|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
15 เมษายน 2553
|
|
|
|
รถเมล์คันสุดท้าย
นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มเศษเมื่อปรินเดินมาถึงหน้าปากซอย ป้ายรถเมล์ประจำทางเก่าแก่ จุดนัดหมายทุกค่ำคืน ยืนหลบมุมหัวโค้งซอยอย่างเหงาๆ มีผู้หญิงวัยกลางคนนั่งคอยรถเพียงผู้เดียว ปรินเดินทอดน่องตรงไปยังศาลารอรถนั้นเช่นกัน
คืนนี้ก็เหมือนอีกหลายๆคืนที่ผ่านมา กว่าจะเสร็จงานในหน้าที่ก็ร่วมดึกดื่น งานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกเสียงของบริษัทอัดเสียงขนาดเล็ก ไม่ค่อยปล่อยให้คนทำงานมีเวลากลับบ้านที่แน่นอน ถ้าไม่ติดงานด่วนฉุกเฉินนอกตารางเวลาก็ต้องเจอปัญหาล่าช้าของลูกค้าที่มาใช้บริการ บางทีก็เป็นตัวโฆษกเองนั่นแหละมัวแต่วิ่งรอกไปขายเสียงที่อื่นก่อน กว่าจะมาถึงห้องอัดเสียงที่นี่ก็ช้าไปเกือบชั่วโมง
หรือมิฉะนั้นเจ้าตัวก็ต้องปวดหัวกับงานแก้ไขทั้งหลายที่ลูกค้าบ่นไม่พอใจ อาทิเช่น เสียงโฆษกไม่ชัดเจนตอนเอ่ยชื่อสินค้า เพลงประกอบยังไม่ดีบ้าง คุณภาพเสียงไม่สม่ำเสมอเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวตก ที่ร้ายกาจที่สุดก็คือ ลูกค้าขอเปลี่ยนแก้ไขข้อความใหม่และต้องเสร็จภายในคืนนี้ เฮอ..คนทำงานเป่าลมปากยาว เมื่อได้ยินประโยคกำชับจากลูกค้าทางโทรศัพท์ เขาแจ้งหัวหน้าก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บกวาดงานที่เหลือให้เสร็จสิ้น ชีวิตจำเจภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆจากเช้าตรู่จรดยามวิกาล ไร้ชั่วโมงราตรีสุขสันต์เช่นชายหนุ่มรุ่นเดียวกัน ทำให้ ปรินรู้สึกว่า บางครั้ง โลกของเขานิ่งเกินไป
จะทำอย่างไรได้ คนหนุ่มที่มีภาระทั้งเพื่อปากท้องตัวเอง แม่และน้องในวัยเรียนอีกสามคน ทำให้ปรินไม่อาจปริปากบ่นท้อแท้ ชั่วโมงทำงานที่นอกเหนือจากเวลาปกติก็ย่อมหมายถึงจำนวนเงินล่วงเวลาที่พึงได้เพิ่มจากเงินเดือนประจำอีกต่างหาก
ลมเย็นชื้นพัดวูบใหญ่ คงเป็นลมฝนจากที่ไหนใกล้ๆ แหงนหน้ามองฟ้ายามดึก คืนนี้ฝนคงจะตกทั่วกรุง พยากรณ์อากาศจากวิทยุเมื่อหัวค่ำเตือนให้ชาวกรุงทุกคนพร้อมรับสภาพฝนตกหนักในวันสองวันนี้ แต่ฝนปรากฏตัวเร็วเกินคาด เสียงฟ้าร้องครืน ครืนแล้วก็เริ่มครางกระหึ่มสลับกับสายฟ้าสว่าง แปลบ แปลบ เมื่อปรินทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้แถวนั่งตัวถัดมา
หญิงวัยกลางคนผู้ร่วมชะตากรรมแสดงอาการกระวนกระวายใจ หวั่นเกรงว่าฝนจะตกก่อนได้ขึ้นรถ เจ้าตัวพาเท้าเดินออกไปชะเง้อมองที่ริมบาทวิถีครั้งแล้วครั้งเล่า ถนนเบื้องหน้าออกว่างจนรถทุกคันสามารถแล่นด้วยความเร็วสูงไม่เว้นรถประจำทาง
ปรินเห็นใจคนคอยรถทุกคน กว่าจะขึ้นได้แต่ละครั้ง ตาต้องสอดส่อง มือต้องโบกไกวชัดๆทั้งๆที่จำนวนสายรถประจำทางที่ผ่านก็น้อยกว่าถนนอื่นๆอยู่แล้ว ถ้าไม่จำเป็นหรือดึกเกินไปนัก เขามักจะเลี่ยงเดินทะลุซอยไปยังถนนสายด้านหลังซึ่งพลุกพล่านด้วยร้านค้าและผู้คน มีรถผ่านมากสายกว่าด้วย
แน่ะ รถเมล์ของเขาแล่นมาแล้ว เปิดไฟหน้าสว่างจ้า ชายหนุ่มรีบลุกจากม้านั่งยื่นมือโบกแต่ไกล หากช่างกระไรเลย กิ่งไม้ใหญ่ที่ปกคลุมหน้าป้าย บดบังตัวเขาจากสายตาคนขับ เขามองท้ายรถแล่นทิ้งห่างไปจนลิบอย่างหัวเสีย ปัดโธ่เว้ย จะตะบึงแล่นไปถึงไหนกัน รู้หนอกน่า คนขับน่ะ อยากกลับบ้าน ผู้โดยสารบนรถทุกคนก็อยากถึงบ้านเร็วๆ แล้วเหล่าคนที่ยืนคอยล่ะ พวกเขาไม่มีบ้านให้กลับ ไม่มีใครเฝ้าห่วงใยหรือไร เท้าเดินกลับมานั่งที่เดิมอีก คงต้องคอยอีกนานทีเดียวกว่าคันใหม่จะมา ลอบมองผู้รอคอยคนข้างๆ สีหน้ากระสับกระส่ายไม่คลายไปจากเดิม
แล้วฝนก็โปรยตัวด้วยจังหวะนุ่มพรมพร่าง มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาใครอีกคนมาส่งที่ป้ายรถเมล์ เงาตะคุ่มๆชำระเงินแล้วเดินใกล้เข้ามา เมื่อถูกแสงไฟในซุ้มศาลาส่อง ปรินจึงเห็นเรือนร่างหน้าตาชัดเจน
ตาทั้งคู่ของหล่อนเบิกกว้างเมื่อเห็น ผู้ชายหนุ่มหน้าตาจืดๆในเครื่องแต่งกายโทรมๆ ความระแวงปรากฏชัดในสายตาผู้มาใหม่ หากเบาใจอีกนิดก็ตรงมีเพื่อนหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่
คงเป็นผู้หญิงกลางคืนแถวๆนี้ ปรินนึกต่อ เครื่องแต่งตัวของอีกฝ่ายดูวูบวาบ แพรวพราวไปทั้งตัว เปลือกตาสีเข้มจัดกะพริบถี่ๆพร้อมกับชายตาชำเลืองรอบๆ ราวกับคอยเวลาให้ใครสักคนมารับ ณ จุดนัดพบหลบเร้นสายตาแห่งนี้ เขาไม่คิดว่าหล่อนจะคอยรถเมล์หรอกนะ
Create Date : 15 เมษายน 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 29 เมษายน 2553 8:28:34 น. |
Counter : 1711 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: pui IP: 125.27.21.232 24 เมษายน 2553 15:18:02 น. |
|
|
|
| |
|
|
รุ้งพลบ |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น
บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
|
|
|
แล้วรถเมล์ของผู้หญิงวัยกลางคนก็เทียบจอด ความจริง คนขับอาจจะแล่นผ่านเลยก็ได้หากไม่มีผู้โดยสารขอลง นับเป็นโชคเหมาะจริงๆ ปรินมองร่างที่ขึ้นรถจากไป ซึ่งได้ที่นั่งริมหน้าต่างพอดี ไม่วายส่งสายตาอำลากลายๆว่า ขอให้รถคุณมาไวๆนะ ฉันไม่รอล่ะ
คราวนี้ ผู้ร่วมชะตากรรมเหลือเพียงปรินกับผู้หญิงคนสวยเท่านั้น
ชายหนุ่มนั่งสูดลมหายใจอย่างใจเย็น คืนนี้ถึงบ้านก็ประมาณเที่ยงคืนหรืออาจจะล่ากว่านั้นหากฝนตกหนัก เม็ดฝนเล็กๆพึมพำไม่ขาดระยะ รักษาท่วงทำนองโปรยปรายสม่ำเสมอ ขอให้ตกแค่นี้ก็แล้วกัน เปียกนิดๆหน่อยๆยังพอเดินตากได้สบายใจ นึกครึ้มๆ ฮัมเพลงในลำคอปลอบใจตัวเองและปลอบใจผู้หญิงคนใกล้ๆนี้ด้วย
แต่ผลลัพธฺ์เกินคาด คนฟังยิ่งนั่งตัวเกร็ง คอแข็งไม่ยอมสบตาเขาเลยแม้แต่น้อย ทุกอิริยาบถที่ปรินขยับตัว หล่อนจะพลอยขยับป้องกันตัวตามตลอดเวลา จนปรินนึกสงสารระคนขำ เกือบจะเข้าไปพูดแล้วว่า
สบายใจเถอะครับ ผมรับรองความปลอดภัยของคุณ
แต่ความคิดคำนึงก็ถูกชะงักไว้แค่นี้ เมื่อเห็นผู้ร่วมชะตากรรมถลาไปโบกเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง รถแท็กซี่แล่นเลยผ่านหน้าไปแล้วค่อยถอยกลับมา หล่อนพูดอะไรกับโชเฟอร์สองสามคำ แล้วเปิดประตูหลังแทรกตัวนั่งลุกลี้ลุกลน ปิดประตูเสียงดัง แอบดูผู้ชายต้นเหตุแวบหนึ่ง แล้วเชิดหน้าสั่งรถออก
ขอให้คุณโชคดีนะ หวังว่าแท๊กซี่คงพาไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ถ้าไม่เกิดเหตุร้ายใดๆเสียก่อน
เหตุร้ายหรือ นึกถึงตรงนี้ หัวใจกระตุกนิดๆ ถ้าหากผู้หญิงคนสวยต้องเจอเหตุร้าย เขาคือคนสุดท้ายที่เห็นเหตุการณ์ ไม่น่า...ไม่น่าจะมีอะไร เรากังวลเรื่องคนอื่นมากไปเอง ว่าแล้วก็ผิวปากร้องเพลงต่อ
รถเก๋งติดฟิล์มดำคันหนึ่งแล่นมาจอดเทียบหน้าป้ายรถเมล์ นี่กระมังรถคันที่หล่อนเฝ้ารอ คนขับมองปราดลงมา ไม่เห็นใครนอกจากหนุ่มเซื่องๆหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ รถคันงามจอดรถอยู่สักพัก เมื่อไม่เห็นใครก็แล่นหายไป
อย่าโกรธผมเลยนะ ถ้านัดของคุณทั้งสองในคืนนี้ต้องพลาดไปเพราะผมคนเดียว ปรินตอบโต้ในใจอย่างนึกสนุก
ชายหนุ่มย้อนลำดับเรื่องราวสักครู่ พรุ่งนี้เขาคงจะมีเรื่องเล่าหัวเราะงอหายกับพรรคพวกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง พวกคนในสำนักงานจะต้องเก็บสารรูปของปรินมาล้อแล้วล้ออีกให้สาวๆคนอื่นๆพลอยเห็นดีเห็นงามด้วย เอ..ชักไม่ดี ไม่นึกอยากจะเป็นตัวตลกของใครตลอดเวลานี่นา ขอระงับความคิดนี้ไว้ก่อน
โน่น คราวนี้ พลาดไม่ได้แล้ว รถเมล์คันที่เจ้าตัวรอมาเกือบครึ่งชั่วโมง รีบสาวเท้าวิ่งไปเกือบถึงกลางถนน โบกมือแก่งไกว ต่อให้คนขับตาเหล่ ตาเขก็ต้องเห็นภาพคนไหวๆยืนกลางถนน ฝนตกพรำๆ ได้ผล แสงไฟส่องจ้าตรงมา มองเห็นสายฝนสาดละอองอยู่หน้าไฟดวงกลม รถจอดกึกอย่างไม่ปกติ ปรินไม่รอช้า กระโดดผลุนผลันขึ้นไป กระเป๋ารถเมล์ผู้หญิงอ้วนมองหน้าผู้โดยสารคนใหม่ด้วยสายตาขวางๆ แต่ไม่พูดอะไรเมื่อส่งตั๋วแลกกับค่าโดยสาร