Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

วิ่งสู้ฟัดที่ฮ่องกง (วันที่ 1)

ฤกษ์ดียามดีจองตั๋วหางแดงได้ 0 บาท ถ่างตานอนตี 2 ติดๆกันอยู่ 3 คืน กว่าจะจองได้ อิอิ.. แต่แล้วก็ได้สมอารมณ์หมาย ถึงแม้ราคาที่จองจะต่างกันนิดหน่อยแต่ก็อะนะ ยิ่งช้ายิ่งแพง คราวหลังอยากไปไหนแจ้งความประสงค์กันไว้ก่อน ปุ๊ปปั๊ปมีโปร 0 บาทขึ้นมาจะได้ทันถ่วงที ไม่ต้องแบ่งกันไปคนละเที่ยวบินแบบนี้

ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า ทริปนี้จะมีมาม่าซังกับอีหนูไปฮ่องกงน๊า ไม่ใช่ห้องกรงด้วยกันทั้งหมด 1 นางกับ 5 นางสาว รวมแล้วเป็น 6 คน มาม่าซังก็คือ พี่เล็ก และอีหนูทั้ง 5 ประกอบไปด้วย ตุ้ม อุ๊ แอน พัต ดำ แต่ขายไม่ออกสักคนยังกลับมากันครบทุกคน ไม่มีตี๋ฮ่องกงหิ้วไปเลยแม้แต่คนเดียว ผิดหวังเจรงๆ

เริ่มเลยละกันพร้อมลุยไปกับพวกเราได้แร้ววววว

20 กันยายน 2550

ตื่นกันแต่เช้าตรู่ ตื่นเต้นจะได้ไปสุวรรณภูมิครั้งแรก อิอิ ตั้งแต่ย้ายมาสุวรรณภูมิ
กระเหรี่ยงอย่างพวกเรายังไม่เคยโกอินเตอร์กันเลยอะ ถ้าเป็นดอนเมืองน่ะรึ หลับตาเดินได้ คุยโวจริงๆ เลยเรา ขึ้น taxi ไปกัน แป๊ปเดียวก็ถึงสุวรรรณภูมิล่ะ



ถึงแร้นนนน



เข็นๆ ลากๆ กระเป๋ากัน นี่ๆ บอกว่าไม่ให้เอากระเป๋าใบใหญ่มา ทำไมไม่เชื่อกันบ้างหึ เด่วไม่ช่วยเข็นซะเลยนี่ ดูดิ ขนกันมาซะ จะไปอยู่สักปีหรือไง กร๊ากกกก ว่าตัวเองหรือว่าใครวะตรู



ไปเชคอินกันก่อนเลย กว่าแอร์เอเซียจะเปิดก็ปาเข้าไป 8 โมงกว่าแล้ว อุตส่าห์มาถึงก่อนไก่โห่ เหลือเวลาให้อยู่ใน Duty Free นิดเดียวเอง ดีนะที่ไปรางน้ำกันมาแล้วไม่งั้นนะจะหายใจไม่คล่องกันมากกว่านี้ แบบว่าผี้ช้อปเข้าสิง



คนเยอะยังกะหนอนเลย รอเช็คอินกันนานมั่กๆ โหลดกระเป๋ากันชักช้า คนบางคนกระเป๋าน้ำหนักเกือบเกินเลย ซ้ำเติมกันเข้าไป โสน้าหน้าเอามาเยอะทำไม

ไปแลกเงินกันดีกว่า เดินหากรุงไทยไม่เจอ พนักงานบางคนแถวนี้ใจไม่ดีที่นอกใจองค์กรมาแลกไทยพาณิชย์ เอาน่านะดำนะ แลกๆไปเถอะอั๊วเมื่อย จะเก็บแรงไว้วิ่งสู้ฟัดในภายภาคหน้า

อัตราแลกเปลี่ยนในดอลล่าร์ฮ่องกงในวันนี้ 4.50 แลกกันไป 7,000 $ HK จ๊ากกถ้าแลกไป 7,000 จริงๆ นี่สงสัยต้องกลับไปขายนา อิอิ ผืนน้อยกันไปก่อน แลกกันไปพอหอมปากหอมพอ มีบัตรเครดิตไปซะอย่าง หุหุ กลับมาค่อยใช้หนี้กัน มีแม่เลี้ยงรับรูดจะกลัวทำไม หึ..



ขึ้นไปหาไรกินกันก่อนที่จะผ่าน ต.ม. มองกลับไปข้างล่าง ไอหยาทำไมคนเยอะแบบนี้ พวกลื้อจะไปไหนก๊านนน



พร้อมใจกันเลือกร้านนี้ Black Canyon ด้วยเหตุผลคนน้อยดี หิวแล้วอีกอย่างจะรีบกินยาแก้อ้วกด้วย



สั่งเมนูสิ้นคิด แต่ราคาสิ้นเนื้อประดาตัว ทามมัยของแพงนี่มันอร่อยจังวะ







หลังจากกินอิ่มดาราหน้ากล้อง 2 คนนี้ก็พร้อมใจกันยิ้ม "สู้ตายค่ะ"



อ้าว! อีหนู 2 คนมัวยิ้ม มากรอกไอ้นี่กันก่อนเด่วก็โดน พี่ ต.ม. ดุ ไม่ให้ไปซะนี่



ขออีกสักนิดก่อนที่จะผ่าน ต.ม.ย่อมากจาก ตรูดหมึก





ผ่าน ต.ม. หน้าไม่ค่อยหล่อไปได้ด้วยดี ไอ้หมาดำบอกว่า ตัวเองเค้าถ่ายรูปดำไปด้วยหล่ะ แม่คู๊นนน เค้าก็ถ่ายเอาไว้เผื่อหนีไรมาจะได้ตามไปเชือดถูกไง กระเหรี่ยงเริ่มปล่อยมุขแล้วว้อยซ์ แต่ ต.ม.ไม่มีลูกอมให้หยิบเลยง่ะ

หลังจากผ่านมาแล้ว จากนั้นก็ระดมถ่ายรูปกัน แต่ไม่ได้ถ่ายกับพระยานาคหรือพระยาครุฑที่เค้านิยมถ่ายกันเลย เพราะไอ้ถ่ายรูปนี้แหละหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดให้ต้องระทึกใจกำลังจะเกิดขึ้น





หลังจากรับของจาก kingpower แล้วก็มุ่งหน้าไปที่ GATE กัน อิอิ ไม่อยากจะบอกว่าเดินเลย GATE อีก เริ่มส่อแววว่างานนี้พวกเราเริ่มหลงกันตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องเลย 555 แต่อันนี้มันยังจิ๊บจ๊อย เมื่อเทียบกับหันไปเห็นที่ป้าย GATE ว่า Final Call จ๊ากกกก..... ตรูจะได้ไปมั๊ยเนี่ย วิ่งกันให้จ้าละหวั่น คิดในใจว่าไม่ทันจะเกิดไรขึ้นฟร่ะ นี่คือเหตุการณ์วิ่งสู้ฟัดของเราครั้งที่ 1

อิอิ อุตส่าห์นัดหมายกับอีกทีมเป็นอย่างดีว่า ต้องไปเล่นเก้าอี้ดนตรีเพราะจองที่นั่งโดยต้องขึ้น Shuttel Bus คันแรกให้ได้ และต้องยืนริมประตูรถ พอรถจอดเราต้องรีบวิ่งไปแย่งที่นั่ง แต่ไหง..ยัยเปิ่น 3 คนขึ้นรถคันที่ 2 แถมเป็น 3 คนสุดท้ายอีกด้วย อายว่ะอาย

หางแดงลำนี้แหละที่พาเรามา



เพิ่งเคยขึ้นแอร์เอเซียเป็นครั้งแรก ขึ้นมาก็เห็นแบบนี้



เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดพี่เอย เสียงย่อมยอยศไกลทั่วหล้า ว่าเบาะแคบมากแต่คนตัวสั้นอย่างเรานั่งแล้ว ก็รับได้ค่ะ ไม่รู้จะบ่นไรกันหนักหนา เค้ามี Low cost ให้ขนาดนี้ให้เราได้มาเที่ยวกันมันก็ดีมากแล้ว ไม่เห็นจะแย่อย่างที่ถูกใส่ร้ายเลย (อะๆไม่ใช่พวกอดีตนายกนะ)





ซื้อน้ำดื่ม ขวดละ 30 บาท กินกัน 3 คน ราคาพอไหว ขนหน้าเข้งไม่ร่วง



บินแล้วจ้า เหิรฟ้าสู่มาเก๊าเมืองคาสิโน โน โน





แตะรันเวย์มาเก๊าแร้นนนจ้า เย้ๆ เราถึงมาเก๊าแล้ว ไม่อ้วกด้วยแหละ กัปตันแอร์เอเซียขับดีทำให้เราไม่อ้วก



รันเวย์มาเก๊ายื่นไปในทะเลสวยมากๆเลย



ลงเครื่องรีบหันไปถ่ายรูป มีเจ้าหน้าที่วิ่งมาห้ามไม่ให้ถ่าย เกือบแย่แล้วไหมล่ะ ดีนะแอร์ช่วยพูดให้ ไม่งั้นไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แหม.. ก็มันอยากถ่ายนี่ ทำเป็นดุไปได้

ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองมา หยิบลูกอมที่เค้าแจกมา 3 เม็ด ต.ม. ตรวจแล้วให้ผ่านมาง่ายดาย สงสัยหน้าตาเป็นหมวยอินเตอร์เค้าเลยให้เข้า หุ หุ

สนามบินมาเก๊า 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นผู้โดยสารขาเข้า ชั้นบนเป็นผู้โดยสารขาออก สนามบินไม่ใหญ่ แถมห้องน้ำไม่สะอาดด้วย แหวะๆ



เมื่อรับกระเป๋ากันเรียบร้อยแล้ว ก็ไปต่อแถวแลกเงิน "ปาตากาส์" ซึ่งเป็นเงินมาเก๊า อัตราอิงกับ $HK 1 เหรียญตอนนั้นเท่ากับ 4.5 บาท แลกกันนิดหน่อยเอาไว้เป็นค่ารถตอนอยู่มาเก๊า แต่จริงๆ แล้วเค้าก็รับเงินฮ่องกงอยู่เมียนกัล



พวกเราเรียก Taxi ไปท่าเรือ Ferry เพื่อที่จะข้ามไปฮ่องกง แต่ต้องไปรออีกกรุ๊ฟนึง เนื่องจากมาคนละไฟร์ท





ขณะนี้เราอยู่ที่เกาะไทปา กำลังจะข้ามไปฝั่งมาเก๊า Taxi มาเก๊า start ที่ 11 เหรียญ + ค่าระวางกระเป๋าอีกใบละ 3 เหรียญ ทั้งหมด 3 ใบ มิเตอร์ขึ้นที่ 48 เหรียญเพราะไม่ไกลมากนักระหว่างสนามบินไปท่าเรือ แต่คนขับ Taxi คิดเงินเราไป 63 เหรียญ พวกเราลองคิดตาม 48+9 = 57 เราก็เถียงแต่เค้าหยิบเงินจากมือเราไปเลย สรุปแล้วพวกเราโดนโกงไป 6 เหรียญ เจ็บใจๆ

3 สาวเริ่มหิวเนื่องจากมาถึงท่าเรือกันก็บ่าย 2 แล้ว เลยหาอะไรกินกันแถวๆท่าเรือ
ร้านนี้แหละใกล้และดูดีกว่าร้านอื่นๆหน่อย



สั่งอาหารกัน และต้องบริการตัวเองคือไปชี้ๆ และสั่งที่เคาท์เตอร์ เฉลียจานละ 22 เหรียญ

ถ้วยนี้ของนางมารร้ายสะพายปราด้าแม่สาย



จานนี้ของคุณหนูไฮโซเห่อลิงใหม่



และจานสุดท้ายของหนูแอน kiplingแท้ แต่ใกล้เน่า



กินกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เฮ้อ...รอดตายไปอีกมื้อ



ระหว่างที่พวกเรากำลังอิ่มหมีพลีมัน อีก 3 ชีวิตที่กำลังตามเรามา กำลังหลับอยู่บนเครื่องบิน หมั่นไส้นะยะ แหม ! ขนาดหลับยังสวย



เหลือเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงที่อีก 3 สาวจะมาถึง ด้วยความเสียสละที่มาถึงก่อนพวกเราเลยจำใจไปเที่ยวรอ และฝากกระเป๋ากันไว้ที่ท่าเรือ คนละ 10 เหรียญ แล้วเดินไปเที่ยวคาสิโนลอยน้ำและ Fisherman wharf ซึ่งไม่ไกลจากท่าเรือนัก

ระหว่างที่เดินไปนั้น ก็แวะถ่ายรูปกันไปตลอดทาง อะไรสวยไม่สวยก็ถ่ายดะ ถ้าเป็นกล้องฟิล์มแบบสมัยก่อนคงต้องหอบฟิล์มกันมาคนละ 10 ม้วน

คุณหนูสองคนถ่ายกับสะพานที่ข้ามไปฝั่งไทปา



คาสิโนลอยน้ำ แต่ตอนนี้ดูเหมือนยังไม่เปิดให้เข้าไปเล่น สงสัยเปิดค่ำๆ



เดินผ่านหน้าห้างเยาฮันไปเพื่อจะข้ามไปอีกฝั่ง เมื่อข้ามถนนมาเดินไปอีกนิดก็จะเห็นท่าเรือ และเรือที่กำลังจะข้ามไปฮ่องกง



และนี่คือภูเขาไฟจำลอง ใกล้ๆกับ Fisherman wharf







ข้างหลังรูปเป็น Fisherman wharf ซึ่งก็คือเมืองจำลองแบบจีน และมีภูเขาไฟ เจ้าของคนเดียวกับคาสิโนลอยน้ำ





ต้องเสียค่าเข้าชมเพื่อไปดูลาวาปะทุ แต่พวกเราไม่มีเวลาพอเนื่องจากต้องรีบข้ามไปฝั่งฮ่องกง



บริเวณด้านหน้ามีสวนสนุกเล็กๆ ให้เล่น วัย teen อย่างอะฮั้นเลยขอซัก รู







ขอเดี่ยวสักรูปกับตัวหนังสือจีนๆ เด่วไม่มีใครเชื่อว่ามาถึงแล้วเน้อ



ถึงเวลานัดแล้วต้องรีบกลับไปท่าเรือเฟอร์รี่ ระหว่างทางขออีกสักรูปกับสะพานข้ามเกาะสวยๆ แห่งนี้



หิวน้ำมั๊ยก๊ะ มาดื่มน้ำกัน หยอดๆ กดๆ ก็ได้น้ำมากิน ชื่นจ๊ายชื่นจาย



เย้ ๆ เพื่อนๆ มาแล้วเตรียมตัวไปกันได้ เพราะต้องรีบไปก่อนรอบ 5 โมง มิเช่นนั้นค่าเรือจะขึ้นราคา จาก 152 เป็น 172 เหรียญ ตุ้มรีบไปซื้อตั๋ว ส่วนพวกเราก็รีบวิ่งไปต่อแถวเพื่อตรวจคนเข้าเมือง คนข้ามไปฝั่งฮ่องกงกันเยอะมาก และก็เกิดเหตุการณ์ให้เรา "วิ่งสู้ฟัด" ครั้งที่ 2 อีกจนได้ เนื่องจากว่า รอบ 5 โมงเย็นเต็ม ทำให้เราถูกตัดให้ไปขึ้นรอบถัดไป วิ่งกันหางจุกตรูดเนื่องจากกลัวว่าจะโดนให้ซื้อตั๋วใหม่ แต่แล้วเจ้าหน้าที่ของ Turbojet ก็ยังใจดีให้พวกเราไปอีกรอบได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนตั๋ว เฮ้อ...โล่งอก

ขึ้นเรือกันแล้วจ้า





มีขายสินค้าบนเรือ ราคาพอๆกับแอร์เอเซียเลยง่ะ



บรรยากาศภายนอกเรือ ฝนตกปรอยๆ



ระหว่างที่อยู่บนเรือพนักงานบนเรือแจกให้กรอกข้อมูลเพื่อใช้ตรวจคนเข้าเมือง ประมาณ 50 นาทีก็ถึงเกาะฮ่องกง ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองกันเรียบร้อยแล้วก็รีบหาทางลงไปรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ละคนต้องรับผิดชอบกระเป๋าของตัวเอง บอกแล้วว่าอย่าเอามาเยอะ สมน้ำหน้า........กะลาหัวเจาะ



สายตาสอดส่ายหาสัญลักษณ์ MTR



นี่ๆ เจอแล้ว ตามเจ๊มา เจ๊สั่งลุย



การเดินทางด้วย MTR ถ้ามีบัตร Octopus หรือที่เราเรียกกันว่าบัตรปลาหมึกก็จะสะดวกมากๆ เพราะสามารถขึ้นได้ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ รถราง และเรือ รวมทั้งซื้อของใน 7-11 ได้ด้วย พวกเราซื้อกันคนละใบ ใบละ 150 เหรียญ ตอนนี้กำลังเข้าแถวซื้อบัตรปลาหมึก



เจ๊ของเรากำลังใช้บัตรปลาหมึก แค่ตบๆ ก็เข้ามาได้แร้วววว ช่างง่ายดายเสียนี่กระไร



ขณะนี้พวกเราอยู่ที่สถานี Sheung wan และต้องไปเปลี่ยนสถานีที่ Admiralty เพื่อมุ่งหน้าสู่ สถานี Prince Edword



บรรยากาศบนรถไฟฟ้ากับใบหน้ามันๆของนักท่องเที่ยว



แล้วเราก็เดินทางมาถึงโรงแรมที่จองเอาไว้ Metropark Mongkok สถานี Prince Edward ทางออก C2 เป็นโรงแรม 3 ดาวราคาคืนละ 2,260 บาท ไม่มีอาหารเช้า ห้องสะอาดได้มาตราฐานของฮ่องกง และห้องไม่แคบเหมือนโรงแรมอื่นๆด้วย





มีทีวี ตู้เย็น ไดร์ฟเป่าผม รองเท้า ตู้เสื้อผ้าพร้อมไม้แขวนเสื้อ เหมือนโรงแรม 3-4 ดาวทั่วๆ ไป ผ้าขนหนูสะอาดไม่มีกลิ่น



อุปกรณ์อาบน้ำครบสรรพ



ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำพร้อม shower น้ำไหลแรงและสะอาดมาก



เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตากันพอหายเหนื่อย พวกเราก็ต้องรีบ "วิ่งสู้ฟัด" ครั้งที่ 3 เพื่อไปชม SOL กันที่ Avenue of star ให้ทันเวลา 20.00 น. โดยนั่ง MTR ไปลงสถานี Tsim sha Tsui Exit F เพื่อไปโผล่ที่ห้าง New World



และการแสดงไฟระหว่างฝั่งฮ่องกงกับฝั่งเกาลูน ที่อ่าววิคตอเรียก็เริ่มขึ้น สวยงามและเป็นอีก 1 ไฮไลท์ที่มาถึงฮ่องกงแล้วไม่ควรพลาด







Avenue of star จะมีรอยฝ่ามือของดาราฮ่องกง เช่น เฉินหลงพระเอกจอมบู๊ และของดาราดังของฮ่องกงอีกหลายคน จารึกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ประทับรอย











พอจบการแสดงฝนก็ตกลงมานิดหน่อย เหมือนเป็นใจให้เราดูจนจบและถ่ายรูปกันจนเป็นที่พอใจ ทุกคนหิวท้องแขวนกันแล้ว จึงเดินเลาะริมถนนไปทางท่าเรือเฟอร์รี่ แล้วเลี้ยวไปทาง Ocean Terminal และ Harbour City



เดินตามหาภัตตาคารชื่อดัง ที่เซียนฮ่องกงแนะนำ ว่ามาฮ่องกงต้องขอให้ได้กินสักมื้อเถิด จะเกิดผล ร้านที่ว่านี้คือ แต่น แต๊น แตน



ภัตตาคารอาหารจีน มีชื่อเสียงเรื่องขนมหวาน อาหารรสเลิศ ราคาก็สูงแต่ทัวร์ 4 ดาวอย่างพวกเรามีรึจะพลาด ตามพวกเราเข้ามาข้างในเลยนะก๊ะ



ภายในร้านตกแต่งสวยงาม แอร์เย็นกำลังพอดี โต๊ะแทบจะไม่ว่างเลย และที่สำคัญร้านสะอาด ชักช้าอยู่ใย...ดูเมนูแล้วก็สั่งอาหารกันดีกว่า

จานแรกยอดผักราดน้ำมันหอยรึป่าวมิแน่ใจว่าเค้าเรียกว่าอะไรแต่รสชาดเค็มได้ใจผักอ่อนนุ่ม



ไก่อบ ตั้งใจสั่งเป็ดแต่ไหงได้ไก่ 555 ถึงแม้จะสั่งผิดแต่ไงก็หมดอยู่ดีเพราะหิวกันจนตาลาย



ไข่ผัดกุ้ง จานนี้ดูสีจืดๆ แต่อร่อยมาก



ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง จานนี้สุดยอด ตุ้มศรีบอกว่ากินแล้วมันละลายเองในปาก ก๋วยเตี๋ยวอ่อนนุ่ม อร่อยจริงๆ



ต่อไปเป็นขนม ในเมนูจะติดดาวไว้เลยว่าเป็นอาหารแนะนำ ก็คือ พุดดิ้งมะม่วง



และสีสวยๆ ถ้วยนี้ก็อร่อยไม่แพ้พุดดิ้งมะม่วงเลย



แต่ละคนสีหน้ามีความสุขกับการกิน



เนื่องจากราคาแพงเลยสั่งมาแบ่งๆกันกิน แต่พวกเราก็อิ้มแปร้คิดค่าบาดเจ็บก็ 317 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยก็เอา 4.5 คูณ เป็นเงิน 1,426.50 บาท

อิ่มจังตังค์อยู่ครบ เพราะคนนี้เลี้ยง เย้ๆ



บ๊าย บาย Sweet Dynasty แล้วจะกลับมาอีก ถ้ามีโอกาสได้มา



จุดหมายต่อไปของเราก็จะมุ่งหน้าสู่ Temple Street บรรยากาศเริ่มคึกคักเนื่องจากจะได้ช้อปกันแร้วววววว

ระหว่างเดินไปขึ้น MTR ก็เจอกับบันไดเล่นไฟแบบนี้ สวยดีเมืองไทยไม่มีดำขอสักหน่อย



เราไปโผล่ที่สถานี Jordan ทางออก A เดินไปอีกนิดเดียวก็จะพบกับตลาดนัดกลางคืน temple street นั่นเอง จะขายของจีนๆส่วนใหญ่เน้นเป็นของที่ระลึก ตลาดนี้จะคล้ายๆ ไนท์บาซาร์เชียงใหม่



มีร้านขายนาฬิกาเยอะแยะไปหมด แต่คุณภาพต้องพินิจพิเคราะห์กันเอาเอง









ต่อราคาพวงกุญแจกันใหญ่ อี้เตี่ยน เขยอี่ มา 555 ต่อราคาจ่ายตังค์แล้วก็หิ้วถุงตูดรั่ว กลับไปเน้อดำเน้อ อิอิ ขำว่ะขำ สโลแกนทริปนี้ " เปิ่น หลง ของหาย"



เที่ยงคืนแล้ว หอบหิ้วกันพอเป็นพิธี บางคนได้พวงกุญแจ ได้ปลั๊กไฟ ที่รองแก้ว กระเป๋า ของฝากเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้เวลาต้องกลับไปซุกศรีษะนอนกันล่ะ

ซ่าส์ไม่เลือกแม้กระทั่งในสถานีรถไฟฟ้า พวกวัยไสเอ้ย....



ฮิ้ววววววววววว พวกวัยไสหมดสภาพ หมดแรงจะเดิน เหอๆๆๆ



ถึงแล้ว Prince Edward อิอิ ตะวันไม่ตกดิน มีเรอะพนักงานโรงแรมจะเห็นศรีษะพวกเรา ก่อนเข้าโรงแรม รีบเข้า 7-11 ซื้อน้ำเปล่าเย็นๆ ไปดื่มกัน ชิๆ โรงแรมให้ไม่พอกิน ต้องหอบหิ้วกันเข้าไป แล้วแต่ละคนก็อาบน้ำอาบท่า นอนหลับสลบปางตาย เพื่อจะได้ตื่นมารับศึกต่อกับ tomorow กันต่อไป







 

Create Date : 10 กันยายน 2550
2 comments
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 22:59:05 น.
Counter : 3130 Pageviews.

 

ว้าๆ รีไซส์รูปแล้ว หน้าสวยๆมันย่นๆ ปรือๆ ไงไม่รู้

รู้งี้ตั้งพิกเซลน้อยๆดีกั่ว

 

โดย: p_pat_p 12 กันยายน 2550 18:19:27 น.  

 

นี่แค่วันแรกนะเนี้ย ดูทรหดกันเหลือเกิน แล้วจะคอยดูวันต่อๆ ไปนะจ๊ะ เยี่ยมไปเล้ย.......

 

โดย: Ann IP: 203.170.231.232 13 กันยายน 2550 9:02:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.