Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
อยากหยุดเวลาไว้ที่ Agra # Sheraton ITC MUGHAL & Taj Mahal

14-18 Oct 2011

จบไป 3 ตอนแล้วนะคะ ตอนนี้เป็นตอนที่ 4 เดินทางกลับมาเดลีเพื่อจะไปอัคราค่ะ

มาถึงสนามบินในประเทศ รอกระเป๋าอีกชาติกว่าๆ ลุ้นว่ารถกับไกด์จะยังรอเราอยู่หรือป่าวผิดเวลาไป 4 ชั่วโมง เดินออกมา เย้...เห็นป้ายชื่อตัวเอง มีหนุ่มน้อยมารับเรา คนนี้เลยมารอรับ ขอแนะนำ หนุ่มน้อยหน้ามน ชื่อ Vinai



พร้อมรถคันใหญ่ หรูหรานั่งสบาย



Vinai บอกว่าจะพาไปรับประทานอาหาร แต่พวกเราบอกว่าอยากไปตลาดจันปาทก่อน เค้าขอขัดใจบอกว่า อยากให้ไปทานอาหารก่อนแล้วไปอัคราเลย พรุ่งนี้ขากลับจากอัคราจะพาไป ลังเลอยู่พักใหญ่ เค้าบอกว่ามันคนละทางกัน จะเสียเวลามาก แล้วก็พาเราไปร้านอาหารเพื่อทานมื้อกลางวันตอนบ่าย 4 โมง เพราะเครื่องบินดีเลย์ทำให้เราพลาดตลาดจันปาทตามโปรแกรม เซ็ง



ร้านอาหารในเดลลีร้านนี้ ถูกปากและอลังการกว่าทุกมื้อที่แคชเมียร์ สั่งมาให้หลายอย่างและมีไอศครีมตบท้ายด้วย





จากนั้นพวกเรามุ่งหน้าสู่เมืองอัครา ระหว่างทางรถติดมาก มองดูผู้คนข้างทางแล้วรักเมืองไทยขึ้นมาในบัดดล คนอินเดียปากกัดตีนถึบ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว ไม่มีชนชั้นกลาง มีเพียง รวย กับ จน





ขอกล่าวถึงเมือง Agra สักหน่อยเพื่อเพิ่มอรรถรส เมืองอักรา (Agra) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงสำคัญของอินเดียในยุคศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำยมุนา นับเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับสามของรัฐอุตรประเทศ เมืองอักรา มีชื่อเสียงโด่งดัง จากสถาปัตยกรรมที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ “ทัชมาฮาล” ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากนั้นเมืองอักรายังเป็นที่ตั้งของ ป้อมอักรา (Agra Fort) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983

กว่าจะถึงอัคราก็ 3 ทุ่ม คืนนี้เราพักที่ Sheraton ITC MUGHAL





เป็นโรงแรม 5 ดาว เลือกเองแล้วให้ Vinai จัดการ





Lobby ที่นี่โอ่โถง





Vinai จัดการห้องให้เรียบร้อยแล้ว รีบพาเราไปทาน Buffet Dinner ในโรงแรม อาหารถูกปากอิ่มกันถ้วนทั่ว



ขึ้นห้องไปพักผ่อน เนื่องจากเดินทางนั่งรถ นั่งเครื่องบินมาทั้งวันไม่ได้แวะสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ เลย คืนนี้เราหลับสนิทมาก





ห้องน้ำสะดวกสบาย Amenities พร้อมสรรพ





ห้องอื่นๆ ก็คงหลับสบายเหมือนเรา



ตื่นสายคนอื่นๆ รออยู่ข้างล่าง รอไปทานอาหารเช้าพร้อมกัน อิอิ คุณครูมามี้มานั่งรอลูกศิษย์ อายจิงๆ



พร้อมหน้าพร้อมตาที่ห้องอาหารของโรงแรมอีกครั้งกับมื้อเช้า







โปรแกรมเที่ยวของเราในวันนี้คือ ทัชมาฮาล ตอนนี้รถพร้อมค่ะ Vinai บอกว่า 10 นาทีถึง



ทางเดินเข้าทัชมาฮาลไกลพอสมควร มีรถบริการเข้าไปให้ใกล้ที่สุดแล้วเดินอีกนิดก็ถึง





เดินก็ยังจูงมือกัน คู่นี้รักยังใหม่อยู่เสมอ



Vinai take care พวกเราดีมากๆ เตรียมพาสปอร์ตไว้ซื้อตั๋ว เพราะจะได้ส่วนลดเนื่องจากเป็นนักท่องเที่ยว





แค่ประตูก็อลังการงานสร้างแล้วล่ะ













เดินผ่านประตูใหญ่เข้ามาก็มองเห็น ทัชมาฮาล ตะลึง ตึง ตึง เลยค่ะ สวยเด่นเป็นสง่า



ขอแนะนำไกด์อีกคนนะคะ เค้ามาช่วยวินัยตลอดในขณะที่อยู่อัครา



กำลังทำหน้าที่บรรยายถึงทัชมาฮาล ให้พวกเราฟัง



ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม



พวกเราฟังไปก็ร้อนไปด้วย แต่ละคนเริ่มหน้ามุ้ย และก็รู้ประวัติมาบ้าง ประมาณว่า กษัตริย์ชาห์ชาฮัน เป็นผู้สร้างทัชมาฮาลให้แก่พระชายาของพระองค์คือ มุมตาส มาฮาล ซึ่งทรงให้ด้วยความรักที่มีต่อตัวนาง ไม่ใช่สร้างด้วยความหลงใหลในรูปโฉมหรือเสน่ห์ของนางแต่อย่างใด แต่เป็นความรักที่สามีรักภรรยาด้วยดวงใจอันบริสุทธิ์ มุมตาส เป็นชายาคู่ทุกข์คู่ยากของชาห์ชาฮัน และหน้าที่ภริยาที่ดี มุมตาสให้กำเนิดบุตรธิดาแก่ชาห์ชาฮัน ถึง 14 คนและสิ้นชีพเมื่อคลอดลูกคนที่ 14

มุมตาส มาฮาล ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่สวยกว่าหญิงอื่นทั้งหลายในสมัยเดียวกัน นางเป็นคนหน้ารูปไข่ ร่างใหญ่ ไหล่กว้าง จนแลเห็นพระเศียรและดวงพระพักตร์เล็กไป พระโอษฐ์เล็ก พระเนตรเล็ก คางเสี้ยม ส่วนรวมของดวงหน้าและรูปร่างทั้งหมดแสดงลักษณะของหญิงที่เกิดมาเป็นแม่มากกว่าเป็นเมีย

นามเดิมของมุมตาส มาฮาล คือ อารชุมันด์ บานุ แต่งงานกับกษัตริย์ชาห์ชาฮันก่อนได้รับราชสมบัติ เมื่อนางอายุ 19 ปี ซึ่งพระเจ้าชาห์ชาฮันมีพระชนม์มายุได้ 36 พรรษา เมื่อชาห์ชาฮันขึ้นเสวยราชย์แล้ว จึงพระราชทานนามแก่พระชายาว่า มุมตาส มาฮาล แปลว่า ความรุ่งโรจน์ในพระราชวัง วินเซนต์ สมิธ ผู้เขียนประวัติศาสตร์อินเดียอธิบายว่า ชื่อทัชมาฮาล เป็นคำที่เลือนมาจากชื่อของ มุมตาส มาฮาล ที่แปลว่า ยิ่งใหญ่

ในประวัติของมุมตาส มาฮาล แสดงให้เห็นความอ่อนโยนและเมตตากรุณาตลอดมา มุมตาสไม่เคยใช้อำนาจวาสนาในทางร้ายแรง มุมตาส ทำตนเป็นเพื่อนชีวิตที่ดีของชาห์ชาฮันอย่างแท้จริง ติดตามเสด็จไปทุกที่ที่ชาห์ชาฮันออกพระราชกรณียกิจแม้กระทั่งไปสงคราม มุมตาสก็ติดตามพระสวามีไปด้วยเสมอ มุมตาสมีความรู้เรื่องรัฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ และยุทธศาสตร์เป็นอย่างดี ดั้งนั้น จึงได้เป็นที่ปรึกษาภารกิจของพระเจ้าชาห์ชาฮันทั้งการปกครองและการวางแผนการทำสงคราม

จนเมื่อมุมตาส มาฮาลคลอดลูกคนที่ 14 และสิ้นชีพนั้น มุมตาสมีอายุเพียง 39 ปี ในปี พ.ศ. 2172 นำความเศร้าโศกเสียใจแก่ชาห์ชาฮันอย่างสาหัส พระองค์ไม่ยอมเสวยพระกระยาหารเป็นเวลาถึง 7 วัน ได้แต่ทรงคร่ำครวญตลอดเวลา นับจากวันสิ้นพระชนม์ของมุมตาสนั้น ชาห์ชาฮันไม่ออกว่าราชการ ห้ามมีการบรรเลงดนตรีในพระราชวัง ห้ามแต่งเครื่องเพชรนิลจินดา และห้ามแต่งเครื่องแต่งกายสีอื่นนอกจากสีขาวอันเป็นสีไว้ทุกข์ และพระองค์ได้ให้ประชาชนทั่วราชอาณาจักรไว้ทุกข์ให้แก่พระนางมุมตาสเป็นเวลา 2 ปี โดยมีคำสั่งถ้าผู้ใดขัดขืนก็ให้ฆ่าทิ้งเสีย

ปีที่มุมตาสสิ้นพระชนม์นั่นเอง ชาห์ชาฮันได้สั่งหาช่าง ทั้งในอินเดียและในประเทศใกล้เคียง คือ เปอร์เซีย อาหรับ และตุรกี คิดรูปเสนอแบบที่ฝังศพพระชายา ซึ่งทรงได้แบบมาหลายแบบ ซึ่งเป็นแบบที่ทำด้วยไม้ แต่ชาห์ชาฮันได้ทรงเลือกแบบจากสถาปนิกชาวตุรกี ชื่อ อิสา อาฟันดี มาสร้างทัชมาฮาลนี้ และได้ระดมช่างและคนงานมาจากที่ต่างๆ มาเป็นจำนวนมาก ถึงกับต้องสร้างเมืองให้คนเหล่านั้น ให้ชื่อว่าเมืองมุมตาสบาด แต่ภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อเมือง ทัชคันช์

หลังจากที่สร้างทัชมาฮาลเสร็จแล้ว ชาห์ชาฮันก็อยู่ในราชสมบัติต่อมาได้อีก เพียง 7 ปีเท่านั้น ทั้งนี้เพราะว่า ภายหลังที่สร้างทัชมาฮาลเป็นที่ฝังศพพระชายาแล้ว ชาห์ชาฮัน ก็ใฝ่ฝันที่จะสร้างที่ฝังศพของตัวเองไว้ที่ฝั่งแม่น้ำยมนาอีกฟากหนึ่ง ให้เป็นปราสาทคู่กับทัชมาฮาล และปราสาทหลังใหม่นี้ จะสร้างด้วยหินอ่อนสีดำล้วนเพื่อให้คู่กับทัชมาฮาล ซึ่งทำด้วยหินอ่อนสีขาวล้วน แต่โอรังเซบ พระโอรสของพระองค์ เกรงว่าพระบิดาจะใช้เงินของคลังหลวงเสียหมด เมื่อตนขึ้นครองราชย์จะไม่มีเงินแผ่นดินเหลือไว้ โอรังเซบจึงจับพระบิดาขังไว้ ในปีพ.ศ. 2202 แล้วตั้งตัวเองขึ้นครองราชย์แทน ชาห์ชาฮันถูกขังอยู่ 7 ปี สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ.2209 โอรังเซปไม่ยอมสร้างที่ฝังพระศพไว้ให้กับชาห์ชาฮัน จึงนำศพพระบิดาไปฝังข้างศพพระมารดา ไว้ที่ปราสาททัชมาฮาลนั่นเอง

ทุกวันนี้ ทัชมาฮาลยังได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลกว่า เป็นสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ที่มีทั้งความงามและความลงตัว การชมทัชมาฮาลในเวลาที่ต่างกัน อาจทำให้เห็นทัศนียภาพและได้อารมณ์ความรู้สึกที่ต่างกัน

(เครดิตข้อมูลจาก //www.oceansmile.com/India/IndiaTour.htm)









ระหว่างที่เรากำลังถ่ายรูปก็มีช่างภาพเจ้าถิ่นมาแย่งถ่าย วุ่นวายกับเรามาก อาสาถ่ายรูปให้แล้วก็ถ่ายเบี้ยวๆ ไม่สมดุล แต่ใช้กล้องของตัวเองถ่ายดีๆ เพื่อที่จะขายภาพ แต่ยอมรับว่ารูปที่เค้าปริ้นออกมานั้นโอเคใช้ได้เลย แต่ก็แพงต้องต่อราคาเยอะๆ เราเลือกมาไม่กี่รูป แต่มามี้กับอาเฮียใจดี เหมามาเกือบหมดจ่ายแพงกว่าใครเพื่อน พวกเรา (สาวๆ จอมงก โขลกราคาซะจนมามี้แอบค้อน สงสารเค้า )





ขอเยอะหน่อยนะคะกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแบบนี้ ต้องจัดหนัก



ภาพหมู่พร้อมไกด์ทั้ง 2 อีกสักรูป



พอหันหลังให้ทัชมาฮาล มองย้อนกลับไปก็จะเป็นประตูใหญ่ที่เราเดินผ่านเข้ามา



อารมณ์แบบนี้ก็มีเหมือนกันนะเฮีย ทัชมาฮาลทำให้สะมะแอเปลี่ยนไป นึกรักเราขึ้นมาละซิ ชิ ชะ



ไกด์อธิบายว่า ถ้าเรายืนอยู่มุมนี้จะมองเห็นเงาของทัชมาฮาลในน้ำ



ไอ้เราก็พยายามกันใหญ่ 555 อย่าได้ให้ทำอะไร ทำหมด



แล้วก็เป็นรูปแอบถ่ายกันเองสนุกๆ







ไกด์ก็มีอะไรมาให้เราเล่นอีก ให้พวกเราใส่แว่นตาดำ แล้วก็จับเรามายืนในตำแหน่งที่จะทำให้เห็นทัชมาฮาลสะท้อนมาในแว่นตาของเรา สะมะแอกับแว่นโอเว่อร์ไซส์ของดิชั้น



ตลอดที่เราอยู่ที่ทัชมาฮาล เรามักจะมีอาการแบบนี้ ส่องกล้องไปตลอดอยากเก็บทุกมุม ทุกความทรงจำ





เราเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมองมุมไหนๆ ก็สวยไปหมด









ตอนที่ซื้อตั๋วเค้าแจกสิ่งนี้มาให้คนละ 1 คู่ แต่เราขอ 2 คู่ เดี๋ยวจะบอกว่าทำไม น้องพัตถึงต้องขอ 2



เอามาทำแบบนี้ค่ะ สวมคลุมรองเท้าก่อนเดินเข้าไปในทัชมาฮาลเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นทัชมาฮาลสกปรก



ยังไม่ทันได้ขึ้นไป คนอื่นเค้ามีกันครบ แต่คุณสามีตัวยุ่ง ทำหายไปแล้ว 1 ข้าง ส่วนอีกข้างแค่เริ่มใส่เฮียก็ทำขาดแล้วล่ะ เลยต้องควักอีกคู่ที่แอบสำรองไว้ออกมา เฮ้อ...นี่ลูกหรือสามีฟร่ะเนี่ย ไม่งั้นคนบางคนอาจไม่ได้ขึ้นก็เป็นไปได้



พร้อมลุย เข้าไปในทัชมาฮาลได้แล้วค่ะ



ขอควงทีเดียว 2 คนเลย ผิวสีเดียวกันด้วย



ตอนที่เดินผ่านพระศพไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ ถ่ายได้แต่บริเวณด้านนอกรอบๆ เท่านั้น



ความเห็นส่วนตัวนะคะ ด้านในก็ไม่ได้สวยเหมือนกับที่คิดไว้เท่าไหร่ ยังไม่วิจิตรบรรจงละเอียดลออเท่าศิลปะของไทย ไทยแกะสละอะไรแต่ละอย่างนี่สวยจนเมื่อย ละเอียดยิบกว่า










โค้งน้ำที่สวยที่สุดริมแม่น้ำยมนา



คู่รักริมแม่น้ำยมนา



เพื่อนรักริมแม่น้ำยมนา



เสานี้ไม่รู้อะไร แอบคิดเองว่าเป็นปล่องไฟ ถ้าเป็นวัดที่เมืองไทยก็คือปล่องไฟที่เมรุเผาศพ





น้องแตงตั้งใจมากเลยนะน้อง



ภูมิใจนำเสนอ จีน ไทย ฝรั่ง แขก



น่ารักและดูใจดีจังเลยเนาะ



ตอนที่อยู่ที่ทัชมาฮาล คุณครูมามี้ พูดว่า "อธิษฐานสิลูก ว่าขอให้รักเรายิ่งใหญ่และมั่นคงแบบทัชมาฮาล" เอิ่มม หนูอยากจะบอกว่า หนูไม่ได้พูดตามแหะๆ ปล่อยให้มันเป็นไปตามพรหมลิขิต ตามบุญตามกรรมเถอะค่ะ



แต่คู่นี้น่ะ หมั่นไส้ อยากให้พรหมลิขิตล่ะสิ หุ หุ สงสารน้องเค้าเถอะเค้าทำไปตามหน้าที่ แต่ขอชมน้องวินัยหนุ่มน้อยคนนี้นิสัยน่ารักมาก เป็นกันเองสุดๆ เค้าบอกว่าเค้าชอบกรุ๊ปเรามาก ไม่เคยบริการใครสนุกแบบนี้มาก่อน ก็แน่ล่ะ พวกพี่น่ะมันเป็นซุปตาร์ของเมืองไทย งานอดิเรกเล่นตลกคาเฟ่ ไปไหนฮานั่นอะน้อง บริการพวกพี่ไม่สนุกก็ป่วยละ โหด มันส์ ฮา เอาใจยากซะขนาดนี้ 555



สีหน้าของวินัย ปลื้มใครมากกว่ากันจ๊ะ น้องอ้อ น้องแตง ไม่ต้องแย่งกัน เดี๋ยวจะเฉลยว่าวินัยสนใจใครเป็นพิเศษ



อ้าว...คุณครูมามี้ เอาเด็กที่ไหนมาอุ้มคะ



มองจากทัชมาฮาล ย้อนกลับไป โอวววว สวยมั่กๆ



คนมากมายมหาศาล แดดร้อนเปรี้ยงๆ ฝ้าจะขึ้นหน้าซื้อครีมแก้ฝ้าอีก 3 กระปุก





ก่อนจะออกมาจากประตู นักถ่ายภาพที่วุ่นวะวายกับเราก็อัดรูปมาขาย เลือกกันหน้าเครียดเลย รักพี่เสียดายน้อง



อรั๊ยยย กระรอก หลายตัวอีกต่างหาก



ขากลับขี้เกียจเดินค่ะ วินัยใจดีจะให้เรานั่งรถม้า แต่ว่าอะไรสักอย่างฟังภาษาอินเดียไม่ออก สรุปคือได้นั่งไม่ครบคน แต่เราไม่พลาด





ของที่ระลึกที่เด็กๆ วิ่งขายหน้าทางเข้าทัชมาฮาลไม่แพงนะคะ ต่อดีๆ ก็ลดให้เยอะมาก เสียดายซื้อมาน้อยไปหน่อย

ตอนต่อไปจะไป Agra Fort ถ้าอยากไปกับพวกเราเชิญอ่านตอน 5 ได้นะคะ ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ




Create Date : 17 พฤษภาคม 2555
Last Update : 18 พฤษภาคม 2555 21:26:12 น. 0 comments
Counter : 1798 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.