ชื่อร้านริมคลองก็เพราะอยู่ริมคลองจริงๆ โต๊ะนั่งก็มีเป็นซุ้มๆ ให้เลือกนั่ง
มาดูเมนูกันคะ มีให้เลือกทั้ง ส้มตำ อาหารจานเดียว ต้มยำ และยำกับแกล้ม
ไหนๆ มาแล้วต้องชุดใหญ่ไฟกระพริบ มาถึงถิ่นต้องกินให้สะใจไม่มีถอย
เมนูแรก กุ้งแม่น้ำเผา เนื้อแน่นตัวใหญ่เสริฟ์พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด
บ้านเราเวลาจะกินกุ้งไม่ยาก สดไม่สดแม่จะเป็นตัวชี้วัดเพราะแม่แพ้กุ้งไม่สด ถึงแม้นางจะแพ้แต่นางก็ไม่เคยถอย
หยิบกุ้งกินก่อนใครทุกครั้ง!! จานนี้ 600 บาท
ต่อด้วย แกงส้มปลากระบอก แกงส้มรสจัดตามสไตล์อาหารใต้ ความเด็ดมันอยู่ที่ความสดของปลา
นานจะได้กินปลากระบอกสดๆ จานนี้ 200 บาท
เมนูต่อมาเจ้าถิ่นแนะนำว่าที่นี่ ปูอบวุ้นเส้น อร่อยมากและก็ไม่ผิดหวังมาจานใหญ่เลยทีเดียว 650 บาท
ต่อด้วย ต้มยำทะเล รสแซ่บอุดมไปด้วยปลาหมึก กุ้งและเนื้อปลาแน่นๆ จานนี้ 250 บาท
ด้วยความที่บ่นกับน้องชายว่า "อยากกินหอยนางรมตัวใหญ่ๆ" น้องท่านจัดมาชุดใหญ่ไฟกระพริบชนิดที่ว่า
เห็นถาดแล้วอาจอิ่มขึ้นมา ณ บัดดล แต่ถามว่าหมดไหม!! เรียบวุธ 750 บาท
ในหัวแห่งเมืองใต้เคยเล่าให้ฟังว่า กินหอยนางรมต้องกินสดๆ ตอนที่เซลล์มันยังไม่ตาย รสชาติมันจะหวานทานกับเครื่องเคียงกระถิน กระเทียม น้ำพริกเผา มันจะเข้ากันมากๆ ถ้าเป็นแถวกาญจนดิษฐ์เค้าจะมีซอสพริกให้มาด้วย เสียดายน้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่ยังไม่จัดจ้านไม่งั้นล่ะแจ่มเลย
เมนูต่อมา "ต้มหอยตลับ" หอยตลับที่พุมเรียงตัวใหญ่มาก ยิ่งนำมาปรุงตอนมันสดๆ จะเพิ่มความหวานของตัวหอย
พุมเรียงเนี่ยเป็นแหล่งหอยตลับเลย แต่ก่อนเล่นน้ำทะเลขุดๆ ไปก็เจอหอยตลับเลยล่ะ 120 บาท
คุณนายทองสุขผู้แพ้กุ้งแต่ไม่เคยยอมแพ้ ถึงขนาดถ้าอยากกินมากๆ จะกินยาแก้แพ้รอเลยเอากะเธอสิ
ด้วยความที่วันนี้จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบมาก เห็นส้มตำรอเสริฟ์ หืม!! น่ากินมาก
ที่นี่เค้าคัดสรรเรื่องวัตถุดิบเน้นสดตัวใหญ่ ดูจากปูที่คัดมาเนื้อแน่นไข่เพียบเลย
ภัทรานิตย์คุยกับเจ้าร้านเค้าบอกว่า ปลากระพงที่นี่เป็นปลาทะเลนะจ๊ะ ต้องสั่งไว้ก่อนไม่ใช่กระพงเลี้ยงนะ
ปลากระพงเลี้ยงกับกระพงทะเลเนื้อจะผิดกัน ปลากระพงทะเลตัวจะใหญ่เนื้อจะแน่นที่เห็นในรูปเนี่ยหลายกิโลนะ
ไม่แปลกใจเลยว่าเมนูปลาที่นี่ชิ้นใหญ่จัง ก็ดูปลาดิเค้าคัดแต่ตัวที่น้ำหนักเยอะๆ มาทำอาหาร กุ้งนี่เด้งๆ เลย
มื้อนี้เรามากันห้าคน จ่ายไปทั้งหมด 3,160 บาท ราคาก็ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณแถมของสดอร่อยด้วย
ใครผ่านมาไชยาลองแวะร้านนี้ดูค๊า
Photo and Story
By Patthanid C.