จำเพื่อลืมดื่มเพื่อเมาเหล้าเพื่อโลก สุขเพื่อโศกหนาวเพื่อร้อนนอนเพื่อฝัน ชีวิตนี้มีค่านักควรรักกัน รวมความฝันกับความจริงเป็นสิ่งเดียว -รุไบยาต- โอมาร์ คัยยัม รจนา แคน สังคีต พากย์ไทย

<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
3 มิถุนายน 2549
 

เรียนเชิญที่นี่ครับ

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4426382/A4426382.html

อิอิ




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2549
78 comments
Last Update : 3 มิถุนายน 2549 19:37:47 น.
Counter : 447 Pageviews.

 
 
 
 
เป็นวันที่ฟ้าครึ้มโลกซึมเศร้า
ต้นไม้เหงาลมนิ่งทิ้งหายหน้า
แดดเคยอาบอ้อมเขาเคียงทุ่งนา
ก็หนีฟ้าหลบเร้นไม่เห็นเงา

แม้รอบข้างก็ยังรู้อยู่ไม่นิ่ง
สรรพสิ่งมีเปลี่ยนไม่เหมือนเก่า
เดี๋ยวเริงร่าเดี๋ยวรุ่งโรจน์แล้วซบเซา
มีหรือเราจะจีรังในวังวน

วานนี้ยังขลังเข้มเติมเต็มสุข
แล้ววันนี้ไยทุกข์จึงเริ่มต้น
จิตกระทบปัจจัยในวงคน
จึงลุกลี้ลุกลนสับสนใจ

คนหนอคนก็แค่คนตัวต้นเหตุ
หลายประเภทวุ่นวายหลายนิสัย
กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกลับกลอกไว
ไม่ว่าใครไม่แน่นอนกะล่อนลวง

จะคบคนถ้าดูหน้าไม่มองเนื้อ
ใครจะเชื่อว่าใจนั้นหายห่วง
ไม่อยากคิดว่าหน้าเต็มแต่ใจกลวง
อาจตกบ่วงในบาปสาปให้ตาย
 
 

โดย: เขมรัฐ ราศีเมษ IP: 61.19.163.32 วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:14:26:28 น.  

 
 
 
ของใช้ส่วนตัวเรา คล้ายๆกันเลยนะค่ะคุณปะหล่อง จะต่างกันก็ตรงสีมั่ง ทั้งย่าม และผ้าขาวม้า อิอิ
ส่วนเครื่องดนตรี เรามีซึงของพ่อห้อยไว้ในห้องนอนด้วยแต่เล่นไม่เป็นหรอก แหะๆ
 
 

โดย: Kontonnum วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:14:59:48 น.  

 
 
 
ยินดีต้อนรับองค์ชายเขมรัฐครับ

บทกวีดีจริง ๆ

เมื่อคืนหนักไปหน่อย
วันนี้สมองเลยไม่ค่อยแจ่มใส

ขอติดไว้ก่อนนะครับ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 203.148.195.194 วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:16:58:30 น.  

 
 
 
กะลังอยากบุหรี่อยู่อะดิ

รู้น๊า

สู้ต่อ่ไปคร้าบบบบบบ

ไอ้มดแดง
 
 

โดย: madamepi วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:17:38:02 น.  

 
 
 
ปะหล่องครับ, ผมเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งนี้ ได้ทำธุรกิจตามที่ได้ตั้งใจ ผมไปนอนวัดที่เคยจำพรรษาที่อำเภอแม่ริมครับ ผมไม่มีอะไรมาฝาก นอกเสียจากบทกวี มันเป็น นิ ร า ศ ครับ ชื่อ “นิราศเชียงใหม่” ผมไม่ได้แต่งนิราศนานมากแล้ว ไปเชียงใหม่ครั้งนี้มีเรื่องสะเทือนใจพาให้สามัญชนคนอย่างผมตรมตรอมมากพอสมควร ผมจึงแก้ทุกข์ด้วยบทกวี ตั้งชื่อว่า “นิราศเชียงใหม่” ผมส่งมาให้อ่านเพียง 10 บท ที่เหลือค่อยนำไปให้อ่านในเวลาที่เราไป “เขียนบทกวี” ด้วยกัน

ผมไม่ใช่คิดถึง “ปะหล่อง” คนเดียว คิดถึงอาจารย์พ่วงด้วยครับ คิดถึงอาจารย์เขมรัฐ ราศีเมษ แม้แต่อาจารย์รุ่ง ใจมาก็อยู่ในห้วงแห่งความคิดถึงของผม

ผมหวังว่าสักวันหนึ่งเราคงได้เจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อาจารย์พ่วงวันที่ 26 มิถุนา (วันสุนทรภู่) ปีนี้ อาจารย์จัดกิจกรรมที่โรงเรียนแน่นอนใช่ไหมครับ ผมจะได้เตรียมข้อมูลไว้แต่เนิ่น ๆ

ทุกคนสบายดีนะครับ ผมสบายดีครับ อ้อ-ลืมบอกไปผมแต่งนิราศไว้ 3 เรื่อง เรื่องที่ 4 ก็คือนิราศเชียงใหม่นี้แหละ แต่ไม่ยาวเหมือน “นิราศเมืองแจ๋ม” “นิราศแม่สูน” เอาล่ะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เชิญอ่านนิราศเชียงใหม่ได้ในบัดนี้ครับ

นิราศเชียงใหม่

.........นิราศแล้ว “แก้วตา” อย่าใจหาย
จากเชียงใหม่ไปแดนดินถิ่นเชียงราย
เหมือนจะตายทั้งเป็นเย็นวันนี้

มาเชียงใหม่ไปกราบคารวะ
ผู้เป็นพระอาจารย์เคยสอนพี่
วัดพระนอน(ขอนม่วง)ยังดูดี
เป็นวัดที่พิพัฒน์น่าศรัทธา

พี่เคยอยู่วัดพระนอนตอนบวชเรียน
เคยอ่านเขียนบาลีดีนักหนา
เรียนรู้ธรรมคำสอนพระศาสดา
จำพรรษาบ่มใจในวัดพระนอน


มาเชียงใหม่ตั้งใจไปหาน้อง
แม่เนื้อทองไยจิตคิดหลอกหลอน
หลอกให้พี่ผิดหวังนั่งอาวรณ์
จะม้วยมรณ์วันนี้หรือชีวิต

เจ้าไม่น่าหลอกพี่เลยที่รัก
ให้หน่วงหนักทุกข์ถมระทมจิต
พี่รักเจ้าเฝ้าเชิดชูอยู่เป็นนิจ
ไยเจ้าคิดทำร้ายให้ตรอมตรม

ตะลึงเหลียวเปลี่ยวเปล่าให้เหงาจิต
โอ้ชีวิตล้นหลามความขื่นขม
คำสัญญานารีมีเพียงลม
ปวดระบมอุราน้ำตาริน


ดอยนางแก้ว, แก้วพี่อยู่ที่ไหน
แก้วไฉนมิเป็นเช่นถวิล
หรือว่าแก้วหลอกชายจนเคยชิน
หรือแก้วสิ้นรักพี่คนนี้แล้ว

แม่เจดีย์มองไปให้ใจหาย
ทั้งขวา-ซ้ายไร้สิ้นซึ่งกลิ่นแก้ว
เวียงป่าเป้าเป้าหมายคงไม่แวว
ไม่เพริศแพร้วพินิจในน้ำใจนาง

บาปกรรมทรยศคิดคดพี่
ไยคนดีไม่ตอบสนองบ้าง
ทั้งที่พี่รักเจ้าไม่จืดจาง
แต่เจ้าร้างไมตรีจนพี่ช้ำ


จากไกลไปเชียงรายไม่หายเศร้า
หัวใจเราปวดปร่าแสนระส่ำ
โอ้ “…………..” น้องพี่ไยใจดำ
ไม่น่าทำให้พี่นี้โศกา
ฯลฯ

 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 61.90.234.61 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:12:39:52 น.  

 
 
 
ท่านอาจารย์เขมรัฐครับ

ผมจะส่งนิราศเชียงใหม่ฉบับสมบูรณ์ไปลงตีพิมพ์ใน

วารสาร "หิรัญนคร" จะได้หรือเปล่าครับ

แต่ผมต้องขอเวลาเกลาสำนวนสักหน่อยนะครับ

ท่านอาจารย์ครับ, ผมกำลังเขียนบทความเรื่อง

"เด็กไทยในสถานพินิจ" อยู่ครับ เขียนเสร็จแล้วผมจะส่ง

ไปให้ครับ


 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 61.90.234.13 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:12:57:49 น.  

 
 
 
ปะหล่อง...
ไม่นึกว่าจะได้พบคนที่ใจอย่างท่าน
มิเสียแรงที่ร่วมอยู่ในสำนักเดียวกัน
นึกถึงแม้นว่าเป็นท่านชอ...อึ๋ย!
มิอยากนึกภาพ ป่านนี้เลือดเจิ่งนองท่วมยุทธภพ
และคงเปลี่ยนที่พำนักจากวังค้างคาวสู่วังสายบัวแล้ว
.....ตอนนี้น้ำหนักท่านชอลิ้วเฮียง 0.0085ตันแล้ว
ตอนเย็นจะกินกล้วย...และจะคอยฝันว่าได้ชนจอกกับ
ท่านอาจารย์หรรษา วัยสำเริงทุกค่ำคืนร่ำไป
 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 125.24.99.101 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:13:55:55 น.  

 
 
 
นิราศเชียงใหม่นี่น่าสนใจนะคะ มีเติมคำในช่องว่างด้วย

 
 

โดย: อ.ว.น. IP: 210.86.142.64 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:15:19:22 น.  

 
 
 
สาวรุ่งครับ
ส.ม.ศ เมือบ้านแล้วโล่งใจขนาด
ที่จริงก็ดีนะพี่สาวรุ่งสนใจเป็นส.ม.ศ
ลองสมัครดูนะครับวันละ3,000บาท
ลี้น้อยบารมีไม่ถึงรอสั่งสมสักสิบล้านปีก่อน
หึ หึ...
 
 

โดย: ลี้น้อย IP: 125.24.99.101 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:16:10:13 น.  

 
 
 
อีตรงที่ช่องว่างน่ะ

ช่วยเติมด้วยสิ

ให้มันรู้กันไปเลยว่าไผเป็นไผ

นะท่านอรุณนะ

อิอิ

แสนสงสารท่านอรุณผู้อุ่นอบ
จึงกลั่นกลอนมาช่วยด้วยน้อมนบ
เหมือนดังพบร่วมร่ำคำกวี

อ่านนิราศเชียงใหม่ใจจะขาด
นึกอนาถวาสนาชะตาพี่
ช่างเหมาะเหมือนตัวเราเศร้าฤดี
ไยสตรีใจร้ายทำลายเรา

จะหันเหเววนสู่หนไหน
ก็ไม่อาจทำใจให้หายเศร้า
วิบากกรรมครั้งนี้ไม่มีเบา
ดั่งภูเขาโถมทับให้อับปรา

กระไรเลยเหยียบย่ำให้ช้ำชอก
หากเจ้าบอกวาทีหรือทีท่า
ว่าสิ้นรักพี่แล้ว,โอ้แก้วตา
จะอุตส่าห์หลบลี้หนีหน้าไกล

แต่ที่ทำกับพี่นี้สุดแสน
ยิ่งกว่าความเจ็บแค้นเป็นไหนไหน
จึงมีแต่คำถามว่าทำไม ?
แม่ทรามวัยถึงทำได้ลงคอ

หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่าพี่รัก
มั่นสมัครดวงใจไม่ระย่อ
จากที่เคยอยู่ไกลไม่รั้งรอ
จึงวอนขอใทรามวัยมาใกล้กัน

............................

แต่ได้แค่นี้ครับ
มันกั๊ดอก



 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 203.148.195.194 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:19:22:21 น.  

 
 
 
...ขอแวะพักศาลาคนเศร้าแป๊บนึงนะครับ...
 
 

โดย: ตากล้อง IP: 125.25.128.29 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:23:10:34 น.  

 
 
 
ตรงช่องว่างนี่ต้องเติมคำที่ลงท้ายด้วยสระอีรึเปล่าน๊า
มันจะได้มีสัมผัสใน อ่านแล้วไพเราะเพราะพริ้ง
 
 

โดย: อ.ว.น. IP: 210.86.142.64 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:08:08 น.  

 
 
 
ถึง คุณปะหล่อง ที่รัก

เข้ามาหวัดดีค่ะ
 
 

โดย: กำลังทำพิธีกรรมเรียกผี IP: 68.100.234.191 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:36:11 น.  

 
 
 
เขมรัฐ <--- เป็นชื่อที่เท่ห์มาก
ป๋าพี นิยายเรื่องต่อไป พระเอกชื่อ เขมรัฐ นะ นะ นะ นะนะ นะ นะ นะ นะ นะ นะ
 
 

โดย: กำลังทำพิธีกรรมเรียกผี IP: 68.100.234.191 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:41:59 น.  

 
 
 
เขมรัฐเป็นชื่อของเมืองเชียงตุง ด้วยคิดว่ามีความผูกพันแต่อดีตชาติ หลงว่าตัวเองเป็นคนเชียงตุง จึงใช้นามนี้แทนนามจริงในวงวรรณ / ขอบใจหลายเด้อ.. แม่นาง

ถ้าปะหล่องอ่านตรงนี้ ช่วยลบบทกวีที่ซ้ำกันออกทิ้งไปสักสำนวนหนึ่งด้วย ให้ลบอันแรกเพราะมีตกหล่น / ซ้ำกันแบบนี้อายเพิ่น บ่เก่งเทคโนฯ กลายเป็นเทคโนโลว์..ยี

สำนวนของมหาอรุณเหมือนสไตล์ท่านภู่มาก คือยังอยู่ในยุคดึก..(ดึกดำบรรพ์) อัพเดทมั่งซี่ท่านมหา ใช้คำใหม่ ๆ บ้างคนรุ่นใหม่จะได้รับได้ อีกหน่อยคอยอ่านนิราศเชียงตุงนะ รอมีอารมณ์กวีเสียก่อน ตอนนี้ก๊งมากไม่ได้ ผื่นเต็มตัวไปหมด แพ้ทุกอย่างแม้กระทั่งสตรีสวย ๆ
 
 

โดย: เขมรัฐ ราศีเมษ IP: 202.129.1.190 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:10:46:58 น.  

 
 
 
ไปดูมาแล้วล่ะ


"จางวางดำ" หล่อจังเลยค่ะ..ช้อบบ..ชอบ

 
 

โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:11:22:30 น.  

 
 
 
เธอ
เธอ...สาวน้อยที่กล้าหาญ
ดั่งสายลมเย็นที่พัดโชยในฤดูอันร้อนร้าย
คือบ่อน้ำเย็นของคนไกลใกล้ตายพบเจอ
ก่อนที่เธอจะจากไป??????????????????????????
วันนั้น
แววตาในภาพถ่ายของเธอช่างสดใส
ฉันมองเห็นด้วยดวงใจอันพิสุทธิ์
???.....ฉันเห็นเช่นนั้น...
นั่นคือดวงตาของคนที่พร้อมเสมอที่จะบอก...ว่า
เธอมีแต่ความรักแก่เพื่อนมนุษย์ทุกคน
โอ...ช่างงดงามเหลือเกิน

สาวน้อยนี่หรือคือสิ่งที่เธอฝัน
มันตอกย้ำเส้นทางนักแสวงหา
เธอเฝ้าคิดเธอคอยฝันตลอดมา
อนิจจานี่หรือสิ่งตอบแทน

ตื่นเถิดสาวน้อยนักต่อสู้
กลับมาสู่หนทางที่เธอไฝ่
เถิดดวงดาวมาส่องแสงกลางดวงใจ
วันใหม่ฟ้าคงใสกว่าวันวาน

ด้วยจิตคาราวะ
นครรัฐ
 
 

โดย: นครรัฐ IP: 125.24.83.9 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:14:34:59 น.  

 
 
 
หายไปไหนกันหมด..[วุ้ย!]
ปะหล่อง
ท่านอรุณ
มหาเสเพล
สาวของรุ่ง
เจ้าชายยองแห่งเมืองเขมรัฐ
อ.ว.น
จงมา จงมา จงมา จงมา จงเมา จงเมา
จงมาววววววววววววววววววววววววววว เอิ้ก!
 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 125.24.83.9 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:15:34:12 น.  

 
 
 
หวัดดี..ลี้น้อย..
Take calm and peace naja : )
 
 

โดย: หึหึ IP: 202.57.189.4 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:09:23 น.  

 
 
 
สาวของรุ่ง
... .... .......
เอ.. ครายอ่ะ หึหึ
 
 

โดย: หึหึ IP: 202.57.189.4 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:11:49 น.  

 
 
 
มาแล้วล่ะ หากว่า..มิเมา..[วุ้ย!]

ทั่นลี้น้อย เห-งา หรอจ๊ะ หึหึ..


 
 

โดย: หึหึ IP: 202.57.189.4 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:17:00 น.  

 
 
 
เคยไหม..
ว๊าวุ่น..หวั่นไหว .. สับสน..
ว๊าเหว่..แม้อยู่ใน ..หมู่ชน..
จับต้น...ชนปลาย..มิได้เลย..

 
 

โดย: เคยป่ะ IP: 202.57.189.4 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:36:26 น.  

 
 
 
เคยรึ..ผู้คน..จึงอื้อ..เอื้อนเอ่ย..
ร้องเสียง..เดียวกัน..ฉันเคย..
วุ่นเอย..วุ่นวาย...คล้ายกัน..
ผู้หยิง...ผู้ชาย...มิแตกต่าง...
คนเดียว..อ้างว้าง...ไหวหวั่น..
ผู้ดี..ฤาไพร่ ...ทั้งนั้น...
ต่างล้วน...มีวัน...วุ่นวน..
 
 

โดย: เนาะ IP: 202.57.189.4 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:39:54 น.  

 
 
 
ใครทำฟ้าเศร้าหนอ..
ฟ้ากำลังร่ำไห้..กระซิก..กระซิก..

..
ฟ้าหลังฝน..
ขอ..รุ้ง..ตัวอ้วนนะ

 
 

โดย: นะ นะ นะ IP: 202.57.189.4 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:47:40 น.  

 
 
 
อัพบล็อกแล้วนะคะ
 
 

โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:17:05:15 น.  

 
 
 
ปะหล่องเพื่อนรัก...

วันนี้(6 มิ.ย.49)ผมโชคไม่ดีตั้งแต่เช้าเลยนะ, คอมพ์ที่ทำงานที่ผมเคยใช้อยู่เป็นประจำมีปัญหา ต้องพาไปส่งคลินิกโดยด่วน

อยากจะคุยกับมันจังเลยว่าทำไมมันต้องมาเจ็บป่วยตอนนี้ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้หมอจะรักษามันเสร็จทันหรือเปล่า ถ้ายังรักษาไม่เสร็จ ผมคงแย่แน่ ๆ เลย เพราะข้อมูลของผมที่อยู่ในคอมพ์มีมากมาย ภาวนาว่าอย่าให้มันอันตรธานไปเท่านั้น

อย่างไรก็ตามคิดแล้วก็ต้องปลง! ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับบุญและกรรม, ผมเชื่อเช่นนั้น

ผมกลับมาถึงบ้านพักเมื่อวานนี้ มาพานพบกับวิถีมนุษย์เงินเดือนอย่างมิอาจจะหลีกเลี่ยง เดือนนี้ผมต้องตื่นนอนแต่เช้าตรู่ทุกวัน เพราะต้องไปเข้าเวรเช้า

เรื่องงานผมว่ามันไม่หนักหนาอะไรหรอกนะ ที่มันหนัก! ก็คือเรื่องอคติของผู้บังคับบัญชานั่นเอง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไม เขาไม่ชอบคนที่เคยบวชเรียนเช่นผม ทุกวันนี้ผมมีแต่ธรรมะกับบทกวีเป็นที่พึ่ง เพราะธรรมะกับบทกวีไม่มีอคติต่อใคร
ฯลฯ จำได้ว่าเราเคยสนทนากันครั้งหนึ่ง ในเรื่องธรรมะ ปะหล่องบอกผมว่าชอบธรรมะที่ว่า
"สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ" รู้ไหมปะหล่องมันเป็นหัวใจของพุทธธรรมเลยนะ ซึ่งแปลว่า "สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวกู-ของกู" (ยืมคำแปลนี้มาจากหลวงปู่พุทธทาสภิกขุ)

- -----
-------
-------
 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.134.37 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:19:34:23 น.  

 
 
 
เผอิญแวะเข้า และได้ทราบถึงปัญหาท่านมหา..

อคตินั่นหรือ.. มันเกิดจากอะไร
เกิดจากอคติที่ไม่รู้จริง และแบบเหมาความ..
อคติเกิดจากทิดรุ่นก่อนสร้างไว้..
อคติว่าคนที่เคยครองผ้าเหลืองเป็นคนมักน้อยสมถะ..
อคติว่าทิดทั้งหลายเป็นคนไม่ทันคน ไม่เคยผ่านเข้ม..
อคติว่าคนเป็นทิดไม่มีประสบการณ์ของชาวคฤหัสถ์..
อคติว่าทิดทั้งหลายมะงุมมะงาหรา ไม่เต็มร้อยของความเป็นคนดิบ
อคิติว่าเป็นพวกเดียวกับพระและชี.. อยู่ในวัด

ทางออก
ทำอะไรลุย ๆ ไม่ต้องพะวักพะวน
ทำตัวให้เต็มร้อยคนดิบ(ฝืนๆก็ยังดี)
ชวนเขาหรือเพื่อนร่วมงานไปเลี้ยงสูราบ้าง..
อย่าทำตัวแบบคนสองเพศ..
อย่าเรียบร้อยเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
อย่าทำอะไรแปลกแยกกว่าคนดิบ
อย่าทำตัวเป็นคนภาคอื่น
อย่าเอานิสัยพระมาใช้นอกวัด
อย่าจีบผู้หญิงที่เขาหมายปอง
อย่าปล่อยไก่ออกมาบ่อย ๆ
ให้เขารู้เสียบ้างว่าเราก็แมน อาจเต็มร้อย
เฮ้อ หาทางย้ายไปทำอย่างอื่นก็ดี
เป็นครูดีไหมท่านมหา.. หรือสนง.วัฒนธรรมจังหวัด.. สำนักพุทธ( หน่วยงานหนึ่งของสนง.วัฒนธรรมฯ)
ลองเปลี่ยนงานบ้างถ้าทำได้
ขอโทษนะที่ตรงไปตรงมาอย่างนี้.. อย่าคิดมาก เสนอแนะเล่น ๆ เท่านี้เอง อมิตพุธ....
 
 

โดย: อจินไตย IP: 202.129.1.177 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:7:38:48 น.  

 
 
 
เข้าท่านะท่านอรุณ อุด จา ระ ปั้น โต
ลองทำตามพี่ท่านแนะนำน่าจะดี
คิดมากเยี่ยวเหลืองเปล่าๆปลี้ๆวุ้ย
พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว.....หึ หึ....
 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 125.24.70.20 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:8:56:01 น.  

 
 
 
เจ้าของบ้านหายยยยแซ๊บ!!!!!!!!





สงสัยกำลังไปค้นหาตัวตนที่แท้จริงอยู่
 
 

โดย: อ.ว.น. IP: 210.86.142.64 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:10:20:43 น.  

 
 
 
When i found myself in time of trouble..
Mother Mary came to say to me..
Speaking words of wisdom...
Let it be...
Let it be..
.. ... ... .... ..
ให้มันเป็นไป..
มันเป็นเช่นนั้นเอง..
. .. .. .... .... ....... ....
Let it be.... .. . .. . . .... . . ..
 
 

โดย: ; ) IP: 202.57.189.4 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:11:35:21 น.  

 
 
 
สวัสดีทั่นอรุณ..

"สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ"
"สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวกู-ของกู"
.. ... .... .... .....
เห็นด้วยกับที่ทั่นหยิบยกมา..
เฉกเช่นที่ทั่นกล่าวมาดังนั้นเอย.
 
 

โดย: สาวรุ่งริ่ง IP: 202.57.189.4 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:11:39:29 น.  

 
 
 
ทั่นลี้น้อย..

" กระบี่อยู่ที่ใจ "
..มิใช่ฤา.. ?
. .. .. .. ..
 
 

โดย: สาวรุ่ง; ) IP: 202.57.189.4 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:11:41:51 น.  

 
 
 
มาแย้ว ตามคำเรียกร้องของท่านชอว์
มหาเสเพลไปเสเพลที่เชียงของ มาในวันอาทิตย์
เจอครูตี๋ ลุงตุ๋ย ทองคร้าม ทองขาวด้วยล่ะ ลุงตุ๋ย
กลับไปเรียน โทที่ม.แม่โจ้ สื่อสารมวลชน นิเทศ
เจอ นพรัตน์ ละมุน ด้วย และแล้วพวกเราก็นั่งคุยกัน
ก่อนเที่ยงถึงเย็นย่ำ เมาครับเมา เมาแทบคลาน
เหล้าพื้นบ้านจากเชียงม่วน
อ้อ มีลุงน้อยกิ และชาวม้ง มาร่วมวงด้วย
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 203.113.51.4 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:11:48:39 น.  

 
 
 
เจริญพร คุณโยมอจินไตย

อาตมา...กำลังฉันข้าวแลงอยู่เน้อ

ฉันเสร็จค่อยคุยกันนะ

ที่โยมแนะนำมาก็เป็นทางออกที่ดี

เออ...โยม! ในตู้เย็นอาตมาว่างเว้นเบียร์หลายวันแล้วนะ

พรุ่งนี้โยมช่วยใส่บาตรให้สักลัง 2 ลังเน้อ เอ้า...รับพรไปก่อนนะ

"ยถา วาริวหา สีกาคนดี สัพพีตีโย แตงโม ลางสาด

มังคุด ละมุด ทุเรียน ธูป เทียน ดอกไม้ แกงไก่

แกงปลา หรือว่าแกงหมู แกงหอย ฮังเล ใส่บาตรทั้งเพ....

เจริญพร"

 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.144.245 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:12:02:36 น.  

 
 
 
สวัสดีครับพี่สาว

"สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ"
"สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวกู-ของกู"
.. ... .... .... .....
ยังคงเป็นบทกวีที่ผมท่องจำอย่างขึ้นใจ
และได้ปฏิบัติตามด้วย

แต่ผมมิใช่อรหันต์ จึงต้องหมองหม่นบ้างในบางคราว
พอสติกลับมาชีวิตจิตใจก็ ว่าง ดังเดิม

ขอบคุณมากครับที่ทักทายผม

 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.144.245 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:12:20:37 น.  

 
 
 
Let it be...
Let it be..
.. ... ... .... ..
ให้มันเป็นไป..
มันเป็นเช่นนั้นเอง..
. .. .. .... .... ....... ....
Let it be.... .. . .. . . .... . . ..

ตถตา สาธุ

ตถตา สาธุ

สุญญตา สาธุ


 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.144.245 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:12:23:03 น.  

 
 
 
เห็นอ้ายตุ๋ย ทองคร้าม จากภาพในงานที่สวนทูนอิน
เธอมิได้เปลี่ยนแปลงไปสักมากน้อยเนอะ
ที่เบาบางลงคงเป๋นหนวดเครากระมัง..
หวังว่าเธอคงสุขกายสบายใจ หนุกหนานกับการเรียน..

. ..
ชีวิต คือการศึกษา
การศึกษา หาใช่ ชีวิตเรา
เรียนรู้โลกและชีวิต
อุทิศ สร้างสรรค์ สังคมยุติธรรม..
.. ... ... ..
ทั่นอรุณ ปรมาลาภา..
ปรีดาที่ทั่น...ว่าง...ได้โดยพลัน..
สาธุ
สาธุ

Let it be..
 
 

โดย: ; ) IP: 202.57.189.4 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:13:36:23 น.  

 
 
 
รอบที่สามของการส่งเทียบเชิญ
ท่านอรุณที่รัก
จะชวนไปดูหนังกันกันสนใจมะ
"จู่ จู่ จะจิ้มจิ๋มหนู"
นางเอกชื่อ"คันโม๊ะจัง"
นางร้ายคนสวย"คัน ปิ๊ จัง"
พระเอกหน้าใส"ยุง บิน ชุม"
รอบปฐมฤกษ์ตอ้งถามท่านมหาเสเพลดู
นั่นแหละผู้กำกับตัวเอ้
เจ้าชายยองแห่งนครเขมรัฐเขียนบท
ปะหล่องเจ้าของบทประพันธ์ดั้งเดิม
ท่านชอตัวยุและเก็บตังค์
 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 125.24.92.243 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:15:52:55 น.  

 
 
 
Rate XXX
Rate super XXX

 
 

โดย: Umh.. IP: 202.57.189.4 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:16:21:29 น.  

 
 
 
ทั่นชอฯ..
อืม..
รอบที่สามของการส่งเทียบเชิญ
ท่านอรุณที่รัก
จะชวนไปดูหนังกันกันสนใจมะ
.....
......
.......
อืม..แง่บ่องามเน้อ..
ชอบกันก็บอกกันตรงๆเนาะ
 
 

โดย: สาวรุ่งริ่ง IP: 202.57.189.4 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:16:39:05 น.  

 
 
 

นิราศเชียงใหม่


(1) นิราศแล้ว “แก้วตา” อย่าใจหาย
จากเชียงใหม่ไปแดนดินถิ่นเชียงราย
เหมือนจะตายทั้งเป็นเย็นวันนี้

มาเชียงใหม่ไปกราบคารวะ
ผู้เป็นพระอาจารย์เคยสอนพี่
วัดพระนอน(ขอนม่วง)ยังดูดี
เป็นวัดที่พิพัฒน์น่าศรัทธา

พี่เคยอยู่วัดพระนอนตอนบวชเรียน
เคยอ่านเขียนบาลีดีนักหนา
เรียนรู้ธรรมคำสอนพระศาสดา
จำพรรษาบ่มใจในวัดพระนอน


มาเชียงใหม่ตั้งใจไปหาน้อง
แม่เนื้อทองไยจิตคิดหลอกหลอน
หลอกให้พี่ผิดหวังนั่งอาวรณ์
จะม้วยมรณ์วันนี้หรือชีวิต

เจ้าไม่น่าหลอกพี่เลยที่รัก
ให้หน่วงหนักทุกข์ถมระทมจิต
พี่รักเจ้าเฝ้าเชิดชูอยู่เป็นนิจ
ไยเจ้าคิดทำร้ายให้ตรอมตรม

ตะลึงเหลียวเปลี่ยวเปล่าให้เหงาจิต
โอ้ชีวิตล้นหลามความขื่นขม
คำสัญญานารีมีเพียงลม
ปวดระบมอุราน้ำตาริน


ดอยนางแก้ว, แก้วพี่อยู่ที่ไหน
แก้วทำไมมิเป็นเช่นถวิล
หรือว่าแก้วหลอกชายจนเคยชิน
หรือแก้วสิ้นรักพี่คนนี้แล้ว

แม่เจดีย์มองไปให้ใจหาย
ทั้งขวา-ซ้ายไร้สิ้นซึ่งกลิ่นแก้ว
เวียงป่าเป้าเป้าหมายคงไม่แวว
ไม่เพริศแพร้วพินิจในน้ำใจนาง

บาปกรรมทรยศคิดคดพี่
ไยคนดีไม่ตอบสนองบ้าง
ทั้งที่พี่รักเจ้าไม่จืดจาง
แต่เจ้าร้างไมตรีจนพี่ช้ำ


จากไกลไปเชียงรายไม่หายเศร้า
หัวใจเราปวดปร่าแสนระส่ำ
โอ้ “…………..” น้องพี่ไยใจดำ
ไม่น่าทำให้พี่นี้โศกา


(2)อนิจจาชีวิตยามผิดหวัง
จิตคลุ้มคลั่งสับสนเหมือนคนบ้า
ทรมานหม่นหมองนองน้ำตา
จวบจะห้าโมงเย็นลำเค็ญครัน

โอ้ความรักรุมใจให้นึกหวน
ไม่เว้นครวญถึงนารีที่เฝ้าฝัน
กรรมอะไรมาพรากให้จากกัน
ปานชีวันจมพื้นปฐพี

หรือว่าแก้ว "..............." ศรีสวัสดิ์
เจ้าข้องขัดไม่อยากรับรักพี่
เพราะรังเกียจเบื่อหน่ายชายกวี
ช่วยบอกทีจะได้ไม่อาวรณ์

ฯลฯ
ฯลฯ

ปะหล่องครับ...

"นิราศ" เรื่องนี้ยังไม่ลงเอยนะครับ, จริง ๆ แล้วผมเป็นคนนครศรีธรรมราช ถนัดการแต่งโคลง กับแต่งกาพย์มากกว่าแต่งกลอน

ตอนที่ผมฝึกหัดเป็นกวีใหม่ ๆ, ผมได้นำผลงานที่ผมแต่งไปให้อ้ายแสงดาวอ่านดู และให้ช่วยวิจารณ์ อ้ายแสงดาวบอกว่าผมมีกลิ่นอายของท่านอังคารมากเกินไป คือแต่งกลอนไม่ไพเราะ ขาดสัมผัสใน

และเมื่อครั้งที่ผมส่งบทกวีไปให้พี่กนกพงษ์ สงสมพันธุ์ พิจารณาตีพิมพ์ในนิตยสารไรเตอร์(รายเดือน)ก็ได้รับคำวิจารณ์ว่ามีกลิ่นอายของท่านอังคารมาก พี่กนกพงษ์ได้แนะนำให้ผมอ่านงานของท่านอาจารย์เนาวรัตน์มาก ๆ

ต่อมาผมส่งบทกวีไปให้อาจารย์ไพลิน รุ้งรัตน์พิจารณาตีพิมพ์ในนิตยสาร "ศรีสยาม" ผมก็ได้รับคำแนะนำหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการเป็นกวี ในคำแนะนำของอาจารย์ไพลินบอกว่ากลอนของผมไม่ค่อยไพเราะเช่นเดียวกัน

เมื่อปี พ.ศ.2538 ผมทดลองแต่ง "นิราศแม่สูน" ตามแบบอย่างของสุนทรภู่ แน่นอนผมต้องเห็นความงามในการใช้ภาษาของสุนทรภู่ ผมจึงลองเดินตามบ้างซึ่งไม่ถือว่าจะเสียหายอะไร

ผมยอมรับว่าผมคนหนึ่งที่ชอบการใช้ภาษาของสุนทรภู่

กล่าวเฉพาะ "นิราศเชียงใหม่" นี้ ผมแต่งได้อย่างไรก็ไม่รู้ การแต่งนิราศปะหล่องก็รู้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าใครมือไม่ถึง ไม่มีคลังคำ ไปจับแต่งนิราศเข้ารับรองว่าขาดอรรถรสอย่างแน่นอน ผู้อ่านก็จะเบื่อเร็วด้วย เพราะนิราศนั้นมันมี "ขนบ" เฉพาะของมันอยู่

ผมอยากให้ปะหล่องช่วยชี้แนะผมบ้าง แน่นอนผมต้องนำนิราศเชียงใหม่ฉบับสมบูรณ์ไปให้ปะหล่องอ่านเป็นคนแรก ผมจะลงทุนพิมพ์ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม

คิดถึงปะหล่อง, และมิตรน้ำหมึกทุกคนเสมอครับ



 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.134.137 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:20:23:06 น.  

 
 
 
อย่างผมหรือจะกล้าชี้แนะท่านอรุณ

อุปมาดังทรกาปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมไปสอนหนังสือให้สังฆราชา

ผมไม่กล้ารับหรอกครับท่าน

แต่จะให้อ่านนั้นยินดีเป็นที่ยิ่ง

ยิ่งอ่านไปด้วยร่ำสุรากันไปด้วย

ความคิดต่อยอดมันก็จะหลั่งไหลมาเอง

ดีไม่ดี จากสิบทอาจจะกลายเป็นร้อยบทก็ได้

ใครจะรู้

ขอบคุณท่านอรุณและญาติ ๆ ทุกท่านที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนอย่างสม่ำเสมอ

เจ้าของบ้านอาจหายหน้าหายหัวไปบ้าง

ก็ด้วยภาระหน้าที่รับผิดชอบ

(ความจริงก็คือขี้เกียจนั่นแหละ อิอิ)

ญาติ ๆ ทุกท่านได้โปรดอย่าถือสาเลยครับ

ให้คิดเสียว่าที่นี่เป็นที่สาธารณะก็แล้วกัน

ใครใคร่เขียน เขียน

ใครใคร่อ่าน อ่าน

ใครใคร่วิจารณ์ วิจารณ์

ใครใคร่ชม ชม

ใครใคร่นัดแนะกันไปร่ำสุราฮาเฮที่ไหนก็ว่ากันตามสบาย

ขออย่างเดียว อย่าด่าและหรือทะเลาะกันก็พอ

อิอิ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 203.148.195.194 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:21:12:11 น.  

 
 
 
อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา
คำบางคำอาจไม่เสนาะหู
ขอสมาทุกท่านที่อาจไม่พึงพอใจ
มีความรักมาฝากทุกท่านครับ
 
 

โดย: ลี้น้อย IP: 125.24.98.49 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:9:29:01 น.  

 
 
 
นิราศเชียตุง
มารู้ตัวลืมตาเมื่อฟ้าสาง
กลิ่นกำจายชาชินใช่กลิ่นนาง
เป็นกลิ่นจางติดหมอนเมื่อนอนรอ

เจ้าของรถข่มขู่เช้าตรู่แล้ว
ไยไร้แววพวกขี้เมาเช้าแล้วหนอ
ที่ตื่นเต้นกะดี๊กะด๊ามาอยู่รอ
ทำหน้างอพวกตื่นสายหายหน้ากัน

คนขี้เซาเขานอนอีกห้องหนึ่ง
ใช่ล้อเล่นเป็นถึงกวีใหญ่
มาเสียรู้เสียคนก็เพราะใคร
หนักเมรัยเย็นวานพาลหมดแรง

ถึงแม่สายสายใยใจจะขาด
จะจากชนเชื้อชาติใจเริ่มแกว่ง
จะเดินหน้ายังมาห่วงหลังระแวง
เกรงแก้มแดงถูกเขาหอมยอมว่าหวง

พบอนงค์หลงกลุ่มกระชุ่มกระชวย
มาแกล้งเดินนาดนวย ยามวัยล่วง
มารู้ความเบ็ดเสร็จ ข่าวเด็ดดวง
คือไกด์สาวเป็นเพื่อนพ่วงบรรยายความ

นามสาวน้อยใสซื่อชื่อ บัวขาว
ไว้ผมยาวน่ารักน่าทักถาม
พวกหนุ่มใหญ่ไฟลุกเหลือบมองตาม
หลงหุ่นงามไกด์เชียงตุงเหมือนยุงตอม

บรรยากาศเมษาฯอากาศอ้าว
ไม่ปวดร้าวเท่าโชคชัยไข้จับคร่อม
ถอนกี่จอกยังกระฉอกไม่ยินยอม
ทำหน้าตรอมเป็นตลกตกสุรา

คนข้างเคียงเพียงมิตรในน้ำหมึก
ให้รู้สึกคออ่อนตอนทุ่มกว่า
เป็นซีไรท์มาถูกหลอกหลงวาจา
ธัญญทิพย์พี่ข้าไม่ดูแล

นึกสงสารกวีหนุ่มสำรวจลึก
ไม่ยอมคึกหรือเกิดกลัวคำเย้าแหย่
ประกายพฤกษ์เยาะเย้ยคนขี้แย
กินแล้วแก้อีกสักจอกอยู่นอกแดน

เพียงเริ่มต้นนิราศแรกดูรุ่มร่าม
บรรยายได้ไม่งามไม่ถึงแก่น
ท่านอรุณคงนึกชังอ่านแกนแกน
คารวะสักสิบแสนใช่ล้อเลียน
ฯลฯ

 
 

โดย: คนยอง IP: 202.129.1.179 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:10:26:15 น.  

 
 
 
ถึงปะหล่อง อาจารย์พ่วง

วันนี้ผมดีใจมาก
เพราะพี่รายา ผกามาศ (อยู่เชียงราย) โทร.มาหาผม บอกว่าให้ผมช่วยบอกปะหล่องด้วย วันนี้นัดเจอกันที่ร้านกาแฟดอยช้าง ในตัวเมืองครับ เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

ผมจะโทรหาปะหล่องอีกทีนะครับ
 
 

โดย: ผู้แต่งนิราศเชียงใหม่ IP: 210.246.159.1 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:10:29:06 น.  

 
 
 
ปะหล่อง
อย่าลืมเรื่องที่ไหว้วานไว้
ข่าวคราวผลเป็นอย่างไร
ขานไขแจ้งให้พี่ที
 
 

โดย: พ่วง ง่วงเหล้า IP: 125.24.98.49 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:10:40:53 น.  

 
 
 
แจ้งข่าวอีกครั้งครับ

เมื่อตอนเช้านี้ (วันที่ 8 มิ.ย.49) พี่รายา ผกามาศ โทร.มาหาผม บอกว่าวันนี้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป พวกเรานัดเจอกันที่ร้านกาแฟดอยช้าง ในตัวเมืองเชียงราย
พี่รายา บอกว่าให้ผมแจ้งให้ปะหล่องทราบด้วย

ดังนั้นผมจึงแจ้งข่าวให้มิตรน้ำหมึก (อีกทั้งมิตรน้ำเมา) ในเชียงรายทราบโดยทั่วถึงกันนะครับ

ปะหล่อง อาจารย์พ่วงต้องมาให้ได้นะครับ บ่ายวันนี้ผมจะโทร.หาปะหล่องและอาจารย์พ่วงอีกครั้ง

วันนี้พี่รายาจะนำหนังสือ "ใกล้จุดเยือกแข็ง" มามอบให้ด้วย

อาจารย์รุ่ง อาจารย์เขมรัฐได้ทราบข่าวนี้แล้ว ถ้าว่างก็เชิญมาร่วมวง ร่วมม่วนด้วยนะครับ

ทุกครั้งแห่งการพบกันของหมู่เฮานำมาซึ่งความสุข...ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ

 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.146.176 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:11:03:05 น.  

 
 
 
เง้อออออ...เสียดายจังที่ซื้อ"ใกล้จุดเยือกแข็ง"ไปก่อนแล้ว
ไม่งั้นคงได้ฟรีอีกหลายเล่ม....อิอิ
ลุง ๆ นักเขียนในเล่มล้วนใจดีๆท้างน้าน
 
 

โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:12:46:06 น.  

 
 
 


บทกวีหนะ...ส่งกันมารึยัง

ปุจฉา...
ระหว่างชีวิต งานและความรัก คุณว่ามันแยกกันออกได้มั้ย!?
 
 

โดย: ภู เชียงดาว IP: 203.156.71.60 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:13:22:15 น.  

 
 
 
บล๊อกใครฟระ น่าอิจฉา

ขนาด คอมเม้นต์ ยังอ่านสนุกเลยอ่ะ

อิจฉาวุ๊ยส์
 
 

โดย: madamepi วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:16:13:00 น.  

 
 
 
เพียงเริ่มต้นนิราศแรกดูรุ่มร่าม
บรรยายได้ไม่งามไม่ถึงแก่น
ท่านอรุณคงนึกชังอ่านแกนแกน
คารวะสักสิบแสนใช่ล้อเลียน


ครับ! อาจารย์

ม่วนดีครับ

แต่งต่อนะครับ

ผมรออ่าน

***
ปะหล่องครับ

ส่งบทกวีไปให้อ้ายภูแล้วหรือยัง






 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.134.137 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:16:19:42 น.  

 
 
 
ลี้น้อย...



 
 

โดย: หึหึ IP: 202.57.189.4 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:16:33:19 น.  

 
 
 

สำหรับ....ลี้น้อย.......
 
 

โดย: หึหึ IP: 202.57.189.4 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:16:34:42 น.  

 
 
 
มาฟังนิราศ
 
 

โดย: สวนลอยแห่งบาบิโลน วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:18:04:10 น.  

 
 
 
เจ้า คนเจียงใหม่แต๊ ๆ เจ้า

แต่ บ่เดี่ยวนี้ มาทำมาหากิ๋นไก๋บ้าน

ทำงานอยู่เมืองชลฯ เจ้า

คุณปะหล่อง คนละปูน ไปอยู่เจียงฮาย ยะก๋านใกล้บ้านดีเน๊าะ เจ้า

ยินดีตี้ได้ฮู้จักเจ้า
 
 

โดย: varissaporn327 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:21:28:37 น.  

 
 
 

ขอคาระวะ 1จอก..คับ ลุงหล่อง

มาเยี่ยมคับ

" จะเหนื่อยจะทนต่างดิ้นรนกันไป จะอยู่แห่งไหนหน่อ ความจริง.."
 
 

โดย: เทียมฟ้า (benjarong9 ) วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:9:13:57 น.  

 
 
 
สบายดีนะครับ...น้าหล่อง...
 
 

โดย: ตากล้อง (ตากล้อง ) วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:9:33:21 น.  

 
 
 
ปะหล่องครับ

วันนี้ผมนั่งเขียนบทกวีอยู่ที่ทำงาน เพราะว่าไม่ต้องทำหน้าที่อบรมเด็กฯ 1 วัน

เขานำเด็กไปเข้าร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล หลังจากนั้นเด็กและเยาวชนก็ไปร่วมแข่งกีฬา "ฟุตซอล คัพ ฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี" ที่ โรงยิมเนเซี่ยม สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย

เมื่อวานนี้ หัวหน้านัดประชุมเจ้าหน้าที่ ผมสมัครใจเฝ้าสำนักงาน เพราะสบายใจดี อีกอย่างได้มีเวลาเขียนบทกวีด้วย

 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 210.246.159.1 วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:9:48:28 น.  

 
 
 
เพียงเริ่มต้นนิราศแรกดูรุ่มร่าม
บรรยายได้ไม่งามไม่ถึงแก่น
ท่านอรุณคงนึกชังอ่านแกนแกน
คารวะสักสิบแสนใช่ล้อเลียน

(อยากอ่านนิราศเชียงตุงต่อครับ อย่าให้รอนานนะครับ)
 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 210.246.158.1 วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:10:22:51 น.  

 
 
 
นิราศเชียงตุง(๒)
ในเส้นทางกลางทุ่งเห็นควายท่อง
ผืนนาหมองบินหวือวกนกนางแอ่น
บรรยากาศหดหู่ใช่ดูแคลน
เหมือนดั่งแดนล้านนาสักห้าสิบปี

ยังบ้านนอกคอกนากว่าเรานัก
ให้นึกถึงคนรักนวลฉวี
ป่านฉะนี้คิดถึงบ้างก็ยังดี
ใช่คิดหนีหน้านางแรมทางไกล

ถึงท่าเดื่อเหลืออดบอกรถจอด
ขอฉี่ลอดห้องน้ำบ่นทนไม่ไหว
เป็นตำบลที่เจริญถ้าเทียบไทย
ก็ไม่ใหญ่ไปกว่าบ้านนาดง

เหลือบเห็นประกายพฤกษ์ยึกแต่ขวด
หมั่นยกดวดกับท่านทิพย์ฯและท่านโอ่ง
เสียงเริ่มแรงแข่งกันดื่มจนรถโคลง
พวกผู้หญิงคุยขโมงหัวเราะตาม

คิดถึงเหล่าสุราไม่มาด้วย
ปะหล่อง/พ่วง/อรุณรวยมิมาพล่าม
ถึงหากมาคงได้คุยถึงเรื่องกาม
จะงดงามทางอารมณ์ผสมเมา
ฯลฯ
(กลัวคนหมั่นไส้ พอแค่นี้ก่อน / แต่บอกก่อนนะนี่คือเรื่องจริง วันนั้นโชคชัย บัณฑิตฯเมาค้างอ๊วกตลอดทาง)
 
 

โดย: คนยอง IP: 202.129.1.173 วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:10:29:10 น.  

 
 
 

คิดถึงเหล่าสุราไม่มาด้วย
ปะหล่อง/พ่วง/อรุณรวยมิมาพล่าม
ถึงหากมาคงได้คุยถึงเรื่องกาม
จะงดงามทางอารมณ์ผสมเมา
(คัดจากนิราศเชียงตุง(๒) : คนยอง)


....เสียดายที่ไม่ได้ตามไปด้วย

จึงไม่เห็นความสวยของสาวเจ้า

อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายไร้นงเยาว์

ชีวิตเราไฉนสิ้นกลิ่นนารี


"อรุณ อโรคยา" ไยอาภัพ

ไร้หญิงรับเป็นคู่ชูราศี

ฝากหัวใจในรสบทกวี

ท่องวิถีอิสระพุทธธรรม


เกิดเป็นคนหลงใหลในวัตถุ

จิตปะทุหม่นไหม้ไฟกระหน่ำ

เปรียบเสมือนสัตว์ป่าหน้ามืดดำ

ชีวิตช้ำเกิดมาน่าอายครัน

(ยามแลงมาทักทายมิตรสหายครับ
ก็เป็นธรรมดาครับ} ผมเป็นกวี ก็ต้องทักทายกันด้วย ภาษากวี,อย่าเพิ่งเบื่อหน่ายกวีนะที่รัก!? : อรุณ อโรคยา)




 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 210.246.159.1 วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:13:48:13 น.  

 
 
 
ท่านอาจารย์เขมรัฐครับ

ไม่ทราบว่ารู้จัก "คุณธวัชชัย คิดอ่าน" หรือเปล่า

เขาเป็นนักเขียน ผมทราบว่าปัจจุบันเขาอยู่ที่เชียงราย

ถ้าอาจารย์รู้จักช่วยบอกว่าพี่รายา ผกามาศ ฝากหนังสือ

"ใกล้จุดเยือกแข็ง" ไว้ให้ 2 เล่ม หนังสืออยู่ที่ผมครับ


 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 210.246.159.1 วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:13:55:56 น.  

 
 
 
แด่...ท่านมหาอี้ เอ้อ มหาอรุณ

จำพรากจากเชียงรายไม่หายเศร้า
หัว....ใจ..เราแสนพลุกพล่านพาลระห่ำ
โอ้เนินนางนวลพี่ไยใจดำ
ไม่น่าทำให้มหาค้างคา...ใจ
มหาเสเพล
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 125.25.11.231 วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:15:02:33 น.  

 
 
 
ถึง ท่านเขมรัฐ

สุภาษิตไทยมีว่า
ไม่เห็นน้ำอย่าตัดกระบอก
ไม่เห็นกระะรอกอย่าโก่งห้าไม้

แล้วเ็ป็นไงไปเมืองลา ไม่ถึงเมืองลา ฮานี้บ่าเฮ้ย

สุภาษิตลาว มิว่า
บ่เห็น... อย่าเสือกค็วยไว้ถ้่า
แล้วเ็ป็นไงไปเมืองลา ไม่ถึงเมืองลา ฮานี้บ่าเฮ้ย
ยืนยันว่าเป็นสุภาษิตลาว ประเทดลาว เพราะอาจารย์ผม
อาจารย์อนาโตล บอกไว้ครับท่าน



 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 125.25.11.231 วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:15:09:55 น.  

 
 
 
ซำบ๋ายดีบ่อค้า น้าหล่อง

 
 

โดย: นางสาวอาร์ต วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:1:45:10 น.  

 
 
 
นิราศเชียงตุง๓
ตะวันรอนโรยแสงฟ้าแดงเรื่อ
หมู่สาวไตเปลือยเนื้อริมเนินเขา
ลงอาบน้ำลำธารรถผ่านเบา
แวะจอดมองสาวเจ้าสบายตา

กล้องถ่ายรูปจับภาพคนอาบชื่น
หน้าระรื่นเหนียมอายตามประสา
พวกหนุ่มไทยใหญ่น้อยหัวนาคา
ทำเป็นว่าชมวิวสยิวครัน

กว่าจะถึงเมืองลาก็เย็นย่ำ
รีบอาบน้ำแต่งตัวดูมาดมั่น
แม่สาวสวยหน้าหมวยถูกเรียกพลัน
เสนอหน้าเสียเดี๋ยวนั้นหัวใจจะวาย

สาวเมืองลามาจากจีนอยู่ถิ่นนี้
รู้ทีหลังเป็นกะหรี่มี(....)ของขาย
เป็นเมืองแห่งโลกีย์เชื้อเชิญชาย
ช่างน่าอายชั้นลูกหลานพาลไม่แล

มีอีกอย่างเกรงใจคนไปด้วย
ทั้งสาวสวยผ่องขาวทั้งไขแข
ควรให้เกียรติอย่าเริงกามย่ำยีแก
เขาจะว่าไอ้แก่ไม่เจียมตน

หลังมื้อค่ำย่ำราตรี่ที่ตลาด
มีปางวาดนักพนันแทงกันป่น
พอแยกทางห่างหญิงใจเริ่มซน
ทัศนาบนถนนแห่งราตรี

พวกสาวน้อยเรียงหน้ามาให้เลือก
ดูแต่เปลือกก็ว่างามอยาก(......)สุขขี
แต่คิดไปก็เท่านั้นอันนารี
เล็กอ้วนมี สูงใหญ่ไม่แปลกเลย

มัวแต่คิดถึงแก่นธรรม(....)กรรมก็หด
ไม่อยากเป็นคนใจคดหรอกเมียเอ๋ย
เจ้าอยู่เรือนรอท่าข้าฯชดเชย
ใจก็เลยไม่กล้าลองเฮ็ดของดี

มาเมืองลาแต่ไม่ถึงไม่ท้อถอย
สาวเมืองจีนยังรอคอยอีกคืนนี่
สะกิดแขนท่านทิพย์เป็นพิธี
ว่าที่นี่ไม่ถูกใจต้องไปจีน

คนขี้ขลาดเลยคลาดแคล้วแห้วเสียได้
เสียดายเงินเสียดายใจหรือผิดถิ่น
ผิดคนรักผิดเชื้อชาติไม่ชาชิน
ก็เลยสิ้นลายเสือไม่เหลือชาย
ฯลฯ
( ท่านทิพย์เอาต่อสักหน่อยดีไหม ? )




โดย: คนยอง IP: 202.129.1.169 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:7:30:22 น.
 
 

โดย: คนยอง IP: 202.129.1.169 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:7:47:09 น.  

 
 
 
 
 

โดย: madamepi วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:9:45:10 น.  

 
 
 
อันตัวข้าพเจ้านั้นมิสามารถดั่งท่านเจ้าชายยองและท่านมหาเสเพล......เหตุเพราะ
นกตะกรุมกลุ้มเกลื่อนท้อง ทุ่งนา
คุ่มคุ้มสุ่มจับปลา ปากโง้ง
ขยอกขยอกกลอกเหนียงพา เพื่อนเที่ยว เกี่ยวแฮ
ศรีษะกระกรุมโล้ง เล่ห์ล้านบ้านเรา

ขอให้หล่อเหมือนพี่ท่านทั้งสองเถอะจะจีบกระเทยเป็น
ว่าเล่น......[เผื่อท่านเจ้าชายยองและมหาเสเพล]
โอ้ย....ฟ้าผ่า....
 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 203.148.195.194 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:16:02:02 น.  

 
 
 
สำหรับพี่สาวรุ่ง คนงาม
 
 

โดย: ลี้น้อย IP: 203.148.195.194 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:16:05:56 น.  

 
 
 
ก่อนมื้อเย็นอากาศเย็นแก้วก็เย็น
ใจยังนึกว่าจำเป็น จำเป็นแน่..
เพียงเย็นย่ำน้ำเย็นเย็น เป็นเพื่อนแท้
มานั่งแก้สำนวนกวนหน้าจอ..

ท่านมหาอรุณครุ่นถามถึง
ธวัชชัยคนลึกซึ้งอยู่ไหนหนอ
..ไม่รู้จัก ไม่มักคุ้น ไม่รีรอ..
เพื่อตอบข้อสงสัยไม่ทราบจริง

ป่านฉะนี้จะนั่งดวดกอดขวดเหล้า
อย่ามัวเหงาคิดทำไม ไยสุงสิง
เขาจะอยู่ที่ไหนไยท้วงติง
ทางที่ดีคิดถึงหญิงจะเข้าที

ถามประกายพฤกษาอาจรู้จัก
เขาเป็นนักการฑูตที่ถ้วนถี่
ผิดกับเราพอเดาความไปตามมี(ตามเกิด)
จำแต่ชื่อสตรีไม่มีลืม แฮ่...
 
 

โดย: เขมรัฐ IP: 202.129.1.171 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:19:00:58 น.  

 
 
 
นิราศเชียงใหม่
(อรุณ อโรคยา)

(1) นิราศแล้ว “แก้วตา” อย่าใจหาย
จากเชียงใหม่ไปแดนดินถิ่นเชียงราย
เหมือนจะตายทั้งเป็นเย็นวันนี้

มาเชียงใหม่ไปกราบคารวะ
ผู้เป็นพระอาจารย์เคยสอนพี่
วัดพระนอน(ขอนม่วง)ยังดูดี
เป็นวัดที่พิพัฒน์น่าศรัทธา

พี่เคยอยู่วัดพระนอนตอนบวชเรียน
เคยอ่านเขียนบาลีดีนักหนา
เรียนรู้ธรรมคำสอนพระศาสดา
จำพรรษาบ่มใจในวัดพระนอน


มาเชียงใหม่ตั้งใจไปหาน้อง
แม่เนื้อทองไยจิตคิดหลอกหลอน
หลอกให้พี่ผิดหวังนั่งอาวรณ์
จะม้วยมรณ์วันนี้หรือชีวิต

เจ้าไม่น่าหลอกพี่เลยที่รัก
ให้หน่วงหนักทุกข์ถมระทมจิต
พี่รักเจ้าเฝ้าเชิดชูอยู่เป็นนิจ
ไยเจ้าคิดทำร้ายให้ตรอมตรม

ตะลึงเหลียวเปลี่ยวเปล่าให้เหงาจิต
โอ้ชีวิตล้นหลามความขื่นขม
คำสัญญานารีมีเพียงลม
ปวดระบมอุราน้ำตาริน


ดอยนางแก้ว, แก้วพี่อยู่ที่ไหน
แก้วทำไมมิเป็นเช่นถวิล
หรือว่าแก้วหลอกชายจนเคยชิน
หรือแก้วสิ้นรักพี่คนนี้แล้ว

แม่เจดีย์มองไปให้ใจหาย
ทั้งขวา-ซ้ายไร้สิ้นซึ่งกลิ่นแก้ว
เวียงป่าเป้าเป้าหมายคงไม่แวว
ไม่เพริศแพร้วพินิจในน้ำใจนาง

บาปกรรมทรยศคิดคดพี่
ไยคนดีไม่ตอบสนองบ้าง
ทั้งที่พี่รักเจ้าไม่จืดจาง
แต่เจ้าร้างไมตรีจนพี่ช้ำ


จากไกลไปเชียงรายไม่หายเศร้า
หัวใจเราปวดปร่าแสนระส่ำ
โอ้ “…………..” น้องพี่ไยใจดำ
ไม่น่าทำให้พี่นี้โศกา


(2)อนิจจาชีวิตยามผิดหวัง
จิตคลุ้มคลั่งสับสนเหมือนคนบ้า
ทรมานหม่นหมองนองน้ำตา
จวนจะห้าโมงเย็นลำเค็ญครัน

โอ้ความรักรุมใจให้นึกหวน
ไม่เว้นครวญถึงนารีที่เฝ้าฝัน
กรรมอะไรมาพรากให้จากกัน
ปานชีวันจมพื้นปฐพี

หรือว่าแก้ว "..............." ศรีสวัสดิ์
เจ้าข้องขัดไม่อยากรับรักพี่
เพราะรังเกียจเบื่อหน่ายชายกวี
ช่วยบอกทีจะได้ไม่อาวรณ์

(3) พี่จะได้ตัดขาดสวาทเจ้า
ไม่ใฝ่เฝ้ารักมั่นเหมือนวันก่อน
จะตัดใจจากเจ้านิรันดร
ทุกบทตอนจะจำคำหลอกลวง

ถึงแม่สรวย, พี่นี้ไม่มีสุข
ระทมทุกข์เหว่ว้าน้ำตาร่วง
สวยของเจ้าที่เห็นว่าเด่นดวง
ระบมทรวงเพราะสวยนั้นมันของปลอม

ทั้งสวยเนตรสวยหน้าพาใฝ่ฝัน
แต่สวยนั้นไม่ควรคิดถนอม
สวยของเจ้าหลอกชายให้ตรมตรอม
ไม่อยากหอมสวยพิษระอิดระอา

บ้านร่องขุ่นอุ่นใจได้เห็นวัด
น้อมมนัสระลึกถึงศาสนา
โบสถ์สีขาวผ่องผุดสุดโสภา
โอ้อุราแจ่มชัดสัจธรรม

ท่านอาจารย์เฉลิมชัยตั้งใจสร้าง
เป็นแบบอย่างพุทธศิลป์อันสวยฉ่ำ
วัดร่องขุ่นแห่งนี้ดีเลิศล้ำ
จึงเขียนคำร้อยกรองยกย่องวัด

หน้าบิ๊กซีผู้คนสับสนยิ่ง
ทั้งชาย-หญิงชีวิตเหมือนติดขัด
ทุกใบหน้าลำเค็ญเห็นได้ชัด
สารพัดวุ่นวงหลงโลกีย์

หนึ่งทุ่มกว่ารถมาถึงท่ารถ
แสนรันทดกมลหม่นหมองศรี
ถึงเชียงรายไม่หายร้อนฤดี
โอ้อกพี่เทวษถวิลครวญ

***คิดถึงแก้ว "..............." สุดที่รัก
สุดจะหักอาวรณ์อาลัยหวน
อีกกี่ปีพี่จะได้ถนอมนวล
แสนปั่นป่วนอุราว้าเหว่ครัน***

ฯลฯ
ฯลฯ

ยังมีต่อจากนี้อีกหลายบทครับ ถ้าพูดไปแล้ว, นิราศเชียงใหม่นี้เป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของชีวิตผม

ผมเวียนว่ายตายเกิดเป็นกวีมาหลายภพหลายชาติแล้ว และผมจะเป็นกวีต่อไปจนฟ้าดินสิ้นสลาย...

ผมแต่งนิราศเชียงใหม่บนรถ คือตอนนั่งรถโดยสารประจำทาง ผมคิดคำแล้วเขียนลงบนกระดาษ ผมเขียนเร็วมาก คำกวีหลั่งพรั่งพรูออกมาอย่างเจิดจรัส ผมจึงเขียนได้อย่างงดงาม

พอถึงเชียงราย ผมต้องขับรถจักรยานยนต์จากสถานีขนส่งเชียงรายไปบ้านพัก แน่นอนครับเวลานั้นผมเขียนด้วยมือไม่ได้...แต่ผมเขียนด้วยใจ ผมใช้ใจเขียนนิราศไปตลอดทางจนถึงบ้านพัก

**ท่านทั้งหลายมิพักสงสัยหรอก ถ้าไม่มีความสะเทือนใจอันใดเกิดขึ้นเลย ผมจะไม่มีวันแต่งนิราศเชียงใหม่ได้ ผมมีความสะเทือนใจจริง ๆ แต่ใครกันล่ะที่ทำให้ "พี่นี้โศกาน้ำตาริน" คำตอบอยู่ในสายลมครับ

นิราศเชียงใหม่นี้ผมตั้งใจแต่งจริง ๆ และอยากจะพิมพ์เป็นรูปเล่มด้วย

ผมแต่งจบแล้ว แต่ผมนำมาลงให้อ่านก่อนเพียง 21 บท ผมจะไม่เผยแพร่ที่ไหนอีกแล้ว จนกว่าจะได้ตีพิมพ์เสร็จเป็นรูปเล่ม

นิราศเชียงใหม่เรื่องนี้ผมรักมันมาก เชื่อผมเถิดในอีก 100 ปีข้างหน้า จะมีคนเรียกนิราศเชียงใหม่นี้ว่า "วรรณคดี" น่าภูมิใจไหมมันเป็นวรรณคดีที่เกิดขึ้นใน ดินแดนล้านนา มันเป็นวรรณคดีอีกเรื่องหนึ่งของล้านนา

ทุกวันนี้คนแต่งนิราศยาว ๆ แต่งถูกต้องตามฉันทลักษณ์ หรือถูกต้องตาม "ขนบ" ของนิราศหาได้ยากมาก

ผมต้องการรักษาวัฒนธรรมการแต่งนิราศไว้ให้มีอายุยืนยาวต่อไป

ท่านจะเชื่อไหมถ้าผมจะบอกว่า พอแต่งนิราศเชียงใหม่จบ น้ำตาของผมไหลออกมาด้วยความปีติสุข น้ำตาไหลจริง ๆ ครับ เพราะผมแต่งนิราศเชียงใหม่ด้วยความฉันทะ มันจึงทำให้ผมเกิดความสุขอย่างเปี่ยมล้นหลังจากแต่งจบ

เมื่อคืนนี้ผมนำไปอ่านให้ปะหล่อง, อาจารย์พ่วง, และมิ่งมิตรอีก 2 คนฟัง ผู้ฟังจะรู้สึกอย่างไรผมไม่รู้ แต่ผู้อ่านมีความสุขที่ได้อ่าน

"นิราศเชียงใหม่" คือชีวิตและจิตใจของผม, ท่านทั้งหลายสาธุให้ผมเถิดที่ผมแต่งนิราศเชียงใหม่ได้อย่างดีงาม

นิราศเชียงใหม่มันคือสมบัติของคนทุกคนในโลกนี้ ซึ่งธรรมชาติได้สื่อสารผ่านทางผมไปสู่ผู้คนทั้งหลาย

ผมบอกเล่าเก้าสิบอย่างนี้, อย่าคิดว่าผมโอ้อวดตัวเองเกินไปนะครับ ผมรู้ว่าการโอ้อวดตัวเองมันเป็นความน่าเกลียดที่สุด

ที่ผมบอกเล่าอย่างนี้เพียงแต่ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ผมเป็นคนที่เริ่มต้นทำอะไรแล้วจะทำจริง มีฉันทะและสัจจะในการทำงาน

สำหรับนิราศเชียงใหม่นี้ เป็นผลงานที่ผมตั้งใจสร้างจริงๆ
เมื่อท่านได้อ่านแล้ว ท่านรู้สึกอย่างไรช่วยบอกเล่าผมบ้าง
จักขอบพระคุณยิ่ง

และถ้าจะวิจารณ์ผมก็ชอบ แต่ต้องวิจารณ์อย่างผู้ที่รู้จริงและไร้อคติใดใดทั้งปวง

(เชียงราย, 11 มิ.ย.49)


 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.144.95 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:19:08:15 น.  

 
 
 
จะรออ่านฉบับสมบูรณ์ครับ

ซั่น ๆ ก่อน

วันนี้ง่วงหลาย
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 203.148.195.194 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:21:06:56 น.  

 
 
 
อ่านนิราศเชียงใหม่แล้ว มันบอกอะไรหลายอย่าง และแน่นอนมันสร้างแรงบันดาลใจให้เขียนนิราศเชียงตุง( ซึ่งไม่เอาสาระ/ไม่ประทับใจอะไรทั้งนั้น) เขียนพอเล่าให้เพื่อนกวีฟังเล่น ๆ ส่วนนิราศเชียงใหม่.. เขียนไปเหอะมีคนอ่านแน่ พอจับได้เลา ๆว่าไปลักเมาใครสักคน แล้วก็ต้องจากมาอย่างผิดหวังน้อย ๆ แต่คนที่เคยมีความรักแล้วอ่าน ยังไม่สะเทือนอารมณ์เท่าไรนะทั่นมหาฯ สงสัยว่าทั่นยังไม่เคยมีความรัก คงได้แต่ลักเมาเสียละมัง ? ข้าพเจ้าก็อยากแนะนำให้รู้จักสตรีเพศสักคนที่อยู่ใกล้บ้าน เอาไหม ? ฮ่า...
อีกร้อยปีที่คาดหวัง มันอาจเป็นวรรณคดี.. ถึงอย่างไรก็เป็นวรรณคดีของเรา.. ของลูกหลาน.. ของเมียเรา.. ทั่นมหาต้องสร้างวีรกรรมทางความรักมาก ๆ จะได้เอาสิ่งเหล่านั้นมาสร้างอารมณ์รัก-ผิดหวัง-เสียดาย-เสียใจ-คร่ำครวญ-ถวิล-อาดูร-อาลัยอาวรณ์ และเคียดแค้นชิงชัง
โปรดอย่าถือสา... โปรดอย่าถือสา.. แนะนำด้วยใจคารวะและห่วงใยในชีวิตว่างอ้างว้าง ...ไร้คู่ (ฮาก็ได้)
 
 

โดย: คนยอง IP: 61.19.163.1 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:8:41:00 น.  

 
 
 
ปะหล่องแหย่ท่านทิพย์ฯ และประกายพฤกษ์บ้าง กำเดียวขี้เหมี้ยงมันจะขึ้นอารมณ์ หยังมาละกั๋นแท้ว่าน่อ.......
 
 

โดย: เขมรัฐ ราศีเมษ IP: 61.19.163.1 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:8:46:17 น.  

 
 
 
ตกลงเป็นบล็อคของปะหล่อง หรือว่าของท่านอรุณ ละเนี่ย ฮา...
 
 

โดย: ภู เชียงดาว IP: 203.156.70.28 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:12:02:36 น.  

 
 
 
เป็นบล็อคของทุกท่านครับ

ผมเป็นแค่คนทำความสะอาด
และคอยจัดระเบียบเท่านั้นเองแหละ


อิอิ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 203.148.195.194 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:12:23:53 น.  

 
 
 
นิราศเชียงตุง๒/๑
ผ่านพยากมาทุกข์ยากเพราะปากหิว
ลำไส้กิ่วหิวโหยโซ้ยแต่เหล้า
ถึงปางควายเขาขายของหยุดลองเอา
อาหารเก่าแต่รสใหม่พอได้ลอง

เนื้อแพะย่างวางเป็นมัดหยิบกัดเคี้ยว
ล่อมันเขี้ยวแกล้มสุราข้าวปลาไม่ต้อง
รถจอดนานประการใดใครสั่งดอง
ได้รองท้องแล้วสบายหายปวดพุง

อีกไม่ช้าก็มาถึงเมืองนามจันทร์
เคยใฝ่ฝันอยากเยือนยินถิ่นเรืองรุ่ง
อีกนามหนึ่งนั้นนะหรือคือเชียงตุง
เขาพามุ่งสู่สถานอาหารดี

ได้เยือนแล้วโอ้ถิ่นดินแดนทิพย์
อยู่ไกลลิบห่างเรือนเหมือนแกล้งหนี
ทิ้งให้เจ้าเปล่าเปลี่ยวหนึ่งชีวี
อยู่เมืองนี้แสนสงบพบสิ่งงาม

ไม่ทันถามเขาก็ตามไปขึ้นรถ
บอกให้รีบทางเคี้ยวคดอย่าเพิ่งถาม
ต่อแต่นี้จะต้องพรากจากเขตคาม
เห็นเมืองนามแห่งจันทร์มิทันไร

ไกด์ปากวานหว่านคำจำใจเชื่อ
เวลาเหลือขากลับค่อยแวะใหม่
รถมุ่งหน้าสู่เมืองฟ้าเมืองลาไกล
ใครลาใครแต่ก่อนนั้นยังหวั่นเอา
(แทรกนิราศฯ๒ / นิราศ๓ ต่อจากนี้ )

 
 

โดย: คนยอง IP: 61.19.163.73 วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:1:54:00 น.  

 
 
 
 
 

โดย: ไม่บอก IP: 125.26.11.1 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:11:35:57 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ปะหล่อง
 
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]













"คำพากย์วากย์ห่อนเว้น
ดังจะเป็นเช่นชีวา
รากร่วมหัทยา
เป็นชีวิตเป็นจิตใจ

กรองพจน์ไม่หมดสิ้น
ตราบชีวิญจะบรรลัย
ฝากผืนแผ่นดินไว้
เป็นกำนัลขวัญแผ่นดิน"


ด้วยจิตคารวะ
"ปะหล่อง"


[Add ปะหล่อง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com