย่างที่สนับสนุนธุรกิจรายเล็กรายย่อย นอกเหนือจากเรียนรู้จากรายใหญ่มาแล้ว”

พงษ์สรุปตบท้ายแล้วจะเริ่มต้นหาบริษัทแบบมดงานอย่างไรดี พงษ์จำกัดความถึงขนาดธุรกิจและรายได้ของบริษัทเล็กๆเหล่านี้ซึ่งมีอยู่มากมาย เขาเสนอบริษัทออกแบบของขวัญแห่งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งมีข่าวในหน้านิตยสารธุรกิจ

“ ยังไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แล้วจะหาข้อมูลที่ไหนล่ะคะ พี่พงษ์”

“ในเมื่อไม่มีข้อมูลในสาระบบ ก็ต้องออกไปสัมภาษณ์ตัวต่อตัว”

 

โดย: กูรูขอบสนาม 4 กรกฎาคม 2551 19:11:12 น.  

 

พงษ์หว่านล้อมให้สมาชิกในกลุ่มเห็นด้วยกับการใช้บริษัท “ช้าง”และ “มดงาน”มาเป็นต้นแบบในการวิเคราะห์เปรียบเทียบการบริหารการเปลี่ยนแปลง ฉัน กวินและยาย ไม่มีปัญหาถึงจะตระหนักว่างานต้องหนักเพิ่มอีกเท่าตัว นุ่มเท่านั้นที่ยังลังเล

“ปล่อยให้ เฮีย เขากล่อมเอง” กวินแอบกระซิบกับฉัน

“เนี่ย ถ้าเฮีย รับราชการต้องมีปัญหาแน่ ทำงานเกินคำสั่ง”

กวินชวนยายลงไปซื้อเครื่องดื่มที่มุมตึกข้างล่าง ยายมองภาพพงษ์กล่อมนุ่มนิ่งนาน ก่อนจะถูกฉุดแขนลงลิฟท์ไป

ในฐานะที่เป็นแม่คนมาแล้วถึง 3 คน ฉันเข้าใจความรู้สึกของยายดี แม้จะไม่แสดงออกโจ่งแจ้ง แต่ยายก็มีความรู้สึกที่ดีและชื่นชมในความเป็นผู้นำของพงษ์มาตลอด ความชื่นชมนี้ได้เปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่นที่นอกเหนือจากแค่เป็นพี่ใหญ่ร่วมกลุ่ม พงษ์เองคงยังไม่ทราบความนัยนี้เพราะเจ้าตัวใจจดใจจ่อกับผู้อื่น

อย่างไรก็ตามเรื่องรัก 3 เส้าของคนทั้ง 3 ในกลุ่มจะต้องดูแลกันให้ดีๆ ไม่ให้เกิดความขุ่นข้องระหว่างกันให้ได้ เราต้องร่วมงานกันอีก 3 เดิอนกว่าถึงจะจบเทอม มีรายงานอีกหลายชิ้นที่ต้องฝ่าฟันจนครบ หากสมาชิกคนไหนเกิดป่วยใจขึ้นมา งานที่เหลือจะรวนไปหมด

“ หม่าม้าดูเจ๊กับเฮียไว้ ผมจะดึงๆยายเอง”

กวินกับฉัน เป็น 2 คนนอกที่คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของอีก 3 คน

การถกเถียงดำเนินไปพักใหญ่ ในที่สุดนุ่มก็ยอมตามเสียงส่วนมาก

“นุ่มอยากทำบริษัทเดียว แต่ให้ทะลุไปเลย” เธอออกตัวที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพงษ์แต่แรก

“ถ้าพงษ์ หม้าม้าและคนอื่นๆเห็นว่า น่าจะดูอีกบริษัทมาเทียบ ก็ไม่ว่ากัน แต่จะทำทันหรือเปล่าเพราะอีกวิชาก็จอมโปรเจ็คส์เหมือนกัน”

เจ้าตัวหมายถึงวิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งทั้งกลุ่มยังไม่ได้นั่งคิดในรายละเอียด แต่ก็เตรียมตัวไว้แล้วสำหรับงานหนักอีกหนึ่งวิชา กวินและยาย กลับขึ้นมาพร้อมถ้วยกาแฟเผื่อแผ่มาถึงเราอีก 3 คน เธอสั่งถ้วยพิเศษสำหรับพงษ์ด้วย

“มอคค่าค่ะ” พงษ์รับกาแฟกลิ่นหอมพร้อมคำขอบคุณ แค่นี้ยายก็หน้าบานแล้ว

กวินจะเป็นตัวนำวิเคราะห์บริษัท “ช้าง” ซึ่งหนุ่มน้อยจะทำได้เร็วเพราะข้อมูลมีอยู่ในมือพร้อม ตั้งแต่การขยายตัวของธุรกิจในยุคฟองสบู่เฟื่องฟู จนประสบวิกฤตค่าเงินและกำลังซื้อที่ถดถอย การประสบภาวะหนี้สินล้นพ้นตัวจนต้องเฉือนธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องให้ตัวเบาลง(และเริ่มเต้นระบำได้)เพื่อนำเงินสดเข้ามา เช่น ธุรกิจยางรถยนต์ ธุรกิจผลิตหลอดภาพ ธุรกิจเหล็ก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศโทรคมนาคม ฯลฯ เหลือเพียงเสาหลัก 4 ต้น คือ วัสดุก่อสร้าง ปิโตรเคมี กระดาษและค้าปลีก เป็นการกระจายความเสี่ยงในการบริหารแบบบริษัทใหญ่ เพราะธุรกิจที่เหลือมีการเติบโตแบบวัฎฎจักร บางปีดี บางปีด้อย บางปีเสมอตัว ก็จะได้ธุรกิจอื่นมาเสริมแทน

ส่วนพงษ์จะควานหาบริษัทมดตัวจิ๋ว ขุดข้อมูลเชิงลึกขึ้นมาเผย เขาพอมีเพื่อนในแวดวงธุรกิจขนาดเล็กอยู่บ้าง ขณะที่ฉัน และนุ่มจะเป็นตัวยืนคอยประสานงาน รวบรวมผลการวิเคราะห์ให้

“ยาย มาช่วยพี่ไปสัมภาษณ์พวกช้าง เราพวกหน้าใหญ่ ชอบสัตว์ใหญ่ๆ ปล่อยให้ผู้สูงอายุไปคลุกกับสัตว์เล็กๆแล้วกัน ” กวินดึงยายไปช่วย

 

โดย: กูรูขอบสนาม 4 กรกฎาคม 2551 19:13:40 น.  

 

บริษัทผลิตของชำร่วยที่พงษ์เสาะหาได้ เป็นบริษัทของคนหนุ่มสาวไฟแรงเริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลย นอกจากความใฝ่ฝันที่จะมีบริษัทและผลิตภัณฑ์เก๋ๆจากมันสมองของตัวเองออกสู่ตลาด ให้เป็นที่ยอมรับในความคิดริเริ่ม ไม่เลียนแบบใคร

บริษัทเติบโต สร้างชื่อเสียงในแวดวงแคบๆกระทั่งสามารถขยายตัวออกมาสร้างชื่อเสียงในกลุ่มผู้รักผลงานความคิดทีละเล็กละน้อย ในหมู่วัยรุ่นคนหนุ่มสาว กระนั้นก็ไม่ได้สร้างปรากฎการณ์ที่ตูมตามประการใด ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน

บ่ายวันหนึ่งพงษ์สามารถนัดสัมภาษณ์ผู้บริหารได้ เขาขอลาหยุดงานที่บริษัทครึ่งวัน ฉันตามพงษ์ไปถึงสำนักงานเล็กๆแห่งหนึ่ง เป็นตึกแถวในซอยแยกจากถนนใหญ่ พื้นที่ทำงานรกไปด้วยกระดาษร่างแบบ วัสดุอุปกรณ์ที่นำมาทดลองใช้งานเรียงราย ผนังมีแต่เอกสารตัดแปะเต็มไปหมด เหมือนสตูดิโอศิลปินอย่างไรอย่างนั้น (มารู้ทีหลังว่า ทางบริษัทเรียกสถานที่ทำงานของตัวเองว่า Idea Lab ห้องแล็ปความคิด )

เจ้าของบริหารหนุ่มที่ถูกสัมภาษณ์แสดงอาการเกร็งเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้อาวุโสอย่างฉันยกมือไหว้ก่อน จนกระทั่งพงษ์บอกว่า เป็นเพื่อนร่วมกลุ่มนั้นแหละ สีหน้าเปลี่ยนทันทีทั้งแปลกใจระคนทึ่ง ที่มีโอกาสเจอคนแก่แดดแก่ลม(จริงๆ)มานั่งสงบเสงี่ยมขออนุญาตอัดเทป จดบันทึกเหมือนเด็กๆ

“ โชคดีอย่างหนึ่ง พวกผมไม่เรียนบริหารธุรกิจมาเลย” เขาเริ่มต้นพูด

“ ถ้าเรียนมา คงยึดติดกับหลักการ ทฤษฎีและคงกลัวไปหมด ไม่กล้าบ้าบิ่นมาถึงขั้นนี้”

บริษัทมดงานเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกถึงการก่อเกิดธุรกิจดีไซน์ โดยการลงขันจากบรรดาผู้ร่วมหุ้นเท่าที่เงินออมแต่ละคนจะมี เริ่มต้นออกแบบและจ้างโรงงานผลิตสินค้าล็อตแรก ปรากฏว่าขายได้น้อยมาก เพราะรูปแบบล้ำสมัยเกินไป ราคาก็สูงเนื่องจากจำนวนการผลิตที่น้อยชิ้น (มาถึงตอนนี้เขาอธิบายเรื่อง Fixed Cost อีกแล้ว ยังจำได้มั๊ยเอ่ย) แถมใช้วิธีฝากขายในห้างอีก โดนหักเปอร์เซ็นต์แทบไม่เหลือ ของก็ถูกขโมยโดยไม่มีใครรับผิดชอบ ( ก็ของชิ้นเล็กๆเก๋ๆ แอบหยิบใส่กระเป๋า ไม่มีใครเห็น)

ขณะที่กำลังมองหนทางออกเบื้องหน้า ใครคนหนึ่งก็เสนอให้ลองดูตลาดส่งออก นั่นหมายถึงจะต้องดีไซน์ผลงานให้แข่งขันได้ในระดับโลก

“ นี่คือจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนทัศนะคติคนทำงานว่าต้อง Go Inter ให้ได้ ซึ่งยิ่งกว่าเข็นแม่ครก (สังเกต ไม่ใช่ครกธรรมดา)ขึ้นเอเวอร์เรสต์” เขาย้อนความทรงจำเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วมา

“ แรกๆทุกคนก็แข็งขืน บอกว่าเราไม่เคยมีประสบการณ์ระดับสากลเลย การแข่งขันก็ยากสาหัส ต้องเจอคู่แข่งที่ไม่รู้จักจากทุกประเทศ ผมเลยประกาศทุบหม้อข้าว จะ Go Inter หรือไม่ก็ปิดบริษัท ทุกคนหางานใหม่ ออกจะเผด็จการหน่อย แต่เป็นทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ เผอิญเกิดวิกฤตพอดี ทุกคนเลยจำยอม”

ยิ่งฟัง ยิ่งอยากรู้ว่า บริษัท มดงาน สามารถเปลี่ยนทัศนคติของคนในองค์กรได้อย่างไร จนยกระดับสถานภาพของธุรกิจอยู่รอดและ ออกไปแข่งขันถึงระดับนานาชาติได้

 

โดย: กูรูขอบสนาม 4 กรกฎาคม 2551 19:15:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ
บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น

บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
New Comments
[Add รุ้งพลบ's blog to your web]