เพลงหัวใจในมนตร์จันทร์ Clair de Lune
เพลงหัวใจในมนตร์จันทร์ Clair deLune
เนื่องจากตอนนี้ฟีน่าเปิดเวบเองแล้ว ขอย้ายรีวิวไปที่เวบนะคะ ใครอยากอ่านรีวิวนิยายเล่มอื่นๆ ที่ฟีน่ายัายไปลงหรือรีวิวนิยายใหม่ๆ ไปอ่านได้ที่เวบ philiciana.com นะคะ สำหรับเรื่องนี้กดไปอ่านได้เลยนะคะ รีวิวเพลงหัวใจในมนตร์จันทร์ Clair deLune
|
ต้องยอมว่าเชยแหลกราญกันเลยทีเดียว เพราะปกติไม่ค่อยอ่านนิยายออนไลน์และไม่ค่อยอ่านนิยายของสนพ.ทัชสักเท่าไรค่ะ ประมาณว่าลองไปก็เยอะแต่ไม่ค่อยรอด เลยจะซื้อแต่นักเขียนที่อ่านแล้วรอดอยู่แค่คนหรือสองคน แต่ของนักเขียนคนนี้ ความที่เห็นพี่ในเฟซแนะนำว่าสนุก แต่ไม่แน่ใจว่าเรื่องไหน ก็เลยเข้าไปลองอ่านตัวอย่างแล้วรู้สึกว่าน่าลองค่ะ ก็เลยเป็นที่มาของความเชยของเราเอง
นิยายชื่อหวานๆ เรื่องนี้ เปิดเรื่องมากลับไม่หวานเท่าไร เพราะมันเริ่มต้นด้วยความขัดแย้งที่ร้าวลึกระหว่างพระเอกและครอบครัวของเขา รวมทั้งนางเอก ที่ทำให้นางเอกฝังใจจำว่าเขาชิงชังเธอเป็นที่สุด แม้จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตามที และเมื่อกลับมาพบกันใหม่ มันก็เหมือนกับที่นางเอกคาดการณ์ไว้ แต่ความจริงที่อยู่ในส่วนลึกของคนทั้งสองมันเปลี่ยนไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะสำหรับพระเอกแล้วเขากลับต้องมนตร์ของแสงจันทร์ที่ทำให้พบเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้เขาใจเต้นแรง แต่กลับมาพบว่าแท้จริงเธอคือคนที่เขาควรเกลียดและอยู่ในห่าง
เหมือนที่นางเอกกลับถูกล่อหลอกด้วยเสียงเพลงที่ดึงดูดใจจากผู้ชายที่เกลียดเธอ คล้ายๆจะเป็นความรักที่ต้องเป็นความลับเพราะหน้าฉากมันคือความไม่ลงรอยกัน แต่ที่สุดแล้วก็ฝืนความรู้สึกจริงๆของทั้งสองไม่ได้ แต่รักที่น่าจะไม่มีอุปสรรคเท่าไร เมื่อสองคนต่างก็ใจตรงกัน กลับไม่ใช่เลย ชีวิตของครอบครัวของทั้งสองกลับมีความลับบางอย่างที่ทำให้มันมีอุปสรรคมาคอยพิสูจน์ความอดทนในความรัก ที่มันให้ผลตอบแทนที่แสนหวานเหมือนน้ำผึ้งพระจันทร์
คือหลังจากอ่านจบในเวลาตีสามกว่าๆ เพราะอ่านแล้ววางไม่ลง ติดพันมากมาย ง่วงนอนแค่ไหนก็ต้องอดทนอ่านให้จบไม่งั้นค้างคาใจ ก็พบว่าฟีน่าจะเบาหวานกินตายกันไปข้างหนึ่ง พระเอกที่เหมือนจะร้ายกาจ แต่ความจริงแล้วไม่ถึงขนาดนั้นเลยค่ะ แน่นอนว่าเขาเกลียดแม่นางเอกและนางเอกมากที่เข้ามาเป็นคนในครอบครัวที่พระเอกไม่ต้องการ แต่พระเอกไม่ได้เลือกที่จะตอบโต้ด้วยการทำลายศักดิ์ศรี ชื่อเสียงของผู้หญิงสองคนด้วยนิสัยแย่ๆ ประเภทข่มเหงน้ำใจนางเอกหรือกลั่นแกล้งให้อับอาย แต่เขากลับเลือกจะหันหลังให้กับพ่อและย่าแทน ซึ่งมันปวดใจมากกว่าเสียอีก แน่นอนว่าพระเอกในช่วงแรกๆ อาจจะดูเป็นคนใจร้ายกับนางเอก วางท่าไปบ้าง แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าคนที่ไม่ชอบขี้หน้ามาเป็นสิบปี จะให้มาดีด้วยง่ายๆ ก็คงแปลก แม้จะตกหลุมรักแบบไม่ทันรู้ตัวก็ตามที บางฉากจะหมั่นไส้พระเอกว่าขี้เก๊กจัง สงสารนางเอก แต่มันก็ไม่ทำให้เราชิงชังพระเอกว่านิสัยไม่ดีนะคะ แต่มันรับได้ คนไม่เคยอ่านไม่ต้องกลัวว่าจะเจอสถานการณ์กลืนไม่เข้า คายไม่ออกเนิ่นนาน แป๊บเดียวค่ะ หลังจากพระเอกออกอาการหลุดขนานใหญ่ขึ้นมา หลังจากนั้นพระเอกเปลี่ยนไปเลยค่ะ เหมือนคนถูกอะไรฟาดหัว จากดำเป็นขาวเลย งานนี้หวานใส่ไม่ยั้งแทน เลยเป็นที่มาของอาการตาค้างเพราะอ่านแล้วน่ารักจนหยุดอ่านไม่ได้แล้ว
ส่วนนางเอกที่เกือบต้องร้องจำเลยรักตามขนบนิยายพระเอกที่ชิงชังนางเอกแต่แรกพบ ก็เป็นนางเอกที่จัดไว้ในข่ายพิมพ์นิยมของนิยายไทย เธอสวย น่ารัก แสนดีแต่ไม่แสนโง่ งี่เง่า ยอมคนไปทั่ว แต่ถ้าเธอยอมเพราะมันมีเหตุผลและความจำเป็น นางเอกไม่ได้สวยแต่กินไม่ได้ เพราะเธอมีความสามารถที่เคียงข้างพระเอกได้เลยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่านางเอกจะเป็นสนิมสร้อย อ่อนปวกเปียก เธอแกร่งพอตัวเลยล่ะ ในความหวานซ่อนความเด็ดเดี่ยวเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม จนพูดได้เต็มปากว่าทั้งสองคนเหมาะสมกันจริงๆ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าอีกฝ่ายด้อยกว่าในความรักเลยนะคะ
เป็นของที่ลองอ่านตามคำแนะนำแล้วปรากฏว่านี้ล่ะแนวที่เราต้องการ ไม่หวานอย่างเดียวแต่มีเนื้อเรื่อง มีเนื้อหาอยู่ด้วย จริงๆ มันคือพล็อตทั่วไป จากความไม่ชอบมาเป็นความรักที่ไม่ตั้งใจ แต่นิยายเขียนมาแล้วสนุกชวนติดตามมากๆค่ะ เมื่อนิยายใช้ชื่อเรื่องว่าเพลงหัวใจขึ้นต้น บทเพลงจึงมีส่วนสำคัญที่จะเชื่อมโยงเนื้อเรื่องให้เป็นไป โดยให้เนื้อเพลงแทนความรู้สึก อารมณ์ของตัวละครว่าสื่อถึงสิ่งใด ตัวฟีน่าเองไม่ได้มีความรู้ด้านเพลงมากมายนัก เป็นพวกฟังไปเรื่อยเปื่อย แต่รู้สึกได้ว่าคนเขียนสามารถใช้สิ่งเหล่านี้มาเล่าแล้วคนอ่านอินและมองภาพตามไปได้เลยค่ะ เวลามันเศร้าก็เศร้าตาม เวลาหวานซึ้งก็เขินอายได้เช่นกัน
นิยายอาจจะมีความหนาไปสักหน่อยนะคะ บางช่วงอาจจะยืดไปสักนิด แต่ก็ไม่ทำให้เรารู้สึกว่าน่าเบื่อหน่าย เพราะมีเรื่องราวให้ลุ้นตามไปด้วย แม้ว่าบางมุกจะเป็นการเล่นซ้ำสองที ทำให้เราเดาได้ล่ะ ก็ถือว่ายังพอไหวอยู่นะคะ แต่ถ้าเปลี่ยนมุกสักนิดก็น่าจะดี ซึ่งเราก็เข้าใจว่านักเขียนจะแสดงให้เห็นว่าความรักมีความหมายอยู่เหนือคำว่าดำฤษณาที่ตัวเราเองเท่านั้นจะควบคุมมันได้
สำหรับสิ่งที่อยากจะคอมเม้นท์อยู่บ้าง ประการแรกเลยคือคำผิดค่ะ คำผิดเยอะมาก จนงงเลยว่า กองบก.ปล่อยให้คำผิดออกมาได้เช่นไร และเป็นคำที่เราเจอประจำ บ่นตลอดว่าใช้ผิด เพราะจะว่าไปงานที่ออกมาเป็นรูปเล่มก็ต้องมีการตรวจทานมาแล้ว อย่างคำว่า ร่ำร่ำ เจออีกแล้ว เล่มก็เจอทั้งเล่ม เหมือนคำว่า ปากคอเราะราย ก็เป็น ปากคอเราะร้าย หรือคำผิดอื่นๆ อีก พยายามจะหลับตาข้างหนึ่งว่าไม่เห็น แต่มันก็เจอจังๆ ตลอดเวลาจนรู้สึกว่าแปลกใจที่ปล่อยให้ผ่านมาได้ยังไงกันเนี่ย
ความรู้สึกของตัวละครอย่างพิชาชาญที่เปลี่ยนแปลงไวจนงง ความรู้สึกที่ติดอยู่กับนางเอกมาเป็นนานหลายปีขนาดนั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นความรักต่อคนอื่นได้แบบยังไม่ทันเห็นบทอกหักรักสลายของพิชาชาญ เราเองก็พยายามบอกว่าจริงๆ พิชาชาญไม่ได้รักนางเอกแต่เป็นแค่ความรู้สึกว่านางเอกดี คู่ควรให้รัก แต่เป็นรักแบบพี่ชายรักน้องสาวไม่ใช่รักของหนุ่มสาวแบบที่เขาคิด แต่มันไม่ต่อเนื่องกันเลย ประมาณว่าคนเราคงไม่ได้เกิดดวงตาเห็นธรรมในชั่วเวลาว่าเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่รัก คนที่รักจริงๆคือคนอื่นต่างหาก ถ้ามีจุดเชื่อมอะไรสักนิด ก็คงทำให้เรื่องมันลื่นไหลกว่านี้ค่ะ
ความลับของพระเอก จริงๆ เดาได้ต้องแต่ตอนที่แม่พระเอกเอ่ยความนัยบางอย่างออกมาแล้ว ซึ่งมาถึงตอนเฉลยความจริงว่าอะไรคือซึ่งที่ซ่อนเร้นไว้เป็นเหมือนรอยมืดของพระจันทร์เหมือนแบบที่คิดไว้เป๊ะ ก็อย่างที่บอกว่าพล็อตและการดำเนินเรื่องเป็นแนวยอดนิยมของนิยายประเภทหนึ่ง ที่ตรงช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงที่รู้สึกว่ามันธรรมดาไปนิด แม้ว่ามันจะกินใจอยู่บ้างก็ตามที เพียงแค่มันเดาได้ตั้งแต่เริ่มต้นเกินไปและมันเป็นขนบที่เป๊ะมากไปสักนิด แต่สิ่งที่อยากพูดจริงๆ ก็คือว่า ในฉากการให้เลือดเพื่อสร้างความซาบซึ้ง เราก็เป็นที่จริงจังมากไปสักนิดค่ะ เนื่องจากว่าเคยเป็นคนหนึ่งที่เชื่อในละครมาตลอดว่ามันเป็นความจริง จนมารู้ว่ามันไม่ใช่
การให้เลือดส่วนใหญ่ในนิยายมักจะต้องสร้างความประทับใจประมาณว่าพ่อแม่ให้ลูก ลูกให้พ่อแม่ หรือศัตรูคู่แค้น คนรักให้เลือดกันและกัน เพื่อต่อไปถึงบทที่คลาสสิคชวนให้ซึ้งใจว่า ได้เลือดมาต่อชีวิตจากคนที่มีความหมายผู้นั้น ซึ่งในความเป็นจริง การให้เลือดไม่ใช่การที่บริจาคเลือดแล้ว เอาถุงเลือดไปต่อให้อีกคนใช้ได้เลย แต่มันต้องเอาเลือดไปผ่านกระบวนการต่างๆ แยกเป็นเม็ดเลือด เกล็ดเลือด พลาสม่าต่างหาก ทำให้ไม่ได้ซาบซึ้งที่ว่าเลือดที่มาต่อชีวิตคุณไม่ใช่เลือดจากฉากที่ผ่านไปเลย คำถามต่อมาก็อาจจะถามว่า ก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือที่เลือดที่บริจาคตอนนั้นเอาไปแยกเป็นส่วนประกอบของเลือดแบบต่างๆ ในทันที จากที่เคยอ่านมา ไม่ได้ค่ะ มันต้องใช้เวลามากว่าการรับเลือดที่ผ่านกระบวนการแล้วเสียอีกนะคะ และเท่าที่ทราบก็คือ การบริจาคแบบฉุกเฉินนี้คือการเอาไปทดแทนเลือดที่ถูกขอยืมมาจากศูนย์บริการโลหิตต่างหากเพื่อรักษาจำนวนเลือดสำรองให้มีอยู่ตามปริมาณที่ควรจะมีสำรองเอาไว้ ซึ่งความจริงแล้วมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลือดที่ใช้ในแต่ละวันด้วยซ้ำไปค่ะ ประเด็นนี้อาจจะบอกว่ามันแค่นิยายจะเอาอะไร แต่เชื่อว่าหลายคนก็ไม่รู้จริงๆว่า มุกคลาสสิคแบบนี้คือความเข้าใจผิด เหมือนมุกงูกัดต้องเอาปากดูดพิษเช่นกันค่ะ สรุปว่าคนอ่านแบบฟีน่าจริงจังเกินไปอีกไหมเนี่ยในประเด็นความซึ้งใจแบบนิยายไทยๆ
ความรู้สึกแปลกๆ ที่เป็นเนื้อเรื่องต่อมาจากเหตุการณ์ให้เลือด ความลับของพระเอกที่ถูกเปิดเผยขึ้นมามันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย แต่ทำไมกลับกลายเป็นว่าไม่มีสื่อแขนงไหนมาเล่นข่าวกันเลย หรือฟีน่าจะเข้าใจไปเองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ความลับเฉพาะครอบครัว เพราะการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในองค์กรแบบนั้นต้องมีคนขุดคุ้ยเป็นธรรมดาว่าอะไร เพราะทำไมกัน แต่เรื่องกับเงียบๆ ไม่มีอะไรแปลกใจ แต่เรื่องความรักของพระเอก มือที่สามหรือแค่พระเอกจะหมั้นหมายกับนางเอก กลับเป็นข่าวใหญ่ได้ มันก็ดูน่าแปลกใจว่า ในด้านความสมจริง สมจังจุดนี้ขาดหายไปสักหน่อย
แต่ยังไงก็ตามนะคะ สำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แม้จะยาวมากเพราะความหนาเข้าไปหกร้อยกว่าหนา แต่อ่านได้เพลินสุดๆ ไม่อยากหยุดมือเลย เนื่องจากพระเอกและนางเอกน่ารักมาก หวานมากมาย แรกๆ พระเอกขี้เก๊ก วางมาดเล็กน้อย ตามประสาคนไม่ชอบหน้า ทำนางเอกเสียใจนิดๆ หน่อยๆ น่าน้อยใจ แต่พอถึงช่วงหวานนี้คนละคนเลยนะคะ พี่ดนย์ถูกใจที่สุด ไม่ใช่คนที่มองข้ามได้เลย มั่นคงและแน่วแน่กับตัวนางเอก ทั้งๆที่รู้ว่าความรักไม่ราบรื่น มองตัวนางอิจฉาที่เข้ามาได้ขาด ไม่มีหลงคารมหรืออะไรแต่อย่างใด แต่ที่ชอบสุดคงเป็นการกระทำที่ฟีน่าคิดเหมือนแม่นางเอกว่า แม้ว่าเขาจะไม่ชอบนางเอกกับแม่แค่ไหน กลับไม่ใช่ความประพฤติไม่เป็นสุภาพบุรุษมาทำลายนางเอกให้ย่อยยับอยู่ในสังคมไม่ได้ ทำให้ความรู้สึกที่ไม่ญาติดีกันมาเป็นรักกันจึงไม่ตะขิดตะขวงใจมากนัก และอย่างที่บอกว่านางเอกเป็นลักษณะนางเอกพิมพ์นิยม คือแสนดี และความดีของเธอที่ถูกแม่สั่งสอนมาก็ทำให้เอาชนะความไม่ดีได้ทุกสิ่งจริงๆค่ะ ส่วนตัวคู่รองก็มีบทบาทกำลังดี ไม่มากไป หรือน้อยไป ไม่มาแย่งบทเด่นจากพระเอก นางเอกค่ะ คืออ่านแล้วก็ชอบ แต่ไม่ชอบเท่าคู่หลัก
ใครที่ไม่เคยอ่านแบบฟีน่ามาก่อน แนะนำว่าควรลองนะคะ เพราะมันหวานดีจริงๆ พี่ดนย์เขารักและแสดงออกตลอดว่าคิดยังไงกับน้องด้า อยากปกป้องดูแล รวบหัวรวบหางสักทีติดที่นางเอกยังมีบางอย่างให้ทำไม่ได้ถนัดนัก เนื้อเรื่องบางช่วงยืดไปบ้างแต่ก็ไม่น่าเบื่อจนจะหลับ สำนวนการเขียนก็ถือว่าดีเลยค่ะ เอาความชอบส่วนตัวและส่วนหนึ่งของงานของคนเขียนมาประยุกต์กับนิยายได้น่าสนใจ ใช้ศัพท์แสงไม่อ่านยากจนต้องขมวดคิ้วแล้วปล่อยให้มันผ่านไป เพราะว่าพยายามยังไงก็ไม่เข้าใจ แต่นี้เล่าง่ายๆ ดีค่ะ เลยมองภาพตามได้สะดวกไปด้วย
ส่วนตอนพิเศษของเรื่องบอกเลยว่าทำให้เรื่องนี้น่ารัก น่าอิจฉานางเอกมากขึ้น เป็นการเติมเรื่องให้เต็มได้อย่างน่าพอใจว่ามันเป็นตอนจบที่เรียกได้ว่าบริบูรณ์ ยกเว้นอีกคู่อย่างพี่พุกกับน้องเบลส์นะคะ เพราะรู้ว่าอยู่ในผลงานเล่มที่สาม ก็เลยไม่ถือว่ามันเป็นอะไรที่ค้างคาเพราะเขาจะมีเรื่องเป็นของตัวเองค่ะ สรุปว่าเรื่องนี้เชียร์ให้คนไม่อ่านลองอ่านเลยนะคะ ฟีน่าติดใจนามปากกานี้แล้วค่ะ มีทั้งความหวาน เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ เนื้อสาระที่สอดแทรกก็ทำได้ดี เรื่องยาวอ่านกันจุใจไปข้างหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ ไม่เสียแรงที่ยืมคนอ่านจนต้องไปตามหาเล่มมาเป็นของตัวเองบ้าง ขนาดว่าอ่านจบไปแล้วก็ตามที แต่อยากจะมีไว้ครอบครองเพื่ออ่านเวลาที่อยากอ่านอีกทีหนึ่งเชียวค่ะ ประทับใจพี่ดนย์กับน้องด้า และความรักที่มาพร้อมกับดวงจันทร์และเสียงเพลงของเรื่องนี้