Group Blog |
แกงฮังเล..อาหารเหนือไม่ยากอย่างที่คิด ช่วงนี้หายหน้าหายตา ไม่ค่อยได้อัพบล็อคเลยค่ะ วันนี้พอมีเวลาก็เลยเอาอาหารเหนือมาฝากกันค่ะ แกงฮังเล หรือฮินเล แล้วแต่ละท้องที่จะเรียกวิธีการทำและรสชาดิคิดว่าคล้ายๆกับแกงมัสมั่นค่ะ เพียงแต่แกงฮังเลทางเหนือนิยมใช้เป็นเนื้อหมู ส่วนแกงมัสมั่นจะใช้ไก่ค่ะ แกงฮังเลนั้นแถวบ้านจะทำกันเฉพาะช่วงที่มีงาน เช่นขึ้นบ้านใหม่ งานศพ หรืองานแต่งค่ะ อาจเพราะต้องใช้เวลาในการเคี่ยวตุ๋นเนื้อให้เปื่อยนานก็เลยไม่ค่อยนิยมทำกินเท่าไหร่ เนื่องจากแฟนเป็นคนที่ชอบทานพวกเครื่องแกงเครื่องเทศมากก็เลยลองประยุกต์วิธีทำ ซึ่งพอทำออกมาแล้วก็ได้รสชาดิไม่ต่างกับของดั้งเดิมเท่าไหร่เลยค่ะ หน้าตาของแกงฮังเลค่ะ ส่วนผสม เนื้อหมู 1 กก เครื่องแกงฮังเลยี่ห้อโลโบ 2 ซอง เครื่องแกงฮังแลตราตา 1 ซอง น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/2 ช้อนชา ซุปหมูก้อนคนอร์ 1 ก้อน น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงตามชอบ ขิงซอย ตามชอบ น้ำเปล่า ใส่พอท่วมเนื้อหมู วิธีทำ เนื้อหมูและเครื่องแกงฮังเลค่ะ เทน้ำมันพืชใส่กะทะพอร้อนใส่เครื่องแกงลงไปผัดให้หอม หลังจากนั้นใส่เนื้อหมูลงไป ผัดให้หมูพอสุกค่ะ เสร็จแล้วเทลงในหม้อตุ๋นค่ะ ใส่น้ำเปล่า ถั่วลิสง และเครื่องปรุงลงไป ถ้ายังไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งใส่หมดค่ะ ถ้าไม่ต้องการให้ถั่วลิสงนิ่มเกินไป ให้ใส่ทีหลังได้ค่ะ ตั้งเวลาตุ๋นไว้ 2 ชั่วโมงค่ะ พอดีแฟนเป็นคนไม่ชอบทานขิงมาก ก็เลยแยกตักน้ำแกงแล้วเอาขิงมาต้มต่างหากค่ะ เพราะถ้าใส่ขิงในหม้อตุ๋นเยอะ จะออกรสชมค่ะ พอผ่านไปสัก ชั่วโมงก็ลองเปิดชิมได้ค่ะ ทีนี้ก็แล้วแต่รสตามชอบค่ะ ครบสองชั่วโมงก็จะได้แกงฮังเลหน้าตาประมาณนี้ค่ะ เหมือนหมูจะเหนียว แต่นุ่มและเปื่อยกำลังดีค่ะ ส่วนตัวชอบทานคู่กับขนมปังปิ้งค่ะ อร่อยมาก ส่วนคุณแฟนก็ชอบทานมากค่ะ บางครั้งก็เอามะเขือเทศราชินี ถั่วลันเตาใส่เพิ่มไปอีก ซึ่งเขาบอกว่าจะเหมือนอาหารอินเดียชื่อ Mulligatawny soup ทานคู่ขนมปังปิ้งอร่อยค่ะ หรือไม่ก็ไปเก็บสารพัดผักริมรั้วมาเพิ่ม พร้อมใส่หน่อไม้ดอง ซึ่งทางเหนือจะเรียกว่า คั่วฮังเลค่ะ ผักซื้อที่ตลาดกองละ 5 บาทได้สารพัดผักเลยค่ะ หน้าตาของแกงคั่วฮังเล ก็แค่เอาแกงฮังเล มาสับให้ชิ้นเล็กลงแล้วผัดกับผักแล้วก็ปรุงรสตามชอบค่ะ แกงฮังเลยังสามารถดัดแปลงเป็นอาหารอื่นได้มีหลายเมนูค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน วิธีทำไม่ยากเลยใช่ใหมคะ ขอให้อร่อยกับเมนูนี้ค่ะ |
Lisa ssp
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?] |