จำเพื่อลืมดื่มเพื่อเมาเหล้าเพื่อโลก สุขเพื่อโศกหนาวเพื่อร้อนนอนเพื่อฝัน ชีวิตนี้มีค่านักควรรักกัน รวมความฝันกับความจริงเป็นสิ่งเดียว -รุไบยาต- โอมาร์ คัยยัม รจนา แคน สังคีต พากย์ไทย

<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 เมษายน 2551
 

ผวน

โรคมากรากโมกต้ม..............กินหาย
คนป่วยXXXป่นกลาย............กลับกล้า
ชมนิดชิดXXหมาย...............เหมือนเช่น นี้นา
พักรบพบรักห้า....................หกครั้งยังไหว

วันนี้อยากเสนอโคลงคำผวนครับ

ท่านใดมีก็ขอให้มาแลกเปลี่ยนกันบ้างเด้อ

กระทู้อ้างอิง

//www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C6548924/C6548924.html









Create Date : 29 เมษายน 2551
Last Update : 2 มิถุนายน 2551 17:26:37 น. 138 comments
Counter : 1047 Pageviews.  
 
 
 
 
อัพให้แล้วเด้อพ่อแม่พี่น้องลุงป้านาอาอาวทั้งหลาย
 
 

โดย: ปะหล่อง วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:15:18:45 น.  

 
 
 
สีแสงที่แต่งธาร
.......................

แววแสงอำไพแสงสว่าง
เป็นแสงทองส่องทางให้เดินผ่าน
สีแสงที่แต่งธาร
แต่งถึงห้วงดวงมาน ถึงบ้านใจ

เป็นธูปธรรมที่งามพร้อม
เหมือนหวานหอมแห่งยุคสมัย
เป็นขณะอจินไตย
ลีลาในย่างเยื้องช่างน่ายล

หรือย่างไปในปีติ
ในผ่องผลิแห่งมรรคผล
สู่วิถีที่โสภณ
สู่แห่งหนที่เบิกบานฯลฯ

หรือย่างไปในฉันทะ
อิสระในรักหวาน
ฉ่ำเพียงโพธิญาณ
ขับขานเพลงเสรี--

เป็นแสงที่แต่งจิต,
แต่งชีวิต แต้มวิถี,
แต่งศรัทธาให้ดูดี
แต่งอนุสาวรีย์แห่งวันวัย

..............................

อรุณ อโรคยา

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันอาทิตย์ที่ 27เมษายน 2551

...............................


 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.71.40 วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:15:44:51 น.  

 
 
 
อรุณยังมีไฟกวีอยู่ท้วมท้น

เร้าร้อนและรุนแรง

ผิดกับเรา

เริ่มจะมอดไหม้ไปแล้ว
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:18:18:33 น.  

 
 
 
เจ๊มี่ครับ
ต้องการครับ 31 หน้า
ก็เอามา เฮามีคนแปลให้ ฟรี
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
และอีกอย่าง อยากได้งานก่อนประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเชียงราย
ภาษาปะกิตเน้อ
ฝรั่งเศสบ่อเอา อ่านบ่อฮุ้กำ

 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.67.231 วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:18:40:55 น.  

 
 
 
ทั่นมหาฯและทั่นชอฯ
สงสัยว่าจะได้สุมไฟทั่นหล่องเสียแล้ว
ว่าจะได

ทั่นมหาเรื่องเอกสารน่ะได้เลยเจ้าค่ะ
ไว้จะส่งให้เด้อ

เรื่องเชียงรายก่อนประวัติศาสตร์น่ะ
มันมีที่แปลจากฝรั่งเศสเป็นอังกฤษก็เยอะอยู่นะ
เฮามีอยู่สองเล่มแต่อยู่ที่บ้านเชียงราย
ถ้าได้กลับมิย.นี้เฮาจะไปค้นแล้วซีรอคส์ไว้ให้เน้อ

อื่นๆจะลองดูเพราะเฮาก็สะสมอยู่เหมือนกัน อิอิ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:6:22:44 น.  

 
 
 
สาหวัดดีคราบอาจารย์หล่อง หวังว่าสุขภาพแข็งแรงนะครับ
เออได้ข่าวว่าจะไปกำแพงเพชร 17-18 พ.ค.51 เหรือคราบ ไม่ทราบจะไปจะได
 
 

โดย: วังบัวบาน วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:10:15:47 น.  

 
 
 
ตกลงต๋ามนั้น ตี้อู้กั๋นไว้ตะคืนเนาะ


ฮิฮิฮิ
 
 

โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:12:06:39 น.  

 
 
 
อู้กั๋นว่าจะใดเก๊ะ เฮาลืมไปแล้ว
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 202.29.56.50 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:13:56:23 น.  

 
 
 
ทั่นมหาฯ ส่งแล้วเด้อ
ได้รับหรือไม่อย่างไรกรุณาส่งสารโตยเน้อ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:14:10:45 น.  

 
 
 








เช้ออออออออออออ...
 
 

โดย: อวน. IP: 61.91.35.110 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:02:53 น.  

 
 
 
ฝากข้อความถึงท่านพ่วง

ตะคืนลูกน้องทั่นพ่วงเกือบต๋าย
มาหาเฮา

บอกโทรหาทั่นพ่วงแล้วบ่รับ

มันจะต๋ายแต้เนาะ

ท่านพ่วงกรุณารับโทรศัพท์กำ

ผมเลยส่งมันไปนอนตวยอี่เวิ้น

 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:22:31 น.  

 
 
 
ปะหล่อง ทั่นมหาฯ และทั่นชอฯ
เฮาลืมไปว่าวิจัยเฮาส่วนหนึ่งว่าด้วยเรื่องป้ายในจังหวัดเจียงฮาย วันก่อนเห็นที่ท่านทิพย์ฯไปโพสต์ไว้ที่บ้านลุงปิง เฮาเลยกึดได้ แวะไปอ่านเน้อที่โอเคฯน่ะ

เฮาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างแล้วเฮาก็เจาะ แล้วปะใส่สิ่งที่น่าตื่นตะลึงเกี่ยวกับคำเมือง (อันนี้ไม่สามารถเขียนได้ โปรดเข้าใจด้วย) ที่นอกเหนือไปจากภาษาจีน ภาษาจีนก็ผิดน่าเกลียด อายเปิ้น อายคนจีนขนาดเว้ย คำเมืองเฮาก็เจอ..เฮาเขียนเป็นส่วนหนึ่งของทีซีดไว้ละ ..กลับไปเมื่อไหร่จะไปอู้ฮื้อฟัง... ตอนนี้มาเรียกน้ำย่อยก่อน อิ อิ

 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:48:05 น.  

 
 
 
ท่านมหาฯ ที่จะไปลาวผมรับปากแล้วว่าจะไปนะครับ
ให้มารับที่อาศรมด้วย
ส่วนท่านชอกีฯ ไม่ค่อยแน่ใจ
ตอนนี้อยู่ในช่วงจิตตก ไม่ค่อยรับโทรศัพท์


เจ้มี่
จะไปแอ่วลาวเผื่อเน้อ
ผมจะไปดูเมืองสุวรรณโคมคำ
หาข้อมูลมาทำวิจัยเรื่องนาค

ขอยก่
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:40:07 น.  

 
 
 
แวะมาเยี่ยมครับ ไม่เจอกันนาน ไม่เปลี่ยนแต่ไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนแปลงแต่ยังคงเดิม อืม...งงม่ะ ก็หมายความตามนั้นล่ะ

ยังไงเดี๋ยวยกให้เป็นนายกสมาคมภาษาไทย '39 แห่งประเทศไทยเลย ไงช่วยติดตามเพื่อน ๆ หน่อย แล้วนัดรวมพลกันซักทีเป็นไร
 
 

โดย: หมาแพนดี้ IP: 61.19.65.84 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:34:40 น.  

 
 
 
ขอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

อิจฉา....ตาร้อนผ่าวๆๆ
เชอะ

เปลี่ยนเลยไป มิย.เลย
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:10:03 น.  

 
 
 
นัดรวมพลกันเมื่อไหร่ดีน้อ

เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เลยเป็นไงครับคุณหมาแพนดี้

จะได้ไปเที่ยวลาวด้วยกันเลย

สนใจ่


เจ้มี้

การแกล้งคนให้ขอยนี่มันม่วนขนาดเนาะ


อิอิ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:31:41 น.  

 
 
 
เชอะ....

แกล้งได้แกล้งไปเต๊อะ ...อย่าให้ถึงทีเราก็แร้วกันลลลล

ไม่สนแระ...ไปดูสวรรค์เบี่ยงและอุ้มรักต่อดีก่า
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:55:16 น.  

 
 
 
ฮะ ฮ่า ปะหล่องดูสวรรค์เบี่ยงด้วยเหรอ

โอ้...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด มันจอร์ดมาก ใช่มั้ยจ๊ะซาร่าาาาาาา 5 5


ปล. เปลี่ยนไปจริง ๆ ด้วย
 
 

โดย: หมาแพนดี้ IP: 61.19.65.113 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:59:43 น.  

 
 
 
ลืมบอกไป แท้ที่จริงแล้วน้องนะโมเป็น "อุลตร้าแมนน้อย" ปลอมตัวมา แวะติดตามได้ที่บล็อกน้องนะโมครับ

www.namozaa.com อิๆ
 
 

โดย: หมาแพนดี้ IP: 61.19.65.113 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:01:39 น.  

 
 
 
ถ้าลืมก็แคนเซิ่นเลยน้อ อย. ??


จบแข่วววววว... กุเบี่ย
 
 

โดย: อวน. IP: 61.91.35.110 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:07:36 น.  

 
 
 

นี่แค่ "ขอย" จากขั้วโลกใต้บ่ดายเน้อ
มันกลายเป็น "นาร์กิส" เล่นงาน
ทำเอาแตกทัพตัวไผตัวมันเชียวเหรอ


ทีมสุวรรณโคมคำนี่
ท่าจะได้ไปเดือน มิ.ย.ซะละมั้ง


ปะหล่อง
การหัวเราะทีหลังนี่มันดังแต้ๆเลยเฮ้ยย
เพิ่งรู้สึกว่ะ ฮา

 
 

โดย: มิสเวิลด์ 2008 IP: 192.43.227.18 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:6:10:50 น.  

 
 
 
สีแสงที่แต่งธาร
.......................

*แววแสงอำไพแสงสว่าง
ที่ถูกต้องคือ

แววแสงอำไพใสสว่าง
เป็นแสงทองส่องทางให้เดินผ่าน
สีแสงที่แต่งธาร
แต่งถึงห้วงดวงมาน ถึงบ้านใจ

เป็นธูปธรรมที่งามพร้อม
เหมือนหวานหอมแห่งยุคสมัย
เป็นขณะอจินไตย
ลีลาในย่างเยื้องช่างน่ายล

หรือย่างไปในปีติ
ในผ่องผลิแห่งมรรคผล
สู่วิถีที่โสภณ
สู่แห่งหนที่เบิกบานฯลฯ

หรือย่างไปในฉันทะ
อิสระในรักหวาน
ฉ่ำเพียงโพธิญาณ
ขับขานเพลงเสรี--

เป็นแสงที่แต่งจิต,
แต่งชีวิต แต้มวิถี,
แต่งศรัทธาให้ดูดี
แต่งอนุสาวรีย์แห่งวันวัย

..............................

อรุณ อโรคยา

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2551

ขอบคุณมากครับอาจารย์ ที่นำมาให้ได้อ่านกัน ผมเพิ่งรู้จากบล็อกนี้เอง ว่าบทกวีของผมได้ตีพิมพ์ใน คม ชัด ลึก ผมส่งไปเมื่อเดือนมีนาคม 2551 ส่งไปหลายที่ครับ นอกจาก "คม ชัด ลึก" ก็ส่งไปที่ สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์, เนชั่นสุดสัปดาห์, จุดประกายวรรณกรรม(กรุงเทพธุรกิจ-วันอาทิตย์), และที่ "ขวัญเรือน" ถ้าท่านอาจารย์ชอฯ หรืออาจาร์ปะหล่องเห็นได้ตีพิมพ์ที่ไหน ก็ขอความเมตตาช่วยแจ้งข่าวให้ผมทราบด้วยนะครับ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

ผมยังมีไฟในการเขียนบทกวีอยู่เสมอ เพราะผมคิดว่า "บทกวีคืออนุสาวรีย์ของชีวิต" ในบทกวีมีสภาวะแห่งนิพพาน และมีความรักอันงดงาม ที่เราจะหาจากที่ใดไม่ได้เลย

ผมคิดถึงทุกคนนะครับ อยากจะไปนั่งประชุม ค.ร.ม.และเขียนบทกวีกันที่ร้านหลานตาแจ้ง นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ร่วมเขียนบทกวีกับท่านอาจารย์พ่วง อาจารย์ปะหล่อง และอาจารย์รุ่ง

อวน.น้องสาวที่รักคงสบายดีนะ ช่วงนี้หน้าฝน อย่าตากฝนล่ะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด...ช่วงนี้ที่แม่ลาน้อย, ฝนตกเกือบทุกวัน แต่พี่หานอนหนาวไม่ เพราะมีบทกวีให้นอนกอดอุ่นสบาย

ขอบคุณสายฝนที่ตกลงมาชำระล้างความเศร้าของข้าฯ ให้หายไป, เศร้าเก่าหายไปหวังว่าเศร้าใหม่คงจะไม่มาหาใจของข้าฯ อีก สาธุ !!!

 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 118.172.93.64 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:05:04 น.  

 
 
 
อวน. สบายดีเจ้า ขอบคุณทั่นอรุณที่ถามไถ่สารทุกข์

ว่าแต่ว่าเศร้าเรื่องหยังหาทั่นอรุณ?? ที่ว่าเศร้าเก่าเศร้าใหม่น่ะ
อวน. ก็เพิ่งได้ทราบข่าว อวน.บ่เศร้าเจ้า ได้ก้าเสียวๆๆๆ



เศร้าเก่าเศร้าใหม่ จะมาหรือจะไป ก็ขอให้ "หลาบจำ"
คำเตือนนี้ยังทรงอานุภาพเสมอมา " หวานมาก ๆ ระวังหูยาน"




ขอให้มีความสุข ยิ้มน้อย ๆ ให้ข้าเจ้าสักนิดก็พอเจ้า
 
 

โดย: อวน. IP: 61.91.35.110 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:12:09 น.  

 
 
 
แวะมาแสดงความยินดีกะทั่นอรุณฯ

ที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้แล้ว

"ที่ใด" และ "ที่นั่น"..มันที่เดียวกันนั่นแหละใช่ไหม

และมันอาศัย "ที่ใจ" ที่จะมองเห็น "ที่ใดๆ" ก็ตาม

 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:55:58 น.  

 
 
 
เมื่อวาน(วันที่ 7 พ.ค.51) ได้ไปดูงานที่โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ไปกับคณะหลายคน นำโดยท่าน ผอ.โรงเรียน เป็น ผอ.ที่ย้ายมาใหม่ ไฟกำลังแรง อรุณ อโรคยา ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานฝ่ายวิชาการของโรงเรียน ไม่อยากรับก็ต้องรับ ด้วยเหตุผลของเขาคือ "อาวุโส"

ก็ได้ไปดูงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายวิชาการ งานอะไรก็ตามที่ฝ่ายวิชาการต้องทำ ต้องรับผิด-ชอบ ก็ไปดูมาหมด ทีนี้ก็อยู่ที่การนำมาประยุกต์ นำมาปฏิบัติของตัวเองเป็นสำคัญ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสามารถขับเคลื่อนไปได้ถึงไหน คนเป็นนักเขียน เป็นกวี มักไม่ชอบ "กรอบ" ไม่ชอบ "กรง" หากชอบทำงานตามอุดมการณ์ เช้าขึ้นมาได้กาแฟสักถ้วย บุหรี่สักมวน ก็ชวนฝัน ชวนจินตนาการแล้วอย่างล้นหลาม

ขอขอบคุณ ทั้ง อวน. และเจ้มี่ ที่แสดงความยินดีกับถ้อยคำทักทายท่ามกลางสายฝนที่หล่นอยู่โปรยปราย โปรยปราย

จำได้ว่าเคยพูดคุยกับ อวน. น้องสาวที่น่ารัก เรื่องหนังสือทำมือ พี่รวบรวมต้นฉบับบทกวี และงานเขียนอื่น ๆ ไว้หลายชิ้น เช่น นิราศเชียงใหม่ นิราศแม่สูน นิราศแม่แจ่ม หรือนิราศเมืองแจ๋ม พี่คิดว่าถ้าไม่รีบจัดทำ หากวันใดลมหายใจของพี่หยุดทำงาน ผลงานต่าง ๆ คงจะหายลับดับขันธ์ไปด้วย อยากจะขอความช่วยเหลือจาก อวน. น้องสาวคนนี้ จะได้ไหมจ๊ะ (ขอโทษ--ที่ใช้ถ้อยคำยั่วน้ำลายแมลงมด)

ขอความสุข ความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุก ๆ ท่าน ขอนิพพานจงมีแด่ทุก ๆ คน

ด้วยรักและเมตตา
สวัสดี.


 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 118.172.49.214 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:41:44 น.  

 
 
 
ท่านอรุณฯ
ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ กับภาระอันใหม่ อิ อิ

กรอบ และกรง เหรอ...เออ เนอะ....

แล้วทำไม้...ทำไม ต้องเอาเด็กๆ
ไปใส่กรอบและกรงวิชาการแบบไทยๆด้วยนะ
ความคิดสร้างสรรค์และการเรียนของเด็ก
ก็มิเหลือหรอเรยย...

ที่เคยมีก่อนเข้าโรงเรียน...มันมาหายในโรงเรียนโหม้ดด
ที่เคยตั้งคำถามและหาคำตอบเป็นก่อนจะเข้าโรงเรียน
มันทำไม่เป็นอีกเลย หลักจากที่เข้าโรงเรียน
ดักจื้อกื้อ...ไม่คิดถาม...จะถามก็กลัวคนอื้นและครูว่าโง่..

ความสามารถในการตั้งคำถามและหาคำตอบเป็น
เป็นตัวบ่งชี้ความคิดสร้างสรรค์เลยนะนั่น

การศึกษาแบบติดกรอบทำลายความสามารถ
ในการคิดและหาคำตอบที่ติดตัวเด็กมาแต่ต้นเลยนะนั่น
ดังนั้นเด็กจบโรงเรียนมาก็มิมีสมองส่วนที่คิดเหลือเลย
เด็กมหาลัยก็ไม่มีมานานแล้วเหมือนกัน
เพราะแม้แต่ครู อาจารย์ยีงไม่คิดหาความรู้เลย
มันจะเอาอะไรมามีน่ะ ...มันไม่มีเหลือมานานแระ...
ไอ้สร้างสรรค์เนี่ย

ได้โอกาศเปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนโลด...ทั่น..เปลี่ยนโลด
ดังนั้นเราต้องให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์
กรอบและกรงมีจึงไว้เพื่อพิสูจน์ความคิดสร้างสรรค์

ถ้าหากความคิดสร้างสรรค์คือ การแหกกรอบ
กรอบและกรงจึงมีไว้เพื่อแหก...
แหกโลดดดด อ้ายเฮ๋ย..เพื่อความคิดสร้างสรรค์


จริงไหม ปะหล่อง ทั่นมหาฯ และทั่นชอ

 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:10:47 น.  

 
 
 
คุณเจ้มี่พูดเหมือนคนเข้าถึงธรรม- -
คำว่าธรรมในที่นี้หมายถึงความจริงของสังคม
หลายครั้งที่เราอยากจะทำอะไรตั้งมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร แต่เราไม่มีอำนาจวาสนาหรือบารมี เรามีแต่ความคิด หากความคิดของเราไปขัดแย้งกับทิฐิหรืออัตตาของผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกรอบกรงอันสามานย์ เราก็ขับเคลื่อนอะไรไม่ได้ ระบบราชการมันอัปรีย์อย่างนี้แล

คุณเชื่อไหม ผู้หลักผู้ใหญ่ในองค์กรเขาอ่านหนังสือเพียงวันละ 4 คำ คือ โกง กิน กอบ โกย เท่านั้น

เราจะไปคาดหวังอะไรมากไม่ได้ คำว่าสร้างสรรค์ของเรามันคนละความหมายกับของเขาทุกประการ
นี่แหละ ประเทศไทย!
 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 118.172.27.182 วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:08:22 น.  

 
 
 
นี่แหละ "อำนาจเบ็ดเสร็จ"
เฮ้อออ....

ไม่มีที่สิ้นสุด..จริงๆ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:24:47 น.  

 
 
 
เจ๊มี่ครับ
เอกสารเห็นแล้วแต้ยังไม่ได้โหลด
ช่วงนี้ เลือกตั้ง สท.งานเยอะครับ
 
 

โดย: ม IP: 118.172.65.215 วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:56:28 น.  

 
 
 
เกรงว่าจะมิงามเจ้าค่ะ

 
 

โดย: อวน. IP: 203.156.61.219 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:37:38 น.  

 
 
 
กุเบี่ยยยยยยยยยยย

ราชการ ราชการ ราชการ

ผมอยู่กับระบบนี้มานานเลยทีเดียว

รู้เห็นมาก็มาก

สุข ทุกข์ สมหวัง แต่ไม่ผิดหวัง

เพราะไม่เคยหวังอะไรจากระบบนี้แต่ก็อยู่กับมันได้

ชีวิตราชการ(ผู้น้อย)ที่เราว่ามันเหมือนมีกรรม

แต่ถ้าเราสนุกกับมันก็อยู่กับมันอย่างมีความสุขได้

ท่าน อรุณ ว่าไง

เจ๊..หึ หึ หึ



 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.65.0 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:48:01 น.  

 
 
 
ทั่นชอ
สงสัยเฮาจะอยู่นอกกรอบและนอกกรงมาเมิน
กลับไปสงสัยเปิ้นจะขึ้นป้ายดังต่อไปนี้เป็นแน่แท้ อิอิ

"ตัวนี้ไม่เข้าพวก" หรือไม่ก็
"ระวัง! กำลังดุมาก ยังไม่เชื่องดี" หรือไม่ก็
"ตัวนี้เป็นของนำเข้ากำลังอยู่ในระหว่างปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม"

ระหว่างที่ทำตัวคุ้นเคย ก็คงจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงและเห่าอยู่ในกรงพอสมควร เหนื่อยเมื่อไหร่ก็คงหยุดอ่ะ ฮ่า ๆๆๆ

เฮ้ออออ....นี่นึกวาดภาพไว้ล่วงหน้าแล้วนะเนี่ย งามเชียว

ทั่นอรุณฯ
อันผู้หลักผู้ตอในระบบอุ(หลาย)บาวท์นี้
มันยังพึ่งอีก สอง F คือ face และ farang
อะไรได้หน้า และเป็นฝรั่ง มันเอาโตยโหม๊ดดดดด
ฝรั่งขี้นก ทฤษฏีสุดแย่มันยังว่าดี
เบื่ออออออ จริงๆ


 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 198.142.231.115 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:53:41 น.  

 
 
 
วันก่อนไปนั่งคุยกันกับพ่อเลี้ยงทองคร้าม เชียงของ
ว่ากันว่าม่าก้วยเลิกความคิดเร่องอาหารห้าหมู่แล้วแต้กา....เจ๊มี่ เว้ามาแด
ท่านชอ
ความกลัวทำให้เซ็กส์เสื่อม
อย่ากลัวมัน
ข้าเจ้าอยู่กับมันมา ซาวปีแล้ว
อย่ากลัวมัน
ปี ๔๙มันบ่อให้ขั้นเฮา
เฮาบ่อสน ทำงานต่ออย่างเก่า
ความกลัวทำให้เซ็กส์เสื่อม
อย่ากลัว อย่ายออม
ความรู้คืออำนาจ
สร้างภูมิรู้ไว้มากๆค่อยๆปล่อยทีละน้อยๆ
ความรู้คืออำนาจจริงๆ
สุจริตคือเกราะบังจริงๆ สิ่งชั่วอย่าทำ
เข้มแข็งไว้
ความกลัวทำให้เซ็กส์เสื่อม
โปรดฟังอีกครั้ง
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.71.230 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:56:07 น.  

 
 
 
มาเห็นด้วยกับทั่นมหาฯเป็นอย่างยิ่ง ในเรื่อง "ความรู้คืออำนาจและสุจริตคือเกราะกำบัง"

ส่วนเรื่อง อาหารห้าหมู่นั้น
มันยังมีอยู่ แต่อำนาจของมันเริ่มเสื่อม และสั่นคลอน ฐานการคิดโดยอิงหลักห้าหมู่นั้นเริ่มสลายแล้ว คนที่ไม่ยึดฐานการอธิบายแบบห้าหมู่นั้นเป็นเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับระบบที่แป้งและโปรตีนเป็นสื่งสำคัญสำหรับทุกคน เขาให้เหตุผลว่า

คนที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่ต่างกัน จะมีความต้องการสารอาหารและพลังงานที่ต่างกัน ดังนั้นมันจึงไม่มีสูตรสำเร็จในการบริโภค

และการบริโภคแป้งและโปรตีนมากเกินไปส่งผลให้เกิด
ภาวะแทรกซ้อน และโรคเช่น มะเร็ง และโรคอ้วนเป็นต้น เขามีงานวิจัยชัดเจนว่า สองอย่างนี้คือแป้งและโปรตีน ทำให้เกิดและเป็นตัวแปรตรงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง และความอ้วนมากๆ (ซึ่งจะอ้วนมากอ้วนน้อยนั้นขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน) ก็ทำให้เกิดมะเร็งได้เช่นกัน

นี่ก็ตัวอย่างชัดเจนของ ความรู้คืออำนาจ และความรู้คือพลังในการสั่นคลอนฐานอำนาจเดิมที่เคยมีจากการสถาปนาองค์ความรู้นั้นๆ ...ชัดเจน...แจ่มแจ้งไหม

เฮายังแอบคิดไปเลยว่า
การที่มันเอาคำว่าอาหารห้าหมู่มาใช้ในโลกที่สามนี่เป็นเพราะทางโลกที่หนึ่งนี่มันต้องการขายสินค้าของมัน เช่นกรูกินอันนี้มรึงต้องกินกะกรู มรึงไม่กินก็ไม่พัฒนา จริงๆแล้วกรูอยากขายของให้มรึงซื้อ กรูก็เลยต้องสร้างความรู้เรื่องอาหารห้าหมู่โดยฐานความคิดที่เจาะเฉพาะองค์ความรู้ของม่าก้วยที่มันบ่ได้เรื่องมาเป็นจุดขาย แล้วมันเจาะจองมัน มันก็รู้ของมันคนเดียว เราไปแย้งมันก็บอกว่าของมันถูก เราไม่รู้เพราะเรายังไม่พัฒนา มันยังมีหน้ามาสร้างคำว่า "ประเทศพัฒนาแล้ว" ประเทศกำลังพัฒนา" "ประเทศโลกที่สาม" เพื่อเอามาเป็นเครื่องมือที่เอามาครอบงำและลดระดับดูถูกคนต่างวัฒนธรรม โดยผ่านความรู้จริงๆ

ลองดูยาคูลท์สิ มันบอกว่ากินแล้วทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีเป็นเพราะกระเพาะเราไม่มีเครื่องปั่น แต่ขอโทษแบบไทยๆก็มี ส้มตำไง ยังมาว่าของเรา โลว์ ของมันไฮ อีก เชอะ

กลับมาเรื่องอาหารต่อ ...
เฮาไปทะเลาะกับฝรั่งมา มันว่าอาหารบ้านเรา (เอเชีย)เป็นอาหารอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีวัฒนธรรม เอามารวมๆกันปรุงหม้อเดียวกัน จะกินอะไรที่เป็นรสเป็นชาติของแต่ละอย่างไม่มีเลย เช่น สเต๊กเงี้ย

เฮาฉุน...ปรี๊ดดดดดดดดด

ตอบไปว่า...
ที่คุณมรึงว่าคุณมรึงกินแบบมีวัฒนธรรมนั้น สำหรับคุณกรูแล้วคุณมรึงน่ะกินแบบพวกที่ยังไม่เจริญและไม่พัฒนาจ่างหาก กินได้ไงสเต็กเป็นดุ้นๆ เถื่อนซะไม่มี ที่เป็นโรคกัยตายในประเทศหรั่งเนี่ย ก็กินแบบคุณมรึงทั้งนั้นแหละ สำหรับบ้านฉันน่ะ ทุกอย่างคือการผสมผส่านที่ลงตัวมาจากความรู้ทั้งนั้น เรื่องอาหารบ้านเธอไม่ต้องพูด ไม่พัฒนาไปถึงไหน เมื่อไหร่ก็กินแบบดุ้นๆนี่แหละ ไม่พัฒนาทางวัฒนธรรมการกิน จริงๆแล้วว่ามันเยอะกว่านี้อีก แต่จำไม่ได้แระ ...ว่ามันจนไม่ไม่กินสเต๊กเลยอ่ะ ฮ่า ๆๆๆๆ

 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:13:10 น.  

 
 
 
กลับมาแซวบางคน

"ความกลัวทำให้เซ็กส์เสื่อม อย่ากลัวมัน ข้าเจ้าอยู่กับมันมา ซาวปีแล้ว อย่ากลัวมัน"

ท่านอยู่กับอะไรมาซาวปีอ่ะ ความกลัวเหรอ
งั้นก็แสดงว่า

แซวแล้วก็จรลี....ไปละ...กลัวเจอไม้หน้าสาม โทษฐานแซว คน ฒ
 
 

โดย: คริคริ IP: 192.43.227.18 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:28:03 น.  

 
 
 
ฝากเจ้มี่ ไปยังบ่าก้วยทั้งหลายแหละที่มันดูถูกอาหารบ้านเรา

ที่ใส่รวม ๆ ไปน่ะ สมุนไพรทั้งนั้น

บ้านมันเมืองมันมีรึเปล่า

แกงแคอีกอย่าง ใส่สะป๊ะผักพืช

กิ๋นม่วนกิ๋นลำ

มีทั้งยาทั้งสารอาหาร

บ้านมันมีก่

อู้แล้วลมขึ้น

เอายาดองเหล้ามาเวย ๆ

คนเฒ่าคนอื่นบืทักละ

ขี้คร้าน


อิอิ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 202.29.56.50 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:06:05 น.  

 
 
 
ยินดีหลายเด้อเจ๊มี่
แหมสองสามวันจะอัพเดทละในโอเค
เรื่องอะหยังบ่าบอกเตื้อ
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.70.176 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:11:32 น.  

 
 
 
ปะหล่อง

วันนี้เพื่งได้เข้าไปอ่านกระทู้อ้างอิงที่แนะนำไว้ข้างบน
กว่าจะผวนได้ แต่ละท่านนี่เยี่ยมยุทธจริงๆ
ระหว่างอ่านและฮา...แทบตกใจ
รู้ตัวอีกทีที่ปรึกษามายืนอยู่ตางหลังเว้ยยย..
ที่ปรึกษาถามว่าฮาอะไร
ไอ้ที่ฮาๆอยู่รีบหุบแทบไม่ทัน..ตรู
อารามกลัวโดนว่า ..ว่าบ่ยะก๋านยะงานเอาเวลามาเล่นเน็ต
ก็เลยเอาตัวรอดด้วยการ เล่าให้ฟังถึงวิธีการผวน
และวิเคราะห์แบบภาษาศาสตร์เด้ ...
ที่ปรึกษาสนใจหลายเด้อ...สนใจแง่ภาษาศาสตร์เว้ย

เวลาเล่าวิธีการผวนนี่มันไม่ยากนะ
แต่แปลความหมายนี่ดิ ป๊าดโถะ...เจ้เกือบหุย
ตอนเรียนภาษาปะกิดไม่ได้เรียนอ่ะ อิอิ...

เลยใช้วิธีทำบล๊อกตารางแล้วแปลแต่ละคำ
ทั้งก่วนผวนและหลังผวน.....
ที่นั่งอยู่ด้วยกันสัก 5-6 คน
ฮากันน้ำหูน้าตาเล็ด ฮาจริงๆ

มีการบอกว่า
ทำเป็นพรีเซนเตชั่นเล็กๆซัก 20-30 นาทีได้ไหม..
แล้วเอาไปคุยในสัมมนาอี้ว่ะ

จะเป็นลมตรู ...ปะหล่องนะปะหล่อง...
ไม่น่าเล้ยยยยยชร้านนนนน
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:28:21 น.  

 
 
 
เห็นก่ ได้ก๋านได้งานเลย

จะว่าไปก่ดีมิใช่น้อยนะ
เพราะมันเอาไปสร้างเป๋นเรื่องเป๋นราวได้

นี่คือเสน่ห์ของภาษาไทยะเจ้

ใคร่ฟังเจ้อธิบายความหมายของคำที่ผวนให้ฝรั่งฟังขนาด

ท่าจะม่วน


อิอิ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:42:17 น.  

 
 
 
มารายงานผลความคืบหน้า
ที่บล๊อคปะหล่องนัองรักทำกับเจ้ไว้..หุหุหุ

เมื่อสักครู่ใหญ่ๆที่ปรึกษาเจ้เอาวัคซีนกันความอายมาให้..
เจ้ไปบอกที่ปรึกษาว่า
เจ้คงมีปัญหาการอธิบายเล็กน้อยอ่ะ 555
เพราะหน้าไม่หนาพอเท่าไหร่ ฮ่าๆๆๆ

ที่ปรึกษาเจ้ท่าจะสนใจเอามากๆ เลยไปค้น
เอาJournal ชื่อว่า Maledicta มาให้เป็นตั้ง
ว่าด้วยการศึกษาทางภาษาศาสตร์ของการเล่นคำทุกชนิด
รวมทั้ง คำด่า คำหยาบโลนสะป๊ะสะเปดมาให้ด้วย

อ่านไปก็ฮาไป...มันส์เป็นที่สุด
หน้าก็หนาไปเรื่อยๆแล้วนะเนี่ย
คาดว่าวันจันทร์นี้ก่อนคุยใน seminar
ก็คงจะหนาได้ที่ง่ะ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:25:04 น.  

 
 
 
สนใจเรื่องคำด่ามากที่สุดเลยเจ้

อย่าลืมเอามาแชร์กันเด้อค่าเด้อ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 202.29.56.50 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:00:50 น.  

 
 
 
เว้ย!

ฮู้!

อยากแหลกเหล้า

 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.66.189 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:59:22 น.  

 
 
 
ท่านชอกีหายหน้าหายต๋าไปเลย

หมู่ชุมพี่น้องทางนี้เปิ้นกิ๋นกั๋นตึงวัน

วันเสาร์นี้ข้าน้อยจะออกเดินทางไปกำแพงเพชร

ไปช่วยสร้างห้องสมุดให้นักเรียนรงเรียนบ้านหนองชุมแสง

ของอาจารย์เอ

กลับถึงเชียงรายคงจะเป็นวันจันทร์ตอนเย็นย่ำ

สนใจไหมครับท่านชอฯ

งานนี้คุณตากล้องไปด้วยแน่นอน

 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 202.29.56.50 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:41:36 น.  

 
 
 
แปลกนะอาจารย์ชอฯ ระบบราชการนี้คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ส่วนอรุณ อโรคยา รู้ซึ้งในสัจธรรมของมันจริง ๆ

เห็นได้จากตอนที่อยู่สถานพินิจฯ เชียงราย ต้องต่อสู้กับความอุบาทย์ อัปรีย์ในองค์กรแบบสุด ๆ โคตร ๆ เพราะไปเจอกับมาเฟียอันธพาล อรุณ อโรคยา แทบเอาตัวกับหัวไม่รอด ถ้าไม่มีปะหล่อง ไม่มีอาจารย์พ่วง ไม่มีร้านหลานตาแจ้ง อรุณ อโรคยาอาจจะแก้ปัญหาด้วยวิธีตาต่อตา ฟันต่อฟันไปแล้วก็ได้ เพราะความอดทนย่อมมีขีดจำกัด

วันนี้, อรุณ อโรคยาก็สุข สบายดีในระบบราชการ แต่อึดอัดกับทิฐิ วิสัยทัศน์ และอัตตาของผู้บริหาร ที่ "มองสั้น คิดใกล้ ใฝ่ชั่ว" ซึ่งตรงกันข้ามกับวิสัยทัศน์แบบ มองยาว คิดไกล ใฝ่ดีงาม

อรุณ อโรคยา เห็นด้วยกับแนวคิด สอง F คือ face และ farang เพราะองค์กรที่อรุณ อโรคยาสังกัดอยู่มันสอดคล้องกับสอง F ทุกประการ

ก็ไม่รู้จะร้องเพลงอะไรให้มันดี..

 
 

โดย: อรุณ อโรคยา IP: 118.172.27.125 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:48:57 น.  

 
 
 
ไปอย่างใด

กี่โมง

ไปกับไผ

ขอรายละเอียดด่วน

..............

วันเสาร์ตอนเช้านัดป๋าแป๊ะไว้เรื่องทีซีด

จากนั้นว่างยาว



 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.66.189 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:25:42 น.  

 
 
 
ปะหล่อง
คำด่าน่ะเพียบ ไว้จะเซฟไปให้
นี่จะไปสร้างโรงเรียนหรือไปพังโรงเรียนเปิ้นกันแน่น่ะ
.................

วันนี้นั่งนับถอยหลังแระ
แฮ๋มซาวสามวันเจ้จะถึงเจียงฮาย
คนจะได้กลับบ้านสามอาทิตย์...ตื่นเต้นล์นี้กา..

ทั่นชอฯ
อยากเห็นตอน "ตัวเป๋นๆ"
ก็เตรียมตัวเน้อ อิอิ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:33:24 น.  

 
 
 
ไปกับก้อย

เช้าวันเสาร์เลย

รถออกแปดโมงกึ่ง
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 202.29.56.50 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:46:19 น.  

 
 
 
ฝากข่าวถึงท่านมหาที่ฮัก

ตอนนี้ ท่านพ่อแคว่นมาลา กับป้อหลวง อโศกะตกลงฮับฃ

ปากเฮาเรื่องผู้เสียวซ่านแล้วเด้อ เหลือแต่ท่านผู้เดียวจะ

ว่าอย่างไรก่บอกมา ....

............................

ยาดอง"ฤาษีเด้าลม"หนึ่งไหเป๋นประกั๋นไว้ก่อนเน้อ

โปรดแจ้งมาพลัน จะรอคอยคำตอบด้วยหัวใจระทึก



 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.66.189 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:11:39 น.  

 
 
 
หมดหวังเสียแล้วสิเรา

เอ็นดูก้อยมันแต้ๆขับรถคนเดียว

มีอ้ายมีเจื้อก่อบ่เป๋นต่าดีเปิ้ง

มันท่าจะกระดกเบียร์ไปสุดตาง...สบายแฮ

...........

เจ้..มากำนี้ผมท่าจะยาวแล้วน้อ

แห๋มสามอาทิตย์ถ้าเฮาบ่โดนคำสั่งย้ายด่วนปิ๊กเมือง

แฟร็งค์ คงจะมีวาสนาได้เจอกับท่านด็อกเตอร์คนใหม่

หลายคนรอคอยด้วยใจระทึก

 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.66.189 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:26:11 น.  

 
 
 
ยังไม่พกดอกเตอร์ย่ะ กำลังปั่นอยู่

ไปคราวนี้คงพกไปแต่ด๊อก... เตอร์ยังไม่ไป
ไปแต่ด๊อก..เห่าไปก่อนน่ะก๊ะ อิอิ

ไปเมืองจีนบะย่ะ...ไปพรีเซนต์งานทีซีดนานาซาด
แต่ขอโดดลงเครื่องแถวเจียงฮายก่อนสักสองติ๋ดน่ะ

ผมยาวมั่กๆ...สองเดือนที่แล้วมันนึกว่าบ่ได้กลับน่ะ
ก็เลยไปหั่นมาเรียบโร้ย...แต่ยังยาวอยู่...

เป็นคนละคนเลยแระ
นายเครซี่มันยังจำเจ้มะได้เลย ฮา
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:44:18 น.  

 
 
 
แล้วแต่สูเต๊อะชอเหย
ตามใจ
บทละแบน ปอ รีหนา เอากำบ่า
เอาก่อ
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.64.62 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:17:48 น.  

 
 
 
แม่นี้เกล้าเกลี้ยงแม่ หากหวี
ไปล่าป๊ะหันหมี ป่าไม้
ไล่ตักน้ำหดหมี ก๋างป่า ป้นเฮฺย
หอยบ่หมีสังได้ ฮ่ายน้ำหดหมี...

เอามาฝากจาก โคลงกลบทล้านนา ของพี่อ้ายไพฑูรย์
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.64.62 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:27:38 น.  

 
 
 
ท่านมหาฯโปรดทราบ

ไฟล์ zip ที่ท่านส่งมาให้เฮาเมินนานแล้วนั้น
ปรากฎว่ามิมีเนื้อหาแต่อย่างใดเลย

สิ่งที่มีคือ VIRUS ที่ชื่อ Trojan Horse
ที่มันเป็นม้าโทรจัน ไปถล่มกรุงทรอยอ่ะ

เฮาก็เพิ่งรู้ว่ามันเป๋นไวรัส
เพราะวันนี้เฮาอัพเดทต้วป้องกันไวรัสในเครื่อง
เฮาเข่าอ่อนเรย ...
แต่ก็ทำลายมันไปเรียบร้อยแล้ว อิอิ

......

ดีเลย
เอามาอีกเฮา...จะได้เอาไป seminar แลงวันจันทร์
ไอ้หมีหมีเนี่ย คงฮากันสนั่น
ฝรั่งบ่เกยปะนิ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:25:28 น.  

 
 
 
ฝากข่าวถึงอรุณ อโรคยาว่าเป็นพรื่อหวางนี้...ไม่มาเข้าฝันเลย..ใกล้ 15 ค่ำ จุดธูปเข้าฝันบ้างเด้อ....
 
 

โดย: แม่น้ำปิง IP: 210.246.159.254 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:52:58 น.  

 
 
 
ปะหล่องเหย
รูปสุวรรณโคมคำอยู่//www.oknation.net/blog/khoncr/
เด้อ ไปผ่อแร่
เจ๊มี่ครับ
ซิบส่งเรื่องใดบอกมาใหม่จะส่งหื้อใหม่ก็ได้
ส่วนโคลงกลบทของเดิมล้านนามีบทอีโรติกมากนัก ว่างๆจะพิมพ์มาหื้อเน้อ

ของเก่าในใบลานแต๊ๆ ตักน้ำหดหมีเป็นร้อยๆปีมาแว้ววว.
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.68.12 วันที่: 17 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:23:24 น.  

 
 
 
ท่านมหา ขอบคุณมากค่ะที่จะพิมพ์ให้ อิอิ

เรื่องไฟล์ซิปนั้นถ่าจำไม่ผิดรู่สึกว่า

จะเป็นขอมเชียงรายน่ะค่ะ

ไม่ต้องส่งแล้วค่ะ อ่านแล้วแระ

ด้วยความกรุณาของท่านมหาฯที่เอาไปขึ้นบล๊อคอ่ะค่ะ

ขอบคุณงามๆเลยค่ะ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 17 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:49:28 น.  

 
 
 
อย ระวังสะมักบุญเน้อ
เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ
 
 

โดย: อวน IP: 203.156.37.141 วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:21:29 น.  

 
 
 
ฝากข่าวถึงท่านมหาฯ

ข้าน้อยเจอเรื่อง กะหล๋อมแห๋มละ ในเล่มนี้เน้อ

สุจิตต์ วงษ์เทศ (2548) คนไทยมาจากไหน? สนพ.ศิลปวัฒนธรรม.

คนละเล่มกับที่ให้ไปคราวที่แล้ว เล่มนี้ว่าด้วยคนไทยและภาษาไทย เล่มนี้ระบุชัดเจนว่า

พม่าเรียกกะหล๋อมว่า "คฺยวน"

และระบุว่า "กษัตริย์ คฺยวน แห่งอโยธยา"

ดังนั้นสำนวนนี้ กะหล๋อม ก็คือคนอยุธยา เด้อ

อันนี้ท่านสุจิตต์เอามาจากพงศาวดารกรุงสุธรรมวดี (สะเทิม) ฉบับพิมพ์ภาษามอญที่ปากลัด พ.ศ. 2453 (สุธรรมวดีราชวงศ์)

ไว้ถ้าเครื่องสแกนบ่ทุรยศจะสแกนส่งไปให้เจ้าค่ะ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:42:37 น.  

 
 
 
ขอคุณที่บอกกล่าว ขออ่านฉบับเต็มก่อนค่อยคอมเม้นท์เด้อ
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.64.129 วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:23:14 น.  

 
 
 
ท่านมหาและปะหล่อง

เอกสารที่ว่านี้สแกนส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นส่งไปให้แล้ว

ท่านสุจิตต์ ....
โยงขอม กะหล๋อม กับสุวรรณโคมคำไว้ด้วยกันด้วยจ๊ะ

ได้ไม่ได้อย่างไรกรุณาแจ้ง
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 198.142.231.110 วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:14:17 น.  

 
 
 
ปะหล่องเหย

เอาของรักของหวงของพระอภัยมาก๊ะ
เอาไปคืนเปิ้นเหียเน้อ...ปี่นะ
เปิ้นเซาะหากั๋นนี้ก้า

 
 

โดย: เจ้เอง IP: 192.43.227.18 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:59:10 น.  

 
 
 
ขายขลุ่ยทิ้ง

ดั๊นไปฉกเอาปี่ทั่นอภัยมมาเลยก๊ะ!

เวลาเป่าต้องทำคอเอียงตวยเน้อ!

ควันออกหูปุ๋ยๆๆๆๆๆ

เป๋นตาแซ่บบบบบบบบบบ

 
 

โดย: หึ หึ หึ IP: 118.172.65.81 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:57:32 น.  

 
 
 
โยเอกสารโคลนนิ่งหรือยัง
ไขคำมาแน
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.69.104 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:45:24 น.  

 
 
 
ท่านชอกี

ตอนไปกำแพงเพชร

เห็นไอ่ก้อยมันเอามานั่งแปลอยู่นา

ไว้วันพูกจะถามฮื้อเน้อ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 202.29.56.50 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:52:45 น.  

 
 
 
เอกสารภาษาไทยนา
แปล๋เป็นอะหยัง
ในโอเคเนชั่น ...... จะเขียนเรื่องใหม่ ในสัปดาห์นี้
เรื่อง ปี่พระอภัยมณี หาย ปี่พญามังราย....อยู่ สนใจโปรดติดตาม...บ้านโน้น...
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.71.100 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:49:54 น.  

 
 
 
พรุ่งนี้กิ๋นเหล้าบ๋อ

 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.68.16 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:42:13 น.  

 
 
 
ได้เลย...
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.70.135 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:50:57 น.  

 
 
 
วันนี้ โอะโร การส่งข่าวทาง อี เน็ติเวร์ด
ง่วงมาก
ตะวาไปจมดิ่งอยู่ สายลมจอย เต้ามืด
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 202.143.129.146 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:15:54 น.  

 
 
 
เช้านี้มีเรื่องฮาแต่เช้าเลยอ่ะ เลยเอามาแบ่งกันฮา อิอิ

วันนี้เสิชเรื่อง "ภาษาปะหล่องและหมู่บ้านปะหล่อง" กับ "ภาษาขะมั่ง" ในเน็ต

ปรากฏว่า....

มันมีวีดีโอที่ยูตุ๊ปโผล่ขึ้นมาอ่ะ ... เจ้ก็ว่า โอ้ว..มันมีคนศึกษาแล้วเอาไปโพสที่ยูตุ๊บเลยกะนั่น อะหยังมันจะเริ่ดอย่างนี้ ศึกษาด้วยแล้วก็เอาไปโพสด้วย

ปรากฏว่า....พอคลิ๊กเท่านั้นแหละ ฮา...หยุดไม่ได้ เจอปะหล่องแต้ๆเฮ้ยยยยยยยยย เต้นยาบๆก๋ำแก้วโตยว่ะ



ไปนี่เลย อิอิ
//www.youtube.com/watch?v=3zjO7u_u_co
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:6:50:01 น.  

 
 
 
นั่นเป็นเหตุการณ์ท่เกิดสด ๆ ร้อน ๆ

ช่วงไปสร้างห้องสมุดให้นักเรียนที่กำแพง

หนุ่มหล่อที่โดนโค้งมากที่สุด

เฮ้อ หล่อละเซ็ง

อิอิ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 202.29.56.50 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:50:45 น.  

 
 
 
เหอะเหอเพคะ....
"หนุ่มหล่อที่โดนโค้งมากที่สุด" , "หล่อละเซ็ง"
too many go แปลว่ามากไป
little little noi แปลว่า น้อยๆหน่อย

หล่อแบบไหนล่ะ เลือกเอา
หล่อลงหลิ่ง
หล่อไปหมด
หล่อไม่ต้องแบ่งปันใคร
หล่อไม่เสร็จ
หล่อลงดอย
หล่อแบบธรรมชาติ(ไม่ปราณี)
หล่อยับเยิน

กะว่า..หล่อใส่เปิ้น ยะ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:21:56 น.  

 
 
 
หล่อไม่บันยะบันยัง

หล่อไม่ขออนุญาตบุพการี

หล่อไม่ขออนุญาตพี่น้องผองเพื่อนครูบาอาจารย์

หล่อไม่บอกเจ้าที่เจ้าทางเทพาอารักษ์ผีปู่ย่าอาวอา

สำคัญ สำคัญหมอนี่

 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.68.90 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:04:30 น.  

 
 
 
ไผวะในยุตุ๊บอ่ะ
ตุ้ยใบ้ตุ้ยง่าววววววววววววววววว..





ปรับปรุงด่วน ราคาตกหมดแล้ว!!!!
 
 

โดย: อวน. IP: 203.156.36.94 วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:36:54 น.  

 
 
 
สีแสงแต่งธารใด
.......................
แววแสงส่องทางสว่างไหว
แววแสงส่องสดสร่างในทางใจ
แววแสงส่องทางใด
ถึงส่องสร่างได้ถึงตรึงใจนาง

เป็นแสงใจที่งามพร้อม
เป็นแสงหอมกว่าแสงแห่งไหน
ขณะได้ด้วยใจใด
เป็นแสงใดใครอยากใคร่อยากยล

ใคร่อยากมีในจิตติ
ให้ผ่องผลิเป็นมรรคผล
สู่วิถีที่เป็นตน
สู่กมลให้ เบิกบาน

หรือย่างไปในจิตตะ
อิสระ ฉะรักหวาน
ชุ่มฉ่ำในดวงมาลย์
ฉ่ำหวานในดวงชีว์

หรือแสงที่แต่งจิต
แต่งชีวิตแต้มวิถี
แต่งศรัทธาให้ดูดี
แต่งอนุสาวรีย์แห่งวันวัย

หรือแสงที่แต่งจิต
แต่งชีวิตเห็นไหวๆ
แต่งได้ใครแต่งไป
แต่งแล้วได้อะไรมาชม
.....................................
จิตรกร 5290551 เมื่อ 00:19:49 น..
วันลูนจะแวะมาหาแฮ๋ม หว่างนี้ก๋านหลาย
.....................................
แถมแฮ๋มหน้อย ฝากอ้าย..อรุณ อโรคยา (ปรมา ลาภา)
.....................................
แค่แต่งล้อท่านเล่น อรุณ
อโรคยา ก็ลุ้น อยู่ไหวๆ
เห็นท่านเล่น เรื่องรักมาแต่ไกล
กับใคร... ใครคนไหนก็ไม่รู้.
 
 

โดย: จิตรกร IP: 61.19.65.249 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:30:19 น.  

 
 
 
สีแสงแต่งธารใด
(แก้ไข ปรับปรุง – อันก่อนสมองบวม - ก๋านหลาย)
.......................
แววแสงส่องทางสว่างไหว
แววแสงส่องสดสร่างในทางใจ
แววแสงส่องทางใด
ถึงส่องสร่างได้ถึงตรึงใจนาง

เป็นแสงใจที่งามพร้อม
เป็นแสงหอมกว่าแสงแห่งไหน
ขณะได้ด้วยใจใด
เป็นแสงใดใครอยากใคร่อยากยล

ใคร่อยากมีในจิตติ
ให้ผ่องผลิเป็นมรรคผล
สู่วิถีที่เป็นตน
สู่กมลให้ เบิกบาน

หรือย่างไปในจิตตะ
อิสระ ฉะรักหวาน
ชุ่มฉ่ำในดวงมาลย์
ฉ่ำหวานในดวงชีว์

หรือแสงที่แต่งจิต
แต่งชีวิตแต้มวิถี
แต่งศรัทธาให้ดูดี
แต่งอนุสาวรีย์แห่งวันวัย

หรือแสงที่แต่งจิต
แต่งชีวิตเห็นไหวๆ
แต่งได้ใครแต่งไป
แต่งแล้วได้อะไรมาชม
.....................................
จิตรกร 5290551 เมื่อ 00:19:49 น..
วันลูนจะแวะมาหาแฮ๋ม หว่างนี้ก๋านหลาย
.....................................
แถมแฮ๋มหน้อย ฝากอ้าย..อรุณ อโรคยา (ปรมา ลาภา)
.....................................
แค่แต่งล้อท่านเล่น อรุณ
โรค-กะ-ยา ก็ลุ้น อยู่ไหวๆ
เห็นท่านเล่น เรื่องรักมาแต่ไกล
อาจดับดิ้นกับใครก็ไม่รู้.
 
 

โดย: จิตรกร IP: 61.19.65.249 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:43:45 น.  

 
 
 
มีคำถาม

ทำไมต้องใช้คำว่า "ขึ้นคาน" ด้วย
ที่มาของคำนี้เป็นอย่างไร
ทำไมต้อง "คาน" มาจากไม้คาน หรือ คาน ขื่อ อ่ะ
มีที่มาจากการค้าขายหรือไม่

ช่วยไขข้อข้องใจที
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:04:07 น.  

 
 
 
ใครฮุ้ก็หามาให้แล้วเด้อ เจ๊มี่
เรื่องวันที่ในเนชั่นแก้แล้ว ยินดีหลาย เอาขึ้นคานชดใช้หนี้ละกัน

ขึ้นคาน

เป็นสำนวน มักหมายความถึง หญิงที่มีอายุเลยวัยสาวแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน เป็นคำที่มีนัยตำหนิเล็กน้อย เพราะแต่โบราณมา นิยมให้ผู้หญิงแต่งงานเพื่อให้มีผู้ดูแลและป้องกันภัย ผู้หญิงที่ไม่แต่งงานอาจจะเป็นเพราะหาผู้ที่คู่ควรหรือถูกใจไม่ได้ เช่น เพื่อนเราคนนี้คงจะขึ้นคานแน่ๆ อายุเกือบ ๔๐ แล้ว ยังไม่พบใครถูกใจเลย คำว่า ขึ้นคาน เป็นสำนวนมาจากการเรียกเรือที่ยกขึ้นพาดไว้บนคานเพื่อซ่อมรอยรั่ว ยาชัน ทาน้ำมันใหม่ ในตอนนั้นเรือจึงใช้ประโยชน์ไม่ได้ ค้างเติ่งอยู่บนคาน ต่อมาจึงนำคำว่า ขึ้นคาน มาเปรียบกับหญิงที่มีอายุมากและอยู่เป็นโสด คาน คำนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไม้คานที่ใช้คู่กับสาแหรกใช้หาบของ


จิตรกร ญาติสนิทเมืองอินทร์ ตับเหล็กมาแล้วววว...

 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.69.226 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:37:25 น.  

 
 
 
ขอบพระคุณอย่างสูงลิ่ว
จะได้เอาไปเล่าให้บ่ากํวยทั้งหลายฟังต่อได้อย่างถูกต้อง
จะว่าไปแล้วคำตอบท่าน
เอาเฮาสะดุ้งสุดตัวเหมือนกัน ฮ่า ๆๆๆ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:47:22 น.  

 
 
 
เรื่องในตำนานที่ผู้หญิงหลายคนยังไม่รู้

ตำนานคานทอง

มีตำนาน เล่าขาน กันสืบมา
ว่าคานหนึ่ง สวยสง่า เปี่ยมราศรี
อันทางขึ้น นั้นเดินง่าย สบายดี
แต่โทษที ขาลงยากกกกก ลำบากบน

ต้นกำเนิด เกิดจาก สาวนางหนึ่ง
สวยสุดซึ้ง สวยกว่า "น้องน้ำฝน"
เป็นลูกสาว เศรษฐี ของตำบล
ชราชล หนุ่มใหญ่น้อย คอยหมายปอง

ท่านเศรษฐี องอาจ ประกาศว่า
อันลูกข้า หนึ่งนี้ ไม่มีสอง
หากแม้นใคร อยากได้ ไปคุ้มครอง
อย่างน้อยต้อง ทองล้านชั่ง นี่กันเอง


แต่ลูกสาว เศรษฐี มีคนรัก
ยากจนนัก จนยิ่งกว่า จะหาไหน
โอ้ชาตินี้ มีกรรมหนัก ขอพักใจ
แค้นบรรลัย ต้องลาไกล ไปขุดทอง

หายไปร่วม สามสิบปี มีทองหลาย
ข่าวจากสาย สมใจ ให้คลายหมอง
ว่าน้องนั้น ยังดีอยู่ ไร้คู่ครอง
อยู่ไม่ได้ จำรีบต้อง ไปจองเธอ

บอกว่าที่ พ่อตา มาแล้วครับ
มาพร้อมกับ ทองตามข้อ พ่อเสนอ
อยู่ที่ไหน หวานใจ I WANT TO SEE HER
พ่อบอกเออ อยู่ข้างใน เข้าไปเลย

แสนดีใจ จะได้พบ ประสบหน้า
ร้องถามป้า ในห้อง น้องอยู่ไหน
ป้าบอกว่า ก็ตัวฉัน นี่ยังไง
จำน้องน้อย ไม่ได้ น้อยใจจัง

เจ้าหนุ่มจ้อง มองดู อยู่ไม่นาน
พาลดีใจ ประมาณว่า น้ำตาไหล
หัวใจเต้น เร็วระรัว ตัวเริ่มชัก
ดิ้นสักพัก แล้วก็จาก โลกนี้ไป

ทองที่ขน มามากมาย ทำไงดี
สาวจึงมี โครงการ ทำงานใหญ่
สร้างเป็น "คาน" ไว้นั่งฟัง เพลงชาติไทย
จนหล่อนตาย จึงทิ้งไว้ เป็น "ชาติพลี"

อันคานนี้ ขึ้นไปแล้ว อยู่ได้นาน
จะเบิกบาน เปี่ยมสง่า และราศรี
ไร้ปัญหา ไร้บุตรธิดา และไร้สามี
ของดี ๆ อย่างนี้ต้อง ขอแนะนำ


จบตำนานคานทอง

ผู้หญิงท่านใดที่เข้ามาอ่านแล้วต้องตอบกระทู้
มิฉะนั้นเกิดชาติหน้าฉันใดจะได้อยู่


จากที่นี่ครับ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=psp

 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:22:59 น.  

 
 
 
เอากันใหญ่เลยนะเนี่ย
ว่าแล้วก็เอามั่งๆ .....อิอิ

ภาษาปะกิดไม่มีแปลตรงๆหรอกนะ แต่มักจะใช้คำว่า old maid แปลเป็นเมืองได้ว่า"สาวเฒ่า" แต่ในอดีตใช้คำว่า spinster ซึ่งคำว่า spinster นี้ก่อนจะมีการเปลี่ยนความหมายมาเป็นโอลด์เมดมีความหมายว่า "สาวโสด"เฉยๆ และคำว่าspinster นี้มักจะใช้คู่กับคำว่า bachelor ซึ่งหมายถึง "หนุ่มโสด"

เมื่อกาลเวลาผ่านไป ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของสังคมในทัศนะชายเป็นใหญ่ คำว่า spinster จึงได้ความหมายเดียวกันกับ old maid โดยที่คำว่า bachelor นั้นไม่มีการเปลี่ยนในทางลบเลย bachelor กลับได้ความหมายที่เป็นบวกมากขึ้นว่า ชายที่ยังไม่ได้แต่งงาน ยังว่าง มีหน้าที่การงานที่ดี มีคนนับถือ ประสพผลสำเร็จในชีวิต มีคุณสมบัติครบถ้วน และเป็นที่หมายปองของสาวๆ

เหตุที่ได้ความหมายว่า "มีหน้าที่การงานที่ดี มีคนนับถือ ประสพผลสำเร็จในชีวิต มีคุณสมบัติครบถ้วน" ก็เพราะในยุคนั้นการศึกษาคือการวัดความสำเร็จของผู้ชาย ผู้ชายจึงเข้าเรียนในระดับสูงหรือระดับมหาวิทยาลัยนั่นเอง การเรียนในระดับนี้จึงเป็นผู้ชายเรียน ส่วนผู้หญิงนั่นอยู่กับบ้านเรียนรู้เรื่องการเรือน และไม่ได้เข้าเรียนในระดับสูงไปกว่าที่จำเป็น เรียนมากควบคุมยากส์...ว่างั้นนะ (เข้าตัวไหมเนี่ย ประเด็นนี่เข้าตัวตั้งแต่แรกแล้ววุ้ย อิ อิ)

ทีนี้พอผู้ชายเรียนมากๆ ซึ่งผู้เรียนส่วนใหญ่ยังเป็นหนุ่มโสดหรือที่เรียกว่า bachelor นั้น เขาจึงเรียกการเรียนในระดับนี้ว่า bachelor's degree หรือระดับปริญญาตรีนั่นเอง

ข้อสังเกตุนะ การเรียนมหาลัย หรือวุฒิขั้นที่เรียนกันทั่วไปในมหาลัยมีแต่คำที่เรียกผู้ชาย เช่น
1.Bachelor's degree ปริญญาตรี
2. Master's degree ปริญญาโท Master ก็ใช้เป็นคำหน้านามสำหรับท่านชายอีก
3. PhD. หรือ Doctor of Philosophy คำว่า ดอกเตอร์นั้น เมื่อก่อนผู้เรียนคือผู้ชายเท่านั้น จึงใช้เรียกเฉพาะผู้ชาย และมิได้แปลว่าหมอ หากแต่ความหมายดั้งเดิมแปลว่า "ผู้รู้ ผู้เชียวชาญ"


ถามว่า เพื่อสิทธิสตรีจะให้เปลี่ยนชื่อปริญญาตรีใหม่ไหม เจ้ขอตอบว่าไม่ละกัน หากเปลี่ยนแล้วมันคงแม่งๆไงมะรู้อ่ะ

Spinster degree in English มันบ่ถูกลมอ่ะ
"ปริญญาตรีสาวเฒ่าสาขาภาษาอังกฤษ"

อื๋ยยยยยยย.....ข้าเจ้าบ่อาวววววววว เน้อ
มันบ่งาม....น่าเกลียด...พาลจะไม่เรียนเลยปริญญานี้น่ะ ฮ่วย
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:35:23 น.  

 
 
 
หัวข้อนี้น่าสนใจที่สุด ชอบ ๆ ๆ ๆ
ฟั่งเปลี่ยนบล็อกเตื้อเน้อ อย





ปล. อย ตุ้ยขึ้นแต้ ๆ หนา เชื่อน้องก่ะ (บ่ต้องโทรมาวีนกุแหมเลย กุอู้ความจริง)




แต่ตุ้ยอย่างใดก็น่าฮักอยู่ แอ่นแลนแระๆๆ
 
 

โดย: อวน IP: 203.156.61.168 วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:12:48:02 น.  

 
 
 
วันนี้เพิ่งเจอเอกสารวิชาการบ่าก้วยว่าด้วยเรื่อง spinster
หลายฉบับอยู่เหมือนกัน น่าสนใจทั้งนั้น
ขออ่านก่อนเน้อ แล้วจะมาย่อยให้ฟังใหม่
อิอิ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:13:44:23 น.  

 
 
 
ป๊าดดดดดดโถ๊ะ.....
นึกว่าเข้าผิดบ้าน
รถบรรทุกน้ำตาลคว่ำกะยั่งใดน่ะ


ว่าจะมาต่อเรื่องคานตังบน
มาปะใส่รถน้ำตาลคว่ำ...เลยลืมที่จะเขียนเลย
ไปดีก่า...กลัวเป๋นเบาหวาน
อิ อิ
 
 

โดย: หวานซ้า IP: 198.142.231.233 วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:18:42:59 น.  

 
 
 
ใจกับใจ ใช่ว่าใจ จะได้ชื่น
รักขมขื่น อาจชื่นได้ อย่างใจหวัง
รักที่ดี ใช่ว่ามี จะจีรัง
รักที่หวัง ใช่ว่ามี ชี้ยั่งยืน

หากจะรัก ให้รู้จักว่า รักได้
หากจะไป ใจต้องหนัก รักต้องฝืน
รักเคยรัก รักไม่ได้ ใจต้องคืน
รักไม่ฝืน ใจเคยรัก ต้องหักใจ

เมื่อขึ้นคาน จะคานทอง ก็ต้องหัก
หากจะรัก จะหักคาน อย่าหวั่นไหว
หากเป็นสุข จะหักคาน ก็หักใจ
ถ้าหักได้ ไม่หนักใจ ได้ลงคาน

รู้ไหม...ว่า... ตถาคตก็ไม่ได้มีอายุยืนยาวร้อยซาวว่าสา (120 ปี)
เพราะฉะนั้น จะทำอะไร ก็รีบทำซะ
หากขึ้นคานแล้วมีความสุข ก็ไม่เป็นไร
หากเจอใครถูกใจ ... ก็ลงคาน ... ก็เท่านั้นเอง

(เรา...แค่ผู้มาเยือนโลกชั่วคราว ไม่ได้มีชีวิตยืนยาว เหมือนซุนหงอคง)
 
 

โดย: จิตรกร IP: 61.19.65.115 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:0:20:40 น.  

 
 
 
ใครมาทำสีชมออนตกแถวนี้หว่า

หะแรกนึกว่าไม่ใช่บ้านตัวเอง

เกือบจะออกไปแล้วเชียว

ยังไงก็ขอบคุณหลาย ๆ สำหรับคุณนายฯ

ที่มาเพิ่มสีสันอันแสบทรวงให้กับบล็อคนี้

เจ้มี่ ไม่ต้องกลัว รีบกลับมาเว้าเรื่องคานอีก

ท่านเมืองอินทร์ตับเหล็ก

หากมีโอกาส จะไปเยือนถิ่นน่านแน่นอนเจ้า
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:9:39:54 น.  

 
 
 
หายตกใจกะความหวานแระ...มาต่อเรื่องคานละกัน

เอกสารวิชาการยังมิได้อ่าน แต่ว่าเมื่อวานคุยกะเพื่อนร่วมโลก ชาวนอร์เวย์ ซาอุ และญี่ปุ่นมา เขามีเรื่องราวน่าสนใจเหมือนกัน

นอร์เวย์เรียก old maid ว่า pepper maid หรือสาวพริกไทย อิอิ เขาบอกว่าคำนี้ไม่รู่ที่มาเหมือนกันว่ามาได้ไงยังไม่ได้หาว่างั้นนะ แต่เขาบอกว่าคำนี้น่าจะใช้หลังปีคศ. 1500 เพราะก่อนหน้านั้นนอร์เวย์ยังไม่มีการใช้พริกไทย ชาวไวกิ้งเพิ่งนำเข้าพริกไทยหลังยุค 1500นี่เอง เขาเล่าติดตลกว่าคงเป็นเพราะเปรียบกับความร้อนแรงเกินไปมั้งคนเลยไม่เลือกเพราะเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น ฮ่า ๆๆๆ อีกอย่างหนึ่งเขาบอกว่าเวลาครบรอบวันเทศกาลหรือวันเกิดอะไรก็ตามที่ต้องมีการให้ของขวัญสาวๆกลุ่มนี้ ผู้ให้ของขว้ญส่วนใหญ่และเป็นประเพณีที่จะต้องมอบของขวัญที่ส่วนประกอบของพริกไทยให้สาวๆที่ขึ้นคานจ๊ะ

ส่วนญี่ปุ่นมีเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกก มีหลายคำที่เจ้าตัวบอกว่ามันน่าเกลียดและมันแปลลำบาก เขาขอเวลาคิดและแปลหน่อย แต่ว่ายังให้มา 3 คำดังนี้
Ikazugoke แปลว่า หญิงหม้ายที่ไม่เคยแต่งงาน
Yukiokure แปลว่า สาวเคิ้นล์
Christmas cake on the 26th แปลว่าเค็กคริสมาสวันที่ 26 ก็ของเคิ้นล์น่ะแหละ อิอิ

ส่วนซาอุบอกว่า สาวพลาดรถไฟ เจ้าค่ะ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:15:23:21 น.  

 
 
 
ฝากถึงเจ้มี่

ตอนนี้ติดต่อท่านมหาไม่ได้เลย

สามวันแล้ว

ไม่รู้เป็นตายร้ายดีประการใด

 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:10:59:33 น.  

 
 
 
สงสัยคงต้องติดต่อแบบอินเดียนแดงแล้วล่ะ
ผ้าห่ม กองไฟ และ ควัน เน้อ
ส่งเป๋นก่อ..

อ้อ...อย่าลืมส่งแบบเอ๊กซเปรต (express) ล่ะ
ผู้ส่งต้องละเลงตัวด้วยสีแดงและขาวก่อนเน้อ..
เขาว่ากันว่าจะถึงเร็วมาก

อ้อ...แฮ๋มหนึ่งอ้อ ถ้าฝนตกก็...
body who body it แปลว่า ตัวใครตัวมันเน้อ
ฟ้ามันจะสะดุ้ง แล้วจะผ่าพุงเอา

ฮ่า ๆๆๆ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:14:12:50 น.  

 
 
 
เย็นนี้ คาดว่าเบอร์เดิมจะใช้ได้
ลืมครับ ลืมทิ้งไว้ ๑ อาทิตย์เอง
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.65.167 วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:11:33:37 น.  

 
 
 
อ้วนแอบหวาน
 
 

โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:10:03:04 น.  

 
 
 
ทำไมเมื่องเจียงฮายมันร้อนอย่างนี้เนี่ย
คนมาจากเมืองหนาว 5 องศา อยู่ไม่ได้เรย...
ไขมันละลายเลยเนี่ย...อิอิ

เมื่อเช้าพอแลนดิ้งปั๊บ หยิกแขนตัวเองทันที
เพื่อพิสูจน์ว่า มิได้ฝันไป...เราอยู่บ้านจริงๆ อิอิ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 125.25.190.74 วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:16:48:44 น.  

 
 
 
ยินดีต้อนฮับซือเจ้

โย
........

คำสั่งเฮาจะไปรายงานตั๋วบ้านใหม่วันที่ 1ก.ค51

100 ปูเซ็ง

จะไล่ส่งเมื่อใดบอกตวย..เหอ เหอ เหอ

 
 

โดย: พ่วง ง่วงเหล้า IP: 118.172.65.110 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:10:32:35 น.  

 
 
 
วันนี้โทรหาเจ้มี่ ทั้งมือถือและที่บ้าน

ติดต่อไม่ได้เลย

ท่านทิพย์ ธัญญาจะนัดเลี้ยงต้อนรับกลับมาตุภูมิ

วานเจ้มี่ช่วยติดต่อข้าเจ้าตวยเน้อ

เปิ้นจะเลี้ยงวันศุกร์นี่นาเจ้

ท่านพ่วง

ตะคืนสุมหัวประชุมเรื่องเลี้ยงไล่ท่านอยู่

ยังตกลงสถานที่บ่ได้

ถ้าว่าง ๆ

ช่วงนี้ก่ซ้อมกั๋นไปก่อนบ๋

หนองบัวท่าจะเหน็ด

 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:15:36:16 น.  

 
 
 
ยินดีเจ้า
ลาบปากอีกแระ วันศุกร์ได้ค่ะได้ๆๆๆ
โทรเข้าบ้านหลัง6 โมงเย็นเด้อ
ช่วงนี้กำลังสับสนเรื่องซื้อซิม ซื้อมิถูกเรยยย
มันนักแก่ เปิ้นถามหยังมาตอบบ่ได้ซักอย่าง
ฮ่า ๆๆๆ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 58.137.30.250 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:16:34:34 น.  

 
 
 
ทำอย่างกับว่าลุกเมืองเมียวดีมาลู้เจ๊

วันศุกร์เจอกันโต๋เป๋นๆ

...........

โยช่วงนี้ตานเถาะไปเรื่อยๆน้อ

เฮาหุมไปตางชมเดือนชมดาวหรือ นานีนาโน ปู้นแระ

เหอ เหอ เหอ
 
 

โดย: แสงพ่วง ศรัทธามัน IP: 118.172.69.68 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:8:49:21 น.  

 
 
 
ท่านชอกีเบี้ยวอีกตามเคย

เจ้มี่รอป๋ะตั๋วเป๋น ๆ นี้ก้า

 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 14 มิถุนายน 2551 เวลา:12:31:41 น.  

 
 
 
เป๋นจะได สบายดีกา ไม่ได้แวะมาเยี่ยมเสียนาน
 
 

โดย: หมาแพนดี้ IP: 61.19.65.123 วันที่: 14 มิถุนายน 2551 เวลา:14:19:45 น.  

 
 
 
ช่ายๆๆๆๆ
เฮารอป๋ะทั่นชอตั๋วเป๋นๆนี้ก้า
หายจ้อย...
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 125.25.184.68 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:6:53:21 น.  

 
 
 
ทั่นโย
วันนี้คุณเจ้คนงามจะเข้าไปนั่งทำงานที่คณะ
ไปนั่งเป็นศรีให้แก่คณะ
มหาลัย และชาวโลกหน่อย อิอิ
แล้วเที่ยงนี้นัดโปรอู๊ดกินข้าว
แล้วทั่นโยจะว่างหรือเปล่ามิทราบ
จะได้ไปด้วยกัน นี่มาส่งเทียบเชิญแล้วนะเนี่ย
โทรไปเมื่อไหร่ก็ยุ่ง...ชิส์
เลยเลิกโทรไปแระ เชอะ
 
 

โดย: เบื่อคนยุ่ง IP: 125.25.203.229 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:8:05:11 น.  

 
 
 
เวลาเมียอยู่หนูๆอย่าเพิ่งโทรมา อะ อะ อา

โทรมาจ๊ะ จ๋า เวลาเมียอยู่ทุกทีอิ อิ อี

โทรไม่รับสายอย่าไปโทษคลื่นความถี่ อิ อิ อี่

ความถี่ชัดเจนแต่ความเกรงใจกิ๊กมี อี อี อี

.........................

มิกล่าวคำแก้ตัวอันใดและไม่กล่าวคำขอโทษด้วยวาจา

แต่จะขอโทษด้วยมื้อเย็นหนึ่งมื้อสำหรับซือเจ้

ครัวทะเลไทยครับ พรุ่งนี้

................

ปล.

พี่น้องชาวคณะสถาบันภาษาที่รักทุกท่านโปรดฟัง

ประกาศจากบักโยหรือบักเก่งด้วยใจระทึกพลัน

 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง(หัวใจจั๊กกะเดียม) IP: 118.172.69.24 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:13:04:26 น.  

 
 
 
แว่วมาว่า

เทอมนี้ข้าพเจ้าได้สอนวันเสาร์

หรือไม่ก็อาทิตย์อีกหนึ่งวัน

ไปสอนที่วิทยาเขตเทิง

พระเจ้า

แล้วจะเอาเวลาไหนไปร่ำสุราเนี่ย

เพิ่งกลับมาจากในเมืองครับ

ไปขอข้อมูลประกอบการทำวิจัย

อิดขนาด
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:17:20:28 น.  

 
 
 
ทั่นชอฯ ขอสุมาอำไพตวยเน้อ
วันนี้นัดกิ๊ก อิอิ
สำหรับพรุ่งนี้ว่างโลด
ยินดีค่ะ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 125.25.240.36 วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:15:41:59 น.  

 
 
 
เฮ้ย!

ครบ 100 แล้วเด้อ คะ เด้อ!

เจ้มี่ มิเป็นไรเพราะเราก็รอโบนัสบักโยเหมียนกัลลลล!

คึ คึ คึ

 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง(หัวใจจั๊กกะเดียม) IP: 118.172.71.161 วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:16:24:06 น.  

 
 
 
รอเช้าวันเสาร์ดีกว่า
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.69.186 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:10:18:32 น.  

 
 
 
เช้าวันเสาร์ข้าเจ้าต้องไปสอนที่เทิง

ตั้งกะหกโมงสี่สิบห้า


ท่าจะบ่ได้ก้าท่านมหา
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:10:58:44 น.  

 
 
 
โห
ชุมนุมมังกรซ่อนเมรัย อยู่นี่เอง
 
 

โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:11:05:57 น.  

 
 
 
มหาขี้เหล้า

เฮาไคร่ได้ผ้าหัวลื้อมีก่ถ้ามีเอามาตวยถุงเป๊อะมีแล้ว

............

โยอ้ายปอนมาแซว

สงสัยใคร่มาแอ่วเจียงฮายเหียละก้า

อิ อิ อิ
..........

ปล.

อย่าลืมแลงนี้ที่เก่าเวลาเก่าสาวๆคนใหม่

เหอ เหอ เหอ













 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 118.172.66.27 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:11:16:51 น.  

 
 
 
ทำโม ขี้เหล้าล้านนาหมู่นี้มันตึงเสี่ยงกับปังตอแต้ ๆลุบ่ะ

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
 
 

โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:13:13:12 น.  

 
 
 
ทั่นชอ และทั่นหล่อง
ยินดีหลายๆเน้อสำหรับเมื่อคืน
แขกพิเศษยิ่งประทับใจมากมาย
คุณเจ้ซาบซึ้งและประทับใจหลายๆ
จนลืมเอาของฝากที่อุตส่าห์แบกข้ามน้ำข้ามทะเล
ให้ทั่นชอเรยอ่ะ...
ไว้จะฝากทั่นหล่องไปให้เน้อ
เมาตกใจสวรรค์เบื้องบนลักถ่ายฮูปคนงามนั่นน่ะก่ะ
เลยลืมเลย...
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 125.25.207.23 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:8:24:22 น.  

 
 
 
ไวท์แม่นก่อ

เหอ เหอ เหอ

หรือว่าแหม่มแก้มแดง

กึ๋ย กึ๋ย

 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง(หัวใจจั๊กกะเดียม) IP: 118.172.68.13 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:8:51:17 น.  

 
 
 
เจ้มี่

แลงนี้เจอกั๋นที่ร้านหนองบัวเน้อ

จะเลี้ยงไล่เหิบท่านชอละ

 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:10:11:41 น.  

 
 
 
ไล่เหิบละกา ต๋ายห้าละตางเพ้ต้องเกียมตัวหนีแล้วววววว


บ่อยากจะจินตนาก๋านถึงบรรยาศบริเวณหนองบัว ณ ราตรีนี้เลย
....อกเถอะอกเถิก!!!
 
 

โดย: อวน. IP: 203.147.0.42 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:16:44:37 น.  

 
 
 
สะดายน้อ
เฮาจะไปเจียงฮาย
วันเสาร์
สวนตางปะหล่องแหมแล้วเน้อ

เจ๊มี่
บ้านเนชั่น
มีเรื่องเน้อ
เรื่องควายเน้อ

 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.64.137 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:10:32:29 น.  

 
 
 
เจ๊มี่ครับ
แจ้วข่าวร้าย มาก
หอสมุดท่าพระ ม.ศิลปากร
โหลดวิทยานิพนธ์ไม่ได้อีกแล้ว
ถามหาแต่รหัสผ่าน
แสดงว่าที่ผ่านมาเป็นการลองระบบเหมือน มช.
โหลดฟรีได้ช่วงเดียว
ทำไม มหาลัยประเทศนี้ใจร้ายจังเลย
....
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.66.193 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:12:15:02 น.  

 
 
 
ข่าวร้ายมากๆๆๆ
แล้วอย่างนี้จะให้ความรู้นำสังคมและประชาชีได้ไงเนี่ย
ใจร้ายจริงๆเร้ยยย
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 125.25.248.213 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:20:26:55 น.  

 
 
 
เมื่อใดคิงจะอัพบล็อกหา ?

 
 

โดย: 116 แล้ววุ้ย! IP: 118.172.68.146 วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:16:42:20 น.  

 
 
 
หวังว่านัดครั้งนี้คงจะไม่ผิดหวัง
หกโมงเย็น
พบกันที่
ฮ้านลาบสนามกีฬา
เฮาจะผัดตะเวิ้น
เอาอ้ายแสงดาวไปหื้อหั้น
ท่านชอ
ลวดเลี้ยงตั๋วเก่าเหีย
หาตี้นอนหื้อเจ้าป้อแสงดาวตวย
ตะวา
ม่วนขนาด
เฮาหลับตาขับรถ
เมาเบียร์ลาว
เจ๊มี่เหย
ไปเมืองจี๋นละยัง
หากบ่อได้ไปเตื้อควรจะไปปะอ้ายแสงดาวเด้อคร้าบ
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.65.27 วันที่: 26 มิถุนายน 2551 เวลา:10:36:33 น.  

 
 
 
ปะหล่องเหย

ทราบแล้วเปลี่ยน

 
 

โดย: แสงพ่วง ศรัทธามัน IP: 118.172.70.56 วันที่: 26 มิถุนายน 2551 เวลา:13:02:01 น.  

 
 
 
เพิ่งกลับมาจากเมียงจีนเมื่อตอนนี้
เป็นหวัดงอมเจ้าค่ะ
เสียดายหลายๆที่ไม่ได้ปะท่านแสงดาว

เฮาเกิดการผิดพลาดเล็กน้อยเรื่องตั๋วเครื่องบิน
จำต้องลากลับเมืองออสเตรเลียวันที่ 1
ออกจากเชียงราย 30 แลง

 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 125.25.222.139 วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:15:32:58 น.  

 
 
 
เจ้มี่บ่ต้องเสียใจที่ไม่ได้เจอคนเฒ่าแสงเมา

คนเฒ่านั่นอู้อวดชื่นชมเจ้มี่หลาย ๆ

บ่เจอน่ะดีแล้ว

บ่อั้นก่จะลอยเป็นลูกโป่งสดไปแผวเมืองออสซี่ปุ้นเนาะ

อิอิ
 
 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.250 วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:20:28:26 น.  

 
 
 

แวะมาเยือนในค่ำคืนที่เหนื่อยล้า แต่ยังมีแสงแห่งดวงดาว ส่องทางสว่างไสวอยู่เสมอ คิดถึงห่างห่างจากอุ้ม
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

พี่แวะมาเยี่ยมๆ มองๆ เฉยๆ จ๊ะน้อง
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:20:17:04 น.  

 
 
 
คุณปะหล่องเห็นข่าว อ. มหาวิทยาลัยอุบลฯมั้ยคร้าบบบ

ระวังตัวหน่อย ๆ ....เป็นห่วง อิๆ
 
 

โดย: mapandy IP: 61.7.231.227 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:59:07 น.  

 
 
 
ถึงเมียงอดิเรกเรียบโร้ยแระ
อากาศหนาวมาก...
ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ 6 ชม.
เลยอ่านหนังสือของอ.ประมวล
"เดินสู่อิสระภาพ" จนจบเล่ม
อ่านไปน้ำตาเล็ดไปเป็นช่วงๆ

ฝรั่งสาวสวยที่นั่งอ่านหนังสือของ
คาเล็ด โฮเซนี่ อยู่ข้างๆ (แอบเห็น อิอิ)
หันมาถามด้วยความสงสัยว่า
เราอ่านอะไร เลยต้องเล่าให้ฟัง

พอเล่าเสร็จบอกว่า อยากเรียนภาษาไทยน่ะ
อยากอ่านเล่มนี้เป็น
แถวนี้มีใครสนใจสอนมะ อิอิ
สาวน้อยหน้าตาน่ารักเชียว
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:20:43 น.  

 
 
 
จิงอ่ะเจ๊..บอกน้องแหม่มคนนั้นนั่งเครื่องมาหาเฮาที่

เมืองแฟร็งค์ซิตี้ เพ่ะ!..ตัวต่อตัวรับรองผลทันตา ฮา ฮา
................

แต่หนังสือที่เจ้อ่านนั่นอะเฮาอ่านแล้วเหมียนกัน

อืมมมมมมม!น้ำมูกเล็ดเป็นช่วงช่วงเหมียนกัลลล

ฮา ฮา ฮา

ตอนนี้นั่งหายใจทิ้งที่เมืองฝางไปวันๆ(ป๋าเบี่ยยยยย)

เวรกรรม
.............
โย

เสาร์ที่19ได้ฤกษ์ปาไอ่สนธิ(ปราบไพรี)ผัวอี่ระเบียบ

รัตน์ ลงสังเวียนแล้วสนใจ๋มาลงเดิมพันตวยกั๋นที่เมือง

แฟร็งค์เลยคร้าบบบพี่น้องงงงงงงงงงงง!

ราคาเริ่มต้นที่(5,500)

 
 

โดย: แสงพ่วง ศรัทธามัน IP: 58.147.44.117 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:14:42 น.  

 
 
 
เจ้มี่

อ่านจบแล้วเหมือนกันครับ
ขอบพระคุณหลาย ๆ ที่ทำให้ผมได้พบกับหนังสือเล่มนี้
ขอจัดอันดับเป็นสุดยอดหนังสือแห่งปี 51 สำหรับผมเลยครับ

ป๋าไพโรจน์เคยให้ปรัชญาของการเดินว่า

"เป็นการทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน"

เพราะถ้าคนลงมาเดินเหมือนกันแล้ว

ไม่ว่ายากดีมีจน ยาจกเศรษฐี ก็ล้วนต้องเหน็ดเหนื่อยเหมือนกัน

อ่านเล่มนี้แล้วคิดถึงป๋าไพโรจน์มาก ๆ

สาวฝรั่งคนนั้นก็น่าสนใจอยู่หรอก

คงต้องมาอยู่กับผมซักสี่ห้าหกปี ถึงจะคล่องภาษาไทย



ท่านแสงพ่วง ศรัทธามอย

บิดาข้าพเจ้าได้สนทนากับท่านแล้ว

เรื่องบ่าสนธิ (ปราบไพรี) เปิ้นกั๋วว่าจะขายถุก บ่แล้วใจ๋ ก่เลยกดหาท่านพ่วง

ส่วนเรื่องพนันขันต่อนั้นบ่ค่อยสันทัด

ได้เท่าใดอย่าลืมหว่านน้ำป๋ายมาทางบ้านดู่พ่องเน้อ
 
 

โดย: ปะหล่อง (ปะหล่อง ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:57:58 น.  

 
 
 
น้องหล่อง

ไม่ใช่แค่ "มนุษย์เท่าเทียมกับมนุษย์"เท่านั้น
หากแต่"การเดิน"ทั้งทางกาย ใจ และวิญญาณ ทำให้
มนุษย์เท่าเทียมกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้

ไม่มีใคร วิญญะ และสัญญาใดๆ ยิ่งใหญ่ไปกว่ากัน
สุดท้ายของทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่
ทุกสิ่งล้วนมีชีวิต หายใจ และเกื้อกูลต่อกัน
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

มนุษย์ ไส้เดือน และผึ้ง
หามีความต่างกันไม่
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 198.142.231.108 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:33:00 น.  

 
 
 
ใครบอกเจ๊มี่
สัตว์แตกต่างจากคนมาก
ท่านพุทธทาสว่า
สัตว์ไม่มีโปรแกรมไปสู่ความหลุดพ้นได้
มีแต่คนเท่านั้นท่หลุดพ้นไปสู่นิพพานได้
แหะๆ แสร้งเถียงเอาม่วนเน้อ
แต่มีถ้อยคำท่านพุทธทาสรับรองหลายสถาน
หลายกาล
โปรดค้นเองงง.
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.68.83 วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:40:39 น.  

 
 
 
ท่านชอ
คิดให้ดี
ลูกเจ้าของไก่
ยังตี...ไม่เป็นเลย...
จะหนีไปบวชอยู่ป่า...เมื่ออายุ สามสิบ
แล้วบ่าสนธิ(ปราบไพรี)
ตี...เป็นอ๊ะเป่า
จะเหลือเรอะ...
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.68.83 วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:43:39 น.  

 
 
 
ทั่นมหาฯ
มาเห็นด้วยกับ "สัตว์แตกต่างจากคนมาก"

สัตว์มันเหนือกว่าคนเยอะ (เอาแบบกำปั้นทุบดิน อิอิ)
มันถึงไม่ต้องการโปรแกรมการหลุดพ้นไปสู่นิพพาน
คนต่างหากที่ต้องการโปรแกรม
เพราะไม่มีความละเอียดอ่อนเท่า

การใช้เหตุผลของมนุษย์ก็ยังเป็นอวิชชา
เพราะมันเปลี่ยนแปลงเรื่อย
เปลี่ยนแปลงไปตามการเรียนรู้
ท้ายที่สุดเหตุผลก็ยังไม่เท่าประสพการณ์อันหยั่งรู้
อันนี้ท่านพุทธทาสก็ว่าไว้เหมียนกัน
เคยอ่านเจอในเล่มไหนมะรู้ จำมิได้แระ
บันทึกไว้เหมียนกัน

ที่น่าสนใจ
มนุษย์มักคิดว่าตัวเองเหนือกว่าสัตว์โลก
ลองคิดในมุมกลับ
เราและสัตว์โลกไม่ได้ต่างกันไปเท่าไหร่เลย
มีเหตุผลอีกร้อยแปดที่ทำให้มนุษย์ยุคปัจจุบัน
ต้องสยบยอมกับความเป็นจริง
หากเพียงแต่มนุษย์นั้น ยอมเปิดใจรับความจริง
ที่มันจะทำให้มนุษย์ต้องเจ็บปวด
กับความคิดที่ว่า"มนุษย์นั้นเหนือกว่าสัตว์โลกทั้งปวง"

มนุษย์ยอมรับว่า ...
เราเป็นสัตว์..แต่ไม่ใช่สัตว์ประเภทมนุษย์
เมื่อถึงคราวร้องขอชีวิตเรากลับไม่ใช่มนุษย์
เราเปรียบตัวเองเป็น
ลูกช้าง
ลูกนกลูกกา
ทำไมมิใช่ ...ลูกมนุษย์...

หรือคำว่า มนุษย์มันบ่งบอกสัญญาณบางอย่างว่า
มันมีค่าไม่เท่ากับ สัตว์ประเภทอื่น ๆ

อันนี้เฮาก็แสร้งเถียงให้เกิดความม่วนงัน
และบรรยากาศทางวิชาเกินบ่ดายเน้อ อิอิ
เอาม่วน เจ้า เอาม่วน
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:47:30 น.  

 
 
 
อัพได้ละ
อัพได้ละ
คร้านไหล มันเมื่อยมือ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:23:44 น.  

 
 
 
จะเอาครบสองร้อยเลยเชียวหรือท่านปะหล่อง
 
 

โดย: ชอกี IP: 58.147.44.250 วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:50:54 น.  

 
 
 
ทั่นชอฯ
ยังหายใจทิ้งขว้างอยู่ก่อ
เปิ้นไว้ใจ๋ฮื้อก๋านฮื้องานยะละยัง

หายใจ๋ขว้างบ่ได้ละหนาบ่าเดี่ยวนี้ เก็บใส่ถุงไว้เน้อ...
แถวเมืองออสซี่เนี่ย เปิ้นจะเริ่มมาตการปรับบ้านไหนที่ใช้คาร์บอนเยอะ หรือผลิตคาร์บอนเยอะละเน้อ

อยู่ตางเพ้อู้เล่นกั๋นว่าต่อไปนี้ หายใจก็ต้องประหยัดๆหน้อยเพื่อว่าตอนหายใจออกคาร์บอนจะได้หน้อยๆ และก็ห้ามกิ๋นเนื้อและแป้งมากเพราะมันผายลมเป็นคาร์บอน

กระบวนการเลี้ยงวัวและควายทำให้เกิดคาร์บอนหลายนา โฆษณาบ้านนี้เริ่มรณรงค์ฮื้อกิ๋นผักกินหญ้าแทนงัวควายละเน้อ

เฮาเป็นงง เว้ย บ้านนี้เมืยงนี้ จะได้ล้ำเหลือเนี่ยยยยย
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:07:37 น.  

 
 
 
ปะหล่องต่องสู้
บ่าอยู่เจียงฮาย
ไปแอ่วหลายวัน
เฮายึดบล็อคไว้ละ
โปรดฟังอีกครั้ง
วันก่อนเฮาไปแอ่วเจียงฮาย
ประกาศจะจัดเสวนา
"เงื่อนงำตำนานพญามังราย"
ราวเดือนสิงหา-กันยา
สถานที่ กำลังประสานงา
อยู่ใครสนใจโปรดตามข่าว....
 
 

โดย: มหาเสเพล IP: 118.172.65.164 วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:33:12 น.  

 
 
 
มันไปตางใด
...
เจ้มี่
มหาขี้เหล้า ลองอธิบายศัพท์ที่ว่าด้วย

"จะเหลิด"

กำลอเฮาตั๋นติ๊ก
สาตุ๊ สาตุ๊
 
 

โดย: ชอลิ้วเฮียง IP: 58.147.44.250 วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:55:12 น.  

 
 
 
ประกาศคณะปฏิวัติ
ขณะนี้เฮาได้ทำการยึดบล๊อกปะหล่องเรียบร้อยแล้ว
..........

ทั่นชอ "จะเหลิด" ไปขุดมาจากไหนน่ะ
บอก context ที่ใช้คำนั้นมาลอ
คำบางคำความหมายมันเปลี่ยนตามคอนเท็กซ์เน้อ

เฮาฟังเข้าใจ ใช้ถูกนะ
แต่อธิบายบ่จ่างอ่ะ
ขอเวลาไปกึดก่อนเน้อ
ระหว่างกึดส์นี่ขอโยนให้ท่านมหาฯก็แล้วกัน อิอิ
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:12:50 น.  

 
 
 
ทั่นมหาฯ

งานเสวนาน่ะน่าสนใจหลายๆ
ถ่ายทอดผ่านเน็ตโตยก่ะ
เฮาจะได้ฟังโตยอ่ะ
คนทั่วประเทศที่เปิ้นสนใจ
ก็จะได้ฟังโตยเน้อ
ได้ก่อหาจ้า...
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:28:48 น.  

 
 
 
ปู่พ่วงมันง่วงเหล้า

"นอนเฮี่ยจะเหลิด" หั้นจ๊าดลาด

เช่นนี้แลเฮย
 
 

โดย: แสงพ่วง ศรัทธามัน IP: 58.147.44.61 วันที่: 8 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:36:04 น.  

 
 
 
ทั่นมหาฯและปะหล่องโปรดทราบ

วันเดินทางกลับได้หนังสือที่สนามบินสิงคโปร์มาหนึ่งเล่ม เพิ่งได้อ่านไม่กี่วันมานี้ อ่านแล้วทำให้นึกถึงคำถามที่ท่านมหาฯถามทิ้งไว้ที่ร้านอาหารและเฮาก็เก็บมาเป๋นกำกึด

คำถามมีอยู่ว่า

หากตัดภาษาและเครื่องแต่งกายออกอัตลักษณ์คนโยนจะเหลืออะไรบ้าง

หนังสือเล่มที่ว่านี้เจาะเพียงหนึ่งประเด็น นั่นคือ วิธีคิด และวิธีการถกทางความคิดของชาวอินเดียตั้งแต่อดีตกาลมานานมากและมันยังตกทอดเป็นลักษณะของการใช้ความคิดแบบเฉพาะของชาวอินเดีย

หนังสือเล่มนี้ยังพูดถึงอัตลักษณ์ของชาวอินเดียที่กระจัดกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆอีกด้วย และเข้าประเด็นที่ท่านได้ตั้งไว้ว่าหากปราศจากภาษาและเครื่องแต่งกายอัตลักษณ์ของคนจะเหลืออะไรไว้บ้าง

ซึ่งข้อนี้เฮาพยายามตอบท่าน แต่ ณ วันนั้นเฮาไม่เคลียร์ทางความคิดแต่ตอบโดยใช้ใจและความรู้สึกล้วนๆ

วันนี้เราว่าเราเคลียร์บ้างแล้ว แต่ยังต้องค้นหาคำตอบของตัวเองต่อไปอีก

หนังสือเล่มที่ว่า คือ The Argumentative Indian: Writings on Indian culture, History and Identity.
(พิมพ์เมื่อ 2005) เป็นงานรวมบทความของผู้เขียนที่ชื่อ อมาตยา เซน (Amartya Sen) ท่านผู้นี้เป็นนักคิดและนักปรัชญาชั้นนำของอินเดีย เป็นผู้ที่เมื่อเอ่ยชื่อแล้วไม่มีใครไม่รู้จัก บุคคลผู้นี้เป็นผู้ที่ด่าองค์ความรู้ของฝรั่งด้วย

เข้าใจว่าในเมืองไทยน่าจะมีการแปลงานของท่านไว้บ้าง หากยังไม่มีก็เป็นที่น่าเสียดาย

นอกจาก อมาตยา เซน แล้วยังมีอีกนักคิดชาวอินเดียอีกหลายท่านที่ดังระดับโลกและเล่นเรื่องอัตลักษณ์ทางสังคม และเสียงของคนที่ไร้เสียงในสังคม(คนในกลุ่มล่าง) คือ
1. Gayatri Chakravati Spivak
2. Homi Baba

สองคนข้างต้นคือคนที่ข้าน้อยโปรดเป็นพิเศษ
ขอแนะนำเน้อ
ลองหาดูว่ามีแปลเป็นไทยแล้วหรือยังนะเจ้าคะ

ไปละ จิ้มดีดจนเมื่อย
 
 

โดย: เจ้มี่ IP: 192.43.227.18 วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:22:53 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ปะหล่อง
 
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]













"คำพากย์วากย์ห่อนเว้น
ดังจะเป็นเช่นชีวา
รากร่วมหัทยา
เป็นชีวิตเป็นจิตใจ

กรองพจน์ไม่หมดสิ้น
ตราบชีวิญจะบรรลัย
ฝากผืนแผ่นดินไว้
เป็นกำนัลขวัญแผ่นดิน"


ด้วยจิตคารวะ
"ปะหล่อง"


[Add ปะหล่อง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com