Bloggang.com : p_pat_p : อยากหยุดเวลาไว้ที่ Agra # Agra Fort

อยากหยุดเวลาไว้ที่ Agra # Agra Fort

14-18 October 2011

ตอนที่ 5 ตอนจบแล้วนะคะ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ต่อเลยละกัน

ออกมาจาก Taj Mahal มาถีง Agra Fort ด้วยเวลาไม่ถึง 5 นาที

แดดจัดมาก ตอนแรกคุณครูจะไม่ลงเพราะกลัวฝ้า แต่คนขับบอกให้ลง หุ หุ เพราะเค้าจะเอารถไปจอดที่อื่น อยู่ในรถจะร้อน งั้นลงก็ลงคุณครูมามี้บอก

เดินเข้าไปไกลเชียว

แต่ยังซ่าส์กันได้ ป้าเที่ยนยังให้ความร่วมมือเลย

บ้างเดินหลบแดด บ้างเอาผ้าปิดหัว

คู่รัก พลิ้วเชียว

คู่กัด ขำกลิ้ง

รวบรวม passport ฟอร์มจะซื้อเอง แต่ป่าวเลยวินัยซื้อให้ อย่าลืมนะใช้พาสปอร์ตแสดงตัวว่ามาจากประเทศไทย ซึ่งเป็นภาคีในกลุ่ม BIMSTEC ก็จะได้เสียค่าตั๋วเข้าชมแหล่งมรดกโลกในราคาเพียง 10 รูปีเท่านั้น

ห่วย ! พี่ท่าน จะช่วยจัดท่าให้ทั้งที่ ยื่นแขนมาไม่ดูหัวดิชั้นเล้ย

มามะ มารวมตัวกัน

ใหญ่โตมาเลยนะเนี่ย เดินเมื่อยตุ้มแน่ๆ

มารู้จัก ป้อมอักรา (Agra Fort) สร้างขึ้นในยุคจักรวรรดิโมกุล โดยจักรพรรดิอักบาร์ (Akbar) ในระหว่างปี ค.ศ. 1565-1574 ตั้งอยู่บริเวณหัวโค้งของแม่น้ำยมุนา มีความยาวตามริมฝั่งแม่น้ำถึง 2.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยกำแพงที่สร้างด้วยหินทรายสีแดง ประตูทางเข้าที่ตกแต่งประดับประดาด้วยกระเบื้องหลากสีสัน พร้อมด้วยอาคารมากถึง 500 หลังอยู่ภายใน อาคารส่วนใหญ่สร้างเพิ่มเติมขึ้นในสมัยหลัง โดยใช้หินอ่อนเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง ในยุคเมื่อแรกสร้างสมัยพระเจ้าอักบาร์นั้น ป้อมแห่งนี้อยู่ชิดติดแม่น้ำ จึงมีบันไดทางลงท่าน้ำจำนวนมากในยุคนั้น บางแห่งก็ใช้เป็นที่ถ่ายเทสินค้าที่ขนส่งทางน้ำ บางแห่งก็ใช้เป็นท่าสำหรับสนมนางในผ่านโดยมีหลังคาคลุมอย่างมิดชิด

ทั้งหอคอย ป้อมปราการ เชิงเทิน และประตูอันใหญ่โตสง่างามของป้อมอักราเป็นรูปแบบเฉพาะของศิลปะในราชวงศ์โมกุล ซึ่งได้สะท้อนถึงความมานะพยายามของพระองค์ที่จะรวมธรรมเนียมประเพณีของสองศาสนาคือ อิสลาม และฮินดูเข้าด้วยกัน เห็นได้ชัดเจนทั้งในทางสถาปัตยกรรมและการเมือง ป้อมแห่งนี้แม้จะเริ่มสร้างสมัยพระเจ้าอักบาร์ แต่ก็สำเร็จเสร็จสิ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ จาฮัน (Shah Jahan) ซึ่งเป็นหลานของพระองค์ และเป็นผู้สร้างทัชมาฮาลอันเลื่องลือ

บริเวณป้อมแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่งดงามมาก ที่พระเจ้าชาร์ จาฮัน ใช้เฝ้าชมผลงานชิ้นเอกของพระองค์ ภายหลังจากที่ทรงถูกพระโอรสของพระองค์เอง ออรังเซบ (Aurangzeb) กักขังไว้ในป้อมอักราแห่งนี้ และสิ้นพระชนม์ลงที่นี่ในปี 1657 ส่วนหนึ่งของป้อมอักราในปัจจุบันยังคงใช้โดยกองทัพอินเดียและเป็นพื้นที่ปิด แต่ก็ยังมีพื้นที่จำนวนมากพอที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้

(ข้อมูลจาก //learningpune.com)

ขอกราบงามๆค่ะ 2 เจ้าป้า

สวยงามบึกบึน

มองเห็นทัชมาฮาลบางๆ จางๆ

3 คนนี้แอบดูกระรอก กระรอกเยอะมากบ้านเมืองนี้ เชื่องมากด้วย

3 สาวแว่น สวยนะคร้าาา

ครูมามี้ เริ่มเดินไม่ไหวขอรอตรงนี้ งั้นอยู่คนเดียวนะคะ พวกเราจะไปซิ่ง

แนบหูกับกำแพงเพื่อฟังเสียงสะท้อนจากอีกด้านที่คุยด้วย

หมดเวลาแล้วค่ะ ต้องอำลาไปก่อน Agra Fort ชาตินี้คงไม่ได้กลับมาเยือนอีกเป็นแน่แท้ ไม่ใช่ไม่สวยนะคะ แต่ขอเอาเงินไปเที่ยวที่อื่นบ้าง

จะเฉลยแล้วนะคะ ว่าจริงๆ แล้ว Vinai สนใจใคร ระหว่างสาวอ้อกับสาวแตง

นี่เลยค่ะ ตาอยู่ แย่งตาอินกะตานาเอามากินซะแล้ว ประคองอาเฮียตัวดำของเราใหญ่เลย สีผิวเดียวกันเลยปิ๊งกัน

หิวแล้วจ๊ะ กลับไปโรงแรมไปกินมื้อกลางวัน อยู่ Agra กินอาหารที่โรงแรมทุกมื้อเลย ไฮโซจิงเชียว

อิ่มแปร้เลยค่ะ หนักขนม เพราะอย่างอื่นเหม็นกลิ่นเครื่องเทศเต็มทน

2 คนนี้แอบมากิ๊กกันอีกแล้วค่ะ วินัยมาเซ็นสัญญากันเลยดีกว่ามะ เอาไปแล้วห้ามเอาคืน โอเค ปะ

ระหว่างรอเช็คเอาท์ รีบถ่ายรูปกับโรงแรมเป็นที่ระทึกกันอีกแล้วค่ะ

รถพร้อมแล้วคนพร้อมหรือยังคะ จะกลับเดลีละ

บ๊ะบาย Sheraton ITC MUGHAL

ระหว่างทางพวกเราสนุกสนาน หัวเราะเสียงดังลั่นรถ เอารูปลง ipad แล้ววิพากษ์วิจารณ์สนุกสุดๆ อยากให้เวลาหยุดไว้เพียงเท่านี้จริงๆ

แต่ช้าก่อน เป็นธรรมเนียมของไกด์ต้องพาเราไปเชือดเอาเปอร์เซ็นต ถ้าไปทัวร์จีนต้องไปซื้อบัวหิมะ ไปเกาหลีต้องไปซื้อโสม แต่อันนี้พาเราไปดูการแกะสลักหินอ่อน

ทางเดินขึ้นร้านจะบ้าตาย จะสูงไปไหนคะ

อย่าอธิบายนานนะคะ เบื่อฟังง่ะ อยากรีบไปตลาดจันปาท กับวัดอัครธรรมมากกว่า

สำเร็จออกมาแล้วเป็นแบบนี้

สวยไหมคะ ท้ชมาฮาล จำลอง

ราคาไม่ต้องพูดถึง แพงสนิทศิษย์ส่ายหน้า

ร้านนี้มีสินค้าหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่ก็เน้นที่หินอ่อนแกะสลัก

ผ้าก็มีนะคะ

เดินดูเดินถ่ายรูปอย่างเดียวจนเจ้าของร้านเดินมาต่อว่า ว่าถ่ายรูปอย่างเดียวถ้าซื้อบ้างก็จะดีกว่านี้ อ้าว...ก็ขายแพงนักนี่ ใครจะไปซื้อ

นี่เลยร้านนี้ค่ะ ไม่เบานะเนี้ย

นั่งรถกลับเดลี ปกติใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่รถติดมากและพวกเราในรถก็คุยเสียงดัง คุณครูมามี้คงจะปวดหัวหนวกหูเสียงพวกเด็กๆ หลังรถ ควานหายาลดความดัน

อะจ๊ากกก ยิ่งรีบยิ่งมีอุปสรรค รถยางแบนต้องเปลี่ยนยาง

เป็นอันว่า วัดอัครธรรม ไปไม่ทัน วะ ฮ่า ฮ่า งั้นดูหมูป่าข้างทางแทนระหว่างรอเปลียนยาง

พระเจ้าจอร์ช ขนาดรถเสียยังมีอารมณ์ล้อมวงยืนดูรูป ไม่เกี่ยงแม้อยู่ข้างถนน

อ้ายยยยยยยย...ขึ้นรถมาได้กลิ่นตุ ตุ ตายแล้วเหยียบอุจจาระขึ้นมา หาใหญ่ว่าใครเหยีบบ ข้าพเจ้าและสะมะแอเหยียบขึ้นมาเอง โอยยยย มาถึงอินเดีย ณ บัดนาว ยังดีที่เตรียมทิชชู่เปียกไปเป็นสิบ ไม่งั้นละก็ไม่อยากจะพูด

ประมาณ 20 นาทีก็เปลี่ยนยางเสร็จ แต่อีกตั้งหลายกิโลกว่าจะถึงเดลี ยังไงต้องไปถนนจันปาทให้ได้ กำชับวินัยว่า พอไปถึงจันปาทแล้วให้พาไปร้านเครื่องประดับเลย วินัยรับปาก แต่ก็ไปถึงค่ำมาก รถก็ติดเราได้แวะจันปาทจริงๆ แต่ว่าได้แวะเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ได้กำไรกับเครื่องประดับมา

ตลับใส่เครื่องประดับซื้อมาฝากเพื่อนๆ อีกหลายห่อ แบ่งๆกันไปคนละนิดคนละหน่อย

วินัยอาลัยอาวรณ์ เค้าหลงเสน่ห์พวกเรา และพวกเราก็เอ็นดูวินัยมากจัดทิปให้คนขับและเด็กท้ายรถ ให้วินัยหนักพอสมควร แต่เรารู้เค้ารวยมาก เพราะเค้าเป็นลูกชายเจ้าของบริษัททัวร์ วินัยดูแลและเอาใจแบบไม่อั้นขออะไรให้หมด จนกลัวว่าเค้าจะขาดทุน เพราะคิดราคาค่าทัวร์ไม่แพงเลย เราไปอินเดียในครั้งนี้ กินนอนแบบ Luxury ทุกอย่างไฮโซสมเป็น 5 ดาว โดยเฉพาะกับวินัย นี่ดูแลและเทคแคร์ดีมากๆ เค้าน้ำตาซึมตอนที่ไปส่งพวกเราที่สนามบินด้วย กลับมาถึงเมืองไทยก็ยังติดต่อกัน จนบัดนี้เค้าก็ fb มาคุยด้วยตลอด

เราได้เพื่อนดีๆจากอินเดียจากการไปเที่ยวครั้งนี้มา 2 คน ทั้ง Mustafa เจ้าของทัวร์ที่แคชเมียร์ ทั้ง Vinai เจ้าของทัวร์ที่เดลีกลายเป็นเพือนเราไปแล้ว มิตรภาพของเพื่อนในต่างแดนน่าประทับใจมากค่ะ อินเดียไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะคะ เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดที่ได้ยินมาก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่เราโชคดีไปอินเดียแบบประทับใจ ก่อนไปศึกษาหาข้อมูลให้ดี ถ้าอยากประทับใจกับการไปเที่ยวอินเดีย แนะนำให้ไปแบบหรูๆสักนิด สะดวกสบายหน่อยๆ จะติดใจค่ะ อินเดียมีเสน่ห์นะคะขอบอก ลองไปสัมผัสดูแล้วคุณอาจจะอยากไปอีก

เกือบลืมบอกไปว่า มื้อเย็นที่ Vinai ตั้งใจจะเลี้ยงส่งเราแบบหรูหรา กลายเป็นว่าเราขอเค้าเป็น MacDonald แบบเร่งด่วนคงจะดีกว่า เพราะเราต้องตกเครื่องแน่ๆ ถ้าต้องไปภัตตาคารแบบที่วินัยตั้งใจไว้ หัวใจจะวายเรามีเวลาที่สนามบินเพียงแค่ชั่วโมงครึ่ง กับการต้องไปกรอกเอกสารผ่าน ตม. และต่อแถวยาวมาก วิ่งกันตับแลบไปเกท ส่วนลุงๆ ป้าต้องให้รถบั้กกี้ขับไปส่งที่เกท เริ่ดดดดดค่ะทริปนี้ เพราะมัวแต่อาลัยอาวรณ์พ่อวินัยหนุ่มน้อยผู้แสนน่ารัก ที่ทุ่มไม่อั้นกับกรุ๊ปเรา เค้าบอกว่าตั้งแต่ทำทัวร์มา เค้าชอบกลุ่มพวกเราที่สุด ปากหวานหรือป่าวพ่อคู๊นนนนน แต่ก็เชื่อค่ะ

เล็กๆน้อย กับเปเปอร์มาเช่ แค้นที่ซื้อมาแพงค่ะ ของฝากจากแคชเมียร์ให้ดูต่างหน้า

กลับถึงกรุงเทพก็เช้าเลยค่ะ เพลียมาก พร้อมกับข่าวน้ำท่วมเต็มเมือง น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ เราไปเที่ยวในขณะที่คนกรุงเทพ คนภาคกลางกำลังโศกเศร้า ประเทศไทยย่ำแย่ ละอายใจเหมือนกันนะนี่แต่ก็เตรียมการมานาน มันจำเป็นต้องไปค่ะ

นั่งบางกอกแอร์เวย์กลับบ้านค่ะ ทางอื่นไม่สามารถ รถทัวร์ไม่วิ่ง รถยนต์ต้องวิ่งอ้อมโลก

หม่ำแก้เซ็ง แก้เครียดน้ำท่วม เซ็ง เครียด กินข้าวต้มมัดค่ะ

เป็นอันว่าจบทริปอินเดีย แคชเมียร์แล้วนะคะ มี 5 ตอนด้วยกัน ตามอ่านได้ตั้งแต่ตอนที่ 1 อยากหยุดหัวใจไว้ที่แคชเมียร์ - ตอนที่ 5 อยากหยุดหัวใจไว้ที่ Agra ได้นะคะ แล้วพบกันใหม่ที่เกาหลีค่ะ

Create Date : 18 พฤษภาคม 2555

Last Update : 18 พฤษภาคม 2555 21:10:06 น.

7 comments

Counter : 2397 Pageviews.

แวะมาชมทริปอินเดียตอนจบครับ พี่แพท ถ้ามีโอกาสก็อยากลองไปบ้างจริงๆ

ยังไงตามต่อทริปหน้านะครับ

โดย: กัปตันลูกชุบ

วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:10:30:37 น.

กัปตันคะ ถ้าจะไปจริงๆ แนะนำให้ไปเดือน กุมภา มีนานะคะโดยเฉพาะแคชเมียร์สวยกว่านี้มากค่ะ

โดย: p_pat_p

วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:21:35:17 น.

สวัสดีค่ะ คุณแพท รบกวน ขอเบอร์ติดต่อ ไกด์ทัวร์ ทั้ง ที่ เเคชเมียร์ เเละคุณ วินัย ได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ

โดย: Ochin IP: 58.8.49.67 วันที่: 6 มิถุนายน 2555 เวลา:6:48:20 น.

ได้ค่ะ ขออีเมล์ด้วยค่ะ

โดย: p_pat_p

วันที่: 6 มิถุนายน 2555 เวลา:21:07:25 น.

ตามมาอ่านจากห้องบลูค่ะ สนใจอยากจะไปเที่ยวแคชเมียร์เช่นกัน แต่กะจะไปกันซักช่วงใบไม้ผลิกัน ไม่ทราบว่าช่วงที่คุณแพทไปนี่ ช่วงไหนคะ

โดย: Por IP: 124.122.17.5 วันที่: 10 มิถุนายน 2555 เวลา:15:11:20 น.

รบกวน ขอเบอร์ติดต่อ ที่ แคสเมีย เดลลีด้วยคะ Nataya_ph@hotmail.com

โดย: nataya_ph@hotmail.com IP: 125.24.41.86 วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:12:25:57 น.

เข้ามาดูและขอบคุณสำหรับ review นะคะ จะรบกวนขอ e-mail บริษัททัวร์ที่ Kashmir และ Deli ได้ไหมคะ

ขอบคุณมากค่ะ

onnjang@homtmail.com

โดย: อ้น IP: 171.98.70.228 วันที่: 21 เมษายน 2556 เวลา:13:45:59 น.