หลบร้อนไปหลีเป๊ะ

ทริปนี้เป็นทริปด่วน ไม่ได้แพลนไว้เลยว่าจะไปเที่ยวหลีเป๊ะ อยู่ๆ เพื่อนร่วมทริปก็บอกว่าอยากไป อะ ไปก้ไป ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการข้อมูลจากเวปต่างๆ จุดท้ายเราก็จบด้วยเวป Eazylipe หาคำตอบให้เราได้ครบหลังจากจองทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงวันก็เดินทางกันเลย



ออกเดินทางจากสายใต้ใหม่วันที่ 2 ธค.53 เวลา 18.30 จากกรุงเทพ สู่ ละงู (เดินทางนานมากๆอยากประหยัดก็งี้แหละ) ถึงละงูเวลา 8.30 ลงรถทัวร์แล้วหาข้าวกินก่อน แล้วนั่งรถสองแถวไปท่าเรือปากบารา



พอถึงท่าเรือแล้ว ไปรับตั๋วขึ้นเรือ ไป - กลับ กันเลย เรือขาไปออกเวลา 11.00 ขากลับ เราเลือกเวลา 9.30 ได้เวลาขึ้นเรือแล้ว เราจะพาเราแวะที่เกาะตะรุเตาก่อน ประมาณ 20 นาที เพื่อที่จะถ่ายรูปและจ่ายค่าเข้าอุทยาน (แต่บางคนก็ไม่ยอมจ่าย)



บรรยากาศบริเวณเกาะตะรุเตา



ออกจากเกาะตะรุเตาแล้ว พาแวะอีก 1 เกาะ คือเกาะไข่ เกาะนี้ จุดหมายของเราคือซุ้มประตูเกาะไข่ เราจึงรีบลงเรือแล้ววิ่งมาก่อนเลย จะได้ไม่มีคน 5 5 5



เค้าบอกกันว่าถ้ารอดซุ้มนี้กับใครจะได้แต่งงานกับคนนั้น ไม่รู้จริงหรือเปล่า เดี๋ยวรอดูเพื่อนร่วมทริป



ออกจากเกาะไข่ นั่งเรือมาพักนึง ก็ถึงแล้ว เกาะหลีเป๊ะ จุดหมายปลายทางของเรา ที่เกาะหลีเป๊ะจะไม่มีท่าเทียบเรือ เราเลยต้องลงจากเรือแล้วไปต่อเรือหางยาวของชาวบ้านที่โป๊ะเพื่อขึ้นเกาะ

น้ำใสไหม ระหว่างยืนรอเรือ



เสียค่าเรือคนล่ะ 50 บาท ก็ถึงแล้วหลีเป๊ะ



เดินหาโรงแรมกันเลย เลือกพักที่ Ricci house เป็นที่พักอยู่กลางเกาะเลย และค่อนข้างใหม่ทีเดียว (จริงๆนะ ที่พักชายหาดเต็มหมดแล้ว คิดช้าก็งี้แหละ)




เก็บของเสร็จหาข้าวกินกันดีกว่า ลืมบอกไปว่าเราถึงเกาะเวลา บ่าย 2 กว่าๆ

มื้อแรกบนเกาะเราฝากท้องที่รีสอร์ทเลย อร่อยมากๆ



หลังจากอิ่มแล้ว เดินสำรวจเกาะกันดีกว่า ตรงที่เราพัก สามารถเดินไปได้หลายหาดเลย เราเลยตัดสินใจไปหาดชาวเลก่อน เพราะว่าพี่ที่จะไปดำน้ำพรุ่งนี้ นัดเราไว้แถวโรงเรียน เลยเดินไปสำรวจก่อน

หาดชาวเล เงียบมากๆ คนไม่เยอะเหมือนหาดพัทยา (หาดพัทยาเรือจะจอดส่งนักท่องเที่ยวที่หาดนี้ เรือจะเยอะ เล่นน้ำลำบาก) ถ้าชอบเงียบๆ แนะนำหาดนี้เลย

เดินไปเดินมาก็ถึงที่พักที่ คนในพันทิพ ชอบมาพักกันคือ Mountain Resort รีสอทร์ริมหน้าผา วิวสวยทีเดียว



วิวจากห้องอาหารของ mountain



ริ่มเย็นล่ะ ไปหาโรตีกินดีกว่า มีคนบอกว่ามาที่นี้อย่าลืมมากินโรตีนะ

จัดมาเลย 2 อย่าง น้ำคนล่ะแก้ว ค่าเสียหาย 400 กว่าบาท (แพงจัง)



ถ้าถามว่าอร่อยไหม ก็ใช้ได้แหละ เพียงแต่ว่าไส้มันหวานไปหน่อย จริงๆม้นอยูที่เราเลือกด้วยนะ แต่ว่าไส้มันเยอะมากเลย เลือกไม่ค่อยถูก เลยได้หวานมาทั้ง 2 อย่างเลย สรุปว่าชิมความแปลก และเข้าใจว่าเกาะมันไกล ของมันเลย เค้าขนของมาลำบาก

กลับที่พัก เตรียมดำน้ำพรุ่งนี้ดีกว่า

วันรุ่งขึ้นจากที่นัดเจอกันว่า จะไปเจอดที่หาดชาวเล ต้องเปลี่ยนเพราะว่าคลื่นแรงมากเรือเข้าไม่ได้ พี่เค้าเลยมารับเราที่หาดพัทยาแทน ตอนขึ้นเรือพี่เค้าบอกว่าวันนี้คลื่นแรงนะ ไม่รู้จะดำได้แค่ไหน แต่เค้าพยายามพาเราไปให้ได้ตามที่เราตกลงกันไว้

อันนี้เป็นหาดหินงาม มีหินทั้งหาดเลย พี่เอกคนเรือบอกว่าให้เอาหินเรียงซ้อนกัน 13 ก้อน แล้วไม่ล้มให้อธิฐาน จะสมหวัง ลองซะหน่อย มาแล้วนี่

กองนี้ของใครไม่รู้ สูงมากๆ



อันนี้ของเราเองเสร็จแล้ว คนแรกเลย



หินบนหาดนี้ เวลาโดนน้ำแล้วจะสวยมากๆ จะเงาและมีลายสวยมากๆ



แต่ถ้าใครคิดจะหยิบติดมือเป็นของที่ระลึกล่ะก็ อย่าลืมอ่านป้ายก่อนนะ



หลังจากนั้นดำน้ำอีกหลายจุด แต่จุดที่อยากดำที่สุดคือ ร่องน้ำจาบัง แต่ด้วยความที่เป็นร่องน้ำ ให้คลื่นแรงตลอดเวลาเวลาดำน้ำเลยต้องจับเชือกอยู่ตลอดเวลา แต่วันที่ไปดำไม่ค่อยมีแดดเลยทำให้เห็นปะการัง 7 สี ได้แค่สีเดียวเสียดายจัง

เกาะสุดท้ายที่มากันเป็นเกาะอาดังน้ำใสสุดๆ มาเกาะนี้เพื่อนที่จะขึ้นผาชะโด



ผาชะโดมีจุดชมวิว 3 จุด ทางขึ้นก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ และบางช่วงก็ชันเลยต้องระวังนิดนึง

วิวจาก จุดแรก



จากชุดแรกไปชุดที่ 2 ประมาณ 15 นาที

ขึ้นมาแล้วเห็นเกาะหลีเป๊ะเต็มๆเลย



ขึ้นได้แค่นี้เพราะเพื่อนร่วมทริปหมดแรงแล้ว เลยเดินลงเพื่อที่จะกลับเกาะหลีเป๊ะกัน

จากเกาะอาดังมาหลีเป๊ะ ไม่ไกล แต่คลื่นแรง เหมือนนั่งรถไฟเหาะ 5 5 5 พี่เอกคนเรือบอกว่าเล่นเอาเหนื่อยเลย

ถึงรีสอร์ท 5 โมงได้ จัดการตัวเองเรียบร้อย เตรียมมาทานมื้อเย็นกัน เย็นนี้ก็ฝากท้องกับที่รีสอร์ทอีกแล้ว มื้อนี้หมดไป 1000 บาท

(อาหารทะเลที่นี่ค่อนข้างแพงถ้าอดใจไหว ไปทานที่ฝั่งบากปาราดีกว่า)




วันนี้ต้องกลับแล้ว มาขึ้นเรือที่เวลา 9.30 เพื่อไปปากบารา ไปล่องแก่งต่อ ก่อนที่จะไป หาดใหญ่กัน

ทางรีสอร์ทวังแว่นเอารถมารับ

บรรยากาศรีสอร์ท



กินข้าวกันก่อน จริงๆมีกับข้าวมากกว่านี้อีกแต่ถ่ายรูปไม่ทันแล้ว อร่อยทุกอย่าง กุ้งเยอะมาก



หลังจากอิ่มแล้ว เปลี่ยนชุดเตรียมล่องแก่งกันเลย

น้ำที่นี่ไม่ค่อยลึก อาจจะมีลึกสุดๆ บางจุด แต่ถ้าใครพายเรือคายัคไม่เป็นก็มีเจ้าหน้าที่พายให้ แบบเรานี่ไง



ไปกันเลย



เวลาล่องแก่งทั้งหมดประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ก็กลับรีสอร์ทเปลี่ยนชุด เดินทางไปหาดใหญ่กันต่อ ทริปหลีเป๊ะก็จบด้วยความสนุกสนาน หวังว่าถ้ามีโอกาสเราคงจะได้มากันอีก

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2554		3 comments
Last Update : 5 พฤษภาคม 2554 20:08:42 น.
Counter : 7280 Pageviews.
Share Tweet