<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
15 ตุลาคม 2549
 

วิชาเผ่นพันลี้



เขียนโดย..aeaw

มินีซีรีส์ "เผ่นพันลี้"AEAW &CO

ขออนุญาตเฮียเอี๋ยวด้วยครับ เก็บมาจากกระทู้เก่าห้องสินธร

๑ คุณเอี๋ยวไปเจอยอดคนอำประกายที่ถ่ายทอดวิชาได้อย่างไร
อัธยาศรัยอันดีงามของคุณเอี๋ยว
ทำให้อาจารย์ยอมถ่ายทอดวิชาให้ ใช้หรือไม่

1.ปี 38 ผมพบเขาโดยเขาย้ายมาที่ธนชาติ มากับเพื่อนผม
ที่เดิมเขาปิดไปตามสมัยนิยม
เราพบกันทักทายแต่ก็ต่างคนต่างเล่น
ผมก็เล่นแบบงี่เง่าเสียเงินไปเรื่อยๆ
ตามแบบฉบับของรายย่อยทั่วไป
หุ้นยังคงตกไปเรื่อยๆพอเวลาลดค่าเงินบาท หุ้นตีกลับ
ผมถือได้5 ซิลลิ่ง ก็ขาย แต่มันไปต่อไม่เลิก
ในที่สุดผมทนไม่ไหวซื้อคืนที่ปลายดอย 55555
รายย่อยก็แบบนี้ ความอดทนและทนอดไม่พอ
ขายในเวลาที่ไม่ควรขายและซื้อในเวลาที่ไม่ควรซื้อ
และในที่สุดผมก็ติดหุ้นอีกแล้ว
จาก700 กว่าจุด ผมมา คัสลอสที่337 จุด
เพราะผมจะไปเที่ยวภูเก็ตกับเพื่อนๆ
ไม่อยากมีหุ้นแต่แล้วช่วงที่ไปเที่ยว
หุ้นกลับตีกลับ ไป400 ผมบินกลับเชียงใหม่ซื้อคืนทันที
ปรากฎว่า หุ้นตกอีก 2 week
ผมเครียดจนต้องเอาหัวไปแนบกับถังน้ำเย็น
เข่าอ่อน ท้อแท้ และโกรธตัวเอง
ในที่สุดตั้งใจถือยาว และแล้วมันก็ตีกลับไป 530
วันนั้นดีใจแม้จะได้เงินคืนเพียงน้อยนิด
วันนั้นคุยกับอาจารย์แบบเพื่อนๆคุยกัน
เราไม่เคยคุยกันเรื่องหุ้นเลยเพราะเราไม่รู้ว่าเขาเก่งหรือปล่าว
ผมไม่เคยปรึกษาใครตัดสินใจด้วยตัวเองตลอด
อยู่ๆเขาเอ่ยปากถามผมว่า
เฮียเชื่อเราไม๊ ถ้าเชื่อ ขายล้างport เลย
และแม้ว่าจะเตลิดขึ้นไปก็อย่าไปสนใจปล่อยมันไป
เหมือนมีอะไรดลใจ ผมตอบว่า ผมเชื่อครับ
แล้วผม เทขายหมดเลย ตอนเย็นนั้นหุ้นขึ้นต่อ
มันขึ้นต่ออีกเป็นเดือนเกือบ2 เดือน
แต่ไปแค่ 560จุด เพียง 30 จุดเท่านั้น
แล้วเขาบอกให้รอโดยไม่บอกอะไรอีกเลย
นั่งก็นั่งคนละที่ต่อไป แต่กลางวันเริ่มไปกินข้าวและคุยกัน
หลังจากนั้นหุ้นเริ่มตก ผมเฝ้ารอคอย
ในธนชาติมีคนรู้จักมาถามว่าไม่ซื้อหุ้นเหรอ
มันตกต่ำกว่าที่ขายแล้วนะ ผมบอกว่าไม่ครับ
รอ เขาบอกคร่าวๆว่า ดู 400 ก่อน
บอกคนคนอื่นโดนหัวเราะเยาะใส่ 555555
แบบนี้ตลาดก็แตกนะซิ แล้วคนที่พูดก็เดินจากไป
ผมไม่สนใจ ผมเชื่อมั่น
เขาก็นั่งเฉยๆเล่นสั้นในแบบฉบับของเขาไปทุกวัน
แต่ผมไม่ซื้อเลยแม้แต่บาทเดียว
ช่วงนั้นผมหันไปขี่จักรยานออกกำลัง

"ตี4ขี่ขึ้นดอยสุเทพ 7โมงเช้าลงดอยมารับลูกไปส่งโรงเรียน"

แล้วมานั่งหลับในห้องค้า
เมื่อปั่นได้ที่จนเกิดอุบัติเหตุแขนหักทั้ง2ข้าง
เข้าเฝือกไปหลายเดือน หุ้นก็ยังแกว่งตัวลงมาตลอด
ผมนั่งอยู่บ้านอีกเดือนทนไม่ไหว
มาห้องค้าแตกตื่นกันใหญ่เรื่องแขนหัก
เขาทั้งคู่เห็นผมก็เรียก
และบอกให้มานั่งกับเขาแทรกระหว่างตรงกลาง
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาผมนั่งกับเขาตลอด
ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แท่งกราฟก็ไม่เคยดู รู้อย่างเดียว
มันมีแต่แท่งเขียวและแดง
ผมไม่สนใจมัน เขาบอกให้เล่นตามเขาไป
เขาซื้อ ผมก็ซื้อเขาขาย ผมก็ขาย เริ่มได้กำไร
ผมตามเขาไปตลอด เขาดูกราฟตลอดเวลาผมเริ่มสนใจ
ทำอย่างไรถึงจะรู้แบบเขานะ

เขาบอกว่าจงดูไปเรื่อยๆเมื่อสงสัยอะไรก็ให้ถาม แต่เขาจะไม่บอก

ลองคิดดูคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดูแล้วก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไร
งงอย่างเดียว แต่ก็ซื้อและขายตามตลอด
เมื่อใกล้ 400 เขาบอกว่าห้ามซื้อ มันเอาไม่อยู่
เขาบอก ไป 250 เลย ผมก็เลยรอต่อไปอีกนาน
จนเมื่อถึง250 เขาบอกให้โจมตีซื้อเลย
เราซื้อ เมื่อใกล้ 300 เขาบอกว่ามันแปลกๆ
ให้เททิ้งเขาล้าง port ผม งง
ผมยังไม่ทำตาม เกี่ยงขอขาย bbl ให้มากกว่าเขาอีก 25 สตางค์
ปิดตลาดเที่ยงเราออกไปกินข้าวกัน
ยังไม่ทันเปิดตลาดตอนบ่าย ข่าวออก
อเมริกายิงจรวดโทมาฮ็อกไป72 ลูกเข้าสู่อาฟกานิสถาน
หุ้นตกระเนระนาดทันที
จากกำไร ผมขาดทุนทันที เพราะไม่เชื่อ
หลังจากนั้นเขาก็บอกให้รอ 210 จุดทันที
ผมรอจนใกล้เมื่อ210 มาถึงเขาบอกอย่าพึ่ง ดูอีกนิด
พอไหลมา 204 เขาบอกซื้อทันที เต็มport เลย
หลังจากนั้น ผมเชื่อเขาทุกอย่างทุกคำพูด
แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร
แล้วหลังจากนั้น ดัชนีเล่นตามคำพูดเขาแทบทุกอย่าง เขา
บอกวันนั้นจะเป็นแบบนั้นถ้าไม่ทำอย่างนั้นมันจะทำอย่างนี้
เขาบอกweekนั้นต้องเป็นแบบนั้น
และ month ต้องเป็นแบบนั้น ไม่อย่างงั้นจะป็นแบบนี้
หรือไม่ก็ไม่ใช่เลย ผมเริ่มรู้ว่ามีคนรู้จริง
เขาบอกผมว่า
เพราะพระเจ้าเมตตาประทานความรู้ให้เขาพบเจอ
ผมอยากรู้บ้างแต่ผมไม่ได้เปลี่ยนศาสนานะครับ
ผมอยากรู้จากเขา ผมไปซื้อ notebook
แล้วติดต่อ irs มาขึ้นมาใส่โปรแกรมที่เชียงใหม่
ผมเริ่มลงทุนเพื่ออยากจะเรียนรู้
เขาให้ผมไปนั่งดูกราฟเอง
โดยห้ามใช้เส้นค่าเฉลี่ยต่างๆ
ผมเจอแต่เขียวกับแดง ไม่รู้เลย
จนกระทั่งลองขยับไปมาแบบเขาแล้วจึงเห็นว่า
มันมีอะไร และพบข้อสงสัยขึ้นเมื่อนำไปถามเขา
พวกเขาหัวเราะ แล้วบอกว่าเจอแล้วหรือ
เมื่อพบและเจอผม ค่อยๆศึกษา
แต่ผมไม่เก่งมีข้อผิดพลาดเยอะงมไปแก้ไขไป
จากซื้อเครื่อง ปี 40 จนงมไปมาผ่านไป5ปี
ปี45 เขาบอกว่ารู้เรื่องเยอะแล้ว
กลางปี46 เขาบอกว่าตอนนี้เราคุยภาษาเดียวกันแล้ว

"แต่ขั้นตอนสุดท้าย เขาบอกว่าต้องตัดสินใจเอง"

ปัจจุบันผมเล่นคนละที่กับเขา

"เพราะผมอยากที่จะตัดสินใจเองแล้ว"

เมื่อหุ้นขึ้นจาก 204 เขาให้เล่นรอบแถว400 เพื่อลดต้นทุน
แล้วซื้อคืนเมื่อลงต่ำ ครั้งสุดท้าย 550
เขาให้ล้าง port แล้วบอกให้ไปรอ 250
ซึ่งเป็นเรื่องอีกเกือบ2ปี
เขาเรียกผมซื้อ nfs ที่3 บาท แล้วไปขายที่ 20 กว่าบาท
แล้วเขาให้ผมมารอรับ ที่ 4 บาท
ปรากฎว่าทุกอย่างที่เขาพูดเป็นจริงครับ
แปลกและมหัศจรรย์มากเลยสำหรับผมในตอนนั้น
แต่สำหรับคนที่ใช้วิชาหรือเครื่องมืออื่น ที่เก่งและชำนาญจริง
อาจไม่แปลก
การถ่ายทอดวิชานั้น อาจารย์ผมบอกว่าไม่สอนใครทั้งนั้น
เขาบอกว่าพระเจ้าเมตตาผมและรักผมมาก
พระเจ้าให้ผมเรียนรู้โดยผ่านเขา
เขาจะพูดยังไงผมไม่รู้ผม
รู้อย่างเดียวว่าเขาเป็นคนที่ถ่ายทอดให้ผม
ผมยังจดจำในบุญคุณนี้ตลอดเวลาครับ

"เขาไม่สนใจเล่น อินเตอร์เนต เขาไม่อยากดัง เขาต้องการสงบและเขารู้จักพอ"

เขาบอกว่าเพราะผมเป็นคนดี ผมไม่รู้ว่าดีตรงไหน
แต่เขาก็ถ่ายทอดให้ผมคนเดียว
ยกเว้นญาติพี่น้องของเขา ถ้าจะเรียนรู้
เขาจะสอนโดยไม่ปิดบังทันที ส่วนคนอื่นผมไม่รู้ครับ

จากคุณ : คลาย เครียด - [ 19 ก.พ. 47 09:21:06 ]


๒ คุณเอี๋ยวได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชา"เผ่นพันลี้"มากี่ปีแล้วครับ

2. การเรียนรู้ก็ประมาณ 6ปีแล้วครับ
ผมยอมรับว่าความรู้นี้กว้างใหญ่
เรียนรู้อย่างไรไม่จบสิ้น
มีรูปแบบและความผันแปรที่พลิกแพลงและพิศดาร
ในรูปแบบของ set index บ้านเรา

"ผมยอมรับว่าขาลงคือโอกาสของการเรียนรู้
ขาขึ้นเล่นง่าย เล่นยังไงก็ได้เงิน
แต่ขาลงยอดฝีมือเท่านั้นถึงจะได้เงิน"

รูปแบบของบ้านเราเล่นยากที่สุดในโลก
ถ้าเป็นประเทศใหญ่ๆ
ผมว่ายอดฝีมือบ้านเรากินเงินง่ายมากครับ
ของเราเล่นนอกตำราเยอะ
เพราะต้องสกัดนักเก็งกำไรซึ่งบ้านเรามีมาก
และประเทศอื่นนักลงทุนจะมาก
ของเรานี่แบบผสมผสานทั้ง ไต้หวัน ฮ่องกง ยุโรป อเมริกา
สรุป เป็นแกงโฮ๊ะครับ

๓ สองสามีภรรยาที่ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้คุณเอี๋ยว
ยังคงเล่นหุ้นอยู่หรือเปล่า
นับเป็นสุดยอดคนอำประกายจริงๆ
นั่งดูหุ้นที่ห้องค้าได้นานถึงสองปี โดยไม่ได้ซื้อขายเลย

3. สุดยอดฝีมือทั้ง2 ยังเล่นอยู่ครับ

"แต่ตอนนี้ผมก็แยกมาทดลองการเรียนรู้อีกครั้งครับ"

เขาจะลงทุนเมื่อถึงเวลาที่จะได้เงินเท่านั้น
เขาจะขายเมื่อถึงเวลาที่จะลง

๔ หลังจากใช้เคล็ดวิชานี้ พอร์ตเริ่มดีวันดีคืนอย่างชัดเจนหรือไม่

4. หลังจากขาดทุนจนป่นปี้ เงินในกระเป๋า
เลข8หลัก หดเหลือ เลข 6หลัก
หุ้นต้องเริ่มใหม่จากหลัก พันหุ้น
ปัจจุบัน หุ้นในมือ เริ่มเล่นใน8หลักแล้วครับ
ส่วนกำไรขออนุญาตไม่พูด

๕ เคล็ดวิชานี้ ให้ผู้รับการถ่ายทอดปฏิญาณว่า
จะไม่ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้ใครหรือไม่
มิน่า ถึงไม่ยอมขึ้นเขียง เอ๊ยขึ้นเวทีไปบรรยาย ฮาๆๆ

5. ถูกต้องแล้วครับเฮีย
คงไม่ได้ถ่ายทอดตามความต้องการของอาจารย์
ท่านบอกคนรู้มากความผันแปรยิ่งมากเล่นหุ้นจะยากยิ่งขึ้น
เหมือนที่คุณ think_pos บอก
เป็นเพราะอะไรไม่รู้ยามใดที่ขึ้นกระทู้หรือมาบอกกล่าว
มักไม่เป็นไปตามนั้น
ส่วนถ้าเล่นในใจหรือเล่นเองมักเป็นตามนั้น

๖ แก่นแท้ของเคล็ดวิชานี้คืออะไร

6. แก่นแท้หรือหัวใจคือ

"หุ้นจะขึ้น ต้องมีหุ้นเต็ม port และหุ้นจะลง port ต้องว่าง"

บูชาเงินสดครับ และสิ่งสำคัญ

"ห้ามติดหุ้นอย่าบอกว่าไม่ขายไม่ขาดทุน"

เมื่อมีเงินย่อมมีโอกาสที่จะล้างขาดทุนในสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้น
และห้ามคาดว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จงดูมันทำ

๗ "เผ่นพันลี้" อาศัยการดูแรงกรรมแห่งความโลภและความกลัว
ผ่านทั้งกราฟแบบไหนครับ เมตาสต๊อก แท่งเทียน หรืออีเลียตเวฟ

7. การดูก็แบบแท่งเทียนครับ
แต่ห้ามไปท่องจำแบบของญี่ปุ่น
เช่นรูปแบบอย่างนี้จะเกิดแบบนั้น
การเรียนรู้ต้องอาศัยความเข้าใจ

"รูปแบบเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ว่าตามตำราเป๊ะ
ถ้าตามตำราจริงป่านนี้ทุกคนรวยหมดแล้วครับ"

รูปแบบการเล่นในตัวหุ้นต้อง
เลือกหุ้นที่ถูกกับลักษณะของนิสัยใจคอตนเอง
ตนต้องรู้ตนเอง จะรู้ว่าเมื่อต้องทนถือหุ้นจึงถือได้
และเมื่อจับก็จับได้
เล่นหุ้นที่ขัดกับนิสัยตัวเองโอกาสได้กินยากถือไม่ไหว
เช่นขายแล้วขึ้น ซื้อแล้วลง
จงศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนทุ่มเงิน
ไม่งั้นคุณอาจไม่มีโอกาสแก้ตัวเมื่อผิดพลาด
อาจารย์เขาเมตตาผมถึงรอดไม่งั้นตายไปนานแล้วครับ 55555555555 จบ

จากคุณ : คลาย เครียด - [ 19 ก.พ. 47 09:22:19 ]


ขออนุญาตถามคุณเอี๋ยวเพิ่มเติม
เผื่อนักลงทุนรายใหม่ๆจะได้ประโยชน์บ้าง
ขอแก้ไขเพิ่มเติม โดยใส่คำตอบของคุณเอี๋ยวลงไปด้วย

๑ ก่อนจะใช้วิชา"เผ่นพันลี้"
คุณเอี๋ยวก็สามารถตัดขายขาดทุน
โดยไม่ลังเลอยู่แล้ว ใช่หรือไม่ครับ
ขนาดตัดขายขาดทุน ยังไปเที่ยวต่อได้ ไม่ธรรมดาแล้ว

๑ ตอนนั้นผมลงทุนตามกฎของผมคือ
ลงเพียง 10% ของสินทรัพย์
ถ้าหมดก้อนนี้ผมจะไม่เล่นหุ้นอีกต่อไป
เพราะแสดงว่ามันไม่ใช่ทางของเราอย่างแท้จริง

๒ ตามวิธี"เผ่นพันลี้"
เลือกเผ่นตอนไหนถือว่าสำคัญกว่ากัน
ก. เผ่นตอนขายหยุดขาดทุน
ข. เผ่นตอนขายทำกำไร

2. กำไรหรือขาดทุนก็ได้ ถ้าผมพบว่า ดัชนีจะลงลึก
และผมสามารถทำช็อตเซล เพื่อลดต้นทุน
และยามรีบาวน์ผมสามารถขายเพื่อล้างขาดทุน
และเริ่มนับ1 ใหม่เพื่อทำกำไรชุดใหม่ครับ

๓ ในกรณีที่ตัดสินใจผิดพลาดจากวิชา"เผ่นพันลี้"
เช่น ตัดขายขาดทุนแล้วหุ้นกลับขึ้น
ขายทำกำไรแล้วหุ้นกลับขึ้น เช่นกัน
ใช้วินัยอันไหนมารับมือกับความผิดพลาดครับ

3. อย่างนี้เรียกว่า ช็อตแพ้
ข้อสำคัญเราต้องดูออกด้วยว่าแพ้จริง
ไม่ใช่แค่รีบาวน์แล้วทุบกลับลงมา
ถ้าช็อตแพ้ต้องยอมซื้อคืนแล้วกินกำไรใหม่ครับ

๔ "ตั้งฐาน"คืออะไรครับ อธิบายพอคร่าวๆ
ในงานมีตติ้ง คุณเอี๋ยวบอกว่าพออ่านกระทู้เจอผมซื้อทุ่งคา
ก็พบว่าทุ่งคา"ตั้งฐาน" ไปเรียบร้อยแล้ว เลยไม่ตาม

4.การตั้งฐานก็คือการสะสมพลังของหุ้น
ตอนทุ่งคาเฮียเข้าใจผิดครับ
คือผมพบแล้วว่ามันตั้งฐานเสร็จเพื่อขึ้น
แต่ผมบังเอิญไปเจอตัวที่ตั้งฐานใกล้เคียง
แต่ดูชื่อชั้นแล้วน่าซื้อกว่าเลยไปเข้าตัวนั้น
เพราะโลภมากครับ ก็ วอร์แรนท์ นะครับเฮีย

ขอบคุณมากๆครับคุณเอี๋ยว
เออ ขอถามหลังไมค์แบบคุณอึ้งฯ
ตอนนั้นเครียดมากๆ
ได้ทำ "Kumpangdin visit"หรือเปล่า ฮาๆๆๆๆๆๆ

จากคุณ : คลาย เครียด - [ 19 ก.พ. 47 09:31:16 ]


Create Date : 15 ตุลาคม 2549
Last Update : 15 ตุลาคม 2549 21:43:26 น. 0 comments
Counter : 1524 Pageviews.  
 

P_ปรัชญา
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




หยิ่ง
กับตัวเองบ้าง
ในบางครั้ง

เบื่อ
ชีวิตความผิดหวัง
ในบางหน

เกลียด
ความไม่จริงใจ
ในบางคน

ยอมทน
คนหยามเหยียดได้
ในบางที


[Add P_ปรัชญา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com