Bloggang.com : p_pat_p : Can't get Enough of Japan # Tokyo Disney Sea

Can't get Enough of Japan # Tokyo Disney Sea

15 October 2012

วันที่ 4 ที่เรามาเที่ยวที่ญี่ปุ่น วันนี้จะพาไปเที่ยว Tokyo Disney Sea คนพร้อม บัตรพร้อม ลุยเลย

จากแม่นาง Cube Hotel เดินไปขึ้น JR Ueno นั่ง Keihin-Tohoku ไปลงที่สถานี Tokyo แล้วเปลี่ยนขบวน ซึ่งเดินไกลมาก ไปนั่ง JR Keiyo Line Local ไปลงที่ Maihama

มื้อเช้าของเราคือ ขนมปัง แซนวิชต่างๆ ที่หาได้จากสถานีรถไฟฟ้า

แต่ยังไม่จบ ต้องเดินไปสถานี Resort Gateway ต่อรถ Disney Resort Line ไปสิ้ืนสุดที่ Tokyo Disney Sea

เห็นรถไฟเป็นมิกกี้เมาส์แล้ว ใช่เลย สัญลักษณ์ของดีสนีแลนด์เค้าล่ะ

ถ้าเห็นปราสาทนอยชวานสไตน์ ที่จำลองมาจากเยอรมันแล้วให้เตรียมตัวลง แต่เรายังไม่ลงดีสนีแลนด์นะต้องนั่งต่อไปอีกนิดไปลงที่ดีสนีซี อลังกว่าเยอะ

ช่วงที่ไปเป็นเดือนแห่งฮาโลวีน ทุกอย่างจะเป็น theme halloween ทั้งนั้นเลย สีม่วงหมวกส้ม

กับอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของ Disneyland ก่อนที่จะเล่าเรื่องราว และอธิบายพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายใน Disneysea ขอจัดการสัมภาระ เสบียงที่นำติดตัวมาไปฝากไว้ในล็อกเกอร์ก่อน

ตู้นี้ หมายเลขนี้ เก็บสมบัติเราไว้

มารู้จัก Disney sea กันโหนย ค้นจาก wikipedia มาให้ ดังนี้

โตเกียวดิสนีย์ซี เป็นโครงการที่เกิดขึ้นครั้งแรกในส่วนต่อขยายของโตเกียวดิสนีย์แลนด์รีสอร์ต ตั้งอยู่ในเขตชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2544 ในพื้นที่รวมที่เรียกว่าโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท มีแนวคิดหลักของพื้นที่เกี่ยวกับน้ำ เช่น เมืองเวนีส ลำธารน้ำ ทะเล เรือไททานิก ถ้ำใต้น้ำในปล่องภูเขาไฟ เมืองในป่าดิบชื้นแถบอเมริกากลาง เงือกและเมืองบาดาล

มีส่วนประกอบ ดังต่อไปนี้
1.เมืองลับแลสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ (Lost river delta)
2.ชายทะเลฝั่งอาหรับ (Arabian Coast)
3.ทะเลสาบนางเงือก (Mermaid Lagoon)
4.เกาะลึกลับ (Mysterious Island)
5.ริมน้ำฝั่งอเมริกา (American Waterfront)
6.เมืองเรือแห่งการค้นพบ (Port Discovery)
7.ท่าเรือเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Harbor)

ความแตกต่างของโตเกียวดีสนีย์แลนด์ และโตเกียวดีสนีย์ซี อยู่ตรงที่ว่าโตเกียวดีสนีย์ซีเน้นเครื่องเล่นในแนวผจญภัยมากกว่าแฟนตาซี จึงดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า และนอกจากนี้ยังมีโชว์ดีๆ ส่วนมากจะเป็นโชว์กลางน้ำ เพราะเป็นธีมเกี่ยวกับทะเล

ก่อนมาไม่เคยถามความเห็นของผู้ร่วมเดินทางเลย ว่าอยากจะมาดีสนีย์ซีไหม เป็นความอยากส่วนตัวล้วนๆ

ลุยเลย พอเข้ามาก็จะพบกับความใหญ่โตอลังการ ตื่นตาตื่นใจ ลืมแก่เลยทีเดียว

ปล่องภูเขาไฟ จำลองได้ใหญ่โตมาก

ถ้าขาดสองคนเราคงแย่ พวกนี้เป็นมือ เป็นเท้า เป็นแรงให้เราในต่างแดน วิ่งไปนู่นไปนี่ อยากบอกนะว่า "รักแกรว่ะ"

ท่าประจำของน้องแตง

อะไร ๆ ก็ Halloween

พี่ซุปมีแฟน 2 คนซะแล้ว

แต่แอบกระซิบเราว่า รักน้องมากกว่า อุ อิ

แหะๆ แฟนตัวจริงเค้ามาแล้ว

มิกส์กี้น่ารัก แต่ฟันดูแก่เชียวนะพี่มิกส์นะ

มีโชว์พอดี รีบวิ่งไปดูก่อน

ก่อนจะเข้าไปเล่น Toy story แดดร้อนมาก แวะซื้อน้ำ

แอ๊บเด็ก ไม่ดูอายุอานามตัวเองเลยเธอ

ถ้าเป็นแบบนี้ค่อยว่าอีกเรื่อง

แก่ไม่แคร์สื่อ

คนต่อแถวรอเล่น Toy story ยาวมาก ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าถึงจะได้เล่น บัตรด่วนก็ไม่สามารถใช้ได้

ระหว่างรอ ก็แกล้งเด็กไปด้วย คนอื่นเค้ายืนรอ 2 คนนี้นอนสบายเชียวนะ แกล้งดีกว่า

ดูท่ายืนซะก่อน กว่าจะได้ยิงรอนานมาก แต่ก็ไม่ร้องไห้นะ อดทนเป็นเลิศ

Toy story สนุกมาก เป็นเกมยิง 3D นั่งรถผจญภัยแล้วยิง อยากเล่นอีกแต่ไม่สามารถต่อแถวได้อีกแล้ว ทุกอย่างคิวยาวมาก

เดินเล่นชมความงามของสถานที่กับดูโชว์บ้างอะไรบ้างก็คุ้มแล้ว (สำหรับเรา) ถ้าพลังเยอะทนร้อนไหว ก็ลุยเลย ไม่ต้องห่วงฉัน เพราะฉันห่วงฝ้าจะถามหา

เราสามคนเดินจนรอบ ไปกันทุกจุดจริงๆนะ แต่ว่าไม่ค่อยได้เล่นเครื่องเล่นสักเท่าไหร่

เข้าสู่โซนลอสท์ริเวอร์เดลตา (Lost River Delta) สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแห่งความลึกลับ เราจะค้นพบปิรามิดโบราณในศิลปะของชาวมายา ได้ร่วมค้นหาความลี้ลับของวิหารที่อยู่ติดกับปิรามิดนั้นกับอินเดียน่า โจนส์ผู้โด่งดัง ไขปริศนาของกะโหลกแก้ว (Indiana Jones Adventure: Temple of the Crystal Skull) อีกหนึ่งความตื่นเต้นที่ไม่อาจปฏิเสธได้ กับอีกหนึ่งความสนุก ที่ได้ท่องเที่ยวไปในซากปรักหักพังของวิหารด้วยรถไฟเหาะตีลังกา

เหนื่อยมาก เมื่อยมาก แต่ก็ตื่นตาตื่นใจ

จะเข้าไปดู Little Mermaid ข้างในแล้วค่ะ เมืองแห่งจินตนาการ ข้างในสวยมาก แต่ถ่ายรูปยากเพราะมืด กล้องเราเทพไม่ถึง

ดำดิ่งสู่โลกใต้สมุทร บ้านของเจ้าสมุทรโพไซดอน ที่ โซนเมอร์เมด ลากูน (Mermaid Lagoon) ที่นี่เราจะได้พบกับแอเรียลเงือกน้อยแสนซนที่อยากจะมีขาเหมือนกับมนุษย์ (Mermaid Lagoon Theater) สร้างเสริมประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับเด็กๆด้วยเครื่องเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถกระเช้าแมงกะพรุน (Jumpin' Jellyfish) ชิงช้าปลาปักเป้า (Blowfish Balloon Race) ถ้วยหมุนในอ่างน้ำวน (The Whirlpool) หรือจะออกแรงแข้งขาที่สนามเด็กเล่นของแอเรียล (Ariel's Playground) ถ้าย้อนกลับขึ้นไปที่โลกเหนือน้ำแล้วก็จะได้เจอกับ รถเหาะปลาบิน (Flounder's Flying Fish Coaster) กับจานวนบนหลังหอยทาก (Scuttle's Scooters)

ขนาดในถ้ำยังมีที่ให้ช้อป งุ งิ

ในถ้ำนี้สวยสมนิยามของ Disney sea เครื่องเล่นส่วนใหญ่เป็นของเด็กๆ ดูไปดูมาปวดตา หาอะไรกินดีกว่า

ได้มาแล้วไอติมมิกกี้ มินนี่

ช่างสุขจริง อะไรจิง แม่คุณเอ้ย...

หม่ำเสร็จใช้สีผึ้งทาปาก ร่ายมนต์ดำ

แกร แกร ฉันสวยยัง...

สวยแล้วๆ เจ๊สวยปรึกษาพวกหนูบ้างก็ได้นะ หนูเพลีย

Okayyyyyy เริ่ดดดด กว่าใครใน 3 โลก

พูดแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย ไปเดินเที่ยวต่อได้

มีจัดมุมของเก่า เหมือนหลงเข้ามาในเมืองอะลาดิน มาหาตะเกียงวิเศษ

สู้สองคนนี้ก็ไม่ได้ แต่งตัวเหมือนกันอีกต่างหาก

เย็นมากแล้ว เครื่องเล่นต่างๆเริ่มหยุดให้บริการ เดินเล่นชิวๆ ถ้าจำไม่ผิดเราได้เล่นแค่ 2-3 อย่างเองนะ ดูโชว์ ดูขบวนพาเหรด ดูบรรยากาศ ดูวัยรุ่นแต่งตัว ดูความใสของเด็กๆ แล้วก็มีความสุข แต่แอบสงสารเหนื่อยแทนพ่อแม่ กว้างก็กว้าง ร้อนก็ร้อน ต่อแถวแต่ละอย่างก็นานมาก เหนื่อยแทนจริง ๆ

เดินไปในดินแดน 1001 ราตรี ในโซนอาระเบียน โคสท์ ร่วมเดินทางในตำนานไปพร้อมกับกัปตันซินแบด (Sindbad’s Storybook Voyage) หรือจะสัมผัสโลกของเวทมนต์ของยักษ์จินนี่ตัวสีฟ้าที่บังเอิญเผลอถูกนัก มายากลใจร้ายจับขังไว้ (The Magic Lamp Theater) เราจะช่วยหนุ่มน้อยอาคิมปลดปล่อยจินนี่กันได้หรือไม่ ย้อนระลึกถึงครั้งหลังเมื่อยังเยาว์วัยด้วยม้าหมุน (Caravan Carousel) ที่มีหลากแบบให้เลือกนั่ง

ไปต่อเถอะ เดี๋ยวเราต้องไปดูละครบอร์ดเวย์ด้วยนะ

ชมวิว ถ่ายรูปไปเรื่อยนะคะ แบบว่าไม่ต้องมีคำบรรยายแบบว่า กำลังทอดอารมณ์

เริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ

เมดิเตอร์เรเนียน ฮาร์เบอร์ (Mediterranean Harbor) กว้างใหญ่ สวยงามมาก ลงทุนมหาศาลจริงๆดีสนีแลนด์ ดีสนีย์ซี พอเห็นที่นี่ ฮ่องกงเล็กจิ๋วไปเลย

ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเดินรอบ รอบครึ่งด้วยอ่ะ วันนี้ทั้งวันเราน่าจะเดินเกือบ 10 กิโล

สีท้องฟ้ากำลังสวยเลย

เราได้นั่งรถไฟกันคนละรอบ แต่ว่ารอบสั้นๆเอง

เดี๋ยวก่อนกลับคงได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้างเป็นแน่

ความเห็นส่วนตัว เราว่าเวลานี้นี่แหละ ที่น่ามาเดินเล่นที่ดิสนีย์มากที่สุด อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนแดด ค่าบัตรถูกลงครึ่งนึง (หรือป่าว)

เดินไปโซนอเมริกัน วอเตอร์ฟร้อนท์นี้ก็คือ อาคารโรงแรมสูงเด่นที่เรียกกันว่า หอแห่งความสยดสยอง (Tower of Terror) ที่หากเราได้เข้าไปในโรงแรมนี้จะรู้สึกได้ถึงอาถรรพ์ของของสะสมที่แปลก เราสามคนต่อแถวขึ้นไปเล่น ไปได้ถึงครึ่งทาง ปรากฏว่า ข้าพเจ้ากลัว ขาสั่น เลยต้องขอเจ้าหน้าที่ออกมา กลัวจะเสียฟอร์มต้องบอกว่า ปวดท้องไม่สบาย เพราะได้ยินเสียงกรีดร้องของคนข้างหน้าที่ขึ้นไปเล่นแล้ว กลัวอ่ะ

แล้วมานั่งรอชมละครบอร์ดเวย์ หิวแล้วล่ะ วันนี้ทั้งวันเรากินอะไรกันไม่เป็นเรื่องเป็นราวเลย อดๆ อยากๆ ไงไม่รู้

ละครบอร์ดเวย์สวยตระการตา แต่พวกเรายังไม่สะใจรีบไปจับจองที่นั่งที่ เมดิเตอร์เรเนียน ฮาร์เบอร์ เพิ่อชมโชว์ บราวี่ซีโม (BraviSEAmo) อันเป็นโชว์ที่มีการใช้น้ำใช้ไฟให้เราได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงทุกช่วง

เสียดายที่ไม่สามารถถ่ายทอดความสวยงามได้มากไปกว่านี้ เพราะความสามารถของกล้องมีจำกัด

โชว์จบก็สองทุ่ม เป็นอันว่าอยู่จนเลิก จนเค้าไล่ ระหว่างที่เดินออกมาก็ทึ่งในความมีวินัยของคนญี่ปุ่นมาก ทุกอย่างสะอาดไม่มีขยะให้รกเกลื่อนกลาดเลย เดินออกมาแบบเป็นระเบียบ

เดินมาจนถึง ลูกโลกขนาดใหญ่ที่ใครต่อใครก็อดใจไม่ไหวที่จะถ่ายรูปด้วย ลูกโลกใบนี้สื่อถึงว่า โลกที่เราอาศัยอยู่ใบนี้ มีพื้นที่ผืนน้ำมากมายกว่าผืนดิน

ขออำลา Disney Sea ด้วยภาพนี้ค่ะ เพราะเราต้องนั่งรถไฟกลับไป Ueno ย้อนกลับเหมือนตอนขามา ไกลเอาเรื่องเลยค่ะ หิวมากด้วย แวะซื้อของที่เซเว่นก่อนเข้าที่พัก หิวจนตัวสั่น หม่ำเสร็จรีบอาบน้ำ เก็บเสื้อผ้า เพราะพรุ่งนี้เราจะจาก Tokyo ไปคาวากูชิโก๊ะ เพื่อไปดูฟูจิซังกันแล้ว

Create Date : 04 กันยายน 2556

Last Update : 4 กันยายน 2556 14:08:31 น.

0 comments

Counter : 2135 Pageviews.