Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
เกาหลีในสายลมหนาว ภาคปัจฉิมบท

15-16 Jan 2011


เมื่อคืนแต่งตัวเก้อจะออกไปเที่ยวทงเดมุน ให้โรงแรมเรียกรถ Taxi ให้แต่เรียกให้เฉพาะคันสีดำ ซึ่งเราก็รู้ว่ามันแพง เลยไม่ไปกลัวโดนเชือดนิ่มๆ

ออกมาเมียงๆ มองๆ ที่ถนน ก็เห็นTaxi คันสีแดงนะ แต่นึกภาพแล้วต้องเรียก 2 คัน เราจะพลัดพรากจากกัน เลยทำเป็นตีงงก่งก๊งชวนกลับไปนอนดีกว่าเพื่อความปลอดภัย เดี๋ยวจะหลงหากันไม่เจอ เดินหาจนปอดบวมหนาวตายซะก่อน แค่นี้ก็บวมจนต้องใส่คัพ C-D แว้ว

ชาร์ตแบตจนเต็ม นอนหลับสนิท กินอิ่ม ถ่ายออก หน้าสวยๆเริ่มปรากฏ



วันนี้เราจะเริ่มเที่ยวแบบโลโซ จากที่ไฮโซมาแล้วสองวัน เดินออกมาจากที่พักเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า



เดินไปแบบเฉื่อยๆ เรื่อยๆมาเรียงๆ แวะชมนกชมไม้ แต่ทำไมหนาวแบบนี้ เมื่อวานหนาวจนไส้ติ่งจะแตก วันนี้หนาวจนสะดือหดเหลือ 2 มิล



กว่าจะเจอสถานีรถไฟฟ้า เล่นเอาวัยชราหย่อนยาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาดี ได้คะแนนเต็ม 10 วันนี้มลายหายไปกับตา เพียงเพราะว่าพาเดินไกล 555

Attention please !! โปรดจงจำไว้ พัตพาทัวร์ เดินมั่วเป็นสิบโล

นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีเคียงบ็อกคุง



แต่ละสถานี นางในแห่งห้องเครื่องทั้ง 3 คนต้องวิ่งหาลิฟท์ให้ฮันซังกุงขึ้น เพราะฮันซังกุงเดินมาไกลจะลากขาขึ้นบันไดไม่ไหวแล้ว แต่ยังยิ้มสู้ๆ



โผล่ขึ้นมาบนถนน ก็เห็นกำแพงพระราชวังเคียงบ็อกคุง อิอิ ...พามาด้านข้าง กรุ๊ปนี้เลยไม่เห็นนกฟีนิกส์ด้านประตูทางเข้าด้านหน้าเหมือนทัวร์อื่นๆ เริ่ดกว่าทุกทัวร์ มั่วกว่าเห็นๆ

แต่มาทันเวลานะสิบอกให้ ทหารกำลังเปลี่ยนเวรยามพอดี





ให้เงินย้ยอ้อไปซื้อตั๋วคนละ 3000 วอน แกต้องหัดช่วยหัวหน้าทัวร์บ้างไรบ้าง ทริปนี้สะมะแอไม่มาทำหน้าที่ หัวหน้าทัวร์เปล่าเปลี่ยวจริงหนอหัวใจ



ครั้งที่ 2 ของเรากับดำที่ได้มาเยือนพระราชวังเคียงบ็อกคุง แต่ครั้งแรกของอีก 5 คนที่มาด้วย







อยู่ๆก็เหมือนคิวปิดมาแผลงศร ใจเต้นแรงซะงั้น เห็นชายหนุ่มรูปงาม เดินถ่ายรูปอยู่อยากจะเข้าไปช่วยถ่ายให้ มาคนเดียวคงจะเหงามิใช่น้อย อยากไปเดินเป็นเพื่อนจังฮู้

สะมะองสะมะแอที่นึกถึงอยู่เมื่อกี้พี่จะไปจุติก่อนก็ได้นะ เค้าอนุญาต++

"เมื่อเธอโปรยยิ้ม ยิ้มมาให้ฉัน ดุจดวงตะวันสีทองส่องใจ
ดวงตาเธอนั้นช่างมีความหมาย ตรึงใจไม่หายยามเธอยิ้มมา"



จูงมือมี้อยู่ดีๆ รีบพาไปนั่งแล้วบอกว่า

"มี้ขา....มี้เมื่อยไหมคะ มี้น่ารัก มี้คนสวย มี้แสนดี มานั่งนี่นะๆ อยู่ตรงนี้นะๆ" แล้วก็เผ่นแน้บ ตามชายหนุ่มรูปงามคนนั้นไป



ยู้ฮู ตัวเองๆ สนใจเค้าหน่อยได้มั๊ย ดูดิ แต่งตัวก็คล้ายกัน ชอบสีดำเหมือนกัน หล่อ สวยเหมือนกัน อุ้ย...เค้า เขินนะตัวเอง



ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก เช๊อะ...สงสัยจะเป็นเกย์ เห็นสาวงามแล้วไม่สน



เดินตามจนเมื่อย ไม่มีสนจงสนใจเรา แหวะ...มองใกล้ๆไม่เห็นจะหล่อเท่าไหร่เล้ย สู้สะมะแอตัวดำที่อยู่บ้านก็ไม่ได้ ไปเดินเล่นตามประสาสาวงามจิตใจห่อเหี่ยวแบบเงียบๆคนเดียว



คนสวยมักเหงาและหนาวบนคานทอง แต่เราคลานลงคานมาหลายปีแล้วก็คล้ายว่าจะดีขึ้น หรือยังไงหว่า เอ..จะปีนกลับขึ้นไปให้เหงาเหมือนเดิมจะท้นไหม





มาเที่ยวพระราชวังไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์อะไรของเค้าเลยง่ะ อยากรู้ก็หาอ่านเองนะท่านผู้ชม ประวัติศาสตร์ชาติไทยยังไม่ซึมลึกเล้ย เกาหลงเกาหลีอย่าไปฝันแค่รู้จักดงอี กับ แดจังกึม รู้จักราชวงศ์โชซอนนี่ก็เก๋แย้ว



เอาเป็นว่ารู้ประมาณนี้พอมั๊ย "พิพิธภัณท์พื้นบ้านและพระราชวังเคียงบ๊อกคุง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 สมัยราชวงศ์โซซอน เป็นศูนย์บัญชาการและที่ประทับของกษัตริย์เมื่อสมัย 600ปีก่อน มีท้องพระโรง พลับพลากลางน้ำ

ภายในพระราชวังบริเวณด้านหน้ามีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จำลองชีวิตความเป็นอยู่ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของชนชาติเกาหลีในอดีต มีทำเนียบและบ้านประธานาธิบดีคนปัจจุบันด้วยนะ จะเดินผ่านก็อย่าลืมชะเง้อมองดูล่ะ

แต่ทะแว้ เราไม่ได้เดินไปเฉียดส่วนหน้าเลย มาโผล่ด้านข้างแล้วก็เข้าวัง ก็พวกเราเป็นซังกุง และซังกุงสูงสุดกันหมดแล้ว ไม่ต้องไปอยูหน้าวังแระ อิ อิ เกี่ยวกันมั๊ย



ตัวหนังสือเกาหลี อ่านว่าอะไร แปลว่าอะไรโปรดอย่าได้ถาม







อ้าว..อ้อ แกมานั่งทำซีรีย์อะไรอยู่ที่นี่ ฉันอกหักว่ะโดนปฏิเสธรัก คืนนี้เราไปหาเชจูย้อมใจกันดีกว่า



แต่เชจูกระแทกปากแกคนเดียวนะเว้ย อย่างฉันน่ะมันต้องนมกล้วย



ฉันคงเสียใจนานไม่ได้ชั้นยังมีแม่ที่ต้องดูแลอ่ะ คนอกหักเดินเตะหิน เตะกำแพงไม่ผิดใช่มั๊ยแกร



คนอื่น เค้าไปมั่ว งง หลงทิศที่ไหนกันบ้างฟร่ะเนี่ย ฉันนี่สมควรได้โล่ห์ไกด์ดีเด่นชิมิ แบบว่าปล่อยให้เที่ยวกันเองไม่ชอบบังคับให้ใครเดินตามอ่ะ ใครใคร่หลง หลง ใครใคร่หิว หิว ป้าเทียนยังต้องเดินเที่ยวคนเดียวเลยอะ 555



พี่เก่งก็เที่ยวเอง ดูเองนะพี่นะ ฝากดูแลไอ้ดำด้วยละกันพี่



กลับไปซบอกหมี่มี้ก็ได้ มี้... หนูอกหัก กระซิกๆ เช็ดน้ำลาย เอ้ย...น้ำตาให้หนูหน่อย



หนูน่ะ หนีไปไหนมานานสองนาน มี้นั่งตากแดดร้อนหน้าฝ้าจะขึ้น หนาวก็หนาวจนน้ำมูกไหลแสบจมูกไปหมดแล้ว น้ำตงน้ำตาไม่ต้องเช็ดละ เช็ดน้ำมูกก่อนละกัน เจี๊ยกกกกกกก....มี้ปลอบได้ซึ้งมาก



สองแม่ลูกเดินจูงมือพากันเดินไป วันนี้เราไม่มีสามีมาถือกระเป๋าให้ด้วยกันทั้งคู่ ไม่มีใครดูแลเรา เราต้องดูแลกันและกัน อยากมีกิ๊กบ้างไรบ้างก็ไม่ได้ เซร็งๆๆ แต่มี้เดินดีๆนะเดี๋ยวจะหกล้ม เมื่อยมากไหมคะคืนนี้หนูจะนวดให้



ทิ้งมี้ไปเที่ยวคนเดียว มี้ยังไม่มีรูปเลยนะ ทริปนี้เนี่ยเราจะโดนไม่ใช่น้อย ไม่รู้หน้าที่เล้ย มี้น่ะต้องมีรูปประมาณ 500 รูปต่อทริป





ใครๆก็ไม่รัก จะโดดน้ำตายดีมั๊ย แต่อย่าดีกว่ากลัวได้ไปเกิดเป็นซังกุงฝ่ายปกครองต้องเดินตรวจยาม ชาตินี้ได้เป็นจังกึม อึ่มๆบะล่ะฮึ่มน่ะดีแล้ว



แต่ละคนเมื่อยจนขาจะหลุด หิวด้วย แต่มากะพัตพาทัวร์ต้องอดทน อีกนีสสสสเดียวจะถึงสถานีรถไฟใต้ดินแล้ว ระหว่างทางสนทนากันไปเรื่อยๆ

"พี่สุๆ สามีไม่มาด้วยนี่ดีไหม"
"ดีนะ ไม่ต้องดูแลใคร สบายๆ"
"ว๊ายยย ดีเหรอพี่ หนูเหงาอ่ะ ไม่มีใครทะเลาะด้วย แต่จะว่าสบายก็สบายเนาะพี่เนาะ"



ช่างเป็นทัวร์ที่พากันเดินได้น่าสงสารมว๊าก คิกๆ ทัวร์ 7 ดาว



เดินไปจนถึงถนนวัฒนธรรมอินซาดงใกล้ๆ โรงแรม วันนี้เป็นวันอาทิตย์มีของมาขายมากมาย น่ารักๆ ก็หลายอย่าง แต่ตอนนี้พวกเราหิวมาก หาอะไรใส่ท้องก่อนดีกว่า









มีเวลาอีกไม่มากจะต้องไปรับกระเป๋าที่โรงแรม เพื่อเดินทางไปเมียงดง ซึ่งคืนนี้เราจะพักกันที่ Ibis Myeongdong

เหมา taxi คันใหญ่ให้ไปส่งเราที่ Ibis พอเช็คอินเสร็จพวกเรารีบออกมาช้อปปิ้ง ได้เครื่องสำอางค์ skinfood ขนมมาฝากเพื่อนๆ เด็กๆนิดหน่อย



Ibis เป็นที่พักที่ทำเลสุดยอดมาก โผล่หน้าออกจากประตูก็คือแหล่งช้อปปิ้งเมียงดงเลย แต่เป็นโรงแรมที่ห้องเล็กมาก น้ำดื่มสักขวดก็ไม่มีให้แต่แพงโคตรคืนละ 5000 บาท up

มื้อเย็นเรากินกันตามมีตามเกิด ใครอยากกินอะไรก็จัดการตัวเอง บ้างกินซาลาเปา บ้างกินปลาหมีกปิ้ง ข้าวปั้น หมูจุ่มซอสประมาณนี้



ตอน 2 ทุ่ม เราจองตั๋วดู Nanta Show สับ หั่น มัน ซ่าส์ ฮา ตะหลิว ปลิว ไว้ การแสดงที่ไม่ใช้คำพูด ผสมผสานดนตรีตั้งเดิมของเกาหลีกับแสง สี เสียง โดยใช้นักแสดงระดับมืออาชีพ ดำเนินเรื่องราวต่างๆ เป็นโชว์แรกของเอเชียที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนละครที่ บอร์ดเวย์ ประเทศนิวยอร์คมาแล้ว ค่าเข้าชมคนละ 40000 วอน จองจากทางเวบมาล่วงหน้าได้ส่วนลดนิดหน่อย



การแสดงใช้คนอยู่ 5 คน แต่ก็แสดงได้เก่งและฮามาก



โชว์จบพามี้ไปส่งที่ห้องพัก แล้วเรา 4 คน พี่เก่ง ดำ และอ้อ โบก Taxi ไปซื้อของกันที่ดงเดมุน ได้เสื้อผ้ามา 2-3 ชุด อากาศหนาวมากๆๆ ยิ่งดึกยิ่งหนาว หนาวจนหัวเป็นเหน็บ อิ อิ

กลับมาถึงที่พักก็เกือบตี 1 ปลุกมี้ขึ้นมากินอะไรสักหน่อย มี้บ่นน้ำจะกินยาก็ไม่มี แล้วก็ปล่อยให้หลับต่อ ส่วนตัวเรานั้นนั่งเก็บของเคี้ยวปลาหมึกไปด้วย อาบน้ำตี 3 เพราะเดี๋ยวตี 04.00 ต้องปลุกมี้ตื่นแล้วขึ้นรถบัสไปสนามบินเพื่อให้ทันเครื่องเวลา 8.45 รถบริการดีมากใหม่และสะอาด ตรงเวลาเป๊ะ ราคาคนละ 10000 วอน รถมาจอดรับที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงแรมเลยค่ะ

พอขึ้นรถได้ ก็หลับสลบเหมือนโดนทุบ เหนื่อยโฮกจริงๆเลยงานนี้



วิ่งไปคืน iphone ที่เช่ามา แล้วไปดร็อปกระเป๋าที่เคาท์เตอร์เช็คอินพบเด็กฝึกงานใหม่ทำงานช้ามากแค่เรา 7 คนใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง กว่าจะผ่าน Immigrationg อีก วิ่งไปถึง Gate กันหูตูบเลย นั่งหลับแบบหมดสติลืมเมื่อยไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซียอีก กว่าจะถึงกรุงเทพก็ 20.00 น. เดินทางกันทั้งวันเลยเชียว เท่านั้นยังไม่พอนั่งรถกลับแพร่ สุโขทัยเพื่อทำงานพรุ่งนี้เช้า

เหนื่อยนะมากับแอร์เอเซีย สำหรับเกาหลีมากะทัวร์คุ้มกว่าบินตรงอีกด้วย ตั๋วกรุ๊ปถูกอีกต่างหาก ค่าเช่ารถก็แพง ทัวร์จะแพงกว่าหน่อยก็ช่างศรีษะมันถ้าทนไปซื้อโสม กับไร่ชาได้ 1 วันเต็มๆ ก็ไปเถอะ



สรุปไปเกาหลีไปกะทัวร์ถูกที่สุด ส่วนของที่น่าซื้อก็คือ คสอ. Etudy, skinfood, Faceshop ราคาถูกกกว่าบ้านเราจริง ฟันธงโดยเฉพาะกาวติดขนตาปลอมกะขนตาปลอม เหมามาสัก 10 โหลคงจะ work

ขนมมีป็อกกี้กล่องสีเขียว นมกล้วย สาหร่าย สตอเบอร์รี่ กิมจิหมักหมูกระปุกแดงๆ ถ้าได้ไปก็ไม่ควรพลาดนะคะ มาม่าไม่ต้องแบกกลับมาก็ได้ค่ะ ที่เจ๊เล้งก็มี

ส่วนเรานั้น หนักเครื่องสำอางค์ค่ะ ซื้อมาฝากเค้าทั้งนั้น หนังหน้าตัวเองไปไกลเกินกว่าจะใช้ คสอ.เด็กแล้วค่ะ



มาส์ค ใช้เองบ้างอะไรบ้าง ป่านนี้ยังไม่หมด สงสัยจะหมดอายุแล้ว





หนังหน้าแบบนี้ ต้อง sulwhasoo ถึงจะเอาอยู่







set นี้ซื้อให้มี้เพราะมี้น่ะไม่สบายเดินไม่ไหว ไปช้อปด้วยไม่ได้ นั่นคือคาเวียร์สกินฟู๊ดแบบมีคอลลาเจน ให้เนื่องในโอกาสวันครูพอดี จริงๆแล้วมีกล่องสวยงาม แต่ว่าเพื่อความสะดวกในการเดินทางจึงเป็นเช่นนี้ พอมี้ได้รับยิ้มกริ้มทั้งวัน



ขวดนี้จากดิ้วตี้ฟรี หอมหวานปานลูกอมฮอลล์



มีขนมอีกกองโต ตอนนี้ไม่เหลือหรอแม้แต่รูป เป็นอันว่าจบลงแต่เพียงเท่านี้เทอญ แล้วพบกันใหม่นะคะ จะเร็วหรือช้าขึ้นกับว่าขยันมากหรือน้อยค่ะ บ๊ะ บายแล้วพบกันที่ญี่ปุ่นค่ะ


Create Date : 29 พฤษภาคม 2556
Last Update : 29 พฤษภาคม 2556 12:11:12 น. 0 comments
Counter : 2145 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.