เงื่อนเสน่หา คีตา
เขาเคยเป็นชวิน รอกเกอร์ผู้โด่งดังเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ เป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนเพลง แต่จู่ๆเขาก็ต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร้ายแรง ฆาตกรใจโหด วิปริต เก็บกด กระหายเลือดและทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ชวินได้ตกลงสู่จุดดำมืดที่สุดในชีวิตที่เขาต้องเผชิญมากหากกลับมีเธอเพียงคนเดียวที่ไม่เคยเชื่อว่าชวินคือคนร้ายตัวจริงผู้หญิงที่เขาคุ้นหน้าแต่กลับไม่รู้จักเธอเลยและเธอก็ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างเขาและช่วยเหลือชวินทุกประการ
นี้ไม่ใช่ความบังเอิญแต่คือความจงใจสิบปีที่ผ่านไปพร้อมไฟแค้นในจิตใจที่ไม่อาจมอดดับศีรณาเปลี่ยนจากเด็กผู้หญิงที่พ่ายแพ้คนนั้นมาเป็นนายตำรวจหญิงอำนาจที่ครั้งหนึ่งเคยพรากความสดใสในชีวิตเธอไปจนหมดสิ้นแต่ตอนนี้เธอกำลังกุมมันไว้ในมือของเธอชวินอาจจะไม่รู้ว่าเธอคือใคร และเขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าบางครั้งคำว่าบังเอิญก็ไม่ได้มีบนโลกนี้
ยิ่งพยายามค้นหาความจริงก็เหมือนว่าชวินได้ค้นพบความจริงที่ไม่น่าโสภาเลย บางทีคนที่ต้องการทำลายเขาอาจจะเป็นคนที่เขารักมากที่สุดหากในยามเขาไม่เหลือใครก็ยังเหลือศีรณา และเธอเองก็คงไม่รู้ว่าชวินก็รู้อยู่เต็มอกเธอคือใครในอดีตของเขาแต่เมื่อศีรณาไม่พูด ชวินก็จะไม่พูดหากความเงียบและการปิดบังกลับทำให้ชวินรู้สึกละอายแก่ใจเพราะเรื่องราวที่ผ่านเขาเองก็ควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความสูญเสียของเธอ
ถึงคนร้ายตัวจริงจะปรากฏกายขึ้นและมันควรจะจบลงทั้งเธอและชวินก็ต่างต้องไปมีหนทางที่ชีวิตที่ไม่ติดหนี้บุญคุณกันอีกต่อไปหากความจริงมันไม่เป็นเช่นนั้น ชีวิตของศีรณาต้องผูกพันกับเขาอย่างไม่น่าเชื่อแต่เมื่อชวินไม่ได้ก่อปัญหาให้กับเธอแล้วทำไมเขาจึงไม่ยอมปล่อยให้ศีรณาทำในสิ่งที่เธอมีสิทธิ์จะทำล้างแค้นคนที่พรากคนที่เธอรักไปจนหมด
ความแค้นและการอาฆาตไม่เคยให้คุณใครแม้ว่าชวินเองก็เหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากให้ศีรณาถลำลึกไปเพียงเพราะคนที่เขารักก็อาจจะต้องรับผลจากการแก้แค้นนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือความสุขชั่วนิรันดร์ของศีรณาต่างหากหากเธอละวางมันได้ไฟที่สุมในใจของศีรณาก็เป็นเพียงรอยในอดีตไม่มีวันกลับมาเผาผลาญเธอได้อีกต่อไป
หากครั้งหนึ่งชีวิตของศีรณาถูกหล่อเลี้ยงให้ยืนหยัดและสู้กับทุกอุปสรรคด้วยความแค้นแต่ตอนนี้ด้วยรักของชวินเธอรู้แล้วว่ามันอาจทำลายเธอจนสักวันหนึ่งอาจไม่ต่างจากคนที่เธอเกลียดชังการละวางทุกอย่างคือสิ่งที่เหมาะแล้ว กฏแห่งกรรมมันดำเนินไปตามวิถีทางของมันเสน่หาทำให้ศีรณาละความแค้นในจิตใจและความสุขที่แท้จริงคือการหันกลับมามองคนที่รักเธออย่างที่สุดเช่นชวิน
ถึงจะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือของสนพ.คำต่อคำ แต่เวลาที่หยิบนิยายของสนพ.นี้มาดูทีไร ก็มักจะเจอพล็อตแนวฆาตกรรมพิศวาสหรือไม่ก็แนวๆ ผีกันไปเลยทีเดียว แต่ถ้าให้เลือกระหว่างแนวผีกับเลือดสาด คนซาดิสต์แบบฟีน่าของเลือกแนวกลิ่นคาวเลือดก็แล้วกันค่ะ ผีสางอะไรนี้ดูจะไม่ถูกต้องชะตากันสักเท่าไร
เล่มนี้คำโปรยเป็นเรื่องจูงใจให้ลองอ่าน แม้ว่าแนวดารา นักร้องชื่อดังจะต้องเป็นผู้ต้องหาจะเป็นอีกพล็อตที่นิยมกัน คงเพราะการเป็นบุคคลสาธารณะ มีชื่อเสียงโด่งดังต้องเป็นอะไรที่คนจับตามองว่าอะไรคือเหตุผลของการลงมือทำ เล่มนี้เองก็เป็นแบบนั้น พระเอกที่เป็นนักร้องชื่อดังกลายเป็นดาวร่วงในชั่วข้ามคืน เมื่อทุกอย่างคล้ายจะๆบ่งชี้ว่าเขาคือคนฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเลือดเย็น สังคมที่เริ่มตราหน้า พยานที่ไม่มีใครรับรองเขาเลย จะมีก็แต่เพื่อนบ้านที่บังเอิญพบกันบ่อยๆ จะเป็นนายตำรวจหญิงและเป็นคนเดียวที่เชื่อในตัวเขาและหาหนทางช่วยเหลือเขา แต่สิ่งหนึ่งที่พระเอกก็ไม่คิดมาก่อนก็คือ เธอไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่เป็นคนที่เขาอยากจะหนีให้พ้นเพราะความละอายใจในอดีตที่แม้เขาจะไม่ได้ทำแต่ควรเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบ และเธอเองก็ตั้งใจแล้วว่าการเข้าใกล้เขาไม่ใช่แค่ความบังเอิญแต่คือการจงใจมาจากเรื่องเศร้าเมื่อสิบปีก่อน
เอาเข้าจริงในตอนแรกที่อ่านๆ คำโปรยส่วนหนึ่งก็คิดไปว่า งานนี้นางเอกเธอต้องกลับมาล้างแค้น ชนิดที่ว่าจงเกลียดจงชังพระเอกเป็นแน่เชียวค่ะ อ่านไปก็แอบระวังไปด้วย เพราะตัวเองไม่ชอบแนวการกลับมาแก้แค้นให้เจ็บปวดหัวใจ แต่ความที่อยากรู้ว่าปมแค้นกับเรื่องคดีโหดมันจะไปด้วยกันยังไงดีเนี่ย แต่พออ่านไปแล้วรู้สึกโล่งใจค่ะ เพราะนางเอกไม่ได้กลับมาใกล้พระเอกเพราะจะทวงบัญชีโหดอะไรแบบนั้น เพราะถึงแม้ว่าคนในครอบครัวพระเอกจะมีส่วนสำคัญที่พลิกชีวิตเธอจากหน้ามือเป็นหลังก็ตามที แต่นางเอกรู้สึกต่อพระเอกก็คือซาบซึ้งในบุญคุณของเขา แต่หลายคนอาจจะเข้าใจผิดไปอีกอย่างหนึ่งเธอก็ไม่สนใจ แบบนี้เรียกว่ามีแรงจะอ่านต่อค่ะ กลัวว่ามันหนักหน่วงจนเกินจะรับไหว
เป็นนิยายที่สร้างปมในเรื่องมาหลายปมเหลือเกิน ทั้งเรื่องฆาตกรรม ความบกพร่องในด้านจิตใจของคนและความแค้นฝังใจ แต่เอามาผูกไว้ในเรื่องเดียวกันได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ อ่านไปก็ต้องเดาไปว่าใครกันนะคือคนร้ายตัวจริง แต่สำหรับคนที่อ่านนิยายหรือดูซีรียส์แนวนี้ ฆาตกรโผล่มาให้รู้แล้วตั้งแต่ต้นตามหลักการเบี่ยงเบนความสนใจจนอาจจะเขวไปบ้างแต่ที่สุดแล้วคนร้ายก็คือยังคงเป็นทางนี้ แต่อย่างน้อยระหว่างทางก่อนที่จะเฉลยว่าใคร เราก็ใช้เวลานั้นศึกษาสภาวะทางจิตของคนรอบข้างพระเอกไปเรื่อยๆ ก่อนว่าแต่ละคนเป็นยังไง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วคำตอบของทุกพฤติกรรมก็มาจากสิ่งเดียวก็คือการหล่อหลอมของครอบครัวทั้งสิ้น ในเรื่องนี้ที่จริงแล้วคนร้ายไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีหลายคนจากหลายเรื่องราวในชีวิตของพระเอก นางเอก บางคนก็เชื่อมโยงทั้งคู่เอาไว้ให้เกี่ยวพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ คนร้ายในคดีป้ายสีพระเอกก็มีความน่าสงสารแบบหนึ่ง คนร้ายในคดีเพื่อนนางเอกที่ถึงแม้ว่าจะไม่ลงมือฆ่าด้วยตัวเองแต่เสมือนเป็นคนบงการก็น่าสงสารอีกแบบ และท้ายที่สุดคนที่ก่อให้เกิดความผูกพันบนคราบเลือดของสองคนนี้ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง
จริงๆ แล้วการสร้างฆาตกรของเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะมาจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก แต่ถือว่าเรียกความน่าสนใจได้นะคะ คดีซ้อนคดีที่เกิดขึ้นไม่ได้แย่งความสนใจซึ่งกันและกัน เพราะค่อยๆ คลี่คลายปมไป เหลือไว้แค่เรื่องสุดท้ายซึ่งเป็นการเทหมดหน้าตักของนางเอกว่าจะชนะหรือแพ้ ซึ่งนับเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าที่สุดของนางเอกเลยทีเดียว
ซึ่งหากจะบอกว่านิยายเรื่องนี้สอนอะไรคุณ ถ้าคุณอ่านจนจบคุณจะรู้อย่างหนึ่ง มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ไม่มีใครดีหรือเลวไปหมด คละเคล้ากันไปจากเด็กน้อยที่เหมือนสีขาวสะอาดตา อยู่ที่ผู้ใหญ่จะทำให้เขาเป็นคนสีเทาหรือคนสีดำมืด หลายคนที่เหมือนเป็นคนดี พอเฉลยออกมาว่าทำไมจึงทำแบบนั้น เราก็รู้ได้เลยว่าบางทีเขาก็เลวมาก่อน แต่ที่สุดแล้วมโนธรรมในใจก็เปลี่ยนความคิดในแง่ชั่วร้ายให้เป็นดีได้ ซึ่งคนนั้นตอนที่อ่านแรกๆ เป็นคนที่น่าคิดว่าจะเป็นคนดีแบบเต็มร้อย แต่ที่จริงแล้วก็อาจจะไม่ต่างกับคนที่คิดหักหลังพ่อแม่นางเอก เพียงแต่ที่สุดความดีในใจนั้นมีมากกว่าจึงได้กลายมาเป็นคนช่วยเหลือนางเอก หรือทัศนคติความรัก รักแล้วจะรักแบบไหน รักแบบเห็นแก่ตัวหรือรักแบบเห็นแก่คนที่เรารัก ไม่ผิดที่เราจะพยายามฉุดรั้งคนที่เรารักให้มารักเรา แต่ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังไปหมด เราเองจะจัดการกับความผิดหวังอย่างไร มองมันเป็นความแค้นหรือเป็นอย่างอื่นที่ไม่ทำร้ายให้เราเป็นอมนุษย์ตนหนึ่งที่ไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ประเด็นนี้เองนางเอกก็ไม่ต่างกัน เธอเปลี่ยนตัวเอง และใช้ความแค้นดำเนินชีวิต และเกือบจะทำลายตัวเอง ถ้าไม่เพราะความรักของพระเอกที่ชักจูงเธอให้หลุดพ้นวังวนนี้ออกมาได้ ในทางพุทธเรา นางเอกก็คล้ายกับบัวปริ่มน้ำที่พาตัวเองให้พ้นจากการเป็นอาหารของกิเลสตัณหาจนไม่เหลืออะไร ไม่ผิดที่เธอจะเกลียดแค้นคนที่ทำแบบนั้น หากแต่การใช้อำนาจในทางที่ผิดมันก็แทบไม่ต่างไปจากคนที่เกลียดเลย เมื่อตาที่มืดบอดสว่าง ก็ได้ค้นพบทางที่ถูกต้อง
เรื่องนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบนิยายแนวหวานน่ารักนะคะ เพราะพระเอก นางเอกและคนอื่นๆ ต่างก็มีมุมมืดของจิตใจทั้งหมด พระเอกเองก็ต้องแบกรับคำว่าอดสูของเกียรติยศที่เขาเคยภาคภูมิใจในครอบครัว เขารับไม่ได้กับสิ่งที่เขาเคยชื่นชมบูชา สิ่งเดียวที่ทำได้คือหนีและหันหลังให้กับสิ่งที่เคยจะเป็นอนาคตของเขา นางเอกก็จากคุณหนูที่เคยเย่อหยิ่งกลับต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่เรียกว่าความร่ำรวย เพราะที่สุดแล้วมันก็พรากคนที่รักเธอไปหมด เหลือไว้แค่ความแค้นให้เธอต้องเป็นในสิ่งที่เกลียดเพื่อใช้มันหาแก้แค้นให้กับพ่อแม่ เรื่องจะมีปมในใจของตัวละครค่อนข้างเยอะ ไม่มีใครเลยที่ไม่มีภูมิหลัง ทุกคนมีหมดแค่จะมากน้อยและรับมือกับมันได้แค่ไหน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เราก็จะเห็นว่าในเรื่องพระเอกกับนางเอกเขารักกันจริงๆ และมีเหตุผลในการมองลึกลงไปนอกเหนือจากสิ่งที่ฉาบอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นพระเอกคงต้องกลายเป็นคนที่เกลียดนางเอกไปเลยเพราะเธอดูคล้ายจะเข้ามาวุ่นวายกับเขาเพราะต้องการแก้แค้น แต่เขาใช้ใจที่จะเชื่อมากกว่า ส่วนนางเอกก็รับฟังและเชื่อว่าคนที่เธอรักหวังดีกับเธอจริงๆ ปณิธานที่ฝังแน่นจึงเปลี่ยนได้เพราะความรัก ถึงจะไม่หวานมากนะคะ แต่สำหรับฟีน่าจัดว่าเล่มนี้สนุกนะคะ เพราะความรักไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบน้ำตาลเรียกพ่อ หากมาในรูปของการเข้าใจในกันและกัน มองผ่านและแยกแยะถูกผิดได้จากกันไม่ใช่เหมารวมไปหมดว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนนี้แต่ไปลงกับอีกคนเพียงเพราะอยากให้คนนั้นเจ็บที่คนรักถูกกระทำ แบบนั้นเป็นคนที่ไม่รู้จักคิด สิ่งนี้พระเอกและนางเอกก้าวข้ามมันมาได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เรื่องที่มีความหวานซึ้งไม่กี่บทแต่กลับให้ความรู้สึกว่ารักแท้เป็นเช่นไรได้เลยค่ะ